KAMAITACHI ♥ คาไมทาจิ ความรักของภูติลม
10.0
เขียนโดย เมอิ
วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.45 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
12.33K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) [KAMAITACHI 2 พายุแรก]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตุบ ตุบ ตุบ …
เสียงฝีเท้าของยูนะค่อยๆหยุดลงที่หน้าหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท หลังจากที่เธอนั่งรถไฟมานานพอสมควร ไหนจะต้องไปต่อรถเพื่อมาส่งที่หน้าหมู่บ้าน ตอนนี้เธอยังต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีก แถมยังต้องเดินหาบ้านคุณย่า ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีกเล็กน้อย เพราะคุณย่าของเธอเป็นคนรักสงบ ดังนั้นจึงไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก จะมีก็แต่ผู้ดูแลสาว ที่คอยดูแลคุณย่ามานาน
….
ยูนะก้มมองแผนที่ ที่คุณพ่อของเธอเขียนให้ ก่อนจะออกจากบ้าน เพราะกลัวว่ายูนะจะลืมว่าบ้านของคุณย่าไปทางไหน ทั้งๆที่ซอยในหมู่บ้านก็มีอยู่แค่ซอยเดียว…
ยูนะเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านที่แวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความเก่าแก่ รั้วบ้านที่สูงจนเกือบจะบดบังตัวบ้าน และเมื่อเดินเข้ามาถึงประตูทางเข้า ก็จะมองเห็นบ้านสองชั้นสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่ ภายในบ้านยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติเช่นเดียวกับข้างนอก
....
“อ้าว!...คุณหนูยูนะ...ยืนรอนานรึเปล่าคะ ทำไมไม่เรียกดิชั้นล่ะคะ...ไม่คิดว่าคุณหนูจะมาถึงเร็วกว่ากำหนดขนาดนี้”
“ไม่หรอกค่ะ พี่มิโดริ เพิ่งมาถึงเอง...พอดีคุณพ่อต้องรีบไปกระทันหัน...เลยไม่ได้บอกว่าจะมาเร็วขนาดนี้น่ะค่ะ”
‘มิโดริ’ ผู้ดูแลคุณย่าที่ออกมาต้อนรับยูนะ เธอสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านเมื่อสักครู่ จึงออกมาดูก็พบว่าเป็นยูนะ หลานสาว ‘ตระกูลฮายาชิ’ ที่เธอเคยเห็นมาตั้งแต่ยังเล็กๆ จนกระทั่งยูนะอายุได้เจ็ดปี ยูนะก็จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ในเมืองกับพ่อและแม่ของเธอ
...เมื่อก้าวเข้ามาในตัวบ้าน ลมเย็นยะเยือกพัดผ่านใบหน้าหวานและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอ พร้อมกับความเงียบผิดปกติ จะมีก็แต่เสียงไม้ที่ลั่น ซึ่งเกิดจากการเหยียบไปบนพื้นบ้าน... แสงอ่อนๆของโคมไฟภายในบ้าน ทำให้ยูนะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา ‘บรรยากาศแบบนี้ มันคุ้นๆยังไงไม่รู้สิ’
ยูนะเดินตามพี่มิโดริมาจนถึงห้องๆหนึ่ง หญิงสูงวัยคนหนึ่งกำลังนั่งจิบน้ำชาด้วยท่าทางที่สง่างาม ถึงแม้จะดูมีอายุ แต่เธอยังคงความสง่างามจนทำให้ยูนะที่มองอยู่ถึงกับจ้องไม่ยอม ละสายตา เธอค่อยๆหันมามองยูนะที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับยิ้มให้หลานสาวราวกับว่าอยากเจอเอามากๆ
“กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอหลานเลย ปีนี้หลานก็อายุ 17 แล้วใช่มั้ย...โตเป็นสาวสวยเชียวนะเรา…มาให้ย่ากอดหน่อยเร็ว”
คุณย่ายื่นแขนทั้งสองข้างออกไป เพื่อรอการตอบรับจากหลานสาว ยูนะที่ยืนยิ้มอยู่ก็รีบเดินเข้าไปให้คุณย่าโอบกอดตามคำขอของคุณย่าทันที
“คุณย่ายังดูสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ ยังดูสง่างามเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ”
ยูนะที่ชื่นชมคุณย่ามาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้ ทำให้คุณย่ามีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง
สองย่าหลานกล่าวทักทายด้วยความคิดถึงกันอยู่ครู่หนึ่ง พี่มิโดริซึ่งเดินเข้ามาในห้องเพื่อมาขนสัมภาระต่างๆของยูนะขึ้นห้อง ทำให้ยูนะหันควับ!
“พี่มิโดริคะ!! รบกวนพี่เปล่าๆ เดี๋ยวหนูเอาไปเก็บเองค่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณหนูยูนะ มันเป็นหน้าที่ของพี่”
“พี่เรียกหนูว่า ยูนะ เฉยๆเถอะค่ะ เรียกคุณหนูมันดูแปลกๆไปหน่อย”
“ไม่ได้ค่ะ!! มันเป็นกฎของตระกูล”
ทั้งสองเถียงกันพลางยื้อแย่งกระเป๋ากันอยู่ซักครู่ ทำให้คุณย่าที่นั่งมองอยู่ถึงกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็มีรอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของคุณย่า เพราะทั้งสองคนเถียงกันอย่างกับเด็กๆ จากที่บ้านดูเงียบเชียบและน่าเบื่อ กลับสดใสขึ้นมาเมื่อยูนะมาถึง
ตุบ!!
เสียงอะไรบางจากหล่นออกมาจากเป้ของยูนะ แต่ทั้งสองคนที่ยังเถียงกันอยู่ จึงทำให้คนที่สังเกตเห็นมีเพียงคุณย่าที่นั่งอยู่ คุณย่าจึงลุกขึ้นเพื่อไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตาขึ้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…
“ยูนะ!!...หนังสือเล่มนี้ของหลานเหรอ...หลานไปได้มันมาจากไหน!?”
ยูนะที่ชะงักลงหลังจากได้ยินเสียงของคุณย่าถามขึ้นจึงกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ค่ะ...หนูได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอยที่บ้านคุณพ่อ...คุณปู่เจ้าของร้านให้เลือกมาเล่มนึงน่ะค่ะ แต่แปลกมากเลยนะคะ คุณปู่คนนั้นเค้าเปิดร้านหนังสือ แต่กลับให้มาฟรีๆ”
คุณย่าที่ได้ยินยูนะพูดถึงร้านหนังสือแห่งนั้น ก็ทำหน้าเหม่อลอยในทันที เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ยูนะที่เห็นคุณย่ามีอาการเช่นนั้นจึงถามขึ้น
“คุณย่าเป็นอะไรรึเปล่าคะ?...หรือว่าคุณย่าก็รู้จักร้านนั้น”
“เอ๊ะ?...อ๋อ...ไม่หรอกจ่ะ...แค่...มันทำให้นึกถึงใครบางคนที่ย่าเคยรู้จักน่ะ...อย่าไปใส่ใจเลย...กินข้าวเย็นกันดีกว่า วันนี้มิโดริบอกจะทำของโปรดให้หลานกินด้วยนะจ๊ะ”
ยูนะได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรต่อ เธอจึงเดินจับแขนของคุณย่าไปที่ห้องรับประทานอาหาร และเพราะเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน เมื่อกินข้าวเสร็จเธอจึงรีบเข้านอนทันที
*****
‘อรุณสวัสดิ์...ท่านหญิง’
‘อืมม...เอ๋!!!! ตัววีเซิล!!? ธะ เธอเข้ามาได้ไง’
ยูนะที่หลับสบาย ต้องตกใจตื่นขึ้น เพราะจู่ๆก็มีตัวคาไมทาจิ(วีเซิลหรือเพียงพอน)สีน้ำตาลเข้ามาอยู่ในห้องนอนของเธอ แถมยังพูดได้อีกต่างหาก!! ทำให้เธอรู้สึกกลัวกลับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
‘หืม?...ข้าคือคาไมทาจิไม่ใช่ตัววีเซิลอะไรนั่น...และตอนนี้คือเวลาตายของท่านแล้ว!!!!’
“ไม่นะ!!!!”
คาไมทาจิสีน้ำตาลกระโจนเข้ามาหาเธอพร้อมกับเคียวคู่หนึ่งที่ถืออยู่ ทำให้ยูนะกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับสะดุ้งตื่นจากฝันนั้นในทันที
“เอ๊ะ!?...ฝันหรอกเหรอ”
ถึงจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความฝัน แต่เธอก็ยังคงกลัวอยู่ดี ร่างกายตอนตื่นนอนยังคงสั่นเทิ้ม ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อกี้เป็นเรื่องจริง ขณะที่ยูนะกำลังนั่งนิ่งอยู่บนฟูก เธอนึกถึงหนังสือที่ได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอย ยูนะคิดว่าคงอ่านหนังสือเล่มนั้นมากไป จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย
“คุณหนูยูนะ…ตื่นรึยังคะ!?”
เสียงเรียกของพี่มิโดริที่เรียกให้ยูนะออกไปทานข้าวพร้อมคุณย่า ทำให้เธอต้องสะดุ้งอีกครั้ง เธอจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาคุณย่าที่ห้องรับประทานอาหารทันที เมื่อยูนะกินข้าวเสร็จจู่ๆ คุณย่าของเธอก็ขอร้องอะไรบางอย่างขึ้น พร้อมกับยื่นกระดาษใบหนึ่งให้
“ยูนะ...หลานช่วยไปตามแผนที่นี้หน่อยนะจ๊ะ...เป็นแผนที่ไปยังศาลเจ้าบนภูเขา ย่าอยากให้หลานไปกราบไหว้ศาลเจ้าข้างบนนั้น เป็นศาลเจ้าเก่าๆแต่ว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อก่อนย่ากับปู่ของหลาน เคยไปด้วยกันบ่อยๆ แต่ตอนนี้ย่าคงขึ้นไปไม่ไหวแล้วล่ะ”
...
“ค่ะ...แล้วหนูจะรีบไปรีบมานะคะ”
ยูนะทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับคุณย่าด้วยรอยยิ้มและลุกพรวดพร้อมที่จะทำตามคำขออย่างรวดเร็ว แต่คุณย่าเรียกให้เธอหยุดซะก่อน พร้อมกับเดินมาใกล้ๆยูนะ
“นี่เป็นสร้อยเครื่องรางประจำตระกูล ใช้ป้องกันภูติ ผี ปีศาจ ถ้าหลานสวมไว้ จะไม่มีอะไรทำอันตรายหลานได้ แล้วก่อนจะออกจากบ้าน หลานท่องตามนี้นะ”
ยูนะหยิบสร้อยขึ้นมาดู สร้อยเส้นนั้นมีจี้ที่งดงาม จี้ของสร้อยเป็นสีแดงเข้มมีประกายวาววับทรงหยดน้ำ มันสวยงามราวกับอัญมณีล้ำค่า มันทำให้เธอจ้องมองสร้อยเส้นนั้นอย่างไม่ละสายตาไปอยู่ครู่หนึ่งเลยทีเดียว
ยูนะเดินทางออกจากบ้านพร้อมกับสร้อยที่เธอเก็บไว้เป้ และแผนที่ในมือ สร้อยเส้นนั้นทำให้เธอลืมที่คุณย่าบอกก่อนออกจากบ้านว่าให้ท่องอะไรบางอย่าง เธอจำได้เพียงแค่ว่า เธอจะต้องไปตามแผนที่ ที่คุณย่าเขียนไว้
*****
ยูนะเดินขึ้นเขามาได้ซักพัก เธอนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ ริมเขา พร้อมกับเป้ที่สะพายมาด้วย และเผลองีบหลับไป
ลมเย็นๆบนภูเขาพัดมาปะทะเข้ากับใบหน้าและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอระรอกหนึ่ง ทำให้ยูนะรู้สึกสดชื่นขึ้นแต่ยังคงหลับตาอยู่ ลมระรอกที่สองกำลังพัดมาปะทะกับใบหน้าเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับต่างจากครั้งแรก เพราะครั้งนี้ลมที่พัดมา มีความแรงผิดปกติ เธอจึงลุกยืนขึ้นด้วยความตกใจ แรงลมทำให้ร่างเล็กของเธอแทบจะล้มลงกับพื้น
...
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ยูนะล้มกลิ้งลงไปกับพื้นเพราะแรงลม เธอพยายามที่จะยืนขึ้นแต่ไม่สามารถต้านตานแรงลมได้ ทำให้เธอต้องนั่งอยู่กับพื้น และแล้วจู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เพราะร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่เหมือนกับโดนของมีคมบาด เสื้อผ้าของเธอเริ่มขาดวิ่น ความเจ็บที่เกิดจากบาดแผลทำให้เธอเริ่มกรีดร้อง ยูนะได้แต่นั่งอยู่ที่พื้นพร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมา
“หยุดนะ!!...คุโรอิ!!”
เสียงของใครบางคนทำให้ลมที่กำลังพัดหยุดลงทันที! ยูนะที่นั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บอยู่ จึงไม่ได้มองว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น
“ข้าจะทายาที่แผลให้...ท่านหญิงอยู่นิ่งๆนะ”
ยูนะที่เงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอถึงกับตกใจจนต้องส่งเสียงออกมา เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะ ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากจึงตะโกนถามออกมาด้วยความตกใจ
“ธะ เธอ!!...คือวีเซิลพูดได้ที่อยู่ในฝันตัวนั้น....ทะ ที่พยายามจะฆ่าชั้นใช่มั้ย!?”
“เอ๊ะ??...”
คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะตัวนั้น ทำให้เธอตกใจจนไม่กล้ามองและไม่กล้าที่จะลุกหนีไปไหน เพราะเธอกลัวว่าจะเป็นแบบในฝัน
คาไมทาจิสีขาวที่นั่งอยู่ตรงหน้ายูนะ ชี้ไปยังคาไมทาจิอีกตัวซึ่งลำตัวเป็นสีน้ำตาลที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ
“วีเซิลสีน้ำตาลตัวนี้หรือเปล่าที่อยู่ในฝันท่าน เจ้านี่ก็ชอบแกล้งแบบนี้แหละ...ไม่เป็นอันตรายต่อท่านหรอก...คนที่เป็นอันตราย...คงจะเป็นเจ้านั่นซะมากกว่า!”
คาไมทาจิสีขาวพูดพลางหันไปมองคาไมทาจิสีดำที่ยืนสองขา ส่วนขาหน้าถือเคียวคู่ กำลังหันหลังพิงต้นไม้อยู่ไกลๆและดูมีท่าทีที่โมโหปนกับท่าทีที่เบื่อหน่ายเอามากๆ ร่างกายของยูนะยังคงสั่นเทิ้มเพราะความตกใจกลัวไม่หาย
“อ้อ!...ร่างนี้ท่านคงไม่สะดวกที่จะคุยสินะ งั้น…”
ฟิ้วว!!
ร่างของคาไมทาจิสีขาวที่อยู่ตรงหน้า กลับกลายเป็นร่างของชายหนุ่มรูปงามที่ดูอ่อนโยน สวมชุดยูคาตะสีน้ำเงินเข้มขับกับผมสีขาวประกายเงิน นัยน์ตาคู่นั้นมีสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งดูแล้วคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน ร่างนั้นทำให้ยูนะเผลอจ้องมองโดยไม่รู้ตัว
…..
“ขออภัยกับเรื่องเมื่อตอนเช้าด้วยขอรับ...ที่ข้าหยอกท่านแรงไป”
ชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลอ่อน เข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาของเขาดูน่ารักมากซึ่งดูแล้วน่าจะอายุยังน้อย เขาสวมชุดฮากามะที่มีเสื้อสีขาวและกางเกงจับจีบสีเทา (คล้ายชุดซามูไรกับชุดยิงธนู) เขานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้ายูนะ คนที่คือคาไมทาจิสีน้ำตาลเมื่อกี้ กล่าวขอโทษยูนะ และค่อยๆเงยหน้าขึ้น พร้อมกับยิ้มให้ยูนะอย่างสดใส ทำให้ยูนะลืมไปว่าเธอกำลังตกใจกลัวอยู่
จากที่ยูนะนั่งจ้องคาไมทาจิทั้งสองที่แปลงกายเป็นผู้ชายด้วยความกลัวอยู่ซักครู่ก็มีเสียงพุดขึ้น
“ข้ามีนามว่า ‘ชิโรมิ’...เป็นพี่ใหญ่สุด เจ้านี่...‘ซาอิโร่’...น้องเล็กสุด ส่วนนั่น คาไมทาจิสีดำที่กำลังยืนพิงต้นไม้อยู่ มีนามว่า...'คุโรอิ' เป็นน้องคนกลาง”
ชิโรมิพูดแนะนำน้องๆคาไมทาจิเสร็จจึงยืนนิ่งไป เขาจ้องมองยูนะอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น
“พวกข้าต้องปกป้องท่าน และคนที่จะปกป้องท่านได้มากที่สุด ก็คือเจ้านั่น!!”
ชิโรมิพูดพลางหันไปมองคุโรอิ คาไมทาจิสีดำ ที่ยังคงยืนก้มหน้าพิงต้นไม้อยู่นิ่งๆและไม่ยอมหันมาแม้แต่น้อย
เสียงฝีเท้าของยูนะค่อยๆหยุดลงที่หน้าหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท หลังจากที่เธอนั่งรถไฟมานานพอสมควร ไหนจะต้องไปต่อรถเพื่อมาส่งที่หน้าหมู่บ้าน ตอนนี้เธอยังต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีก แถมยังต้องเดินหาบ้านคุณย่า ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีกเล็กน้อย เพราะคุณย่าของเธอเป็นคนรักสงบ ดังนั้นจึงไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก จะมีก็แต่ผู้ดูแลสาว ที่คอยดูแลคุณย่ามานาน
….
ยูนะก้มมองแผนที่ ที่คุณพ่อของเธอเขียนให้ ก่อนจะออกจากบ้าน เพราะกลัวว่ายูนะจะลืมว่าบ้านของคุณย่าไปทางไหน ทั้งๆที่ซอยในหมู่บ้านก็มีอยู่แค่ซอยเดียว…
ยูนะเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านที่แวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความเก่าแก่ รั้วบ้านที่สูงจนเกือบจะบดบังตัวบ้าน และเมื่อเดินเข้ามาถึงประตูทางเข้า ก็จะมองเห็นบ้านสองชั้นสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่ ภายในบ้านยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติเช่นเดียวกับข้างนอก
....
“อ้าว!...คุณหนูยูนะ...ยืนรอนานรึเปล่าคะ ทำไมไม่เรียกดิชั้นล่ะคะ...ไม่คิดว่าคุณหนูจะมาถึงเร็วกว่ากำหนดขนาดนี้”
“ไม่หรอกค่ะ พี่มิโดริ เพิ่งมาถึงเอง...พอดีคุณพ่อต้องรีบไปกระทันหัน...เลยไม่ได้บอกว่าจะมาเร็วขนาดนี้น่ะค่ะ”
‘มิโดริ’ ผู้ดูแลคุณย่าที่ออกมาต้อนรับยูนะ เธอสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านเมื่อสักครู่ จึงออกมาดูก็พบว่าเป็นยูนะ หลานสาว ‘ตระกูลฮายาชิ’ ที่เธอเคยเห็นมาตั้งแต่ยังเล็กๆ จนกระทั่งยูนะอายุได้เจ็ดปี ยูนะก็จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ในเมืองกับพ่อและแม่ของเธอ
...เมื่อก้าวเข้ามาในตัวบ้าน ลมเย็นยะเยือกพัดผ่านใบหน้าหวานและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอ พร้อมกับความเงียบผิดปกติ จะมีก็แต่เสียงไม้ที่ลั่น ซึ่งเกิดจากการเหยียบไปบนพื้นบ้าน... แสงอ่อนๆของโคมไฟภายในบ้าน ทำให้ยูนะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา ‘บรรยากาศแบบนี้ มันคุ้นๆยังไงไม่รู้สิ’
ยูนะเดินตามพี่มิโดริมาจนถึงห้องๆหนึ่ง หญิงสูงวัยคนหนึ่งกำลังนั่งจิบน้ำชาด้วยท่าทางที่สง่างาม ถึงแม้จะดูมีอายุ แต่เธอยังคงความสง่างามจนทำให้ยูนะที่มองอยู่ถึงกับจ้องไม่ยอม ละสายตา เธอค่อยๆหันมามองยูนะที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับยิ้มให้หลานสาวราวกับว่าอยากเจอเอามากๆ
“กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอหลานเลย ปีนี้หลานก็อายุ 17 แล้วใช่มั้ย...โตเป็นสาวสวยเชียวนะเรา…มาให้ย่ากอดหน่อยเร็ว”
คุณย่ายื่นแขนทั้งสองข้างออกไป เพื่อรอการตอบรับจากหลานสาว ยูนะที่ยืนยิ้มอยู่ก็รีบเดินเข้าไปให้คุณย่าโอบกอดตามคำขอของคุณย่าทันที
“คุณย่ายังดูสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ ยังดูสง่างามเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ”
ยูนะที่ชื่นชมคุณย่ามาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้ ทำให้คุณย่ามีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง
สองย่าหลานกล่าวทักทายด้วยความคิดถึงกันอยู่ครู่หนึ่ง พี่มิโดริซึ่งเดินเข้ามาในห้องเพื่อมาขนสัมภาระต่างๆของยูนะขึ้นห้อง ทำให้ยูนะหันควับ!
“พี่มิโดริคะ!! รบกวนพี่เปล่าๆ เดี๋ยวหนูเอาไปเก็บเองค่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณหนูยูนะ มันเป็นหน้าที่ของพี่”
“พี่เรียกหนูว่า ยูนะ เฉยๆเถอะค่ะ เรียกคุณหนูมันดูแปลกๆไปหน่อย”
“ไม่ได้ค่ะ!! มันเป็นกฎของตระกูล”
ทั้งสองเถียงกันพลางยื้อแย่งกระเป๋ากันอยู่ซักครู่ ทำให้คุณย่าที่นั่งมองอยู่ถึงกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็มีรอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของคุณย่า เพราะทั้งสองคนเถียงกันอย่างกับเด็กๆ จากที่บ้านดูเงียบเชียบและน่าเบื่อ กลับสดใสขึ้นมาเมื่อยูนะมาถึง
ตุบ!!
เสียงอะไรบางจากหล่นออกมาจากเป้ของยูนะ แต่ทั้งสองคนที่ยังเถียงกันอยู่ จึงทำให้คนที่สังเกตเห็นมีเพียงคุณย่าที่นั่งอยู่ คุณย่าจึงลุกขึ้นเพื่อไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตาขึ้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…
“ยูนะ!!...หนังสือเล่มนี้ของหลานเหรอ...หลานไปได้มันมาจากไหน!?”
ยูนะที่ชะงักลงหลังจากได้ยินเสียงของคุณย่าถามขึ้นจึงกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ค่ะ...หนูได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอยที่บ้านคุณพ่อ...คุณปู่เจ้าของร้านให้เลือกมาเล่มนึงน่ะค่ะ แต่แปลกมากเลยนะคะ คุณปู่คนนั้นเค้าเปิดร้านหนังสือ แต่กลับให้มาฟรีๆ”
คุณย่าที่ได้ยินยูนะพูดถึงร้านหนังสือแห่งนั้น ก็ทำหน้าเหม่อลอยในทันที เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ยูนะที่เห็นคุณย่ามีอาการเช่นนั้นจึงถามขึ้น
“คุณย่าเป็นอะไรรึเปล่าคะ?...หรือว่าคุณย่าก็รู้จักร้านนั้น”
“เอ๊ะ?...อ๋อ...ไม่หรอกจ่ะ...แค่...มันทำให้นึกถึงใครบางคนที่ย่าเคยรู้จักน่ะ...อย่าไปใส่ใจเลย...กินข้าวเย็นกันดีกว่า วันนี้มิโดริบอกจะทำของโปรดให้หลานกินด้วยนะจ๊ะ”
ยูนะได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรต่อ เธอจึงเดินจับแขนของคุณย่าไปที่ห้องรับประทานอาหาร และเพราะเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน เมื่อกินข้าวเสร็จเธอจึงรีบเข้านอนทันที
*****
‘อรุณสวัสดิ์...ท่านหญิง’
‘อืมม...เอ๋!!!! ตัววีเซิล!!? ธะ เธอเข้ามาได้ไง’
ยูนะที่หลับสบาย ต้องตกใจตื่นขึ้น เพราะจู่ๆก็มีตัวคาไมทาจิ(วีเซิลหรือเพียงพอน)สีน้ำตาลเข้ามาอยู่ในห้องนอนของเธอ แถมยังพูดได้อีกต่างหาก!! ทำให้เธอรู้สึกกลัวกลับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
‘หืม?...ข้าคือคาไมทาจิไม่ใช่ตัววีเซิลอะไรนั่น...และตอนนี้คือเวลาตายของท่านแล้ว!!!!’
“ไม่นะ!!!!”
คาไมทาจิสีน้ำตาลกระโจนเข้ามาหาเธอพร้อมกับเคียวคู่หนึ่งที่ถืออยู่ ทำให้ยูนะกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับสะดุ้งตื่นจากฝันนั้นในทันที
“เอ๊ะ!?...ฝันหรอกเหรอ”
ถึงจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความฝัน แต่เธอก็ยังคงกลัวอยู่ดี ร่างกายตอนตื่นนอนยังคงสั่นเทิ้ม ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อกี้เป็นเรื่องจริง ขณะที่ยูนะกำลังนั่งนิ่งอยู่บนฟูก เธอนึกถึงหนังสือที่ได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอย ยูนะคิดว่าคงอ่านหนังสือเล่มนั้นมากไป จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย
“คุณหนูยูนะ…ตื่นรึยังคะ!?”
เสียงเรียกของพี่มิโดริที่เรียกให้ยูนะออกไปทานข้าวพร้อมคุณย่า ทำให้เธอต้องสะดุ้งอีกครั้ง เธอจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาคุณย่าที่ห้องรับประทานอาหารทันที เมื่อยูนะกินข้าวเสร็จจู่ๆ คุณย่าของเธอก็ขอร้องอะไรบางอย่างขึ้น พร้อมกับยื่นกระดาษใบหนึ่งให้
“ยูนะ...หลานช่วยไปตามแผนที่นี้หน่อยนะจ๊ะ...เป็นแผนที่ไปยังศาลเจ้าบนภูเขา ย่าอยากให้หลานไปกราบไหว้ศาลเจ้าข้างบนนั้น เป็นศาลเจ้าเก่าๆแต่ว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อก่อนย่ากับปู่ของหลาน เคยไปด้วยกันบ่อยๆ แต่ตอนนี้ย่าคงขึ้นไปไม่ไหวแล้วล่ะ”
...
“ค่ะ...แล้วหนูจะรีบไปรีบมานะคะ”
ยูนะทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับคุณย่าด้วยรอยยิ้มและลุกพรวดพร้อมที่จะทำตามคำขออย่างรวดเร็ว แต่คุณย่าเรียกให้เธอหยุดซะก่อน พร้อมกับเดินมาใกล้ๆยูนะ
“นี่เป็นสร้อยเครื่องรางประจำตระกูล ใช้ป้องกันภูติ ผี ปีศาจ ถ้าหลานสวมไว้ จะไม่มีอะไรทำอันตรายหลานได้ แล้วก่อนจะออกจากบ้าน หลานท่องตามนี้นะ”
ยูนะหยิบสร้อยขึ้นมาดู สร้อยเส้นนั้นมีจี้ที่งดงาม จี้ของสร้อยเป็นสีแดงเข้มมีประกายวาววับทรงหยดน้ำ มันสวยงามราวกับอัญมณีล้ำค่า มันทำให้เธอจ้องมองสร้อยเส้นนั้นอย่างไม่ละสายตาไปอยู่ครู่หนึ่งเลยทีเดียว
ยูนะเดินทางออกจากบ้านพร้อมกับสร้อยที่เธอเก็บไว้เป้ และแผนที่ในมือ สร้อยเส้นนั้นทำให้เธอลืมที่คุณย่าบอกก่อนออกจากบ้านว่าให้ท่องอะไรบางอย่าง เธอจำได้เพียงแค่ว่า เธอจะต้องไปตามแผนที่ ที่คุณย่าเขียนไว้
*****
ยูนะเดินขึ้นเขามาได้ซักพัก เธอนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ ริมเขา พร้อมกับเป้ที่สะพายมาด้วย และเผลองีบหลับไป
ลมเย็นๆบนภูเขาพัดมาปะทะเข้ากับใบหน้าและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอระรอกหนึ่ง ทำให้ยูนะรู้สึกสดชื่นขึ้นแต่ยังคงหลับตาอยู่ ลมระรอกที่สองกำลังพัดมาปะทะกับใบหน้าเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับต่างจากครั้งแรก เพราะครั้งนี้ลมที่พัดมา มีความแรงผิดปกติ เธอจึงลุกยืนขึ้นด้วยความตกใจ แรงลมทำให้ร่างเล็กของเธอแทบจะล้มลงกับพื้น
...
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ยูนะล้มกลิ้งลงไปกับพื้นเพราะแรงลม เธอพยายามที่จะยืนขึ้นแต่ไม่สามารถต้านตานแรงลมได้ ทำให้เธอต้องนั่งอยู่กับพื้น และแล้วจู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เพราะร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่เหมือนกับโดนของมีคมบาด เสื้อผ้าของเธอเริ่มขาดวิ่น ความเจ็บที่เกิดจากบาดแผลทำให้เธอเริ่มกรีดร้อง ยูนะได้แต่นั่งอยู่ที่พื้นพร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมา
“หยุดนะ!!...คุโรอิ!!”
เสียงของใครบางคนทำให้ลมที่กำลังพัดหยุดลงทันที! ยูนะที่นั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บอยู่ จึงไม่ได้มองว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น
“ข้าจะทายาที่แผลให้...ท่านหญิงอยู่นิ่งๆนะ”
ยูนะที่เงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอถึงกับตกใจจนต้องส่งเสียงออกมา เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะ ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากจึงตะโกนถามออกมาด้วยความตกใจ
“ธะ เธอ!!...คือวีเซิลพูดได้ที่อยู่ในฝันตัวนั้น....ทะ ที่พยายามจะฆ่าชั้นใช่มั้ย!?”
“เอ๊ะ??...”
คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะตัวนั้น ทำให้เธอตกใจจนไม่กล้ามองและไม่กล้าที่จะลุกหนีไปไหน เพราะเธอกลัวว่าจะเป็นแบบในฝัน
คาไมทาจิสีขาวที่นั่งอยู่ตรงหน้ายูนะ ชี้ไปยังคาไมทาจิอีกตัวซึ่งลำตัวเป็นสีน้ำตาลที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ
“วีเซิลสีน้ำตาลตัวนี้หรือเปล่าที่อยู่ในฝันท่าน เจ้านี่ก็ชอบแกล้งแบบนี้แหละ...ไม่เป็นอันตรายต่อท่านหรอก...คนที่เป็นอันตราย...คงจะเป็นเจ้านั่นซะมากกว่า!”
คาไมทาจิสีขาวพูดพลางหันไปมองคาไมทาจิสีดำที่ยืนสองขา ส่วนขาหน้าถือเคียวคู่ กำลังหันหลังพิงต้นไม้อยู่ไกลๆและดูมีท่าทีที่โมโหปนกับท่าทีที่เบื่อหน่ายเอามากๆ ร่างกายของยูนะยังคงสั่นเทิ้มเพราะความตกใจกลัวไม่หาย
“อ้อ!...ร่างนี้ท่านคงไม่สะดวกที่จะคุยสินะ งั้น…”
ฟิ้วว!!
ร่างของคาไมทาจิสีขาวที่อยู่ตรงหน้า กลับกลายเป็นร่างของชายหนุ่มรูปงามที่ดูอ่อนโยน สวมชุดยูคาตะสีน้ำเงินเข้มขับกับผมสีขาวประกายเงิน นัยน์ตาคู่นั้นมีสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งดูแล้วคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน ร่างนั้นทำให้ยูนะเผลอจ้องมองโดยไม่รู้ตัว
…..
“ขออภัยกับเรื่องเมื่อตอนเช้าด้วยขอรับ...ที่ข้าหยอกท่านแรงไป”
ชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลอ่อน เข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาของเขาดูน่ารักมากซึ่งดูแล้วน่าจะอายุยังน้อย เขาสวมชุดฮากามะที่มีเสื้อสีขาวและกางเกงจับจีบสีเทา (คล้ายชุดซามูไรกับชุดยิงธนู) เขานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้ายูนะ คนที่คือคาไมทาจิสีน้ำตาลเมื่อกี้ กล่าวขอโทษยูนะ และค่อยๆเงยหน้าขึ้น พร้อมกับยิ้มให้ยูนะอย่างสดใส ทำให้ยูนะลืมไปว่าเธอกำลังตกใจกลัวอยู่
จากที่ยูนะนั่งจ้องคาไมทาจิทั้งสองที่แปลงกายเป็นผู้ชายด้วยความกลัวอยู่ซักครู่ก็มีเสียงพุดขึ้น
“ข้ามีนามว่า ‘ชิโรมิ’...เป็นพี่ใหญ่สุด เจ้านี่...‘ซาอิโร่’...น้องเล็กสุด ส่วนนั่น คาไมทาจิสีดำที่กำลังยืนพิงต้นไม้อยู่ มีนามว่า...'คุโรอิ' เป็นน้องคนกลาง”
ชิโรมิพูดแนะนำน้องๆคาไมทาจิเสร็จจึงยืนนิ่งไป เขาจ้องมองยูนะอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น
“พวกข้าต้องปกป้องท่าน และคนที่จะปกป้องท่านได้มากที่สุด ก็คือเจ้านั่น!!”
ชิโรมิพูดพลางหันไปมองคุโรอิ คาไมทาจิสีดำ ที่ยังคงยืนก้มหน้าพิงต้นไม้อยู่นิ่งๆและไม่ยอมหันมาแม้แต่น้อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ