[YAOI] CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน

9.3

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.12 น.

  5 chapter
  2 วิจารณ์
  9,391 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน

[เป็นหมีสีตัวสีเหลือง]

 

 

CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน

 

 

           อากาศยามเช้าของเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยหมอกควัน ผู้คนมากมายเริ่มต้นเข้าสู่วัฏจักรของการดำรงชีวิตแบบเดิมเช่นทุกวัน ผมเองก็เช่นกันกว่าจะฝ่ารถติดมาได้เล่นเอานานพอสมควรดีที่ขับรถมาเองเลยไม่ต้องเจอทนสูดหมอกควันให้ปอดแย่เอา

 

           แม้วันนี้จะมีเรียนแค่วิชาย่อยแต่ผมก็ไม่อยากจะขาดเรียนสักเท่าไหร่

 

            สภาพผมคงดูแย่พอสมควรเนื่องจากไม่ได้นอนเต็มอิ่มเพราะมัวแต่คิดเรื่องชินซ้ำๆวนไปวนมา

 

            อาจจะมองดูงี่เง่า แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้สึก

 

            โป้ก!

 

           “โอ๊ย!”

 

            เสียงฝ่ามือกระทบโดนหัวของผมดังขึ้นทำให้ความคิดที่วิ่งอยู่ในหัวแตกกระเจิงไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหน

 

            “ไอ้ชิน ตบหัวกูทำหอยไร”

 

            “ก็กูเรียกมึงตั้งนาน มึงก็ไม่ตอบ”

 

            ร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยของไอ้ชินปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มยียวนมาให้

 

            “คิดอะไรวะ แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้วะอย่างกับศพ”

 

             ชินไม่พูดเปล่า จับหน้าของผมหันไปมา

 

              “ยุ่งน่า หน้ารำคาญ”

 

               ผมว่าให้ชิน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นคนที่เดินตามชินมา ความเจ็บก็แล่นสู่หัวใจ ตัวผมชาวาบไปชั่วคราว

 

              ร่างเล็กของน้องแป้งเดินตามไอ้ชินมาและหยุดยืนอยู่ข้างๆมัน สิ่งที่ผมเห็นคือคนทั้งคู่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก

 

              “สวัสดีค่ะพี่ริว”

 

                แป้งเอ่ยทักทายผม ใบหน้าหวานของเธอส่งยิ้มมาให้เหมือนกับจะผูกมิตร

 

                “หวัดดีครับ”

 

                ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้จังเลยถ้าย้อนเวลาได้ผมอยากตัดสินใจไม่มาเรียนซะก็ดี

 

               “กินไรมายังวะ”ชินถามขึ้น

 

               “ยังอ่ะ...ไม่หิว”ใครจะกินลง เจอขนาดนี้

 

               “หิวเหอะ กูกับน้องแป้งจะไปกินพอดีไปด้วยกันดิ”

 

              “กูปวดหัววะ...ขอตัวก่อนนะ”ผมพูดตัดบทและส่งยิ้มให้น้องแป้งทีหนึ่งและเดินดุ่มๆออกมาไม่สนใจเสียงของชินที่ตะโกนไล่หลังมา

 

                ขอโทษนะชิน...ถ้าฝืนยืนอยู่ตรงนั้นกูอาจจะร้องไห้ออกมาจริงๆ

 

                ผมเดินทอดน่องมาไกลพอสมควรรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่สนามกีฬาซะแล้ว

 

               เช้านี้มีนักศึกษาบางกลุ่มมาเล่นกีฬาด้วยแฮะ

 

              ผมขึ้นมานั่งที่เดิมที่ประจำที่เคยมานั่งดูไอ้ชินเตะบอลบ่อยๆ

 

              ต่อไป...ผมจะมานั่งดูใคร

 

              ต่อไป...ผมจะเดินกับใครกินข้าวกับใคร

 

             ต่อไป...ผมคงต้องอยู่คนเดียว

 

             คิดอีกแล้ว...เมื่อไหร่จะเข็ดนะริวนายรู้ไหมว่านายเหมือนคนเป็นบ้าขึ้นไปทุกที เพ้อทำไมเพ้อให้ได้อะไรขึ้นมา ทำตัวอย่างกับเด็กสาวมอปลาย ผมยิ่งคิดก็ยิ่งมีคำถามผุดขึ้นในหัว

 

               ถ้าไม่มีชินผม...จะเจ็บกว่านี้ไหม

 

               ผมไม่รู้จะทำยังไง จะจัดการกับสิ่งที่อยู่ในใจนี้ได้ยังไงเมื่อคิดอย่างนี้ก็เหนื่อยใจเปล่าๆ จะโทษใครก็คงต้องโทษตัวเองที่เผลอไปมีใจให้เพื่อนสนิทอย่างชิน...

 

               “สวัสดี”J

 

                เสียงหนึ่งดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้ผมที่กำลังนั่งเหม่อไม่สนใจอะไรต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผู้ชายตัวสูงตาสีฟ้า มองแล้วคิดถึงแมวที่บ้านเลยแหะ

 

               แต่นี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงแมว...ใครละเนี้ย

 

              “เราเคยรู้จักกันด้วยหรอ”

 

              นั้นสิผมคิดว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนแน่ๆ ยิ่งตัวสูงๆลูกครึ่งๆแบบนี้ไม่เคยเห็นเลยแหะ

 

              “สมองปลาทองจังเลยนะ..ริว”

 

               ห๊ะ!...มันรู้จักชื่อผมด้วย

 

               “มาวิน”

 

                ไอ้ตาฟ้าคงเห็นว่าผมทำหน้าเอ๋อรับประทานเลยยอมบอกชื่อตัวเอง มาวินงั้นหรอ...คุ้นๆแหะ ตาสีฟ้า มาวิน มาวิน...วิน

 

                  วิน!

 

                 “ไอ้หมูวิน”O_O

 

                 ตาผมคงเบิกกว้างเท่าไข่นกกระจอกเทศแล้วมั้งหลังจากนึกได้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร

 

                  จะใครอีกล่ะ คุณจำไอ้เด็กอ้วนตอนสมัยประถมที่ชอบแกล้งผมได้ไหม

 

                  นั้นแหละ ผมตกใจสุดขีดเพราะสภาพที่เปลี่ยนไปมากของมัน

 

                  “ไง..กว่าจะจำได้นะมึง”

                

 

               ไอ้วินยิ้มตาปิดก่อนจะนั่งลงข้างๆผมอย่างถือวิสาสะ

 

               ช่างเถอะ ไม่สำคัญเท่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงสิ

 

               “มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง..แล้วมึงจำกูได้ยังไง”

 

               ผมรัวคำถามใส่มันเป็นชุด อยากรู้จริงๆหลังจากจบมอต้นไอ้วินก็ย้ายไปเรียนต่างประเทศจากนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวคราวของมันอีกเลย

 

              “กูเพิ่งย้ายมาเรียนต่อที่นี้ แวบแรกที่เห็นกูก็จำมึงได้แล้วล่ะ”

 

               ฉลาดจังนะมึง แต่ก็นะหน้าผมไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ คนมันหน้าเด็กนี่ครับช่วยไม่ได้

 

               “มึงเปลี่ยนไปมากนะ”

 

               ใช่มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ จากเมื่อก่อนภาพลักษณ์ของไอ้วินที่ผมจำได้คือ ไอ้เด็กอ้วนตัวโตที่ชอบแกล้งผม ตอนนี้มันเปลี่ยนไปทั้งสูงทั้งขาวยิ่งหน้าลูกครึ่งตาสีฟ้าผิวเนียนๆที่คาดว่าจะได้มาจากแม่มันนั้นอีก(แม่มันเป็นคนไทยครับ)บอกเลยว่าหล่อลาก

 

              “หล่อละสิ จ้องขนาดนี้ตกหลุมรักกูหรอ”

 

               เอิ่ม =_= หลงตัวเองชิบถึงมึงจะหล่อจริงๆก็เหอะ

 

              “ไอ้สัส...กูยังจำได้นะว่าเมื่อก่อนมึงทำอะไรกับกูไว้บ้าง”

 

               ใช่ผมยังไม่ลืมนะ ทำกับผมไว้แสบแถมยังหนีไปดื้อๆอีก...แต่อาจจะต้องขอบใจมันก็ได้ที่ทำให้ชินเข้ามาสนิทกับผมมากขึ้นแบบนี้

 

               แล้วผมจะคิดถึงไอ้ชินมันทำไมเนี่ย

 

               “นั้นมันตอนเด็กแล้วปะวะ...กูลืมไปหมดแล้มึงก็ควรลืมได้แล้ว”

 

              ไอ้วินมันส่งยิ้มมาหน้าหล่อๆของมันมาให้ผม ทำเอาสาวๆที่เดินผ่านหันมามองเป็นตาเดียว...จะฮ็อตไปไหนครับพี่

 

                “แหม่ไอ้ห่า...มึงเป็นคนแกล้งกูสิถึงลืม แต่กูโดนแกล้งสาระพัด”

 

               “มึงรู้ป่ะ...เด็กผู้ชายเวลาชอบใครมักจะแกล้งคนนั้น”

 

               เงิบเมื่อฟังจบประโยค ไอ้นี้เล่นเห็นกูสนิทกับมึงรึไง

 

               “ตลกละมึง”

 

               “เออน่า...ไปกินข้าวไหมเดี๋ยวกูเลี้ยงถือซะว่าไถ่โทษ”

 

               คิดว่าแค่นี้จะทำให้กูใจอ่อนหรอ หึ...ของฟรีใครจะไม่คว้าเอาไงล่ะครับปฏิเสธก็โง่ละ ฮ่าๆๆ

 

               “ได้”

 

               “เร็วจังนะมึง”

 

              ไอ้วินว่าให้พร้อมกับมือหนาของมันยกมาขยี้ผมของผมจนเสียทรง

 

               “ไอ้เชี้ยอย่าเล่นหัวดิวะ”

 

                เพราะคนที่ชอบขยี้ผมของผมมีแค่...ชิน

 

                “ทำไมกลัวไม่หล่อรึไง...แต่หน้าแบบมึงถึงจะเช็ตทรงเท่ๆก็สวยอยู่ดีวะฮ่าๆ”

 

                “หุบปากไปเลยมึง ตกลงจะเลี้ยงไหมข้าวอ่ะ ไม่เลี้ยงกูจะไปแล้ว”

 

                “เฮ้ยๆ เลี้ยงดิพูดแค่นี้ถึงกับงอน”

 

                 วินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะส่งมือมาให้ผมข้างหนึ่ง

 

                 “ป่ะ ไปกันเถอะ”

 

                ผมลุกขึ้นโดยไม่ยอมจับมือมัน ก่อนจะเดินนำหน้ามัน วินยิ้มขำๆกับพฤติกรรมของผมมันรีบเดินก้าวขายาวๆของมันมาเดินข้างๆผม ถึงจะคิดว่ามันสูงแต่ไม่คิดว่าพอลองมายืนข้างกันแบบนี้แล้วมันจะสูงแบบนี้

 

                ให้ตาย...เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโล

 

               “ไม่คิดเลยว่าจะเจอมึงเร็วแบบนี้”

 

               อยู่ๆวินก็พูดขึ้นมา อย่างกับว่ามันตั้งใจจะมาหาผมงั้นแหละ

 

               “ทำไม อยากเจอกูมากรึไง”

 

               “งั้นมั้ง..แล้วนี้มึงยังคบอยู่กับไอ้ชินอยู่ป่ะ”

 

                “ก็ยังเหมือนเดิม..”

 

               กูยังเป็นเพื่อนมันเหมือนเดิม

 

                “หรอ แล้วมันไปไหนแล้วล่ะ”

 

                “ไปกินข้าวกบแฟนมันมั้ง”

 

                ใช่ป่านนี้คงกินข้าวจู๋จี๋กันอย่างมีความสุขแล้วล่ะ แค่คิดก็น้อยใจขึ้นมา

 

 

โรงอาหาร

 

 

                “กูนึกว่ามึงจะพาไปกินร้านหรูๆซะอีกไหงมานั่งโซ้ยก๋วยเตี๊ยวในโรงอาหารได้วะ”

 

                 ผมบ่นทันทีหลังจากไอ้วินลากมาที่โรงอาหาร ตอนนี้คนพลุกพล่านเต็มไปด้วยนักศึกษา อุตส่าห์ไม่มากินข้าวกับไอ้ชินที่นี้แต่ไอ้เบือกวินดันพามาอีกถ้าเจอชินขึ้นมาผมจะตอบมันว่ายังไงละเนี่ย

 

                 “แค่นี้ก่อนครับคุณริว ไว้โอกาสหน้าก่อนละกันพอดีกระผมมีเรียนต่อจากนี้ครับ”

 

                   วินพูดท่าทางกระแดะจนผมนึกหมั่นไส้อยากจะเขกกระบาลมันให้สักที แต่ติดที่ว่ากลัวมันเขกกลับมันไม่คุ้มเลย

 

                  “จำคำพูดของมึงไว้ละกัน”

 

                  ผมคาดโทษมันไว้ คราวหน้าพ่อจะเล่นให้กระเป๋าฉีกเลยคอยดู

 

                  “ไอ้ริว”

 

                อยู่ๆผมก็สะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงของไอ้ชินดังมาจากข้างหลัง ผมค่อยๆหันไปมองช้าๆปรากฏว่าไอ้ชินจริงๆมันยืนอยู่ข้างหลังผมคนเดียว...แล้วน้องแป้งไปไหนวะ

 

                “ว่าไงชิน..กินข้าวเสร็จแล้วหรอ”

 

               ผมถามและส่งยิ้มเห่ยๆให้มัน ไอ้ชินเก็กหน้าดุๆกลับให้ จะเก็กไปไหนครับ?ก่อนที่สายตาของมันจะไปหยุดมองคนตัวสูงข้างๆผม

 

               “แดกเชี้ยไรล่ะ...อยู่ๆน้องแป้งก็มีธุระด่วนแล้วนี้ใคร”

 

               อ๋อ ถึงว่าทำไมอยู่คนเดียวที่แท้แฟนไม่อยู่

 

               “เพื่อนใหม่กู”

 

               ผมไม่ได้บอกความจริงว่านี่คือ ไอ้วิน

 

               “มึงไปมีเพื่อนใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

 

              ไอ้ชินถามตรงๆสายตายังคงจ้องกันวินแทบไม่กระพริบตา ส่วนวินก็ดันจ้องกลับอย่างท้าทาย ผมจะคิดไปเองรึเปล่าว่าเมื่อกี้เหมือนมีประกายไฟขึ้นระหว่างสองคนนี้

 

             “เมื่อกี้นี้เอง...แล้วมึงจะกินไหมข้าวอ่ะ กูจะได้นั่งรอ”

 

              “ไม่กิน ไปเรียนได้แล้วมึง”

 

             ไอ้ชินบอกพร้อมกับคว้าแขนของผมแล้วดึงให้ลุกทันที ไอ้นี้เป็นอะไรของมันวะ

 

             “เฮ้ยเดียวดิ กูยังไม่ได้เก็บชามข้าว”

 

             “เก็บดิวะ รีบๆเดี๋ยวก็สายหรอก”

 

             “เออ แปบดิวะ”ผมบอกก่อนจะหยิบชามก๋วยเตี๋ยวขึ้นมา จะรีบอะไรนักหนาเหลือเวลาตั้งสิบนาที

 

               “กูไปก่อนนะ อย่าลืมที่มึงพูดละ”

 

                ผมเตือนไอ้วินที่นั่งไม่ได้พูดอะไร กันมันลืมครับผมเปล่าขี้งกนะกินฟรีใครก็ชอบหรือไม่จริง

 

                “ไปเหอะ”

 

                ชินมันเร่งผมยิกๆ จะรีบอะไรของมันวะ

 

              “เดี๋ยวดิ ริวกูยังไม่มีเบอร์มึงแล้วจะโทรนัดมึงได้ไง”

 

             วินร้องทักก่อนที่ผมจะทันเดินไป จริงด้วยแหะผมยังไม่ได้ให้เบอร์มันไปเลย ว่าแล้วผมก็รับโทรศัพท์จากวินขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคยให้มัน

 

             “กูไปละนะ ไว้เจอกัน”

 

              ผมรีบเดินตามไอ้ชินที่เดินลิ่วๆออกไปไม่รอ อะไรของมันวะผีเข้ารึไง

 

             “รอกูด้วยดิ มึงจะรีบไปตายที่ไหนวะ”

 

             กว่าจะวิ่งมาทันก็เหนื่อยพอสมควรนะ ขาผมยิ่งสั้นๆอยู่แม่งไม่เห็นใจกันบ้างเลย

 

             “...”

 

            ไอ้ชินไม่ตอบ แต่ก็ลดฝีก้าวลงนิดหนึ่งให้ผมเดินตามทัน

 

            “เป็นไรของมึงวะ”

 

            ผมทำหน้างง คือวันนี้จะต้องทำหน้างงกี่รอบครับพี่น้องมีแต่เรื่องชวนให้สงสัย ไอ้ชินทำหน้าเรียบไร้อารมณ์เดินไปไม่พูดไม่จาจนมาถึงห้องเรียน เอาเข้าไป

 

            “ชิน”

 

            ผมเรียกมันอีกครั้งแต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบเหมือนเดิม

 

             “...”

 

             “มึงจะไม่พูดใช่ไหม”

 

             ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ เป็นอะไรของมันไม่ชอบเลยที่มันเป็นแบบนี้ ถ้างอนปกติมันจะกอดอกแล้วเชิดหน้าแต่นี้เล่นเงียบเป็นผีตายซากแบบนี้ผมไปไม่เป็นนะ

 

             “กู...ไม่ถูกชะตากับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้น”

 

              สุดท้ายมันก็ยอมเปิดปาก หืม ไม่ชอบไอ้วินเองเรอะถึงเป็นแบบนี้

 

              นี้สินะ ที่ว่าคู่กัดกันของแท้ขนาดยังไม่รู้ความจริงนะว่าฝรั่งขี้นกที่มันว่าคือไอ้วินคู่แค้นคนเดียวในชีวิตของมัน ก็ชินมันเป็นคนค่อนข้างเฟรนลี่ผมไม่เห็นมันจะทะเลาะหรือไม่ถูกใจใคร ถึงจะดูว่าไม่ชอบมันก็แค่ไม่คุยกับคนๆแค่นั้น แต่นี้แสดงอาการชัดเจนเลย

 

           “ทำไมวะ...มาร์เขาไม่ได้ทำออะไรให้มึงเลยนะ”

 

          ผมเอ่ยแทนชื่อไอ้วินว่ามาร์เพราะไม่อยากเรียกชื่อเต็มเดียวมันจะจำได้พอดี

 

           “ไม่รู้วะ..เหมือนมันมีลางสังหรณ์ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบมึงเข้าใจป่ะ”

 

           ลางสังหรณ์ของมึงแม่นมากครับ -__-

 

            “เอาเถอะน่า ยังไงมึงก็ไม่ต้อไปคุยกับมันสิ”

 

            “มึงด้วย เลิกติดต่อกับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้นเลย...มีกูเป็นเพื่อนคนเดียวก็พอแล้ว”

 

           คำพูดที่แสนเอาแต่ใจของชิน...เห็นแก่ตัวจังนะมึง

 

            แบบนี้ไงกูถึงตัดมึงออกใจไม่ได้สักที

 

            และนี้คงจะเป็นอีกเหตุผลที่ผมมีเพื่อนแค่คนเดียวมาตลอด...

 

            ....และคิดว่าผมควรทำยังไงดีช่วยบอกที

 

 

           “กูคิดว่าคงทำแบบที่มึงพูดไม่ได้วะ”

 

 

อ่านแล้วคอมเม้นท์หน่อยน้า 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา