Sugar Lemon ♥ คุณชายกะล่อน มัดใจ ยัยจอมเพ้อ
10.0
เขียนโดย เมอิ
วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.12 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
8,695 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) [Sugar Lemon ♥ 1 : คุกกี้]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตุบๆๆ ...เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังวิ่งขึ้นบันไดด้วยความรีบและค่อยๆหยุดอยู่ตรงหน้าประตู
ก๊อกๆๆ
“ซาระ...หลับอยู่รึป่าวลูก?”
เสียงของหญิงสาวที่ตะโกนเรียกลูกสาวของเธอด้วยความสดใสเพื่อรอคำตอบจากลูกสาวของเธอที่วันๆเอาแต่อยู่ในห้องนอน หลังจากย้ายมาอยู่บ้านใหม่ได้อาทิตย์หนึ่ง และแน่นอนว่าลูกสาวของเธอ 'ซาระ' ก็คงยังไม่ชินกับการย้ายบ้านมากนัก ถึงจะเป็นเรื่องปกติของครอบครัวเธอ ที่ต้องย้ายตามที่ทำงานของผู้เป็นพ่ออยู่ตลอดก็เถอะ
“ค่าาา…แม่”
ซาระลูกสาวคนเดียวของตระกูลอาซายะ เธอไม่ชอบออกจากห้องนอนไปไหนซักเท่าไหร่ เพราะการที่ต้องย้ายบ้านอยู่บ่อยๆ ทำให้เธอไม่อยากสุงสิงกับใคร แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนที่เธอไม่ต้องย้ายบ้านบ่อยๆแบบนี้เธอก็คงดูสดใสมากกว่านี้ ขนาดที่ว่าถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆเธอก็คงดูเด่นกว่าใครๆ ไม่ใช่เพียงเพราะหน้าตาของเธอแต่เป็นเพราะนิสัยที่ดูร่าเริงอยู่ตลอด ทำให้มีแต่คนที่เข้าใกล้ต่างตกหลุมรักกันทั้งนั้น
ซาระเปิดประตูตอบรับผู้เป็นแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเพราะดันเผลอหลับไปตอนอ่านการ์ตูนสุดโปรดในยามว่างอย่างมาราธอน
“แม่มีอะไรรึป่าวคะ?”
ซาระถามแม่ด้วยความแปลกใจ เพราะใบหน้าของผู้เป็นแม่ดูร่าเริงผิดปกติอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นซักเท่าไหร่
“แม่เพิ่งไปสืบมา เกี่ยวกับคนข้างบ้านเราหน่ะลูก”
“เอ๊ะ?” ซาระเอียงคอเพราะสงสัยกว่าเดิม เธอคิดว่าแม่คงไปทำอะไรแปลกๆมาอีกแล้วหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ แม่ก็ไปสืบเรื่องคนข้างบ้านจนสุดท้ายก็เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่สุดท้ายแล้วก็สนิทกันไม่นานก็ต้องย้ายบ้าน แม่ของเธอเป็นแบบนี้มาตลอด ชอบไปสนิทกับคนข้างบ้าน ทั้งๆที่รู้ว่าก็ต้องย้ายบ้านจากกันอยู่ดี
“ก็เราย้ายมาที่นี่ได้อาทิตย์นึงแล้ว...แต่เรายังไม่รู้จักเพื่อนบ้านเลยนะลูก อีกอย่างลูกก็ยังหาโรงเรียนใหม่ไม่ได้ ”แม่พูดพลางใช้นิ้วชี้ชนกันเพราะรู้ว่าซาระไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครตั้งแต่ย้ายมา วันๆเอาแต่อ่านการ์ตูน
“แม่อยากจะพูดอะไรคะ หนูสับสนนะ” ซาระพูดทั้งอดกลั้นหัวเราะกับท่าทางของผู้เป็นแม่ที่ทำให้เธออดกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“งั้น..เข้าเรื่องเลยนะ ที่แม่ไปสืบมา ข้างบ้านเราคือตระกูลไอบาริ คุณไอบาริ เค้ามีลูกชายหนึ่งคนเห็นว่าหน้าตาดีด้วยนะ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 เป็นรุ่นพี่ลูกปีนึง ส่วนสามีเค้า เป็นเจ้าของธุรกิจอะไรซักอย่างที่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็เลยอยู่บ้านกันสองคนแม่ลูก แล้ววันนี้ก็เป็นวันเกิดของคุณนายไอบาริ แม่ก็เลย...”
“ก็เลยทำขนมไปฝากเค้าใช่มั้ยคะ”
เสียงลูกสาวพูดขัดขึ้นมาแบบรู้ทันผู้เป็นแม่ เพราะแม่ของซาระ อยากถือโอกาสนี้ที่จะได้รู้จักกับคนข้างบ้าน
“ลูกรู้ทันตลอดเลยนะ”
ซาระหลุดหัวเราะออกมา กับนิสัยของผู้เป็นแม่ที่ชอบทำความรู้จักกับคนอื่นมาตลอด ทั้งๆที่รู้ว่าก็คงสนิทได้ไม่นานเท่าไหร่
“แม่ว่าครั้งนี้เราน่าจะอยู่ที่นี่ถาวรนะลูก เพราะพ่อเค้าก็ได้งานที่มั่นคงแล้ว”
ซาระยังคงทำหน้ากังวลใจแต่เพื่อที่จะทำให้แม่ไม่คิดมากจึงยิ้มตอบอยู่ตลอดเพราะพ่อก็ไม่ได้อยู่บ้านบ่อยๆดังนั้น เธอจึงไม่อยากทำให้แม่ลำบากใจ
“งั้นลูกช่วยเอาคุกกี้นี้ไปให้บ้านคุณไอบาริทีนะจ๊ะ พอดีวันนี้แม่มีนัดกับเพื่อนหน่ะ ไปละนะจ๊ะ”
ผู้เป็นแม่พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วด้วยน่าตาที่สดใส ทิ้งให้ซาระทำหน้าสงสัยอยู่ที่ประตู
“เพื่อนหรอคะ?...แม่นี่สนิทกับใครง่ายจัง ดีจังเลยน๊า”
ซาระยิ้มและมองตามผู้เป็นแม่ที่เดินออกไป พูดจบ ซาระจึงเดินถือถุงคุกกี้ถุงใหญ่ที่ผูกริบบิ้นสีชมพู ตรงไปยังบ้านของคุณไอบาริที่ดูกว้างขวางและใหญ่โตกว่าบ้านหลังอื่นๆในละแวกนั้นตามที่แม่บอกอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะปกติแม่เป็นคนไปหาเองตลอด แต่วันนี้ดันติดธุระ ซะอย่างนั้น ทำให้ซาระต้องแบกความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนอื่นแทน
ก๊อกๆๆ
“ค่า...ใครคะ” เสียงตอบรับจากคนในบ้านที่ดังขึ้นพร้อมเปิดประตูด้วยความสงสัย เพราะปกติไม่ค่อยมีใครมาที่บ้านซักเท่าไหร่ นานๆจะมีคนมาหาซักครั้งเพราะลูกชายตัวแสบของเธอไม่ชอบอยู่บ้าน จึงทำให้เธอต้องไปนอนที่บริษัทอยู่บ่อยๆ
“สวัสดีค่ะ คือ...หนู...เอ่อ...ชื่อซาระค่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านข้างๆอาทิตย์ก่อน คุณแม่ไม่อยู่ เลยให้หนูเอาคุกกี้มาฝากเนื่องในวันเกิดของคุณน้าค่ะ”
ซาระพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย เพราะปกติเธอไม่ชอบสุงสิงหรือพูดคุยกับใครนอกจากแม่หรือเพื่อนที่โรงเรียนเก่าที่เธอเพิ่งย้ายจากมาได้ไม่นาน ส่วนพ่อก็ไปทำงานนานๆจะกลับมาที และด้วยหน้าตาที่ดูสวยสดใสของคุณไอบาริทำให้ซาระทำตัวไม่ถูก
“เอ๋ ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะ เข้ามาข้างในก่อนสิจ๊ะ”
คุณไอบาริชวนซาระเข้าไปข้างในด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ใบหน้าของคุณไอบาริยิ่งสวยเข้าไปอีกเมื่อเปื้อนรอยยิ้ม ว่าแล้วซาระก็เดินตามคุณไอบาริเข้ามาจนได้ ซาระยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ จนมาถึงห้องรับแขก คุณไอบาริจึงให้ซาระนั่งลงที่โซฟาและพูดขึ้นมาว่า
“จริงๆวันนี้ไม่ใช่วันเกิดของน้าหรอกจ่ะ เป็นวันเกิดของลูกชายน้าเอง น้าเลยอยากให้ซาระจังเป็นคนให้คุ๊กกี้นี้เองหน่ะจ่ะ อีกอย่าง...เผื่อลูกชายน้าจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง เพราะอยู่แต่บ้านมาเกือบเดือนแล้ว”
ซาระสงสัยว่าทำไมลูกชายของคุณไอบาริถึงอยู่บ้านมาตั้งเกือบเดือนทั้งๆที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 ซาระอดถามไม่ได้ จึงถามขึ้นมา
“แล้ว...ลูกชายคุณน้าเป็นอะไรหรอคะ?”
คุณไอบาริยังไม่ทันตอบก็มีเสียงเรียกของใครบางคนดังมาจากชั้น 2 ของบ้าน เสียงนั้นดังก้องลงมายังชั้นล่างทำให้ซาระต้องเงยหน้าตามเสียงไป
“แม่ครับ ผมรู้สึกปวดขา ยังไงช่วยยกข้าวขึ้นมาทีนะครับ”
ซาระสะดุ้งกับเสียงนั้นเล็กน้อยเพราะเธอไม่คุ้นกับผู้ชายเท่าไหร่และเสียงนั้นดูแหบแห้งเหมือนคนที่ไม่ค่อยได้ใช้เสียง แต่ก็ทำให้ใจเต้นเพราะยังคงมีความอ้อนอยู่ในเสียงนั้นอยู่ คงเป็นเพราะนิสัยของเจ้าของเสียงที่ดูเป็นคนขี้อ้อนไม่ใช่น้อย
“ซาระจังจ๊ะ...ถ้าไม่เป็นการรบกวน...ซาระจังช่วยยกข้าวไปให้ฮิโตกิ ลูกชายน้าทีนะจ๊ะ”
ซาระตอบกลับอย่างรวดเร็วเพราะความขี้เกรงใจบวกกับหน้าตาที่ยังดูสวยสะดุดตาของคุณน้าไอบาริจึงทำให้ซาระตอบปฏิเสธไม่ลง
“มะ ไม่ค่ะ ไม่รบกวนเลย ยังไงหนูก็คงต้องรู้จักเค้าอยู่ดี...ก็ดีเหมือนกันค่ะ หนูจะได้มีเพื่อน”
ซาระยิ้มตอบอย่างสดใสพลางคิดในใจถึงสีหน้าที่แฝงไปด้วยความเศร้าของคุณน้า ‘คุณน้าคงจะเหนื่อยน่าดู ให้เราช่วยดีกว่า’ ซาระเดินไปหยิบถาดข้าวในห้องครัวตามที่คุณน้าไอบาริบอกซึ่งมีคุกกี้วางอยู่ข้างๆจานข้าวขึ้นมาบนห้องของเจ้าของเสียงนั้น
“รบกวนหน่อยนะจ๊ะ” คุณไอบาริขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย
“ไม่หรอกค่ะ ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะ”
ซาระก็ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอีกเช่นเคยพลางคิดในใจ ‘เพราะยังไงก็ต้องสนิทกันก็ต้องรู้จักคนๆนั้นไว้สินะ’ ซาระหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเคาะประตูอยู่ครู่หนึ่ง ‘เอาล่ะ’
ก๊อกๆๆ
“เอาข้าวมาให้ค่ะ”
คนที่อยู่ในห้องไม่ทันได้ฟังเสียงนั้น เขาค่อยๆพยุงตัวด้วยไม้ค้ำและลุกขึ้นเพื่อเปิดประตู แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่แม่แต่เป็นเด็กสาวข้างบ้านที่เคยเห็นมาก่อน
“ เธอ!?”
ฮิโตกิตกใจและงงว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามาทำอะไรที่ห้องของเขาในเวลาแบบนี้
“ชั้นชื่อ อาซายะ ซาระค่ะ อยู่บ้านข้างๆค่ะ คุณแม่ของคุณให้เอาข้าวมาส่งแทน”
ฮิโตกิแปลกใจว่าทำไมแม่ให้เธอเอาข้าวมาให้แทน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรยังคงทำหน้านิ่งเหมือนเคย แต่กลับกันใบหน้านิ่งนั้นกลับทำให้ซาระตื่นเต้นขึ้นมา เพราะทั้งตาสีน้ำตาลอ่อน ขนตาที่ยาว จมูกโด่งเป็นสัน และปากที่ได้รูป ทำให้ซาระใจเต้นแรงจนพูดอะไรแทบไม่ออก
“คะ คือ...วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ...นะ นี่ค่ะ คุ๊กกี้”
ซาระวางถาดข้าวแล้วรีบยื่นถุงคุกกี้ให้ฮิโตกิอย่างรวดเร็วและขณะที่กำลังจะวิ่งกลับบ้านด้วยความเขินอายกับใบหน้านั้น ก็มีมืออุ่นๆคว้าแขนของเธอไว้
“นี่เธอ...เดี๋ยวสิ!”
ซาระหยุดชะงักแต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ฮิโตกิพูดต่อ
“อยากได้อะไรตอบแทนมั้ย”
ฮิโตกิพูดด้วยเสียงอ่อนหวานแกมเจ้าเล่ห์ตามประสาของคนที่คุ้นเคยกับผู้หญิง
ส่วนซาระที่หันหลังให้ฮิโตกิก็ตอบกลับด้วยเสียงที่ตะกุกตะกัก “มะ ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”
“ไม่เป็นไรได้ไง เธออุตส่าห์เอาคุกกี้มาให้ถึงที่ คงเป็นข้ออ้างที่จะเจอชั้นสินะ น่ารักจัง... อีกอย่าง เลิกพูด ค่ะ ซักที”
ซาระยังคงหันหลังให้ฮิโตกิ เพราะเธอไม่รู้จะคุยกับฮิโตกิด้วยสีหน้ายังไง ทำให้ฮิโตกิรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“หันหน้ามาสิ!”
ฮิโตกิดึงแขนของซาระแรงขึ้นจนร่างของซาระขยับเข้าไปใกล้ฮิโตกิ ซาระขยับไปไหนไม่ได้เนื่องจากแรงของผู้ชายร่างสูง ที่ถือข้อมือของเธอไว้ทั้งสองข้าง ใบหน้านิ่งของฮิโตริค่อยๆโน้มลงมาตรงหน้าซาระ จนแทบจะหายใจรดกันอยู่แล้ว ซาระถูกสะกดให้อยู่นิ่งด้วยใบหน้าของ ฮิโตกิไปครู่หนึ่ง จนปากเกือบจะสัมผัสกัน แต่ซาระกลับไหวตัวทัน
พลั่ก..โครม!!!
“โอ๊ย!!”
ฮิโตกิล้มลงไปที่พื้นอย่างแรงจนต้องตะโกนถามด้วยความโมโห
“ทำอะไรของเธอเนี่ย...ไม่เห็นรึไง ว่าขาชั้นเจ็บอยู่??”
“แล้วนายหล่ะ จะทำอะไรชั้น?” ซาระถามกลับด้วยความตกใจและโมโหเช่นกัน
“เธอบื้อรึเปล่า...ก็จะจูบไง!!”
ฮิโตกิมองซาระด้วยใบหน้าที่แสดงอาการเจ็บปวดแต่ก็ยังคงความนิ่งเฉยเพราะการแสดงสีหน้าเจ็บปวดต่อหน้า ผู้หญิงคงไม่ใช่นิสัยของฮิโตกิ อีกอย่างฮิโตกิโมโหเพราะซาระถามอะไรที่ปกติผู้หญิงคนอื่นไม่ถามกัน มีแต่อ้อนวอนให้จูบซะด้วยซ้ำ
“ชั้นจะไม่จูบกันคนอย่างนายเด็ดขาด...คนอย่างนายหน่ะมีดีแค่หน้าตา ชั้นไม่สนหรอก จำไว้ด้วย!!”
เพราะทั้งโดนดูถูกว่าหาข้ออ้างมาหาเขา ทั้งโดนด่าว่า บื้อ และใบหน้าที่นิ่งเฉยของฮิโตกิที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ซาระรู้สึกโมโหมาก และวิ่งออกจากบ้านไปทันที
“นี่เธอ!!!...” ฮิโตกิตะโกนเรียกซาระแต่ก็พูดอะไรต่อมากไม่ได้เพราะดันล้มไปทับขาข้างที่เจ็บอยู่พอดีก่อนจะเอามือแตะที่ขา “ให้ตายสิ...เจ็บชะมัดเลย!!”
... ฝั่งซาระรีบวิ่งขึ้นห้องด้วยความโมโห เธอเดินไปหยิบการ์ตูนเล่มโปรดขึ้นมาและเปิดหน้าของโทรุ (ผู้ชายในฝันของซาระ ที่อยู่ในหนังสือการ์ตูน)
“ขอโทษนะคะคุณโทรุ...แอบเผลอใจไปกับหน้าตาของหมอนั่นหน่อยเดียวเอง...ไม่โกรธกันนะคะ?”
ซาระกอดหนังสือการ์ตูนที่มีใบหน้าของพระเอกในการ์ตูนอย่างโทรุที่เธอคลั่งไคล้ไว้ทแนบอกและพยายามที่จะไม่นึกถึงใบหน้าของฮิโตกิตอนที่กำลังโน้มตัวเข้ามาใกล้เธออีก
“ผู้ชายแบบคุณโทรุดีกว่าตั้งเยอะ ทั้งสุภาพ ทั้งอ่อนโยน...ใครจะไปสนผู้ชายที่จูบกับใครก็ได้แบบนั้นกัน!!”
...ทางด้านฮิโตกิที่ยังคงนั่งที่พื้นเพราะความเจ็บอยู่ ก็พึมพำออกมาว่า
“มีดีแค่หน้าตางั้นหรอ!?...คอยดูละกัน!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ