KAMAITACHI ♥ คาไมทาจิ ความรักของภูติลม

10.0

เขียนโดย เมอิ

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.45 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) [KAMAITACHI 2 พายุแรก]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตุบ  ตุบ  ตุบ …

 

เสียงฝีเท้าของยูนะค่อยๆหยุดลงที่หน้าหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท หลังจากที่เธอนั่งรถไฟมานานพอสมควร  ไหนจะต้องไปต่อรถเพื่อมาส่งที่หน้าหมู่บ้าน  ตอนนี้เธอยังต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีก  แถมยังต้องเดินหาบ้านคุณย่า  ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีกเล็กน้อย  เพราะคุณย่าของเธอเป็นคนรักสงบ  ดังนั้นจึงไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก  จะมีก็แต่ผู้ดูแลสาว  ที่คอยดูแลคุณย่ามานาน

….

ยูนะก้มมองแผนที่  ที่คุณพ่อของเธอเขียนให้  ก่อนจะออกจากบ้าน  เพราะกลัวว่ายูนะจะลืมว่าบ้านของคุณย่าไปทางไหน  ทั้งๆที่ซอยในหมู่บ้านก็มีอยู่แค่ซอยเดียว…

 

ยูนะเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง  บ้านที่แวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความเก่าแก่  รั้วบ้านที่สูงจนเกือบจะบดบังตัวบ้าน  และเมื่อเดินเข้ามาถึงประตูทางเข้า  ก็จะมองเห็นบ้านสองชั้นสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่   ภายในบ้านยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติเช่นเดียวกับข้างนอก

....

 

“อ้าว!...คุณหนูยูนะ...ยืนรอนานรึเปล่าคะ   ทำไมไม่เรียกดิชั้นล่ะคะ...ไม่คิดว่าคุณหนูจะมาถึงเร็วกว่ากำหนดขนาดนี้”

“ไม่หรอกค่ะ  พี่มิโดริ  เพิ่งมาถึงเอง...พอดีคุณพ่อต้องรีบไปกระทันหัน...เลยไม่ได้บอกว่าจะมาเร็วขนาดนี้น่ะค่ะ”

 ‘มิโดริ’  ผู้ดูแลคุณย่าที่ออกมาต้อนรับยูนะ  เธอสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านเมื่อสักครู่  จึงออกมาดูก็พบว่าเป็นยูนะ  หลานสาว ‘ตระกูลฮายาชิ’ ที่เธอเคยเห็นมาตั้งแต่ยังเล็กๆ  จนกระทั่งยูนะอายุได้เจ็ดปี  ยูนะก็จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ในเมืองกับพ่อและแม่ของเธอ

 

...เมื่อก้าวเข้ามาในตัวบ้าน  ลมเย็นยะเยือกพัดผ่านใบหน้าหวานและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอ พร้อมกับความเงียบผิดปกติ  จะมีก็แต่เสียงไม้ที่ลั่น  ซึ่งเกิดจากการเหยียบไปบนพื้นบ้าน...      แสงอ่อนๆของโคมไฟภายในบ้าน  ทำให้ยูนะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา  ‘บรรยากาศแบบนี้  มันคุ้นๆยังไงไม่รู้สิ’

 

ยูนะเดินตามพี่มิโดริมาจนถึงห้องๆหนึ่ง   หญิงสูงวัยคนหนึ่งกำลังนั่งจิบน้ำชาด้วยท่าทางที่สง่างาม  ถึงแม้จะดูมีอายุ  แต่เธอยังคงความสง่างามจนทำให้ยูนะที่มองอยู่ถึงกับจ้องไม่ยอม    ละสายตา  เธอค่อยๆหันมามองยูนะที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับยิ้มให้หลานสาวราวกับว่าอยากเจอเอามากๆ

“กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอหลานเลย   ปีนี้หลานก็อายุ 17 แล้วใช่มั้ย...โตเป็นสาวสวยเชียวนะเรา…มาให้ย่ากอดหน่อยเร็ว”

คุณย่ายื่นแขนทั้งสองข้างออกไป  เพื่อรอการตอบรับจากหลานสาว  ยูนะที่ยืนยิ้มอยู่ก็รีบเดินเข้าไปให้คุณย่าโอบกอดตามคำขอของคุณย่าทันที

“คุณย่ายังดูสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ  ยังดูสง่างามเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ”

ยูนะที่ชื่นชมคุณย่ามาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้  ทำให้คุณย่ามีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง

 

 

สองย่าหลานกล่าวทักทายด้วยความคิดถึงกันอยู่ครู่หนึ่ง   พี่มิโดริซึ่งเดินเข้ามาในห้องเพื่อมาขนสัมภาระต่างๆของยูนะขึ้นห้อง  ทำให้ยูนะหันควับ!

 

“พี่มิโดริคะ!!  รบกวนพี่เปล่าๆ  เดี๋ยวหนูเอาไปเก็บเองค่ะ”

“ไม่หรอกค่ะ  คุณหนูยูนะ  มันเป็นหน้าที่ของพี่”

“พี่เรียกหนูว่า  ยูนะ เฉยๆเถอะค่ะ   เรียกคุณหนูมันดูแปลกๆไปหน่อย”

“ไม่ได้ค่ะ!!  มันเป็นกฎของตระกูล”

 

ทั้งสองเถียงกันพลางยื้อแย่งกระเป๋ากันอยู่ซักครู่  ทำให้คุณย่าที่นั่งมองอยู่ถึงกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย  แต่ถึงกระนั้นก็มีรอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของคุณย่า  เพราะทั้งสองคนเถียงกันอย่างกับเด็กๆ  จากที่บ้านดูเงียบเชียบและน่าเบื่อ  กลับสดใสขึ้นมาเมื่อยูนะมาถึง

 

ตุบ!!

 

เสียงอะไรบางจากหล่นออกมาจากเป้ของยูนะ   แต่ทั้งสองคนที่ยังเถียงกันอยู่   จึงทำให้คนที่สังเกตเห็นมีเพียงคุณย่าที่นั่งอยู่   คุณย่าจึงลุกขึ้นเพื่อไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา  แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตาขึ้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…

 

“ยูนะ!!...หนังสือเล่มนี้ของหลานเหรอ...หลานไปได้มันมาจากไหน!?”

ยูนะที่ชะงักลงหลังจากได้ยินเสียงของคุณย่าถามขึ้นจึงกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ค่ะ...หนูได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอยที่บ้านคุณพ่อ...คุณปู่เจ้าของร้านให้เลือกมาเล่มนึงน่ะค่ะ  แต่แปลกมากเลยนะคะ  คุณปู่คนนั้นเค้าเปิดร้านหนังสือ  แต่กลับให้มาฟรีๆ”

คุณย่าที่ได้ยินยูนะพูดถึงร้านหนังสือแห่งนั้น  ก็ทำหน้าเหม่อลอยในทันที  เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง  แต่ยูนะที่เห็นคุณย่ามีอาการเช่นนั้นจึงถามขึ้น

 

“คุณย่าเป็นอะไรรึเปล่าคะ?...หรือว่าคุณย่าก็รู้จักร้านนั้น”

“เอ๊ะ?...อ๋อ...ไม่หรอกจ่ะ...แค่...มันทำให้นึกถึงใครบางคนที่ย่าเคยรู้จักน่ะ...อย่าไปใส่ใจเลย...กินข้าวเย็นกันดีกว่า    วันนี้มิโดริบอกจะทำของโปรดให้หลานกินด้วยนะจ๊ะ”

 

ยูนะได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรต่อ  เธอจึงเดินจับแขนของคุณย่าไปที่ห้องรับประทานอาหาร  และเพราะเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน  เมื่อกินข้าวเสร็จเธอจึงรีบเข้านอนทันที

 

 

*****

 

‘อรุณสวัสดิ์...ท่านหญิง’

 

‘อืมม...เอ๋!!!! ตัววีเซิล!!?  ธะ  เธอเข้ามาได้ไง’

 

ยูนะที่หลับสบาย  ต้องตกใจตื่นขึ้น  เพราะจู่ๆก็มีตัวคาไมทาจิ(วีเซิลหรือเพียงพอน)สีน้ำตาลเข้ามาอยู่ในห้องนอนของเธอ  แถมยังพูดได้อีกต่างหาก!!  ทำให้เธอรู้สึกกลัวกลับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

 

‘หืม?...ข้าคือคาไมทาจิไม่ใช่ตัววีเซิลอะไรนั่น...และตอนนี้คือเวลาตายของท่านแล้ว!!!!’

 

“ไม่นะ!!!!”

คาไมทาจิสีน้ำตาลกระโจนเข้ามาหาเธอพร้อมกับเคียวคู่หนึ่งที่ถืออยู่  ทำให้ยูนะกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ  พร้อมกับสะดุ้งตื่นจากฝันนั้นในทันที

 

“เอ๊ะ!?...ฝันหรอกเหรอ”

 

ถึงจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความฝัน  แต่เธอก็ยังคงกลัวอยู่ดี  ร่างกายตอนตื่นนอนยังคงสั่นเทิ้ม  ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อกี้เป็นเรื่องจริง  ขณะที่ยูนะกำลังนั่งนิ่งอยู่บนฟูก  เธอนึกถึงหนังสือที่ได้มาจากร้านหนังสือท้ายซอย   ยูนะคิดว่าคงอ่านหนังสือเล่มนั้นมากไป  จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย

 

“คุณหนูยูนะ…ตื่นรึยังคะ!?”

เสียงเรียกของพี่มิโดริที่เรียกให้ยูนะออกไปทานข้าวพร้อมคุณย่า  ทำให้เธอต้องสะดุ้งอีกครั้ง  เธอจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาคุณย่าที่ห้องรับประทานอาหารทันที  เมื่อยูนะกินข้าวเสร็จจู่ๆ   คุณย่าของเธอก็ขอร้องอะไรบางอย่างขึ้น  พร้อมกับยื่นกระดาษใบหนึ่งให้

“ยูนะ...หลานช่วยไปตามแผนที่นี้หน่อยนะจ๊ะ...เป็นแผนที่ไปยังศาลเจ้าบนภูเขา  ย่าอยากให้หลานไปกราบไหว้ศาลเจ้าข้างบนนั้น   เป็นศาลเจ้าเก่าๆแต่ว่าศักดิ์สิทธิ์มาก   เมื่อก่อนย่ากับปู่ของหลาน  เคยไปด้วยกันบ่อยๆ  แต่ตอนนี้ย่าคงขึ้นไปไม่ไหวแล้วล่ะ”

 

...

“ค่ะ...แล้วหนูจะรีบไปรีบมานะคะ”

 

ยูนะทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับคุณย่าด้วยรอยยิ้มและลุกพรวดพร้อมที่จะทำตามคำขออย่างรวดเร็ว  แต่คุณย่าเรียกให้เธอหยุดซะก่อน  พร้อมกับเดินมาใกล้ๆยูนะ

“นี่เป็นสร้อยเครื่องรางประจำตระกูล  ใช้ป้องกันภูติ ผี ปีศาจ  ถ้าหลานสวมไว้  จะไม่มีอะไรทำอันตรายหลานได้  แล้วก่อนจะออกจากบ้าน  หลานท่องตามนี้นะ”

 

ยูนะหยิบสร้อยขึ้นมาดู  สร้อยเส้นนั้นมีจี้ที่งดงาม  จี้ของสร้อยเป็นสีแดงเข้มมีประกายวาววับทรงหยดน้ำ  มันสวยงามราวกับอัญมณีล้ำค่า  มันทำให้เธอจ้องมองสร้อยเส้นนั้นอย่างไม่ละสายตาไปอยู่ครู่หนึ่งเลยทีเดียว

ยูนะเดินทางออกจากบ้านพร้อมกับสร้อยที่เธอเก็บไว้เป้  และแผนที่ในมือ สร้อยเส้นนั้นทำให้เธอลืมที่คุณย่าบอกก่อนออกจากบ้านว่าให้ท่องอะไรบางอย่าง  เธอจำได้เพียงแค่ว่า  เธอจะต้องไปตามแผนที่  ที่คุณย่าเขียนไว้

 

 

*****

 

ยูนะเดินขึ้นเขามาได้ซักพัก  เธอนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ ริมเขา  พร้อมกับเป้ที่สะพายมาด้วย  และเผลองีบหลับไป 

ลมเย็นๆบนภูเขาพัดมาปะทะเข้ากับใบหน้าและผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอระรอกหนึ่ง  ทำให้ยูนะรู้สึกสดชื่นขึ้นแต่ยังคงหลับตาอยู่   ลมระรอกที่สองกำลังพัดมาปะทะกับใบหน้าเธออีกครั้ง  แต่ครั้งนี้กลับต่างจากครั้งแรก  เพราะครั้งนี้ลมที่พัดมา  มีความแรงผิดปกติ เธอจึงลุกยืนขึ้นด้วยความตกใจ  แรงลมทำให้ร่างเล็กของเธอแทบจะล้มลงกับพื้น

...

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ  ยูนะล้มกลิ้งลงไปกับพื้นเพราะแรงลม  เธอพยายามที่จะยืนขึ้นแต่ไม่สามารถต้านตานแรงลมได้  ทำให้เธอต้องนั่งอยู่กับพื้น   และแล้วจู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น  เพราะร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่เหมือนกับโดนของมีคมบาด   เสื้อผ้าของเธอเริ่มขาดวิ่น  ความเจ็บที่เกิดจากบาดแผลทำให้เธอเริ่มกรีดร้อง  ยูนะได้แต่นั่งอยู่ที่พื้นพร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมา

 

“หยุดนะ!!...คุโรอิ!!”

 

เสียงของใครบางคนทำให้ลมที่กำลังพัดหยุดลงทันที!  ยูนะที่นั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บอยู่  จึงไม่ได้มองว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น

“ข้าจะทายาที่แผลให้...ท่านหญิงอยู่นิ่งๆนะ”

ยูนะที่เงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่อยู่ตรงหน้าเธอ  เธอถึงกับตกใจจนต้องส่งเสียงออกมา เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ     คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะ   ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากจึงตะโกนถามออกมาด้วยความตกใจ

“ธะ  เธอ!!...คือวีเซิลพูดได้ที่อยู่ในฝันตัวนั้น....ทะ ที่พยายามจะฆ่าชั้นใช่มั้ย!?”

“เอ๊ะ??...”

คาไมทาจิสีขาวที่กำลังใช้ยาทาแผลให้กับยูนะตัวนั้น   ทำให้เธอตกใจจนไม่กล้ามองและไม่กล้าที่จะลุกหนีไปไหน  เพราะเธอกลัวว่าจะเป็นแบบในฝัน   

คาไมทาจิสีขาวที่นั่งอยู่ตรงหน้ายูนะ   ชี้ไปยังคาไมทาจิอีกตัวซึ่งลำตัวเป็นสีน้ำตาลที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ

“วีเซิลสีน้ำตาลตัวนี้หรือเปล่าที่อยู่ในฝันท่าน  เจ้านี่ก็ชอบแกล้งแบบนี้แหละ...ไม่เป็นอันตรายต่อท่านหรอก...คนที่เป็นอันตราย...คงจะเป็นเจ้านั่นซะมากกว่า!”

คาไมทาจิสีขาวพูดพลางหันไปมองคาไมทาจิสีดำที่ยืนสองขา  ส่วนขาหน้าถือเคียวคู่  กำลังหันหลังพิงต้นไม้อยู่ไกลๆและดูมีท่าทีที่โมโหปนกับท่าทีที่เบื่อหน่ายเอามากๆ  ร่างกายของยูนะยังคงสั่นเทิ้มเพราะความตกใจกลัวไม่หาย

 

“อ้อ!...ร่างนี้ท่านคงไม่สะดวกที่จะคุยสินะ  งั้น…”

 

ฟิ้วว!!

ร่างของคาไมทาจิสีขาวที่อยู่ตรงหน้า   กลับกลายเป็นร่างของชายหนุ่มรูปงามที่ดูอ่อนโยน  สวมชุดยูคาตะสีน้ำเงินเข้มขับกับผมสีขาวประกายเงิน  นัยน์ตาคู่นั้นมีสีน้ำเงินเข้ม  ซึ่งดูแล้วคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน  ร่างนั้นทำให้ยูนะเผลอจ้องมองโดยไม่รู้ตัว

 

…..

“ขออภัยกับเรื่องเมื่อตอนเช้าด้วยขอรับ...ที่ข้าหยอกท่านแรงไป”

ชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลอ่อน  เข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน  หน้าตาของเขาดูน่ารักมากซึ่งดูแล้วน่าจะอายุยังน้อย   เขาสวมชุดฮากามะที่มีเสื้อสีขาวและกางเกงจับจีบสีเทา (คล้ายชุดซามูไรกับชุดยิงธนู)   เขานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้ายูนะ  คนที่คือคาไมทาจิสีน้ำตาลเมื่อกี้  กล่าวขอโทษยูนะ  และค่อยๆเงยหน้าขึ้น พร้อมกับยิ้มให้ยูนะอย่างสดใส  ทำให้ยูนะลืมไปว่าเธอกำลังตกใจกลัวอยู่  

จากที่ยูนะนั่งจ้องคาไมทาจิทั้งสองที่แปลงกายเป็นผู้ชายด้วยความกลัวอยู่ซักครู่ก็มีเสียงพุดขึ้น

 

 “ข้ามีนามว่า ‘ชิโรมิ’...เป็นพี่ใหญ่สุด  เจ้านี่...‘ซาอิโร่’...น้องเล็กสุด  ส่วนนั่น  คาไมทาจิสีดำที่กำลังยืนพิงต้นไม้อยู่    มีนามว่า...'คุโรอิ'  เป็นน้องคนกลาง”

 

ชิโรมิพูดแนะนำน้องๆคาไมทาจิเสร็จจึงยืนนิ่งไป   เขาจ้องมองยูนะอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น

 

 

“พวกข้าต้องปกป้องท่าน  และคนที่จะปกป้องท่านได้มากที่สุด  ก็คือเจ้านั่น!!”

ชิโรมิพูดพลางหันไปมองคุโรอิ   คาไมทาจิสีดำ  ที่ยังคงยืนก้มหน้าพิงต้นไม้อยู่นิ่งๆและไม่ยอมหันมาแม้แต่น้อย

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา