สัญญาแห่งรักจากอดีต
9.6
เขียนโดย Soman
วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.43 น.
10 บท
30 วิจารณ์
12.94K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) พบกันครั้งแรกที่ตลาดน้ำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อเอสรู้สึกตัวอีกครั้ง ก็พบว่าภาพตรงหน้าของเขาคือตลาดน้ำ มีเรือพายอยู่ในคลองกันขวักไขว่ ทั้งเรือพายขายของทั้งเรือชาวบ้านที่มาซื้อของ อีกสองฟากฝั่งคลองก็มีท่าน้ำอยู่ดาษดื่นและมีผู้คนที่คอยซื้อของจากเรือของพ่อค้าแม่ค้า บนฝั่งก็มีแผงขายของวางอยู่เหมือนกัน บ้างก็วางบนแคร่ไม้ไผ่ บ้างก็เอาเสื่อปูขายกับพื้น เขาหลงเสน่ห์ตลาดน้ำนี้จัง มันดูมีชีวิตชีวากว่าตลาดในยุคปัจจุบันที่เขาเคยสัมผัสมาตลอด แต่เอ..ที่นี่มันคือตลาดอะไรหล่ะ "ตลาดน้ำอัมพวา" ใช่แล้ว ที่นี่คือตลาดน้ำอัมพวา แต่ว่าเขารู้จักที่แห่งนี้ได้ยังไงกัน ก็เขาเพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรกนี่นา ระหว่างที่เขากำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศของวิถีชีวิตในตลาดน้ำอยู่เพลินๆนั้นเห็น เขาก็สังเกตเห็นกลุ่มหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่กำลังพายเรือเลือกซื้อของอยู่ในคลอง
"คุณหนูสร้อยทองนี่ล่ะก้อ พี่พิศบอกแล้วใช่มั้ยคะ ว่าไม่อยากให้มา ถ้าคุณผู้ชายรู้เข้า มีหวังพวกพี่คงโดนเฆี่ยนเป็นแน่"
"โธ่ พี่พิศ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คุณพ่อเขาไปเที่ยวเยี่ยมญาติที่ตลาดบ้านใหม่ แถวฉะเชิงเทราโน่น อีก 2-3 วัน ถึงจะกลับ แต่ถ้าถูกจับได้แล้วพ่อจะลงโทษพวกพี่นะ หนูจะอาละวาดให้ดู" สร้อยทองพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแต่แววตาเอาจริง
"นี่ฉันว่าเรารีบๆเที่ยวให้เสร็จๆไปเถอะ จะได้รีบกลับก่อนที่คุณผู้ชายจะรู้เรื่อง" แก้วพูดพร้อมกับสอดส่ายสายตามองดูสิ่งของไปเรื่อยๆ
เขาเห็นหน้าของสาวน้อยก็จำได้ ใช่แล้ว คุณหนูสร้อยทองวัย 12 ขวบ กับเหล่าพี่เลี้ยงสาวๆนั่นเอง นี่คงจะแอบหนีเที่ยวอีกแล้วสินะ ในขณะที่เขากำลังนึกอะไรเพลินๆนั้นเอง จิตใจของเขาก็เกิดอาการกระเพื่อมไหวตื่นเต้นตกใจขึ้นมาเหมือนกับจะมีเหตุการณ์อะไรไม่ดีเกิดขึ้น
"โครม!..กรี๊ดดดด!!...ตูม" เสียงเรือชนกันจนเรือลำหนึ่งเอียงกระเท่เร่ไปด้านหนึ่งพร้อมกับมีเสียงของคนตกน้ำ
"ว้ายยยยย!!!..คุณหนู คุณหนูสร้อยทองตกน้ำ!! ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยด้วยค่ะ มีคนตกน้ำ!!!..." พี่เลี้ยงทั้งสามต่างก็ตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย
"ช่วยด้วย!!..บุ๋มๆๆ..ช่วย..ช่วยด้วย..บุ๋มๆๆ" สร้อยทองตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ
นั่นไง สิ่งที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี คุณหนูสร้อยทองตกน้ำนั่นเอง แล้วเธอจะเป็นอะไรหรือเปล่านี่ เขาเริ่มรู้สึกวิตกกังวล ในระหว่างที่เขาคิดในช่วงเวลาที่มีความสับสนวุ่นวายบังเกิดทั้งกับเขาและผู้คนในบริเวณนั้นนั่นเอง
"ตู้ม!!..ตู้ม!!.." เสียงกระโดดน้ำ ใช่แล้ว มีคน 2 คนกระโดดน้ำจากฝั่ง แล้วว่ายด้วยความรวดเร็วเพื่อเข้าไปช่วยสาวน้อยคนนั้น ด้วยความลุ้นระทึกจากผู้คนรอบๆบริเวณนั้น
แล้วทั้งสองคนก็ว่ายน้ำเข้าไปช่วยสาวน้อยได้ทันเวลาก่อนที่เธอจะจมลงไป
"ไอ้เข้มเอ็งกะข้าโอบไหล่คนละข้างแล้วค่อยประครองไป"
"เออเว้ย..ไอ้จันทร์ จะได้ช่วยกันผ่อนแรง" แล้วทั้ง 2 คนก็ช่วยกันว่ายพาสาวน้อยเข้าฝั่ง
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้คน และเสียงปรบมือชื่นชมความกล้าหาญและความสามารถของทั้ง 2 คน
"เอ็งสองคนนี่มันตัดสินใจได้ไวเฉียบขาดดีว่ะ พวกข้ายังมัวแต่ตกใจกันอยู่เลย พวกเอ็งก็โดดลงน้ำกันไปแล้ว" เสียงชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวชื่นชม ในช่วงเวลานั้นเองพี่เลี้ยงทั้งสามของสร้อยทองก็รีบพายเรือเทียบท่า แล้วก้าวขึ้นฝั่งทันที
"คุณหนู..คุณหนูคะ..คุณหนู เป็นยังไงบ้างคะ" พิศแหวกฝูงชนเข้าไปประครองและตะโกนร้องเรียก
"คุณหนู...คุณหนู ฟื้นสิคะคุณหนู" ทั้งแก้วและอ่อนก็รีบแหวกฝูงชนเข้ามาประครองพร้อมกับเขย่าตัวของสร้อยทอง
"อืม..หืม นี่หนูยังไม่ตายหรือคะ หนูไม่ได้จมน้ำเหรอ อืม..แล้วตอนนี้ หนูอยู่ที่ไหนคะ" สร้อยทองพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
"เฮ้!!!.....คุณหนูฟื้นแล้ว คุณหนูไม่เป็นอะไรแล้ว ดีใจจังเลยค่ะ" ทั้งสามคนต่างก็ร้องบอกด้วยความดีใจ
"นี่ดีนะที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก กินน้ำเข้าไปไม่เยอะ และพวกเราช่วยไว้ได้ทันเวลา" จันทร์พูดออกมา
"พวกเราต้องขอขอบใจพวกเธอมากนะ พวกเราขอบใจจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกเธอช่วยเอาไว้ คุณหนูคงแย่แน่ๆ คุณหนูสำคัญกับพวกเรามาก แล้วเธอทั้ง 2 คนชื่ออะไรและอายุเท่าไหร่กันหล่ะ เก่งจัง" อ่อนบอก
"ข้าจันทร์กับไอ้เข้ม อายุ 15 ปีเท่ากัน" จันทร์แนะนำตัว
"เอ..แล้วพวกพี่ว่ายน้ำกันไม่เป็นเลยเหรอ" เข้มถาม
"เอ่อ..อืม..พวกเราว่ายน้ำกันไม่แข็งหน่ะ คุณหนูก็ว่ายน้ำไม่เป็น" อ่อนตอบ
"ว่ายน้ำกันไม่ได้อย่างนี้ แล้วมาพายเรือเล่นกันทำไม แถมยังไม่รู้จักระวังกันอีก" จันทร์บ่น
"คุณหนูเธออยากมาเที่ยวตลาดน้ำแบบที่พวกเราก็ค้านไม่ได้ พวกเราก็เลยพามา เรือนี่ก็ขอเช่าชาวบ้านแถวนี้ ปกติพวกเราจะหาซื้อของที่ตลาดบกเล็กๆใกล้บ้านเท่านั้นแหละ" พิศเริ่มไม่พอใจในคำบ่นของจันทร์ ที่มีอายุน้อยกว่า และเริ่มเกิดความอับอายชาวบ้านที่ยังคงมุงดูอยู่
"เอาหล่ะๆ คราวหน้าคราวหลังถ้าพวกพี่จะไปไหนมาไหน ทางเรือ พวกพี่ก็ระวังให้มากกว่านี้หน่อยนะ พวกข้าไปหล่ะ เดี๋ยวต้องไปหาซื้อของต่อ ไปเว้ยไอ้เข้ม" จันทร์เอ่ยบอกพร้อมเรียกเพื่อนให้ไปด้วยกัน
"เดี๋ยวก่อนค่ะ" มีเสียงหนึ่งร้องเรียก ทำให้ทั้งสองหยุดฉะงัก
"หืม?.." ทั้งสองคนหันมาทางเจ้าของเสียง
"ฉันขอบคุณพี่ทั้งสองมาก พวกพี่พักกันอยู่แถวไหนคะ" สร้อยทองเอ่ยถาม
"พวกข้ามาจากนครปฐมโน่นแน่ะ" จันทร์ตอบ
"ฮ้าาา!..จริงหรือ พวกฉันก็มาจากนครปฐมเหมือนกัน พวกพี่บ้านอยู่แถวไหนกันคะ"
"เฮ้ย..ไอ้จันทร์ ข้าว่าเอ็งอย่ามัวมาคุยให้เสียเวลาเลยว่ะ เดี๋ยวซื้อของไม่ทันนะเว้ย ยายแม้นหน่ะ แกขายของหมดแกก็พายเรือกลับเลยนา" เข้มกระซิบบอกเพื่อน
"จริงด้วยว่ะ ไอ้เข้ม" จันทร์อุทาน
"พวกข้าไปก่อนหล่ะ ประเดี๋ยวจะไม่ทัน" จันทร์ร้องบอกสร้อยทอง แล้วออกตัววิ่งฝ่าฝูงชนไปพร้อมกับเข้ม ด้วยท่าทีที่รีบเร่ง
"ว้าาา..ไปซะแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าอยู่แถวไหนกัน จะรีบไปซื้ออะไรกันนะ" สร้อยทองบ่นเบาๆ
"ช่างเถอะคุณหนู อยู่แถวๆนั้นสักวันก็คงจะเจอค่ะ ว่าแต่ตอนนี้พี่ว่าเรากลับกันเถอะ ฤกษ์ไม่ดีซะแล้ว" พิศกล่าวพร้อมกับประครองสร้อยทองขึ้นมา
"จริงด้วยคุณหนู กลับกันเถอะค่ะ วันนี้ไม่สนุกแล้วหล่ะ" อ่อนพูดตาม
"จ๊ะ กลับก็กลับ เฮ้ออออ..ไม่น่าเลยเรา อดเที่ยวเลย" สร้อยทองบ่นอุบอิบ
แล้วทั้งสี่คนก็พากันกลับ พร้อมกับชาวบ้านที่เริ่มแยกย้ายกันไปทำธุระของตนเอง เหตุการณ์ที่ตลาดน้ำอัมพวาแห่งนี้ ก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แล้ววิถีชีวิตของตลาดน้ำแห่งนี้ก็ดำเนินต่อไปอย่างที่เคยเป็นมา
เอสกำลังเพลินกับบรรยากาศของตลาดน้ำแห่งนั้น ทันใดนั้นเองภาพต่างๆก็เริ่มจะเลือนหายไป ค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ความมืดมิดและว่างเปล่า แล้วเขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจากความฝันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาตื่นขึ้นมาอย่างราบเรียบ ไม่ใช่ตกใจตื่นเหมือนทุกคราวที่ผ่านมา เขาเหยียดตัวบิดขี้เกียจ จนพอรู้สึกว่าคลายเมื่อยแล้ว จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน แล้วเหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นเคย
"คุณหนูสร้อยทองนี่ล่ะก้อ พี่พิศบอกแล้วใช่มั้ยคะ ว่าไม่อยากให้มา ถ้าคุณผู้ชายรู้เข้า มีหวังพวกพี่คงโดนเฆี่ยนเป็นแน่"
"โธ่ พี่พิศ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คุณพ่อเขาไปเที่ยวเยี่ยมญาติที่ตลาดบ้านใหม่ แถวฉะเชิงเทราโน่น อีก 2-3 วัน ถึงจะกลับ แต่ถ้าถูกจับได้แล้วพ่อจะลงโทษพวกพี่นะ หนูจะอาละวาดให้ดู" สร้อยทองพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแต่แววตาเอาจริง
"นี่ฉันว่าเรารีบๆเที่ยวให้เสร็จๆไปเถอะ จะได้รีบกลับก่อนที่คุณผู้ชายจะรู้เรื่อง" แก้วพูดพร้อมกับสอดส่ายสายตามองดูสิ่งของไปเรื่อยๆ
เขาเห็นหน้าของสาวน้อยก็จำได้ ใช่แล้ว คุณหนูสร้อยทองวัย 12 ขวบ กับเหล่าพี่เลี้ยงสาวๆนั่นเอง นี่คงจะแอบหนีเที่ยวอีกแล้วสินะ ในขณะที่เขากำลังนึกอะไรเพลินๆนั้นเอง จิตใจของเขาก็เกิดอาการกระเพื่อมไหวตื่นเต้นตกใจขึ้นมาเหมือนกับจะมีเหตุการณ์อะไรไม่ดีเกิดขึ้น
"โครม!..กรี๊ดดดด!!...ตูม" เสียงเรือชนกันจนเรือลำหนึ่งเอียงกระเท่เร่ไปด้านหนึ่งพร้อมกับมีเสียงของคนตกน้ำ
"ว้ายยยยย!!!..คุณหนู คุณหนูสร้อยทองตกน้ำ!! ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยด้วยค่ะ มีคนตกน้ำ!!!..." พี่เลี้ยงทั้งสามต่างก็ตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย
"ช่วยด้วย!!..บุ๋มๆๆ..ช่วย..ช่วยด้วย..บุ๋มๆๆ" สร้อยทองตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ
นั่นไง สิ่งที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี คุณหนูสร้อยทองตกน้ำนั่นเอง แล้วเธอจะเป็นอะไรหรือเปล่านี่ เขาเริ่มรู้สึกวิตกกังวล ในระหว่างที่เขาคิดในช่วงเวลาที่มีความสับสนวุ่นวายบังเกิดทั้งกับเขาและผู้คนในบริเวณนั้นนั่นเอง
"ตู้ม!!..ตู้ม!!.." เสียงกระโดดน้ำ ใช่แล้ว มีคน 2 คนกระโดดน้ำจากฝั่ง แล้วว่ายด้วยความรวดเร็วเพื่อเข้าไปช่วยสาวน้อยคนนั้น ด้วยความลุ้นระทึกจากผู้คนรอบๆบริเวณนั้น
แล้วทั้งสองคนก็ว่ายน้ำเข้าไปช่วยสาวน้อยได้ทันเวลาก่อนที่เธอจะจมลงไป
"ไอ้เข้มเอ็งกะข้าโอบไหล่คนละข้างแล้วค่อยประครองไป"
"เออเว้ย..ไอ้จันทร์ จะได้ช่วยกันผ่อนแรง" แล้วทั้ง 2 คนก็ช่วยกันว่ายพาสาวน้อยเข้าฝั่ง
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้คน และเสียงปรบมือชื่นชมความกล้าหาญและความสามารถของทั้ง 2 คน
"เอ็งสองคนนี่มันตัดสินใจได้ไวเฉียบขาดดีว่ะ พวกข้ายังมัวแต่ตกใจกันอยู่เลย พวกเอ็งก็โดดลงน้ำกันไปแล้ว" เสียงชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวชื่นชม ในช่วงเวลานั้นเองพี่เลี้ยงทั้งสามของสร้อยทองก็รีบพายเรือเทียบท่า แล้วก้าวขึ้นฝั่งทันที
"คุณหนู..คุณหนูคะ..คุณหนู เป็นยังไงบ้างคะ" พิศแหวกฝูงชนเข้าไปประครองและตะโกนร้องเรียก
"คุณหนู...คุณหนู ฟื้นสิคะคุณหนู" ทั้งแก้วและอ่อนก็รีบแหวกฝูงชนเข้ามาประครองพร้อมกับเขย่าตัวของสร้อยทอง
"อืม..หืม นี่หนูยังไม่ตายหรือคะ หนูไม่ได้จมน้ำเหรอ อืม..แล้วตอนนี้ หนูอยู่ที่ไหนคะ" สร้อยทองพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
"เฮ้!!!.....คุณหนูฟื้นแล้ว คุณหนูไม่เป็นอะไรแล้ว ดีใจจังเลยค่ะ" ทั้งสามคนต่างก็ร้องบอกด้วยความดีใจ
"นี่ดีนะที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก กินน้ำเข้าไปไม่เยอะ และพวกเราช่วยไว้ได้ทันเวลา" จันทร์พูดออกมา
"พวกเราต้องขอขอบใจพวกเธอมากนะ พวกเราขอบใจจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกเธอช่วยเอาไว้ คุณหนูคงแย่แน่ๆ คุณหนูสำคัญกับพวกเรามาก แล้วเธอทั้ง 2 คนชื่ออะไรและอายุเท่าไหร่กันหล่ะ เก่งจัง" อ่อนบอก
"ข้าจันทร์กับไอ้เข้ม อายุ 15 ปีเท่ากัน" จันทร์แนะนำตัว
"เอ..แล้วพวกพี่ว่ายน้ำกันไม่เป็นเลยเหรอ" เข้มถาม
"เอ่อ..อืม..พวกเราว่ายน้ำกันไม่แข็งหน่ะ คุณหนูก็ว่ายน้ำไม่เป็น" อ่อนตอบ
"ว่ายน้ำกันไม่ได้อย่างนี้ แล้วมาพายเรือเล่นกันทำไม แถมยังไม่รู้จักระวังกันอีก" จันทร์บ่น
"คุณหนูเธออยากมาเที่ยวตลาดน้ำแบบที่พวกเราก็ค้านไม่ได้ พวกเราก็เลยพามา เรือนี่ก็ขอเช่าชาวบ้านแถวนี้ ปกติพวกเราจะหาซื้อของที่ตลาดบกเล็กๆใกล้บ้านเท่านั้นแหละ" พิศเริ่มไม่พอใจในคำบ่นของจันทร์ ที่มีอายุน้อยกว่า และเริ่มเกิดความอับอายชาวบ้านที่ยังคงมุงดูอยู่
"เอาหล่ะๆ คราวหน้าคราวหลังถ้าพวกพี่จะไปไหนมาไหน ทางเรือ พวกพี่ก็ระวังให้มากกว่านี้หน่อยนะ พวกข้าไปหล่ะ เดี๋ยวต้องไปหาซื้อของต่อ ไปเว้ยไอ้เข้ม" จันทร์เอ่ยบอกพร้อมเรียกเพื่อนให้ไปด้วยกัน
"เดี๋ยวก่อนค่ะ" มีเสียงหนึ่งร้องเรียก ทำให้ทั้งสองหยุดฉะงัก
"หืม?.." ทั้งสองคนหันมาทางเจ้าของเสียง
"ฉันขอบคุณพี่ทั้งสองมาก พวกพี่พักกันอยู่แถวไหนคะ" สร้อยทองเอ่ยถาม
"พวกข้ามาจากนครปฐมโน่นแน่ะ" จันทร์ตอบ
"ฮ้าาา!..จริงหรือ พวกฉันก็มาจากนครปฐมเหมือนกัน พวกพี่บ้านอยู่แถวไหนกันคะ"
"เฮ้ย..ไอ้จันทร์ ข้าว่าเอ็งอย่ามัวมาคุยให้เสียเวลาเลยว่ะ เดี๋ยวซื้อของไม่ทันนะเว้ย ยายแม้นหน่ะ แกขายของหมดแกก็พายเรือกลับเลยนา" เข้มกระซิบบอกเพื่อน
"จริงด้วยว่ะ ไอ้เข้ม" จันทร์อุทาน
"พวกข้าไปก่อนหล่ะ ประเดี๋ยวจะไม่ทัน" จันทร์ร้องบอกสร้อยทอง แล้วออกตัววิ่งฝ่าฝูงชนไปพร้อมกับเข้ม ด้วยท่าทีที่รีบเร่ง
"ว้าาา..ไปซะแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าอยู่แถวไหนกัน จะรีบไปซื้ออะไรกันนะ" สร้อยทองบ่นเบาๆ
"ช่างเถอะคุณหนู อยู่แถวๆนั้นสักวันก็คงจะเจอค่ะ ว่าแต่ตอนนี้พี่ว่าเรากลับกันเถอะ ฤกษ์ไม่ดีซะแล้ว" พิศกล่าวพร้อมกับประครองสร้อยทองขึ้นมา
"จริงด้วยคุณหนู กลับกันเถอะค่ะ วันนี้ไม่สนุกแล้วหล่ะ" อ่อนพูดตาม
"จ๊ะ กลับก็กลับ เฮ้ออออ..ไม่น่าเลยเรา อดเที่ยวเลย" สร้อยทองบ่นอุบอิบ
แล้วทั้งสี่คนก็พากันกลับ พร้อมกับชาวบ้านที่เริ่มแยกย้ายกันไปทำธุระของตนเอง เหตุการณ์ที่ตลาดน้ำอัมพวาแห่งนี้ ก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แล้ววิถีชีวิตของตลาดน้ำแห่งนี้ก็ดำเนินต่อไปอย่างที่เคยเป็นมา
เอสกำลังเพลินกับบรรยากาศของตลาดน้ำแห่งนั้น ทันใดนั้นเองภาพต่างๆก็เริ่มจะเลือนหายไป ค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ความมืดมิดและว่างเปล่า แล้วเขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจากความฝันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาตื่นขึ้นมาอย่างราบเรียบ ไม่ใช่ตกใจตื่นเหมือนทุกคราวที่ผ่านมา เขาเหยียดตัวบิดขี้เกียจ จนพอรู้สึกว่าคลายเมื่อยแล้ว จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน แล้วเหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นเคย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ