[YAOI] CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน
เขียนโดย เป็นหมีตัวสีเหลือง
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.12 น.
แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน
[เป็นหมีสีตัวสีเหลือง]
CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน
อากาศยามเช้าของเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยหมอกควัน ผู้คนมากมายเริ่มต้นเข้าสู่วัฏจักรของการดำรงชีวิตแบบเดิมเช่นทุกวัน ผมเองก็เช่นกันกว่าจะฝ่ารถติดมาได้เล่นเอานานพอสมควรดีที่ขับรถมาเองเลยไม่ต้องเจอทนสูดหมอกควันให้ปอดแย่เอา
แม้วันนี้จะมีเรียนแค่วิชาย่อยแต่ผมก็ไม่อยากจะขาดเรียนสักเท่าไหร่
สภาพผมคงดูแย่พอสมควรเนื่องจากไม่ได้นอนเต็มอิ่มเพราะมัวแต่คิดเรื่องชินซ้ำๆวนไปวนมา
อาจจะมองดูงี่เง่า แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้สึก
โป้ก!
“โอ๊ย!”
เสียงฝ่ามือกระทบโดนหัวของผมดังขึ้นทำให้ความคิดที่วิ่งอยู่ในหัวแตกกระเจิงไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหน
“ไอ้ชิน ตบหัวกูทำหอยไร”
“ก็กูเรียกมึงตั้งนาน มึงก็ไม่ตอบ”
ร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยของไอ้ชินปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มยียวนมาให้
“คิดอะไรวะ แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้วะอย่างกับศพ”
ชินไม่พูดเปล่า จับหน้าของผมหันไปมา
“ยุ่งน่า หน้ารำคาญ”
ผมว่าให้ชิน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นคนที่เดินตามชินมา ความเจ็บก็แล่นสู่หัวใจ ตัวผมชาวาบไปชั่วคราว
ร่างเล็กของน้องแป้งเดินตามไอ้ชินมาและหยุดยืนอยู่ข้างๆมัน สิ่งที่ผมเห็นคือคนทั้งคู่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
“สวัสดีค่ะพี่ริว”
แป้งเอ่ยทักทายผม ใบหน้าหวานของเธอส่งยิ้มมาให้เหมือนกับจะผูกมิตร
“หวัดดีครับ”
ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้จังเลยถ้าย้อนเวลาได้ผมอยากตัดสินใจไม่มาเรียนซะก็ดี
“กินไรมายังวะ”ชินถามขึ้น
“ยังอ่ะ...ไม่หิว”ใครจะกินลง เจอขนาดนี้
“หิวเหอะ กูกับน้องแป้งจะไปกินพอดีไปด้วยกันดิ”
“กูปวดหัววะ...ขอตัวก่อนนะ”ผมพูดตัดบทและส่งยิ้มให้น้องแป้งทีหนึ่งและเดินดุ่มๆออกมาไม่สนใจเสียงของชินที่ตะโกนไล่หลังมา
ขอโทษนะชิน...ถ้าฝืนยืนอยู่ตรงนั้นกูอาจจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
ผมเดินทอดน่องมาไกลพอสมควรรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่สนามกีฬาซะแล้ว
เช้านี้มีนักศึกษาบางกลุ่มมาเล่นกีฬาด้วยแฮะ
ผมขึ้นมานั่งที่เดิมที่ประจำที่เคยมานั่งดูไอ้ชินเตะบอลบ่อยๆ
ต่อไป...ผมจะมานั่งดูใคร
ต่อไป...ผมจะเดินกับใครกินข้าวกับใคร
ต่อไป...ผมคงต้องอยู่คนเดียว
คิดอีกแล้ว...เมื่อไหร่จะเข็ดนะริวนายรู้ไหมว่านายเหมือนคนเป็นบ้าขึ้นไปทุกที เพ้อทำไมเพ้อให้ได้อะไรขึ้นมา ทำตัวอย่างกับเด็กสาวมอปลาย ผมยิ่งคิดก็ยิ่งมีคำถามผุดขึ้นในหัว
ถ้าไม่มีชินผม...จะเจ็บกว่านี้ไหม
ผมไม่รู้จะทำยังไง จะจัดการกับสิ่งที่อยู่ในใจนี้ได้ยังไงเมื่อคิดอย่างนี้ก็เหนื่อยใจเปล่าๆ จะโทษใครก็คงต้องโทษตัวเองที่เผลอไปมีใจให้เพื่อนสนิทอย่างชิน...
“สวัสดี”J
เสียงหนึ่งดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้ผมที่กำลังนั่งเหม่อไม่สนใจอะไรต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผู้ชายตัวสูงตาสีฟ้า มองแล้วคิดถึงแมวที่บ้านเลยแหะ
แต่นี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงแมว...ใครละเนี้ย
“เราเคยรู้จักกันด้วยหรอ”
นั้นสิผมคิดว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนแน่ๆ ยิ่งตัวสูงๆลูกครึ่งๆแบบนี้ไม่เคยเห็นเลยแหะ
“สมองปลาทองจังเลยนะ..ริว”
ห๊ะ!...มันรู้จักชื่อผมด้วย
“มาวิน”
ไอ้ตาฟ้าคงเห็นว่าผมทำหน้าเอ๋อรับประทานเลยยอมบอกชื่อตัวเอง มาวินงั้นหรอ...คุ้นๆแหะ ตาสีฟ้า มาวิน มาวิน...วิน
วิน!
“ไอ้หมูวิน”O_O
ตาผมคงเบิกกว้างเท่าไข่นกกระจอกเทศแล้วมั้งหลังจากนึกได้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร
จะใครอีกล่ะ คุณจำไอ้เด็กอ้วนตอนสมัยประถมที่ชอบแกล้งผมได้ไหม
นั้นแหละ ผมตกใจสุดขีดเพราะสภาพที่เปลี่ยนไปมากของมัน
“ไง..กว่าจะจำได้นะมึง”
ไอ้วินยิ้มตาปิดก่อนจะนั่งลงข้างๆผมอย่างถือวิสาสะ
ช่างเถอะ ไม่สำคัญเท่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงสิ
“มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง..แล้วมึงจำกูได้ยังไง”
ผมรัวคำถามใส่มันเป็นชุด อยากรู้จริงๆหลังจากจบมอต้นไอ้วินก็ย้ายไปเรียนต่างประเทศจากนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวคราวของมันอีกเลย
“กูเพิ่งย้ายมาเรียนต่อที่นี้ แวบแรกที่เห็นกูก็จำมึงได้แล้วล่ะ”
ฉลาดจังนะมึง แต่ก็นะหน้าผมไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ คนมันหน้าเด็กนี่ครับช่วยไม่ได้
“มึงเปลี่ยนไปมากนะ”
ใช่มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ จากเมื่อก่อนภาพลักษณ์ของไอ้วินที่ผมจำได้คือ ไอ้เด็กอ้วนตัวโตที่ชอบแกล้งผม ตอนนี้มันเปลี่ยนไปทั้งสูงทั้งขาวยิ่งหน้าลูกครึ่งตาสีฟ้าผิวเนียนๆที่คาดว่าจะได้มาจากแม่มันนั้นอีก(แม่มันเป็นคนไทยครับ)บอกเลยว่าหล่อลาก
“หล่อละสิ จ้องขนาดนี้ตกหลุมรักกูหรอ”
เอิ่ม =_= หลงตัวเองชิบถึงมึงจะหล่อจริงๆก็เหอะ
“ไอ้สัส...กูยังจำได้นะว่าเมื่อก่อนมึงทำอะไรกับกูไว้บ้าง”
ใช่ผมยังไม่ลืมนะ ทำกับผมไว้แสบแถมยังหนีไปดื้อๆอีก...แต่อาจจะต้องขอบใจมันก็ได้ที่ทำให้ชินเข้ามาสนิทกับผมมากขึ้นแบบนี้
แล้วผมจะคิดถึงไอ้ชินมันทำไมเนี่ย
“นั้นมันตอนเด็กแล้วปะวะ...กูลืมไปหมดแล้มึงก็ควรลืมได้แล้ว”
ไอ้วินมันส่งยิ้มมาหน้าหล่อๆของมันมาให้ผม ทำเอาสาวๆที่เดินผ่านหันมามองเป็นตาเดียว...จะฮ็อตไปไหนครับพี่
“แหม่ไอ้ห่า...มึงเป็นคนแกล้งกูสิถึงลืม แต่กูโดนแกล้งสาระพัด”
“มึงรู้ป่ะ...เด็กผู้ชายเวลาชอบใครมักจะแกล้งคนนั้น”
เงิบเมื่อฟังจบประโยค ไอ้นี้เล่นเห็นกูสนิทกับมึงรึไง
“ตลกละมึง”
“เออน่า...ไปกินข้าวไหมเดี๋ยวกูเลี้ยงถือซะว่าไถ่โทษ”
คิดว่าแค่นี้จะทำให้กูใจอ่อนหรอ หึ...ของฟรีใครจะไม่คว้าเอาไงล่ะครับปฏิเสธก็โง่ละ ฮ่าๆๆ
“ได้”
“เร็วจังนะมึง”
ไอ้วินว่าให้พร้อมกับมือหนาของมันยกมาขยี้ผมของผมจนเสียทรง
“ไอ้เชี้ยอย่าเล่นหัวดิวะ”
เพราะคนที่ชอบขยี้ผมของผมมีแค่...ชิน
“ทำไมกลัวไม่หล่อรึไง...แต่หน้าแบบมึงถึงจะเช็ตทรงเท่ๆก็สวยอยู่ดีวะฮ่าๆ”
“หุบปากไปเลยมึง ตกลงจะเลี้ยงไหมข้าวอ่ะ ไม่เลี้ยงกูจะไปแล้ว”
“เฮ้ยๆ เลี้ยงดิพูดแค่นี้ถึงกับงอน”
วินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะส่งมือมาให้ผมข้างหนึ่ง
“ป่ะ ไปกันเถอะ”
ผมลุกขึ้นโดยไม่ยอมจับมือมัน ก่อนจะเดินนำหน้ามัน วินยิ้มขำๆกับพฤติกรรมของผมมันรีบเดินก้าวขายาวๆของมันมาเดินข้างๆผม ถึงจะคิดว่ามันสูงแต่ไม่คิดว่าพอลองมายืนข้างกันแบบนี้แล้วมันจะสูงแบบนี้
ให้ตาย...เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโล
“ไม่คิดเลยว่าจะเจอมึงเร็วแบบนี้”
อยู่ๆวินก็พูดขึ้นมา อย่างกับว่ามันตั้งใจจะมาหาผมงั้นแหละ
“ทำไม อยากเจอกูมากรึไง”
“งั้นมั้ง..แล้วนี้มึงยังคบอยู่กับไอ้ชินอยู่ป่ะ”
“ก็ยังเหมือนเดิม..”
กูยังเป็นเพื่อนมันเหมือนเดิม
“หรอ แล้วมันไปไหนแล้วล่ะ”
“ไปกินข้าวกบแฟนมันมั้ง”
ใช่ป่านนี้คงกินข้าวจู๋จี๋กันอย่างมีความสุขแล้วล่ะ แค่คิดก็น้อยใจขึ้นมา
โรงอาหาร
“กูนึกว่ามึงจะพาไปกินร้านหรูๆซะอีกไหงมานั่งโซ้ยก๋วยเตี๊ยวในโรงอาหารได้วะ”
ผมบ่นทันทีหลังจากไอ้วินลากมาที่โรงอาหาร ตอนนี้คนพลุกพล่านเต็มไปด้วยนักศึกษา อุตส่าห์ไม่มากินข้าวกับไอ้ชินที่นี้แต่ไอ้เบือกวินดันพามาอีกถ้าเจอชินขึ้นมาผมจะตอบมันว่ายังไงละเนี่ย
“แค่นี้ก่อนครับคุณริว ไว้โอกาสหน้าก่อนละกันพอดีกระผมมีเรียนต่อจากนี้ครับ”
วินพูดท่าทางกระแดะจนผมนึกหมั่นไส้อยากจะเขกกระบาลมันให้สักที แต่ติดที่ว่ากลัวมันเขกกลับมันไม่คุ้มเลย
“จำคำพูดของมึงไว้ละกัน”
ผมคาดโทษมันไว้ คราวหน้าพ่อจะเล่นให้กระเป๋าฉีกเลยคอยดู
“ไอ้ริว”
อยู่ๆผมก็สะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงของไอ้ชินดังมาจากข้างหลัง ผมค่อยๆหันไปมองช้าๆปรากฏว่าไอ้ชินจริงๆมันยืนอยู่ข้างหลังผมคนเดียว...แล้วน้องแป้งไปไหนวะ
“ว่าไงชิน..กินข้าวเสร็จแล้วหรอ”
ผมถามและส่งยิ้มเห่ยๆให้มัน ไอ้ชินเก็กหน้าดุๆกลับให้ จะเก็กไปไหนครับ?ก่อนที่สายตาของมันจะไปหยุดมองคนตัวสูงข้างๆผม
“แดกเชี้ยไรล่ะ...อยู่ๆน้องแป้งก็มีธุระด่วนแล้วนี้ใคร”
อ๋อ ถึงว่าทำไมอยู่คนเดียวที่แท้แฟนไม่อยู่
“เพื่อนใหม่กู”
ผมไม่ได้บอกความจริงว่านี่คือ ไอ้วิน
“มึงไปมีเพื่อนใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
ไอ้ชินถามตรงๆสายตายังคงจ้องกันวินแทบไม่กระพริบตา ส่วนวินก็ดันจ้องกลับอย่างท้าทาย ผมจะคิดไปเองรึเปล่าว่าเมื่อกี้เหมือนมีประกายไฟขึ้นระหว่างสองคนนี้
“เมื่อกี้นี้เอง...แล้วมึงจะกินไหมข้าวอ่ะ กูจะได้นั่งรอ”
“ไม่กิน ไปเรียนได้แล้วมึง”
ไอ้ชินบอกพร้อมกับคว้าแขนของผมแล้วดึงให้ลุกทันที ไอ้นี้เป็นอะไรของมันวะ
“เฮ้ยเดียวดิ กูยังไม่ได้เก็บชามข้าว”
“เก็บดิวะ รีบๆเดี๋ยวก็สายหรอก”
“เออ แปบดิวะ”ผมบอกก่อนจะหยิบชามก๋วยเตี๋ยวขึ้นมา จะรีบอะไรนักหนาเหลือเวลาตั้งสิบนาที
“กูไปก่อนนะ อย่าลืมที่มึงพูดละ”
ผมเตือนไอ้วินที่นั่งไม่ได้พูดอะไร กันมันลืมครับผมเปล่าขี้งกนะกินฟรีใครก็ชอบหรือไม่จริง
“ไปเหอะ”
ชินมันเร่งผมยิกๆ จะรีบอะไรของมันวะ
“เดี๋ยวดิ ริวกูยังไม่มีเบอร์มึงแล้วจะโทรนัดมึงได้ไง”
วินร้องทักก่อนที่ผมจะทันเดินไป จริงด้วยแหะผมยังไม่ได้ให้เบอร์มันไปเลย ว่าแล้วผมก็รับโทรศัพท์จากวินขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคยให้มัน
“กูไปละนะ ไว้เจอกัน”
ผมรีบเดินตามไอ้ชินที่เดินลิ่วๆออกไปไม่รอ อะไรของมันวะผีเข้ารึไง
“รอกูด้วยดิ มึงจะรีบไปตายที่ไหนวะ”
กว่าจะวิ่งมาทันก็เหนื่อยพอสมควรนะ ขาผมยิ่งสั้นๆอยู่แม่งไม่เห็นใจกันบ้างเลย
“...”
ไอ้ชินไม่ตอบ แต่ก็ลดฝีก้าวลงนิดหนึ่งให้ผมเดินตามทัน
“เป็นไรของมึงวะ”
ผมทำหน้างง คือวันนี้จะต้องทำหน้างงกี่รอบครับพี่น้องมีแต่เรื่องชวนให้สงสัย ไอ้ชินทำหน้าเรียบไร้อารมณ์เดินไปไม่พูดไม่จาจนมาถึงห้องเรียน เอาเข้าไป
“ชิน”
ผมเรียกมันอีกครั้งแต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบเหมือนเดิม
“...”
“มึงจะไม่พูดใช่ไหม”
ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ เป็นอะไรของมันไม่ชอบเลยที่มันเป็นแบบนี้ ถ้างอนปกติมันจะกอดอกแล้วเชิดหน้าแต่นี้เล่นเงียบเป็นผีตายซากแบบนี้ผมไปไม่เป็นนะ
“กู...ไม่ถูกชะตากับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้น”
สุดท้ายมันก็ยอมเปิดปาก หืม ไม่ชอบไอ้วินเองเรอะถึงเป็นแบบนี้
นี้สินะ ที่ว่าคู่กัดกันของแท้ขนาดยังไม่รู้ความจริงนะว่าฝรั่งขี้นกที่มันว่าคือไอ้วินคู่แค้นคนเดียวในชีวิตของมัน ก็ชินมันเป็นคนค่อนข้างเฟรนลี่ผมไม่เห็นมันจะทะเลาะหรือไม่ถูกใจใคร ถึงจะดูว่าไม่ชอบมันก็แค่ไม่คุยกับคนๆแค่นั้น แต่นี้แสดงอาการชัดเจนเลย
“ทำไมวะ...มาร์เขาไม่ได้ทำออะไรให้มึงเลยนะ”
ผมเอ่ยแทนชื่อไอ้วินว่ามาร์เพราะไม่อยากเรียกชื่อเต็มเดียวมันจะจำได้พอดี
“ไม่รู้วะ..เหมือนมันมีลางสังหรณ์ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบมึงเข้าใจป่ะ”
ลางสังหรณ์ของมึงแม่นมากครับ -__-
“เอาเถอะน่า ยังไงมึงก็ไม่ต้อไปคุยกับมันสิ”
“มึงด้วย เลิกติดต่อกับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้นเลย...มีกูเป็นเพื่อนคนเดียวก็พอแล้ว”
คำพูดที่แสนเอาแต่ใจของชิน...เห็นแก่ตัวจังนะมึง
แบบนี้ไงกูถึงตัดมึงออกใจไม่ได้สักที
และนี้คงจะเป็นอีกเหตุผลที่ผมมีเพื่อนแค่คนเดียวมาตลอด...
....และคิดว่าผมควรทำยังไงดีช่วยบอกที
“กูคิดว่าคงทำแบบที่มึงพูดไม่ได้วะ”
อ่านแล้วคอมเม้นท์หน่อยน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ