Curse moon คำสาปรัก มนต์จันทรา [Yaoi]
เขียนโดย gladiolus
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.54 น.
แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) ตอนที่ 20 ทวงหัวใจคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 20 ทวงหัวใจคืน
เคย์
นับจากวันที่ผมกับซันไปทะเลด้วยกันตอนนี้ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว หลังจากวันนั้นที่ผมวางยานอนหลับซัน ตอนที่เราจูบกันผมทายานอนหลับเอาไว้ที่ริมฝาปากเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเป็นคนแผนสูง ถึงยาจะไม่แรงมากแต่อดเป็นห่วงซันไม่ได้อยู่ดี เฮ้อ……. การหนีมาเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ที่จริงผมควรจะถอยออกมาตั้งนานแล้ว ไม่ควรจะปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมาขนาดนี้ อีกสองวันพระจันทร์จะเต็มดวงอีกครั้ง วันที่ผมเกลียดที่สุดกำลังจะมาถึง
“เฮ้อออ……." ผมถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้นเนี่ย
ดิ๊งด๊องๆๆ
“เสียงออดหน้าบ้าน ใครมา…...” ผมลืมบอกไปตอนนี้ผมอยู่บ้านของต้นตระกูลซึ่งตอนนี้ทายาทคนเดียวของตระกูลก็คือผมคนนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่รอดไปได้นานซักเท่าไหร่
ผมเดินออกมาดูตรงหน้าบ้านก็เจอกับกล่องพัสดุแล้วก็การ์ดเชิญอยู่สองใบ กล่องพัสดุนี่ของพ่อส่งมา ส่วนการ์ดเชิญนี่มัน
“งานโบราณคดี เพื่อการกุศล เชิญพ่อนี่หว่า เอาไงดีพ่อไม่อยู่ซะด้วย….” ผมเดินกลับเข้าบ้านแล้วอ่านการ์ดในมือไป พ่อผมเป็นนักโบราณคดีนี่เนอะ จะได้การ์ดเชิญไปงานแบบนี้ก็ไม่เห็นจะแปลก แต่อีกอันนี่เป็นซองอะไรซักอย่าง ไม่มีจ่าหน้าซองซะด้วย
ผมว่างกล่องพัสดุลงที่โต๊ะแล้วเปิดซองดูข้างใน …………..
ผู้ที่เกิดในตระกูลที่ถูกคำสาปแห่งแสงจันทร์ เมื่อถูกคนที่รักหักหลัง จะต้องทนทุกข์ทรมาร อย่างแสนสาหัส ด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกกริชนับพันเล่มทิ่มแทงลงกลางใจ ทรมารอย่างช้าๆและโดดเดี่ยว จนสิ้นลมหายใจ
คำสาปนี้จะไม่มีวันลบล้างได้ และจะคงอยู่ชั่วนิรันดิ์……………
แต่หากวันใดที่มีคนยอมเอาหัวใจมาแลกกับชีวิต โดยปักกริชเงินลงกลางหัวใจคนรักของตน คำสาปนี้ จะสูญสิ้นไป…….
‘ความลับของผมประกายสีเงิน ที่ต้องแลกด้วยชีวิตของคนรัก ข้างสระว่ายน้ำ งานโบราณคดี การกุศล แล้วเจอกัน……….’
ข้อความข้างในทำให้ผมแทบทรงตัวไม่อยู่ นอกจากคนในตระกูลนี้ ไม่น่าจะมีใครรู้เรื่องคำสาปนี้นี่ คนที่ส่งข้อความนี้มาเป็นใครกันแน่ แล้วรู้เรื่องของผมได้ยังไง คำสาปที่น่ารังเกลียดนี่อีก ผมจะทำยังไงดี…….
Rrrrr Rrrrrrrr
“ครับแม่”
[ว่าไงไอ้แสบ นี่พ่อเอง]
“เอ้า ผมก็นึกว่าแม่ ว่าจะอ้อนเอาของฝากซักหน่อย” ผมพยามปรับเสียงให้เป็นธรรมชาติไม่ให้มันสั่นเหมือนมือของผมที่ถือโทรศัพท์สั่นๆอยู่ตอนนี้
[แม่แกยังหลับอยู่เลย เมื่อคืนหนักไปหน่อย ฮ่าฮ่าาา]
“โห่….พ่อพูดไรเนี่ย” พ่อผมเอาซะลืมเรื่องเมื่อกี้ไปเลย
[ ฮ่าฮ่าๆๆ เออ พ่อจะโทรมาถามว่าของที่ส่งไปถึงรึยัง]
“ถึงเมื่อกี้เลยครับ อ่อ มีการ์ดเชิญไปงานวัตถุโบราณของพ่อด้วยนะ แต่พ่ออยู่ต่างประเทศจะมาได้ไงอ่ะ”
“งานสำคัญนะนั่น แกไปแทนพ่อได้ไหม” คำถามของพ่อทำให้ผมยกกระดาษที่อยู่ในมือขึ้นมาดู ก่อนจะซูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาสิว่ะ เป็นไงเป็นกัน มั่วแต่หลบอยู่อย่างนี้แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นใคร
“ได้ครับ”
[ดีมากไอ้แสบ อ่อ กล่องนั้นเก็บไว้ดีๆอย่าให้หาย เข้าใจ๋]
“คร้าบบบๆ ห่วงแต่ของ ไม่ห่วงลูกบ้างเลย น้อยใจนะเนี่ย”
[หึหึ นี่พ่อมีลูกผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ หะ]
“ผู้ชายสิพ่อ ก็ถ้าผมไม่อ้อนพ่อใจให้ผมไปอ้อนใครล่ะคร้าบบบบ” อ้อนได้ตามประสาลูกชายคนเดียว ^_^
[ครับๆไอ้ลูกชาย แม่แกตื่นแล้วแค่นี้ก่อนนะ] เฮ้อ เรื่องแม่นี่มาก่อนทุกเรื่องจริงๆ
ผมส่ายหัวกับปลายสายที่พึ่งวางไป พ่อของผมเค้าคือหนึ่งในตระกูล ศศิชา ที่ต้องคำสาป ได้เจอรักแท้กับแม่ผม แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคำสาปจะหายไป มันตกทอดมาสู่รุ่นของผม และดูเหมือว่าผมคงจะไม่โชคดีเหมือนพ่อ คิดเรื่องนี้แล้วกลุ้มโว้ยยยยยยยยยยย!!!!!!
“เฮ้อ……ให้มันได้แบบนี้สิวะชีวิตกู” ผมนั่งลงเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่ายกับชีวิต สายตาผมก็ไปสะดุดกับกล่องพัสดุที่พ่อส่งมา ดูท่าจะเป็นของสำคัญ แอบดูนิดเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“นี่มัน!” ของที่อยู่ในกล่องนี่มันอะไรกัน ทำไมพ่อถึงส่งของแบบนี้มา ผมหยิบของในกล่องขึ้นมาดู หน้าของใครอีกคนก็ลอยเข้ามาในความคิด โดยเฉพาะรอยยิ้มนั่นผมจำมันได้ดี
“ไม่มีทาง จะไม่มีวันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเด็ดขาด…..” ผมกำสิ่งที่อยู่ในมือไว้แน่น ของที่อยู่ในมือผมอาจปักอยู่กลางหัวใจของซันเข้าซักวันก็ได้ นี่ผมคิดบ้า!อะไรอยู่ ผมกำลังคิดจะฆ่าซันเพื่อเอาตัวรอดอย่างนั้นหรอ ถึงจะเป็นความคิดเพียงชั่วครู่แต่มันก็เลวเกินกว่าจะให้อภัยได้ ผมนั่งเหม่ออยู่นาน ก่อนจะเก็บมันไว้ในกล่องตามเดิม เรื่องของในกล่องเอาไว้ก่อน เพราะผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ
“ ฉันจะต้องรู้ให้ได้เลยว่าคนที่ส่งการ์ดมามันเป็นใครกันแน่….” ก่อนอื่นผมต้องเตรียมตัวก่อน และงานนี้คงต้องมีตัวช่วย
“ฮัลโล ไอ้น้ำกูมีเรื่องให้มึงช่วยหน่อย……….”
- น. โรงแรม xxx
“คิคิ”
“ไอ้น้ำถ้ามึงยังไม่หยุดขำกูนะ กูเตะมึงออกจากงานแน่”
“ฮ่าฮ่าๆๆ โทษทีๆ กูฮานี่หว่า มึงแต่งเต็ม เเต่เดินเหมือนคนขี้ไม่ออกเลยว่ะ” ไอ้นี่ ปากหมาจริงๆเลย นี่ถ้าผมไม่จำเป็นผมไม่เอามันมาด้วยหรอก
“หุบปากไปเลยมึง เข้าไปในงานกันได้แล้ว” เหตุผลที่ไอ้น้ำขำผมตั้งแต่ขึ้นรถมามันยังไม่ยอมหยุด เพราะงานนี้ผมแปลงร่างเป็นผู้หญิงอีกแล้ว และก็ส้นสูงอีกแล้ว ไม่ชินเลยจริงๆ อยากจะบ้าตาย ตอนแรกที่ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ไอ้น้ำฟังมันโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าผมไม่เชื่อใจบ้างล่ะ ไม่เห็นมันเป็นเพื่อนบ้างล่ะ ผมต้องหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอธิบายมันถึงยอมฟัง และที่จริงผมกะจะมาแบบธรรมดาๆนั่นแหละ แต่ไอ้น้ำมันกลัวว่าถ้าเกิดไอ้คนที่มาส่งการ์ดมาดีก็ดีไปแต่ถ้ามาร้าย เท่ากับผมเดินไปให้เชือดด้วยตัวเอง สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการมางานในคราบกุลสตรีเต็มยศ มันก็มาเป็นคู่ควงให้ผม เหมือนเดจาวูเลย แค่คนที่ผมคล้องแขนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ซัน…..
“งานนี้หรูโคตรๆ ส่วนใหญ่เป็นไฮโซไม่ก็พวกนักธุรกิจเดินกันให้ว่อน มึงแน่ใจนะว่ามาถูกงาน” ไอ้น้ำถามผม
“แน่ใจดิ ว่าแต่สระว่ายน้ำมันอยู่ตรงไหนวะ” ผมกวาดสายตามองหารอบงาน แต่ตามันไปสะดุดกับ……..
“พี่เดฟ!” เหมือนร่างกายมันขยับไปเองอัตโนมัติ ผมดึงไอ้น้ำวิ่งหาที่หลบอย่างไว ใครจะไปคิดว่าจะเจอคนของซันที่นี่
“อะไรของมึงวะ ?” ไอ้น้ำถามอย่างงงๆกับท่าทีของผม
“กูเจอคนรู้จัก ซึ่งตอนนี้กูยังไม่อยากเจอ ไอ้น้ำมึงกันออกไปให้หน่อยดิ๊” ไอ้น้ำพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย เเบบไม่มีบ่น ถ้าปกติมันจะบ่นก่อนแล้วค่อยทำ แค่ผมชี้ให้ดูว่าคนไหนมันมองตาม ก็เผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายของมันออกมา
“กูให้มึงไปกันเค้าออกไป พี่เดฟเค้าดีกับกู อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง” สายตาที่มันมองพี่เดฟไม่ต่างอะไรกับตอนที่มันมองเหยื่อในคอแลคชั่นของมัน ไอ้น้ำมันได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขอแค่น่าสนใจเป็นพอ แค่มองตาผมก็รู้แล้วว่ามันคิดอะไร
“แสนรู้จริงนะมึง กูไม่รับปาก ถ้าเค้าอยากเอากับกู อันนี้มันก็ช่วยไม่ได้” ไอ้น้ำก้าวออกไปอย่างว่องก่อนที่ผมจะตบหัวมันทัน หึ่ย! ความเจ้าชู้ของมันจัดว่าขั้นเซียน ผู้ชายแท้ๆมันก็ลากขึ้นเตียงมาแล้ว พี่เดฟของผมจะรอดไหมเนี่ย
“ทางสะดวกแล้ว” ไม่รู้ไอ้น้ำใช้ไม้ไหนพี่เดฟถึงยอมเดินตามมันออกไปได้ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจ เป้าหมายคือสระว่ายน้ำ ผมเดินตรงดิ่งแบบไม่สนใจใครแต่ส้นสูงเจ้ากรรมของผมมันดันพลิกเอาดื้อๆ ทำให้ผมเซไปชนผู้หญิงคนหนึ่งเข้า
“โอ้ย! อะไรเนี่ยเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยรึไง” ขนาดยังไม่มองหน้าเธอก็ใส่มาเป็นชุด แต่พอผมเห็นหน้าเธอเท่านั้นแหละ
“คุณดีดี๊! ซวยชิบ!” ผมหันหลังหลบแทบไม่ทัน ทำไมคนรู้จักของซันมากันเยอะอย่างนี้นะ หวังว่าผมคงไม่เจอ……….
“อะไรกันยะ ไม่ขอโทษแล้วยังจะเดินหนีอีก ไม่มีมารยาท”
“ดีดี๊ เกิดอะไรขึ้น” OoO เสียงนี้มัน…..
“ซันขา ดีดี๊เจ็บจังเลย ดูสิคะยัยบ้าเนี่ยเดินไม่รู้จักระวังชนดีด๊เจ็บไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ” ชีวิตมึงทำไมมันเชี่ยงี้วะไอ้เคย์ ผมอยากตะโกนออกมาให้โลกรู้กันไปเลย ว่าซวย T^T
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ