ทาสรักเพลิงเเค้น

9.8

เขียนโดย ลูกแก้ว

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.15 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) สั่งสอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                   “นี่เสื้อผ้าคุณรวมทั้งชุดชั้นในด้วย”หลังจากที่ชายหนุ่มออกไปจากห้องราวๆสองชั่วโมงก็กลับเข้ามาในห้องพร้อมเสื้อผ้าหญิงสาวที่ไปเดินเลือกซื้อจากห้างที่มีราคาไม่แพงมากนักให้เธอใส่นับสิบชุด

                  “ทำไมมีแต่เสื้อผ้าแบบนี้ ผิวฉันไม่เสียหมดหรอยะ ถ้าใส่เสื้อผ้าราคาถูกๆแบบนี้” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเปิดดูเสื้อผ้าในถุงที่เขาซื้อมาให้มีแต่เสื้อผ้าราคาแต่ละตัวไม่ถึงพัน และถ้าให้เดาชุดชั้นในที่เขาซื้อมาให้คงวัดขนาดจากที่เขาเคยสัมผัสเธอเมื่อนึกถึงตรงนี้หน้าเนียนขาวก็แดงระเรื่อโดยไม่ทราบสาเหตุ

                  “ถ้าไม่เอาชุดพวกนี้ก็อยู่แบบเน่าๆไปนั่นแหละมีผัวจนก็ทำใจไว้หน่อยก็ดีนะครับว่าอะไรๆที่คุณเคยมีเคยได้มาง่ายๆและแพงๆต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว” ธีรภัทรเอ่ยเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่บอกให้รู้ว่าเขานั้นไม่ได้พูดเล่น “ถือถุงเสื้อผ้าแล้วตามผมมา” ชายหนุ่มออกคำสั่งแล้วเดินนำไปที่ห้องน้ำ

                เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำร่างสูงหยิบกะละมังวางให้เธอสามใบพร้อมผงซักฟอกก่อนจะออกคำสั่ง “ตักน้ำใส่กะละมังให้เต็มสองใบส่วนอีกใบใส่ไปแค่ครึ่งกะละมังพอ”

                “แกจะให้ฉันทำอะไร”หญิงสาวเอยถามพรางสงสัย

                “ก็ซักผ้าไงครับไม่รู้จักหรอ”ธีรภัทรยื่นหน้ามาตอบใกล้หญิงสาวจนเธอต้องถอยหลังหนีจนหลังชิดผนังห้องน้ำ

                “รู้จักย่ะ แต่ฉันสงสัยว่าทำไมแกไม่ใช้เครื่องซัก”

                “ไม่มี!! คุณเลิกถามอะไรโง่ๆได้ละ”ชายหนุ่มพูดแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูด “รีบๆทำตามที่ผมบอกซะบอกไว้ก่อนเลยนะครับคุณหนูถ้าไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าว” จริงๆแล้วเวลาซักผ้าเขาเองก็ใช้เครื่องซักที่ตั้งอยู่ด้านนอกของตัวตึกเพียงแต่ต้องการจะดัดนิสัย ยัยคุณหนูให้รู้จักทำอะไรให้เป็นบ้าง เลยปดไปว่าไม่มี

                “แล้วต้องทำไงยังก็รีบๆบอกมาซิ”ในเมื่อทำอะไรเจ้าของห้องไม่ได้ร่างบางเลยต้องจำยอมทำตามคำสั่งไม่เช่นนั้นเธอจะต้องอดกินข้าวซึ่งหญิงสาวก็ไม่อยากต้องนอนหิวข้าว ที่ผ่านมายังไม่เคยมีมื้อไหนที่เธอจะต้องอดข้าวซักครั้งแต่อยู่ๆจะมาให้อดข้าวอย่างนั้นหรอเธอทนไม่ได้หรอก

                “หยิบเสื้อลงไปขยำสักพักแล้วขยี้ๆพอคิดว่ามันสะอาดแล้วก็บิดใส่กะละมัง แล้วค่อยซักกางเกง ส่วนชุดชั้นในไว้สุดท้าย ซักน้ำเปล่าเสร็จทั้งสองน้ำแล้วบิดใส่ตะกร้านี้แล้วไปตากที่ราวนั่น” ธีรภัทรอธิบายให้เธอฟังทีละขั้นตอนแล้วจบด้วยการชี้ไปที่ราวตากผ้าที่อยู่ทางด้านซ้ายมือซึ้งเป็นเพียงแค่ราวเหล็กเส้นขนาดกลางๆเท่านั้น

                “แล้วทำไมแกไม่ซื้อชุดกระโปรงมาให้ฉันใส่เลยหละ นี่อะไรมีแต่กางเกงขาสั้น” แพรวาบ่นขณะพิจารณาเสื้อผ้าแต่ละตัวที่เขาซื้อมาให้ซึ่งเสื้อนั้นมีเพียงเสื้อยืดคอวีส่วนกางเกงก็ดีหน่อยที่ไม่ได้ยาวมากซึ่งความยาวเหนือหัวเข่าเธอมาประมาณคืบเลย

                “คุณอยู่ที่นี่ต้องทำงานไม่ได้ไปเที่ยวไหนเสียหน่อยใส่แต่กางเกงแหละดีแล้วอยู่กับผัวไม่เห็นต้องแต่งอะไรให้มากหรอกเพราะถึงยังไงเวลาขึ้นเตียงเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น”ถึงเรื่องที่พูดจะดูล้อเล่นแต่น้ำเสียงเขากลับจริงจังจนเธอรู้สึกหวั่นใจ

 

                เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงเมื่อหญิงสาวซักผ้าตามที่เขาสั่งเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมานั่งทานข้าวเพราะตอนนี้ก็บ่ายแล้วเธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเธอจึงรู้สึกหิวมาก

               “นี่ไม่มีที่นั่งทานข้าวที่ดีกว่านี้แล้วหรือไงนั่งกับโต๊ะเล็กแบบนี้แถมยังต้องนั่งกับพื้นอีกสกปรกจะตาย”เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเธอออกมาเห็นเขาเตรียมอาหารไว้เธอรู้สึกว่ามันไม่สมเกียรติที่คุณหนูอย่างเธอต้องลดตัวมานั่งทานข้าวในห้องแคบๆแบบนี้

                  “นี่ อย่าเรื่องมากได้ไหมซื้อมาให้กินก็ดีแค่ไหนแล้ว แม่คู๊ณ ถ้ากินไม่ได้ ก็ไปทำเองเลยไป”เขาเริ่มจะหงุดหงิดกับความเรื่องมากของเธอเต็มที

                  “ฉันไม่ได้เรื่องมากก็ฉันไม่เคยที่ต้องมานั่งทานกับพื้นแบบนี้เข้าใจไหมเพราะฉันเกิดมาอยู่บนกองเงินกองทองไม่ใช่กองขยะแบบแกที่จะกินจะนอนที่ไหนก็ได้”เธอมองไปรอบๆห้องแล้วทำหน้ารังเกียจกับสภาพแวดล้อมภายห้องดูยังไงก็ไม่ต่างจากรังหูห้องน้ำในห้องนอนเธอยังกว้างและน่าอยู่กว่าห้องนอนของเขาซะอีก

                  “เมื่อก่อนไม่เคยตอนนี้ก็เคยซะมีผัวจนๆมันก็ต้องทนนะครับคุณหนูแพรวา”เขาพูดเย้ยหยันให้เธอรู้สึกอายกับความจริงที่เธอปฏิเสธไม่ได้

                  “มันไม่มีเหตุผลความจำเป็นอะไรเลยที่ฉันจะต้องมาอยู่กับมันให้ได้เพราะฉันรวยฉันสามารถไปนั่งที่ร้านหรูราคาแพงๆได้ทุกมื้อและทุกวันก่อนจะบอกคนอื่นเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะฉันจะบอกอะไรให้นะ เงินเดือนที่แกได้จากการทำงานของพ่อฉันเทียบไม่ได้กับจำนวนที่ฉันใช้ซื้อเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า ฯลฯทั้งเดือนเลยด้วยซ้ำ”เธอสบประมาทเขาด้วยถ้อยคำดูถูกที่บังอาจมาสอนคนอย่างเธอ

                  “ไม่มีเหตุผลอย่างงั้นหรอคุณลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าตัวคุณเป็นใคร”ธีรภัทรถามด้วยน้ำเสียง เหี้ยมๆ ก่อนจะยื่นมาใกล้ๆเธอ

                  “ถามอะไรโง่ๆใครจะลืมว่าตัวเองเป็นใคร ฉัน น.ส.แพรวา ธนาวรเวช  ลูกสาวเจ้าของธุรกิจส่ง ออกอัญมณีแล้วแกก็ช่วยแกออกไปไกลๆเลยนะเหม็นขี้หน้าเห็นแล้วอยากจะอ้วก   แหวะ”

                  “ฮ่าๆๆๆๆ”เขาหัวเราะเมื่อได้ฟังที่เธอพูดจบ

                  “แกหัวเราะอะไร มันมีอะไรหน้าขำนักหนา”เธอถึงกับ งง ที่อยู่ดีๆเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

                  “ก็ขำคุณไง นี่คุณความจำเสื่อมหรือว่าความจำสั้นกันแน่มันก็ใช่นะที่คุณเป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจ แต่คุณอย่าลืมซิว่าคุณก็เป็นเมียคนกระจอกๆอย่างผมด้วยเห็นไหมว่าคุณมีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องนั่งทานข้าวกับพื้นแบบนี้แล้วพวกของใช้ไร้สาระที่คุณถลุงเงินไปใช้แต่ละเดือนให้มันเพลาๆลงหน่อยนะเพราะผมไม่มีปัญญาเลี้ยงคุณได้ขนาดนั้นหรอกนะ แต่ เอ๊ะ เมื่อกี้คุณบอกว่าอะไรนะ เหม็นขี้หน้าผม และจะอ้วก อย่างนั้นหรอ” ร่างสูงถามออกไปกับความคิดเจ้าเล่ห์

                  “ก็ใช่นะซิ  มีปัญหาอะไรแล้วเลิกคิดเรื่องนั้นเลยนะเพราะฉันไม่มีวันที่จะลดตัวมาใช้ชีวิตอยู่กับแกจนตายหรอกที่อยู่ตอนนี้ก็ทนแทบไม่ไหวอยู่แล้วและฉันถือซะว่าที่สูญเสียไปทำทานให้หมามันกินก็แล้วกัน”                 

“คุณนี่ใจบุญจริงๆเลยนะครับอุตส่าห์ยอมสละตัวให้หมากระจอกๆอย่างผมได้ลิ้มลอง”อย่าคิดว่าผมจะยอกแพ้คุณนะคุณพูดอะไรมาผมก็จะตอกกลับไปเช่นกัน “ผมว่าคงไม่ทันแล้วมั้งครับเพราะคุณบอกเองว่าจะอ้วกก็แปลว่ากำลังท้องน้ำยาผมนี่ดีจริงๆแค่คืนเดียวท้องซะละ”

                  “แกไอ้ปากหมาหยุดคำพูดพล่อยๆเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอพยายามทุบตีเขาที่พูดจาพูดหยาบคายเมื่อครู่นี้  จริงสิเธอลืมไปเลยเธอไม่ได้กินยาแล้วเขาก็ไม่ได้ป้องกันด้วยถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง ไม่นะ!!

                   “พรุ่งนี้แกไปซื้อยาคุมมาให้ฉันกินด้วย แกไม่ได้ป้องกันฉันอาจจะท้องได้ถ้าไม่รีบกินมัน”หญิงสาวกำชับเขาอย่างคนร้อนใจด้วยกลัวว่าสิ่งที่คิดไว้จะเกิดขึ้นจริง

                  “ท้องกับผมแล้วมันน่ารังเกียจมากเลยใช่ไหม ห๊ะ ใช่ไหม” ร่างสูงเขย่าแขนร่างบางอย่างแรงด้วยความโกรธโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูด 

                    “ใช่!! ฉันรังเกียจแก แล้วก็เกลียดๆๆๆๆ”

      “งั้นคุณจงรู้ไว้เลยนะว่าผมไม่มีทางซื้อยานั่นมาให้คุณกินเด็ดขาด!! เพราะผมทำให้คุณท้องแต่ถ้าอยากกินนักก็ไปซื้อเองถ้าคุณหนูอย่างคุณกล้าไปซื้อและมีปัญญาออกไปจากห้องนี้ได้”

                  “ แกกก ไอ้ภัทร ไอ้เลว  แกคิดจะจับฉันงั้นหรอ ถ้าฉันท้องแกคงจะอ้างว่าเป็นพ่อเด็กแล้วมาเสวยสุขบนกองเงินกองทองใช่ไหม”

                  “จะบอกอะไรให้นะคุณหนูแพรวาถ้าคุณท้องจริงๆผมตั้งใจไว้ว่าผมจะให้คุณนั่นแหละที่เป็นฝ่ายต้องมาอยู่ที่นี่กับผมในฐานะเมียคนใช้” ธีรภัทรพูดเสียงดังฟังชัดให้เธอได้รับรู้ในสิ่งที่เขาคิดไว้แต่แรกแล้ว “และที่สำคัญนะคนเป็นเมียที่ดีเขาไม่เรียก ผัว ว่าไอ้แบบนี้กันหรอก”

                  “แกไม่ใช่ผัวฉัน!!”

    เมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงขยับไปใกล้ๆแล้วถามเธอว่า “จะให้ย้ำอีกทีมั๊ยล่ะ แล้วคราวนี้จะถ่ายคลิปไว้เลย เผื่อเวลาคุณลืมผมจะได้เปิดให้ดูหลายๆรอบจะได้จำ”

                  เธอผลักเขาให้ออกห่างระวังตัวเอง “อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ” เธอก้มหน้าบอกเขาเสียงสั่นๆกลัวว่าชายหนุ่มจะทำอะไรแบบนั้นจริงๆ

     เขาจึงยอมขยับออกห่าง“ตกลงจะกินไหมข้าวเนี่ย ถ้าไม่ผมจะกินคนเดียว”ร่างสูงเอ่ยถามขณะเทข้าวร้อนๆในถุงที่เพิ่งซื้อมาใส่จาน

                  “กินใครจะอยากอดตาย”แพรวานั่งกินข้าวอย่างยากลำบากกับอาหารตรงหน้าที่ไม่ถูกปากเธอเลยจะมีก็แต่ต้มจืดอย่างเดียวเท่านั้นที่เธอพอจะกินมันได้”

                   “กินเสร็จแล้วก็มาช่วยกันล้างซิอยู่ที่นี่ไม่มีคำว่าคนใช้หรือเจ้านายหากไม่ทำก็ไม่ต้องกิน”เขาตั้งใจไว้แล้วว่าตลอดเวลาที่อยู่กับเธอเขาจะหัดให้เธอทำงานบ้านให้เป็นให้ถึงไม่เก่งก็ขอให้พอรู้ว่าต้องยังไงบ้างก็ยังดี    

                    “ไม่ทำ ฉันทำไม่เป็นแกทำเป็นก็ทำไปซิ”ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยต้องทำอะไรทั้งนั้นอยู่ๆจะมาให้ทำ เชอะ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน

                   “อะไรกันคุณกินด้วยกันก็ต้องช่วยกันซิคุณหนูอย่างคุณเกิดมาไม่เคยหยิบจับทำอะไรระวังเถอะ อีกหน่อยจะเป็นง่อย”เขาแกล้งขู่เธอ ซึ่งไม่คิดว่าเธอจะเชื่อคำขู่ของเขาร่างบางลุกยืนเดินตรงมาทางเขาทันที

                 “ที่พูดมาเมื่อกี้จริงหรอ”เธอถามเขาเพื่อความแน่ใจอีกครั้งด้วยกลัวว่าจะเป็นจริงอย่างที่เขาบอก

                 เมื่อเห็นว่าเธอหลงเชื่อคำโกหกจึงได้โอกาสโกหกคำโตอีกครั้งอย่าได้ใจ “ก็จริงซิครับ” เขาแอบยิ้มกับตัวเองที่สามรถแกล้งเธอได้

               “ไหนหละต้องทำยังไงบอกมาซิ” เขาสอนตั้งแต่นำจานมาล้างน้ำเปล่าก่อนหนึ่งครั้งเพื่อขจัดเศษอาหารออกให้หมดจะได้ง่ายต่อการล้างแล้วนำมาล้างน้ำยาล้างจาน และตามด้วยน้ำเปลาอีกสองครั้งก่อนจะนำไปคว่ำที่ชั้นวางจาน

                   “เหนื่อยชะมัดเลย”เธอบ่นกับงานที่เพิ่งทำเสร็จไปเมื่อครู่หากไม่ติดว่าเธอถูกเขากักขังละก็เธอไม่มีทางไปทำงานแบบนี้เด็ดขาด เธอล้มตัวลงนอนบนที่นอนขนาดเล็กทันทีเมื่อเดินมาถึงดวงตาที่กำลังจะปิดต้องเบิกตาขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งเขาพูด

                  “ต่อไปนี้คุณ ต้องทำงานบ้าน ปัดกวาด เช็ดถูกห้องให้สะอาด ในช่วงที่ผมเข้าบริษัทไปทำงาน”

                 “ไม่ !!” แพรวาตอบสวนมาทันทีโดยไม่ต้องคิด แค่นี้เธอก็เหนื่อยจะแย่ ถ้าต้องทำหมดนั่นเธอตายกันพอดี

                  “ไม่ทำคุณก็อยู่ในห้องที่มีแต่ฝุ่นสกปรกแบบนี้ไปนั่นแหละ จานชามถ้าไม่ล้างก็เอามาใส่กินต่อ” หึ คนอย่างเธอถ้าไม่ใช้ไม้แข็งไม่มีทางที่จะทำเด็ดขาด

                  เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วใช่ไหมเธอต้องทำตามที่เขาสั่งใช่ไหมทำไมต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆนี้ด้วย “ก็ตามใจแกซิเพราะแกก็ต้องใช้ชามพวกนั้นด้วยเหมือนกัน”ฉันไม่มีทางยอมทำตามที่แกสั่งหรอก

                  “ก็ตามใจคุณเพราะผมจะล้างเฉพาะที่ผมต้องใช้กินเท่านั้น”                 

                  “ไอ้บ้าภัทร นี่แก...”ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรเขาก็พูดขัดเธอเสียก่อน

                  “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ ผมบอกคุณแล้วนะครับว่าอย่าเรียกผัว ว่าไอ้”

                  “นี่มันปากของฉัน สิทธิ์ของฉันที่จะพูดอะไรก็ได้อย่างที่พูด” ทำเบ้ปากใส่เขา “อยากจะทำอะไรก็ทำเชิญ ฉันง่วง จะนอนแล้ว” พูดจบเธอล้มตัวลงนอนทันทีแม้จะไม่อยากนอนที่นอนแบบนี้ แต่ก็ต้องจำใจนอนดีกว่าไม่มีที่นอน

                   เขาเห็นเธอกำลังล้มตัวลงนอนจึงเดินตามไปนอนข้างๆทันที แต่ก็ถูกเธอไล่ให้ลงมานอนข้างล่าง

     “ใครให้แกนอนข้างบนพื้นโน่นที่แกต้องนอนเอาไป” เธอโยนเพียงแค่หมอนข้างมาให้เขาเท่านั้นส่วนผ้าห่มและหมอนเธอเอาใช้เอง

                   “ได้ยังไงกันคุณที่ห้องของผมเตียงก็เตียงของผม ผมต่างหากที่มีสิทธิ์ในห้องนี้มากกว่าคุณ และให้มาได้แค่หมอนข้าง ดึกๆมันหนาว แล้วผมจะเอาผ้าที่ไหนห่ม พื้นปูมันยิ่งเย็นๆอยู่ด้วย แล้วอีกอย่างนะ ผัวเมียกันมันก็ต้องนอนด้วยกันซิ แยกกันนอนได้ยังไง” ว่าจบเขาก็ขึ้นไปเคียงข้างเธอทันที แต่ด้วยขนาดเตียงที่เล็กและมีเพียงหมอนและผ้าห่มอย่างละหนึ่งจึงต้องนอนหมอนใบเดียวกันและห่มผ้าด้วยกันแล้วเขาก็ต้องนอนกอดเธอไว้อย่างนั้นไม่ให้หนีไปไหน

                   หญิงสาวรู้สึกอึดอัดจึงอยากจะขยับหนีให้ไกลออกห่างจากเขาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะถ้าขยับอีกนิดเธอจะตกเตียงทันทีเธอจึงจำใจต้องนอนแบบนั้นจนกระทั้งเผลอหลับไปในอ้อมกอดเขา

 

 

นิยายเรื่องนี้มีขายเเบบอีบุ๊คเเล้วที่ meb นะคะราคาเบาๆค่ะเเค่99บาท 

หรือหากท่านใดไม่สะดวกในการซื้อเเบบอีบุ๊คสามารถสั่งซื้อโดยขอเลขบัญชีไรท์ได้ที่ 

e-mail  nichapa34april@gmail.com  ได้ค่ะราคาเท่ากับอีบุ๊ค 

เมื่อส่งสลิบการโอนเงินมาเเล้วไรท์จะส่งไฟล์ไปให้ค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา