Sugar Lemon ♥ คุณชายกะล่อน มัดใจ ยัยจอมเพ้อ
เขียนโดย เมอิ
วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.12 น.
แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) [Sugar Lemon ♥ 4 : บัดดี้]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ซาระรีบคว้าไอติมที่กำลังละลายอยู่ในมือของฮิโตกิและรีบวิ่งลงบันไดไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
****
เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณในการเข้าเรียนคาบตอนบ่าย แต่ฮิโตกิยังคงนั่งพิงกำแพงบนดาดฟ้าเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยตามปกติของฮิโตกิ
“นี่ชั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่...”
ฮิโตกิที่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นจึงพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาเริ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วย แต่ภายในใจยังคงคิดถึงแผนการก่อนหน้านั้น ที่จะทำให้ซาระชอบเขาให้ได้ ฮิโตกิจึงพยายามลืมเรื่องที่กำลังคิดไป
.....
ซาระที่กำลังเดินเข้าห้องมาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม แต่เธอก็ต้องหยุดลงตรงหน้าประตู พร้อมกับไอติมสวีทที่มีขายแค่เดือนละครั้งในมือเธอ และฮิโตกิเป็นคนลงทุนไปต่อคิวซื้อเพื่อนำมา ขอโทษเธอ เพราะคนอย่างฮิโตกิไม่เคยแม้แต่จะเหยียบเข้าไปในโรงอาหารแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งนั้นจึงทำให้สาวๆในห้องพากันมองซาระเป็นตาเดียวกัน ทำให้ซาระไม่กล้าที่จะเข้าไปในห้อง และเธอก็เอะใจขึ้นได้ว่าถือไอติมแท่งนั้นมาด้วย ซาระจึงรีบหันกลับและเดินออกจากตรงนั้นโดยลืมสังเกตคนที่กำลังเดินไปมา
ตุบ…!!
ไอติมที่ซาระถืออยู่ ร่วงหลุดมือลงไปกองกับพื้นขณะที่เธอชนเข้ากับคนที่เดินสวนกัน ทำให้เธอได้แต่ขอโทษคนที่เธอเดินชนและยืนอึ้งจ้องมองไอติมที่พื้น เธอค่อยๆย่อตัวนั่งลง มือเรียวเล็กของเธอเอื้อมไปหยิบไม้ไอติมแท่งนั้นขึ้นมา
“ชั้นจะเก็บแกไว้ละกันนะ”
ซาระเรียกไอติมว่า ‘แก’ เธอเริ่มคิดว่าไอติมแท่งนี้เปรียบเสมือนเพื่อน มันทำให้เธอยิ้มขึ้นมาได้เพราะหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เธอก็แทบจะไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่คุณโทรุ(พระเอกในการ์ตูนโปรดของซาระ) และไอติมแท่งนี้แหละ ที่ทำให้เธอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
....
หลังจากที่ซาระกลับเข้ามาในห้องและนั่งลงตรงที่ของเธอ ก็ยังไม่วายมีเสียงซุบซิบนินทาจากผู้หญิงในห้องด้วยกันต่างๆนาๆ อย่าง “ยัยนั่นน่ะเหรอ ที่ฮิโตกิชอบ” บ้างล่ะ “ยัยหน้าจืดนั่นมีดีอะไร” บ้างล่ะ “ชั้นไม่ค่อยชอบหล่อนเลย” บ้างล่ะ ทำให้ซาระได้นั่งแต่ก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะ
“อย่าไปฟังพวกนั้นเลย...เดี๋ยวก็หยุดพูดไปกันเองแหละนะ”
ยูตะที่นั่งหันหลังอยู่ หันกลับมาพร้อมพูดด้วยใบหน้าที่ดูเป็นห่วงและยังคงมีรอยยิ้มบางๆอยู่บนใบหน้าที่สวมแว่นตา เพื่อให้ซาระสบายใจขึ้น
แต่ถึงกระนั้นเสียงซุบซิบนินทาของสาวๆในห้องก็ยังคงดังไม่หยุดหย่อน ทำให้คนในห้องเริ่มมองมาทางซาระกันยกใหญ่
...ปึก!!!!
เสียงดังของหนังสือเล่มหนาที่หล่นลงจากโต๊ะของฮิโตกิซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวกำลังฟุบหลับอยู่ ทำให้ทุกคนในห้องหันไปมองตามเสียง และเสียงซุบซิบนินทาต่างๆในห้องก็เงียบลง เหมือนกับว่าทุกคนในห้องพร้อมใจกันเงียบในทันที
…….
….
...
ครืดด!
“ขอโทษที่มาสายหน่อยนะ...พอดีครูมีธุระเรื่องกำหนดการของห้องเรานี่แหละ”
เสียงเปิดประตูพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้นที่เดินเข้ามาในห้อง กับเอกสารกองหนึ่งทำให้ความเงียบในห้องหายไป นักเรียนในห้องเริ่มส่งเสียงออกมา จากก่อนหน้านั้นที่เงียบกันไปหมด นักเรียนคนหนึ่งในห้องสงสัยที่อาจารย์ประจำชั้นพูดถึงกำหนดการ จึงถามขึ้น
“เรื่องกำหนดการของห้องนี่คือ กำหนดการอะไรเหรอครับ?”
“เดี๋ยวหัวหน้าห้องจะเป็นคนบอกรายละเอียดให้ทุกคนฟังนะ...เอ่า...เคียวสึเกะเธอมาพูดหน้าห้องทีนะ”
ยูตะเดินออกไปหน้าห้อง เขาอ่านเอกสารตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งและสรุปเป็นคำพูดให้ทุกคนในห้องฟัง
“เราจะมีกำหนดการเข้าค่ายเสาร์นี้ ห้องหนึ่งและห้องสอง ดังนั้นเลยเป็นคิวของห้องเราและห้องสองที่จะต้องไปเข้าค่ายต่างจังหวัด ในกำหนดการคือสามวันที่…ทะเล”
เสียงทุกคนในห้องดังขึ้นทันทีที่พูดถึงทะเล อาจารย์ประจำชั้นหยิบกล่องเล็กๆสองใบ ในนั้นเป็นกระดาษรายชื่อของนักเรียนและแบ่งครึ่งกันไปจับสุ่มเพื่อหาบัดดี้ของตัวเอง แต่จะแยกเป็นชายแหละหญิง ซาระไม่ได้ถูกเลือกให้ไปจับใบสุ่มเพราะชื่อเธออยู่ท้ายๆ เธอนั่งอยู่ซักพักทันใดนั้นก็มีเสียงใสๆเรียกชื่อเธอ
“อาซายะ ซาระจังสินะจ๊ะ...ชั้น..คาซาวะ อิสึโกะ ชั้นจับได้ชื่อเธอน่ะ ตั้งแต่วันนี้ไป ก็ขอฝากตัวด้วยนะจ๊ะ”
ซาระหันไปมองเจ้าของเสียงใสนั้นพลางคิดในใจ ‘เธอคนนี้ดูเรียบร้อย แถมยังน่ารักมากเลย’
“สวัสดีค่ะ...เรียกชั้นซาระก็ได้นะ...ขอฝากตัวเช่นกันค่ะ”
อิสึโกะตอบรับและยิ้มให้ซาระอย่างสดใส ด้วยท่าทางของเธอที่ดูสดใสไร้พิษภัยทำให้ซาระอยากที่จะเป็นเพื่อนกับอิสึโกะทันที และเสียงของยูตะที่พูดขึ้นมาหลังจากอิสึโกะเดินจากไปนั้นยิ่งตอบรับความรู้สึกที่อยากจะเป็นเพื่อนของซาระเข้าไปอีก
“อิสึโกะจังเป็นคนดีนะ เธอขี้อายไปหน่อย เลยไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ เธอคงเป็นเพื่อนที่ดีกับซาระจังได้นะ”
ยูตะพูดจบพลางยิ้มให้ซาระเช่นเดิม ถึงแม้แว่นตาของยูตะจะบดบังใบหน้าเล็กน้อย แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงยิ้มแย้มอยู่เสมอ ซาระที่มองหน้าอยู่พลางคิดในใจ ‘ยูตะเนี่ย เมื่อไหร่ก็ยิ้มแย้มได้เสมอเลยเนอะ...แต่กับใครบางคน วันๆเอาแต่ทำหน้านิ่งเป็นปลาตายอยู่ได้’ ซาระที่คิดในใจพลางหันไปมองโต๊ะถัดไปอีกสามโต๊ะ ซึ่งฮิโตกิกำลังฟุบหลับอยู่อย่างไม่สนใจคนรอบข้างตามแบบฉบับคนขวางโลกของเขา
*****
เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น ทุกคนในห้องต่างพากันรีบเก็บของของตัวเองใส่กระเป๋าเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน
ซาระหยิบกล่องดินสอและสมุดใส่กระเป๋าโดยที่ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพราะเธอไม่ได้มีที่ที่ต้องไปหลังเลิกเรียนอย่าง ไปเที่ยว ไปคาราโอเกะ เหมือนกับคนอื่นๆ ขณะที่เธอกำลังเก็บของอยู่นั้นก็มีเสียงใสๆพูดขึ้น
“ซาระจัง...คือ....ขอเบอร์โทรหน่อยได้มั้ยจ๊ะ...คือ...”
เด็กสาวที่ดูอ้ำๆอึ้งๆอยู่ตรงหน้าด้วยความเขินอายทำให้ซาระต้องพูดขึ้นเพื่อบรรเทาความเขินอายของอิสึโกะบัดดี้ของเธอ
“ได้สิ...ตั้งแต่นี้ไปเราควรจะสนิทกันไว้...แล้วชั้นก็ดีใจที่ได้เป็นบัดดี้กับเธอมากเลยล่ะ”
ซาระยิ้มให้กับเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า อิสึโกะที่มีท่าททางที่เขินอายถึงกับยิ้มกว้างขึ้นมาและตอบตกลงทันที ซาระหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนเบอร์โทร เธอยื่นให้กับอิสึโกะก่อนที่อิสึโกะ จะเดินออกห้องไปด้วยใบหน้าที่สดใส ทำให้ในห้องเหลือเพียงแค่ฮิโตกิและซาระที่ยังคงไม่กลับบ้าน
….
ฝั่งฮิโตกิที่ยังคงฟุบโต๊ะหลับอยู่ ทำให้ซาระมีความกล้าที่จะเดินเข้าไปหา เพราะตอนฮิโตกิหลับดูไม่น่ากลัวและดูไม่เป็นอันตรายกับเธอ เธอค่อยๆก้าวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงข้างๆฮิโตกิพร้อมกับถือกระเป๋านักเรียนเตรียมกลับบ้าน ซาระเดินไปหาฮิโตกิเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่างกับ ฮิโตกิที่กำลังฟุบโต๊ะอยู่
“เมื่อตอนกลางวัน...ชั้นรู้ว่านายจงใจปัดหนังสือตก เพื่อให้ทุกคนเงียบสินะ...ยังไงก็...เอ่อ...ขอบคุณนะ...แล้วเรื่อง ไอติม ชั้น...”
หมับ!!
มือเรียวคว้าข้อแขนบางๆของซาระไว้ โดยที่เธอยังไม่ทันพูดจบประโยค ฮิโตกิค่อยๆเงยหน้าขึ้นและจ้องมองใบหน้าของซาระอยู่อย่างนั้น ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยแต่แฝงอะไรบางอย่างอยู่
มันนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่ซาระโดนฮิโตกิจ้องมองอยู่แบบนั้น แต่การที่ฮิโตกิจ้องหน้าซาระเช่นนั้น ทำให้ซาระนึกถึงคำพูดของฮิโตกิที่เคยพูดไว้ตอนอยู่ร้านกาแฟ
‘เวลาเธอสนใจอะไรบางอย่าง...เธอชอบที่จะจ้องสิ่งนั้นนานๆมั้ย?’
คำพูดนั้นของฮิโตกิ ผุดขึ้นมาในความคิดของซาระ ทำให้ใบหน้าของซาระเริ่มร้อนผ่าวไป ถึงใบหู ใบหน้าของซาระแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ เธอเบือนหน้าเพื่อที่จะหลบสายตาของฮิโตกิด้วยความเขินอาย ปกติเธอน่าจะโกรธที่ฮิโตกิจ้องเธอแบบนี้ แต่ครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่า เธอรู้สึกแปลกๆภายในใจและไม่ได้สะบัดมือหนีเหมือนอย่างทุกที
ซาระที่เบือนหน้าไม่ยอมสบตา ซึ่งใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงใบหูเพราะความเขินอายนั้น ทำให้ฮิโตกิก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา เขาจึงค่อยๆปล่อยมือออกจากแขนบางๆของซาระ และพูดขึ้น
“วันนี้เธอกลับพร้อมกับชั้นก็แล้วกัน!”
ซาระที่ได้ยินดังนั้นถึงกับเงยหน้าขึ้นทันที
“เอ๋!!...ชั้นกลับเองได้...กลับล่ะ”
ซาระที่พูดจบจึงรีบวิ่งออกจากห้องเรียนโดยทันที เพราะถ้าเธอกลับกับฮิโตกิ มีหวังพวกที่คลั่ง ฮิโตกิมาเห็นเข้า คงจะไม่ยอมแน่ๆ
เมื่อเดินมาถึงสถานีรถไฟได้ซักพัก รถไฟก็หยุดตรงสถานี ซาระก้าวเท้าเดินเข้าไปในรถไฟและมองหาที่นั่ง แต่ทุกที่นั่งถูกจับจองไว้หมดทุกที่แล้ว ในรถไฟฟ้าดูแออัดยิ่งกว่าขามาเธอจึงจำเป็นต้องยืนติดประตู ซาระยืนอยู่ซักพักเพื่อรอรถไฟออก ก็มีใครบางคนมายืนอยู่ข้างหลังแทบจะติดกัน ทำให้เธอตกใจและหันกลับไป ซาระขมวดคิ้วในทันที และตะโกนออกไปเสียงดัง
“นี่นาย!!...จะตามชั้นมาทำไม!!!?”
คนในรถไฟที่หันมามองเพราะเสียงของซาระ ทำให้ฮิโตกิที่ยืนอยู่เงียบๆเริ่มโมโห เขาใช้มือ ข้างหนึ่งยันกระจกไว้ ใบหน้าหล่อของฮิโตกิเริ่มเข้ามาใกล้ซาระขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะหายใจ รดกัน ทำให้ซาระเบือนหน้าหนีอีกครั้ง และเพราะคนในรถไฟแออัดกัน ซาระจึงไม่สามารถที่จะผลักฮิโตกิได้
“เธอลืมรึไง!?...บ้านเราอยู่ติดกัน!!!”
ซาระได้ยินดังนั้นถึงกับอ้าปากค้างและหน้าเสีย เพราะคิดว่าฮิโตกิจะทำอะไรเธอ แต่กลับเป็นว่าโดนหักหน้าเต็มๆ
ฮิโตกิที่ยังคงอยู่ในท่าเดิม และไม่ยอมถอยออกไปจากซาระ ทำให้ซาระรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอีกครั้ง เพราะกลิ่นของ ฮิโตกิที่ซาระเคยได้กลิ่นตอนช่วยพยุงเขา ทำให้เธอเผลอทำอะไรน่าอายลงไปอย่างคราวก่อน ที่เผลอไปซบฮิโตกิโดยไม่รู้ตัวเข้า ซาระจึงต้องรีบพูดอะไรบางอย่างขึ้น
“แล้วนายจะอยู่ในท่านี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน!!?”
“อยู่นิ่งๆไปเถอะน่า!!”
ซาระที่เริ่มเขินและหัวใจที่เต้นแรง จึงพูดถามฮิโตกิทั้งใบหน้าที่ยังคงใกล้ชิดกัน แต่ฮิโตกิกลับตอบแบบห้วนๆ และยังคงทำหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิมจนเมื่อถึงทางเข้าบ้าน ฮิโตกิที่เดินตามมาก็ยังคงไม่พูดอะไร แต่ซาระกลับไม่เข้าใจเพราะไม่รู้ว่าฮิโตกิกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ หรือจงใจจะแกล้งเธออีกแล้ว ซาระเดินที่เดินมาพร้อมฮิโตกิ เธอจึงรีบเดินจ้ำผ่านหน้าบ้านฮิโตกิไปด้วยความหงุดหงิด แต่ก็มีเสียงทุ้มเรียกเธอไว้
“นี่!!...ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปชั้นจะกลับกับเธอ...แล้วก็หัดระวังตัวด้วย...เกือบโดนพวกโรจิตลวนลามแล้วยังไม่รู้ตัวอีก!!!…..อีกอย่าง สภาพชั้นตอนนี้ คงมีเรื่องกับใครไม่ไหว!!”
ฮิโตกิพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับขาที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้ซาระที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เข้าใจในทันทีว่าฮิโตกิยืนบังซาระจากพวกโรคจิตในรถไฟและที่ไม่พูดออกมาคงเป็นเพราะขาที่ยังเจ็บ จึงไม่อยากที่จะมีเรื่องกับใคร การที่ฮิโตกิทำแบบนี้ ทำให้หัวใจของซาระเต้นดังไม่เป็นจังหวะ จนต้องใช้มือทาบที่หน้าอกของตัวเองไว้
*******
“กลับมาแล้วค่ะ!”
ซาระพูดทักทายผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่หน้าทีวีเสร็จ เธอจึงรีบวิ่งขึ้นห้องนอนในทันทีด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ตรงโซฟามองตามลูกสาวของเธอที่วิ่งขึ้นห้อง พลางยิ้มออกมา ก่อนจะจิบน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะ
“หน้าแดงกลับมาอีกแล้ว...คงมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นสิน๊า”
ซาระที่ยืนอยู่ในห้องนอนสีหวานของเธอ เธอวางกระเป๋านักเรียนลงบนพื้นและเดินไปหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดที่มีรูปของ ‘คุณโทรุ’ พระเอกในการ์ตูนที่เธอหลงใหลอยู่ตรงหน้าปกขึ้นมาดู
“ชั้นควรทำยังไงคะ...คุณโทรุ...ทำไมชั้นถึงรู้สึกแปลกๆ....กับเค้า...ชั้นยังคงชอบคุณแท้ๆ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ