Creepypasta Family The Broken Myth
เขียนโดย Leragan
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.43 น.
แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 14.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) รียูเนี่ยน (Reunion)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ-
“ดาร์ลิ้ง..อย่าทำแรงมากนักสิ” หญิงสาวในชุดกันหนาวขนสัตว์พูดขึ้น
“ผมขอโทษละกันนะ..คล็อกเวิร์ค พอดีว่าผมไม่ค่อยได้ทำเรื่องพวกนี้บ่อยน่ะ” โทบี้ที่มักจะสบถหยาบ เมื่อมาอยู่กลับคล็อกเวิร์ค เขากลับเป็นพูดจาไพเราะอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งในขณะพูดเขาก็เสียบบางอย่างเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ผมคิดว่าผมเริ่มจะชำนาญขึ้นแล้วล่ะ” โทบี้พูดขึ้นก่อนจะเพิ่มความเร็วในสิ่งที่เขากำลังทำ
“อื้อ! อย่าเร็วมากสิ..มันก็เจ็บเป็นนะ” คล็อกเวิร์คพูดขึ้นในขณะที่มีน้ำตาไหลออกมาจากตาของเธอ แต่โทบี้กลับไม่ยอมฟัง พร้อมทั้งยังทำแรงขึ้นกว่าเดิม
“ผมกำลังมีฝีมือช่ำชองอยู่นะ..นาตาลี ถ้าขืนผมเบามือ พวกเราก็เสร็จช้า” โทบี้พูดออกมา พร้อมกับหน้าตามุ่งมั่น แล้วเริ่มใส่อย่างไม่ยั้งมือ
“ดาร์ลิ้ง..ชั้นจะกลั้นมันไม่อยู่แล้วนะค่ะ” คล็อกเวิร์คพูดในขณะที่เธอกำลังกัดฟัน พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
“ผมก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน..ถ้าคุณยังทำอย่างนั้นอยู่ ผมจะ..ผมจะ..” โทบี้พูดพร้อมกัดฟันของตนเอง เพื่ออดทนกับสิ่งเบื้องหน้า แต่เขากลับทนไม่ได้นาน “มันจะไหลออกมาแล้ว..หยุดทำอย่างนั้นนะ นาตาลี”
“พรวดดดดดด!” เสียงบางอย่างไหลทะลักออกมา ทำให้น้ำตาที่คลออยู่ที่นัยน์ตาของนาตาลีไหลรินออกมาอย่างไม่หยุด
“ฮือ..ฮือ” นาตาลีหรือคล็อกเวิร์คร้องไห้ครวญคราง น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มชมพูเปล่งแสงของเธอ เธอใช้มือมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาทั้งที่เธอยังคงครวญครางอยู่ ซึ่งทำให้โทบี้ที่หันมามองเธอถึงกับตาเบิกกว้าง ก่อนที่เขาจะปล่อยบางอย่างออกมาอย่างเต็มที่แบบที่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่
-
“พรวดดดดด!!” เลือดกำเดาที่พุ่งออกมาไหลอย่างไม่มีหยุด เพราะใบหน้าของคล็อกเวิร์คที่เขาเห็นนั้นมันช่างน่ารักมากเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น
“ ‘คาวาอี้’ ชะมัดเลย” ทิกกิ โทบี้อุทานออกมาอย่างเบาๆ พร้อมทั้งหันกลับไปมองหน้าของนาตาลีอีกครั้ง และเลือดกำเดาไหลอีกครั้งเช่นกัน
“ดาร์ลิ้ง..ดาร์ลิ้งทำนุ่นของบับเบิลไหลมาหมดแล้วนะ..ฮึก..ฮึก” นาตาลีสะอื้นไห้ เพราะการทำงานที่สะเพร่าของโทบี้ ทำให้ ‘บับเบิล’ ตุ๊กตากระต่ายสีฟ้าของเธอมีนุ่นไหลทะลักออกมาจากท้อง เนื่องจากในขณะที่โทบี้กำลังเย็บด้วยความเร็วสูงนั้น เขาก็บีบจับเจ้าบับเบิลแรงเกินไปจึงทำให้รอยที่ขาดไม่ได้ขาดเกิดปริขึ้น และเปิดช่องให้นุ่นที่อยู่ภายในกระเด็นทะลักออกมา
“อย่างน้อยผมก็ไม่ได้เอาขวานไปสับเจ้ายีราฟซะหน่อยนี่” คำพูดนี้ทำให้คล็อกเวิร์คถึงกับสะอึกและอึ้งไปพักนึง โทบี้ที่เห็นใบหน้าของเธอก็งง แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า ‘เจ้ายีราฟ’ คือตุ๊กตาที่นาตาลีหรือคล็อกเวิร์ครักมากที่สุด ขนาดที่ว่า ‘ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม’ เมื่อเขาฉุกคิดได้ เขาก็พยายามจะขอโทษ แต่ก็สายไปแล้ว
“อย่าทำอย่างนั้นก็น้องยีราฟของชั้น..คนใจร้าย ออกไปจากห้องชั้นเลยนะ ชั้นไม่ต้อนรับคนใจร้าย ไปเลย..ไป!!!” นาตาลีดึงร่างของโทบี้ขึ้น แล้วลากไปหน้าประตู ก่อนจะผลักเขาให้ออกจากห้อง พร้อมกับปิดประตูใส่หน้าโทบี้อย่างแรง
“นาตาลี..เค้าขอโทษ อย่างอนเขาสิ นาตาลี” โทบี้ขอร้องอ้อนวอนกับนาตาลีที่หน้าประตูห้องเธอ “คืนดีน้าาาา”
-
“ไม่คืนดีด้วย” นาตาลีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สนใจไยดี ทำให้โทบี้ต้องก้มหน้าอย่างสิ้นหวัง
“งั้นนาตาลีจะให้เค้าทำอะไรก็ได้นะ..แต่ยอมคืนดีหน่อยน้าาาา” โทบี้พูดด้วยเสียงอ้อนวอนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นาตาลีกลับเปิดประตู และแหงนมองหน้าโทบี้ด้วยตาที่เป็นประกายวาววับ กับหน้าตาที่ยิ้มอย่างดูมีความสุข
“อะไรก็ได้ใช่มั้ยจ๊ะ” นาตาลีถามออกมาด้วยเสียงหวาน โทบี้จึงพยักหน้า เมื่อนาตาลีเห็นเช่นนั้น เธอก็ทำท่าทางเขินอาย “งั้น..โทบี้..กอดเค้า..หน่อย..นะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โทบี้ก็ใช้แขนทั้งสองโอบร่างของนาตาลีอย่างนุ่มนวล ตอนนี้นาตาลีมุดหน้าเข้าไปในอ้อมอกของโทบี้ ทำให้เขาไม่เห็นใบหน้าของเธอ
“งั้น..อย่างที่สอง..โทบี้..หอม..แก้ม..เค้า..หน่อยจิ” คำขอครั้งนี้ทำให้โทบี้เกิดเขินอายเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงทำตามคำขอ เขาดันร่างของนาตาลีออกห่างจากตัวเขาเล็กน้อย พร้อมกับปัดผมที่บังใบหน้าของเธอออก ทำให้เขาเห็นใบหน้าของนาตาลีที่แดงก่ำ ก่อนที่เขาจะบรรจงหอมแก้มของนาตาลีอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง ริมฝีปากและจมูกของเขาจึงสัมผัสถึงอุณหภูมิในร่างกายของนาตาลีที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะผละออก แล้วถามถึงคำขอถัดไป “แล้วจะให้เค้าทำอะไรต่อละ..ที่รัก”
“อันนี้สุดท้ายแระ เค้าขอให้..ดาร์ลิ้ง..หลับตา..นะ” โทบี้ที่ได้ยินอย่างชัดเจนก็รีบปิดตาลงอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่นานนักก็มีความอุ่นและนิ่มของบางอย่างมากระทบกับริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวล เมื่อโทบี้ลืมตาขึ้นก็พบว่าสิ่งที่มากระทบนั้นคือริมฝีปากของนาตาลีที่มีใบหน้าสีแดงก่ำอย่างที่สุด
-
ก่อนที่เขาจะหลับตาลงอีกครั้ง แล้วรับการจูบอันดูดดื่มจากคนที่เขารัก การจูบของโทบี้ที่นุ่มนวลและร้อนแรงนั้น ทำให้ดวงตาที่เป็นนาฬิกาของคล็อกเวิร์คหมุนช้าลง ซึ่งหมายความว่า คล็อกเวิร์คนั้นกำลังใช้พลังทำให้เวลารอบๆร่างของเธอช้าลง นั่นทำให้เธอนั้นได้รับเวลาการจูบนี้ยาวนานขึ้นอีก สักพักเธอก็เลิกใช้พลัง ทำให้โทบี้ผละริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมายิ้มให้กัน แต่แล้วประตูของห้องๆหนึ่งกระเด็นหลุดออกมาชนกับกำแพงอย่างแรง จนทำให้กำแพงนั้นเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่และเกิดเสียงดัง ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองต้นเสียงก็พบร่างของเจฟที่ กระเด็นออกมาพร้อมๆกับประตูในสภาพที่เลือดชโลมเต็มหน้า
“เจฟเฟอรี่ วู้ดส์...” ร่างของนางมารจักรวาลตลอดกาลค่อยๆย่างก้าวออกจากที่พำนับ เธอมาพร้อมกับรังสีอำมหิตสีดำทมิฬเต็มร่าง ดวงตาเปล่งประกายสีม่วงแวววับ เจน เดอะ คิลเลอร์ ลากเสียงที่เธอพูดออกมายาว โดยมีมิลโร่อยู่ทางด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าที่ปริ่มยิ้มของเธอ หลังจากนั้นเจน เดอะ คิลเลอร์ ก็พูดต่อด้วยเสียงเย็นชา “นี่คืออะไรค่ะ”
“ก็เอามาศึกษาก่อนไง..เผื่อสักวันเราจะได้ทำเหมือนในหนังสือนี้ไงจ๊ะ..คุณภรรยาสุดเซ็กซี่ของผม” เจฟที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดหันมองมาหน้าของเจน ก่อนจะยิ้มอย่างมีเล่ห์ พร้อมกับพูดล้อเจนออกไป ซึ่งแทนที่เจนจะโกรธ ออร่าทมิฬอำมหิตกลับหายไปทันใด แล้วเปลี่ยนเป็นใบหน้าสีขาวซีดของเธอที่ตอนนี้แดง
“ตาลามกเจฟ!!!!!” เธอตะโกนออกมา พร้อมกับยกเท้าของเธอขึ้น แล้วถีบใส่หน้าของเจฟอย่างแรงจนกำแพงที่เจฟนั่งพิงเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นจนมีบางส่วนที่แตก ส่วนสำหรับร่างของเจฟนั้นได้นอนแน่นิ่งไปในทันที ก่อนที่เจนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องของเธอพร้อมกับมิลโร่ที่เธอจูง
-
“เจ็บได้ใจจริงๆ ...แม่ยาหยีของชั้น” เจฟที่ดูเหมือนแน่นิ่งกลับพูดขึ้น พร้อมกับดึงส่วนหัวที่บิดเบี้ยวผิดจากเดิมให้กลับเข้าที่
‘นี่มันสาดิสกับมาโซนี่หว่า’ โทบี้คิดในใจ ‘ลูกจะออกมาเป็นยังไงว่ะ!?’
-
ในห้องของลาอ้อน แม็กซิมัส ภายในดูเหมือนห้องระดับพรีเมี่ยมในโรงแรมหรูๆเลยทีเดียว ในตอนนี้ร่างของลาอ้อนกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาด 2 คนนอน แต่ในตอนนี้กลับมีผู้ที่นอนบนเตียงนี้ 3 คน นั่นคือ ลาอ้อน ริกะ และอเล็กซานดร้า สองสาวกับลาอ้อนถูกกั้นจากกันโดยหมอนข้างลายสายฟ้าอันหนึ่ง
‘ไม่..ไม่..ม้ายยยย!!’ เสียงของใครบางคนแล่นผ่านไปมาภายในหัว
‘ถ้าชั้นตาย..แล้วลูกเมียชั้นจะอยู่ยังไง’ เสียงบางอย่างวนเวียนในหัว ก่อนจะมีเสียงไร้ที่มาอีกมากมายร้องโอดครวญด้วยความโศกเศร้าและทรมาน ก่อนที่เสียงทั้งหมดที่ร้องโอดครวญนั้นกลับรวมกันเป็นเสียงเดียวกัน ‘เพราะแก..เพราะแก ชั้นจะฆ่าแก ชั้นจะตามฆ่าแก ชั้นจะตามหลอกหลอนแก จนกว่าแกจะสิ้นลมหายใจ ฮ่าฮ่าฮ่า’
“เฮือก!!!” ลาอ้อนสะดุ้งจากการหลับใหลด้วยฝันร้ายที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งในยามที่เขาหลับ การตื่นมาแบบกะทันหันของลาอ้อน ทำให้สองสาวข้างๆสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อพวกเธอเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นรอบๆ จึงเตรียมจะต่อว่าลาอ้อน แต่เมื่อพวกเธอเห็นลาอ้อนที่ตอนนี้เหงื่อไหลทั่วร่างของเขา พวกเธอจึงรีบไปถามเขา
“ลาอ้อน..ลาอ้อน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” สองสาวพูดพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“เฮ้อ!! ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ฝันร้าย..ฝันที่เกิดทุกครั้งที่ชั้นหลับ พวกวิญญาณจากคนที่ชั้นฆ่า..มันจะมาหลอกหลอนชั้นตลอดทุกครั้งที่ชั้นหลับ” ลาอ้อนอธิบายให้ทั้งสองสาวได้เข้าใจ “มันเป็นคำสาปแห่งสมดุล..สำหรับของชั้น ชั้นจะต้องได้ยินเสียงเหล่าวิญญาณร้องโอดครวญทุกครั้งที่ชั้นหลับ เรียลลิตี้เบนเดอร์ที่มพลังมากๆจะถูกคำสาปแห่งสมดุลทุกคน แล้วแต่ว่าจะต้องโดนอะไรเท่านั้น แล้วพ่อของเธอล่ะ..อเล็กซานดร้า พ่อของเธอได้รับคำสาปแบบไหน”
-
“ชั้นไม่เคยถามพ่อน่ะ” อเล็กซานดร้าตอบคำถามของลาอ้อนไป “ขอโทษนะ”
ทันใดนั้นช่องมิติก็ถูกฉีกออกก่อนที่คนคุ้นหน้าจะเดินออกมา แล้วช่องมิตินั้นก็ปิดลงในพริบตา ลอสต์ในชุดนักวิจัยได้เดินออกมา เดินสำรวจภายในห้องสักพักก่อนจะมายืนหยุดอยู่กลางห้องเบื้องหน้าวัยรุ่นทั้งสาม
“ถึงชั้นจะมีพลังมากพอจะฉีกมิติและทำลายกำแพงที่สี่มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไงชั้นก็คือเรียลลิตี้เบนเดอร์ที่มีพลังมากคนนึง ยังไงความความสมดุลก็ไม่สามารถถูกทำลายได้” ลอสต์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“คำสาปของชั้นก็คือ เมื่อถึงวันที่ชั้นต้องตาย ในวันนั้นชั้นจะหลุดพ้นจากทุกๆสิ่ง นรกและสวรรค์หรือบนโลกจะไม่มีวันยอมรับชั้นให้อยู่อาศัย และสุดท้ายวิญญาณของชั้นก็จะสลายหายไปและไม่มีวันไปเกิดใหม่อีกเลย ชั้นจะไม่มีวันเจอพวกเธออีกเลยตลอดกาล” ลอสต์พูดด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า ก่อนจะใช้มือกุมไปที่ใบหน้าบริเวณดวงตาถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีก็ตาม
“พวกเธอ!?” อเล็กซานดร้าหวนถามพ่อของเธอ
“งั้นพ่อจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับพ่อให้ลูกฟัง” ลอสต์นั่งลงไปกับพื้น
“พ่อน่ะเกิดมาพร้อมๆกับจักรวาลนี้ พ่ออยู่ในการเลี้ยงดูหรือจะเรียกได้ว่าเป็นลูกของ เดอะ ครีเอเตอร์ หรือ ผู้สร้าง มหาจักรพรรดิแห่งการรังสรรค์ การประดิษฐ์และการก่อสร้าง ความคิดและจินตนาการ พ่อคือสิ่งมีชีวิตชนิดแรกในจักรวาลและโลกนี้ รวมถึงยังเป็นเรียลลิตี้เบนเดอร์คนแรกอีกด้วย ตามจริงแล้ว พ่อไม่ได้มีแม่ของลูกเป็นภรรยาเพียงคนเดียว อลิซาเบธ..เธอน่ะเป็นคนสุดท้ายและเป็นคนที่ชั้นรักที่สุด ก่อนหน้าที่พ่อจะมีแม่ พ่อมีภรรยามาก่อน 6 คน ทุกคนที่พ่อมีล้วนแต่มีลูกกับพ่อทุกคน แต่พ่อไม่ได้ไปทำอย่างนั้นนะ เพราะพ่อทำไม่ได้..เพราะร่างกายที่ไร้ตัวตนของพ่อ ทำให้ไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ พ่อจึงต้องสร้างมันขึ้นมาแล้วเสกเข้าท้องพวกเธอแทน ดังนั้นพ่อมีลูกทั้งหมดนั้น 7 คนแล้วลูกทุกคนก็เป็นลูกสาว ซึ่งได้แก่ แจนน่า หญิงสาวผู้มีร่างกายสูงใหญ่กว่ามนุษย์ปกติเกือบ 2 เท่า คนที่สอง โอซิริส จักรพรรดินีแห่งดินแดนที่สาบสูญ คนที่สาม ลีน่า มหาเวทย์หญิงแห่งยุค คนที่สี่ ฮัวหมิง เทพีแห่งจอมยุทธ คนที่ห้า เอซตริด นักฆ่าสาวระดับโลก คนที่หก ซาโมเนะ เจ้าหญิงแห่งดาบทั้งมวล และคนที่เจ็ด ลูก..อเล็กซานดร้า ผู้มีพลังจิตในการควบคุมเส้นผม ลูกทั้งเจ็ดคนล้วนได้รับความเป็นอมตะเช่นเดียวกับพ่อ ดังนั้นลูก..อเล็กซานดร้า ลูกน่ะก็เป็นอมตะแบบที่ว่าไม่มีอายุขัยนะ ลูกจะคงอยู่ในวัยนี้ตลอดกาล” ลอสต์อธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา ซึ่งอเล็กซานดร้าก็กำลังตกตะลึงที่พึ่งรู้ว่าตนเองก็เป็นอมตะ แต่ก็เกิดข้อสงสัย
-
“ถ้าพ่อเป็นอมตะแบบที่ฆ่าไม่ตายและไม่อายุขัย..แล้วพ่อจะตายได้ยังไงกันค่ะ” หญิงสาวผู้มีพลังจิตแห่งเส้นผมถามพ่อของเธอด้วยท่าทางสงสัย
“ถูกฆ่าก็ตาย แต่จะต้องเป็นมหาจักรพรรดิ์เท่านั้นที่สามารถฆ่าพ่อได้น่ะ” ลอสต์ที่นั่งอยู่ยันตัวของเขาขึ้นยืน
“เออ..พ่อขอถามอย่างสุดท้ายนะ เดี๋ยวพ่อจะไปแระ” ลอสต์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา พร้อมกับหันหน้าอันว่างเปล่ามาทางลาอ้อน “ตอนที่ชั้นไม่อยู่..แกมาทำอะไรไม่ดีกับลูกชั้นหรือเปล่า”
ลาอ้อนได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหันไปสังเกตเสื้อผ้าของทั้งสองสาว ริกะ..เธอนั้นใส่เสื้อกล้ามบางๆจนเห็นชุดชั้นในสีชมพู กับกางเกงขาสั้นสีชมพูเหลือง ส่วนอเล็กซานดร้านั้นเมื่อลาอ้อนหันมองก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะร่างกายของเธอมีเพียงกางเกงว่ายน้ำแบบบิกินีสีดำเพียงตัวเดียว ส่วนทางด้านบนนั้นกลับไม่มีสิ่งใดปกป้องหน้าอกขนาดใหญ่มากๆของเธอเลย ลาอ้อนรีบหันไปมองเสื้อผ้าของตนที่มีแต่เพียงกางเกงบอกเซอร์ลายสก็อตเพียงตัวเดียว เขาถึงกลับหน้าแดง
“ทำไมริกะไม่ใส่แบบอเล็กซานดร้าบ้างนะ” เขาพูดในความคิด แต่เขาไม่รู้เลยว่า เขานั้นคิดดังเกินไป ริกะหันไปมองเพื่อนของเธอก่อนจะหันกลับมาด้วยใบหน้าแดง
“ตาลามก!!!” ริกะหันมาทุบหน้าอกของลาอ้อนอย่างต่อเนื่องก่อนจะหยุดลง แล้วเธอก็พูดออกมาเบาๆ “ถ้าจะให้ใส่อย่างนั้น..ก็บอกกันก่อนซิ”
ลาอ้อนถึงกับเขินและอาย ส่วนทางด้านอเล็กซานดร้าที่สงสัยว่าทำไมทั้งคู่ถึงต้องหันมามองที่เธอ เธอจึงหันหน้าไปหาพ่อ ลอสต์จึงสร้างกล่องข้อความสามมิติที่ภายในมีใบหน้าเอือมๆอยู่ภายใน ก่อนที่เขาจะชี้ไปที่หน้าอกของเธอ เมื่อเธอหันลงมองหน้าอกของเธอก็พบว่ามันเปลือยเปล่ามีเพียงวัตถุขนาดใหญ่ทั้งสองลูกอยู่ตรงนั้น เธอหน้าแดงมากด้วยความเขินอย่างที่สุด เธอจึงรีบเอาผ้าห่มปิดบังใบหน้าและของสงวนทั้งสองลูกไป
“ถ้านายทำอะไรกับลูกชั้น..ชั้นจะเสกให้นายเป็นผู้หญิงไปเลยตลอดกาล” ลอสต์หันมาทางลาอ้อนอีกครั้ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกว่าเอาจริง
“พ่อ...” อเล็กซานดร้าเรียกพ่อของเธอด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เมื่อลอสต์หันหน้ามาก็พบกับดวงตาที่ทอแววประกายระยิระยับสวยงาม ลอสต์จึงใช้พลังดูความทรงจำและความรู้สึกของเธอ จนทำให้เขารู้ว่าอเล็กซานดร้านั้นก็แอบชอบลาอ้อนเช่นกัน”
-
“ทำไมไม่บอกพ่อตั้งแต่แรกล่ะ” ลอสต์พูดขึ้นด้วยเสียงดัง ทำเอาอเล็กซานดร้าสะดุ้งโหยง ทันใดนั้นเขามารสีแดงก็ขึ้นมาอยู่บนหัวของลอสต์ “ถ้าชอบเขาจริงๆ เราก็ต้องรับสภาพเขาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรไปก็ตาม!!! ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อย่านะพ่อ..อย่า!!” คำพูดของลูกสาว ไม่เป็นผลต่อพ่อของเธอที่ตอนนี้น่าจะถูกความมืดในจิตใจคลอบงำไปเรียบร้อยแล้ว
ลอสต์ทำการดีดนิ้ว ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีเหลืองรอบร่างของลาอ้อน ก่อนที่ร่างเขาจะลอยขึ้นเหนือพื้นเตียง แล้วร่างของลาอ้อนก็ถูกบอลแสงนั้นกลืนกินเข้าไปจนเห็นเพียงแต่เงา สองสาวต่างอึ้งกับภาพที่เห็น เพราะร่างเงาของลาอ้อนภายในบอลแสงเหมือนกำลังเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายของเขาเริ่มบางลง เอวเริ่มคอดลง สะโพกขยายขึ้น ท่อนขาเรียวยาวขึ้นเล็กน้อย แผ่นหลังของเขาค่อยๆเล็กลง ผมเริ่มยาวขึ้นจนถึงครึ่งหลัง และหน้าอกที่เคยราบเรียบกลับนูนขึ้นมาอย่างมากจนน่าตกใจ ก่อนที่บอลแสงจะเคลื่อนลงมาที่เดิม พร้อมกับสลายหายไป ทำให้ทั้งสองสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้น นั่นคือร่างของหญิงสาวผมสีขาวอมเหลืองที่ส่วนบนเปลือยเปล่า มีเพียงกางเกงบอกเซอร์ลายสก็อตปกป้องส่วนล่างของเธอ ลาอ้อนในรูปลักษณ์ของผู้หญิงนั้นทำให้หญิงสาวทั้งสองต่างตกตะลึงเหมือนกับเจ้าตัวที่กำลังตกตะลึงเช่นเดียวกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า..ชั้นขอบอกอะไรไว้ก่อนนะ กิริยาทุกๆอย่างทั้งการพูดและการทำจะเหมือนกับมนุษย์เพศหญิงทั้งหมด ...ขอให้โชคดีนะ” ลอสต์หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะแหวกอากาศจนเกิดประตูมิติขึ้น เขาสอดขาข้างซ้ายเข้าไปก่อนจะขยับร่างของเขาเข้าไป แต่กลับหยุดชะงัก เพื่อมาพูดบางอย่างกับลาอ้อนในร่างผู้หญิง ก่อนจะหายเข้าไปในประตูมิติที่ถูกปิดลงเมื่อถูกใช้งานแล้ว “นายจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อผ่าน 3 ชาปเตอร์ครึ่งที่นายมีบท โอ้! ใช่ รวมชาปเตอร์นี้ด้วย”
-
“ไม่นะ..ทำไมชั้นต้อง...........” ลาอ้อนในร่างของผู้หญิงพูดด้วยเสียงที่แหลมขึ้น ก่อนจะหยุดเมื่อมือคลำไปโดนบางสิ่งข้างล่าง “น้องชายชั้นกลายเป็นน้องสาวไปแล้ว!!! ..ฮือ ฮือ ..ชีวิตชั้นจบสิ้นแล้ว”
“ใครว่าไม่เหลือล่ะ ฮึ..ฮึ” หญิงสาวทั้งสองมองมาทางลาอ้อนด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้ลาอ้อนเกิดอาการกลัว “ลาอ้อนคุง ไม่สิ..เลโอน่าจัง”
หญิงสาวทั้งสองพยายามจะจับตัวของเลโอน่า แต่เลโอน่านั้นเร็วกว่า เธอเด้งตัวออกจากเตียงก่อน พร้อมกับทรงตัวกับมาในท่ายืน แต่แล้วกางเกงบอกเซอร์ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงก็หลุดออก
“ว๊ายยยย!! ..อุ๊บ!” เลโอน่าร้องออกมา ก่อนจะเอามือข้างซ้ายปิดปากของตัวเองด้วยหน้าเขินๆ ส่วนมือข้างขวาก็ปิดบังบางส่วนที่สงวน บางคนเรียก ‘แรร์ไอเทม’
“คาวาอี๊!!!” สองสาวอุทานพร้อมกันด้วยท่าทางที่ดูมีความสุขสุดๆ ก่อนที่อเล็กซานดร้าจะใช้ผมของเธอดึงขาของเลโอน่าไป ทำให้เลโอน่าล้มคว่ำกับพื้น ก่อนจะถูกนำขึ้นไปบนเตียง พร้อมกับถูกผมของนักมายากลเส้นผมหญิงคนนี้มัดมือและเท้าจนไม่สามารถขยับไปไหนได้
“ขอร้องล่ะนะ..ริกะกับอเล็กซานดร้า อย่าทำอะไรชั้นเลย” เลโอน่าขอร้องอ้อนวอนหญิงสาวทั้งสอง แต่คงจะไม่เป็นผล เพราะทั้งสองเหมือนจะอยู่ในโลกของพวกเธอไปแล้ว ดังนั้นเลโอน่าจึงทำได้เพียงแค่ทำใจและร้องคราง “อี่หย้าาาาา!!!”
-
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงยามสาย หน้าประตูคฤหาสน์มีแขกมากมายที่เข้ามาข้างใน มิสเตอร์ครีปปี้พาสต้าและสเลนเดอร์แมนกำลังต้อนรับแขกที่มาจากทั่วทุกสารทิศ มีงานเลี้ยงฉลองภายนอก ส่วนสำหรับบางคนก็เข้าไปอยู่ภายในคฤหาสน์แล้ว
“เฮ้! เจฟ” เด็กสาวในทรงผมโพนี่เทล ใส่ชุดกันหนาวสีม่วงกับกระโปรงสั้นๆสีดำ เรียกหาเจฟ เดอะ คิลเลอร์ เพื่อนของเธอ (หรือเปล่า!?)
“ว่าไง..นิน่า ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ” เจฟทักทายเพื่อนสาวของเขาที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ทันใดนั้นนิน่าก็รีบวิ่งเข้ามากอดเจฟทันที ทำให้เจนที่อยู่ทางด้านหลังต้องนิ่งอึ้ง พร้อมกับกำมือของเธอแน่นด้วยความโกรธ ส่วนทางด้านนิน่าก็ชะเง้อหน้าออกมา ก่อนจะแลบลิ้นใส่เจน ทำให้เจนนั้นโกรธจนเส้นเลือดขึ้นหน้า
ภายนอกมีงานเลี้ยงพบปะกันมากมาย เหล่าครีปปี้พาสต้าจำนวนมากต่างพูดคุยกันในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องอดีต เรื่องราวหลังจากที่แยกทางออกไป งานเลี้ยงฉลอง หรือในชื่อ ‘รียูเนี่ยน’ เป็นงานพบปะของเหล่าครีปปี้พาสต้าทั่วสารทิศมาพบกัน ซึ่งถือเป็นงานใหญ่อีกงานนึงเลย สำหรับเจ้าบ้านนั้นถึงกับตรึงมือกันเลยทีเดียว จนตกเย็น งานเลี้ยงฉลองก็ต้องจบลง ทุกคนต่างแยกย้ายกลับไปที่ๆตนจากมา ยกเว้นบางคนเท่านั้น ที่จะมาอยู่ในคฤหาสน์ของมิสเตอร์ครีปปี้พาสต้าสักพักใหญ่ ด้วยเหตุผลของแต่ละคน
“สวัสดีครับ..ทุกคน” เหล่าครีปปี้พาสต้าที่เข้ามาภายในคฤหาสน์กล่าวทักทายเหล่าผองเพื่อนครีปปี้พาสต้าที่คุ้นหน้า แต่เมื่อหันจนถึงจุดหนึ่งก็หยุดลง ...จุดตรงโซฟา ซึ่งเป็นที่ลอสต์กำลังนั่งกินองุ่นอย่างสบายใจ
“ว่าแต่นายเป็นใคร” ชายผู้ใส่เสื้อยืดสีฟ้าและกางเกงยีน มีดวงตาสีขาวโพลน พร้อมทั้งส่องแสงเปล่งประกาย ซึ่งรูจักกันในนาม ‘ฮีโร่บราย’
“คุณพูดถึงผมเหรอ” ลอสต์หยุดกินองุ่น พร้อมกับหันหน้ามาทางผู้ถามด้วยท่าทางสงสัย แต่ในครั้งนี้กลับไม่มีกล่องข้อความปรากฏ ผู้ถามที่เห็นปฏิกิริยาผู้ถูกถามก็พยักหน้าขึ้นลง เมื่อลอสต์ได้ยินเช่นนั้นก็ตอบออกมา แต่กลับถูกบางคนตัดบทไปซะก่อน
-
“เจ้านี่ชื่อลอสต์ ...ดร.ลอสต์ ซีเคร็ต นักวิจัยแห่งเอสซีพี เจ้านี่มีพลังทำอะไรก็ได้ บางครั้งตอนพูดยังมีกล่องข้อความสามมิติพร้อมกับ เอ่อ เค้าเรียกอะไรนะ อ่อ..อีโมติคอน” เจฟ เดอะ คิลเลอร์ เดินมาตัดบทของลอสต์ ทำให้ทุกคนหันไปมองที่เขาซึ่งตอนนี้ตัวเจฟถูกรายล้อมไปด้วยบรรดาสาวๆแห่งครีปปี้พาสต้าแฟมิลี่ ...แต่ไม่น่าจะควรใช้คำว่ารายล้อม น่าจะใช้คำว่าดึงแขนดีกว่า
โดยทางแขนด้านขวาของเขาถูกเจน เดอะ คิลเลอร์ดึงไว้อยู่ ส่วนแขนด้านซ้ายก็ถูกสี่สาวดึงอยู่เช่นกัน โดยมีนิน่า เดอะ คิลเลอร์ เด็กสาวในทรงผมโพนี่เทลล์สีดำแถบชมพูเข้ม กับชุดที่ออกพังค์ๆหน่อย คนที่สองเป็นหญิงสาวในชุดคล้ายๆชุดเมดที่มีคราบเลือดติดที่ผ้ากันเปื้อน เธอมีผมยาวสีดำ พร้อมกับนัยน์สีดำ ..อลิส เอ็ม.(แมดเนส) วันเดอร์แลนด์ คนต่อไปเป็นเด็กสาวใบหน้าที่ดูสลดๆ เธอมีผมสีชมพูเข้มที่เรียบผิดปกติ ในชุดกี่เพ้าที่เกิดจากการเย็บผิวหนังสิ่งมีชีวิตที่มีลายสีสันเข้าด้วยกัน หรือที่บางคนเรียก ‘คิวตี้ มาร์ค(Cutie Mark)’ จำนวนมากจนกลายเป็นเสื้อ เธอมีปีกสีฟ้าที่พับอยู่ที่กลางหลัง กับปลอกคอที่มีเขายูนิคอร์นหลากสีติดอยู่ 3 เขา ..พิงกาเมน่า ไดอาเน่ พาย หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ‘พิงกาเมน่า’ คนสุดท้ายเป็นเด็กสาวผมสั้นสีชมพูอ่อน ในชุดเดรสสีเหลือง ซึ่งมีผ้ากันเปื้อนของพวกคนขายเนื้ออยู่ข้างหน้า ด้านหลังของเธอมีมีดอีโต้ขนาดยักษ์ ความยาวกว่า 3 เมตร อยู่ด้านหลัง เธอเรียกมันว่า ‘แบรี่’ ..บุทเชอร์ชาย
ทั้งหกคนต่างดึงร่างเจฟไปซ้ายทีขวาที จนบางครั้ง..มันก็เหมือนว่าเจฟกำลังจะถูกฉีกแขนออก โดยเจฟ เดอะ คิลเลอร์ในตอนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือ โดยเขามองหน้าลอสต์ก่อนจะส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อลอสต์เห็นดังนั้นจึงยื่นมือที่กำไปทางเจฟ ก่อนจะผายมือออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดแรงดันมหาศาลผลักสาวทั้งห้ากระเด็นออกไปไกลกว่า 10 เมตร ยกเว้นพิงกาเมน่าที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่และจับแขนของเจฟไว้ได้ ทำให้ลอสต์ที่ใช้พลังถึงกับตะลึง
-
“เป็นไปไม่ได้น่า! แทบไม่มีใครสามารถต้านทานพลังของชั้นได้เลยนะ แต่..เอ๋ ทำไมเธอหน้าตาเหมือนยัยพิงก์ตอนเกิดเหตุการณ์ 032-K เลยนะ” ลอสต์พูดขึ้น ทำให้ผู้ถูกกล่าวถึงได้ยินขึ้น จนเกิดการเบี่ยงเบนเป้าหมาย พิงกาเมน่ารีบพุ่งตัวไปทางลอสต์อย่างรวดเร็วจนแม้กระทั่งลอสต์ยังมองไม่ทัน
“เอสซีพีตัวนั้นน่ะ..เจ้าคนเขียนมันคิดมาโดยลอกเลียนมาจากตัวชั้นนี่ละ งั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงหน้าตาเหมือนกัน..นั่นก็เพราะ ก็อปวางไงล่ะ!!!” พิงกาเมน่าพูดกับลอสต์โดยที่แม้แต่เค้ายังรู้สึกมึนๆเล็กน้อย แต่เมื่อจับใจความได้ ลอสต์และพิงกาเมน่าก็ดีดนิ้ว ทำให้เวลาทั้งหมดหยุดนิ่ง ก่อนจะแหกมิติทะลุจอคอมพิวเตอร์ของคนเขียน เพื่อมาด่า
“ไม่มีสมองคิดบ้างรึไง..ถึงเอายัยนี่/ชั้นมาโต้งๆเลยน่ะ ฮ่ะ” ทั้งสองคนทำหน้าตาแง่งงอนใส่คนเขียน
“เออ..ตอนนี้อย่าพึ่งเล่นผมเลย รอจบเรื่องราวหลักก่อนได้มั้ย..แล้วค่อยเล่นผมน่ะ ขอร้องละ..ผมอยากจะมีชีวิตเพื่อเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบก่อน” ทั้งสองคนที่เห็นคนเขียนอ้อนวอนก็มองหน้ากันก่อนจะกลับหายไปในจอคอมพิวเตอร์ พร้อมกับทุกอย่างที่กลับมาเช่นเดิม
-
“เออ..ว่าแต่คลาอ้อนกับสาวๆทั้งสองคนหายไปไหนเหรอ ..ลอสต์” ฮีโร่บรายถามลอสต์โต้งๆ ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกันครั้งแรก ทำให้ทุกคนต่างมองที่ลอสต์กับฮีโร่บรายกันเป็นตาเดียว จนทั้งสองต้องเหงื่อ แต่เสียงใสของเด็กสาวบางคนก็เปล่งออกมา ให้สายตาถูกเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเด็กสาวกลุ่มนั้น
“พ่อ/คุณลอสต์ค่ะ..ขอบคุณสำหรับของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเรานะค่ะ” ริกะกับอเล็กซานดร้าที่ตอนนี้กำลังคล้องแขนหญิงสาวที่ถูกผ้าปิดบังร่างกายและใบหน้า ซึ่งตอนนี้เธออยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรงมาก ส่วนทางลอสต์ที่ได้ยินก็ยกนิ้วโป้งของเค้าขึ้นซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก พร้อมทั้งเปล่งประกายแปลกๆ
“ถ้าคุณริกะกับคุณอเล็กซานดร้าอยู่นี่..แล้วคุณลาอ้อนอยู่ไหนล่ะครับ และสตรีตรงกลางตรงนั้นเป็นใครกันครับ” มิสเตอร์ครีปปี้พาสต้าและสเลนเดอร์ทำหน้าสงสัย แต่กลับทำให้ริกะกับอเล็กซานดร้ายิ้มกว้าง
“ลาอ้อนน่ะเหรอค่ะ..ลาอ้อนก็อยู่นี่ไงค่ะ ส่วนหญิงสาวคนนี้เป็นใคร..เธอก็คือ ลาอ้อนคุง เอ๋!ไม่ใช่นี่นา..เธอชื่อเลโอน่าจังค่ะ” เด็กสาวทั้งสองเอ่ยขึ้นก่อนจะเปิดฮู้ดของเลโอน่าออก ทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าของเลโอน่าที่มีเค้าคล้ายกับลาอ้อนมาก แต่แค่เป็นผู้หญิงหลายๆคนถึงกับตะลึง ก่อนจะมองไปที่ลอสต์ที่กลับมานั่งกินองุ่นเช่นเดิม
“แล้วพวกคุณไปทำอะไรกับลาอ้อน เอ่อ..เลโอน่าล่ะครับ ถึงออกมาจากห้องช้าจนงานเลี้ยงจบถึงพึ่งออกมาล่ะครับ” สเลนเดอร์แมนถามหญิงสาวทั้งสอง แต่ท่าทางของพวกเธอกลับเปลี่ยนเป็นเขินอายทันใด
-
“เราไปสนุกมาน่ะค่ะ” หญิงสาวทั้งสองพูดขึ้น ก่อนจะถอดผ้าคลุมที่คลุมร่างของเลโอน่าออก ทำให้ทุกคนเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน เลโอน่าที่ใส่ชุดว่ายน้ำบิกีนี่บางมากๆสีชมพูกับลายดอกไม้สีดำ ซึ่งไม่เข้ากับขนาดหน้าอกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้อายเลส แจ็ก ทิกกิ โทบี้ และมาสกี้ เลือดกำเดาพุ่งออกนอกหน้ากาก ก่อนจะล้มลงไปนอนกองกับพื้น
ทันใดนั้น..เลโอน่าก็รู้สึกตัวขึ้น เธอรีบดีดตัวออกห่างจากเด็กสาวทั้งสองมาระยะหนึ่ง ก่อนจะพยายามแหวกมิติหนี แต่เธอกลับถูกผมของอเล็กซานดร้าดึงไปซะก่อน
“จะหนีไปไหนค่ะ..คุณของเล่น” สองสาวแผ่รังสีอำมหิตออกมาเป็นออร่าสีดำทมิฬรอบร่างของทั้งสอง เลโอน่าที่ถูกจับพยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้เจน เดอะ คิลเลอร์ ซึ่งเมื่อเจนเห็นเธอก็พยายามจะเดินไปช่วย แต่กลับถูกสายตาอำมหิตของสองสาวดับการเคลื่อนที่ไปซะก่อน เจนจึงส่งสายตาขอโทษให้กับเลโอน่า ซึ่งตอนนี้เธอก็ทำหน้าสลดเล็กน้อย
“ของเล่นที่สอนแล้วไม่จำต้องโดนทำโทษ” สองสาวเดินกลับไปตามทางเพื่อไปที่ห้องของเธอจนความมืดมิดปิดบังทั้งเสียงและภาพของทั้งสามยกเว้นเสียงร้องของสาวบางคนที่ทำให้หลายๆคนถึงกับต้องขนลุก
“อีหย้าาาาาา!!!” เสียงครางที่ดังมากๆของเลโอน่าแล่นผ่านห้องทั้งหมด ทำให้บางคนถึงกับสยิวไปในทันที
“มีใครต้องการให้คู่ตัวเองได้รับของขวัญเหมือนลาอ้อนบ้างมั้ย” ลอสต์พูดขึ้นก่อนจะปิดปากขำเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่มีปากก็ตาม
-
เมื่อสาวๆได้ยินเช่นนั้นก็รีบหันไปทางหนุ่มๆทุกคน ก่อนจะยิ้มอย่างชั่วร้ายให้ โดยส่วนใหญ่ที่คนมองก็จะมีเจฟ เดอะ คิลเลอร์ กับทิกกิ โทบี้เท่านั้น ทำให้ทั้งสองคนถึงกับผวา แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะถูกสาวๆรุม ประตูก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับร่างชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามา ทำให้สายตาของทุกคนหันไปทางชายหญิงคู่นั้น
“สวัสดีครับ..คุณโฮมมิไซเดิล ลู กับ ...เอ่อ” มิสเตอร์ครีปปี้พาสต้ากล่าวทักทายลู วู้ดส์ แต่เมื่อมองไปทางหญิงสาวข้างๆ ก็ไม่สามารถพูดต่อได้ เนื่องจากเขาไม่เคยเห็นเธอมาก่อน
“ซูซานค่ะ..ถ้าคุณไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ชั้นไม่ได้เป็นครีปปี้พาสต้า..ชั้นเป็นพยาบาลประจำตัวของลูน่ะค่ะ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลในชุดเดรสสีขาว ผู้มีนามว่า ซูซาน เธออธิบายให้ทุกคนเข้าใจ เมื่อกล่าวจบเธอก็หันไปหาชายข้างๆเธอ ก่อนจะเอาแขนคล้องแขนของเขา
ชายข้างๆเธอหรือ ลู เขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บโดยที่เห็นได้ชัดก็จะมีรอยเย็บระหว่างแก้มทั้งสองตรงช่วงใกล้ดวงตา รอยเย็บที่บริเวณปากไปจนถึงจุดที่อยู่ใกล้เคียงกับใบหู และรอยเย็บระหว่างต้นคอ ลูใส่เสื้อโค้ตสีดำปลายเสื้อยาวจนเกือบถึงพื้น ภายในเสื้อโค้ตมีเสื้อทีเชิ้ตสีเขียวไม่มีลวดลายใดๆ ตรงส่วนล่างใส่กางเกงยีนขากระบอกสีเทา กับรองเท้าผ้าใบสีดำ จุดเด่นของเขาที่สำคัญก็จะมีอยู่อย่างนึงคือ ผ้าพันคอสีดำสลับขาวที่ยาวมากจนปลายสัมผัสกับพื้น ตั้งแต่เขาเข้ามาบรรยากาศรอบกายของเขาก็ดูดำมืดลง เขาอยู่ในสภาพจิตใจที่สงบและสลดพร้อมๆกัน รวมถึงเขายังดูเงียบครึมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“พี่ลู…” เจฟพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆและดูสั่นๆ แต่เสียงนั้นยังคงมาถึงหูของลูได้ ลูรีบหันหน้าไปทางต้นเสียง เมื่อเขาเห็นหน้าเจฟ น้องชายของเขา..ภาพความทรงจำทุกอย่างถูกใหม่ภายในหัวของเขา ก่อนที่เขาจะสลัดภาพทั้งหมดออกแล้ววิ่งเข้าไปกระแทกร่างของเจฟจนไปติดกับกำแพงด้านหลังอย่างรุนแรง ซึ่งการชนของเขาทำให้กำแพงเกิดรอยร้าวขึ้น
-
“แกฆ่าพวกเค้าทำไม!!! ...แกข้าพ่อกับแม่ทำไม!!! ฮ่ะ!!” ลูกระชากคอเสื้อกันหนาวของเจฟมาอย่างแรง ก่อนจะตะคอกใส่เจฟด้วยเสียงที่ดังมาก ซึ่งเป็นเพราะความโกรธที่สะสมมานานหลายต่อหลายปี “ตอบมาสิเจฟ..ตอบมา!!!”
“ผมไม่ได้เป็นคนฆ่านะ...พี่ลู” เจฟพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ “ผมแค่พยายามจะไปช่วยพวกเขา แต่มันก็ไม่ทันแล้ว พอผมเดินกลับมา พ่อกับแม่ก็ล้มลงไปจมกองเลือดแล้ว พอผมจะสู้กับคนที่ฆ่ามันก็หนีไปก่อนแล้ว..ตอนนั้นผมก็พยายามจะไปช่วยพี่ แต่บ้านมันไฟไหม้ไปเกือบครึ่งแล้ว ผมจึงต้องทิ้งพี่กับพ่อแม่ไป”
“แล้วมันใครกันล่ะ!! แล้วมันใครกันที่ฆ่าพวกเค้า” ลูตะโกนใส่หน้าเจฟด้วยเสียงที่ดังมาก แต่ไม่ทันที่คำตอบนั้นจะถูกเอ่ยจากปากเจฟ ร่างของลูล้มลงไปก่อน ในท่ากุมหัวใจ ลูนอนพะงาบๆอยู่ที่พื้นพร้อมกับดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด
“พี่/ลู!!!” เจฟและซูซานตะโกนออกมาพร้อมกัน ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาที่ร่างของลูด้วยความเร็วสูง ทำให้ทุกอย่างเกิดความชุลมุนวุ่นวายมาก แต่จู่ๆทุกอย่างก็หยุดนิ่ง ซึ่งเป็นเพราะพิงกาเมน่ากับลอสต์ที่ดีดนิ้วอีกครั้ง
“พอแค่นี้แหละ ..สำหรับชาปเตอร์นี้ รอดูว่าจะเกิดอะไรกับสองพี่น้องตระกูลวู้ดส์ สองคนสุดท้าย ทูบีคอนทินิวนะครับ” ลอสต์พูดปิดท้าย ก่อนที่พิงกาเมน่าจะแหกมิติทะลุจอคอมพิวเตอร์ของคนเขียน แล้วเลื่อนมือของเธอไปที่ปุ่มปิดเครื่อง แล้วก็กดลงไป ก่อนที่จะหายกลับไปในประตูมิติที่เธอสร้างขึ้น เมื่อเจ้าของของมันใช้งานเสร็จ มันก็ถูกปิดลง ก่อนที่เสียงเข้มของลอสต์จะถูกเอ่ยขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของชาปเตอร์นี้ "โปรติดตามตอนต่อไป..นะจ๊ะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ