Higher Classes <ขโมยหัวใจนายรุ่นพี่>
9.6
เขียนโดย นามเอ๋อๆนิยายอึนๆ
วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.07 น.
49 chapter
24 วิจารณ์
48.70K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
46) ห่างไกลกัน100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(HANBYEOL--PART)
ไม่รู้ว่าผมขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เมื่อเช้าผมมีความทรงจำสุดท้ายดับเมเบลแห่งนี้นานแค่ไหน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกห้องแห่งนี้บ้าง ผมตัดใจลุดขึ้นยืนจากเก้าอี้นอนตัวใหญ่ในห้อง ก่อนจะเปิดแระตูออกมาข้างนอกก่อนจะพบว่าตอนนี้ในย้านนั้นเงียบสงบราวกับพวกแม่บ้านกลับกันไปหมดแล้ว ผมนกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนพบว่านี้ ก็สามทุ่มตรงพอดี พวกแม่บ้านคงกับตึดตัวเองกันหมด ผมเดินลงมาข้างล่าวก่อนพบว่าข้างล่างเงียบจริงๆเงียบมากๆ มันเงียบจนผมใจหาย ผมคิดกับตัวเองว่าถ้าลงมาต้องเตอเมเบลยังอยู่สิ แต่ไม่เลยเธอไม่อยู่แบ้ว ใจผมกระตุกจนแวดหนึบไปหมด เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีเด็กแสบคนนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้เธอคงไปแล้วสินะ.......
คนอื่นอยากจะคิดว่าผมเป็นคนใจร้ายไม่ไปส่งเมเบลได้ไง ผมกำลังพยายามอยู่นะ.....พยายามห้ามใจตัวเอง ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่นก่อนจะหลับตาลงคิดอะไร แต่ในกัวกับมีแต่เรื่องเมเบลเต็มไปหมด
"พี่บยอล...." เสียงโฮวอนดังขึ้นขณะเดินลงมานั่งลงข้างๆพี่ชายด้วยใบหน้าแมวซึม
"ไม่ไปส่งอลิซหรอเรา.." ฮันบยอลลืมตาขึ้นมานั่งด้วยท่าทีสุขุมขึ้น ก่อยเอ่ยถามน้องชาย ด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ใบหน้าแสดงความอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
"ตอนแรกผมไม่อยากไปผมกลัวว...แต่ตอนนี้มันอยากแล้วอ่าพี่....อือออ" โฮวอนว่าเบะปากเป็นเด็กๆ
"......" ฮันบยอลดึงน้องชายมากอดปลอบ ก่อนตัวเองจะโคลงหัวกับท่าทางน้องชาย
ฮันบยอลเม้มปากแน่นขบคิดบาง
อย่างข้างในจิตใจกำลังทะเลาะกันอย่างย้าคลั่ง ผมจะไปดีมั้ยหรือไม่ไป แต่ผมน่าจะไปนะโอกาสสุดท้าย แต่ว่าความพยายามที่ทำมาทั้งวันมันจะัพังลงนะ แต่นั้นคนรักนายนะฮันบยอล.....นายต้องเลือก....
"นี่กี่โมงละ..." ฮันบยอลเอ่ยถามน้ำชายด้วยใบหน้าจริงจังแต่น้ำเสียงร้อนรน ทั้งๆที่ตัวเองพึ่งดูนาฬิกาเมื่อกี้นี่เอง..
"3ทุ่ม15 แล้วพี่ ทำไงดี..."โฮวอนยังคงพูดแแกไปด้วยหน้างอๆ
"เครื่องออกกี่โมง.."
"3ทุ่ม40....พี่ถามทำไมเนี่ย" โฮวอนว่าอย่างเริ่มจะหงุดหงิดแล้วล่ะก็พี่ชายถามอยู่นั้นล่ะ ไม่ยอมไปไม่ต้องพูดเลยเถอะ
"ไปใส่โค้ท ซะ เร็วๆ เดี๋ยวนี้เลย!" ฮันบยอลลุกขึ้นเร็วก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นสองพร้อมตะโกนบอกน้องชาย อย่างรีบร้อน
ผมเลือกแล้ว ที่จะไป.....
ผมวิ่งขึ้นห้องมาอย่างรีบร้อน อย่างที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ผมรนรานอะไรทุกอย่างขวางหูขวางตาไปซะหมด ผมเปิดตู้เสื้อผ้าอย่างรีบเร่ง หยิบโคท ได้สเว็ตเตอร์เบสบอลมาดีนะมันยังโอเคร... ทุกอย่างตอนนี้คือการแข่งกับเวลา ผมก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องรีบขนาดนี้ รู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยครับ.....ผมวิ่งออกจากห้องแต่งตัว
อย่างดูดีแต่ดันไปสะดุดเข้ากับถังขยะที่ใสเศษกระดาษเข้า โอ้โห.....หน้าเกือบทิ้มเลยครับ
นี้มันไม่ใช่ผม.....จริงๆลกสไตล์นี้
ผมคว้ากุญแจรถ (Rolls-Royce Hyperion Pininfarina) คันนี้แพงชิบหายเลยครับ พ่อซื้อ ไม่เคยเเตะประเด็นคือแม่งมีออกมาคันเดียวด้วย ถ้ามันไม่เร่งด่วนจริงผมจะไม่ขับ แม่งเเรงเวอร์ครับ แต่วันนีผมคงต้องพึ่งมันละ ผมวิ่งลุ่นๆลงจากบ้านอย่างรวดเร็ว อีกแล้วครับ......ผมเกือบหน้าทิ่มตกกระได ถ้าไม่ใช่เมเบล ผมจะไม่ทำแบบนี้ ภาพพจน์ดีๆที่ผมมีมามันมาหายตอนหน้าทิ่มนี่ล่ะครับ......
"เห้ยๆ พี่ใจเย็นๆ " โฮวอนมันยืนขึ้นเมื่อเห็นผมวิ่งหน้าตั้งลงมา
"ไปเร็ว ใส่รองเท้า" ฮันบยอลเอ่ยสั่งก่อนตัวเองจะสวมรองเท้าผ้าใบราคาเเพงคู่ใจ ตามมาด้วยโฮวอน
สองพี่น้องวิ่งออกมาที่โรงรถขนาดใหญ่ ฮันบยอลตรงไปเปิดม่านที่มีรถยนต์ราคาอพงหูฉี่ ปิดอยู่ เมื่อเปิดออก ฮันบยอลจัดการกดรีโมทคอนโทร ไฟรถกระพริบรับสัญญาณ โฮวอนตาโตตกใจพอรู้ว่ารถที่พี่ตนเลือกเป็นไอ้ (โรลส์-รอยซ์ ไฮเปอเรียน พินินฟารินา) คันนี้ ผมจำได้ว่านั่งแทบจะนับครั้งได้ ยิ่งช่วงนี้พี่บยอลไม่จับมันเลย (คือไปไหนมาไหนกับแฟนไง) โอ้โห แม่งเเรงหัวฟูอ่ะ คือมันหนักมากครับ
"คันนี้เลยดิ..."โฮวอนถามหน้าอึ้งๆชี้ไปยังรถสีฟ้ามุกสวยๆแลดูแพงมากกกกก
"อืม....เร็วดิเดี๋ยวไม่ทัน"ฮันบยอลตอบน้องชายส่งๆก่อนเปิดประตูรถแล้วโดดขึ้นทันที
"งั้น จัดไปเลยคร้าบบบ " โฮวอนว่าก่อนปิดประตูรคและรัดเข็มขัดซีทเบล์ท เรียบร้อย อย่าว่าแต่รถแรงเลย พี่ผมแม่งก็ถ้าจะแรง เออแต่ตอนแรกว่าจะไม่ไป หายหน้าหายตาปล่อยให้แฟนนอยด์ทั้งวัน แต่ผมแอบเห็นนะเว้ยว่าตอนลงมากินข้าวเช้าเมเบลนางปากเจ่อๆอ่ะ รู้น้าๆ กิ้วๆ
"จับแน่น ไอน้องชาย"
วื้นนนนนนนนนนนน...บรื้นนนนนนนน
ฮันบยอลเร่งเครื่องก่อนเหยีบคันเร่งจน รถยนต์คันแพงพุ่งทยานออกจากบ้านโดยไวอย่างกะลอยหายออกไป รถยนต์คันแพงล่อนเเล่นไปทางท้องถนน ด้วยความเร็ว 200อัพ ไม่มีน้อยกว่านี้ ช่องทางไหนว่างตนจะแทรกขึ้นไปทันที(แบบสุภาพ)
เอาตรงๆผมก็พอมีฝีมือในการ
ขับรถนะ ....ไม่ได้โม้แค่ดูเอา
"ฮยอง! มิดตีนเลยยยยย!!! "แม้ลมจะตีหน้าจนดุนหลังให้แนบแน่นลงไปจมเบาะหนัง แต่ปากก็ยังส่งเสียงเย้วๆ
ตลอด
โอ้ย!!! กูเกลียดไฟแดง!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทางอีกด้านนึงทั้งสามคนที่อยู่รอเวลาเข้าเกท อีก15นาที เหมือนยืนรออะไรบางอย่าง ด้วยใจมุ่งมั่น รอตั้งแต่มาถึง ยันจะเข้าเกท ก็ยังไม่วี่เเววคนที่รอ เมเบล,อลิซยืนรอกันอย่างร้อนรน จากที่เชื่อว่าพวกเขาจะต้องมาแน่ๆ แต่เหมือนตอนนี้ความเชื่อทุกอย่างจะเป็นศูนย์ ทั้งสองมองหน้ากันด้วยใบหน้าเศร้า ไม่มีใครอยากพูดอะไรให้ตัวเองต้องร้องไห้ .....
"ถ้าเขาไม่มา ก็ไม่ต้องรอแล้วเตอร์ไม่ได้ว่านะ " คอปเตอร์เอ่ยขึ้นมาตามแบบที่พูดจริงๆ
"......." ทั้งสองหันมามองด้วยใบหน้าไม่สู้ดี ก่อนจะได้ยินเสียงประกาศจากพนักงานขึ้น
''ท่านผู้โดยสารโปรดทราบผู้ที่นั่งไฟล์ทบินจาก เกาหลี ไปยัง กรุงเทพขอให้ทุกท่านเตรียมตัวทยอยเข้าเกทได้เเล้วค่ะ"
"ไปเถอะ..."คอปเตอร์
ทั้งสองสาวมองไปบริเวรข้างหน้าอีกครั้งก่อนจะไม่พบร่างของคนที่คุ้นเคยเลย ทั้งคู่มองไปด้วยสายตาว่างเปบล่าก่อนตัดใจเดินหันหลังมา......
"โอ้..ซอรี่ ครับ โทษนะครับ ขอทางด้วยครับ....เดี๋ยวก่อน!!! อลิซซซซซ.." เสียงตะโกนแหกปากลั่นสนามบิน จนทุกคนหันมองเป็นตาเดียวรวมถึงสามคนที่กำลังหันหลังเดินเข้าเกทเช่นกัน อลิซฉีกยิ้มหน้าบานด้วยความตื้นตันดีใจอย่างสุดซึ้ง ทั้งสองวิ่งเข้ากอดกันเหมือนเป็นอ้อมกอดสุดท้าย ต่างกันกับเมเบลที่หน้าเจื่อนลงเมื่อไม่เห็นคนรักตัวเองเดินมา เมเบลยืนมองโฮวอนกับอลิซกอดกันด้วยความดีใจแทนเพื่อน
"ฮึก.. นึกว่าจะไม่มาแล้ว" อลิซปล่อยโฮซุกหน้าลงกับบ่าของโฮวอน
"ขอโทษน้าแต่ตอนนี้มาแล้วไงไม่ร้องนะ"โฮวอนพูดปลอบก่อนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าอีกคนจะจากหายไปอย่างไม่กลับมาอีก โฮวอนจูบข้างขมับอลิซอย่างปลอบประโลมด้วยความอบอุ่น
"ฮื่ออออ.....ก็นายบอกจะไม่มา แต่ตอนแรกชั้นเชื่อว่านายจะมานะแต่พอตอนนี้ไม่เชื่อแล้ว....ฮึก...แต่พออีกทีนายก็มา"
อลิซพูดปนเสียงสะอื้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนคนฟังรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ก็พอจับใจความได้ แต่ประโยคมันชั่งวกไปวนมาเหมือน
เด็กงอแงอย่างไงอย่างงั้น
"ไม่ร้องเเล้วสิ ตาบวมฉึ่งเลย...เดี๋ยวไม่สวยไม่รู้นะ" โฮวอนพูดหยอกล้อแม้ในใจจะเต็บไปหมดที่เห็นน้ำตาอีกคนและอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าคนตรงหน้าก็จะต้องไปแล้ว โฮวอนใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้อีกคนแผ่วเบาก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นให้ อีกคน
"กูฝากมึงดูแลอลิซด้วยนะเว้ย! แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น!" โฮวอนหันไปสั่งเสียงเข้มกับคอปเตอร์ ที่ยืนหน้าบูดอยู่
"เออ!!! เดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดี" คอปเตอร์รับคำแบบเบ้ปากแบ้วมองบน
จังหวะที่คู่ของเพื่อนกำลังกอดกันอย่างอบอุ่นเมเบลมองไปรอบๆหวังจะเจอคนที่ตัวเองรอ พลันสายตาก็ไปสะดุดกลับร่างสูงใบหน้าคมตามแบบไทย-เกาหลี เดินผ่านพ้นออกมาจากผู้คนด้วยใบหน้าเรียบเฉย เมเบลไม่ได้แต่ฝาดนี่คือพี่บยอลแน่ๆ เมเบลดีใจจนจะร้องไห้ แม้จะสั่งให้ขาไม่วิ่งเข้าไปหา แต่หัวใจกลับสั่งการได้เหนือกว่า ขาบางวิ่งตรงเข้าไปทันทีด้วยใบหน้าตื้นตันปนเศร้า เมเบลมาหยุดยืนข้างหน้าฮันบยอลที่ยืนทำหน้าเรียบเฉยแม้ในสายตาคมนั้นจะมีความเจ็บปวดเจือปนอยูเมเบล
เห็น ตัวเองตั้งใจจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เลยกลายเป็นสะอื้นเเทน
"ฮึก..." เมเบลสะอื้นออกมาพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วงที่ขอบตา
ฮันบยอลพยายามเก็บความรู้สึกให้ได้มากที่สุด ไม่แสดงด้านที่อ่อนแอให้เมเบลเห็นแต่ตนคงทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควรสินะ ที่ทำให้น้องเจ้าหญิงของเค้าร้องไห้ซะแล้ว......ฮันบยอลใช้นิ้วค่อยๆเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสให้อย่างอ่อนโยน จนเมเบลหยุดน้ำตาไม่ได้เลย
"ไม่อยากไป..."เมเบลว่าเสียงสะอื้นพร้อมส่ายหน้าไปมา ตนพอจะรู้แล้วว่าทำไมฮันบยอลถึงเมินถึงไม่อยากคุยด้วย เพราะฮันบยอลรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่แรก และไม่อยากให้ความหวังตัวเองโดยทำว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างฉายชัดในแววตานั่น
"ห้ามงอแงนะครับ.....พี่รอเบลได้เสมอนะ"ฮันบยอลว่าเสียงทุ้มนุ่มแบบที่เมเบลไม่ได้ยินมานาน
"ฮึก...ไม่อยากไปอ่ะ" เมเบลยังคงงอแง น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมา ทั้งดีใจที่ฮันบยอลพูดดีด้วยอ่อนโยนใส่และต้องตากคนที่รักไป
"เมเบล มาหาพี่ได้นิ ถ้าไม่งั้นพี่จะไปหาเราเองเนาะ คนดีของบยอล..ไม่ร้องแล้วนะครับ"
ฮันบยอลว่ารั้งตัวอีดคนมากอดพร้อมลูบเส้นผมยาวสวยอีกคนอย่างสุดรัก พูดปลอบประโลมอีกคนด้วยน้ำเสียงชวนฟังแต่กลับดูเศร้าเหลือเกินที่เมเบลได้ฟัง เมเบลยกมือขึ้นกอดอีกคนอย่างแนบเเน่น เช่นดัน
"รอเค้าก่อนนะ....เค้าจะกลับมา ฮึก....เค้ารักพี่บยอลมากนะ"เมเบลว่าด้วยน้ำเสียงตั้งใจแม้จะสั่นเครืออยู่บ้าง
ฮันบยอลผละอีกคนออกจากอ้อมกอด ก่อนจะสบตากลมตรงหน้าเรื่องราวตั้งแต่อรกยังตอนนี้มันมีมากมายฉายชัดในแววตาของกันและกัน ฮันบยอลยิ้มออกมาจากใจเป็นยิ้มที่กว้างที่สุดตั้งแต่เมเบลเคยเห็นมา ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาเมเบลยิ้มทั้งน้ำตา
"โชคดีนะเจ้าหญิงของพี่เจ้าชาย.." ฮันบยอลว่าพร้อมว่ามือแปะลงบนหัวอีกคน
"ค่ะ....พี่เจ้าชายของเค้า" เมเบลกล่าวออกมาอย่างกล้ำมกลืน ก่อนจะหันหลังเดินจากไป พร้อมกับอีกสองคน
สองพี่น้องมองไปจนทั้งหมดเดินเข้าเกทไป คิดถึง เสียใจ เป็นห่วง ความรู้สึกทุกอย่างประดังประเดเข้ามาจนหมด จะให้มาร้องไห้ก็ไม่ได้ ทำได้เพียงเก็บไว้ข้างใน เท่านั้น... ทั้งคู่ยืนมองจนเครื่องทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า
ไปแล้ว.....พวกเขาไปแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
นี้ก็ผ่านมา3เดือนแล้ว ที่ทุกคนอยู่ห่างจากกันคนละประเทศ ระยะแรกๆก็โทรคุยกันตลอดทุกวันเลยก็ว่าได้ วีดีโอคอลกันก็ทุกวัน จนมาช่วงหลังเหลือเพียงอาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น ฝ่ายตระกูลปาร์คก็คิดว่าฝั่งนู้นคงยุ่งเรื่องที่นั่น ผ่านมานานแล้วแต่ความรู้สึกที่มีให้กันยังคงเหมือนเดิมอาจมากขึ้นด้วนซ้ำ แต่ความคิดถึงมีมากขึ้นตลอด ฮันบยอลก็คิดมากที่อีกฝ่ายๆหายๆไปแต่ก็ไม่อยากเซ้าซีเพราะนั้นก็ไม่ใช่นิสัยตน แต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกตอนนี้ก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์ได้ยินข้อความทีก็ดีใจแม้บางครั้งจะไม่ใช่ก็เถอะ
"เหงา..ใช่มั้ยคะลูก" คุณนายปาร์คถามลูกชายคนเล็กที่นั่งหน้านอยด์อยู่ที่เคาท์เตอร์ครัว
"เหงาสิฮะแม่ ช่วงนี้คอลกันน้อยมากเลย" ได้ทีโฮวอนฟ้องใหญ่
"อลิซคงยุ่งๆมั้งลูกคิดมาก....แต่ ถ้าไม่งั้นโฮวอนก็ส่งข้อความไปตุนๆไว้ในกล่องแชทเลยสิลูก" คุณนายปาร์คเสนอความเห็น
"จะไม่รบกวนหรอฮะ.."
"ไม่หรอกลูก..แฟนส่งมานะ"
"ผมจะลองคิดดูนะฮะ งั้น....ผมขอตัวก่อนดีกว่า"โฮวอนกอดคุณแม่ไปทีก่อนขอตัวขึ้นห้อง
ความห่างไกลทำให้เขาคิดถึงอลิซมากเหลือเกิน......
เสียงลมพัด เสียงน้ำตกในสวนหลังบ้านมันทำใหเฮันบยอลผ่อนคลายได้บ้าง แต่ถึงกระนั้นฮันบยอลก็ยังบีทแดงที่เมเบลซื้อให้มาคาดฟังเพลงที่ทั้งเค้าและเมเบลชอบฟังตลอดเขาทนอยู่กับโรคความคิดถึงมาตลอด ยิ่งเหงามากแค่ไหนยิ่งรู้ว่ารักอีกคนมากแค่ไหนความอ้างว้างทุกอย่างมันตอกย้ำเขาตลอดว่าเขารักเมเบลมากแค่ไหน เขาอยู่อย่างมีรอยยิ้มบ้างเพราะความรักของเราทั้งสองยังมีให้กัน เขาไม่อยากตกอยู่ในสถานการ์ณแบบนั้นอีก เขาไม่อยากให้คนอื่นมาเดือดร้อนกับเขา แม้ช่วงหลังจะคุยกันน้อยลงบ้างแต่เขาก็จะเข้าใจอีกฝ่ายว่าคงมีปัฯหาอะไรที่ต้องแก้ไข
"หืม..แดบักแม่แกหายเงียบเลยนะ"ฮันบยอลอุ้มเจ้าลูกแมวที่เขาเลี้ยงมาเองกับมือในตอนเด็ก เมเบลรักและหลงเจ้าแมวอ้วนนี้เหลือเกิน จนบางครั้งเขาคุยกับเจ้าแดบักเป็นเพื่อนเเทนเลย
"คิดถึงแม่แกเนาะแกก็คิดถึงใช่มั้ย"ฮันบยอลว่าเขี่ยจมูกแมวเล่น
"....."แดบักนินแน่นิ่งไม่หือไม่อือบนโต๊ะ มีดิ้นบ้างที่เจ้านายกวนจนเกินไป
"หึ! ตลกดีเนาะ ความรักนี่บทพิสูจน์เยอะดีนะว่ามั้ย"
"......."
"เฮ้อออ...ไปคืนนี้นอนด้วยกันนะไออ้วน" ฮันบยอลถอนหายใจออกมาก่อนจะอุ้มแมวสำลีอ้วนขึ้นก่อนเข้าบ้านไป หมดไปอีกวันแล้วสินะ
ทนอยู่มาได้ยังไงกัน....ที่ไม่มีพวกเธอ
@@@@@@@@@~~~~@@@@@@@
TALK:: อีก1ตอนจบ
แย้วน้าทุกคนนนน!!!มาลุ้นตอนจบกันมั้ย หรือบางคนรู้อยู่แล้ว ง่าาาาา จะจบกันเเล้วเนาะกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ไรท์เปิดนิยายใหม่เรื่อง....
JUST LOVE CHILDREN ไปอ่านกันด้วยน้ารู้เปล่า แนวใสๆ กุ๊งกิ๊งๆ มุ้งมิ้งๆ
งุ้งงิ้งๆ ฝากด้วยนะ อยาหให้ไปลองอ่านกัน แต่ยังไงก็เม้นด่าว่าติชมได้นะ5555555
ไม่รู้ว่าผมขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เมื่อเช้าผมมีความทรงจำสุดท้ายดับเมเบลแห่งนี้นานแค่ไหน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกห้องแห่งนี้บ้าง ผมตัดใจลุดขึ้นยืนจากเก้าอี้นอนตัวใหญ่ในห้อง ก่อนจะเปิดแระตูออกมาข้างนอกก่อนจะพบว่าตอนนี้ในย้านนั้นเงียบสงบราวกับพวกแม่บ้านกลับกันไปหมดแล้ว ผมนกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนพบว่านี้ ก็สามทุ่มตรงพอดี พวกแม่บ้านคงกับตึดตัวเองกันหมด ผมเดินลงมาข้างล่าวก่อนพบว่าข้างล่างเงียบจริงๆเงียบมากๆ มันเงียบจนผมใจหาย ผมคิดกับตัวเองว่าถ้าลงมาต้องเตอเมเบลยังอยู่สิ แต่ไม่เลยเธอไม่อยู่แบ้ว ใจผมกระตุกจนแวดหนึบไปหมด เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีเด็กแสบคนนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้เธอคงไปแล้วสินะ.......
คนอื่นอยากจะคิดว่าผมเป็นคนใจร้ายไม่ไปส่งเมเบลได้ไง ผมกำลังพยายามอยู่นะ.....พยายามห้ามใจตัวเอง ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่นก่อนจะหลับตาลงคิดอะไร แต่ในกัวกับมีแต่เรื่องเมเบลเต็มไปหมด
"พี่บยอล...." เสียงโฮวอนดังขึ้นขณะเดินลงมานั่งลงข้างๆพี่ชายด้วยใบหน้าแมวซึม
"ไม่ไปส่งอลิซหรอเรา.." ฮันบยอลลืมตาขึ้นมานั่งด้วยท่าทีสุขุมขึ้น ก่อยเอ่ยถามน้องชาย ด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ใบหน้าแสดงความอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
"ตอนแรกผมไม่อยากไปผมกลัวว...แต่ตอนนี้มันอยากแล้วอ่าพี่....อือออ" โฮวอนว่าเบะปากเป็นเด็กๆ
"......" ฮันบยอลดึงน้องชายมากอดปลอบ ก่อนตัวเองจะโคลงหัวกับท่าทางน้องชาย
ฮันบยอลเม้มปากแน่นขบคิดบาง
อย่างข้างในจิตใจกำลังทะเลาะกันอย่างย้าคลั่ง ผมจะไปดีมั้ยหรือไม่ไป แต่ผมน่าจะไปนะโอกาสสุดท้าย แต่ว่าความพยายามที่ทำมาทั้งวันมันจะัพังลงนะ แต่นั้นคนรักนายนะฮันบยอล.....นายต้องเลือก....
"นี่กี่โมงละ..." ฮันบยอลเอ่ยถามน้ำชายด้วยใบหน้าจริงจังแต่น้ำเสียงร้อนรน ทั้งๆที่ตัวเองพึ่งดูนาฬิกาเมื่อกี้นี่เอง..
"3ทุ่ม15 แล้วพี่ ทำไงดี..."โฮวอนยังคงพูดแแกไปด้วยหน้างอๆ
"เครื่องออกกี่โมง.."
"3ทุ่ม40....พี่ถามทำไมเนี่ย" โฮวอนว่าอย่างเริ่มจะหงุดหงิดแล้วล่ะก็พี่ชายถามอยู่นั้นล่ะ ไม่ยอมไปไม่ต้องพูดเลยเถอะ
"ไปใส่โค้ท ซะ เร็วๆ เดี๋ยวนี้เลย!" ฮันบยอลลุกขึ้นเร็วก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นสองพร้อมตะโกนบอกน้องชาย อย่างรีบร้อน
ผมเลือกแล้ว ที่จะไป.....
ผมวิ่งขึ้นห้องมาอย่างรีบร้อน อย่างที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ผมรนรานอะไรทุกอย่างขวางหูขวางตาไปซะหมด ผมเปิดตู้เสื้อผ้าอย่างรีบเร่ง หยิบโคท ได้สเว็ตเตอร์เบสบอลมาดีนะมันยังโอเคร... ทุกอย่างตอนนี้คือการแข่งกับเวลา ผมก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องรีบขนาดนี้ รู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยครับ.....ผมวิ่งออกจากห้องแต่งตัว
อย่างดูดีแต่ดันไปสะดุดเข้ากับถังขยะที่ใสเศษกระดาษเข้า โอ้โห.....หน้าเกือบทิ้มเลยครับ
นี้มันไม่ใช่ผม.....จริงๆลกสไตล์นี้
ผมคว้ากุญแจรถ (Rolls-Royce Hyperion Pininfarina) คันนี้แพงชิบหายเลยครับ พ่อซื้อ ไม่เคยเเตะประเด็นคือแม่งมีออกมาคันเดียวด้วย ถ้ามันไม่เร่งด่วนจริงผมจะไม่ขับ แม่งเเรงเวอร์ครับ แต่วันนีผมคงต้องพึ่งมันละ ผมวิ่งลุ่นๆลงจากบ้านอย่างรวดเร็ว อีกแล้วครับ......ผมเกือบหน้าทิ่มตกกระได ถ้าไม่ใช่เมเบล ผมจะไม่ทำแบบนี้ ภาพพจน์ดีๆที่ผมมีมามันมาหายตอนหน้าทิ่มนี่ล่ะครับ......
"เห้ยๆ พี่ใจเย็นๆ " โฮวอนมันยืนขึ้นเมื่อเห็นผมวิ่งหน้าตั้งลงมา
"ไปเร็ว ใส่รองเท้า" ฮันบยอลเอ่ยสั่งก่อนตัวเองจะสวมรองเท้าผ้าใบราคาเเพงคู่ใจ ตามมาด้วยโฮวอน
สองพี่น้องวิ่งออกมาที่โรงรถขนาดใหญ่ ฮันบยอลตรงไปเปิดม่านที่มีรถยนต์ราคาอพงหูฉี่ ปิดอยู่ เมื่อเปิดออก ฮันบยอลจัดการกดรีโมทคอนโทร ไฟรถกระพริบรับสัญญาณ โฮวอนตาโตตกใจพอรู้ว่ารถที่พี่ตนเลือกเป็นไอ้ (โรลส์-รอยซ์ ไฮเปอเรียน พินินฟารินา) คันนี้ ผมจำได้ว่านั่งแทบจะนับครั้งได้ ยิ่งช่วงนี้พี่บยอลไม่จับมันเลย (คือไปไหนมาไหนกับแฟนไง) โอ้โห แม่งเเรงหัวฟูอ่ะ คือมันหนักมากครับ
"คันนี้เลยดิ..."โฮวอนถามหน้าอึ้งๆชี้ไปยังรถสีฟ้ามุกสวยๆแลดูแพงมากกกกก
"อืม....เร็วดิเดี๋ยวไม่ทัน"ฮันบยอลตอบน้องชายส่งๆก่อนเปิดประตูรถแล้วโดดขึ้นทันที
"งั้น จัดไปเลยคร้าบบบ " โฮวอนว่าก่อนปิดประตูรคและรัดเข็มขัดซีทเบล์ท เรียบร้อย อย่าว่าแต่รถแรงเลย พี่ผมแม่งก็ถ้าจะแรง เออแต่ตอนแรกว่าจะไม่ไป หายหน้าหายตาปล่อยให้แฟนนอยด์ทั้งวัน แต่ผมแอบเห็นนะเว้ยว่าตอนลงมากินข้าวเช้าเมเบลนางปากเจ่อๆอ่ะ รู้น้าๆ กิ้วๆ
"จับแน่น ไอน้องชาย"
วื้นนนนนนนนนนนน...บรื้นนนนนนนน
ฮันบยอลเร่งเครื่องก่อนเหยีบคันเร่งจน รถยนต์คันแพงพุ่งทยานออกจากบ้านโดยไวอย่างกะลอยหายออกไป รถยนต์คันแพงล่อนเเล่นไปทางท้องถนน ด้วยความเร็ว 200อัพ ไม่มีน้อยกว่านี้ ช่องทางไหนว่างตนจะแทรกขึ้นไปทันที(แบบสุภาพ)
เอาตรงๆผมก็พอมีฝีมือในการ
ขับรถนะ ....ไม่ได้โม้แค่ดูเอา
"ฮยอง! มิดตีนเลยยยยย!!! "แม้ลมจะตีหน้าจนดุนหลังให้แนบแน่นลงไปจมเบาะหนัง แต่ปากก็ยังส่งเสียงเย้วๆ
ตลอด
โอ้ย!!! กูเกลียดไฟแดง!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทางอีกด้านนึงทั้งสามคนที่อยู่รอเวลาเข้าเกท อีก15นาที เหมือนยืนรออะไรบางอย่าง ด้วยใจมุ่งมั่น รอตั้งแต่มาถึง ยันจะเข้าเกท ก็ยังไม่วี่เเววคนที่รอ เมเบล,อลิซยืนรอกันอย่างร้อนรน จากที่เชื่อว่าพวกเขาจะต้องมาแน่ๆ แต่เหมือนตอนนี้ความเชื่อทุกอย่างจะเป็นศูนย์ ทั้งสองมองหน้ากันด้วยใบหน้าเศร้า ไม่มีใครอยากพูดอะไรให้ตัวเองต้องร้องไห้ .....
"ถ้าเขาไม่มา ก็ไม่ต้องรอแล้วเตอร์ไม่ได้ว่านะ " คอปเตอร์เอ่ยขึ้นมาตามแบบที่พูดจริงๆ
"......." ทั้งสองหันมามองด้วยใบหน้าไม่สู้ดี ก่อนจะได้ยินเสียงประกาศจากพนักงานขึ้น
''ท่านผู้โดยสารโปรดทราบผู้ที่นั่งไฟล์ทบินจาก เกาหลี ไปยัง กรุงเทพขอให้ทุกท่านเตรียมตัวทยอยเข้าเกทได้เเล้วค่ะ"
"ไปเถอะ..."คอปเตอร์
ทั้งสองสาวมองไปบริเวรข้างหน้าอีกครั้งก่อนจะไม่พบร่างของคนที่คุ้นเคยเลย ทั้งคู่มองไปด้วยสายตาว่างเปบล่าก่อนตัดใจเดินหันหลังมา......
"โอ้..ซอรี่ ครับ โทษนะครับ ขอทางด้วยครับ....เดี๋ยวก่อน!!! อลิซซซซซ.." เสียงตะโกนแหกปากลั่นสนามบิน จนทุกคนหันมองเป็นตาเดียวรวมถึงสามคนที่กำลังหันหลังเดินเข้าเกทเช่นกัน อลิซฉีกยิ้มหน้าบานด้วยความตื้นตันดีใจอย่างสุดซึ้ง ทั้งสองวิ่งเข้ากอดกันเหมือนเป็นอ้อมกอดสุดท้าย ต่างกันกับเมเบลที่หน้าเจื่อนลงเมื่อไม่เห็นคนรักตัวเองเดินมา เมเบลยืนมองโฮวอนกับอลิซกอดกันด้วยความดีใจแทนเพื่อน
"ฮึก.. นึกว่าจะไม่มาแล้ว" อลิซปล่อยโฮซุกหน้าลงกับบ่าของโฮวอน
"ขอโทษน้าแต่ตอนนี้มาแล้วไงไม่ร้องนะ"โฮวอนพูดปลอบก่อนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าอีกคนจะจากหายไปอย่างไม่กลับมาอีก โฮวอนจูบข้างขมับอลิซอย่างปลอบประโลมด้วยความอบอุ่น
"ฮื่ออออ.....ก็นายบอกจะไม่มา แต่ตอนแรกชั้นเชื่อว่านายจะมานะแต่พอตอนนี้ไม่เชื่อแล้ว....ฮึก...แต่พออีกทีนายก็มา"
อลิซพูดปนเสียงสะอื้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนคนฟังรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ก็พอจับใจความได้ แต่ประโยคมันชั่งวกไปวนมาเหมือน
เด็กงอแงอย่างไงอย่างงั้น
"ไม่ร้องเเล้วสิ ตาบวมฉึ่งเลย...เดี๋ยวไม่สวยไม่รู้นะ" โฮวอนพูดหยอกล้อแม้ในใจจะเต็บไปหมดที่เห็นน้ำตาอีกคนและอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าคนตรงหน้าก็จะต้องไปแล้ว โฮวอนใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้อีกคนแผ่วเบาก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นให้ อีกคน
"กูฝากมึงดูแลอลิซด้วยนะเว้ย! แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น!" โฮวอนหันไปสั่งเสียงเข้มกับคอปเตอร์ ที่ยืนหน้าบูดอยู่
"เออ!!! เดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดี" คอปเตอร์รับคำแบบเบ้ปากแบ้วมองบน
จังหวะที่คู่ของเพื่อนกำลังกอดกันอย่างอบอุ่นเมเบลมองไปรอบๆหวังจะเจอคนที่ตัวเองรอ พลันสายตาก็ไปสะดุดกลับร่างสูงใบหน้าคมตามแบบไทย-เกาหลี เดินผ่านพ้นออกมาจากผู้คนด้วยใบหน้าเรียบเฉย เมเบลไม่ได้แต่ฝาดนี่คือพี่บยอลแน่ๆ เมเบลดีใจจนจะร้องไห้ แม้จะสั่งให้ขาไม่วิ่งเข้าไปหา แต่หัวใจกลับสั่งการได้เหนือกว่า ขาบางวิ่งตรงเข้าไปทันทีด้วยใบหน้าตื้นตันปนเศร้า เมเบลมาหยุดยืนข้างหน้าฮันบยอลที่ยืนทำหน้าเรียบเฉยแม้ในสายตาคมนั้นจะมีความเจ็บปวดเจือปนอยูเมเบล
เห็น ตัวเองตั้งใจจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เลยกลายเป็นสะอื้นเเทน
"ฮึก..." เมเบลสะอื้นออกมาพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วงที่ขอบตา
ฮันบยอลพยายามเก็บความรู้สึกให้ได้มากที่สุด ไม่แสดงด้านที่อ่อนแอให้เมเบลเห็นแต่ตนคงทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควรสินะ ที่ทำให้น้องเจ้าหญิงของเค้าร้องไห้ซะแล้ว......ฮันบยอลใช้นิ้วค่อยๆเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสให้อย่างอ่อนโยน จนเมเบลหยุดน้ำตาไม่ได้เลย
"ไม่อยากไป..."เมเบลว่าเสียงสะอื้นพร้อมส่ายหน้าไปมา ตนพอจะรู้แล้วว่าทำไมฮันบยอลถึงเมินถึงไม่อยากคุยด้วย เพราะฮันบยอลรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่แรก และไม่อยากให้ความหวังตัวเองโดยทำว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างฉายชัดในแววตานั่น
"ห้ามงอแงนะครับ.....พี่รอเบลได้เสมอนะ"ฮันบยอลว่าเสียงทุ้มนุ่มแบบที่เมเบลไม่ได้ยินมานาน
"ฮึก...ไม่อยากไปอ่ะ" เมเบลยังคงงอแง น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมา ทั้งดีใจที่ฮันบยอลพูดดีด้วยอ่อนโยนใส่และต้องตากคนที่รักไป
"เมเบล มาหาพี่ได้นิ ถ้าไม่งั้นพี่จะไปหาเราเองเนาะ คนดีของบยอล..ไม่ร้องแล้วนะครับ"
ฮันบยอลว่ารั้งตัวอีดคนมากอดพร้อมลูบเส้นผมยาวสวยอีกคนอย่างสุดรัก พูดปลอบประโลมอีกคนด้วยน้ำเสียงชวนฟังแต่กลับดูเศร้าเหลือเกินที่เมเบลได้ฟัง เมเบลยกมือขึ้นกอดอีกคนอย่างแนบเเน่น เช่นดัน
"รอเค้าก่อนนะ....เค้าจะกลับมา ฮึก....เค้ารักพี่บยอลมากนะ"เมเบลว่าด้วยน้ำเสียงตั้งใจแม้จะสั่นเครืออยู่บ้าง
ฮันบยอลผละอีกคนออกจากอ้อมกอด ก่อนจะสบตากลมตรงหน้าเรื่องราวตั้งแต่อรกยังตอนนี้มันมีมากมายฉายชัดในแววตาของกันและกัน ฮันบยอลยิ้มออกมาจากใจเป็นยิ้มที่กว้างที่สุดตั้งแต่เมเบลเคยเห็นมา ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาเมเบลยิ้มทั้งน้ำตา
"โชคดีนะเจ้าหญิงของพี่เจ้าชาย.." ฮันบยอลว่าพร้อมว่ามือแปะลงบนหัวอีกคน
"ค่ะ....พี่เจ้าชายของเค้า" เมเบลกล่าวออกมาอย่างกล้ำมกลืน ก่อนจะหันหลังเดินจากไป พร้อมกับอีกสองคน
สองพี่น้องมองไปจนทั้งหมดเดินเข้าเกทไป คิดถึง เสียใจ เป็นห่วง ความรู้สึกทุกอย่างประดังประเดเข้ามาจนหมด จะให้มาร้องไห้ก็ไม่ได้ ทำได้เพียงเก็บไว้ข้างใน เท่านั้น... ทั้งคู่ยืนมองจนเครื่องทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า
ไปแล้ว.....พวกเขาไปแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
นี้ก็ผ่านมา3เดือนแล้ว ที่ทุกคนอยู่ห่างจากกันคนละประเทศ ระยะแรกๆก็โทรคุยกันตลอดทุกวันเลยก็ว่าได้ วีดีโอคอลกันก็ทุกวัน จนมาช่วงหลังเหลือเพียงอาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น ฝ่ายตระกูลปาร์คก็คิดว่าฝั่งนู้นคงยุ่งเรื่องที่นั่น ผ่านมานานแล้วแต่ความรู้สึกที่มีให้กันยังคงเหมือนเดิมอาจมากขึ้นด้วนซ้ำ แต่ความคิดถึงมีมากขึ้นตลอด ฮันบยอลก็คิดมากที่อีกฝ่ายๆหายๆไปแต่ก็ไม่อยากเซ้าซีเพราะนั้นก็ไม่ใช่นิสัยตน แต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกตอนนี้ก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์ได้ยินข้อความทีก็ดีใจแม้บางครั้งจะไม่ใช่ก็เถอะ
"เหงา..ใช่มั้ยคะลูก" คุณนายปาร์คถามลูกชายคนเล็กที่นั่งหน้านอยด์อยู่ที่เคาท์เตอร์ครัว
"เหงาสิฮะแม่ ช่วงนี้คอลกันน้อยมากเลย" ได้ทีโฮวอนฟ้องใหญ่
"อลิซคงยุ่งๆมั้งลูกคิดมาก....แต่ ถ้าไม่งั้นโฮวอนก็ส่งข้อความไปตุนๆไว้ในกล่องแชทเลยสิลูก" คุณนายปาร์คเสนอความเห็น
"จะไม่รบกวนหรอฮะ.."
"ไม่หรอกลูก..แฟนส่งมานะ"
"ผมจะลองคิดดูนะฮะ งั้น....ผมขอตัวก่อนดีกว่า"โฮวอนกอดคุณแม่ไปทีก่อนขอตัวขึ้นห้อง
ความห่างไกลทำให้เขาคิดถึงอลิซมากเหลือเกิน......
เสียงลมพัด เสียงน้ำตกในสวนหลังบ้านมันทำใหเฮันบยอลผ่อนคลายได้บ้าง แต่ถึงกระนั้นฮันบยอลก็ยังบีทแดงที่เมเบลซื้อให้มาคาดฟังเพลงที่ทั้งเค้าและเมเบลชอบฟังตลอดเขาทนอยู่กับโรคความคิดถึงมาตลอด ยิ่งเหงามากแค่ไหนยิ่งรู้ว่ารักอีกคนมากแค่ไหนความอ้างว้างทุกอย่างมันตอกย้ำเขาตลอดว่าเขารักเมเบลมากแค่ไหน เขาอยู่อย่างมีรอยยิ้มบ้างเพราะความรักของเราทั้งสองยังมีให้กัน เขาไม่อยากตกอยู่ในสถานการ์ณแบบนั้นอีก เขาไม่อยากให้คนอื่นมาเดือดร้อนกับเขา แม้ช่วงหลังจะคุยกันน้อยลงบ้างแต่เขาก็จะเข้าใจอีกฝ่ายว่าคงมีปัฯหาอะไรที่ต้องแก้ไข
"หืม..แดบักแม่แกหายเงียบเลยนะ"ฮันบยอลอุ้มเจ้าลูกแมวที่เขาเลี้ยงมาเองกับมือในตอนเด็ก เมเบลรักและหลงเจ้าแมวอ้วนนี้เหลือเกิน จนบางครั้งเขาคุยกับเจ้าแดบักเป็นเพื่อนเเทนเลย
"คิดถึงแม่แกเนาะแกก็คิดถึงใช่มั้ย"ฮันบยอลว่าเขี่ยจมูกแมวเล่น
"....."แดบักนินแน่นิ่งไม่หือไม่อือบนโต๊ะ มีดิ้นบ้างที่เจ้านายกวนจนเกินไป
"หึ! ตลกดีเนาะ ความรักนี่บทพิสูจน์เยอะดีนะว่ามั้ย"
"......."
"เฮ้อออ...ไปคืนนี้นอนด้วยกันนะไออ้วน" ฮันบยอลถอนหายใจออกมาก่อนจะอุ้มแมวสำลีอ้วนขึ้นก่อนเข้าบ้านไป หมดไปอีกวันแล้วสินะ
ทนอยู่มาได้ยังไงกัน....ที่ไม่มีพวกเธอ
@@@@@@@@@~~~~@@@@@@@
TALK:: อีก1ตอนจบ
แย้วน้าทุกคนนนน!!!มาลุ้นตอนจบกันมั้ย หรือบางคนรู้อยู่แล้ว ง่าาาาา จะจบกันเเล้วเนาะกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ไรท์เปิดนิยายใหม่เรื่อง....
JUST LOVE CHILDREN ไปอ่านกันด้วยน้ารู้เปล่า แนวใสๆ กุ๊งกิ๊งๆ มุ้งมิ้งๆ
งุ้งงิ้งๆ ฝากด้วยนะ อยาหให้ไปลองอ่านกัน แต่ยังไงก็เม้นด่าว่าติชมได้นะ5555555
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ