Sugar Lemon ♥ คุณชายกะล่อน มัดใจ ยัยจอมเพ้อ

10.0

เขียนโดย เมอิ

วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.12 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,686 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) [Sugar Lemon ♥ 5 : คลื่น]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันเข้าค่าย...

 

“ซาระ!!...ตื่นได้แล้วลูก  วันนี้ลูกต้องไปเข้าค่ายไม่ใช่รึไง!?”

ซาระที่กำลังหลับเพลิน  หลังจากได้ยินผู้เป็นแม่ตะโกนเรียก และพูดถึงวันเข้าค่าย  ทำให้คน     ที่กำลังงัวเงียอยู่บนเตียง  ตาสว่างขึ้นมาทันที

 

“เอ๊ะ!!!...เข้าค่าย!!”

 

เธอพูดพลางรีบหันไปมองนาฬิกาที่อยู่ข้างเตียง ตอนนี้ก็เป็นเวลา 6.20 นาที ทำให้ซาระยิ่งเบิกตาโต  เธอดันตัวขึ้นจากเตียงและวิ่งเข้าห้องน้ำในทันที  เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีเธอก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย   เพราะใบหน้าใสและที่แก้มแรงระเรื่อ  จึงไม่จำเป็นต้องแต่งหน้ากับทรงผมกระเซิงที่ไปทำบนรถก็ได้  เธอจึงข้ามการแต่งหน้าและทำผมไป  ทำให้ช่วยย่นเวลาได้มากเลยทีเดียว  เธอวิ่งลงบันไดมาเก็บกระเป๋าพร้อมที่ออกจากบ้านก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น….  ซาระรีบกดรับเพราะความรีบ

 

“ซาระจัง  นี่ชั้นเองนะ...จะโทรมาถามว่าใกล้ถึงรึยังจ๊ะ”

“อิสึโกะเองเหรอ...กำลังรีบไปแล้วจ่ะ...ไม่ต้องห่วงนะ”

 

ซาระวางสายจากอิสึโกะเสร็จเธอรีบวิ่งออกจากบ้าน  และวิ่งผ่านหน้าบ้านของฮิโตกิก่อนจะหันไปมอง  ก็พบว่าบ้านของฮิโตกิเงียบสนิท ‘ตานั่นคงออกไปก่อนแล้วแน่ๆ’  ซาระคิดในใจพลางรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟฟ้าพร้อมถือกระเป๋าเสื้อผ้าและสะพายเป้ที่ใส่ขนมไปด้วย...การเดินทางใช้เวลาประมาณสิบห้านาที    ซาระที่รีบวิ่งมาจนเหนื่อยหอบ  เธอมาถึงสนามหน้าโรงเรียนทันเวลาพอดี  ห้องหนึ่งและห้องสองเข้าแถวกันพร้อมหน้าในเวลานัดเจ็ดโมง  และกำลังรอรถทัวร์ออกในเวลาเจ็ดโมงครึ่ง       

 

ซาระเดินมองหาอิสึโกะไปเรื่อยๆ...จนเจอกับอิสึโกะและยูตะที่กำลังยืนอยู่ด้วยกันพอดี

“อิสึโกะ!!   ยูตะ!!...ชั้นมาสายไปหน่อย  ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะ”

อิสึโกะที่ยืนอยู่กับยูตะ  เธอหันมามองซาระพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ดูน่ารักบนใบหน้าของเธอ  รวมไปถึงยูตะที่หันมามองพร้อมรอยยิ้มเช่นกันก่อนจะพูดขึ้น

“ซาระไม่ได้เป็นคนเดียวที่มาสายหรอก...ฮิโตกิก็ยังมาไม่ถึงเลย”

“เอ๊ะ!?...จริงเหรอ  ลองโทรหาดูมั้ย?....ใครมีเบอร์หมอนั่นบ้าง...ชั้นก็นึกว่ามาถึงแล้วซะอีก”

ซาระเริ่มแสดงอาการเป็นห่วงฮิโตกิขึ้นมาทันทีโดยที่เธอไม่รู้ตัว  ทำให้อิสึโกะและยูตะหันหน้ามองกันเหมือนกับว่าทั้งสองกำลังคิดอะไรเหมือนๆกันอยู่

 

 

ปรี๊ดดดด!!!

 

เสียงอาจารย์ประจำชั้นเป่านกหวีดเป็นสัญญาณเพื่อให้นักเรียนต่อแถวขึ้นรถทัวร์ โดยขึ้นไปทีละคู่กับบัดดี้ของ  แต่ละคน  จนกระทั่งถึงคิวของซาระและอิสึโกะ  ก่อนที่ซาระกำลังจะเดินขึ้นรถทัวร์  เธอมองออกไปข้างนอกถนน  สายตาของซาระกำลังมองหาใครบางคน  จนหันไปสังเกตเห็นยูตะกำลังยืนมองออกไปข้างนอกถนนเช่นกัน  ทำให้เธอต้องถามขึ้น

 

“ยูตะไม่ขึ้นมาเหรอ...หรือว่ากำลังรอใครอยู่รึป่าว?”

“อื้ม...อาจารย์บอกให้รอบัดดี้น่ะ  ไม่งั้นก็ขึ้นรถไม่ได้”

 

ปรี๊ดดดดด!!!

 

เสียงเป่านกหวีดของอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะตะโกนเรียกเด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังเดินมาอย่างช้าๆ  เหมือนกับว่าไม่ได้รีบร้อนอะไร  ซึ่งต่างจากซาระที่รีบวิ่งมาจนเหนื่อยหอบ   ซาระและยูตะหันไปมองตามเสียงตะโกนเรียกของอาจารย์ประจำชั้น

 

“นี่อย่าบอกนะว่าบัดดี้ของยูตะคุงคือ...ฮิโตกิ!!”

“อื้ม...ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน”

 

อาจารย์ประจำชั้นยังคงเป่านกหวีดเรียกให้ฮิโตกิเร่งฝีเท้า  แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขาแม้แต่น้อย  ฮิโตกิยังคงเดินด้วยท่าทีปกติ  ทำให้เด็กผู้ชายในรถเริ่มโวยวายกันใหญ่  แต่พวกเด็กผู้หญิงกลับนั่งมองฮิโตกิที่กำลังเดินมาด้วยใบหน้าที่ดูอมยิ้มบ้าง  โบกมือบ้าง

 

“นี่ฮิโตกิ  ทำไมถึงมาสาย!!!??  เธอมาสายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว...ห๊ะ!!?...เพื่อนๆกำลังรอเธอคนเดียว  แถมยังไม่รีบเดินมาอีก”

ฮิโตกิที่โดนอาจารย์บ่นอยู่แบบนั้นจึงสวนกลับไปด้วยความหงุดหงิดตามนิสัยของเขา

“อย่างแรก!!  ขาผมเจ็บอยู่...อย่างที่สอง!!  รถออกเจ็ดโมงครึ่ง  แล้วนี่ก็เจ็ดโมงครึ่ง...ผมจะขึ้นรถได้รึยังครับ?”

 

อาจารย์ประจำชั้นยืนอึ้งกับคำตอบของฮิโตกิและเถียงไม่ออก  เพราะถ้าเถียงกับฮิโตกิ  รับรองว่าคนขวางโลกอย่างฮิโตกิคงต้องเถียงกลับทุกคำหรือไม่ก็ยืนเงียบๆทำเป็นหูทวนลมตอนที่อาจารย์กำลังพูดอยู่เป็นแน่ เพราะฮิโตกิเป็นแบบนี้มานานแล้ว  อาจารย์ประจำชั้นจึงไม่ใส่ใจอะไร      

ฮิโตกิที่ยืนมองอาจารย์อยู่และไม่ได้รับคำตอบจากอาจารย์    จึงค่อยๆเดินผ่านไป  เขาก้าวขึ้นรถทัวร์อย่างช้าๆ  ส่วนซาระและยูตะที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบเชียบก็เดินตามขึ้นมา

 

….

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอจ๊ะ”

อิสึโกะถามซาระที่กำลังนั่งลงตรงเบาะข้างๆด้วยความสงสัยและดูเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ...ก็แค่หมอนั่นกวนโอ๊ยอาจารย์น่ะ”

 

อิสึโกะที่ได้ยินซาระพูดแบบนั้นจึงหลุดขำออกมาเล็กน้อย  ทำให้ซาระที่หันไปมองอมยิ้มตามไปด้วย  ทั้งสองคุยเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กสาว  ส่วนฝั่งเก้าอี้ตรงข้ามที่มียูตะและฮิโตกินั่งอยู่กลับเงียบเชียบ  ยูตะได้แต่นั่งก้มอ่านหนังสือที่พกติดตัวมา   ส่วนฮิโตกิก็เอาหัวพิงกระจกหลับไปตั้งแต่ล้อเริ่มเคลื่อน

 

.....

..........

 

หลังจากที่นั่งรถมาสามชั่วโมงก็มีเสียงอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้น

 

“อ่าวนักเรียนทุกคนอีกสิบนาที  เตรียมตัวลงจากรถไปขนสัมภาระของตัวเอง  แล้วมาเจอกันที่ลานกว้างในป่าติดทะเล  ตามที่อาจารย์บอกนะ”

เด็กนักเรียนที่กำลังคุยกัน  และที่กำลังหลับอยู่ต่างพากันตื่นตัว  เพื่อที่จะเตรียมตัวลงจากรถ   ผ่านไปครู่หนึ่งรถทัวร์ก็หยุดลงตรงถนนก่อนถึงทางเข้าที่เต็มไปด้วยป่า  และต้องเดินเข้าผ่านป่าเข้าไปข้างในก็จะพบกับทะเล  บรรยากาศรอบๆดูสดชื่นและเย็นสบาย  แถมยังเป็นธรรมชาติที่ดูงดงาม  ไม่ได้ดูน่ากลัวแม้แต่น้อย  ถึงแม้ว่าจะมีแต่ป่ารอบด้านก็ตาม

 

ซาระที่เดินลงจากรถ  เธอมองไปรอบๆด้านและต้องยิ้มออกมา  เพราะส่วนมากวันๆเธอเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง  ไม่เคยต้องมาเห็นบรรยากาศแบบนี้  ทำให้ซาระตกอยู่ในห้วงของความผ่อนคลายไปขณะหนึ่ง  จนกระทั่งกระเป๋าสัมภาระที่ถืออยู่ถูกจับโดยมือของใครบางคน  ทำให้เธอต้องรีบหันไปมอง

 

“ชั้นถือให้...แขนซาระจังเล็กนิดเดียว...แค่เป้ก็พอแล้วล่ะ”

ยูตะพูดพร้อมยิ้มให้กับซาระ  และเดินนำหน้าพร้อมถือกระเป๋าใบนั้นของซาระไป   ซาระไม่ทันที่จะปฏิเสธยูตะ   เธอจึงรีบสะพายเป้ดินตามยูตะไปติดๆพร้อมกับอิสึโกะที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ โดยที่ซาระไม่ทันสังเกตสายตาของฮิโตกิที่กำลังมองจากด้านหลัง  ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยอีกเช่นเคย

 

….

 

เมื่อนักเรียนทุกคนมารวมตัวกันตรงลานกว้างตามที่อาจารย์บอกไว้  อาจารย์ประจำชั้นจึงทวนกำหนดการอีกครั้ง  และจัดห้องพักให้ห้องละสองคนตามคู่บัดดี้ของตัวเอง   ก่อนจะปล่อยให้นักเรียนทุกคนพักกลางวันรวมไปถึงอิสระได้หนึ่งวัน  เพราะวันอื่นๆจะเป็นกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดให้

 

 

 

...ช่วงเย็น

 

ลานกว้างกลางป่าที่เป็นจุดพักของนักเรียนทุกคน   หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ต่างพากันไปเดินเล่น  หรือพูดคุยกัน  ซาระและอิสึโกะยืนคุยกันเรื่องความชอบส่วนตัว   จนกระทั่งมีเสียงทุ้มของใครบางคนพูดขึ้นมา

“ทั้งสองคน  คุยอะไรกันอยู่เหรอ?”

ซาระและอิสึโกะหันไปตามเสียงทุ้มนั้นพร้อมกัน   ยูตะที่ยืนยิ้มอยู่ภายใต้แว่นกรอบดำนั้น  ทำให้ซาระพูดและยิ้มตอบ

“เรากำลังคุยเรื่องความชอบอยู่น่ะ...ยูตะมีอะไรที่ชอบบ้างรึเปล่า”

 

“อ่ะ  อื้ม...มีสิ”

ยูตะที่ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบมาแบบตะกุกตะกัก   อิสึโกะที่ยืนอยู่ข้างๆซาระ  เธอก้มหน้าลงอย่างช้าๆด้วยสีหน้าที่ดูแปลกไป   ซาระที่ไม่ทันสังเกตท่าทางของอิสึโกะเธอจึงจะถามยูตะต่อ   แต่ในตอนนั้น!  ก็ถูกมือเรียวของใครบางคนดึงแขนและลากเธอออกมาจากตรงนั้นไป

 

 

จนมาถึงชายทะเลที่มองเห็นดวงจันทร์ที่เกือบจะเต็มดวงได้ชัดเจน   ชายหาดที่มีสายลมบางเบาและคลื่นเล็กๆที่ซัดขึ้นมา

 

“นี่ปล่อยนะ!!  นายจะลากชั้นออกมาทำไม  ไม่เห็นรึไงว่าชั้นกำลังคุยกับเพื่อนอยู่น่ะ”

ฮิโตกิ  คนที่ลากเธอออกมาจากยูตะและอิสึโกะ  ทำให้ซาระเริ่มหงุดหงิดกับพฤติกรรมของฮิโตกิ   จึงตะโกนถามไป   ฮิโตกิเริ่มโมโหที่โดนซาระตะคอกใส่เช่นกัน   จึงดึงข้อแขนบางของซาระเข้าไปใกล้เขาและพูดขึ้น

“เธอที่มันบื้อพอๆกับหมอนั่นจริงๆ!!”

“เอ๋!!...นาย!!!”

ซาระอ้าปากเตรียมที่จะโต้ตอบฮิโตกิ  แต่ก็โดนเขาสวนกลับมาอย่างรวดเร็ว

“เพื่อนเธอน่ะชอบเจ้ายูตะนั่น!!  แต่หมอนั่นไม่รู้...และ...ดันชอบเธอ”

ซาระที่ตอนแรกเตรียมจะโต้ตอบก็ต้องสงบลงกับคำพูดของฮิโตกิและยืนจ้องฮิโตกิแทน   ก่อนจะพูดขึ้นมา

“เพราะงั้นนายเลยลากชั้นออกมา?...”

 

...

ซาระเริ่มรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่ทันได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยจึงยืนเงียบไป   

ฮิโตกิที่ยืนมองซาระด้วยใบหน้านิ่งเฉยที่เป็นปกติของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้าไปทางทะเลและนั่งลงตรงชายหาดพร้อมกับกระตุกข้อแขนบางของซาระให้ลงมานั่งตรงชายหาดกับเขา

 

ท้องฟ้าที่มืดสนิททำให้เห็นพระจันทร์ที่เกือบจะเต็มดวงได้ชัดเจน  ทั้งสองคนนั่งมองคลื่นทะเลที่มีแสงของดวงจันทร์กระทบบนผืนน้ำอย่างเงียบๆโดยไม่ได้คุยอะไรกัน  ซาระที่นั่งจ้องมองพระจันทร์จึงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“รู้มั้ย?...นายน่ะเหมือนคลื่นของทะเลมากเลย......บางครั้งก็ซัดสาด  บางครั้งก็สงบ  แต่พอได้เข้าไปแตะต้องคลื่นนั้น.....กลับรู้สึกดี”

ซาระที่พูดออกมาแบบนั้น  ถึงจะมีหลายความหมายก็ตาม   แต่คำพูดนั้นทำให้ฮิโตกิที่ฟังอยู่  ใบหน้านิ่งของเขาเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ได้ยินคำพูดนั้นทันที  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

....

 

ฮิโตกิยังคงนั่งจ้องมองพระจันทร์ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยอีกตามเคยอยู่อย่างนั้นซักพัก   ก่อนจะล้มตัวลงนอนตักของซาระที่นั่งอยู่ข้างๆโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

 

 

“ขออยู่อย่างนี้ซักพัก”

ฮิโตกิพูดพร้อมกับหลับตาลง  ใบหน้าของเขาตอนหลับอยู่ดูเหมือนเด็กไร้พิษสง  ทำให้ซาระที่ตอนแรกเกือบจะผลักเขาออกไปด้วยความตกใจเพราะจู่ๆเขาก็ล้มตัวลงนอนที่ตักของเธอ   แต่ตอนนี้เธอกลับจ้องมองใบหน้านั้นของฮิโตกิด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงใบหู  และก็ไม่สามารถปฏิเสธฮิโตกิได้จึงปล่อยให้เขานอนหลับไป 

 

ซาระที่นั่งเขินอายอยู่นานจึงพยายามใช้นิ้วชี้แตะๆที่แก้มของฮิโตกิ  เพื่อให้เขาตื่น

“นี่...ตื่นเถอะ   เราต้องกลับที่พักแล้วนะ”

ฮิโตกิยังคงหลับตาต่อ  เหมือนกับว่ากำลังแกล้งให้ซาระอายมากกว่าเดิม   ซาระจึงขยับขาข้างที่ฮิโตกิกำลังนอนออก

 

ตุบ !

 

“โอ๊ย!”

หน้าผากของฮิโตกิกระแทกลงกับพื้นทรายเล็กน้อย  ทำให้เขาต้องร้องออกมาและลุกขึ้นนั่ง  ก่อนจะใช้มือจับที่หน้าผากตัวเอง  ส่วนซาระที่ยืนมองอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะกับท่าทีของฮิโตกิออกมาทันที

 

ทั้งสองคนที่ออกมาข้างนอกนานผิดปกติ   จึงทำให้ยูตะและอิสึโกะต้องออกมาตาม   ยูตะและอิสึโกะได้ยินเสียงหัวเราะของใครบางคนจึงคิดว่าเป็นซาระแน่ๆ   ทั้งสองเดินมาหยุดดูอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ  ยูตะมองซาระที่กำลังหัวเราะอยู่กับฮิโตกิ  เขารีบหันหลังกลับและยืนนิ่งเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างอยู่  ส่วนอิสึโกะก็ได้แต่จ้องมองใบหน้านั้นของยูตะด้วยความ   เป็นห่วงโดยที่ไม่กล้าถามอะไร   จนกระทั่งทั้งสองเดินกลับถึงที่พัก

 

‘จากนิสัยของฮิโตกิ...คงไม่ได้จริงจังกับซาระจริงๆ  เพราะงั้น...ชั้นจะยังไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ’

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา