Crystal Bear อลวนรัก กำไลคริสตัล
เขียนโดย KP_Freedom
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.06 น.
แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 16.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Crystal Bear II
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“บ้านหลังใหญ่มาก” เด็กชายที่เดินมาส่งเด็กสาวตัวน้อย พูดขึ้น
“ก็ไม่ขนาดนั่นค่ะ.. พี่เค ถ้าไม่รีบ พี่เคเข้าไปข้างในก่อนสิคะ ไปเจอคุณพ่อ คุณแม่ กับพี่ชาล” เด็กสาวพูดอย่างสดใส และตื่นเต้น
“ฮ่าๆ ทำไมดู ตื่นเต้นจัง”
“กะ ก็ เซียไม่เคยมีเพื่อนมาบ้านค่ะ”
“เอ๋ ทำไมละ”
“เซีย เข้าโรงพยาบาลบ่อยค่ะ เลยไม่มีเพื่อนเลย ออกไปเล่นข้างนอกก็ได้แค่แป็ปเดียว..”
“เธอก็จะเหนื่อย แล้วหายใจไม่ทันงั้นสิ”
“ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับน้อยๆ จนชายหนุ่มนึกเห็นใจ
“งั้นเอางี้ไหม?... พี่จะมาเป็นเพื่อนเล่นเราดีไหม?”
“เอ๋ จริงหรอคะ แล้ว... เพื่อนๆที่สนามเด็กเล่น..”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็ไม่ค่อยชอบเล่นที่นั่นสักเท่าไรหรอก” ว่าพรางอมยิ้มกลับมาให้
“จริงหรอคะ จริงๆนะพี่เค” เด็กสาวถามอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมมองเป็นประกาย
“จริงสิ เดี๋ยวพี่จะอยู่เล่นเป็นเพื่อน”
“งะ งั้น พี่เค เข้าบ้านเซียก่อนนะคะ เซียจะแนะนำ พี่ให้ คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็พี่ชาล นะคะ นะๆๆๆ”
“ครับๆ” แล้วเด็กหนุ่มก็ ถูกเด็กสาวดึง ให้เข้าไปในบ้าน ด้วยรอยยิ้ม น้อยๆ ของชายหนุ่ม ที่แสดงถึงความเอ็นดู ต่อเด็กสาว ที่เป็นเหมือนน้องสาวของเขาเอง... น้องสาวที่เขาไม่คิดว่า จะเปลี่ยนแปลงหัวใจ ที่ทำให้คิดอะไรเกินเลย จากคำว่าน้องสาว และ พี่ชาย...
พี่เค....
“ฮึก!” เสียงสะดุ้งจากร่างสูง ที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง ลุกขึ้นมากลางดึก ฝันถึง อีกแล้ว..
ชายหนุ่มกุมขมับที่มีเหงื่อเล็กน้อย แม้ในห้องจะติดเครื่องปรับอากาศก็ตาม ก่อนจะหันไปมอง กำไลคริสตัล ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอน ที่ส่องแสงสะท้อนกับ ดวงจันทร์ยามค่ำคืน ก่อนจะถอนหายใจออกมาแผ่วเบา แล้วล้มตัวลงนอนต่อ...
--- รุ่งเช้า ---
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู ปลุกให้หญิงสาวที่กำลังใช้เวลาพักผ่อนอันแสนสบาย ต้องงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย ใครฟ่ะ?
ก๊อกๆๆ แม้จะเงียบ แต่เสียงเคาะก็ยังคงดังเรื่อยๆ ถ้าตะโกนว่าไม่อยู่ จะเชื่อมั๊ยเนี่ยยย ฮึ้ย สุดท้ายก็ทนรำคาญไม่ไหว เจ้าของรางเพียวบาง จึงลุกไปเปิดประตูในที่สุด
“ซีเนีย!! นี่เธอเองหรอ มีอะไรมาเคาะแต่เช้าเลย” หญิงสาวว่าพรางปิดปากหาว
“เช้าบ้านเธอสิ นี่มันจะเที่ยงแล้ว ดูๆๆ” หญิงสาวเจ้าของแก้มป่องอย่างซีเนีย ยื่นนาฬิกาข้อมือให้ ซีเกลดู
“รู้แล้วๆๆ แต่นี่มันวันหยุดนะ จะไปไหนเนี่ย” ซีเกลทำได้เพียงเกาหัวแก้ง่วง ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่ แล้วส่งคำตอบกลับมา
“เลส โก ทู ช๊อปปิ้ง!”
..
.
-- ณ บริษัท High on Top--
“ไง อาร์ โทรเรียกฉันมา มีไร?” เจ้าของร่างสูงโปร่ง เจ้าของผมสีบลอนทอง ทักขึ้น
“อ๋อ โทษที ที่เรียกมากะทันหัน พอดีมีเรื่องให้ช่วยน่ะ”
“เรื่องอะไร?”
อาร์ไม่ได้ตอบ เพียงแต่ชี้เป็นนัยว่าเดินเข้าไปตรงนั่น ก่อนที่ทั้งสองร่างจะพากันเดินเข้าไปยังสตูดิโอด้านใน
“พอดี ฉันพึ่งจะออกแบบ เสื้อโค้ชคอลเลคชั่นใหม่ มี 4 แบบเป็นลิมิเต็ดด้วย เลยจะลงมือถ่ายแบบเองเลย”
หลังจากที่เข้าในสตูดิโอ ที่คับคั่ง ด้วยฉาก แสงไฟ และทีมงานมากมาย อาร์ก็ได้บรรยายให้เพื่อนตัวสูงอีกคนฟัง อาร์ เป็นลูกชายคนเดียว ของบริษัท High on Topแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่มีสินค้าอย่างเสื้อกระเป๋าและรองเท้า ถือว่าอาร์เป็นคนที่จะสืบต่อธุรกิจนี้ โดยที่เขาเองก็มีความสามารถ ทางด้านนี้อย่างชัดเจน เขาเป็นทั้งชั่งภาพ นายแบบ และดีไซเนอร์ ในบางโอกาส และคอนเซปครั้งนี้ เขาเป็นคนคิดเองทั้งหมด โดยที่เขาจะลงมือเป็นนายแบบเอง และ ได้ขอให้เพื่อนสนิทอย่าง อี้ฟาน เข้ามาร่วมด้วย
“แล้ว?”
“ก็เลยกะว่าจะให้ นายมาถ่ายแบบคู่กับฉัน”
“เฮ้ย เอาจริงดิ” อาร์ ไม่ตอบ ทำเพียงพยักหน้า
“แล้ว เค ละ? ไม่เอาเค มาด้วยหรอ?”
“อืม นายก็รู้ เจ้านั่นติด เอริณ ขนาดไหน แต่ไม่เป็นไรหรอก คอนเซปนี้ ฉันจัดการเองหมด” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ว่าแต่นายเหอะ อี้ฟาน ว่างมาถ่ายให้หน่อยปะ? แค่ 2-3 ชม. ถ้าภาพโอเค”
“อ๋อ ได้สิ ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
“ดีเลย ไปเปลี่ยนเสื้อเหอะ” แล้วนายแบบจำเป็น ก็เข้าห้องแต่งตัว เพื่อเตรียมการถ่ายแบบ
..
.
ภายใน คอนโดหรูใจกลางเมือง ด้วยการตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ที่มีพร้อมทุกอย่าง ห้องครัว รวมถึงห้องนั่งเล่น ทำให้ราคานั่นไม่ต้องพูดถึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ยืนหน้าบานกระจกขนาดใหญ่ ทอดมองการจราจรและวิวด้านนอก ด้วยสายตาเรียบเฉย มือซ้ายที่ถือกำไลคริสตัลของใครบางคนให้กับเขาไว้เมื่อนานมาแล้ว เขายังจำมันได้ดี
ตึ๊งดึ่ง!
เสียงข้อความเข้า ทำให้ร่างสูงตื่นจากภวังค์ มือหนาจัดการล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาเครื่องมือสื่อสารออกมา เพื่อเข้าดู.โปรแกรมแชทยอดนิยมเพียงแค่เห็นว่าข้อความนั่นมาจากใคร รอยยิ้มน้อยๆ ก็ปรากฏ
“A-Rin na :ตื่นหรือยังเอ่ย^^” เพียงแค่เห็นข้อความของเอริณ ก็ทำให้รอยยิ้มของผมกว้างขึ้นทันที ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หรือผมจะเป็นคนบ้านะ?
“I’AM K: ตื่นแล้วค๊าบบบ สุดสวย” ผมตอบกลับไปหาเธออย่างเคย ความรู้สึกผมเองก็เช่นกัน
“A-Rin na :ตื่นมาก็ปากหวานเลยนะ”
“I’AM K :เคยชิมแล้วหรอ?”
“A-Rin na :บ้า!!”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ผมเดานะ เอริณคงต้องแก้มแดงมากๆ แน่เลย อยากเห็นจัง จะบีบให้แรงๆเลย ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่น ผมทะนุถนอมเอริณมากเลยนะ เพราะตั้งแต่ผมมีเอริณ ชีวิตที่ขาดคนๆนั่น ก็ดีขึ้น ผมไม่เหงา เอริณเองแม้จะอยู่เฉยๆ เธอก็ทำให้ผมสบายใจได้อย่างหน้าประหลาด คำพูดไม่กี่คำ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันมีชีวิตชีวาได้ คงต้องบอกได้คำเดียว ว่าผมคงตกหลุมรักเธออย่างจัง ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ยอมรับรักแล้วเป็นแฟนผมอย่างจริงๆจังๆก็เหอะ เรื่องแค่นี้ ผมไม่ยอมแพ้หรอก ผมรักแล้ว จะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจผมได้...
“I’AM K :เอริณครับ.. วันนี้ไปเที่ยวกันมั๊ย?”
“A-Rin na :ที่ไหนหรอ?”
“I’AM K :ไปเดินเล่นที่ห้างของ อี้ฟาน เป็นไงครับ?”
“A-Rin na :เอาสิ ไปเจอกันที่นั่นเลยมั๊ย?”
“I’AM K :ได้ไง อยู่นั่นเลยนะ เดี๋ยวผมไปรับ” นั่นสิ ผมบอกแล้วผมรักเธอ ผมก็ต้องดูแลเธอให้ดีที่สุด และผมจะไม่มีทางเสียเธอไป เหมือนเจ้าของกำไลเส้นนี้อีก...
..
.
ณ ห้างหรูใกล้คอนโด มีหญิงสาวทั้งสองเดินเลือกเสื้อผ้าอย่างอารมณ์ดี แม้จะใส่เสื้อสบายๆ แสนจะธรรมดา แต่ก็เรียกสายตา ผู้ชายหลายคนที่เดินผ่านได้อย่างดี เพราะความสวย และน่ารัก แตกต่างกันของทั้งสอง
“ซีเนีย ตัวนี้โอเคปะ?” หญิงสาวเจ้าของดวงตากลมที่กรีดอายไลเนอร์ อย่างมั่นใจ ถามเพื่อนตัวเอง
“ก็สวยดี.. แหม ตอนชวนไม่อยากจะออก พอออกมานี่ ตื่นเต้นกว่าฉันอีกนะ” ซีเนียแซวคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าไปมาหลายตัว
“ไม่ได้หรอก ไม่อยากให้เสียเที่ยว ฮี่ๆ” ซีเกลทำหน้ายิ้มจนตาหยี่ แอบนึกหมั่นไส้นะ ตอนชวนนี่ กว่าจะออกมาด้วยยากมาก ดูตอนนี้สิ ช๊อปไม่สนใจกันซะละ มองหญิงสาวที่กำลังเลือกเสื้อก็อดนึกถึงตอน ปลุกไม่ได้
“วอท! นี่มาเคาะกันแต่เช้า เพื่อไป ช๊อปปิ้ง?” ซีเกลทำหน้าตั้งคำถาม พรางอาปากค้าง ฉันก็ทำเพียงพยักหน้ารับ และส่งยิ้มให้
“วันอื่นไม่ได้หรอ”
“วัน นี้ เพราะอีก 2 วัน เราต้องเข้าค่ายก่อนเปิดเทอม ตั้ง 1 อาทิตย์เลยนะที่ทะเล ทะเล๊ ทะเล ไม่อยากไปไง?” ฉันพยายามหาข้ออ้างให้ ซีเกล รู้ดี ซีเกล ชอบเที่ยวเลยละ
“อีกตั้ง 2 วัน ไป พรุ่งนี้ก็ได้” ง่า ได้ไง ทำไมไม่ได้ผลล่ะ ทุกที ซีเกลต้องตื่นเต้นแล้วรีบไปนิ
“เอ้า ทำไมละ ไปเหอะ นะๆๆ” คิดอะไรไม่ออกก็แผนลูกอ้อนเลยแล้วกัน
“วันนี้ พักเอาแรงนะ แล้วพรุ่งนี้จะพาไปช๊อป”
“งื้อออ ไม่อาวววว ไปด้วยกันสิ นะๆๆ” ซีเนียเริ่มใช้ลูกอ้อนเอาแต่ใจ พร้อมกับระดับที่เพิ่มขึ้น
“ไม่ต้องมาเอาแต่ใจเลยนะ ฉันไม่ใช่พี่ชาล” ซีเกลว่าก่อนจะทำท่าปิดประตู แล้วหันหลังเดินกลับที่นอน คิดว่าจะเอาพี่ชาล พี่ชายสุดที่รักของฉันมาอ้าง ไม่ได้ผลหรอก เพิ่มระดับความเอาแต่ใจได้! หญิงสาวแก้มป่องได้วิ่งเข้ามาให้ห้อง ก่อนจะกระโดดขึ้นบนเตียงและกางแขน ขา จนเต็มขนาดเตียง
“ซีเนีย ทำอะไรเนี่ย”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าเธอไม่ไป ก็นอนมันเงี่ย”
“ลุกเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ลุก จนกว่าเธอจะไปกับฉัน”
“เดี๋ยวจะฟ้องพี่ชาล”
“ฟ้องเลย พี่ชาลไม่ทำอะไรฉันหรอก”
“ฉันจะฟ้องพี่เค”
“เอาสิ ถ้าเธอเจอเขาอะนะ แบร่”
“ฮึ้ย” เมื่อเถียงไม่ได้ ก็ทำได้แต่ร้องอย่างขัดใจ ก่อนจะนั่งตรงปลายเตียง
“ไปอาบน้ำสิ ไปช๊อปกัน” ซีเนียยิ้มจนตาปิดให้ ชิ คิดว่าน่ารักหรือไง
“โนว” แม้จะโดนแย่งที่ แต่ความต้องการนอนก็มีมาก ไม่เป็นไร นอนไปเลยไม่หวงจ้า ฉันนอนโซฟาของฉันได้ ว่าแล้วก็เดินไป นอนลงที่โซฟาขนาดกวาง แม้จะไม่เท่าเตียงนอน แต่ก็ใหญ่พอ จะนอนได้สบายๆ
“ไม่ได้นะ ซีเกล ตื่นเถอะ สายแล้ว จะนอนไปเอาโล่หรอ” ซีเนียเห็นก็รีบเด้งตัว ออกจากเตียง ก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังหลับตานอนสบายใจ
“อืม... ได้ก็ดีนะ” ตอบขณะที่ดวงตายังคงหลับสนิท
“ซีเกลอา.. นอนแบบนี้ พี่ฟานฟาน ไม่ชอบนะ”
“รู้ได้ยังไง”
“ไม่มี ผู้ชายคนไหน ชอบผู้หญิงปลุกยากนะ อย่าว่าแต่พี่ฟานฟาน ของเธอเลย..” ซีเนียพูดเสียงเบา แทบกระซิบก่อนจะหยุดคำพูดไว้ ทำให้หญิงสาวลืมตาข้างเดียวเป็นเชิงรับฟังอยู่
“ผู้ชายหล่อ ที่เธอจีบๆ ก็คงไม่ชอบ ผู้หญิงขี้เกียจตื่น ผมรุงรัง หน้าโทรมๆ ฟันไม่แปรง น้ำไม่อาบ ตัวเหม็นแบบนี้หรอก” ซีเนียว่า ก่อนจะหยิบจับร่างกายของซีเกล ตามคำพูดไปเรื่อยๆ
“ฉันพูดจริงๆน๊า” ซีเนียทำลอยหน้า ลอยตา หญิงสาวที่ลุกขึ้นจากโซฟาก็ทำได้แต่ จับผมที่รุงรังของตัวเอง
“ชิ อาบก็ได้ เริ่มไม่ง่วงแล้วเฉยๆนะ” พูดจบก็เข้าไปในห้องน้ำในที่สุด
“แค่เนี่ยเอง ซีเนียตอแหลได้สบายมาก ฮี่ๆๆ”
นึกแล้วก็ขำนะ อิอิ แต่ก็ถ้าไม่ทำงี้ ซีเกลก็ไม่ยอมออกมาด้วยแน่ๆ
“ซีเนีย ชุดซีทู ตัวนี้เป็นไง สีขาวดีกว่าเนอะ เวลาลงเล่นน้ำจะได้ บับว่า โซ เซ็กซี่”
“อ๋อ ก็สวยนะ แต่นี่ มันจะไม่โป๊หรอ เราไปกับ มหาลัยนะ”
“เราเรียน อินเตอร์ แต่ทำไม หัวโบราณจัง?”
“แหม ให้เกียรติสถาบันอะ รู้จักป่าว”
“เอาน่าๆ ซื้อไปด้วย”
“ตามสบาย” แล้วการช๊อปของสาวๆ ก็ดำเนินต่อไปเป็นชั่วโมง ของที่ซื้อก็เริ่มเยอะเต็มมือทั้งสองข้าง
“เมื่อยแล้วอะ แวะร้านนั่งเล่น พักหน่อยดีกว่า”
“นั่นสิ ปวดขาหมดเลย” ซีเนียตอนรับ แล้วทั้งสอง ก็เข้าไปที่ร้าน สตาบัค ร้านประจำของพวกเธอ ตั้งแต่อยู่ อเมริกาแล้ว
“อา เหมือนสวรรค์ ได้นั่งพักสักที” ซีเกลนั่งปุ๊บก็ไหลตัวลงไปตามเก้าอี้ บ่งบอกถึงความเมื่อยสุดๆ
“ฮาๆ ก็เธอเดินไม่หยุดเลย ใครก็ไม่รู้ ชวนก็ไม่ยอมมา”
“ก็มาแล้วนี่ไงย๊ะ”
“จ้าๆ”
..
.
รถมินิคูเปอร์สีแดงเพลิง เคลื่อนตัวจอดอยู่หน้าบ้านหรู ของหญิงสาวร่างเพียวบาง ตามที่ได้นัดกันไว้ ก่อนที่ร่างบาง จะเดินออกมาด้วยชุดเดรสสีขาวสดใส และผ้าคาดผมแบบโบสีส้มโดดเด่น รับกับผมสีบลอนสว่างของเธอ ลิมฝีปากอมชมพูยิ้มให้ ชายหนุ่มน้อยๆ ก่อนจะก้าวขึ้นรถของเขา
“สวยจัง”
“ปากหวาน”
“ชิมเมื่อไรหรอ ถึงรู้”
“ตาบ้า ออกรถได้แล้ว”
“ฮ่าๆ”
“เดี๋ยวเหอะ จะพาเดินให้ปวดขาเลย”
“ถ้าข้างๆ มีคนสวย คลานตามเลยก็ยอมค๊าบบบ” เค พูดออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มจนเห็นฟันครบแทบทุกซี่ หญิงสาวเองก็ได้แต่อมยิ้มหน้าแดง หันไปมองนอกกระจกรถแทน ปีกว่าที่จีบเธอมาแบบนี้ ไม่เบื่อเลยจริงๆ สินะ แล้วรถของเค ก็เคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านของเธอไปยัง ห้างของอี้ฟานเพื่อนสนิท ที่อยู่ใจกลางเมือง..
..
.
ภายในสตูดิโอ ของอาร์ มีร่างของนายแบบที่ช่างภาพคิดว่า ชั่งเพอร์เฟคมากๆ สองคนที่ออกแบบท่าได้อย่าง มืออาชีพ ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปปั้นอย่าง อี้ฟาน ใช้ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวมองกล้อง จนคนถ่ายเองก็มือสั่น
“หล่อมากๆเลยนะ คุณอี้ฟาน คุณอาร์ ไปหาคนหล่อแบบนี้มากจากไหนครับเนี่ย?” หลังจากรัวชัตเตอร์สำหรับภาพของ อี้ฟานเรียบร้อย ชั่งกล้องก็เดินไปพูดคุยกับ อาร์
“ขอบคุณครับ แต่อี้ฟานเป็นเพื่อนผม” อาร์ ยิ้มและตอบรับไปหน่อยๆ
“ห๊ะ จริงๆหรอครับ คุณอาร์ นี่ก็หล่อกระชากใจพี่ๆ ในสตูดิโอกันหมดแล้ว ยังจะเอาเพื่อนหล่อๆ อย่างคุณอี้ฟาน มาทำให้พวกพี่ละลายกันอีกนะคะ” สไตล์ลิสของ อาร์พูดขึ้น ขณะที่เดินมาจัดเสื้อให้ ชายหนุ่มเพื่อเข้าคิวถ่ายต่อไป
“คนหล่อนี่ เขาคบแต่ คนหล่อๆ ด้วยกันหรือไงนะ” ช่างแต่งผมอีกคนก็เดินเข้ามา จัดทรงผมให้ อาร์เล็กน้อย
“ฮาๆ ไม่ครับ ไม่ใช่ๆ แค่บังเอิญมั้งครับ” อาร์พูดแก้ต่าง เขาเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน เพราะเขาไม่เคยคบใครที่หน้าตาเลย
“พี่ถ่ายภาพของคุณอี้ฟาน สายตาที่เขามองกล้องนี่ ผมมือสั่นเลยนะ คนอะไรหล่อมาก” ช่างภาพพูดอีกที
“ขนาดนั่นเลยหรอคับ ฮาๆ ขอบคุณมากๆนะคับ” อี้ฟาน ที่เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดก็พูดขึ้น เมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่
“ใช่ค่ะ คุณอี้ฟาน ขนาดเจ้ ไม่ได้สบตาตรงๆ เจ้ยังแทบละลายเลย”
“ฮาๆ ไม่ขนาดนั่นหรอกครับ”
“แหม ไม่ต้องถ่อมตัวนะคะ หล่อๆแบบนี้ ผู้หญิงตามเป็นขบวนแน่ๆ”
“ก็นิดหน่อยครับ แฮะๆ”
“แล้วคุณ อาร์ ของเราละคะ มีสาวมาเป็นขบวนหรือเปล่า หล่อๆคมๆ แบบนี้” อาร์ทำเพียงแค่ อมยิ้มให้ รุ่นพี่ช่างทำผม ก่อนจะเดินไปยัง ฉากที่จัดเตรียมไว้
“คุณอี้ฟานคะ คุณอาร์เนี่ย เขาพูดน้อยแบบนี้ แอบซุกสาวไว้มั๊ยคะ?”
“อันนี้ ก็ไม่รู้ครับ” ว่ายิ้มๆแล้ว ก็เดินไปนั่งเล่นมือถือต่อ..
..
.
“ซื้ออะไรมาบ้างอ่ะ ซีเนีย ฉันเห็นเสื้อเดรส สีขาวที่ซื้อมา สวยดีนะ จะใส่ไปเล่นทะเลหรอ?” หลังจากแวะพักที่สตาบัคได้สักพัก หญิงสาวดวงตาคมก็ถามขึ้น
“อ๋อ ก็ใส่ได้ แต่ชุดนี้ ซื้อมาแทนชุดเก่าน่ะ พอดีตัวเก่าเล็กแล้ว”
“What’s mean?”
“ก็ฉันจะมีเสื้อเดรสสีขาวติดตู้ไว้ตลอด”
“ทำไมอ่ะ ไม่เคยเห็นใส่เลย”
“ไม่ได้มีไว้ใส่ แค่เอาไว้เตือนความทรงจำ”
“ความทรงจำอะไร”
“การพบกันครั้งแรกของฉันกับพี่เคไง ชุดเดรสสีขาว เป็นชุดที่เราเจอกันครั้งแรก”
“ซีเนีย ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเธอกับพี่เขานักหรอกนะ แต่เธอเองก็คงจะรักพี่เค มาก ฉันเองก็ไม่เคยเจอพี่เขาเลย เธอคิดว่า.. 10 ปี พี่เขายังจำเธอได้อีกหรอ..”
ซีเกลพูดอย่างเป็นห่วง เพราะระยะเวลาตั้ง 10 ปี ตั้งแต่อายุแค่ 8 ขวบ ตอน 8 ขวบ พวกคุณจำอะไรบ้างละ? ฉันยอมรับว่าซีเนียเห็นพี่เค เป็นบุคคลที่สำคัญมาก และไม่มีวันลืมด้วย แล้วความสัมพันธ์ทั้งสองเคยเป็นแบบไหนมาก็ไม่รู้ แต่ถ้าความทรงจำของ พี่เขา ทำกับซีเนียเหมือนๆกับเพื่อนคนอื่นๆ ฉันคิดว่า ถ้ามีโอกาสเจอ ซีเนียมีแต่เจ็บ กับเจ็บ เลย ฉันถึงได้อยากย้ำเตือน ซีเนียบ่อยๆ ว่าให้เผื่อใจ แต่ดูๆแล้ว ซีเนียคงไม่เคยเผื่อเลยสักนิด...
“ซีเกล อย่าพูดแบบนั่นสิ พี่เค เขามีของต่างหน้าอย่าง กำไลคริสตัลนะ ถ้าเจอเขา ฉันจะจำได้”
“อ๋อ พี่เขาจะใส่ตลอดเวลางั้นสิ”
“ซีเกล!!”
“อะๆ โอเคๆ ยอมแล้วก็ได้ แต่กำไลของเธอ มีอันเดียวในโลกหรือไง?”
“แน่นอน”
“อ๋อหรอ” แล้วซีเกล ก็ก้มลงดูดน้ำชาเขียว ของเธอต่อ พรางสายตาก็สบเข้ากับ ร้านขนม ใกล้ๆ
“เดี๋ยวมานะ ซีเนีย”
“ไปไหน?” หญิงสาวไม่ตอบ ทำแค่ชี้ว่าจะเข้าร้านขนม ก่อนจะรีบวิ่งไปอย่างเร็ว ทำให้ซีเนียทำได้เพียงส่ายหน้า ชอบจริงๆเลยนะ ขนมเนี่ย ฉันเคยถามซีเกลว่า รักขนมขนาดนี้ เจอผู้ชายหล่อกับขนม จะเลือกอันไหน ยัยนั่นตอบว่า ขนม พอถามว่าทำไม ก็บอกว่า คนสวยกินขนม มันดูไร้เดียงสาไง ถ้าผู้ชายหล่อๆเห็น คงคิดว่าฉัน น่ารัก น่าเอ็นดู คงจะตกหลุมรักไม่น้อย โธ่ ความคิด! ยัยซีเกล ยัยเพื่อนรัก ร้ายเดียงสา ชิ
“ซีเนีย!!” อุ๊ยตาย ยัยนั่นรู้ความคิดฉันหรอ? ว่าแล้วก็หันไปมองตามเสียง ก็เห็นว่า ยัยซีเกล วิ่งหน้าตาตื่นมาเลย มีอะไรหรือเปล่าอะ
“อะไร?”
“มีเศษเหรียญม๊ะ ขอหน่อย” พูดพรางแบมือขอ ฉันจึงควานหากระเป๋าตัง เอิ่ม ก็ไม่เชิง มันเหมือนถุงน้อยๆ ไว้ใส่เหรียญ สีแดงของฉัน
“โห นี่เธอจะสะสมใบเสร็จซื้อของหรือไง เต็มไปหมดเลย” ซีเกลว่า มันก็จริงนะ สลิปมากมาย จากที่ฉันซื้อของ ถูกยัดเข้าไว้ในถุงเหรียญเต็มไปหมด จนแทบจะหาเหรียญไม่เจอเลย
“สงสัยลืมทิ้ง ทิ้งให้หน่อย” ว่าแล้วก็หยิบออก แต่เพราะมันเยอะเกิน จนไม่เห็นว่ามีเศษเหรียญติดอยู่ มันจึงตกกระจัดกระจายออกมา
“ว๊าย เก็บๆๆ” ซีเกลพูด ออกมาพรางวิ่งตามเศษเหรียญนั่นไป ส่วนฉันเอง ก็เดินตามเก็บบริเวณใกล้ๆกัน ระหว่างที่กำลังก้มลงเก็บเหรียญตรงหน้า ก็มีมือของใครบางคน เก็บเหรียญนั่นไปเพียงแว๊บเดียวที่ข้อมือของเขา ก็เหมือนจะเห็นแสงวิบวับ คล้ายๆ เพชรหรือคริสตัล ยังไม่ทันจะคิดอะไรมาก เสียงของคนเก็บก็พูดขึ้น
“นี่ของน้องครับ”
“ขอบคุณ..ค่ะ” เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาสบเข้ากับใบหน้าคมนั่น ภาพความทรงจำก็เริ่มวนเวียนขึ้นมาในหัว
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“มะ ไม่ค่ะ แค่ต้องพักนิดหน่อย”
“เธอตัวเย็น เหงื่อออกเยอะ.. มีโรคประจำตัวหรอ?”
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ตรงนั่นอีกเหรียญค่ะ เค” เสียงหวาน ของสาวสวย ที่เดินมากับชายหนุ่มพูดขึ้น ให้เขาเดินไปเก็บอีกเหรียญ ส่งให้ซีเนีย
... เค งั้นหรอ ...
“นี่ครับ อีกเหรียญ” ว่าพรางส่งเหรียญให้อีกเหรียญ
“อะ อ๋อ คะ ค่ะ ขอบคุณค่ะ พี่ชาย” หญิงสาวรับมาก่อน จะก้มหัวให้ แต่มันก็อาจจะแค่ ชื่อซ้ำกัน พี่เคจะมีคนอื่นได้ยังไงละ มั้ง..
“ซีเนีย เก็บหมดยัง” ซีเกล เดินเข้ามาพร้อมกับในมือมีเศษเหรียญอยู่ 3-4 เหรียญ
“ว้าว แฮนซั่ม แอน บิ้วติฟูล” ซีเกลพูดออกมาอย่างกับ พูดคำนี้มันปกติ แต่มันก็คงปกติ สำหรับยัยนั่นละนะ พี่ชายกับพี่สาว เขาดูยิ้มเขินๆ ก่อนจะก้มหัวน้อยๆ เป็นเชิง ขอบคุณ
“นี่ ขอนะ หมดเลย” ซีเกล หยิบเหรียญในมือฉันไปหมด ก่อนจะวิ่งกลับไปยังร้านขนมนั่นอีกครั้ง ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไร
“ยะ ยัยซีเกล”
“หึหึ เหรียญที่ตก ก็ไม่มีแล้ว คงจะเก็บหมดแล้วนะ”
“อ๋อ ค่ะ หมดแล้ว”
“งั้นพี่ไปก่อนนะคะ ไปกันค่ะ เค”
“ขอบคุณค่ะ บายค่ะ” กล่าวจบ ทั้งสองก็พากันเดิน ออกไป น่ารักจังคู่นี้..
“อ้าว พี่ชายกับพี่สาวไปแล้วหรอ” หลังจากที่ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเดิมได้ไม่นาน ซีเกลก็เดินกลับมา พร้อมถุงขนมเต็มมือ
“ไปแล้ว”
“ว้า นึกว่าจะอยู่คุย หน้าตาหล่ออะ”
“นี่ ไม่รู้จักเขาสักหน่อย แล้วเขาก็มีแฟนแล้ว ยัยบ้า”
“ฮี่ๆ ล้อเล่นน่า.. อ่ะ นี่ กินปะ? มัชเมลโล่ ลองกินละ อร่อยดีนะ”
“ไม่อะ” พอปฏิเสธที่ ซีเกลยื่นมาให้ ยัยนั่นก็เอาเข้าปากทันที
“ซีเกล.. เมื่อกี้.. เหมือนพี่เคเลย”
“หึก! แค่กๆๆ อะ อะไรนะ” ซีเกลที่เคี้ยวมัชเมลโล่ ของโปรดก็ถึงกับสำลัก ดูดน้ำแทบไม่ทัน
“เหมือนกี้ แค่เหมือนพี่เคอะ เขาชื่อเคด้วย ฉันได้ยินแฟนเขาบอก.. แต่คงไม่ใช่หรอกเนอะ”
“อืม คงไม่ใช่ ถ้าใช่ พี่เค เขาก็.. มีแฟนแล้วนะ” นั่นสิ.. ข้างๆกายเมื่อกี้ มีผู้หญิง ที่สวยมากๆด้วย ทั้งคู่ น่ารักมาก ถ้าเป็นแบบนั่น.. จะทำยังไงดีละ?
“ฮ่าๆ บ้า ไม่ใช่หรอกน่า” หญิงสาวได้แต่หัวเราะ กลบเกลื่อนความคิดบ้าๆนั่นไป
“ฮาๆ นั่นสิ” ซีเกลหัวเราะตาม แต่ภายในใจกับอยากตอบออกไปว่า หรอ ถ้าใช่ขึ้นมาละ ยัยเพื่อนผู้ใสซื่อ(บื่อ).. เพราะจาก เซ้นส์ อันแสนชานฉลาดของฉัน มันบอกมาตั้งแต่ต้นแล้วละ กับเรื่องนี้ มันต้องมีซัมติง มากกว่าจะจบแบบแฮปปี้ เอนดิ้งแน่ๆ และซีเนียจะพ่ายแพ้ยับเยินสุดๆ ถ้าผู้ชายคนนั่นคือ พี่เค แล้วข้างๆกายนั่นเป็นแฟนพี่เขา โอ้ ให้ตายเถอะโรบิน ถ้าเป็นแบบนั่นจริง กลิ่น เน่าๆ ก็คงเป็นของหมาหัวเน่าแถวนี้ละสิ แต่ก็นะ อาจไม่ใช่พี่เขาก็ได้ แต่ที่คิดไว้ เรื่องนี้ ดราม่าแน่ ซีเกล ฟันเฟิร์ม!!!
“อะๆ มัชเมลโล่ แก้ชอกช้ำ”
“บ้าน่า ยังไม่ได้อกหัก”
“เดี๋ยวก็ อกหักแล้ว”
“ซีเกลอ่า!!”
“ฮาๆๆ” แล้วทั้งสองก็ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะ จนลืมเรื่องของ ใครบางคนเมื่อครู่ไปเสียสนิท..
..
.
“โอเค ครับ ผ่านหมดแล้วครับ” เสียงช่างภาพพูดขึ้น ทำให้ทุกคนต่าง เฮกันด้วยความยินดี ที่ส่วนนึงของโปรเจคผ่านไปแล้ว
“ขอบคุณทุกๆคนมากๆเลยนะครับ ที่พยายามอย่างเต็มที่ กับงานนี้” อาร์ ก้มหัวให้กับพี่ๆทีมงานทุกคน
“ด้วยความยินดีครับ”
“ขอบใจแกมาก อี้ฟาน.. ที่เหลือก็ รอเลือกภาพมารีทัชแล้วก็ เสนอที่ประชุมอีกที” อาร์หันไปบอกเพื่อนสนิทชาวจีน
“โอเค แล้วนี่จะไปไหนหรือเปล่า?”
“ก็ไม่มีแล้วละ ต้องรอ ภาพรีทัชมาก่อน นายจะไปไหนก็ไปได้นะ”
“อืม ใช้เสร็จแล้วไล่ เลยนะ”
“ฮาๆ เปล่าๆ ก็มันไม่มีอะไรแล้วนี่หว่า”
“เออ ก็ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันก็คงกลับคอนโด”
“อ่อ ยังๆ ยังกลับไม่ได้ นายต้องไปเอาของกับฉันก่อน”
“ของอะไร?”
“แดนดิไลออนในคริสตัล”
“หืม? แล้วไมฉันต้องไปด้วยละ ไปเองไม่เป็นหรอ?”
“ก็ได้นะ แต่ที่สั่งทำมันอยู่ที่ห้างนาย อย่างน้อยๆ นายไปด้วยฉันอาจจะได้ราคาถูกกว่านี้ 5555”
“.....” เอิ่ม.. รวยซะเปล่าจริงๆ ไอ้ อาร์ High on Top
“เฮ้ย ล้อเล่นๆ ปะๆ”
“ปะๆ เนี่ย ถามฉันยัง? ว่าฉันจะไปหรือเปล่า?” อี้ฟานถามพรางชี้หน้าตัวเอง
“แล้วไปปะละ?”
“ไป” ว่าจบก็เดินตาม อาร์ ขึ้นรถซุปเปอร์คาร์ SSC Ultimate Aero สีขาวดำของเขา อ่อ ลืมบอก อาร์ เป็นคนพูดน้อยนะ แต่เจ้านี่ ก็ชอบแข่งรถมากๆเลยละ เห็นว่าเป็นแชมป์ซุปเปอร์คาร์ แถมยังถูกเรียกว่าเป็น อัจฉิยะความเร็ว ซะด้วย เพราะงั้น ถ้ามันขับ ผมต้องคาดเข็มขัดครับ ^^
นั่นเลยไม่นานเกินรอ ที่เราจะมาถึง ห้างในเครือของครอบครัวผมเอง เราเข้าไปจอดรถบนชั้น 2 ซึ่งก็มีโอกาสได้จอดใกล้ๆ ประตูพอดี
“ร้านแกอยู่ ชั้นไหนวะ?”
“ชั้นนี้แหละ ใกล้ๆ”
“โรแมนติกดีนะ ฮาๆ มีทำคริสตัลด้วย”
“หึหึ” ทั้งสองเดินเข้าไปในห้าง โดยที่มี รปภ เปิดประตูให้ อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่า ชายสองคนที่เดินเข้ามาคือใคร เดินเข้ามาไม่ไกล อย่างที่อาร์พูด เป็นร้านไม่ใหญ่มาก ซึ่งผมเอง ก็แทบไม่เคยสังเกตว่ามีอยู่ในห้างของผมด้วยหรอ แต่ขอบอกว่าเข้าไปแล้ว เป็นร้านที่หรูหราพอควร เป็นร้าน เครื่องประดับที่เน้นคริสตัลตกแต่งร้านเป็นส่วนใหญ่ ผมว่ามันเป็นร้านที่สวยมาก ร้านนึงเลยละ เอ.. ชื่อร้าน อ่านผ่านๆ ถ้าไม่ผิด นี่ A-binia the jewelry สินะ
“มาเอาของที่สั่งครับ”
“รอสักครู่นะคะ” อาร์บอกพนักงานพรางยื่น ใบเสร็จรับของ ที่สั่งไว้ ก่อนที่พนักงานจะรับไปแล้ว เชิญให้เรานั่ง บริเวณรับแขกของร้าน ว้าว หรูหราจริงๆ
“นี่ค่ะ แดนดิไลออนในคริสตัล ขนาดสั่งทำ พิเศษ” หญิงสาวพนักงานอีกคน เดินออกมาพร้อมกล่องรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบกำมยี่ สีน้ำเงินเข้ม แล้วส่งให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ ผมจ่ายด้วยบัตรเครดิต” อาร์ยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ก่อนจะหันกลับมาสนใจ กล่องตรงหน้าตามเสียงเรียกของ เพื่อนสนิท
“แกะออกมาดูได้ปะ?”
“ได้สิ” มือหนาค่อยๆ เปิดกล่องกำมยี่ออก ก่อนจะหยิบคริสตัลทรงสี่เหลี่ยมขึ้นมา ที่ภายในเป็นรูป ดอกแดนดิไลออน สีขาวสะอาดตา
“เออ เข้าใจทำนะ ไอ้หัวอินดี้”
“หึ”
..
.
“ซีเกล อีกนานมั๊ยง่า”
“อีกนิดนึงนะ”
“ทำไม ไม่เข้าไปเลยอา”
“จะบ้าหรอ เข้าไปตอนนี้ ก็ไม่เห็นอะไร ธรรมชาติๆแบบนี้สิ”
“แต่เราทำแบบนี้ มันก็ผิดธรรมชาตินะ”
“เงียบๆ อีกนิดนึง” จริงๆก็เข้าใจนะ ว่าอยากเห็นอิริยาบถที่ธรรมชาติ ของพี่ฟานฟาน กับ พี่ชายหน้าตาดีอีกคน ในร้านที่ เอิ่ม.. จะบอกว่า ร้านเครื่องประดับนั่น เป็นร้านเครือของ ครอบครัวฉันเองด้วย คือแบบว่า ซีเนียคนนี้ เหมือนพวกท่อมมองร้านตัวเองแปลกๆ ก็ยัยซีเกล ดันหลบมุมอยู่ตรงกระถางต้นไม้ข้างเสา ที่อยู่แค่ตรงข้ามกับหน้าร้าน! คิดดู ถ้าพี่เขาเห็น คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรอะ - -*
“เฮ้ยๆ พี่เขาเดินออกมาแล้ว หล่อทุกองศาเลยอา” ซีเกลแหวกใบไม้ออก เพื่อให้มองชัดขึ้น
“ตามๆๆ เร็วๆ ซีเนีย”
“โห ยังจะตามอีกหรอ”
“แน่นอน เร็วๆ” ซีเกล วิ่งนำหน้าฉัน แต่ก็รักษาระยะห่างด้วยการหลบที่ต้นเสาทุกต้น ทำเป็นกวักมือเรียกอีกนะ ยัยติ๊งต๊อง แล้วเราก็ตามออกมาที่ลานจอดรถ แต่ไร้วี่แวว ไปไหนอะ?
“หายไปไหนแล้วอะ? เมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย” ซีเกลว่า ท่าทางอารมณ์เสียน่าดู
“รถพี่เขาอยู่แถวนี้หรือเปล่า ถึงหายไปไวแบบนี้อะ” ก็อาจจะใช่นะ ไม่งั้นจะหายไปไวขนาดนี้หรอ
“อะไรจะไวขนาดนั่น” ซีเกล หันซ้าย หันขวา พยายามมองหาไปเรื่อยๆ โดนที่มีฉัน เดินตามหลังมาติดๆ เดี๋ยวนะ นี่มันลานจอดรถ ทำไมเราต้องเดินเหมือนหนังผีไปได้ละเนี่ย? - -*
จึ้ก จึ้ก อะไรสะกิดหลังนะ ด้วยความสงสัย ฉันจึงหันไป โอ้ โห พระเจ้าช่วย ยืนทำหน้ายัก สะด้วย แต่ยังไม่ทันส่งเสียงร้อง เพราะพี่เขา เอามือขึ้นเป็นเชิงบอกว่า จุ๊ๆ ไว้นะ ฉันก็เลย ได้แต่เอามือปิดปาก แต่ว่า.. ซีเกล ยังไม่รู้เลย ว่าโดนจับได้แล้ว
จึ้ก จึ้ก พี่ฟาน สะกิด ซีเกลอีกครั้ง แต่รายนั่นกลับปัดออก
“เดี๋ยวสิ จะสะกิดทำอะไรละ” ปากก็พูดแต่ยังไม่ยอมหันมาเลย.. พี่อี้ฟานยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น ก่อนจะหันมาส่งสายตาให้ฉัน ขาสั่นเลยเจ้าค่ะ
“ซะ ซีเกล..”
“เงียบๆสิ เดี๋ยวพี่ฟานฟานของฉันรู้ตัว” ไม่ทันแล้วจ้า... พี่ฟานฟานของเธอ ยกคิ้ว อึ้งๆ อยู่หลังเธอแล้วจ้า
“คนที่ไม่รู้ตัว คงจะมีแค่เธอนั่นแหละ”
“พี่ฟาน!!” เจ้าของเสียงแสบแก้วหู ร้องขึ้นอย่างตกใจ
“ใช่”
“ซะ ซีเนีย” ยัยนั่นมองผ่านมา ด้านหลังของพี่ฟานฟาน ก็เจอเข้ากับฉันที่ยืน จะร้องไห้อยู่ข้างๆกับพี่ชายอีกคนที่ยืนล่วงกระเป๋ากางเกงพรางยิ้มบางๆ อย่างอารมณ์ดี ซีเกลจ๋า ซีเนีย ขอโทษนะจ๊ะ
“เพื่อนเธอโดนจับได้นานไปแล้ว.. แอบตามมา มีอะไร?” เสียงรุ่นพี่ฟานฟาน ชวนขนลุกจังเลย ไหนจะสายตานั่นอีก หล่อ เอ้ย ไม่ใช่ น่ากลัว
“เอ๋ ใครกันตาม ตามคือใคร ไม่รู้จัก แค่เดินมาขึ้นรถเฉยๆค่ะ” โอ้ ให้ตายเถอะ ยังจะแถอีกนะ เกลลี่เพื่อนฉัน
“เจ็บมั๊ยน่ะ เจ็บมั๊ย แถจนถลอกหมดแล้วน่ะ” ขอบคุณที่พูดประโยคนี้แทนซีเนียนะคะ พี่ฟาน
“เปล่าแถนะคะ พูดจริงๆ เอ๋ สงสัยออกผิดทาง หาไม่เจอเลย แย่จริงๆ คงต้องขอตัวแล้วนะคะ” พูดจบ เตรียมจะก้าวออกมาจากตรงนั่น ฉันเองก็จะก้าวตาม แต่ซีเกลก็ถูกมือหนาจับให้หันกลับไปสักก่อน
“อุ๊ย” ด้วยแรงดึง ร่างของหญิงสาวจึงเข้าไปใกล้ชิด จนแทบจะซบกับอกของ ชายหนุ่ม ด้วยความบังเอิญ... เฮอะ! เสแสร้งต่างหาก! ไม่มีใครล้ม เพราะแรงดึงเท่าขี้มด นี่หรอกค่ะ ถ้าไม่ใช่ หนังน้ำเน่า และ ยัยซีเกล - -*
“ทะ โทษที ที่ดึงแรง” โอ้ ให้ตายเหอะ พี่ฟาน คนหน้าหล่อ ยังหลงกลมุขเชยๆ นี้ด้วย ให้ตายเถอะ จะบอกว่าพี่ ไม่ได้ดึงแรงค่ะ เพื่อนแค่อ่อยเฉยๆ - -“
“ไม่เป็นไรค่ะ อภัยให้พี่เสมอค่ะ” ห๊อมม หอมมม น้ำหอมยี่ห่อไหนค่ะ เบบี๋ ซีเกลคนนี้อยากซุกนานๆ จุงเลอออ
“เออ...”
“อุ๊ปส์ เจ็บแขนที่พี่ฟานฟาน ดึงมากเลยค่ะ ตรงนี้ค่ะ ตรงนี้ ดูให้หน่อยสิคะ” ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก แต่ยังอยากซุกอก อุ่นๆ หอมๆ อยู่เลย อ่า ฟินจัง กำไลชัดๆ!!
“ไหน? ขนาดนั่นเลยหรอ พี่ว่าพี่ไม่ได้จับแรงนะ”
“ผิวซีเกล บอบบางค่ะพี่ฟาน เจ็บจังเลย พี่ฟานต้องรับผิดชอบซีเกลทั้งชีวิตนะ” พูดเชิงเพ้อทั้งๆ ที่หน้ายังซบอกชายหนุ่มอยู่ อายปากบ้างมั๊ยคะ? คุณเพื่อน
“หืมม?”
“เอ่อ.. ซีเกลหมายถึง ช่วยดูเรื่องแขน น่ะ ฮี่ๆ” เมื่อรู้ว่า แผนเริ่มแตก จึงรีบเด้งหน้าออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มจนตาปิดเมื่อแก้ตัวเสร็จ โอ้ ให้ตายเหอะ หล่อน้ำตาไหล ผสมพันธ์กับแม่พิมพ์มาเกิดหรอคะ? หน้าได้รูปสุดๆ ยิ่งพี่ฟานฟาน โน้มหน้าลงมาดูแขนนะ แม่คุณเอ๊ยยยย เห็นปีกข้างหลังฉันไหม? มันกำลังพาฉันบินขึ้นไปแล้ว ถ้าไม่ติดอะไร ซีเกล คนนี้ อยากพาพี่ฟานฟาน บินออกไปเตะขอบฟ้า~~ เดี๋ยวนะ? เหมือนจะลืมอะไรไป? แล้วภาพฝันที่กำลัง จิตนาการ ก็พังลงเมื่อหันขวับด้วยความเร็วแสง เห็นสายตาเลเซอร์ของ ยัยซีเนีย ที่จ้องมองจนจะทะลุร่าง.. เอิ่ม..
“ยัย ซี เกล!!!”
ปึก! เสียงตัวฉันเอง เสียงตกลงมาจากฟ้า ฮือๆๆ ไม่ได้เจ็บนะ แต่ที่ร้องเพราะ พี่ฟานฟาน เขาปล่อยมือจากเอวของฉันไปแล้ววว งืออออ ซีเกลจิไม่ทน!
“เออ.. น้องกลับไปเหอะ แขนไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั่น” พี่ฟานฟาน พูดแบบนี้แล้ว ฮือๆๆ จะสำออยไป ก็เสียเชิงหมด ชิ ยัยซีเนีย ดูยัยนั่นสิ ยืนยักคิ้วให้ ส่วนพี่ชายอีกคน แบบว่าอมยิ้ม จะหัวเราะ ก็จัดมาเลยสิ โด่เอ๊ยย
“ค่ะ ขอโทษที่ทำให้รุ่นพี่ วุ่นวายนะคะ” ซีเนีย รีบพูด ก่อนที่จะ ก้มหัวให้ รุ่นพี่ทั้งสอง
“มาเลย ยัยตัวดี” ซีเนีย รีบคว้ามือของ ซีเกลและเดินออกมาจากบริเวณนั่น
“น้องครับ?”
“จ๋า” แหนะ เป็นยัยซีเกลเลย ที่รีบขานรับ
“ไหนว่า รถน้องไม่ได้อยู่ชั้นนี้ไง” พี่ชายอีกคน พูดออกมายิ้มๆ เอ๋อสิค่ะ แบบนี้
“อะ อ๋อ ใช่ๆ ซีเนีย เธออะจำผิดแล้ว เราจอดอีกชั้นนึง” แล้วก็เป็น ยัยซีเกล ที่รีบพูด แล้วกลายเป็นว่ายัยนั่นดึงมือฉันเดินกลับ เข้าไปในห้าง ฉันก้มให้รุ่นพี่ทั้งสองอีกครั้ง พรางส่งยิ้มแก้เขินไปให้นิดนึง ไง๋ฉันกลายเป็นคนหน้าแตกอา แต่รถเราก็อยู่ชั้นนี้นะ แค่ยัยซีเกลดันไปโกหกว่าไม่อยู่ ก็ไม่อยากให้โดนจับได้เฉยๆแหละ เลยเนียนๆ ยอมหน้าแตกต่อไป - -*
“ไปก่อนนะคะ พี่ฟานฟานสุดหล่อ” ว่าที่ พ่อของลูก คำนี้ ไม่ได้พูดหรอก คิคิ จะรีบพูดได้ไง เดี๋ยวไก่ตื่นหมด ยังไงซะ พี่ฟานฟาน ไม่รอด น้ำมือ ซีเกล คนนี้แน่ ฟันเฟิร์ม!
“หึ น้องคนนั่น คงชอบแก” อาร์ พูดขึ้น ก่อนทั้งสองจะเดินไปที่รถ
“ใช่ ออกตัวว่าจะจีบตั้งแต่ เจอกันครั้งแรกแล้ว”
“นายน่าจะใจดีกับเขาหน่อยนะ อุส่าเดินตามตั้งแต่ ที่ร้านละ”
“หึ ออกตัวแรงขนาดนี้ ฉันไม่ใจดี ยัยนั่นก็เป็นฝ่ายลุกอยู่ดีแหละ” อี้ฟานพูดพรางยกยิ้มที่มุมปาก ผู้หญิงอะไร ออกตัวแรง ไม่เคยเจอ..
“อี้ฟาน นายดูผู้หญิงสองคนนั่นดิ เขาทำอะไรอะ?” อาร์ที่นั่งหันหน้าออกไปหน้าร้านพูดขึ้น ก่อนที่ผมจะหันไปมองตาม เฮ้ย นั่นมัน ยัยออกตัวแรง กะเพื่อนที่ผมเดินชนนิ
“ยัยนั่นเอง”
“รู้จักหรอ”
“ก็เคยเจอกัน”
“ไม่เข้าไปทักละ นั่นเขาทำอะไร?”
“ส่องเราอยู่นี่ไง แกล้งสักหน่อยดีกว่า”
“หืม?”
นั่นก็เลยเป็นเหตุที่ผมรีบเดินออกมาที่ลานจออดรถ เพื่อแกล้ง เซอร์ไพรส์ว่าแผนยัยนั่น แตกแล้วก็แค่นั่นเองละครับ ^^
“ไปกันเหอะ” อี้ฟานเรียกเพื่อนรัก ที่กำลังยืนมองตามหลัง หญิงสาวทั้งสองที่วิ่งเข้าไปในห้างไม่วางตา
“ทำไม? สนใจ ยัยนั่นหรอ?” แกล้งถามออกไปยิ้มๆ
“ใคร?” อาร์หันกลับมา ถามกลับเช่นกัน
“ก็ยัยออกตัวแรงไง”
“เขาชื่อ ซีเกล”
“นั่นแหละ... ชอบหรอ?”
“เปล่า..” อาร์ปฏิเสธยิ้มๆ ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองทั้งสอง ที่หายเข้าไปในประตูห้างแล้วก็ตาม ก่อนจะหันกลับมาสบตากับ อี้ฟาน
“ฉันสนใจ คนที่ชื่อ ซีเนีย...”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ