หมูแฮมผู้หน้ารัก
เขียนโดย ป่าสีดำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.54 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เมืองอีกเมือง คือ เมืองซ้อนเมือง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องนอนที่เหมือนจะรกไม่ธรรมดาสำหรับผู้หญิงแต่กลิ่นนี้มันไม่ใช่ กลิ่นมันเหมือนปุ๋ยหมักที่ใครได้กลิ่นเป็นอันต้องแหวะ
มันอยู่ในห้องเด็กผู้หญิงอย่างนั้นหรอ
ผมเดินเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะแต่ในความคิดของผมมันไม่สามรถทนกับกลิ่นนี้ได้แน่เพราะมันลอยออกไปข้างนอกแล้ว
ห้องนอนเย็นๆและกลิ่นเน่าๆนี้ต้องได้รับการกำจัดผมมองไปรอบๆห้องตามหากลิ่นเหม็นเน่านี้ จนไปหยุดที่ใต้เตียงมันมีกองผ้า เหมือนเป็นเสื้อผ้าที่เธอพายายามยัดไว้ใต้เตียง
ผมค่อยๆคุ้ยมันออกมา กลิ่นมันแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะคว้าได้กองอะไรบางอย่างสีดำๆมันมีกลิ่นที่เห็นจนแทบอ้วกออกจากทางจมูก
สองมือตะกุ้ยเอาผ้าพวกนั้นออกมาให้หมดและมันก็มีกองปบบนั้นอีก 5-6 ชิ้น ซึ่งมันก็คือหนู สกรปกและซกมกที่สุด ผมใช้ผ้าที่อยู่ไกล้มือที่สุดคว้าพวกมันรวามเป็นกองเดียวจากนั้นหอพวกมันและลุกขึ้นผมอยากจะวิ่งลงไปจริงๆแต่ขาเจ้ากรรมนี้สิมันทำให้ผมหงุดหงิด
ผมเดินออกมาช้าๆมันเป็นเวลลาเช้าที่ท้องฟ้ายังเป็นสีดำ ในบ้านปิดไฟแม้กระทั้งไฟห้องน้ำ ผมค่อยๆ เดินออกไปทางประตูไม่ต้องบอกว่ามันทุเรศลูกตาขนาดใหนที่ไอ้คนพิการถือถุงกลิ่นศพหนูเน่าเดินลงบ้านเพื่อนำไปทิ้ง
ระหว่างที่ผมเดินออกจากตัวบ้านผมมองไปที่เสาไฟฟ้าที่ไกล้ที่สุดเพือเห็นถังขยะผมเดินไปปากองเสื้อนั้นลงถังอย่างไม่ลังเลใดๆเม้จะเป็นของคนอื่น ก่อนจะหันหลังกลับไปทางเดิมก็ต้องงงกับภาพที่เห็นคือ น้องสาวต่างเลือดของผมกำลังนอนอิ่งกับกำแพงข้างประตู ผมเดินเข้าไปไกล้ๆ และใช้ไม้สกิด เธอยังใส่ชุดเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ สกปรกมากกว่าเดิม เสื้อและกระโปรง เต็มไปด้วยเศษดินกลิ่นเหม็นอับดังว่าไปมุดท่อน้ำเสียออกมา
หมุแฮมที่เหมือนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากระโดดยืนตัวตรง มองมาที่ผม
"หวัดดี" เธอทักผมแต่ที่ผมจะถามคำถามเธอ คนตรงหน้าก้ยิ่งคำถามที่ผมยากที่จะตอบ "นายเอาอะไรมาทิ้งกัน เหม็นเน่าขนาดนี้"
ผมไม่อยากพูดออกมาตรงๆหรอกว่า หล่อนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่เธอเก็บมันไว้ใต้เตียงเพื่ออะไรกันนะ ฝันร้ายหรอ แต่จะให้หนูพวกนั้นปกป้องก็ไม่ใช่นะ
"อ่า คือ" ผมกำลังเรียบเรียงเหตุผมที่ผมเข้าไปห้องนอนของเธอ
"กลิ่นมันแรงมาก ฉันเลยเอามันออกมาทิ้ง" ผมบอกเธอ
หมุแฮมเดินเข้าไปในบ้าน กลิ่นเหม้นเน่าโชยออกมาตามแรงเหวียงเส้นผมยุ่งๆฟูของเธอมันช่วนแหวะมาก
"เธอออกมาทำอะไรข้างนอก" ผมถามแต่เหมือนจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ เสียวิ่งขึ้นไปตามขั้นบันได เศษดินโรยตามพื้น แต่เพียงไม่กี่เสี่ยวนาทีก็มีเสียงของเธอ ตะโกนออกมา
"นายเอาพวกมันไปทิ้งงั้นหรอ" หมูแฮมถาม เธอวิ่งลงมาจ้องหน้าผมใบหน้าที่กลมกัดปากคิวขหมวดชนกันแก้มขึ้นสี ตาของเธอเหมือนจะค่อนน้ำตาน้อยๆ
"นายมันใจร้าย" เธอวิ่งหมายจะออกไปที่ขยะ แต่งก่อนหน้านี้มีรถขยะได้เก็บไปก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่เรายื่นอยู่หน้าประตูบ้าน
หมุแฮมเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเสร้าๆ น้ำตาซึมน้อยๆ เธอเดินขึ้นไปชั้นบนเงียบมันก็เงียบไปจนถึงตอน 7 โมงเช้า มีหญิงแก่วัย 50 ต้นๆเข้ามาในบ้านเธอส่วมเสื้อสีม่วงที่บางไหวพริ้วพิพม์ลายดอก กางเกงผ้าสามส่วน เธอล่วงเอารองเท้าแตะจากกระเป๋าผ้าสีครีมอ่อนๆที่ปักเป็นรูปไก่สีขาวไว้
เธอเดินเข้ามาหาผมและถามไถ่พวกเรารู้จักชื่อและรู้สถานะของกันและกัน ป้าพิน เป็นแม่บ้านประจำบ้านซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นพี่เลี้ยงให้หมูแฮม เธอเอ่ยปากชมว่าหมูแฮมเป็นเด็กี่นิสัยแย่และสร้างความเดือดร้อน ตอนเด็กๆเธอมักจะถูกแกล้งเป็นประจำแล้วอยู่มาวัหนึ่งเธอก็ลุกขึ้นมาต่อต้านจนต้อย้ายไปเรียนนอกอำเภอ เพราะเธอเป็นเด็กที่ฉลาดและมีความอดทนสูงรักเพื่อนแต่มีหลายๆคนที่เอาเปรียบเธอเช่นกัน และป้าพินยังพูดถึงเรื่องที่โจรเคบงัดบ้านเข้ามาครั้งหนึ่งตอนนั้น หมุแฮม อายุ 13 เธอเป็นเด็กผู้หญิงเรียนนอกอำเภอทุกๆเย็นเธอจะขึ้นรถสี่ล้อกลับเพราะไม่ชอบให้ใครไปรับ
"พ่อหนุ่มเชื่อไมว่า จริงๆแล้วเธอรู้ตั้งแต่เข้าบ้านมาแล้วว่าพวกโจรมันแอบอยู่ตรงใหนของบ้าน" ป้าพินบอก เธอเล่าให้ผมอย่างสนุกสนาน
ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงได้ภูมิใจกับวิรกรรมของหมูแฮมนักจึงยิ่งคำถามทีเล่นทีจริงไปว่า
"คุณป้าปลื้มขนาดนนี้เหมือนป้าโดนรจับเป็นตัวประกันแล้วเธอก้ช่วยป้าได้ในเวลาอันฉิ่วเฉียด"
"ต๊าย พ่อหนุ่มคนนี้ช่วงรู้ดีจริง ใช่เธอช่วยป้าไว้" หล่อนบอกก่อนจะยื้นมื้อข้างซ้ายที่มีนิ้งเพียง3นิ้วให้ดู
"ฉันโดนตัดนิ้วก็เพราะเธอด้วย"หล่อนขยับนิ้วที่เหลือ "นิ้วก้อยกับนิ้วนาง"
"แต่พวกมันไม่มีป๋องแป๋งไว้ใช้แถมยังเสียตาทั้งสองข้าง ทั้งาสองคน" เธอบอก
"ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว" หล่อนวางตะหลิวก่อนจะวิ่งไปทางบันไดชะโงกหน้าตะโกนเรียกลูกสาวเจ้าชีวิตของเธอ
"หมูแฮม ป้าทำอาหารเสณ้จแล้วนะ ลงมากินเดียวนี้"
ไม่มีเสียงตอบ เธอต้องตะโกนซ้ำอีกครั้ง และใช้มือตบผนังไปด้วยแต่ก็ไร้เสียงตอบ เธอจึงเดินขึ้นไปตาม เสียงเคาะเรียก ดังขึ้นอีกครั้ง 3*-4 รอบ ก่อนจะมีเสียงตะโกนตอบออกมาอย่างมีมารยาทว่า
"หวกหู จะเอาโกโก้ฮอตดอกด้วย" เธอสั่ง ไม่ทันไรป้าพินก็เดินลงมาสีหน้าถอดสีและมีน้ำตาคออยู่
"ที่ฉันพูดก่อนหน้านี้มันไม่จริง" เธอปาดน้ำตา "เธอมันชั่ว ยัยเด็กปัญญาอ่อนเอ้ย" หล่อนตะโกนแต่เสวียงที่ตอบออกมานั้นเป็นเสียงประตูห้องน้ำที่ปิดลงแรงจนผมและป้าพินสดุ้งจนลำตัวเกร่งเป็นแถวๆ
ช่าวเวลาของวันแรกที่ผมยังคงนั้งโง่อยู่ในห้องนอนของตัวเองที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มันร้อนและระอุเหมือนเลือดในกายมันเดือด รถตำรวจหนึ่งคนเป็นรถกระบะสีขาวปิดไฟไวเรน มีหญิงสาววัยทำงานหน้าจะ 30 ต้นๆ ผมย้อมสีน้ำตาลตรงสวยเธอใส่เสื้อเซิ้ตสีขาวมีป้ายแขนวเป็นตราตำรวจ กางเกงหนังรัดรูปที่เธอใส่กระวากวัยเหมือนเธอเป้นนักร้องเกาหลีแต่งแสดงเอ็มวี
เสียงกริ้งดังขึ้นตามด้วยเสียงเปิดประตู และเสียงเอะอะของคุณป้าพินแม่บ้านของเรา ผมลุกขึ้นเปิดประตูห้องดูเหตุการณ์เห็นตำรวจหญิงคนนั้นเดินขึ้นมาโดยไม่สนใจคนห้ามอย่างป้าพิน
"เดียวนะค่ะคุณเบสต้า ป้าว่าไปรอข้างล่างก่อนเถอะค่ะ ขึ้นมาแบบนี้มันไม่ดี" ป้าบอก
"ป้าเห้นนางนั้งมันสนใจอะไรฉันไม ถ้าไม่ทำแบบนี้มีหวังตามตัวไม่ได้แน่ๆ" เธอเดินไปที่ประตูห้องก่อนจะเคาะสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
"เอาแล้วไง"เบสต้าพูด ก่อนจะเคาะอีกครั้งแต่ครั้งนี้กระหน่ำเคาะมากกว่า"เปิดเดียวนี้ยัยหมูแฮมยัยหัวฟู" เธอยังไม่มีทีท่ายอมแพและท่าทางสติแตกและเลือนมือจับที่ปืนพกตรงเอวของเธอ
ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายผมจึงอ้าประตูกว้างเพื่อเปิดตัว เสือกเรื่องคนในบ้าน ไม่งั้นบ้านนี้อาจมีรูกระสูนทะลุใส่กระบานใคร
"ใจเย็นดีกว่านะครับ เดียวผมเรียกให้" ผมพูดขึ้นในวินาทีที่นางตำรวจจะยิ่งไปที่ลูกบิด
"ใครอะป้า" เธอหันไปถามแม่บ้าน
"ลูกติดสามีใหม่คุณโสค่ะ" ป้ากระซิบบอกแต่มันก็ได้ยินชัดดี
"อ่อ"เธอพยักหน้าก่อนจะสบตามาที่ผมและสบัดหน้าเชิงบอกว่า เริ่มได้เลย
ผมเดินเข้าไปใช้หูแนบกับหูมันเงียบสนิทแต่เมื่อจับลูกบิดมันก็เย็นเฉียบผมคิดว่า หมูแฮมยังคงอยุ่ในห้องนั้น ผมบิดลูกบิดนั้นมันไม่ได้ล๊อค ผมเปิดมันและก้าวเข้าไปโดยไม่ขออนุญาติเจ้าของอีกครั้งของวันนี้ห้องที่ปิดม้านสีเขียวหน้าทืบ
ป้าพินเดินเข้ามาในห้องและอุทานออกมา
"ให้ตายสิ เหม็นเน่าอะไรเนี้ยแล้วนี้นรกขุมใหนกัน ฉันอยากจะบ้าตาย" ป้าพินก้าวข้ามสิ่งของที่บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถหลดได้จริงๆไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดม้านนั้นให้แสงสาดเข้า
แสงจากข้างนอกที่สาดส่องเข้ามาทำให้เห็นสิ่งแวดล้อมรอบๆห้องว่ามันเป็นรังหนูจริงๆ ป้าพินที่เริ่มลงมือเก็บของตามพื้นและหาถังขยะ ตำรวจที่แขนวตราเป็นตำแหน่งจ่าร้อยตรี ผมรู้จักสัญญาลักณ์พวกนี้ดีเพราะเมื่อหลายปีก่อนผมต้องคุกคลีกับคนพวกนี้
เบสต้าใช้เท้าเขียสิ่งของกีดขว้างไปข้างๆเพื่อไปกลางห้อง เมื่อมองไปที่เตียงไม่มีบุคคลนอนทับอยู่เธอจึงเท้าเอวมองไปรอบๆ
เสียงเหมือนบางสิ่งขยับมันดังอยู่หลังประตูที่มีตู้หนังสืออันโตแต่มันไม่ได้ติดชิดกำแพง เบสต้าเดินเข้าไปไกล้ๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดู เธอล้มตัวและออกแรงกระซากลากดึงบางอย่างอออกมาจากที่ช่องนั้น
หมูแฮมที่อยู่ในชุดผ้าคุมอาบน้ำสีเขียวเข้มผมยุ่งและมีผ้าปิดตาลายลูกตากวนประศาท เบสต้าลากเธอมาที่หน้าชั้นหนังสือไกล้ๆกับผม
"นี้ยัยหนู ข่าวของแก่มันมั่ว"จ่าตรีเบสต้ากระซากคอหมูแฮมขย่ำไปมา
"โอ้ย ยัยป้าปล่อยนะ" หมุแฮมที่ตื่นแล้วกระซากผ้าปิดตาออกและพลักร่างของหญิงรุ่นใหญ่กว่าออก หมูแฮมเดนมานั้งที่เก้าอี้โซฟาสีแดงกำมะหยีริมหน้าต่างก่อนจะหยิบซองใสๆที่บันจุเม็ดสีเงินอันเล็กๆว่างบนโต๊ะข้างๆ
"อันนี้แหละที่เจอที่นั้น"เธอว่าก่อนจะชั่นเข่าขึ้นและเกาท้ายทอยเบาๆพร้อมกับหาวปากกว้าง
"แต่ฉันไปมันเป็นแต่ทางตันไม่มีประตูไม่มีทางขึ้น มันหมายความว่ายังไง เธอเห็นไมว่าพวกลูกน้องฉันมันนิทาฉัน..." เบสต้าที่กำลังจะบ่นต่อหยุดชะงักเพราะเห็นมือของหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่ายกขึ้นกำปั้นเบาๆเป็นเชิงบอกให้พอ
"เอาเป็นว่า อีก 7 ชั่วโมงจะส่งข่าวให้ใหม่" หมูแฮมว่าและโบกมือไล่เบสต้าเธอเก็บซองสีใสๆนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงและเดินออกไป
"นายจะยืนตรงนั้นอีกนานไม" หมูแฮมถาม
"ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีอะไรให้ฉันช่วย อย่างน้อยก็เรื่องเล็กน้อย" ผมไม่เข้าใจว่าผมพูดอะไรแต่เท่าที่ผมเห็น หมูแฮมเหมือนไปยุ่งกับเรื่องเสียงตรางและอันตราไม่มีคนดีๆที่ใหนมีตำรวจบุกมาถึงบ้านแบบนี้
"ก่อนอื่นนะ" หมูแฮมใช้นิ้วนวดตรงขหมัมข้างขาว"นายกล้าพอที่จะไปที่เหม็นๆและเต็มไปด้วยปีเตอร์ไมละ"
"หะ" ผมไม่เข้าใจที่เธอพูด
"หมูแฮม ป้าจะเอาของพวกนี้ไปทิ้งนะมันคืออะไรกันนี้" ป้าพินหยิบกล่องที่มีความกว้างขนาด10นิ้วยาว15นิ้วได้
"ว่างทุกอย่างลง แล้วเอาผ้ากองนั้นไปซักเท่านั้นค่ะ"เธอสั่ง
"แต้ ว่า.." ป้าพินเหมือนจะแย้งแต่สายตาที่จ้องมาทางเธอนั้นทำให้จำต้องว่างของไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมและเก็บตะกล้าผ้าเดินออกไป
"เปลี่ยนผ้สปูให้ด้วย ไม่ชอบสีส้มป้ากูรู้" เธอพูดด้วยท่าทางที่ไม่น่ารักเหมือนเหยีดหยามผุ้ใหญ่
"ตอนนี้ว่างไม"เธอหันมาทางผมแววตานิ่งเฉยและเหนื่อยล้า
"ก็"ผมกำลังใช้ความคิดแต่อันที่จริงก็ว่างแหละ
"ไปที่ร้านชาจีนที่ถนน เทวี รถสีล้อรอบเมือง"เธอบอกและลุกขึ้น ก่อนจะมองมาที่ผม"ไปดิ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ