อำมหิต...สั่งตาย
-
เขียนโดย SunSand_AB
วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.36 น.
17 ตอน
4 วิจารณ์
19.94K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 23.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) แผนการ สังหาร ฆ่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ กิตนอนกลิ้งตัวอยู่บนเตียง คิดไป คิดมา เรื่องที่ผีรุ่นพี่ในห้องน้ำพูด กิตนอนคิดจนไม่เป็นอันหลับ อันนอน จนรุ่งเช้าเข้ามาเยือน ในขณะที่เด็กกำลังจะตื่นนอน จู่ๆ ก็มีเสียงดังมนจากด้านล่างของบ้าน
'เพ้งงง!!'เสียงกระจกแตก พร้อมกับเสียงโวยวายของแม่กิตดังตามมา จนกิตต้องลุกขึ้นจากเตียงวิ่งลงไปดู
เมื่อลงมากิตก็เห็นว่าตู้กระจกของร้านอาหาร ถูกปาด้วยหินจนแตก
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะแม่"กิตรีบเข้ามาถาม
"ก็ไอ้เด็กนักเรียนที่ไหนไม่รู้น่ะสิ ขับมอไซค์มาหน้าร้าน และปาหินเข้ามา ดูสิตู้แตกเลยจะทำไงดี"แม่ของกิตบอก
กิตไม่ต้องคิดนาน ก็รู้ทันทีว่าฝีมือของพวกไหน กิตรีบขึ้นไปบนบ้าน อาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปโรงเรียน ครั้งนี้พวกนั้นแกล้งแรงไปจริงๆ
เมื่อกิตมาถึงโรงเรียน ก็เดินเข้ามาในโรงอาหารตรงเข้ามาพวกวิน พร้อมกับโยนก้อนหินลงบนโต๊ะ จนกกลุ่มของวินแตกกระเจิงด้วยความตกใจ กิตยืนตรงหัวโต๊ะ มีสีหน้าไม่พอใจ
"ใครเป็นคนเอาหินไปปาที่บ้านฉัน!!"กิตถาม
"ฝีมือกูเอง"หมอกลุกขึ้นยอมรับอย่างไม่กลัวความผิด
"ทำไมต้องขนาดนี้ด้วย รู้มี้ยว่าตู้ที่นายเอาหินปาน่ะ มันราคาแพงมากเลยนะ"กิตขึ้นเสียงจนคนในโรงอาหารพากันหันมามอง
วินเดินเข้ามาหากิตพร้อมกับลูบหัวกิตราวกับเขาเป็นสัตว์เลี้ยง
"ไม่เอาน่าโดนแค่นี้อย่าทำเป็นโวยวายไปหน่อยเลย ถ้ายอมสละทุนแต่แรก เรื่องก็ไม่เกิดหรอกจริงมั้ย"วินพูด
"พวกนายจะอะไรนักหนากับทุน บอกเลยว่ายังไงฉันก็ไม่สละ"กิตบัดมือวินออก พร้อมกับมองมาที่นนท์ "ถ้ายังไม่หยุดป่วนล่ะก็ ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ..."กิตเดินหนีไปอีกทาง
นนท์หันมองตามก่อนที่จะแสยะยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
"เจอแค่นี้ยังน้อยไป..."นนท์พูด
กิตเดินขึ้นห้องเรียนก็เจอฟ้าใส เพื่อนร่วมห้องของเขาที่กำลังนั่งปั่นการบ้านจนตัวเกร็งอยู่บนโต๊ะเรียน
"มาเรียนแล้วหรอฟ้า"กิตทักทายอย่างเป็นมิตร
"จ๊ะ รู้งี้ไม่น่าจะไปช่วยงานพ่อที่ต่างจังหวัดเลย ดูดิงานล้นมือเลย"ฟ้าใสพูดไปก็ก้มหน้าก้มตาปั่นการบ้านไปด้วย
"ให้เราช่วยมั้ยล่ะ จะได้เสร็จเร็วขึ้น"กิตถาม
"ไม่เป็นไรหรอกน่า การบ้านเยอะกว่านี้เรายังปั่นมาแล้วแค่สี่วิชาเอง สบายมาก"ฟ้าใสหันมายิ้มให้กิต ก่อยที่จะลงมือทำการบ้านต่อ
กิตเห็นอีกฝ่ายกำลังตั้งอกตั้งใจจึงเดินไปนั่งของตัวเอง พร้อมกับสะพายกระเป๋ากับเก้าอี้
จู่ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาในเครื่องของเขา กิตนั่งมองเบอร์ในหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย กิตจึงลองกดรับสาย
"ฮัลโหล สวัสดีครับ ต้องการพูดสายกับใครครับ"กิตเอ่ยถาม แต่ปลายสายกับเงียบสนิท
กิตพยายามฟังเสียงในมือถือ แต่มีเพียงความเงียบ เขาจึงวางสายไป
"เบอร์ใครเนี่ย...."กิตมองเบอร์มือถือนั่นก่อนที่ส่ายหัว ก่อนที่จะดับจอโทรศัพท์
แต่ไม่ทันไรเบอร์นั่นก็โทรมาอีกครั้ง กิตกดรับสายอีกครั้ง
"สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ"ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่มีเสียงตอบรับ"ฮัลโหล ได้ยินมั้ย ฮัลโหล ฮัลโหล!!"กิตพูดไปก็ไม่มีคนตอบกลับจำกดวางสายไป ด้วยความรำคาญ เขาตัดสินใจที่นะกดปิดเครื่อง
แต่ยังไม่ทันทำไร เบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีกครั้ง กิตรีบตัดสายทิ้งไป
แต่เจ้าของเบอร์นั่นก็ยังคงโทรมาเช่นเดิม กิตก็กดตัดสาย แต่เบอร์นั่นก็โทรมาอีก ยังกิตวางสายเขายิ่งโทรมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เบอร์เดิมโทรเข้ามา กิตจึงกดรับสายอีกครั้ง
"นี่เบอร์ใครกันน่ะ บอกมานะ ต้องการอะไร!! พูดสิ!!"กิตถามไป แต่ไม่มีใครตอบเขาจึงตัดสายทิ้งไป
เบอร์นั่นไม่โทรมา แต่ส่งข้อความเข้ามาหาเขา 'สละทุนซะ!'
กิตอ่านข้อความนั่นก็โมโหจัด แทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง เรื่องเดิมอีกแล้ว จะตามราวีกันไปถึงไหน กิตจึงปิดเครื่องทันที
"มันปิดเครื่องไปแล้วว่ะ"อาร์มบอก
"โธ่เว๊ย แล้วมันจะได้อ่านข้อความที่มึงส่งมั้ยเนี่ย"วินพูดอย่างร้อนใจ
"หรือจะลองแผนอื่นดู"อาร์มเสนอความเห็น
"พอเถอะ อย่าไปกวนเขาเลย"มอสพูด เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนๆ แกล้งกิตไปมากกว่านี้
วินดึงคอเสื้อมอสขึ้นและดันตัวมอสไปติดกับกำแพง
"มึงจะอยู่ฝั่งไหน ห๊ะ!!"วินทำตาดุ จนมอสต้องหลบตา
"อยู่ฝั่งนายไง..."มอสตอบอย่างเกรงกลัว
"เออ!! อย่าให้กูเห็นอีกล่ะกันว่ามึงเห็นใจมัน"วินปล่อยคอเสื้อมอสลง
ไม่นานหมอกก็คิดแผนเด็ดๆ ขึ้นมาในหัวได้ทันที
"ถ้างั้นลองวิธีกูมะ..."หมอกพูด
"วิธีอะไร มึงมีแผนไรว่ะ"นนท์ถาม
"เออน่ะ รับรองว่ามันต้องยอมสละทุนแน่ๆ แต่ต้องมีตัวช่วยว่ะ"หมอกพูดในหัวก็เริ่มคิดถึงแผนการ
ทิ้งปริศนาให้เพื่อนในกลุ่มสงสัยกันพักใหญ่
ตกเย็นของวัน กิตเดินมาที่ล็อคเกอร์ตัวเดิมในขณะที่กิตกำลังเก็บหนังสือใส่ล็อคเกอร์ ก็สังเกตุเห็นฟ้าใสกำลังก้มๆ เงยๆ ตรงบันไดของโรงเรียน กิตปิดล็อคเกอร์พร้อมกับใส่กุญแจล็อกไว้ และเดินเข้ามาหาฟ้าใส ที่กำลังหาของอะไรบางอย่าง
"หาอะไรหรอฟ้า ให้ช่วยมั้ย"กิตเดินเข้ามาถาม
"อ๋อ เราหาต่างหูน่ะ มันน่าจะตกแถวๆ นี้แหละ กิตช่วยเราหาหน่อยสิ"พูดจบกิตก้มมองหา ฟ้าใสเดินอ้อมไปด้านหลังกิต แกล้งทำเป็นก้มหาของเพื่อให้อีกฝ่ายไม่เอะใจ ว่าเธอมีพิรุจ
ฟ้าใสมองดูรอบๆ เธอมั่นใจว่าปลอดคนแล้ว เธอจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอที่โปะยาสลบเอาไว้ และเดินเข้ามาที่ด้านหลังกิต
ในขณะที่กิตกำลังก้มมองหาต่างหูให้ฟ้าใส จู่ๆ ก็มีมือเอาผ้ามาปิดจมูกของกิต เด็กหนุ่มพยายามดิ้นสุดตัวก่อนที่จะเป็นลมสลบไป
เมื่ออีกฝ่ายสลบนิ่งไป ฟ้าใสก็รีบหยิบโทนศัพท์เธอ ขึ้นมากดโทรหาหมอก
"แกฉันทำตามแผนสำเร็จแล้วนะ อยู่ชั้นสองรีบมา!!"ฟ้าใสบอก ก่อนที่จะวางสายไป
ในเวลานั้นเอง มีภารโรงผ่านมาเห็นพอดี
"เอ้า เพื่อนหนูเป็นไรหรอ"ภารโรงถาม
"อ๋อ มันเป็นลมน่ะค่ะ ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ หนูโทรตามมาให้มารับแล้วค่ะ"ฟ้าใสชะโงกหน้ามองที่บันได
"งั้นให้ลุงช่วยมั้ยล่ะ มาๆๆ"ภารโรงเดินก้าวเท้าเข้ามาหา
"ไม่ต้องคะๆๆ นั่นไงเพื่อนหนูมาพอดีเลย"ฟ้าใสชี้ไปที่หมอกและวิน
หมอกกับวินพากันแบกร่างของกิตไปที่รถโดยที่ไม่สนใจสายตาใคร ฟ้าใสรีบเดินตามไปติดๆ จนมาถึงรถของอาร์มจอดรอพร้อมสตาร์ทรถเรียบร้อบพร้อมออกทันที โดยมีชานนท์ยืนรออยู่
"นี่พวกนาย จะเอากิตไปไหนเนี่ย"ฟ้าใสถาม
"ไม่ต้องรู้หรอก อ่ะนี่ค่าจ้างที่เธอทำแผนสำเร็จ"นนท์ยื่นเงินให้ฟ้าใส เมื่อเขาเห็นว่าวินกับหมอกนำกิตไปไว้ในรถแล้ว เขาจึงรีบวิ่งขึ้นทันที
รถของอาร์มขับเข้ามาทางเปรี่ยว ที่มีแต่หญ้าแฝกขึ้นรกเต็มไปหมด ขนาดฟ้ายังไม่มืดยังน่ากลัวขนาดนี้ มันช่างเป็นที่เหมาะสำหรับโจรหรือไอ้โม่งมาสุ่มตัว ดักข่มขืนสาวๆ นักศึกษาเสียจริงๆ อาร์มขับรถมาตามทางเปรี่ยวๆ จนมาถึงตึกร้างที่ตั้งเด่นอยู่เพียงตึกเดียว ซึ่งมีรถมอไซค์หลายคันจอดอยู่หน้าตึก
"มึงแน่ใจนะไอ้หมอก ว่าแผนนี้นะสำเร็จ"วินหันถามหมอก
"แน่ใจดิ กูอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะทนมือ ทนตีนได้นานขนาดไหน"หมอกพูด
รถของอาร์มมาจอดที่หน้าตึก โดยมีนักเลงอีกห้าหกคนยืนรอ หมอกรีบลงจากรถเป็นคนแรก พน้อมกับวิ่งเข้าไปหานักเลงกลุ่มดังกล่าวด้วยท่าทีสนิทสนม
"หวัดดีพี่ โทษทีที่มาช้า"หมอกยกมือไหว้
"เออๆ แล้วไหนว่ะคนที่มึงจะให้กูจัดการ"วิทย์ หัวหน้ากลุ่มนักเลงเอ่ยถาม
'วิทย์' เป็นนักเลงในสลัมมาตั้งแต่เด็กๆ มีเพื่อนฝูงเยอะรวมทั้งคู่อริมากมาย ด้วยความป่าเถื่อนของพวกเขาทำให้หลายคนไม่กล้าต่อกอน หรือกล้ายุ่งด้วย ต่างต้องพากันหลบหน้าหลบตาทุกครั้ง ที่เจอพวกเขา
วินกับอาร์มพากันลากกิตลงมาจากท้ายรถ และพากันลากร่างของกินเข้าไปในตึกร้าง โดยมีนักเลงจำนวนนึงช่วยแบกหาม พาร่างของกิตไปที่ชั้นสอง
นนท์เดินตามไป ซึ่งเขารู้สีกดีกับแผนการครั้งนี้ ถ้ากิตเจอขนาดนี้และยังทนได้ ก็ไม่ใช่คนแล้วแหละ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ กิตถูกนักเลงคนนึงสาดน้ำใส่หน้าดัง โครม จนเข้าได้สติและค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ กิตกวาดสายตามองไปรอบๆ ซึ่งเป็นสถานที่รกร้างน่าสยดสยอง รอบกายถูกล้อมรอบด้วยนักเลงมากมา ที่น่าตาน่ากลัว มีรอยสักแทบทุกคน รวมทั้งพวกวินและอดีตเพื่อนรักอย่างชานนท์ ก็ยืนรวมอยู่ด้วย
"ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.."กิตถาม
"ไม่ต้องใส่ใจหรอก รู้แค่ว่าตอนนี้มึงอยู่ที่ตึกร้างกับพวกกู"วิทย์พูดด้วยเสียงดุ มือก็ควงมีดพกไปด้วย
"ปล่อยผมไปเหอะนะพี่ ผมกลัว... อย่าทำไรผมเลยนะ"กิตยกมือขึ้นมาไหว้กลุ่มนักเลงตรงหน้า อย่างอ้อนวอน
วิทย์เดินเข้ามาหาพร้อมกับมองหน้ากิตติ์ดนัย
"งั้นมึงก็สละทุนให้เพื่อนมึงซะ"วิทย์บอก
"พะ...พี่รู้เรื่องนี้ได้ไง"กิตถามอย่างแปลกใจ
"ไม่ต้องรู้มาก บอกมา จะสละทุนมั้ย ห๊ะ!!"วิทย์ตะคอกใส่ จนกิตเริ่มกลัวจนตัวสั่นระริก
"ไม่.. ไม่ครับ ผมสละทุนไม่ได้"กิตตอบเสียงสั่น ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมยกทุนให้ใครเด็ดขาด
นนท์ได้ยินก็ถึงกับกำหมัดกัดฟันอย่างเครียดแค้น ตกอยู่สถานการ์แบบนี้ก็ยังไม่ยอมอีกหรอ
นนท์หันไปมองวิทย์และพยัคหน้าให้ เป็นการส่งสัญญาณ
"ไม่สละใช่มั้ย ได้!!"วิทย์ถีบกิตไปติดกับกำแพง จนกิตจุก
ไม่นานวิทย์และพรรคพวกก็พากันเข้ามารุมกระทืบกิตอย่างเลือดเย็น ซึ่งแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามยกมือไหว้ขอชีวิตยังไง ก็ไม่มีใครฟังเขาสักคน
กิตโดนกระทืบจนเนื้อตัวพกช้ำ จ้ำเลือดไปตามร่างกาย ขนาดแขนของกิตไปกระทบกำแพงเบาๆ ยังปวดร้าวไปถึงขั้วหัวใจ เสื้อนักเรียนที่ขาวสะอาด เต็มไปด้วยรอยรองเท้าจะเปอะเปื้อน
วิทย์เข้ามาบีบปากกิต สายตาดุดันเหมือนปีศาจ ในมือก็ตวัดใบมีดของมีดพกออกมา มันคมพอที่จะแร่เนื้อคนได้
"กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง จะสละทุนมั้ย!!"วิทย์ทำเสียงดุ
ภาพที่เห็นมันช่างสะใจชานนท์เหลือเกิน ยิ่งเห็นกิตตกในสภาพนี้ เขายิ่งชอบใจ
"ไม่!! ไม่!!"กิตตอบ ทั้งๆ ที่ตนก็รีกตัวกลัวตายแต่ยังไงเขาก็ไม่สละทุนง่ายๆ
"แม่งเอ๊ย ถ้ามึงได้ทุนเพราะฉลาดมากล่ะก็ กูจะกรีดสมองมึงให้ไหลออกมากองตรงพื้นให้หมดเลย ดูสิมึงจะฉลาดพอที่จะไปแย่งทุนคนอื่นมาอีกมั้ย!!"วิทย์ชูใบมีดขึ้นที่แสนจะคมกริบ
กิตตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนที่จะถูกใบมีดของวิทย์กดลงบนหัวจนลึก วิทย์ค่อยๆ ลากใบมีดเลื่อนลงมาถึงแก้มของกิต เด็กหนุ่มได้แต่ร้องอย่างทรมาน
"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย"
"มึงไม่โหดไปหน่อยหรอว่ะ"มอสหันไปถามวิน แต่วินทำตาดุใส่ มอสเริ่มไม่อยากอยู่ร่วมในแผนการครั้งนี้อีกแล้ว เขาอยากจะยื่นมือำปช่วยกิตด้วยซ้ำ มอสจึงเข้าไปหาชานนท์ ที่ยืนดูกิตอย่างสะใจ
"พอเหอะนนท์ สงสารมันยังไงมันก็เคยเป็นเพื่อนรักมึงนะ"มอสพูด
"แต่ตอนนี้ไม่!!"นนท์เดินเข้าไปหากิต ที่นอนร้องโอดโอยอย่างทรมานอยู่บนพื้น
นนท์บีบแขนกิตและดึงตัวกิตขึ้นมานั่ง ยิ่งทำให้กิตร้องหนักกว่าเดิม
"โอ๊ยยยยยยย เจ็บ โอ๊ยยยย"
"ถ้าเจ็บมากมึงก็สละทุนซะ กูไม่อยากทำให้มึงต้องเจ็บไปมากกว่านี้นะเว้ย"นนท์พูด
"ทำไม...ทำไมต้องอยากได้ทุนนั่น ทั้งๆ ที่บ้านนายก็มีเงินมีทอง...มากมายพอที่จะเรียนจนจบปริญญาตรี กับแค่เงินทุนสามหมื่นนายจะเอาไปทำไร ฮือๆๆ"กิตเริ่มหวาดกลัวขึ้นสมอง ร้องไห้ออกมาอย่างกลัวเกรง
"เพราะทุนนั่นมันควรเป็นของกูแต่แรกไง และมึงก็เข้ามาแย่งมันไป ไอ้เพื่อนเหี้ย"นนท์ต่อยหน้ากิต จนกิตหน้าหันไปอีกทาง
"เราขอโทษ..ฮือๆๆ แต่ถ้าเราไม่รับทุนนั่นมา เราก็จะไม่มีเงินเรียนต่อมหาลัยเดียวกับนายนะ เราสัญญาว่าจะเรียนมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวไม่ใช่หรอ"กิตพูดทั้งน้ำตา
"กูไม่เคย..กูไม่อยากให้มึงได้ดีไปกว่ากูอีกแล้ว!!"นนท์เหวี่ยงลงกับพื้น พร้อมกับลุกขึ้นเอาเท้าเหยียบแผลที่หน้ากิตที่เพิ่งถูกกรีดบนใบหน้ามาสดๆ
"โอ๊ยยยยยย อย่าทำ...ขอร้อง.."
"มึงมันแย่งความสุขจากกูไป ทุกอย่าง การเรียนก็ดีกว่ากู พ่อแม่กูก็ชื่นชมแต่มึง ขนาดลูกพี่ลูกน้องกูอย่างพี่ภูมิยังเอ็นดูมึง กูต้องถูกเปรียบเทียบกับคนจนๆ อย่างมึง ต้องใช้คำว่าเพื่อนรักกับมึงมานาน กูน่ะเกลียดมึงยิ่งกว่าอะไรอีกไอ้กิต!!"นนท์พูด
มันช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายกิตเหลือเกิน ที่ผ่านมากิตเห็นนนท์เป็นเพือนที่แสนดีมาตลอด ทำไมนนท์ถึงต้องเกลียดเขา ทำไม...ทำไมนนท์ต้องทำเป็นดีกับเขาด้วย
"นนท์..เราเป็นเพื่อนกันนะ"กิตพูดน้ำตาก็ไหลพราก
"สละทุนซะ กูไม่อยากรังแกคนไม่มีทางสู้"นนท์พูด
"ใช่ พวกกูจะได้มีเงินไปเที่ยวสักที อยากแบ่งกันเงินจะตายห่าล่ะ"หมอกพูดจนวินต้องหันมาตบหัว
กิตได้ยินจึงเริ่มเอะใจ หมายความว่าไงกัน
"พวกนายหมายความว่าไง"กิตถาม
นนท์เอาเท้าออกจากแผลของกิตและเดินถอยมาตั้งหลัก
"พวกนายจะเอาเงินทุนนั่นไปทำไรกันแน่"กิตถามต่อ
"ก็เอาไปซื้อความสุขพวกกูไง ไอ้กิต คนจนอย่างมึงไม่ควรมีเงินใช้ด้วยซ้ำ"วินพูด
กิตได้ยินก็ค่อยๆ ประครองตัวพยายามจะลุกนั่ง ก่อนที่จะมองพวกวินและนนท์อย่างอาฆาตร
"พวกนายมันเห็นแก่ตัว โลภมาก สารเลว คิดจะเอาเงินทุนของคนอื่นไปเสวยสุข บนความทุกข์ของคนอื่นหรอ พวกชั่ว!! ไม่เคยเห็นใจคนอื่น"กิตด่าทออย่างแรงด้วยสายตาเกลียดชัง
"เกิดมายังไม่มีใครด่ากูเลย มึงกล้าดียังไง"นนท์คว้าไปหยิบหินก้อนใหญ่ขึ้นมา และเดินตรงมาหากิต
กิตรีบถอยหนีอย่สงหวาดกลัว
"นนท์ จะทำไรอ่ะ อย่านะ!! อย่าาาา"
กิตร้องขอไปก็เท่านั้น นนท์เอาหินก้อนนั้นทุบที่ใบหน้ากิตอย่างรุนแรง ด้วยความโมโห จนใบหน้าของกิตเละ มีแผลเต็มใบหน้า นนท์ทุบหินใส่หน้ากินไม่ยั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นมากระทืบยอดอกของกิต ซ้ำเติมเข้าไปจนกอนกระอักเลือด
จนทุกคนต้องเข้ามาจับแยก วิทย์มองกิตที่นอนกระอักเลือด พยายามอ้าปากหายในผงาบๆ เพื่อสูดอากาศเข้าไปในปอด เพื่อยื้อชีวิตตัวเองให้นานที่สุด
"มันจะตายมั้ยว่ะ"วิทย์พูด
"ปล่อยมันไว้นี่แหละ กูให้เวลามึงคิดนะไอ้เหี้ยกิต ถ้าไม่สละทุนมึงได้ตายจริงๆ แน่"นนท์เดินออกไป
วินและพรรคพวกรวมทั้งกลุ่มของวิทย์รีบเดินตาม เหลือเพียงมอสที่ยืนดูกิตนอนยื้อชีวิตตัวเองบนพื้น
กิตใช้สายตาเลื่อนมามองมอสที่ยืนดูอยู่ เขาพยายามใช้เรี่ยวแรงที่มียกมือขึ้นขอน้องมอสให้ช่วยเขา..
"ชะ...ชะ...ช่วย...ด้วย..."
มอสมองกิต ใจอยากช่วยแต่เสียงของวินตะโกนถามขึ้นมา
"ไอ้มอสนะนอนนี่หรอไง กลับบ้าน!!"สิ้นเสียงวินมอสก็น้ำตาไหล ก้มหน้าเดินออกไป
กิตมองตามพยายามยกมือขอร้องอีกครั้ง
"ได้โปรด...ช่วย...ชะ...ชะ...ช่วยที...ได้โปรด"
"เราขอโทษ เราช่วยนายไม่ได้จริงๆ"มอสรีบวิ่งออกไป ทิ้งให้กิตนอนนิ่งอยู่บนพื้น
กิตนอนรอความตายอยู่ในตึกร้าง ยิ่งได้ยินเสียงรถจำนวนมากขับออกไป ยิ่งทำให้เขาหมดหวัง กิตพยายามนอนหายใจผงาบๆ อย่างอ่อนแรง ยิ่งผ่านไปนานเท่าไรยิ่งจะขาดใจตายเท่านั้น
"ใครก็ได้...ช่วย....ผม...ที...."
น้ำตาหยดสุดท้ายของกิตติ์ดนัยไหลออกมาจากตา ในที่สุดเขาก็ขาดใจตาย ไม่สามารถยื้อชีวิตตัวเองต่อไปได้... ภาพความทรงจำดีๆ ของเขาค่อยๆ ปรากฎก่อนที่มันจะจางหายไป... ฟ้าฝนเริ่มตกกระหน่ำ ราวกับแสดงความโศกเศร้ากับการตายอย่างอนาถของกิตติ์ดนัย...
ฝนเริ่มตกหนัก ฟ้าผ่าดังเปรี้ยง จนรัฐภูมิต้องลุกขึ้นมาปิดหน้าตาของห้องนอนเขา รัฐภูมิเดินกลับไปที่เตียง พร้อมกับโยนตัวลงนอนอย่างสบายใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องไห้ที่คุ้นหู ดังกังวาลในห้อง...
"ฮือๆๆ ฮือๆๆๆ พี่ภูมิ..."เสียงอึกสะอื้นน่าเวทนานั่นกำลังเรียกชื่อเขา
"สะ...สะ...เสียงใครน่ะ"ภูมิค่อยๆ ลุกจากเตียงนอน ก่อนที่จะขยี้ตาอย่างงัวเงีย
ภูมิมองไปรอบๆ ห้องนอน ที่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ในห้อง จนเขาไปสะดุดเข้ากับ...เด็กผู้ชายคนนึงที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่มุมห้อง
"ฮือๆๆๆ พี่ภูมิ..."
"ใครน่ะ... เข้ามาในห้องได้ยังไง"ภูมิกดหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อให้แสงของหน้าจอ ส่องไปยังเด็กผู้ชายคนนั้น
ภูมิพยายามมองเขา แต่ก็ดูไม่ออกว่าเป็นใคร จู่ๆ เด็กผู้ชายคนดังกล่าวก็ลุกขึ้นยืน ก้มหน้าร้องห่มร้องไห้ เขาอยู่ในชุดนักเรียนมีเลือดไหลอาบเต็มตัวไปหมด
"นี่ใครน่ะ...ใคร?"ภูมิถามอย่างสงสัยในใจก็แอบกลัว
เด็กผู้ชายคนนั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขา ดวงตาขาวโผลนไร้งตาดำ น้ำตาหลั่งไหลเป็นสายเลือด ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งรอยกรีดบนหน้าผากลากยาวมาถึงแก้ม บาดแผลถูกเปิดอ้าจนน่ากลัว และบาดแผลที่ถูกทุบหน้าสีโฉม เน่าเฟะจนดูไม่ได้
เขาคือ...'กิตติ์ดนัย'
"...นายคือใคร มาหาฉันทำไม"ภูมิถามพร้อมกับถอยหนีช้าๆ
"จำไม่ได้หรอ น้องรักของพี่ไง..."กิตติ์ดนัยตอบด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
"ใครอ่ะ ไม่รู้!!"ภูมิบอก
กิตติ์ดนัยค่อยๆ ก้าวเท้าไปหารัฐภูมิอย่างช้าๆ จนรัฐภูมิต้องถอยหนีจนติดหัวเตียง กิตติ์ดนัยแสยะยิ้มอย่างสยอง พร้อมกับเอื้อมมือมาแตะแก้มของรัฐภูมิอย่างแผ่วเบาๆ ทั้งๆ ที่รัฐภูมิกลัวจนตัวสั่น
"ไม่ต้องกลัวหรอก...แค่อยากกลับมาหา..คนดีของผม"กิตติ์ดนัยหัวเราะในลำคอ
"ออกไป ออกไป ไอ้ผีบ้า ออกไป!!!"ภูมิหลับตาปี๋พยายามตะโกนขับไล่
จนทุกอย่างสงบรัฐภูมิค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผีตนนั้นหายไปแล้ว เขาถึงกับโล่งอก ก่อนที่จะมีเลือดหยดลงบนใบหน้าของเขา ซึ่งมันมาจากบนเพดานห้องเขาเอง ภูมิค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง
ผีกิตติ์ดนัยยืนห้อยหัวอยู่ด้านบน สายตาอาฆาตร ไม่พอใจอย่างมาก
"กูอุตส่าห์กลับมาหามึง มึงไล่กูไปทำไม!! ไอ้รัฐภูมิ"
กิตติ์ดนัยยื่นมือมาบีบลูกตาของรัฐภูมิ จนเลือดไหลออกจากเบ้าตาทั้งสองข้าง มือของกิตติ์ดนัยค่อยๆ ควักลูกตาของรัฐภูมิออกจากเบ้าตา เลือดไหลอาบ รัฐภูมิดิ้นพล่านร้องอย่างทรมาน
"อ๊ากกกกกกกก ช่วยด้วยๆๆ"
"ฮ่าๆๆๆ"กิตติ์ดนัยหัวเราะชอบใจ ก่อนที่จะบีบลูกตาของภูมิที่เขาเพิ่งควักมาสดๆ บีบบี้จนไม่เหลือชิ้นดี
กิตติ์ดนัยลงมาจิกหัวภูมิอย่างแรง ก่อนจะกระซิบข้างหู
"จำไว้ อย่าไล่กูอีก!!"
เสียงนั่นดังก้องไปในหูของภูมิ ตามด้วยด้วยเสียงหัวเราะอันชวนสยอง ภูมิสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เฮ้อออ ฝัน!! นอนต่อดีกว่า"ภูมินอนลงบนเตียง ก่อนที่จะหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา "ตีสาม เฮ้อ...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้วสิ"
ภูมินอนคิดถึงผีตนนั้น ที่เขาเพิ่งฝันถึง มันเป็นความฝันที่น่ากลัวที่สุด แบบที่เขาไม่เคยฝันถึงมาก่อน ทุกอย่างเหมือนจริงจนน่าตกใจ ทั้งผีตนนั้น และความรู้สึกเจ็บปวดที่เขาโดนกระทำ
"ผีตนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องมาหาเรา..."รัฐภูมิตั้งข้อสงสัยก่อนที่จะข่มตาหลับไป
วิญญาณของกิตติ์ดนัยยืนอยู่หน้าบ้านของภูมิ เขาถลึงตาอย่างโกรธแค้น
"ถ้าพวกมึงยังไม่ตายโหง กูจะไม่มีทางให้ไปเกิดเด็ด"กิตติ์ดนัยยืนกำมือ กัดฟันอย่างเครียดแค้น
" ไอ้ชานนท์ เพื่อนสารเลว!!"
สิ้นเสียงของกิตติ์ดนัย ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยง ฝนห่าใหญ่เริ่มกระหน่ำตกลงมาอีกครั้ง
กลับมาคราวนี้ เราจะได้เห็นดีกัน!!
'เพ้งงง!!'เสียงกระจกแตก พร้อมกับเสียงโวยวายของแม่กิตดังตามมา จนกิตต้องลุกขึ้นจากเตียงวิ่งลงไปดู
เมื่อลงมากิตก็เห็นว่าตู้กระจกของร้านอาหาร ถูกปาด้วยหินจนแตก
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะแม่"กิตรีบเข้ามาถาม
"ก็ไอ้เด็กนักเรียนที่ไหนไม่รู้น่ะสิ ขับมอไซค์มาหน้าร้าน และปาหินเข้ามา ดูสิตู้แตกเลยจะทำไงดี"แม่ของกิตบอก
กิตไม่ต้องคิดนาน ก็รู้ทันทีว่าฝีมือของพวกไหน กิตรีบขึ้นไปบนบ้าน อาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปโรงเรียน ครั้งนี้พวกนั้นแกล้งแรงไปจริงๆ
เมื่อกิตมาถึงโรงเรียน ก็เดินเข้ามาในโรงอาหารตรงเข้ามาพวกวิน พร้อมกับโยนก้อนหินลงบนโต๊ะ จนกกลุ่มของวินแตกกระเจิงด้วยความตกใจ กิตยืนตรงหัวโต๊ะ มีสีหน้าไม่พอใจ
"ใครเป็นคนเอาหินไปปาที่บ้านฉัน!!"กิตถาม
"ฝีมือกูเอง"หมอกลุกขึ้นยอมรับอย่างไม่กลัวความผิด
"ทำไมต้องขนาดนี้ด้วย รู้มี้ยว่าตู้ที่นายเอาหินปาน่ะ มันราคาแพงมากเลยนะ"กิตขึ้นเสียงจนคนในโรงอาหารพากันหันมามอง
วินเดินเข้ามาหากิตพร้อมกับลูบหัวกิตราวกับเขาเป็นสัตว์เลี้ยง
"ไม่เอาน่าโดนแค่นี้อย่าทำเป็นโวยวายไปหน่อยเลย ถ้ายอมสละทุนแต่แรก เรื่องก็ไม่เกิดหรอกจริงมั้ย"วินพูด
"พวกนายจะอะไรนักหนากับทุน บอกเลยว่ายังไงฉันก็ไม่สละ"กิตบัดมือวินออก พร้อมกับมองมาที่นนท์ "ถ้ายังไม่หยุดป่วนล่ะก็ ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ..."กิตเดินหนีไปอีกทาง
นนท์หันมองตามก่อนที่จะแสยะยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
"เจอแค่นี้ยังน้อยไป..."นนท์พูด
กิตเดินขึ้นห้องเรียนก็เจอฟ้าใส เพื่อนร่วมห้องของเขาที่กำลังนั่งปั่นการบ้านจนตัวเกร็งอยู่บนโต๊ะเรียน
"มาเรียนแล้วหรอฟ้า"กิตทักทายอย่างเป็นมิตร
"จ๊ะ รู้งี้ไม่น่าจะไปช่วยงานพ่อที่ต่างจังหวัดเลย ดูดิงานล้นมือเลย"ฟ้าใสพูดไปก็ก้มหน้าก้มตาปั่นการบ้านไปด้วย
"ให้เราช่วยมั้ยล่ะ จะได้เสร็จเร็วขึ้น"กิตถาม
"ไม่เป็นไรหรอกน่า การบ้านเยอะกว่านี้เรายังปั่นมาแล้วแค่สี่วิชาเอง สบายมาก"ฟ้าใสหันมายิ้มให้กิต ก่อยที่จะลงมือทำการบ้านต่อ
กิตเห็นอีกฝ่ายกำลังตั้งอกตั้งใจจึงเดินไปนั่งของตัวเอง พร้อมกับสะพายกระเป๋ากับเก้าอี้
จู่ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาในเครื่องของเขา กิตนั่งมองเบอร์ในหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย กิตจึงลองกดรับสาย
"ฮัลโหล สวัสดีครับ ต้องการพูดสายกับใครครับ"กิตเอ่ยถาม แต่ปลายสายกับเงียบสนิท
กิตพยายามฟังเสียงในมือถือ แต่มีเพียงความเงียบ เขาจึงวางสายไป
"เบอร์ใครเนี่ย...."กิตมองเบอร์มือถือนั่นก่อนที่ส่ายหัว ก่อนที่จะดับจอโทรศัพท์
แต่ไม่ทันไรเบอร์นั่นก็โทรมาอีกครั้ง กิตกดรับสายอีกครั้ง
"สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ"ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่มีเสียงตอบรับ"ฮัลโหล ได้ยินมั้ย ฮัลโหล ฮัลโหล!!"กิตพูดไปก็ไม่มีคนตอบกลับจำกดวางสายไป ด้วยความรำคาญ เขาตัดสินใจที่นะกดปิดเครื่อง
แต่ยังไม่ทันทำไร เบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีกครั้ง กิตรีบตัดสายทิ้งไป
แต่เจ้าของเบอร์นั่นก็ยังคงโทรมาเช่นเดิม กิตก็กดตัดสาย แต่เบอร์นั่นก็โทรมาอีก ยังกิตวางสายเขายิ่งโทรมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เบอร์เดิมโทรเข้ามา กิตจึงกดรับสายอีกครั้ง
"นี่เบอร์ใครกันน่ะ บอกมานะ ต้องการอะไร!! พูดสิ!!"กิตถามไป แต่ไม่มีใครตอบเขาจึงตัดสายทิ้งไป
เบอร์นั่นไม่โทรมา แต่ส่งข้อความเข้ามาหาเขา 'สละทุนซะ!'
กิตอ่านข้อความนั่นก็โมโหจัด แทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง เรื่องเดิมอีกแล้ว จะตามราวีกันไปถึงไหน กิตจึงปิดเครื่องทันที
"มันปิดเครื่องไปแล้วว่ะ"อาร์มบอก
"โธ่เว๊ย แล้วมันจะได้อ่านข้อความที่มึงส่งมั้ยเนี่ย"วินพูดอย่างร้อนใจ
"หรือจะลองแผนอื่นดู"อาร์มเสนอความเห็น
"พอเถอะ อย่าไปกวนเขาเลย"มอสพูด เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนๆ แกล้งกิตไปมากกว่านี้
วินดึงคอเสื้อมอสขึ้นและดันตัวมอสไปติดกับกำแพง
"มึงจะอยู่ฝั่งไหน ห๊ะ!!"วินทำตาดุ จนมอสต้องหลบตา
"อยู่ฝั่งนายไง..."มอสตอบอย่างเกรงกลัว
"เออ!! อย่าให้กูเห็นอีกล่ะกันว่ามึงเห็นใจมัน"วินปล่อยคอเสื้อมอสลง
ไม่นานหมอกก็คิดแผนเด็ดๆ ขึ้นมาในหัวได้ทันที
"ถ้างั้นลองวิธีกูมะ..."หมอกพูด
"วิธีอะไร มึงมีแผนไรว่ะ"นนท์ถาม
"เออน่ะ รับรองว่ามันต้องยอมสละทุนแน่ๆ แต่ต้องมีตัวช่วยว่ะ"หมอกพูดในหัวก็เริ่มคิดถึงแผนการ
ทิ้งปริศนาให้เพื่อนในกลุ่มสงสัยกันพักใหญ่
ตกเย็นของวัน กิตเดินมาที่ล็อคเกอร์ตัวเดิมในขณะที่กิตกำลังเก็บหนังสือใส่ล็อคเกอร์ ก็สังเกตุเห็นฟ้าใสกำลังก้มๆ เงยๆ ตรงบันไดของโรงเรียน กิตปิดล็อคเกอร์พร้อมกับใส่กุญแจล็อกไว้ และเดินเข้ามาหาฟ้าใส ที่กำลังหาของอะไรบางอย่าง
"หาอะไรหรอฟ้า ให้ช่วยมั้ย"กิตเดินเข้ามาถาม
"อ๋อ เราหาต่างหูน่ะ มันน่าจะตกแถวๆ นี้แหละ กิตช่วยเราหาหน่อยสิ"พูดจบกิตก้มมองหา ฟ้าใสเดินอ้อมไปด้านหลังกิต แกล้งทำเป็นก้มหาของเพื่อให้อีกฝ่ายไม่เอะใจ ว่าเธอมีพิรุจ
ฟ้าใสมองดูรอบๆ เธอมั่นใจว่าปลอดคนแล้ว เธอจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอที่โปะยาสลบเอาไว้ และเดินเข้ามาที่ด้านหลังกิต
ในขณะที่กิตกำลังก้มมองหาต่างหูให้ฟ้าใส จู่ๆ ก็มีมือเอาผ้ามาปิดจมูกของกิต เด็กหนุ่มพยายามดิ้นสุดตัวก่อนที่จะเป็นลมสลบไป
เมื่ออีกฝ่ายสลบนิ่งไป ฟ้าใสก็รีบหยิบโทนศัพท์เธอ ขึ้นมากดโทรหาหมอก
"แกฉันทำตามแผนสำเร็จแล้วนะ อยู่ชั้นสองรีบมา!!"ฟ้าใสบอก ก่อนที่จะวางสายไป
ในเวลานั้นเอง มีภารโรงผ่านมาเห็นพอดี
"เอ้า เพื่อนหนูเป็นไรหรอ"ภารโรงถาม
"อ๋อ มันเป็นลมน่ะค่ะ ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ หนูโทรตามมาให้มารับแล้วค่ะ"ฟ้าใสชะโงกหน้ามองที่บันได
"งั้นให้ลุงช่วยมั้ยล่ะ มาๆๆ"ภารโรงเดินก้าวเท้าเข้ามาหา
"ไม่ต้องคะๆๆ นั่นไงเพื่อนหนูมาพอดีเลย"ฟ้าใสชี้ไปที่หมอกและวิน
หมอกกับวินพากันแบกร่างของกิตไปที่รถโดยที่ไม่สนใจสายตาใคร ฟ้าใสรีบเดินตามไปติดๆ จนมาถึงรถของอาร์มจอดรอพร้อมสตาร์ทรถเรียบร้อบพร้อมออกทันที โดยมีชานนท์ยืนรออยู่
"นี่พวกนาย จะเอากิตไปไหนเนี่ย"ฟ้าใสถาม
"ไม่ต้องรู้หรอก อ่ะนี่ค่าจ้างที่เธอทำแผนสำเร็จ"นนท์ยื่นเงินให้ฟ้าใส เมื่อเขาเห็นว่าวินกับหมอกนำกิตไปไว้ในรถแล้ว เขาจึงรีบวิ่งขึ้นทันที
รถของอาร์มขับเข้ามาทางเปรี่ยว ที่มีแต่หญ้าแฝกขึ้นรกเต็มไปหมด ขนาดฟ้ายังไม่มืดยังน่ากลัวขนาดนี้ มันช่างเป็นที่เหมาะสำหรับโจรหรือไอ้โม่งมาสุ่มตัว ดักข่มขืนสาวๆ นักศึกษาเสียจริงๆ อาร์มขับรถมาตามทางเปรี่ยวๆ จนมาถึงตึกร้างที่ตั้งเด่นอยู่เพียงตึกเดียว ซึ่งมีรถมอไซค์หลายคันจอดอยู่หน้าตึก
"มึงแน่ใจนะไอ้หมอก ว่าแผนนี้นะสำเร็จ"วินหันถามหมอก
"แน่ใจดิ กูอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะทนมือ ทนตีนได้นานขนาดไหน"หมอกพูด
รถของอาร์มมาจอดที่หน้าตึก โดยมีนักเลงอีกห้าหกคนยืนรอ หมอกรีบลงจากรถเป็นคนแรก พน้อมกับวิ่งเข้าไปหานักเลงกลุ่มดังกล่าวด้วยท่าทีสนิทสนม
"หวัดดีพี่ โทษทีที่มาช้า"หมอกยกมือไหว้
"เออๆ แล้วไหนว่ะคนที่มึงจะให้กูจัดการ"วิทย์ หัวหน้ากลุ่มนักเลงเอ่ยถาม
'วิทย์' เป็นนักเลงในสลัมมาตั้งแต่เด็กๆ มีเพื่อนฝูงเยอะรวมทั้งคู่อริมากมาย ด้วยความป่าเถื่อนของพวกเขาทำให้หลายคนไม่กล้าต่อกอน หรือกล้ายุ่งด้วย ต่างต้องพากันหลบหน้าหลบตาทุกครั้ง ที่เจอพวกเขา
วินกับอาร์มพากันลากกิตลงมาจากท้ายรถ และพากันลากร่างของกินเข้าไปในตึกร้าง โดยมีนักเลงจำนวนนึงช่วยแบกหาม พาร่างของกิตไปที่ชั้นสอง
นนท์เดินตามไป ซึ่งเขารู้สีกดีกับแผนการครั้งนี้ ถ้ากิตเจอขนาดนี้และยังทนได้ ก็ไม่ใช่คนแล้วแหละ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ กิตถูกนักเลงคนนึงสาดน้ำใส่หน้าดัง โครม จนเข้าได้สติและค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ กิตกวาดสายตามองไปรอบๆ ซึ่งเป็นสถานที่รกร้างน่าสยดสยอง รอบกายถูกล้อมรอบด้วยนักเลงมากมา ที่น่าตาน่ากลัว มีรอยสักแทบทุกคน รวมทั้งพวกวินและอดีตเพื่อนรักอย่างชานนท์ ก็ยืนรวมอยู่ด้วย
"ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.."กิตถาม
"ไม่ต้องใส่ใจหรอก รู้แค่ว่าตอนนี้มึงอยู่ที่ตึกร้างกับพวกกู"วิทย์พูดด้วยเสียงดุ มือก็ควงมีดพกไปด้วย
"ปล่อยผมไปเหอะนะพี่ ผมกลัว... อย่าทำไรผมเลยนะ"กิตยกมือขึ้นมาไหว้กลุ่มนักเลงตรงหน้า อย่างอ้อนวอน
วิทย์เดินเข้ามาหาพร้อมกับมองหน้ากิตติ์ดนัย
"งั้นมึงก็สละทุนให้เพื่อนมึงซะ"วิทย์บอก
"พะ...พี่รู้เรื่องนี้ได้ไง"กิตถามอย่างแปลกใจ
"ไม่ต้องรู้มาก บอกมา จะสละทุนมั้ย ห๊ะ!!"วิทย์ตะคอกใส่ จนกิตเริ่มกลัวจนตัวสั่นระริก
"ไม่.. ไม่ครับ ผมสละทุนไม่ได้"กิตตอบเสียงสั่น ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมยกทุนให้ใครเด็ดขาด
นนท์ได้ยินก็ถึงกับกำหมัดกัดฟันอย่างเครียดแค้น ตกอยู่สถานการ์แบบนี้ก็ยังไม่ยอมอีกหรอ
นนท์หันไปมองวิทย์และพยัคหน้าให้ เป็นการส่งสัญญาณ
"ไม่สละใช่มั้ย ได้!!"วิทย์ถีบกิตไปติดกับกำแพง จนกิตจุก
ไม่นานวิทย์และพรรคพวกก็พากันเข้ามารุมกระทืบกิตอย่างเลือดเย็น ซึ่งแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามยกมือไหว้ขอชีวิตยังไง ก็ไม่มีใครฟังเขาสักคน
กิตโดนกระทืบจนเนื้อตัวพกช้ำ จ้ำเลือดไปตามร่างกาย ขนาดแขนของกิตไปกระทบกำแพงเบาๆ ยังปวดร้าวไปถึงขั้วหัวใจ เสื้อนักเรียนที่ขาวสะอาด เต็มไปด้วยรอยรองเท้าจะเปอะเปื้อน
วิทย์เข้ามาบีบปากกิต สายตาดุดันเหมือนปีศาจ ในมือก็ตวัดใบมีดของมีดพกออกมา มันคมพอที่จะแร่เนื้อคนได้
"กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง จะสละทุนมั้ย!!"วิทย์ทำเสียงดุ
ภาพที่เห็นมันช่างสะใจชานนท์เหลือเกิน ยิ่งเห็นกิตตกในสภาพนี้ เขายิ่งชอบใจ
"ไม่!! ไม่!!"กิตตอบ ทั้งๆ ที่ตนก็รีกตัวกลัวตายแต่ยังไงเขาก็ไม่สละทุนง่ายๆ
"แม่งเอ๊ย ถ้ามึงได้ทุนเพราะฉลาดมากล่ะก็ กูจะกรีดสมองมึงให้ไหลออกมากองตรงพื้นให้หมดเลย ดูสิมึงจะฉลาดพอที่จะไปแย่งทุนคนอื่นมาอีกมั้ย!!"วิทย์ชูใบมีดขึ้นที่แสนจะคมกริบ
กิตตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนที่จะถูกใบมีดของวิทย์กดลงบนหัวจนลึก วิทย์ค่อยๆ ลากใบมีดเลื่อนลงมาถึงแก้มของกิต เด็กหนุ่มได้แต่ร้องอย่างทรมาน
"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย"
"มึงไม่โหดไปหน่อยหรอว่ะ"มอสหันไปถามวิน แต่วินทำตาดุใส่ มอสเริ่มไม่อยากอยู่ร่วมในแผนการครั้งนี้อีกแล้ว เขาอยากจะยื่นมือำปช่วยกิตด้วยซ้ำ มอสจึงเข้าไปหาชานนท์ ที่ยืนดูกิตอย่างสะใจ
"พอเหอะนนท์ สงสารมันยังไงมันก็เคยเป็นเพื่อนรักมึงนะ"มอสพูด
"แต่ตอนนี้ไม่!!"นนท์เดินเข้าไปหากิต ที่นอนร้องโอดโอยอย่างทรมานอยู่บนพื้น
นนท์บีบแขนกิตและดึงตัวกิตขึ้นมานั่ง ยิ่งทำให้กิตร้องหนักกว่าเดิม
"โอ๊ยยยยยยย เจ็บ โอ๊ยยยย"
"ถ้าเจ็บมากมึงก็สละทุนซะ กูไม่อยากทำให้มึงต้องเจ็บไปมากกว่านี้นะเว้ย"นนท์พูด
"ทำไม...ทำไมต้องอยากได้ทุนนั่น ทั้งๆ ที่บ้านนายก็มีเงินมีทอง...มากมายพอที่จะเรียนจนจบปริญญาตรี กับแค่เงินทุนสามหมื่นนายจะเอาไปทำไร ฮือๆๆ"กิตเริ่มหวาดกลัวขึ้นสมอง ร้องไห้ออกมาอย่างกลัวเกรง
"เพราะทุนนั่นมันควรเป็นของกูแต่แรกไง และมึงก็เข้ามาแย่งมันไป ไอ้เพื่อนเหี้ย"นนท์ต่อยหน้ากิต จนกิตหน้าหันไปอีกทาง
"เราขอโทษ..ฮือๆๆ แต่ถ้าเราไม่รับทุนนั่นมา เราก็จะไม่มีเงินเรียนต่อมหาลัยเดียวกับนายนะ เราสัญญาว่าจะเรียนมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวไม่ใช่หรอ"กิตพูดทั้งน้ำตา
"กูไม่เคย..กูไม่อยากให้มึงได้ดีไปกว่ากูอีกแล้ว!!"นนท์เหวี่ยงลงกับพื้น พร้อมกับลุกขึ้นเอาเท้าเหยียบแผลที่หน้ากิตที่เพิ่งถูกกรีดบนใบหน้ามาสดๆ
"โอ๊ยยยยยย อย่าทำ...ขอร้อง.."
"มึงมันแย่งความสุขจากกูไป ทุกอย่าง การเรียนก็ดีกว่ากู พ่อแม่กูก็ชื่นชมแต่มึง ขนาดลูกพี่ลูกน้องกูอย่างพี่ภูมิยังเอ็นดูมึง กูต้องถูกเปรียบเทียบกับคนจนๆ อย่างมึง ต้องใช้คำว่าเพื่อนรักกับมึงมานาน กูน่ะเกลียดมึงยิ่งกว่าอะไรอีกไอ้กิต!!"นนท์พูด
มันช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายกิตเหลือเกิน ที่ผ่านมากิตเห็นนนท์เป็นเพือนที่แสนดีมาตลอด ทำไมนนท์ถึงต้องเกลียดเขา ทำไม...ทำไมนนท์ต้องทำเป็นดีกับเขาด้วย
"นนท์..เราเป็นเพื่อนกันนะ"กิตพูดน้ำตาก็ไหลพราก
"สละทุนซะ กูไม่อยากรังแกคนไม่มีทางสู้"นนท์พูด
"ใช่ พวกกูจะได้มีเงินไปเที่ยวสักที อยากแบ่งกันเงินจะตายห่าล่ะ"หมอกพูดจนวินต้องหันมาตบหัว
กิตได้ยินจึงเริ่มเอะใจ หมายความว่าไงกัน
"พวกนายหมายความว่าไง"กิตถาม
นนท์เอาเท้าออกจากแผลของกิตและเดินถอยมาตั้งหลัก
"พวกนายจะเอาเงินทุนนั่นไปทำไรกันแน่"กิตถามต่อ
"ก็เอาไปซื้อความสุขพวกกูไง ไอ้กิต คนจนอย่างมึงไม่ควรมีเงินใช้ด้วยซ้ำ"วินพูด
กิตได้ยินก็ค่อยๆ ประครองตัวพยายามจะลุกนั่ง ก่อนที่จะมองพวกวินและนนท์อย่างอาฆาตร
"พวกนายมันเห็นแก่ตัว โลภมาก สารเลว คิดจะเอาเงินทุนของคนอื่นไปเสวยสุข บนความทุกข์ของคนอื่นหรอ พวกชั่ว!! ไม่เคยเห็นใจคนอื่น"กิตด่าทออย่างแรงด้วยสายตาเกลียดชัง
"เกิดมายังไม่มีใครด่ากูเลย มึงกล้าดียังไง"นนท์คว้าไปหยิบหินก้อนใหญ่ขึ้นมา และเดินตรงมาหากิต
กิตรีบถอยหนีอย่สงหวาดกลัว
"นนท์ จะทำไรอ่ะ อย่านะ!! อย่าาาา"
กิตร้องขอไปก็เท่านั้น นนท์เอาหินก้อนนั้นทุบที่ใบหน้ากิตอย่างรุนแรง ด้วยความโมโห จนใบหน้าของกิตเละ มีแผลเต็มใบหน้า นนท์ทุบหินใส่หน้ากินไม่ยั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นมากระทืบยอดอกของกิต ซ้ำเติมเข้าไปจนกอนกระอักเลือด
จนทุกคนต้องเข้ามาจับแยก วิทย์มองกิตที่นอนกระอักเลือด พยายามอ้าปากหายในผงาบๆ เพื่อสูดอากาศเข้าไปในปอด เพื่อยื้อชีวิตตัวเองให้นานที่สุด
"มันจะตายมั้ยว่ะ"วิทย์พูด
"ปล่อยมันไว้นี่แหละ กูให้เวลามึงคิดนะไอ้เหี้ยกิต ถ้าไม่สละทุนมึงได้ตายจริงๆ แน่"นนท์เดินออกไป
วินและพรรคพวกรวมทั้งกลุ่มของวิทย์รีบเดินตาม เหลือเพียงมอสที่ยืนดูกิตนอนยื้อชีวิตตัวเองบนพื้น
กิตใช้สายตาเลื่อนมามองมอสที่ยืนดูอยู่ เขาพยายามใช้เรี่ยวแรงที่มียกมือขึ้นขอน้องมอสให้ช่วยเขา..
"ชะ...ชะ...ช่วย...ด้วย..."
มอสมองกิต ใจอยากช่วยแต่เสียงของวินตะโกนถามขึ้นมา
"ไอ้มอสนะนอนนี่หรอไง กลับบ้าน!!"สิ้นเสียงวินมอสก็น้ำตาไหล ก้มหน้าเดินออกไป
กิตมองตามพยายามยกมือขอร้องอีกครั้ง
"ได้โปรด...ช่วย...ชะ...ชะ...ช่วยที...ได้โปรด"
"เราขอโทษ เราช่วยนายไม่ได้จริงๆ"มอสรีบวิ่งออกไป ทิ้งให้กิตนอนนิ่งอยู่บนพื้น
กิตนอนรอความตายอยู่ในตึกร้าง ยิ่งได้ยินเสียงรถจำนวนมากขับออกไป ยิ่งทำให้เขาหมดหวัง กิตพยายามนอนหายใจผงาบๆ อย่างอ่อนแรง ยิ่งผ่านไปนานเท่าไรยิ่งจะขาดใจตายเท่านั้น
"ใครก็ได้...ช่วย....ผม...ที...."
น้ำตาหยดสุดท้ายของกิตติ์ดนัยไหลออกมาจากตา ในที่สุดเขาก็ขาดใจตาย ไม่สามารถยื้อชีวิตตัวเองต่อไปได้... ภาพความทรงจำดีๆ ของเขาค่อยๆ ปรากฎก่อนที่มันจะจางหายไป... ฟ้าฝนเริ่มตกกระหน่ำ ราวกับแสดงความโศกเศร้ากับการตายอย่างอนาถของกิตติ์ดนัย...
ฝนเริ่มตกหนัก ฟ้าผ่าดังเปรี้ยง จนรัฐภูมิต้องลุกขึ้นมาปิดหน้าตาของห้องนอนเขา รัฐภูมิเดินกลับไปที่เตียง พร้อมกับโยนตัวลงนอนอย่างสบายใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องไห้ที่คุ้นหู ดังกังวาลในห้อง...
"ฮือๆๆ ฮือๆๆๆ พี่ภูมิ..."เสียงอึกสะอื้นน่าเวทนานั่นกำลังเรียกชื่อเขา
"สะ...สะ...เสียงใครน่ะ"ภูมิค่อยๆ ลุกจากเตียงนอน ก่อนที่จะขยี้ตาอย่างงัวเงีย
ภูมิมองไปรอบๆ ห้องนอน ที่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ในห้อง จนเขาไปสะดุดเข้ากับ...เด็กผู้ชายคนนึงที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่มุมห้อง
"ฮือๆๆๆ พี่ภูมิ..."
"ใครน่ะ... เข้ามาในห้องได้ยังไง"ภูมิกดหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อให้แสงของหน้าจอ ส่องไปยังเด็กผู้ชายคนนั้น
ภูมิพยายามมองเขา แต่ก็ดูไม่ออกว่าเป็นใคร จู่ๆ เด็กผู้ชายคนดังกล่าวก็ลุกขึ้นยืน ก้มหน้าร้องห่มร้องไห้ เขาอยู่ในชุดนักเรียนมีเลือดไหลอาบเต็มตัวไปหมด
"นี่ใครน่ะ...ใคร?"ภูมิถามอย่างสงสัยในใจก็แอบกลัว
เด็กผู้ชายคนนั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขา ดวงตาขาวโผลนไร้งตาดำ น้ำตาหลั่งไหลเป็นสายเลือด ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งรอยกรีดบนหน้าผากลากยาวมาถึงแก้ม บาดแผลถูกเปิดอ้าจนน่ากลัว และบาดแผลที่ถูกทุบหน้าสีโฉม เน่าเฟะจนดูไม่ได้
เขาคือ...'กิตติ์ดนัย'
"...นายคือใคร มาหาฉันทำไม"ภูมิถามพร้อมกับถอยหนีช้าๆ
"จำไม่ได้หรอ น้องรักของพี่ไง..."กิตติ์ดนัยตอบด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
"ใครอ่ะ ไม่รู้!!"ภูมิบอก
กิตติ์ดนัยค่อยๆ ก้าวเท้าไปหารัฐภูมิอย่างช้าๆ จนรัฐภูมิต้องถอยหนีจนติดหัวเตียง กิตติ์ดนัยแสยะยิ้มอย่างสยอง พร้อมกับเอื้อมมือมาแตะแก้มของรัฐภูมิอย่างแผ่วเบาๆ ทั้งๆ ที่รัฐภูมิกลัวจนตัวสั่น
"ไม่ต้องกลัวหรอก...แค่อยากกลับมาหา..คนดีของผม"กิตติ์ดนัยหัวเราะในลำคอ
"ออกไป ออกไป ไอ้ผีบ้า ออกไป!!!"ภูมิหลับตาปี๋พยายามตะโกนขับไล่
จนทุกอย่างสงบรัฐภูมิค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผีตนนั้นหายไปแล้ว เขาถึงกับโล่งอก ก่อนที่จะมีเลือดหยดลงบนใบหน้าของเขา ซึ่งมันมาจากบนเพดานห้องเขาเอง ภูมิค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง
ผีกิตติ์ดนัยยืนห้อยหัวอยู่ด้านบน สายตาอาฆาตร ไม่พอใจอย่างมาก
"กูอุตส่าห์กลับมาหามึง มึงไล่กูไปทำไม!! ไอ้รัฐภูมิ"
กิตติ์ดนัยยื่นมือมาบีบลูกตาของรัฐภูมิ จนเลือดไหลออกจากเบ้าตาทั้งสองข้าง มือของกิตติ์ดนัยค่อยๆ ควักลูกตาของรัฐภูมิออกจากเบ้าตา เลือดไหลอาบ รัฐภูมิดิ้นพล่านร้องอย่างทรมาน
"อ๊ากกกกกกกก ช่วยด้วยๆๆ"
"ฮ่าๆๆๆ"กิตติ์ดนัยหัวเราะชอบใจ ก่อนที่จะบีบลูกตาของภูมิที่เขาเพิ่งควักมาสดๆ บีบบี้จนไม่เหลือชิ้นดี
กิตติ์ดนัยลงมาจิกหัวภูมิอย่างแรง ก่อนจะกระซิบข้างหู
"จำไว้ อย่าไล่กูอีก!!"
เสียงนั่นดังก้องไปในหูของภูมิ ตามด้วยด้วยเสียงหัวเราะอันชวนสยอง ภูมิสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เฮ้อออ ฝัน!! นอนต่อดีกว่า"ภูมินอนลงบนเตียง ก่อนที่จะหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา "ตีสาม เฮ้อ...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้วสิ"
ภูมินอนคิดถึงผีตนนั้น ที่เขาเพิ่งฝันถึง มันเป็นความฝันที่น่ากลัวที่สุด แบบที่เขาไม่เคยฝันถึงมาก่อน ทุกอย่างเหมือนจริงจนน่าตกใจ ทั้งผีตนนั้น และความรู้สึกเจ็บปวดที่เขาโดนกระทำ
"ผีตนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องมาหาเรา..."รัฐภูมิตั้งข้อสงสัยก่อนที่จะข่มตาหลับไป
วิญญาณของกิตติ์ดนัยยืนอยู่หน้าบ้านของภูมิ เขาถลึงตาอย่างโกรธแค้น
"ถ้าพวกมึงยังไม่ตายโหง กูจะไม่มีทางให้ไปเกิดเด็ด"กิตติ์ดนัยยืนกำมือ กัดฟันอย่างเครียดแค้น
" ไอ้ชานนท์ เพื่อนสารเลว!!"
สิ้นเสียงของกิตติ์ดนัย ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยง ฝนห่าใหญ่เริ่มกระหน่ำตกลงมาอีกครั้ง
กลับมาคราวนี้ เราจะได้เห็นดีกัน!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ