หมูแฮมผู้หน้ารัก
เขียนโดย ป่าสีดำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.54 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เมืองอีกเมือง คือ เมืองซ้อนเมือง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงใหนดี ผมไม่รู้หรอกว่าจะทำยังไงให้พวกคุณๆเข้าใจ
งั้นเริ่มจาก ตอนที่พบได้รู้ว่าผมเป็นพี่ชายคนละเลือดพ่อของผมตัดสินใจแต่งงานและย้ายเข้ามาอยู่กับเธอที่ต่างจังหวัดในตัวเมือง จังหวัดที่นี้มันเป็นเมืองเก่าๆคนอาศัยอยู่น้อยและเงียบมาก ทันทีที่ผมก้าวลงจารถทางตรงห้าแยกหอนาฬิกาสีครีมมันเป็นวงเวียนขนาดใหญ่บ้านครอบครัวใหม่ของผมตั้งอยู่ตรงแยกทิศตะวันออกตรงข้ามกับร้านขายเครื่องดนตรีและร้านคาเฟ่และย่านค้าขายหลายๆอย่าง เท่าที่ผมคิด บ้านที่ตั้งอยู่ตรงแยกนี้มันไม่ธรรมดาเลยสักนิด แม้มันจะดูเป็นอาคารพาณิชย์เก่าๆแต่ห้องที่พ่อของผมกำลังเดินเข้าไปกดกริ่งหน้าบ้าน สักพักก็มีผู้หญิงผมยาวตรงเธอแต่งหน้าอ่อนๆและการแต่งกายของเธอใส่ชุดสีขาวลายลูกไม้สีชมพูอ่อนเนื้อผ้าดี
คุณนาย โส เธอเป็นภรรยาคนใหม่ของพ่อของผมที่ทำงานเป็นนักเขียน ซึ่งมาพบรักกับเธอจากการที่เขาและเธอได้ไปออกงานเพื่อสังคมแห่งหนึ่งต่างจังหวัดเป็นงานสิ่งแวดล้อมและมีกิจกรรมเต้นรำ ฟังอาจเหมือนในหนัง แต่เชื่อเถอะ พวกเขามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
เท่าที่ผมรู้ เธอมีลูกติด พ่อบอกผมว่าลูกสาวของเธอเป็นคนน่ารัก และมีนิสัยที่เฉพาะตัวแถมหน้าแอนดูอีกต่างหาก เธอยังเด็กแถมฉลาดเป็นกรด ผมแอบจิตนาการว่า เธอคงเป็นเด็กที่ดูเนียบและพูดจาเก่งเข้าสังคมเป็น
แต่มันผิดคาดเล็กน้อย มันเลกน้อยจริงๆนะ ที่เด็กผู้หญิงที่พ่อผมเคยพูดถึงและสิ่งที่ผมคิด และคุณนายโสที่ บอกผมว่าเธอเป็นคนขี้อายและออกจะชอบเก็บตัวนิดหน่อย แต่รับรองว่าเธอจะชอบผมแน่นอน
เสียงประตูเปิดปิดดังขึ้นตามด้วยเสียงฝีเท้าที่วิ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน มันไล่จนมาถึงตรงชั้นบันไดเสียงมันเข็งและเร็วมาก จนผมได้เห็นเด้กผู้หญิงที่คาดว่าน่าจะใช่
เธอเป็นผู้หญิงสาวเต็มตัว ดูจากขนาดหน้าอกที่โตพอรู้ได้ว่าเธอเป็นสาวเต็มตัวแน่ๆ ผมฟูหยิกสีดำผิวเข้มๆ ริมฝีปากหนา นัยตาสีดำกลมโต เธอไม่เหมือนคุณนายโสสักนิด เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงก็ตรงหน้าที่ออกกลมๆตัวเล็ก สูงไม่ถึง 160 แน่ เธอออกมาในชุดกระโปรงลายสก๊อตสีครีมอ่อนยาวคุมถึงเขาเสื้อเเชิ้ตแขนยาวจดกระดุมถึงคอและรองเท้าผ้าใบสีกลมเก่าๆกับถุงงเท้าข้อต่ำสีขาว
"หวัดดี" เธอยกมือขึ้นทักทาย ต่างจากคนอื่นๆที่จะทักทายผู้ใหญ่เป็นทางการมากกว่านี้ "ค่ะ" เธอต่อท้าย คุณนายรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟาข้างพ่อ เพื่อจะลากลูกสาวมายืนตรงหน้าไกล้ๆ ผมสังเกตุเห็นว่า เสื้อผ้าที่เธอส่วมอยู่มันยับและยู่ยี้เหมือนเธอส่วมชุดนนี้นอนรอมาทั้งคืน
นี้หรอน้องสาวของผม
ผมเดินเข้ามาในห้องนอน โดยมี หมุแฮมน้องสาวคนใหม่ในกฏหมายตามตูดมาติดๆ เธอมีทีท่าหงุดหงิดนิดๆที่เดินตามหลังคนพิการอย่างเห็นได้ชัด
"นายควรจะเลิกเดินแบบนี้ได้แล้วนะ มันทำให้ฉันหงุดหงิด" เธอบ่น ผมหยุดชะงักก่อนจะหันไปดุเธอนิดหน่อย
"ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่าอยากเป็นแบบนี้" ผมเถียง แต่เธอเองก็เถียงทันควัน
"จากท่าเดินของนาย ฉันบอกได้เลยว่า นายกำลังป่วยทางจิตอยู่แน่นอน นายอาจโดนยิงจากกระสุนทำมือที่เขตขับไล่นายเป็น อาสสาแพทย์สินะ" ผมแอะใจในคำพุดของเธอ
"แน่สิ พ่อฉันเล่าให้ฟังหรอ" ผมสงสัย
"ปล่า ดูจากสีผิวท่าทางนาย และนาฬิกาที่นานใส่ มันคงเป็นของเพื่อนนายสินะ เขาตายที่นั้นหรอ"เธอยังถามจ้อไม่หยุด ผมหันไปมองที่เธออย่างที่อารมณ์ของวัตสันโดยคุณโฮอมส์ วินิเคราะห์ ไม่คิดว่าจะเจอคนแบบนี้ และสถาณะการณืแบบนี้เหมือนในนิยายสืบสวน
"เธอมัน..." ผมหันกลับไปเดินขึ้นบันไดต่อ อละเดินไปหยุดที่หน้าประตุสีขาวทำจากไม้ มีป้ายเขียนแควนไว้ว่า -แมส- ผมจึงเปิดประตูเข้าไป
"ฉันอยู่ห้องตรงข้ามหวังว่าเราจะเป็นพี่น้องที่ดีได้" เธอบอกก่อนจะออกจากห้องไป
ห้องนอนของผมมันกว้างมาก แม้ผู้ชายตัวใหญ่ สูง188 อย่างผมเดินเข้ามา มีเตียง ขนาดเล็กเมื่อผมล้มตัวเหยียดเท้ามันก็เลยเตียงออกมา ตู้เสื้อผ้าที่ตอนนนี้ผมเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ายัดเข้าไปข้าวของเครื่อใช้ถูกยกขึ้นมาวางในห้องราให้เจ้าของมาจัด ห้องนอนที่โล่งโปรง มีเพียงโต๊ะเครื่องเขียน โน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง และตู้เก็บหนังสือหนึ่งตู้ ผมใช้เวลาในการจัดการข้าวของทั้งหมด ก่อนที่พวกผู้ปรกครองทั้งสองจะเข้ามา บอกว่า พวกเขาจะไปต่างจังหวัดสัก 2-3อาทิตย์ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผมที่นักเขียนแบบพ่อผมจะเข้างานสังคม ออกไปเก้บข้อมุลและกลับไปที่ห้องทำงานในตัวเมืองเพื่อเขียนมัน ช่วงเวลานั้นเหมือนว่าทั้งโลกไม่มีใคร จนแม่ผมทนไม่ได้จึงหนีไป
เช้าตรู่ของวันถัดมาผมลุกขึ้นมาบนเตียงนอนเล็กๆนี้ ผมหยิบไม้ค้ำยันมาพนุงตัวขึ้นมองไปที่นาฬิกาข้างเตียง มันเป็นเวลา ตี5.18 นาที ผมใช้มือขยี้ตาเบาๆตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นที่ผมไปเป็นแพทย์อาสาในจังหวัดชายแดน ผมไม่คิดเลยว่า แพทยือย่างผมจะต้องมาจับปืนและยังต้องมาเห็นคนล้มตายต่อหน้าทั้งช่วยได้และช่วยไม่ได้ ผมผ่านฝันร้ายนั้นมาแค่ร่างกาย แต่จิตใจของผมเหมือยยังติดอยุ่ที่นั้น
ตลอดวันนั้นที่ผมถูกยิงเข้าที่ขาข้างขวา มันเหมือนอะไรหนักๆมันทับที่ร่างกาย มันหนักและลุกไม่ไหว คู่หูของผมเขาเป้นทหารพลานที่สนิทที่สุดเขาพายายามลากผมออกจากที่แห่งนั้นแต่เข้ากับถูกยิงต่อหน้าผมระหว่างนั้น ผมจำได้ถึงภาพนั้นอและกลิ่นคาวเลือดของเขา ลมหายใจที่ค่ายๆเบามันทับมาที่ร่างของผม ภาพนั้นเหมือนมันเกิดขึ้นช้าๆแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกๆวันผมคิดถึงเรื่องนี้ในตอนตื่นและตอนนนอนผมก็ฝันถึงเขาคนนั้น
ผมเดินออกมาเปิดประตูห้อง เพื่อจะเข้าห้องน้ำ แต่ห้องตรงข้ามที่เปิดประตู้อ้าถิ้งไว้ ผมเดินเข้าไปไกล้ๆและพายายามไม่สนใจแต่เมื่อมันอยุ่ไกล้กับห้องน้ำมากๆ และผมต้องผ่านห้องนั้นอย่างหลีดหนีไม่ได้ ผมสำพัสได้ถึงไอเย้นเหมือนว่าห้องนั้นเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ ผมลองชะโงกหน้าเข้าไปดู มันเป็นห้องมืดๆ ผมใช้นิ้วเคาะที่ประตูห้อง
ก๊อกๆ ก้ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครขาลรับ ผมจึงงมไฟที่อยุ้ข้างๆประตุ เปิดพบกับ รัง ใช่มันคือรัง รังที่มีแต่ กองกระดาษ และกล่องอะไรไม่มรู้ มีทั้งเศษผ้า กองกระป๋องกาว มีไปถึงมีด เรือย และของที่ดูหน้ากลัวอย่างกรรไกรตัดหญ้าก็อยุ่ตรงพื้นไกล้ๆนี้ด้วย ไม่ต้องพูดถึงผนังห้องที่ท่าสีดำ แถมยังมีสิ่งของประหลาดๆติดเต็มไปหมด ผมมองไปรอบ ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยเจ้าของห้อง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ