Bring me to you. เทพรัก ช่วยทักหัวใจผมที YAOI

-

เขียนโดย เคห์ล่าคีย์

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.11 น.

  2 session
  1 วิจารณ์
  4,972 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2 เทพแห่งความรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          บทที่ 2 เทพแห่งความรัก

 

          โรแธมหลบไปนั่งซึมอยู่หน้าสระหลังโรงเรียน

 

          จะพูดว่าไงดีนะ ไม่สิ เขาไม่มีสิทธิ์พูดด้วยซ้ำ แต่ในช่วงเวลาที่นั่งทานข้าวด้วยกันมันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ จนหัวใจแทบจะระเบิดออกมา ตอนที่ฝึกทำอาหารจนต้องแปะพลาสเตอร์ไปหลายตัวนั่นก็เหมือนกัน ขอแค่ได้ยินคำว่าอร่อยเท่านั้น โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะสว่างสดใสขึ้นมาเลย

 

          ‘แล้วตอนนี้ จะโดนเกลียดหรือยังนะ’

 

          ถึงไปพูดอะไรตอนนี้ก็คงถูกมองว่าเป็นตัวสร้างความลำบากใจให้อยู่ดี เขาควรจะแก้ปัญหานี้ยังไงนะ ต่อให้ไปถามเทพแห่งความรักก็คงตอบไม่ได้ ต้องขอบคุณเจ้านั่นด้วยซ้ำที่ทำให้เขารู้ว่าการกระทำของตัวเองมันน่ารำคาญขนาดไหน

 

          เขาเหวี่ยงก้อนหินริมสระ ฟังเสียงมันดังต๋อม มองระลอกคลืนที่แผ่เป็นวง ก้อนหินก้อนนั้นจมลงสู่ก้นสระเบื้องล่าง สุดท้ายแล้ว เขาจะกลายเป็นแค่พวกขี้ตื๊อสมัยมัธยมในความทรงจำของนางาโตะหรือเปล่านะ

 

          เสียงฝีเท้าเหยียบเศษใบไม้แห้งทำให้เขารีบหันกลับไป วูบหนึ่ง ณ ขณะนั้น เขาอดหวังไม่ได้ว่าคนที่มาอาจจะเป็นนางาโตะ แต่ร่างที่ปรากฏกลับเป็นผู้หญิงใบหน้าอ่อนโยนคนหนึ่ง เธอดูน่าเกรงขาม ทั้งที่ใบหน้ายังอ่อนเยาว์นัก ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ว่าเธอมีความอบอุ่นเสมือนมารดา เป็นออร่าเฉพาะตัวสำหรับหญิงสาวที่มีฐานะพิเศษนั้นเท่านั้น

 

          เธอทำให้เขานึกถึงเลดี้โรเธียเนีย ท่านก็มีใบหน้าอ่อนโยนและผมสีทองยาวสลวยเหมือนกัน

 

          “ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ” เธอเอ่ยขึ้นมาก่อน หลังจากหย่อนตัวเองลงข้างเขา “ในสนามวิ่งของโรงเรียน เขาเริ่มแข่งกันอีกรอบแล้วนะ”

 

          ใบหน้าของโรแธมสลดลง “ผมไปไม่ได้หรอกครับ ถึงไป ก็รังแต่จะสร้างความลำบากใจให้คนอื่นเขาเปล่าๆ”

 

          หญิงสาวผมทองมองเขาอย่างอ่อนโยน “แล้วเธอทำจริงหรือเปล่าจ๊ะ”

 

          โรแธมพยักหน้า หลักฐานที่ดินไม่หลุดยังคาอยู่ในถังขยะก่อนจะมาถึงที่นี่อยู่เลย

 

          “งั้นก็ดีที่รู้แล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ อย่างน้อยเราจะได้แก้ไขในสิ่งที่เราผิดพลาดได้ คนบางคนน่าสงสารมากนะจ๊ะ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำสร้างความอึดอัดให้กับคนที่เขารัก ต่อให้สวดอ้อนวอนต่อเทพแห่งความรักสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีใครช่วยได้หรอกจ้ะ”

 

          โรแธมกล่าวเสียงสลด “แล้วผมควรจะทำยังไงดี”

 

          เธอใช้ฝ่ามือไล้ไปตามเส้นผมสีทองนุ่มสลวย “เธอชอบเขาหรือเปล่าจ๊ะ”

 

          โรแธมชะงัก ใบหน้าค่อยๆ แดงเรื่อขึ้นมาราวกับจิตรไล้โทนสีในภาพวาด ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ มือของเขาทาบลงบนหัวใจที่เต้นตึกตัก ความอบอุ่นนั้นสื่อถึงการราวกับต้องการกล่าวร้องบอกคนที่อยู่ภายในนั้น “ชอบครับ ชอบที่สุดเลย”

 

          หญิงสาวคลี่ยิ้มช้าๆ เด็กคนนี้จะรู้ไหมหนอ ว่าแววตา ว่าน้ำเสียง ว่าอารมณ์ที่ปรากฏอยู่ ณ ขณะนี้ช่างเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนอันลึกซึ้ง ความรักคือมนตราอันวิเศษที่สามารถเปลี่ยนผู้คนได้อย่างน่าทึ่ง สามารถสร้างปาฏิหาริย์นับครั้งไม่ถ้วน

 

          “ถ้ายอมแพ้ตอนนี้ เธอก็เป็นได้แค่สิ่งที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าลองลุกขึ้นสู้ดูสักตั้งล่ะก็ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง เธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าทำอย่างที่สุดแล้ว ตัวเธอในอนาคตจะต้องมองกลับมาด้วยความภาคภูมิใจแน่นอนจ้ะ”

 

          โรแธมสั่นกลัว “แต่ผมทำอะไรก็น่ารำคาญ...”

 

          เรียวนิ้วของเธอทาบริมฝีปากเขาเบาๆ “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นตัวน่ารำคาญไปเสียทุกอย่างหรอกนะจ๊ะ ถ้าวิธีแรกไม่ดี ลองวิธีอื่นดูสิจ๊ะ ถ้าที่ผ่านมาวิ่งเข้าใส่อย่างเดียว ลองชะลอฝีเท้าสักพัก เผื่อเธอจะเห็นว่าเขาไม่ได้วิ่งหนีเธอไปไกลขนาดนั้นนะ” เธอขยิบตาให้กำลังใจ

 

          เธอมองแผ่นหลังที่เปี่ยมด้วยความหวังของโรแธมที่วิ่งจากไป

 

          ...ก่อนจะเผยสีหน้าโมโห

 

          “เจ้าลูกคนนี้นี่! นอกจากกล้ามเนื้อ เมื่อไหร่จะมีสมองกับหัวใจสักทีนะ!”

 

 

          นางาโตะมองคนที่หอบแฮกๆ อยู่เบื้องหน้า ดูเหมือนเขาจะผิดคาดเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายวิ่งกลับมาหาไวขนาดนี้ ก็จริงที่อีกฝ่ายใจไม่เล็ก แต่การฟื้นฟูนี้จะไวเกินไปไหม เขาคิดว่าจะได้เห็นมนุษย์ซึมส่งสายตาเศร้ามาให้จากขอบสนามตลอดอาทิตย์เสียอีก

 

          โรแธมยื่นมือออกมา “ขอฉันเป็นเพื่อนด้วยนะ!”

 

          นางาโตะอึ้งเป็นคำรบสอง

 

          ‘เจ้าหมอนี่ทำอะไรผิดคาดเป็นด้วยแฮะ’

 

          “เอาสิ” เขาหัวเราะออกมา “ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเจอใครพูดแบบนี้เลยแฮะ คนปกติที่ไหนเขามาขอเรื่องแบบนี้กันล่ะ”

 

          “ก็คนปกติทั่วไปยังไงเล่า” โรแธมค้อน “งั้นเวลานายจะผูกมิตร นายพูดว่าอะไรล่ะ”

 

          เขาทำหน้านึก “ก็คง ‘ขอเล่นด้วย’ ล่ะมั้ง”

 

          โรแธมมองเข้าไปในสนามแล้วทำหน้าเบ้ เขากอดอกแสร้งทำตัวสั่น ปากก็พูดโดยไวว่าเขาไม่มีวันไปเผชิญนรกการวิ่งกลางแดดตอนเที่ยงเปรี้ยงๆ ให้เสี่ยงเป็นฮีทสโตรกเด็ดขาด เขาน่ะวิ่งเพื่อรักษาหุ่นให้บอบบางน่ารักอยู่เสมอก็จริง แต่เขาจะวิ่งในฟิตเนสที่มีหลังคาเท่านั้น

 

          ‘ผิวน่ะสำคัญน่ะ!’

 

          “แล้วกลิ่นเหงื่อก็เหม็นด้วย ฉันเกลียดเวลาเหงื่อออกตอนไม่ได้อยู่ในฟิตเนส”

 

          นางาโตะยิ้มแหยๆ ขณะเดินถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำให้คนพูดรู้สึกตัวขึ้นไม่ได้ รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน

 

           “แต่นางาโตะไม่เหม็นนะ ฉันชอบกลิ่นเหงื่อของนางาโตะสุดๆ ไปเลย แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกใจเต้นตึกตักไปหมดแล้ว!”

 

          นางาโตะหน้าแดง “อะ – เอ่อ... เหรอ ขอบใจนะ”

 

          “เจ้านั่นพูดอะไรสยองชะมัดเลยแฮะ ขนาดข้าอยู่กับพวกนักรบมานาน ยังเหม็นกลิ่นสาบผู้ชายเจ้าพวกนั้นอยู่เลย ...โอ๊ย!”

 

          เจ้าตัวหยิบของที่ลอยจากฟากฟ้านภาลงมาตกใส่กลางศีรษะได้อย่างแม่นยำขึ้นมาดู ‘อะไรหว่า หน้าตาคล้ายหินในสวนสระส่องโลกของท่านแม่...’

 

          แต่หินใครก็ช่าง เขากระดกชามะนาวกระป๋องจากตู้ขายอัตโนมัติดึงอึกๆ อันเป็นของกำนัลชิ้นแรกที่ได้มาจากชีป แม้จะได้สัมผัส ‘ส่วนนั้น’ ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางใหญ่โตกว่าตนมาก แต่เจ้าตัวก็ยังประกาศกร้าวข้างสนามว่า ‘ช่างมันเซ่!’ ได้อย่างกล้าหาญ เล่นเอาคนทั้งสนามทั้งสยองทั้งนับถือไปพร้อมๆ กัน

 

          “เจ้าแกะ! คราวนี้ข้าขอน้ำอัดลม!”

 

 

          นางาโตะจำสัมผัสครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นรถยนต์แทบไม่ได้

 

          บ้านเขาเปิดร้านสะดวกซื้อในเขตการค้า รอบด้านจึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านค้ามากมาย ชีวิตประจำวันจึงไม่จำเป็นต้องใช้รถในการเดินทาง อีกประการหนึ่งคือครอบครัวเขาฐานะไม่ดีพอจะใช้รถยนต์สัญจรในทุกๆ โอกาสการออกไปข้างนอก

 

          จริงอยู่ที่เขาสนใจเบาะนิ่มๆ แต่สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือการมองออกไป ความรู้สึกของคนเดินกับคนนั่งรถมันช่างต่างกันจริงๆ แม้แต่อากาศยังถูกปรับให้เย็นพอเหมาะ เหมือนอยู่ในโดมอาคารส่องสัตว์โลดใต้ทะเลในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเลย

 

          อีกด้านหนึ่งของเบาะ

 

          ‘จะ – จะ – จับมือดีไหมนะ แต่เราเพิ่งบอกว่เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ปะ – ปกติเพื่อนกันเขาจับมือกันหรือเปล่านะ’

 

          ใบหน้าแดงร้อนจนเกือบสุกของโรแธมกำลังสื่ออารมณ์อย่างสับสนวุ่นวาย ขณะที่มองคนที่กำลังดูทิวทัศน์ภายนอก แววตาสีนิลคู่นั้นสงบนิ่ง เต็มไปด้วยความสบายใจและผ่อนคลาย เสมือนผู้ที่มองดูโลกนี้ด้วยหัวใจเป็นกลาง

 

          ‘สง่างามอย่างกับ...เทวดา’

 

          เขาพิงศีรษะกับรถด้านหนึ่ง มองดูภาพนั้นต่อไปเรื่อยๆ

 

          ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไร แต่โรแธมไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของตัวเองจึงรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเต็มเติมอย่างช้าๆ และอ่อนโยน

 

 

 

TBC.

 

เคห์ล่าคีย์เองค่ะ

เทพแห่งความรักมือใหม่ ดันกลายพันธุ์มาจากเทพสงคราม

งานนี้ร้อนถึงเทพีแห่งรักต้องลงมาจัดการด้วยตนเองเสียอย่างนั้น!

อ่าฮะ ที่น่าสนใจนอกจากนี้คือความปักใจของชีปเนี่ยแหละ

(อนึ่ง ชีปเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Sheep ที่แปลว่าแกะค่ะ อาเซนนอลจึงเรียกชีปว่าเจ้าแกะนั่นเอง)

ขอบคุณที่เข้ามารับชมนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา