KAMAITACHI ♥ คาไมทาจิ ความรักของภูติลม
10.0
เขียนโดย เมอิ
วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.45 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
12.33K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) [KAMAITACHI 4 : พันธสัญญาและคำสั่ง]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“นะ...ยูนะ!”
เสียงของคุณย่าเรียกหลานสาวของเธออยู่หลายครั้ง จนในที่สุดคุณย่าต้องตะโกนเรียกชื่อของเธอ ทำให้ยูนะตกใจและหันไปมองตามเสียงนั้น คุณย่าที่มีสีหน้าที่ดูสงสัยหลานสาวของเธอจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“หลานเป็นอะไรรึป่าว?...ช่วงนี้หลานดูเหม่อๆนะ”
ยูนะหลบสายตาของคุณย่าก่อนจะตอบไปว่าไม่มีอะไร แต่ท่าทางแบบนั้น ทำให้คุณย่าของเธอรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องมีเรื่องที่กำลังคิดอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน
“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับหลานใช่มั้ยจ๊ะ?”
!!
“...คุณย่า”
ยูนะที่ถูกถามแบบนั้น รีบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจเล็กน้อย เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณย่าของเธอกำลังดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไร ยูนะที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงและสายตานั้นทำให้เธอต้องยอมบอกสิ่งที่เธอกำลังคิดออกไปจนได้
“หนูรู้สึก...แปลกๆ...เวลาที่จ้องมองดวงตาของคาไมทาจิตัวหนึ่งน่ะค่ะ”
“แปลกๆ?...อย่างงั้นเหรอ”
คุณย่าที่พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดูสงสัย...ทำให้ยูนะพูดต่อ
“หนูรู้สึกถึงความทรมาน เจ็บปวด...สายตานั้นดูเหมือนกับเค้ากำลังซ่อนอะไรอยู่ในใจ...แต่ตอนนี้หนูยังไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันคืออะไรกันแน่”
…
“ถ้าหลานอยากรู้ว่ามันคืออะไร...หลานก็ลองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าดูก่อนสิจ๊ะ…รู้มั้ย?...หลานน่ะเหมือนคุณตาของหลานมากเลยล่ะ ... หลานออกไปค้นหาสิ่งนั้นเถอะจ่ะ”
คุณย่าที่พูดจบก็ทิ้งไว้แค่เพียงรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนเท่านั้น ก่อนจะลุกและเดินเข้าห้องไป ส่วน ยูนะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร เธอก็ได้แต่นั่งคิดความหมายของคำพูดคุณย่าที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งเธอคิดอะไรบางอย่างออก !! เธอรีบลุกขึ้นและก้าวเท้าตรงไปที่ห้องเพื่อเก็บของใส่เป้ทันที
***
บนหุบเขาที่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก
ตุบ ตุบ ตุบ ...
เสียงฝีเท้าของร่างเล็กที่ก้าวอย่างรวดเร็ว เธอเดินขึ้นมาบนภูเขาคนเดียวพร้อมกับเป้สะพายหลัง ก่อนจะหยุดเดินอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ดูคุ้นตา พร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณนั้น ...แสงสีแดงเข้มเป็นประกายที่ดูสะดุดตา ที่เกิดจากจี้สร้อยบนคอของเธอ ทำให้ใครบางคนปรากฏตัวขึ้น เส้นผมสีขาวประกายเงินกับใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอ่อนโยน ทำให้ยูนะเรียกชื่อของชายคนนั้นเมื่อเห็นใบหน้านั้นทันที
“คุณชิโรมิ!”
ยูนะเรียกชื่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกใจ ก่อนที่สายตาจะมองไปรอบๆตัวเขาโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าต้องพูดขึ้นก่อนจะยิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน
“ถ้าเป็นคุโรอิกับซาอิโร่ล่ะก็...ออกไปสำรวจหุบเขาอื่นๆตั้งแต่เช้าแล้วล่ะขอรับ...ว่าแต่...ท่านหญิงทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!?”
ยูนะที่ถูกถามขึ้นกระทันหันแบบนั้น ก็ได้แต่พูดอ้ำๆอึ้งๆอยู่ในลำคอ ชิโรมิที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่เมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้นของยูนะแล้ว จึงไม่อยากเสียมารยาทถามอะไรไปมากกว่านี้
***
ชิโรมิที่เดินเข้ามาในป่าลึก ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาบอกให้ยูนะเดินมาตามมาติดๆ และเพราะความอยากรู้หรือความซื่อของเธอก็ไม่ทราบ เธอจึงเดินตามชิโรมิไปแต่โดยดี การเดินตามชิโรมิใช้เวลานานพอควร ซึ่งยูนะก็ไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปที่ไหนกันแน่
จนกระทั่งจู่ๆชิโรมิก็หยุดลงตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งในป่าลึก บ้านชั้นเดียวพื้นยกระดับสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ดูกว้างขวาง ตัวบ้านดูโทรมเล็กน้อยเหมือนกับว่าถูกสร้างมานานพอควร รอบๆบ้านไม่มีรั้วกั้นแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ต้นไม้สูงมากมายที่ขึ้นอยู่ในป่ารอบบ้านจนแทบจะบดบังแสงอาทิตย์ ชิโรมิที่หยุดอยู่ตรงหน้าบ้านก็ค่อยๆเดินก้าวขึ้นบันไดและหยุดอยู่ตรงประตู ก่อนจะหันมาพูดกับยูนะ
“เข้ามาข้างในก่อนสิท่านหญิง...ไม่ต้องกลัวนะท่านหญิง ที่นี่เป็นบ้านของพวกเราเอง อยู่ข้างนอกมันอันตรายเกินไปสำหรับท่าน”
ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนของชิโรมิ ทำให้อาการกล้าๆกลัวๆของยูนะลดลงไปบ้าง เธอเดินตาม ชิโรมิเข้ามาถึงในตัวบ้าน และแล้วลมเย็นยะเยือกก็พัดผ่านใบหน้าหวานของเธออีกครั้ง และเป็นครั้งที่สามแล้วที่เธอรู้สึกแบบนี้ แต่ยังไม่ทันที่จะถามอะไร ใบหน้าของยูนะที่แสดงอาการสงสัยจึงทำให้ชิโรมิพูดขึ้นทันทีเหมือนกับว่ารู้คำถามที่อยู่ในใจของยูนะ
“ที่อยู่อาศัยแห่งไหนที่มีเวทย์มนต์หรือพลังป้องกันบางอย่าง...ถ้าเป็นมนุษย์ล่ะก็ จะแค่รู้สึกว่า มีลมเย็นยะเยือกพัดผ่านไปน่ะขอรับ”
หลังจากที่ชิโรมิพูดจบยูนะก็พลันนึกถึงร้านหนังสือที่อยู่ท้ายซอยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ฉุกคิดอะไรมากมาย พลางเดินตามชิโรมิไปจนถึงห้องรับแขก เธอนั่งตรงเบาะรองพื้นที่ชิโรมิจัดให้อยู่ ซักพัก ...ชิโรมิที่ใส่ชุดยูกาตะสีน้ำเงินเข้มเดินมาพร้อมกับชาร้อนหอมกรุ่น เขานำมาเสิร์ฟให้กับยูนะที่นั่งรออยู่และนั่งลงตรงข้ามกับยูนะพร้อมกับยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะถามขึ้นว่า
“ท่านหญิงมีเรื่องข้องใจเกี่ยวกับคุโรอิ...เลยอยากจะถามข้า...อย่างนั้นสินะ?”
ยูนะเบิกตาขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่พูดขึ้นมากะทันหันของชิโรมิทันที แต่คำพูดนั้นก็ตรงกับภายในใจของยูนะที่ต้องการที่จะรู้ เธอจึงพยักหน้าตอบรับชิโรมิอย่างช้าๆ
…..
“ข้าจะเล่าพอที่จะเล่าได้นะขอรับ ... คุโรอิน่ะ ไม่ใช่น้องแท้ๆของข้าหรอก...มีเพียงข้ากับซาอิโร่เท่านั้นที่มีสายเลือดเดียวกัน”
ชิโรมิที่พูดได้เพียงเท่านี้ จู่ๆก็มีลมแรงพัดเข้ามาในบ้านและลมนั้นปรากฏร่างของวีเซิลสองตัว ที่ยูนะคุ้นตาเพราะเคยเจอกันมาแล้วสองครั้ง วีเซิลทั้งสองมองมาที่อยู่นะอย่างแปลกใจ
!!!
“เจ้า!!?”
“ท่านหญิง!!...มาอยู่ที่นี่ได้ไงขอรับ พี่พาท่านมาเหรอ!?”
เสียงใสของวีเซิลสีน้ำตาลพูดแทรกขึ้นมา ทำให้วีเซิลสีดำที่ยืนจ้องมองยูนะอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องไปด้วยท่าทางที่หงุดหงิด
ปัง!!
เสียงบานเลื่อนของประตูห้องที่ถูกปิดด้วยความโมโห ทำให้ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ตรงห้องรับแขกหันไปมองตามเสียงนั้นพร้อมกัน
“คุโรอิคงโมโหที่ข้าพาคนอื่นเข้ามาในบ้านน่ะ”
ชิโรมิหันมาพูดกับยูนะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ก่อนจะมีเสียงพูดของเด็กหนุ่มอีกคนที่พูดขึ้นต่อจากพี่ชาย
“อย่าสนใจพี่กลางเลย พี่กลางก็ขี้หงุดหงิดแบบนี้ประจำแหละนะ”
วีเซิลสีน้ำตาลอ่อนที่เปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักราวกับผู้หญิงพูดขึ้นและลงมานั่งข้าง ยูนะด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
...ชิโรมิหันไปมองน้องชายของเขาก่อนจะหันกลับมาพูดกับยูนะ
“หากท่านหญิงต้องการทราบเกี่ยวกับคุโรอิ...ข้าคิดว่าท่านลองไปถามเจ้านั่นเองดีกว่านะขอรับ”
“เอ๋?...ถามเองเหรอคะ!?”
ใบหน้าของชิโรมิยังคงดูอ่อนโยนหลังจากพูดจบ ยูนะที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง เพราะดูจากอารมณ์ของคุโรอิในตอนนี้ ก็ทำให้เธอคิดหนักในการที่จะเข้าไปถามเองอยู่เหมือนกัน
...ซาอิโร่ที่นั่งอยู่ข้างๆยูนะ เขาหันหน้าไปมองพี่ชายของตัวเองและขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน ซาอิโร่ที่กำลังจะอ้าปากถามยูนะก็ถูกพี่ชายดึงแขนเสื้อให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะลากเขาออกไปยังนอกบ้าน ทำให้เด็กหนุ่มที่ถูกลากโดยพี่ชายจนมาถึงหน้าบ้านต้องตะโกนขึ้นด้วยความแปลกใจ
“พี่ทำอะไรเนี่ย ข้าไม่เข้าใจ!!??...แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่กลางด้วย!?”
…
ชิโรมิยืนเงียบเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันมาตอบน้องชายของเขาที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่ข้างหลัง
“ข้าคิดว่าท่านหญิงควรจะรู้”
“แต่พี่กลาง!!...”
“เจ้าอยากให้คุโรอิเป็นแบบนี้ไปตลอดรึไง!?…ข้าสังเกตเห็นตั้งแต่คุโรอิถูกท่านหญิงสัมผัสครั้งก่อน...ข้าคิดว่าท่านหญิงยูนะ...มีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น”
ซาอิโร่ที่ได้ยินแบบนั้นจึงไม่กล้าที่จะขัดคำพูดของพี่ชาย เขาได้แต่ยืนฟังพี่ชายของเขาอย่างเงียบๆโดยที่ไม่พูดอะไร
***
ทางด้านของยูนะที่นั่งก้มหน้าอยู่ในห้องรับแขก ใบหน้าหวานของเธอมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอยู่ ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกพรวดอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังคงยืนนิ่งไปอีกครั้ง สายตาของเธอมองตรงไปยังห้องของคุโรอิ พลางคิดในใจ ‘เค้าเป็นผู้ปกป้องเรานะ เราต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้างสิ...แล้วสิ่งที่ค้างคาใจนี่อีก เราต้องกล้าถามให้ได้!’
ว่าแล้วร่างเล็กจึงเดินดุ่มมาหยุดอยู่ตรงหน้าบานเลื่อนสีขาว ซึ่งเป็นห้องของคุโรอิ ...เธอไม่กล้าแม้แต่จะเคาะประตูและด้วยความกล้าๆกลัวๆ เธอจึงยืนนิ่งอยู่หน้าบานเลื่อนสีขาวนั้นอย่างเงียบๆ
ครืนน!!
“เจ้าจะยืนอยู่หน้าห้องของข้าอีกนานมั้ย!!??”
บานประตูที่เลื่อนอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างของวีเซิลสีดำนัยน์ตาข้างหนึ่งสีเหลืองเข้ม เขาเงยหน้าจ้องมองยูนะและตะคอกถามคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห ทำให้ยูนะถึงกับสะดุ้ง แต่เพราะเป็นร่างของวีเซิลสีดำ จึงไม่ได้ทำให้เธอกลัวมากนัก
“เอ่อ....คือ...”
ยูนะที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่อย่างนั้น ทำให้คุโรอิที่อยู่ในร่างวีเซิลสีดำเลื่อนบานประตูปิดทันทีเพราะท่าทางแบบนั้นของยูนะทำให้เขาหัวเสียขึ้นอีกครั้ง
ยูนะที่ถูกคุโรอิปิดประตูใส่อย่างไม่ใยดีทำให้เธอที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูต้องกะโกนขึ้นทันที
“คุณวีเซิลสีดำ!!...ชั้นมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณค่ะ!”
...
ไม่มีเสียงตอบรับจากคุโรอิที่อยู่ในห้องแม้แต่น้อย แม้เธอจะพยายามเคาะประตูอยู่หลายครั้ง ก็ตาม
...ยูนะที่ยอมแพ้และกำลังจะล้มเลิกความคิด เธอเดินหันหลังเพื่อจะเดินกลับแต่ !! ทันใดนั้นบานเลื่อนก็ค่อยๆเปิดออก โดยที่ไม่เห็นร่างของวีเซิลสีดำ ใบหน้าหวานค่อยๆโผล่หน้าเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ ก็สังเกตเห็นวีเซิลสีดำกำลังนั่งอยู่ตรงขอบหน้าต่างในห้องอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา!!”
ยูนะค่อยๆเดินมาหยุดอยู่กลางห้องของคุโรอิ เธอมองไปรอบห้องก็เจอแต่หนังสือกองทับกันอยู่หลายชั้น ก่อนจะหันไปพูดกับวีเซิลสีดำที่นั่งอยู่ตรงขอบหน้าต่าง
“คุณวีเซิลสีดำ...”
“คุโรอิ!!!...ข้ามีนามว่าคุโรอิ!!”
…
ยูนะชะงักไปเพราะโดนตะคอกใส่จึงอ้ำๆอึ้งๆอีกครั้ง ทำให้สายตาของคุโรอิมองมาที่ยูนะด้วยท่าทางที่เริ่มโมโหอีกครั้ง ยูนะนึกถึงคำพูดของคุณย่าที่บอกว่า ‘ถ้าหลานอยากรู้ว่ามันคืออะไร...หลานก็ลองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าดูก่อนสิจ๊ะ’
ยูนะที่นึกได้แบบนั้นจึงรัวคำถามในทันที เพราะดูจากสายตาแบบนั้นของคุโรอิ ยูนะกลัวว่าจะโดนคุโรอิไล่ให้ออกไปเป็นรอบที่สอง
“...วันก่อนเธอเป็นคนที่อยู่ในฝันชั้นใช่มั้ยคะ...แล้วที่บอกว่าพวกมันนี่หมายถึงใครคะ...แล้วเธออายุเท่าไหร่แล้ว...อีกอย่างเธอมีเรื่องอะไรอยู่ในใจรึเปล่าคะ เพราะเวลาจ้องมองดวงตานั้นทีไรจะรู้สึกเจ็บปวด...ทำไมต้องเอาผ้าปิดตาอีกข้างไว้แบบนั้นด้วยคะ...อย่างสุดท้าย ทำไมอยู่ต่อหน้าชั้นเธอไม่ยอมกลายร่างเป็นคนล่ะคะ”
...
คุโรอินิ่งเงียบไปกับคำถามของยูนะที่ยาวเหยียดจนเขาแทบจะไม่อยากตอบ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนบอกให้เธอถามเองและเขายังอยู่ในฐานะผู้ปกป้องเธอ ดังนั้นคุโรอิจึงจำเป็นต้องตอบยูนะโดยที่เขาก็ตอบเป็นข้อๆเช่นกัน
“...อย่างแรกคือ...ใช่...ข้าเอง...ส่วนพวกมันที่ข้าบอก หมายถึงพวกโยวไค พวกที่มันตามล้างแค้นตระกูลเจ้าอยู่ไงเล่า!!...เรื่องอายุของข้า ถ้าเป็นร่างนี้ก็คงจะ 20 ล่ะมั้ง ส่วนข้ออื่น...ข้าไม่ขอตอบ!”
ยูนะที่ยืนฟังอยู่ พลางเอะใจขึ้นกับคำว่า ‘ถ้าเป็นร่างนี้...งั้นเหรอ...หมายความว่ายังไงกันนะ’ เธอเพียงแต่คิดในใจโดยที่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ เพราะยังไงคุโรอิก็คงไม่ตอบเธออยู่ดี เธอจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับคุโรอิไป
!!!!!!
ฟุบ!!
“คุโรอิ!!!!พาท่านหญิงหนีไปจากที่นี่...เดี๋ยวนี้!!!”
ร่างของชิโรมิปรากฏขึ้นในห้องของคุโรอิพร้อมกับคำพูดและท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ และด้วยสัญชาตญาณคุโรอิจึงรีบเสกเคียวคู่ของเขาออกมาทันทีเพื่อเตรียมพร้อมจะต่อสู้ เพราะการที่พี่ของเขามีอาการตื่นตระหนกเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“ไม่คุโรอิ!!!...ครั้งนี้มันมีจำนวนมากและยังแข็งแกร่ง ถ้าเป็นแบบครั้งก่อนอีก ใครจะปกป้องท่านหญิง!...ข้ากับซาอิโร่สามารถล่อมันไปที่อื่นได้...แต่เจ้า!!...ต้องพาท่านหญิงหนีไปจาก ที่นี่ซะ!!!นี่เป็นคำสั่ง!!!”
อึก!!
คุโรอิมีสีหน้าที่ทรมานอีกครั้ง พันธะสัญญาที่เคยให้ไว้กับตระกูลฮายาชิและคำสั่งของผู้เป็นพี่ ทำให้คุโรอิยากที่จะปฏิเสธออกไป เขายืนนิ่งพร้อมกับบีบมือที่กำเคียวไว้แน่นอยู่ครู่หนึ่ง…
ฟุบ!!
ร่างของวีเซิลสีดำกลายเป็นร่างของชายหนุ่มผมดำขลับในชุดฮากามะสีกรม นัยน์ตาข้างหนึ่งสีเหลืองเข้มเป็นประกายและอีกข้างถูกผ้าปิดไว้ เขาหันมาจ้องมองยูนะด้วยอาการโกรธและเดินเข้ามาใกล้ๆเธอ พร้อมกับถอนหายใจ…
!!!
“เอ๊ะ!!”
ร่างของยูนะถูกยกขึ้นโดยสองแขนเรียวของคุโรอิอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้ยูนะเผลอใช้สองแขนบางคล้องคอของเขาเพราะความตกใจ นัยน์ตาสีเหลืองเข้มของคุโรอิมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะตะคอกใส่เธอด้วยความหงุดหงิด
“เจ้ามันน่ารำคาญนัก!!”
...
ยูนะหลับตาปี๋ด้วยความกลัวหลังจากโดนตะคอก คุโรอิจึงอุ้มร่างเล็กของยูนะเดินออกไปทางหน้าต่างพลางพูดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้สบตากับยูนะแม้แต่น้อยพลางคิดในใจ
“ชีวิตปกติของเจ้า...คงจะไม่มีอีกแล้วล่ะ”
...
คุโรอิยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าบ้านก่อนที่ร่างของทั้งสองจะหายไปพร้อมกับลมหมุนที่พัดมาอย่างรวดเร็ว…!
เสียงของคุณย่าเรียกหลานสาวของเธออยู่หลายครั้ง จนในที่สุดคุณย่าต้องตะโกนเรียกชื่อของเธอ ทำให้ยูนะตกใจและหันไปมองตามเสียงนั้น คุณย่าที่มีสีหน้าที่ดูสงสัยหลานสาวของเธอจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“หลานเป็นอะไรรึป่าว?...ช่วงนี้หลานดูเหม่อๆนะ”
ยูนะหลบสายตาของคุณย่าก่อนจะตอบไปว่าไม่มีอะไร แต่ท่าทางแบบนั้น ทำให้คุณย่าของเธอรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องมีเรื่องที่กำลังคิดอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน
“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับหลานใช่มั้ยจ๊ะ?”
!!
“...คุณย่า”
ยูนะที่ถูกถามแบบนั้น รีบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจเล็กน้อย เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณย่าของเธอกำลังดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไร ยูนะที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงและสายตานั้นทำให้เธอต้องยอมบอกสิ่งที่เธอกำลังคิดออกไปจนได้
“หนูรู้สึก...แปลกๆ...เวลาที่จ้องมองดวงตาของคาไมทาจิตัวหนึ่งน่ะค่ะ”
“แปลกๆ?...อย่างงั้นเหรอ”
คุณย่าที่พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดูสงสัย...ทำให้ยูนะพูดต่อ
“หนูรู้สึกถึงความทรมาน เจ็บปวด...สายตานั้นดูเหมือนกับเค้ากำลังซ่อนอะไรอยู่ในใจ...แต่ตอนนี้หนูยังไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันคืออะไรกันแน่”
…
“ถ้าหลานอยากรู้ว่ามันคืออะไร...หลานก็ลองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าดูก่อนสิจ๊ะ…รู้มั้ย?...หลานน่ะเหมือนคุณตาของหลานมากเลยล่ะ ... หลานออกไปค้นหาสิ่งนั้นเถอะจ่ะ”
คุณย่าที่พูดจบก็ทิ้งไว้แค่เพียงรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนเท่านั้น ก่อนจะลุกและเดินเข้าห้องไป ส่วน ยูนะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร เธอก็ได้แต่นั่งคิดความหมายของคำพูดคุณย่าที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งเธอคิดอะไรบางอย่างออก !! เธอรีบลุกขึ้นและก้าวเท้าตรงไปที่ห้องเพื่อเก็บของใส่เป้ทันที
***
บนหุบเขาที่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก
ตุบ ตุบ ตุบ ...
เสียงฝีเท้าของร่างเล็กที่ก้าวอย่างรวดเร็ว เธอเดินขึ้นมาบนภูเขาคนเดียวพร้อมกับเป้สะพายหลัง ก่อนจะหยุดเดินอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ดูคุ้นตา พร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณนั้น ...แสงสีแดงเข้มเป็นประกายที่ดูสะดุดตา ที่เกิดจากจี้สร้อยบนคอของเธอ ทำให้ใครบางคนปรากฏตัวขึ้น เส้นผมสีขาวประกายเงินกับใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอ่อนโยน ทำให้ยูนะเรียกชื่อของชายคนนั้นเมื่อเห็นใบหน้านั้นทันที
“คุณชิโรมิ!”
ยูนะเรียกชื่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกใจ ก่อนที่สายตาจะมองไปรอบๆตัวเขาโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าต้องพูดขึ้นก่อนจะยิ้มด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน
“ถ้าเป็นคุโรอิกับซาอิโร่ล่ะก็...ออกไปสำรวจหุบเขาอื่นๆตั้งแต่เช้าแล้วล่ะขอรับ...ว่าแต่...ท่านหญิงทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!?”
ยูนะที่ถูกถามขึ้นกระทันหันแบบนั้น ก็ได้แต่พูดอ้ำๆอึ้งๆอยู่ในลำคอ ชิโรมิที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่เมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้นของยูนะแล้ว จึงไม่อยากเสียมารยาทถามอะไรไปมากกว่านี้
***
ชิโรมิที่เดินเข้ามาในป่าลึก ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาบอกให้ยูนะเดินมาตามมาติดๆ และเพราะความอยากรู้หรือความซื่อของเธอก็ไม่ทราบ เธอจึงเดินตามชิโรมิไปแต่โดยดี การเดินตามชิโรมิใช้เวลานานพอควร ซึ่งยูนะก็ไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปที่ไหนกันแน่
จนกระทั่งจู่ๆชิโรมิก็หยุดลงตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งในป่าลึก บ้านชั้นเดียวพื้นยกระดับสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ดูกว้างขวาง ตัวบ้านดูโทรมเล็กน้อยเหมือนกับว่าถูกสร้างมานานพอควร รอบๆบ้านไม่มีรั้วกั้นแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ต้นไม้สูงมากมายที่ขึ้นอยู่ในป่ารอบบ้านจนแทบจะบดบังแสงอาทิตย์ ชิโรมิที่หยุดอยู่ตรงหน้าบ้านก็ค่อยๆเดินก้าวขึ้นบันไดและหยุดอยู่ตรงประตู ก่อนจะหันมาพูดกับยูนะ
“เข้ามาข้างในก่อนสิท่านหญิง...ไม่ต้องกลัวนะท่านหญิง ที่นี่เป็นบ้านของพวกเราเอง อยู่ข้างนอกมันอันตรายเกินไปสำหรับท่าน”
ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนของชิโรมิ ทำให้อาการกล้าๆกลัวๆของยูนะลดลงไปบ้าง เธอเดินตาม ชิโรมิเข้ามาถึงในตัวบ้าน และแล้วลมเย็นยะเยือกก็พัดผ่านใบหน้าหวานของเธออีกครั้ง และเป็นครั้งที่สามแล้วที่เธอรู้สึกแบบนี้ แต่ยังไม่ทันที่จะถามอะไร ใบหน้าของยูนะที่แสดงอาการสงสัยจึงทำให้ชิโรมิพูดขึ้นทันทีเหมือนกับว่ารู้คำถามที่อยู่ในใจของยูนะ
“ที่อยู่อาศัยแห่งไหนที่มีเวทย์มนต์หรือพลังป้องกันบางอย่าง...ถ้าเป็นมนุษย์ล่ะก็ จะแค่รู้สึกว่า มีลมเย็นยะเยือกพัดผ่านไปน่ะขอรับ”
หลังจากที่ชิโรมิพูดจบยูนะก็พลันนึกถึงร้านหนังสือที่อยู่ท้ายซอยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ฉุกคิดอะไรมากมาย พลางเดินตามชิโรมิไปจนถึงห้องรับแขก เธอนั่งตรงเบาะรองพื้นที่ชิโรมิจัดให้อยู่ ซักพัก ...ชิโรมิที่ใส่ชุดยูกาตะสีน้ำเงินเข้มเดินมาพร้อมกับชาร้อนหอมกรุ่น เขานำมาเสิร์ฟให้กับยูนะที่นั่งรออยู่และนั่งลงตรงข้ามกับยูนะพร้อมกับยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะถามขึ้นว่า
“ท่านหญิงมีเรื่องข้องใจเกี่ยวกับคุโรอิ...เลยอยากจะถามข้า...อย่างนั้นสินะ?”
ยูนะเบิกตาขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่พูดขึ้นมากะทันหันของชิโรมิทันที แต่คำพูดนั้นก็ตรงกับภายในใจของยูนะที่ต้องการที่จะรู้ เธอจึงพยักหน้าตอบรับชิโรมิอย่างช้าๆ
…..
“ข้าจะเล่าพอที่จะเล่าได้นะขอรับ ... คุโรอิน่ะ ไม่ใช่น้องแท้ๆของข้าหรอก...มีเพียงข้ากับซาอิโร่เท่านั้นที่มีสายเลือดเดียวกัน”
ชิโรมิที่พูดได้เพียงเท่านี้ จู่ๆก็มีลมแรงพัดเข้ามาในบ้านและลมนั้นปรากฏร่างของวีเซิลสองตัว ที่ยูนะคุ้นตาเพราะเคยเจอกันมาแล้วสองครั้ง วีเซิลทั้งสองมองมาที่อยู่นะอย่างแปลกใจ
!!!
“เจ้า!!?”
“ท่านหญิง!!...มาอยู่ที่นี่ได้ไงขอรับ พี่พาท่านมาเหรอ!?”
เสียงใสของวีเซิลสีน้ำตาลพูดแทรกขึ้นมา ทำให้วีเซิลสีดำที่ยืนจ้องมองยูนะอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องไปด้วยท่าทางที่หงุดหงิด
ปัง!!
เสียงบานเลื่อนของประตูห้องที่ถูกปิดด้วยความโมโห ทำให้ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ตรงห้องรับแขกหันไปมองตามเสียงนั้นพร้อมกัน
“คุโรอิคงโมโหที่ข้าพาคนอื่นเข้ามาในบ้านน่ะ”
ชิโรมิหันมาพูดกับยูนะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ก่อนจะมีเสียงพูดของเด็กหนุ่มอีกคนที่พูดขึ้นต่อจากพี่ชาย
“อย่าสนใจพี่กลางเลย พี่กลางก็ขี้หงุดหงิดแบบนี้ประจำแหละนะ”
วีเซิลสีน้ำตาลอ่อนที่เปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักราวกับผู้หญิงพูดขึ้นและลงมานั่งข้าง ยูนะด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
...ชิโรมิหันไปมองน้องชายของเขาก่อนจะหันกลับมาพูดกับยูนะ
“หากท่านหญิงต้องการทราบเกี่ยวกับคุโรอิ...ข้าคิดว่าท่านลองไปถามเจ้านั่นเองดีกว่านะขอรับ”
“เอ๋?...ถามเองเหรอคะ!?”
ใบหน้าของชิโรมิยังคงดูอ่อนโยนหลังจากพูดจบ ยูนะที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง เพราะดูจากอารมณ์ของคุโรอิในตอนนี้ ก็ทำให้เธอคิดหนักในการที่จะเข้าไปถามเองอยู่เหมือนกัน
...ซาอิโร่ที่นั่งอยู่ข้างๆยูนะ เขาหันหน้าไปมองพี่ชายของตัวเองและขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน ซาอิโร่ที่กำลังจะอ้าปากถามยูนะก็ถูกพี่ชายดึงแขนเสื้อให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะลากเขาออกไปยังนอกบ้าน ทำให้เด็กหนุ่มที่ถูกลากโดยพี่ชายจนมาถึงหน้าบ้านต้องตะโกนขึ้นด้วยความแปลกใจ
“พี่ทำอะไรเนี่ย ข้าไม่เข้าใจ!!??...แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่กลางด้วย!?”
…
ชิโรมิยืนเงียบเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันมาตอบน้องชายของเขาที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่ข้างหลัง
“ข้าคิดว่าท่านหญิงควรจะรู้”
“แต่พี่กลาง!!...”
“เจ้าอยากให้คุโรอิเป็นแบบนี้ไปตลอดรึไง!?…ข้าสังเกตเห็นตั้งแต่คุโรอิถูกท่านหญิงสัมผัสครั้งก่อน...ข้าคิดว่าท่านหญิงยูนะ...มีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น”
ซาอิโร่ที่ได้ยินแบบนั้นจึงไม่กล้าที่จะขัดคำพูดของพี่ชาย เขาได้แต่ยืนฟังพี่ชายของเขาอย่างเงียบๆโดยที่ไม่พูดอะไร
***
ทางด้านของยูนะที่นั่งก้มหน้าอยู่ในห้องรับแขก ใบหน้าหวานของเธอมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอยู่ ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกพรวดอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังคงยืนนิ่งไปอีกครั้ง สายตาของเธอมองตรงไปยังห้องของคุโรอิ พลางคิดในใจ ‘เค้าเป็นผู้ปกป้องเรานะ เราต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้างสิ...แล้วสิ่งที่ค้างคาใจนี่อีก เราต้องกล้าถามให้ได้!’
ว่าแล้วร่างเล็กจึงเดินดุ่มมาหยุดอยู่ตรงหน้าบานเลื่อนสีขาว ซึ่งเป็นห้องของคุโรอิ ...เธอไม่กล้าแม้แต่จะเคาะประตูและด้วยความกล้าๆกลัวๆ เธอจึงยืนนิ่งอยู่หน้าบานเลื่อนสีขาวนั้นอย่างเงียบๆ
ครืนน!!
“เจ้าจะยืนอยู่หน้าห้องของข้าอีกนานมั้ย!!??”
บานประตูที่เลื่อนอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างของวีเซิลสีดำนัยน์ตาข้างหนึ่งสีเหลืองเข้ม เขาเงยหน้าจ้องมองยูนะและตะคอกถามคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห ทำให้ยูนะถึงกับสะดุ้ง แต่เพราะเป็นร่างของวีเซิลสีดำ จึงไม่ได้ทำให้เธอกลัวมากนัก
“เอ่อ....คือ...”
ยูนะที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่อย่างนั้น ทำให้คุโรอิที่อยู่ในร่างวีเซิลสีดำเลื่อนบานประตูปิดทันทีเพราะท่าทางแบบนั้นของยูนะทำให้เขาหัวเสียขึ้นอีกครั้ง
ยูนะที่ถูกคุโรอิปิดประตูใส่อย่างไม่ใยดีทำให้เธอที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูต้องกะโกนขึ้นทันที
“คุณวีเซิลสีดำ!!...ชั้นมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณค่ะ!”
...
ไม่มีเสียงตอบรับจากคุโรอิที่อยู่ในห้องแม้แต่น้อย แม้เธอจะพยายามเคาะประตูอยู่หลายครั้ง ก็ตาม
...ยูนะที่ยอมแพ้และกำลังจะล้มเลิกความคิด เธอเดินหันหลังเพื่อจะเดินกลับแต่ !! ทันใดนั้นบานเลื่อนก็ค่อยๆเปิดออก โดยที่ไม่เห็นร่างของวีเซิลสีดำ ใบหน้าหวานค่อยๆโผล่หน้าเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ ก็สังเกตเห็นวีเซิลสีดำกำลังนั่งอยู่ตรงขอบหน้าต่างในห้องอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา!!”
ยูนะค่อยๆเดินมาหยุดอยู่กลางห้องของคุโรอิ เธอมองไปรอบห้องก็เจอแต่หนังสือกองทับกันอยู่หลายชั้น ก่อนจะหันไปพูดกับวีเซิลสีดำที่นั่งอยู่ตรงขอบหน้าต่าง
“คุณวีเซิลสีดำ...”
“คุโรอิ!!!...ข้ามีนามว่าคุโรอิ!!”
…
ยูนะชะงักไปเพราะโดนตะคอกใส่จึงอ้ำๆอึ้งๆอีกครั้ง ทำให้สายตาของคุโรอิมองมาที่ยูนะด้วยท่าทางที่เริ่มโมโหอีกครั้ง ยูนะนึกถึงคำพูดของคุณย่าที่บอกว่า ‘ถ้าหลานอยากรู้ว่ามันคืออะไร...หลานก็ลองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าดูก่อนสิจ๊ะ’
ยูนะที่นึกได้แบบนั้นจึงรัวคำถามในทันที เพราะดูจากสายตาแบบนั้นของคุโรอิ ยูนะกลัวว่าจะโดนคุโรอิไล่ให้ออกไปเป็นรอบที่สอง
“...วันก่อนเธอเป็นคนที่อยู่ในฝันชั้นใช่มั้ยคะ...แล้วที่บอกว่าพวกมันนี่หมายถึงใครคะ...แล้วเธออายุเท่าไหร่แล้ว...อีกอย่างเธอมีเรื่องอะไรอยู่ในใจรึเปล่าคะ เพราะเวลาจ้องมองดวงตานั้นทีไรจะรู้สึกเจ็บปวด...ทำไมต้องเอาผ้าปิดตาอีกข้างไว้แบบนั้นด้วยคะ...อย่างสุดท้าย ทำไมอยู่ต่อหน้าชั้นเธอไม่ยอมกลายร่างเป็นคนล่ะคะ”
...
คุโรอินิ่งเงียบไปกับคำถามของยูนะที่ยาวเหยียดจนเขาแทบจะไม่อยากตอบ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนบอกให้เธอถามเองและเขายังอยู่ในฐานะผู้ปกป้องเธอ ดังนั้นคุโรอิจึงจำเป็นต้องตอบยูนะโดยที่เขาก็ตอบเป็นข้อๆเช่นกัน
“...อย่างแรกคือ...ใช่...ข้าเอง...ส่วนพวกมันที่ข้าบอก หมายถึงพวกโยวไค พวกที่มันตามล้างแค้นตระกูลเจ้าอยู่ไงเล่า!!...เรื่องอายุของข้า ถ้าเป็นร่างนี้ก็คงจะ 20 ล่ะมั้ง ส่วนข้ออื่น...ข้าไม่ขอตอบ!”
ยูนะที่ยืนฟังอยู่ พลางเอะใจขึ้นกับคำว่า ‘ถ้าเป็นร่างนี้...งั้นเหรอ...หมายความว่ายังไงกันนะ’ เธอเพียงแต่คิดในใจโดยที่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ เพราะยังไงคุโรอิก็คงไม่ตอบเธออยู่ดี เธอจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับคุโรอิไป
!!!!!!
ฟุบ!!
“คุโรอิ!!!!พาท่านหญิงหนีไปจากที่นี่...เดี๋ยวนี้!!!”
ร่างของชิโรมิปรากฏขึ้นในห้องของคุโรอิพร้อมกับคำพูดและท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ และด้วยสัญชาตญาณคุโรอิจึงรีบเสกเคียวคู่ของเขาออกมาทันทีเพื่อเตรียมพร้อมจะต่อสู้ เพราะการที่พี่ของเขามีอาการตื่นตระหนกเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“ไม่คุโรอิ!!!...ครั้งนี้มันมีจำนวนมากและยังแข็งแกร่ง ถ้าเป็นแบบครั้งก่อนอีก ใครจะปกป้องท่านหญิง!...ข้ากับซาอิโร่สามารถล่อมันไปที่อื่นได้...แต่เจ้า!!...ต้องพาท่านหญิงหนีไปจาก ที่นี่ซะ!!!นี่เป็นคำสั่ง!!!”
อึก!!
คุโรอิมีสีหน้าที่ทรมานอีกครั้ง พันธะสัญญาที่เคยให้ไว้กับตระกูลฮายาชิและคำสั่งของผู้เป็นพี่ ทำให้คุโรอิยากที่จะปฏิเสธออกไป เขายืนนิ่งพร้อมกับบีบมือที่กำเคียวไว้แน่นอยู่ครู่หนึ่ง…
ฟุบ!!
ร่างของวีเซิลสีดำกลายเป็นร่างของชายหนุ่มผมดำขลับในชุดฮากามะสีกรม นัยน์ตาข้างหนึ่งสีเหลืองเข้มเป็นประกายและอีกข้างถูกผ้าปิดไว้ เขาหันมาจ้องมองยูนะด้วยอาการโกรธและเดินเข้ามาใกล้ๆเธอ พร้อมกับถอนหายใจ…
!!!
“เอ๊ะ!!”
ร่างของยูนะถูกยกขึ้นโดยสองแขนเรียวของคุโรอิอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้ยูนะเผลอใช้สองแขนบางคล้องคอของเขาเพราะความตกใจ นัยน์ตาสีเหลืองเข้มของคุโรอิมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะตะคอกใส่เธอด้วยความหงุดหงิด
“เจ้ามันน่ารำคาญนัก!!”
...
ยูนะหลับตาปี๋ด้วยความกลัวหลังจากโดนตะคอก คุโรอิจึงอุ้มร่างเล็กของยูนะเดินออกไปทางหน้าต่างพลางพูดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้สบตากับยูนะแม้แต่น้อยพลางคิดในใจ
“ชีวิตปกติของเจ้า...คงจะไม่มีอีกแล้วล่ะ”
...
คุโรอิยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าบ้านก่อนที่ร่างของทั้งสองจะหายไปพร้อมกับลมหมุนที่พัดมาอย่างรวดเร็ว…!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ