[YAOI] CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน

9.3

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.12 น.

  5 chapter
  2 วิจารณ์
  9,389 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) CHAPTER 2 : ใจที่สั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน

[เป็นหมีสีตัวสีเหลือง]

 

CHAPTER 2 : ใจที่สั่นไหว

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

           ผมลืมตาขึ้นมาช้าๆกระพริบเบาๆเพื่อให้สายตาชินกับแสงยามเช้าที่ส่องเข้ามาตรงระเบียงห้องนอน ก่อนจะหันไปมองคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ  ดวงหน้าหล่อคมแม้ยามหลับก็ยังดูดี ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเข้มได้รูป เปลือกตาที่ปิดสนิททำให้เห็นขนตายาวเรียงกันเป็นแพร จมูกโด่งสันรับกับริมฝีปากบางสีส้มอ่อน ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็ทำให้เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด เพราะแบบนี้ไงเมื่อคืนผมถึงทำเรื่องที่ไม่หน้าอภัยลงไป

 

         ผมไม่ได้เมา แม้จะดื่มไปก็ยังคงมีสติ ผมทำเหมือนว่าตัวเองเมาแล้วจูบเพื่อนตัวเอง

 

         “ขอโทษนะชิน..กูขอโทษ”

 

          ขอโทษที่เป็นเพื่อนแย่ๆ...ทั้งที่มึงดีกับกูสารพัดแต่กูกับคิดไม่ซื่อ

 

 

          กลุ่มเด็กวัยประถมจำนวนสี่ห้าคนกำลังยืนล้อมกันเป็นวงกลมโดยมีเด็กชายตัวเล็กท่าทางอ่อนแอนั่งร้องไห้อยู่ตรงกลางอย่างน่าสงสาร ตอนนี้เป็นเวลาเย็นพวกเด็กๆที่มารอคุณพ่อคุณแม่มารับก็จะรวมตัวกันอยู่ที่สนามเด็กเล่นหน้าโรงเรียน

 

           ‘ไอ้ตุ๊ดริว แกต้องเหมาะกับไส้เดือนแบบนี้’เด็กชายรูปร่างอ้วนใหญ่ตัวโตกว่าใรเพื่อนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพูดขึ้นพร้อมกับถือไม้ยาวประมาณศอกตรงปลายไม้มีไส้เดือนตัวเล็กห้อยอยู่เขายื่นมันออกไปใกล้ๆกับเด็กชายที่นั่งอยู่กับพื้น

 

            ‘อย่านะวิน ฮึก ฮืออ..อะเอามันออกไป’ริวบอกพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นร่างเล็กพยายามจะขยับหนีแต่เพื่อนๆที่ยืนอยู่จับตัวของเขาไว้ วินก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจที่คนที่เขาแกล้งกำลังกลัวหัวหด

 

            ‘ดูสิ ร้องไห้อย่างกับเด็กผู้หญิงแบบนี้ไปเอากระโปร่งแมรี่มาใส่ไป’เด็กชายตัวอ้วนพูดล้ออย่างขำๆพอหัวหน้าขำลูกน้องก็ขำตาม

 

             ใครบอกให้มันเกิดมามีท่าทางน่าแกล้งแบบนี้ล่ะ

 

           ‘ฮึก..เราเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง’ริวตัวน้อยที่สะอึกพยายามจะเถียง

 

           ‘ฮ่าๆๆ อย่ามาพูดีเลย นี่เอาไปไส้เดือนผู้ชายที่ไหนเขากลัวไส้เดือนกัน’วินแหย่ใส่เดือนเข้าไปใกล้ริวอีกทำให้ร่างน้อยๆสั่นด้วยความกลัวยิ่งมองเห็นไส้เดือนที่ดิ้นไปมายิ่งกลัวเพราะริวเกลียดสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด

 

         ‘หยุดนะ!’เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับเด็กชายคนใหม่วิ่งเข้ามาผลักให้คนที่ยืนล้อมอยู่ออกไป ชิน เข้ามายืนบังริวเอาไว้และหันหน้าเผชิญกับกลุ่มของวินที่แกล้งเพื่อนของเขาอยู่

 

         ‘นายมายุ่งอีกแล้วนะชิน’วินเอ่ยขึ้นแก้มยุ้ยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความไม่พอใจ ที่ชินเข้ามาขัดเวลาที่เขาแกล้งริวอีกแล้ว

 

        ‘ก็นายมาแกล้งริวทำไม”

 

        ‘ก็ไอ้ตุ๊ดมันชอบทำตัวอ่อนแอ ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย”วินพูดและทำท่าไม่พอใจก่อนจะเดินเข้ามาหมายจะเอาไส้เดือนปาใส่ริวที่ยืนตัวสั่นอยู่หลังชิน แต่ชินไวกว่ารีบคว้าไส้เดือนตัวน้อยมาก่อนจะโยนใส่เด็กชายร่างอ้วนทันที ไส้เดือนลอยไปตกลงที่บนหัวของวินพอดิบพอดีทำเอาวินถึงกับอึ้งตาโตก่อนที่จะร้องว๊ากออกมาด้วยความกลัวรีบปัดไส้เดือนออกจากหัวอย่างรีบร้อนพวกลูกน้องก็แตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง

 

          ‘ไอ้ชิน แก”พอไส้เดือนหายไปแล้ว วินก็ยกมือชี้นิ้วใส่ชินด้วยความโกรธ

 

 

         ‘หึ อะไร’เด็กชายยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่าเอาคืนอีกฝ่ายได้แล้ว

 

 

         วินเห็นชินยิ้มเหมือนล้อ ที่เขาเผลอทำท่าทางกลัวออกไปด้วยความอายจึงโถมตัวเข้าใส่วินก่อนที่กำปั้นอวบๆจะลอยไปชกเข้าที่มุมปากของชิน

 

         ‘แก! กล้าต่อยหรอโดนแน่”

 

         ชินไม่ยอมพร้อมกับสวนหมัดไปเข้าที่ตาของวินจากนั้นทั้งคู่ก็ชกต่อยกันอย่างห้ามไม่อยู่ ริวเองก็พยายามจะบอกให้ชินกับวินหยุดแต่ก็ไม่เป็นผลทั้งสองยังคงทะเลาะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งคุณครูวิ่งออกมาห้ามจนต้องโดนเรียกไปดุและทำโทษทั้งหมด

 

         ‘เจ็บมากไหม’ริวตัวน้อยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงขณะที่ทั้งสองเดินกลับบ้านด้วยกัน

 

        ‘แค่นี้ สบายมาก..ต่อไปถ้าวินทำอะไรริวอีกฉันจะเป็นคนปกป้องนายเองนะ’ชินพูดและยิ้มตาปิดให้กับเพื่อนตัวเล็กใบหน้าที่มีเค้าหล่อตั้งแต่เด็กเปื้อนไปด้วยรอยแผล

 

        ‘จริงนะ’

 

        ‘จริงสิ สัญญาเลย’

 

        ผมนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องราวในวัยเด็กของตัวเองที่มีชินอยู่ในนั้น หลังจากคำสัญญาชินก็ปกป้องผมมาตลอด ไม่ว่าใครที่เข้ามารังแกผมชินก็จัดการออกไปจนหมด

 

        “ตื่นแล้วหรอ ทำไมไม่ปลุกละ”ชินลืมตาขึ้นมาปุ้บก็ถามออกมาทันทีเพราะเห็นผมนั่งอยู่ข้างๆ มันขยี้ตาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้หาวออกมาอีกครั้ง

 

          “ก็เห็นว่านอนสบายเลยไม่อยากปลุก ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีเรียนนี้”

 

          วันนี้เป็นวันเสาร์ ปกติผมตื่นเช้านะแต่วันนี้ตื่นสายเพราะรู้สึกความสุขที่ได้นอนกับชินมันที่จริงเราก็นอนด้วยกันบ่อยๆ(นอนเฉยๆนะครับ)แต่ตั้งแต่ที่ผมย้ายมาอยู่คอนโดเราก็ไม่ค่อยได้นอนค้างด้วยกัน

 

          “เออใช่ แล้วมึงเป็นไงปวดหัวไหมวะ”ชินเกาหัวแกรกๆแล้วหาวออกมาอีกรอบ

 

          “ไม่ปวดนะ แล้วเมื่อคืนมึงเป็นคนพากูมาส่งหรอ”

 

          ถามไปงั้นแหละครับ อย่างที่บอกผมไม่ได้เมารู้เรื่องทุกอย่างชินมันเป็นคนแบกผมที่แกล้งเมากลับมาส่งที่คอนโดแถมยังเปลี่ยนเสื้อให้เช็ดตัวให้ดูแลคน(แกล้ง)เมาอย่างผมเป็นอย่างดี

 

         “กูน่ะสิ จะมีใครหน้าไหนมาส่งอีกล่ะ กูอุตส่าห์หวังให้มึงเป็นคนไปส่งกูที่บ้านแต่ที่ไหนได้กลับเป็นกูต้องมาส่งมึง”ชินบ่นใบหน้าหล่อๆของมันยู้อย่างงอนๆมันยกแขนมากอดอกท่าประจำของมันเวลางอนนั้นแหละ

 

          “กูขอโทษ เดียวกูทำกับข้าวให้กินโอเคไหม”

 

          พอเอาเรื่องของกินมาล่อชินทำหน้าคิดหนักและยิ้มกว้างออกมาทันที

 

          “โอเคดิ กูหิวสุดๆเลยวะ” มันว่าพร้อมกับเอามือลูบท้องปอยๆ

 

         “งั้นมึงไปอ่าบน้ำรอละกัน เดียวกูทำอาหารรอ”

 

          หลังจากนั้นผมก็แยกออกมาที่ห้องครัว หยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาใส่เหมือนทุกที ผมเป็นคนเลือกกินจึงชอบทำอาหารกินเองเป็นประจำ ก็ผมคิดว่ากับข้าวฝีมือตัวเองก็ต้องถูกปากมากที่สุดแถมยังสะอาดมั่นใจได้อีกเพราะตามร้านต่างๆไม่รู้ว่าเขาทำสะอาดกันไหมอีกอย่างผมเป็นคนป่วยง่ายเรื่องสุขภาพต้องมาก่อนเวลาป่วยทีนอนซมนานกว่าชาวบ้านเขามาก

 

           เมณูเช้านี้เอาเป็นข้าวต้มกุ้งของโปรดชินละกัน แล้วก็น้ำส้มคั้นอีกสองแก้วคิดได้ผมก็เริ่มลงมือทำทันทีใช้เวลาไม่นานข้าวตัวกุ้งตัวโตสองชามก็พร้อมเสริฟพร้อมกับน้ำส้มคั้นสดๆสองแก้วมาวางไว้ที่โต๊ะโดยมีชินที่อ่าบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยนั่งรออยู่

 

           “หอมจัง มึงนี้ทำอาหารอร่อยนะใครได้เป็นแฟนสบายไปทั้งชาติ”ชินพูดทั้งที่ปากยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ

 

           “กินก่อนแล้วค่อยพูดสิวะ”

 

           เรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารก็สำคัญ ผมมักจะคอยเตือนมันอยู่เสมอเกิดข้าวติดคอขึ้นมาจะว่ายังไง แม้จะว่าให้มันแต่ผมกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้

 

            “จ้าๆ มึงนี่ผู้ดี๊ผู้ดีเนอะ”

 

            ไอ้ชินประชดเสียงสูง และยังคงกินและพูดไม่หยุด -__-ไอ้นี่

 

            “แล้วเรื่องเมื่อคืน...เอ่อมึง”

 

            เมื่อจัดการอาหารบนโต๊ะเรียบร้อยผมก็เอ่ยขึ้นมาถึงนั้น ชินชะงักวูบหนึ่งก่อนที่ใบหน้าหล่อของมันจะคลี่ยิ้มออกมา

 

            “ฮ่าๆ กูละขำมึงนี่นะไม่เมาๆเดินหัวเกือบทิ่มแถมยังไม่เลิกนิสัยเมาแล้วจูบคนอื่นไปทั่ว”

 

            มันพูดและยิ้มเหมือนไม่คิดอะไร ผมรู้สึกโล่งอกไปเปาะหนึ่งที่มันมองไม่ออกว่าผมแกล้งเมาแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกแย่แฮะที่จูบของผมไม่ทำให้ชินรู้สึกอะไรเลย

 

            มันไม่ได้เป็นเกย์แบบผมนี่นาจะรู้สึกอะไรกับจูบจากเพื่อนอย่างผมล่ะ

 

           ดีแค่ไหนแล้วที่มันยอมรับในสิ่งที่ผมเป็น

 

           “หรอ...แย่เลยเนอะ”

 

           “แย่สิถ้ามึงเผลอไปจูบคนอื่นด้วยละแย่แน่ๆ...แม่งไม่ดูสังขารตัวเองเลยก่อนจะแดกเอาๆน่ะ”

 

            ผมรู้ว่ามันเป็นห่วงแค่เป็นห่วง...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

 

           “อืม..แล้วมึงจะไปไหนต่อหรอ”

 

           “พอดี เมื่อกี้แป้งไลน์มาชวนไปดูหนังอ่ะ”ชินตอบพร้อมกับยิ้มหน้าระรื่น

 

           “งั้นหรอ..”ผมกำมือแน่นจนเลือดซิบ ตอนนี้ความสุขเมื่อสักครู่มันหายไปราวกับว่าไม่เคยมีมาก่อน

 

 

            “เออ...มึงละจะไปกับกูไหมล่ะ”

 

             ยังมีหน้ามาชวนอีก...ไม่รู้รึไงว่ากูเจ็บ

 

            “ไม่ล่ะ...ไม่อยากไปเป็นกขคมึง”ผมฝืนตอบมัน ในใจรู้สึกแย่ขึ้นมาเมื่อก่อนเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแต่เดียวนี้แทบจะไม่ไปไหนนอกจากบ้านกับคอนโด

 

             ยิ่งอยู่แบบนี้ยิ่งอึดอัด...

 

            “แน่ใจนะ..งั้นกูไปก่อนละกันไว้เจอกันเพื่อน”ผมได้แต่พยักหน้าเบาๆ

 

            ชินลุกขึ้นบิดตัวนิดหน่อยก่อนจะคว้ากุญแจรถที่โต๊ะแล้วเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

 

            ผมมองตามแผ่นหลังกว้างที่แสนคุ้นเคยหายออกไปจนลับตา

 

           ยังไม่ชินอีกรึไงวะริว...มึงก็ได้แต่มองแบบนี้มากี่ปีแล้ว

 

          นั่งเหม่อได้ไม่นานผมก็ลุกไปจัดการกับตัวเอง ปากก็ชอบว่าให้ชินแต่ผมนี้สิร้ายใช่เล่นกินข้าวทั้งที่ยังไม่ได้อ่าบน้ำ(แต่แปลงฟันแล้วน้า)กับคนอื่นผมคงจะรักษาภาพลักษณ์อยู่อ่ะนะแต่กับไอ้ชินผมแทบไม่มีอะไรปิดบังมันเลยยกเว้นเรื่องที่ผมแอบรักมัน

 

          ผมพาร่างกายที่ค่อนข้างดูแย่ของตนเองหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด

 

          สายน้ำที่ไหลกระทบโดนผิวทำให้รู้สึกดีขึ้น ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะให้มันชำระเอาความรักโง่ๆของผมออกไปด้วย

 

          ใช้เวลาจัดการกับร่างกายจนเสร็จเรียบร้อย ผมก็ออกจากห้องน้ำอย่างสดชื่น วันนี้ไม่รู้จะไปไหนดีแหะเพื่อนคนอื่นก็ไม่มี

 

           คิดผิดจริงๆที่เมื่อก่อนเอาแต่จมปลักอยู่กับเรื่องไอ้ชินจนไม่มีเวลาไปสนใจคนอื่น รู้งี้หาเพื่อนไว้เยอะๆก็ดี บางครั้งผมยังรู้สึกอิจฉาคนที่มีเพื่อนเยอะๆเลย...เวลามีเรื่องอะไรจะได้คอยปรึกษา

 

          เพราะตอนที่ไอ้ชินมีแฟนเมื่อไหร่ผมก็ต้องทนเหงาอยู่คนเดียวแม้มันจะชวนผมไปนู้นนี้นั้นก็เถอะแต่...ถ้าไปไหนกับคนที่แอบรักแอบชอบแล้วเขาพาคนรักของเขาไปด้วยมันก็แย่สิที่เราจะไปเป็นส่วนเกิน

 

          ทำไมนะ...ทั้งที่รู้สันดารของมันจนหมดไส้หมดพุงแบบนี้แล้วผมยังโง่งมงายรักมันแบบไม่ลืมหูลืมตาอย่างนี้

 

         หลงรักเพื่อนสนิทตัวเอง...สถานะที่ยากเกินจะข้ามพ้นไป ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณตัดสินใจจะเหยียบเส้นแบ่งของคำว่าเพื่อน คุณคงต้องเตรียมใจมาอย่างดีแล้วแน่ๆ

 

         เพราะว่าเมื่อไหร่ที่คุณก้าวข้ามไปไม่พ้น...ผลที่ตามมาก็คงเป็นจุดจบของความสัมพันธ์

 

         การรักคนที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท...มันก็คือการลงทุนด้วยหัวใจที่เสี่ยงอย่างมากผลตอบแทนที่ได้มาอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย

 

         แต่ก็เอาเถอะในเมื่อที่เป็นอยู่ยังพอทนได้...ภาวนาให้ไอ้ชินเลิกกับน้องแป้งเร็วๆละกัน(ยังไม่ทันคบกันก็แช่งให้เลิกซะแล้ว)เมื่อไหร่ที่ผมทนไม่ไหวขึ้นมาคงต้องเสี่ยงดู

 

         ผมนอนเหยียดกายเต็มความสูงอันน้อยนิดของตัวเองลงบนโซฟาตัวโปรดมือที่ถือรีโมทก็กดเลื่อนเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างเบื่อหน่าย แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดวันสบายๆของใครหลายคนแต่สำหรับผมมันค่อนข้างหน้าเบื่อ

 

        “เบื่อโว๊ย!”

 

         ถึงจะบอกให้เลิกคิดแต่ผมก็ทำไม่ได้ในหัวมีแต่เรื่องของไอ้ชินเต็มไปหมด

 

         ผมหยิบไอโฟนสีดำของตัวเองขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอเข้าสู้เฟสบุ๊คแก้เซ็งอย่างน้อยๆก็รับรู้ข่าวสารอย่างอื่นบ้าง ผมเลื่อนอ่านสิ่งต่างๆไปช้าๆบางคนเศร้าบางคนสุขปะปนกันไป

 

          ก่อนที่ผมจะตัวชาวูบ...เพราะบังเอิญเห็นสถานะที่แจ้งเตือนขึ้นมาของใครบางคน

 

          คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...

 

          ชินตกลงคบกับน้องแป้งแล้ว

 

          มือของผมสั่นน้อยๆ ผมกดเข้าไปอ่านคอมเม้นที่เด้งขึ้นด้านล่าง...ทุกคนต่างมาแสดงความยินดี

 

          อีกแล้ว...

 

          “ฮึก..ชิน...”

 

          อยู่ๆน้ำตาผมก็ไหลลงมา ผมไม่ได้อยากจะร้องแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันผมถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้ ทรมานจัง ลำคอตีบตันจนรู้สึกแสบ...

 

          บางที...

 

         ผมคงรู้สึกอยากจะลองเสี่ยงเดิมพันโง่ๆที่รู้อนาคตแล้วว่า...มันเป็นไปไม่ได้

 

         แต่มันอาจจะดีถ้าหากแตกหักไปเลย...คงจะดีกว่า

 

 

         จะได้ไม่ต้องมาทนเจ็บซ้ำและมีทีท่าว่าจะเจ็บขึ้นเรื่อยๆ

 

TO BE CON

 

ถ้าถูกใจคอมเม้นให้กำลังใจกันบ้างน้า นิยายเรื่องนี้ลงอีกสองเว็บคือ เด็กดีและธัญวลัย

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา