Curse moon คำสาปรัก มนต์จันทรา [Yaoi]
เขียนโดย gladiolus
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.54 น.
แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ตอนที่ 14 บอกรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 14 บอกรัก
“ แล้วสิ่งที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เชื่อได้รึเปล่าล่ะ เล่ามาเถอะเคย์ ฉันเป็นห่วงนายนะ ”
“คุณซัน” ผมโผเข้าไปกอดซันไว้แน่น ซันกอดตอบอย่างเบามือ อย่างน้อยเค้าก็ยังไม่เปลี่ยนไป ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
“ว่ามาเถอะ ไม่ว่านายจะเป็นอะไรฉันก็รับได้ ฉันรักนายนะเคย์” หัวใจผมจะหลุดออกมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำว่ารักจากปากเค้า น้ำตาที่ไม่รู้ว่ามาจากความดีใจเสียใจหรือว่าตกใจกันแน่ ไหลมาโดยที่ผมไม่คิดจะเช็ดมันออกเลยซักนิด ซันเชยคางผมขึ้น มือหนาปาดน้ำตาออกให้อย่างกับกลัวว่าหน้าของผมจะช้ำ ริมฝีปากอุ่นๆทาบทับลงมาบนริมฝีปากที่เย็นซีดของผม จูบที่ไม่ใช่การลุกล้ำแต่แสนจะอบอุ่น ผมว่าบางทีผมอาจจะเจอแล้วก็ได้รักแท้ของผม เนินนานก่อนความอุ่นจากริมฝีปากหนาจะคลายถอยไป
“ จะเล่าได้รึยัง” ผมผงกหัวรับ แล้วซันก็จูงมือให้มานั่งที่เตียง ผมยอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ซันฟัง เรื่องตำนานของคำสาปที่เกิดขึ้นเมื่อสามร้อยปีก่อน ยกเว้นอยู่เรื่องเดียว
“เดี๋ยวนะ หมายความว่านายโดนคำสาปที่เจ้าหญิงราเชียสาปไว้ก่อนตาย แต่คำสาปไม่ได้บอกไว้นี่ว่านายจะต้องมีสภาพแบบนี้” คำถามแรกที่ผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
“นั่นเป็นสิ่งที่พ่อของผมกำลังหาสาเหตุอยู่ เพราะผมมีแค่คนเดียวในตระกูลที่เป็นแบบนี้”
“แล้ววิธีแก้คำสาปล่ะ ส่วนมากถ้ามีคำสาปก็น่าจะมีวิธีที่น่าจะลบล้างได้นะ” ผมชะงักนิดหน่อยกับคำถามของซัน ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้แต่ผมตั้งใจจะไม่บอกต่างหากล่ะ
“ไม่…..ไม่รู้ครับ” ผมไม่กล้าสบตากับซันกลัวเค้าจะรู้ว่าผมโกหก ผมตั้งใจจะไม่บอกซันเรื่องวิธีแก้คำสาปเด็ดขาด
“นายไม่คิดบ้างหรอ บางทีมันอาจจะเป็นความผิดปกติของร่างกายก็ได้” มันยากที่เค้าจะเชื่อเรื่องที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์แบบนี้สินะ
“ผมผ่านการตรวจร่างกายมานับครั้งไม่ท่วนแล้วนะครับ แต่ทุกอย่างก็ปกติดี” ผมยังจำที่อาหมอเพื่อนของพ่อบอกไว้ได้ดี ‘น้องเคย์เป็นโรคที่ไม่ใช่โรคว่ะ’ จนทุกวันนี้ผมก็ยังหาคำตอบจากประโยคนั้นไม่ได้
“ นายจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน” ซันถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่รู้สิ อาจจะตลอดชีวิตมั้งครับ” ผมต้องแบบไม่ใส่ใจ ชินชาซะแล้วมั้งครับ
“นายกลัวรึเปล่า”
“กลัวอะไรครับ”
“กลัวว่าฉันจะนอกใจนายไง” ทำไมมาเปิดประเด็นนี้ล่ะ
“บ้า ผมจะกลัวทำไม ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณซักหน่อย” ก้มหน้างุดๆ ผมพึ่งโดนสารภาพรักไปไม่นานเองนะ
“เอ้า ฉันสารภาพรักกับนายไปแล้วนะ ไม่รู้ล่ะ นายต้องรับผิดชอบ” ซันดึงตัวผมเข้าไปกอด ทำไมสถานการณ์มันเปลี่ยนไปเร็วนักล่ะ ผมปรับตัวไม่ทัน เมื่อกี้ยังเครียดกันอยู่เลย
“รับผิดชอบยังไง ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ” ผมตอบขำๆ ซันทำหน้าบึ่งใส่ผม แต่ผมว่ามันน่ารักอ่ะ
“นายต้องรับผิดชอบโดยการ…….รักฉันสิ” สายตาออดอ้อนแบบนั้นมันอะไรกัน
“แต่ว่าความรักเป็นอันตรายต่อชีวิตผมนะ ผมจะรู้ได้ไงว่าถ้าผมรักคุณแล้วผมจะไม่เสียใจจนตาย” ผมจ้องลึกเข้าไปในแววตาของซัน มันมั่นคงและดูอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
“สัญญาด้วยชีวิตของฉันเป็นไง แค่นี้พอจะทำให้นายเชื่อในความรักของฉันได้รึเปล่า” แววตามั่นคงของซันกลับทำให้ผมเป็นคนหวั่นไหวซะเอง ผมกลัว กลัวใจตัวเองจริงๆ
“นายรักฉันบ้างรึเปล่า” เป็นคำถามที่ตอบยากที่สุด ความรู้สึกหลากหลายภายในใจของผม มันคือความรักรึเปล่านะ
“ผม…..ไม่รู้” คำตอบที่ทำให้คนฟังกอดผมแน่นกว่าเดิม ซันไม่ได้กอดแรงจนหายใจไม่ออก เพียงแต่กระชับอ้อมกอดให้ตัวเราแนบชิดกันยิ่งขึ้น
“ฉันจะรอ จนกว่าจะได้ยินคำว่ารักจากปากนาย” ซันจูบที่หน้าผากของผม ภาพตอนนี้เหมือนในเทพนิยายไม่มีผิด แสงสีเงินส่องสว่างไปทั้งห้อง ร่างของเราสองคนกอดกันแนบแน่น ฟ้าคงบันดาลให้เรามาพบกันแต่ไม่มีอะไรที่บอกผมได้เลยว่า ผมอาจจะตายเพราะเค้าหรือเค้าอาจจะตายเพราะผม ถ้าผมรักเค้าหมดหัวใจวันนั้นอาจจะเป็นวันตายของผมก็ได้ใครจะรู้ หรือไม่ก็เป็นซันที่ต้องตาย ไม่ว่าจะอย่างไหนก็เจ็บไม่ต่างกันหรอก
Rrrrrr Rrrrrrr Rrrrrrrr
ซัน
“ฮัลโหล สวัสดีครับ” ผมตื่นนอนก่อนคนตัวเล็กนะครับ แล้วมือถือของคนตัวเล็กก็มีคนโทรเข้า ว่าที่แม่ยายผมโทรมาครับ ^_^
“สะ สวัสดีค่ะ เอ่อคือนั่นใครเป็นคนรับโทรศัพท์ของน้องเคย์คะ” คุณแม่คงตกใจสินะทั้งที่โทรมาแต่เช้าแต่คนรับกลับไม่ใช่เคย์ (เค้าไปเป็นแม่คุณตอนไหนคะ: ไรท์)
“ซันครับ เคย์หลับอยู่เดี๋ยวผมปลุกให้นะครับ” ผมเดินไปที่เตียงที่คนตัวเล็กหลับอยู่ ยังมีไข้อยู่นิดหน่อย เมื่อคืนเคย์ตัวเย็นมาก แต่พอเช้าก็กลับมาเป็นปกติ ดูท่าว่าจะเพลียไม่เบา เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า เพราะนั่งตัดผมกันอยู่หลายรอบตัดแล้วก็ยาวออกมาใหม่ ไอ้ครั้นจะไม่ตัดผมมันก็ยาวเป็นราพันเซลเลย แต่ผมที่ตัดออกมาแล้วพอเช้าก็เหลือเศษอยู่ไม่กี่เส้น แล้วไอ้ที่กองเป็นภูเขาเมื่อคืนน่ะค่อยๆสลายไปราวกับหมอกในตอนเช้า ที่ต้องแสงพระอาทิตย์ ผมมองร่างเล็กตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเองถ้าเป็นตนอื่นคงคิดว่าโดนผีหลอกหรือไม่ก็เป็นบ้าไปแล้ว บอกตามตรงว่าตอนแรกผมตกใจ แต่จะทำไงได้ล่ะ ผมรักเคย์ไปแล้วนี่ ไม่ว่าเค้าจะเป็นยังไงผมก็อยากจะอยู่ข้างๆเค้าแบบนี้
“เคย์ ตื่นได้แล้ว แม่นายโทรมา” เคย์ตื่นขึ้นมานั่งสะลึมสะลือยังไม่ค่อยตื่นดีเท่าไร
น่ารักเป็นบ้าเลย
“อือออ ขออีกห้านาที” เคย์ทำท่าจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
“ได้ ฉันจะได้คุยกับว่าที่แม่ยายเรื่องจะขอลูกชายของท่านซักหน่อย”
“ไม่ต้องเลย เอามานี่” ฮ่าๆฮ่าาาๆ มันได้ผล เคย์เด้งตัวจากเตียงเข้ามาแย่งเอาโทรศัพท์ในมือผม
“จุ๊บ! มอร์นิ่งคิสครับ” อะไรมันจะเข้าทางผมขนาดนี้ เคย์รีบลุกขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว มันง่ายต่อการขโมยจูบ โอกาสดีขนาดนี้มีหรอผมจะปล่อยให้หลุดมือ ยิ่งหน้าแดงๆแบบนั้นยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
“นี่คุณซันเอามือถือผมมา ผมจะคุยกับแม่” เคย์หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแต่ก็ทำเป็นโกรธกลบเกลื่อน นายรู้รึเปล่าว่านายกำลังทำให้ฉันหลง
[ เคย์ มีอะไรรึเปล่าลูก ทำไมเงียบไปล่ะ] เสียงแม่ของเคย์ลอดออกมาทางโทรศัพท์ คงเพราะถือสายรอนานแล้ว
“ ไม่ ไม่มีอะไรครับแม่” ผมยอมส่งโทรศัพท์คืนให้เคย์แต่โดยดี ถ้าจะงอนจริง แต่แก้มป่องๆนั่น มองยังไงก็รักมากกว่าน่ากลัว
เคย์
“ว่าไงครับแม่” เกือบไปแล้ว ซันคุยอะไรกับแม่ไปบ้างเนี่ย
[แม่ก็โทรมาถามเรื่องร่างกายของเรานั่นแหละ เป็นยังไงบ้าง]
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เคย์ร่างกายแข็งแรงจะตายครับแม่” ผมไม่อยากให้แม่เป็นห่วงไปมากกว่านี้ แม่ผมท่านจะโทรมาเช็ดทุกครั้งที่เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง
[ดีแล้วลูก แล้วคนที่รับโทรศัพท์แทนลูกเค้าเป็นใครหรอ]
“เป็น เป็นเจ้านายเคย์ไงครับ” เหงื่อแตกพลั่กเลย แม่ผมน่ะเครื่องเรด้าจับโกหกเดินได้เลยนะ
[แน่หรอ ทำไมแม่ได้ยินแว่วๆว่าแม่ยาย อะไรซักอย่าง] แม่ผมนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
“แม่หูแว่วล่ะมั้งครับ ผมไม่เห็นได้ยินอะไรเลย” ทำไมผมต้องมานั่งแก้ต่างกับแม่แบบนี้ด้วยนะ เพราะซันคนเดียวเลย ยังจะมายิ้มใส่ผมอีกอ่ะ
[อ่อ แม่ลืมบอกไป พ่อเค้าส่งของสำคัญกลับไปที่บ้าน น่าจะถึงวันสองวันนี้ยังไงลูกก็เอาไปเก็บไว้กับลูกก่อนแล้วกันนะ มันสำคัญมากจะให้หายไม่ได้นะเข้าใจไหม] แม่ร่ายซะยาวเลย ที่จริงแค่กลัวว่าของจะหายเองหรอ
“ได้ครับ ว่าแต่พ่อส่งอะไรมาหรอ” ปกติจะเอาไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ไม่เคยเอามาไว้ที่บ้านเลยนะ
[ก็ของเก่าของเค้านั่นแหละ ยังค้นคว้าข้อมูลไม่เสร็จ ยังไงแม่ฝากเคย์ดูแลดีๆนะลูก]
“ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ว่าแต่แม่กับพ่อจะกลับมาเมื่อไรครับ” ทิ้งลูกไปเทียวกันแค่สองคน รู้หรอกว่าเอางานมาอ้าง
[เดือนหน้าแม่กับพ่อก็กลับแล้ว เดี๋ยวแม่ซื้อของไปฝาก ดูแลตัวเองดีๆล่ะแม่รักเคย์นะ]
“ครับ ผมก็รักแม่”
ผมวางสายจากแม่เสร็จ ซันก็เอาแต่ยืนจ้องอยู่นั่นแหละ
“นายไม่คิดจะให้ฉันได้คุยกับว่าที่แม่ยายหน่อยหรอ” ยังจะมาทำหน้าทะเล้นใส่อีกนะ เมื่อกี้ ผมแถกับแม่จนสีข้างถลอกหมดแล้ว
“บ้าดิ แม่ผมไปเป็นแม่ยายคุณตั้งแต่เมื่อไหร่” เถียงไปหน้าแดงไป ถ้าจะบ้าแล้วเรา เค้าก็แค่ล้อเราเล่นเท่านั้นแหละ
“ตอนนี้ยังไม่เป็น แต่ต่อไปไม่แน่” เค้าน่าจะเป็นคนขี้ตู่น่าดูเลยนะ
“ฝันไปเถอะ” ผมไม่ยอมเถียงแพ้หรอก
“งั้นเรามาพิสูจน์กัน พรุ่งนี้นายต้องไปเดทกับฉัน ถ้านายแน่จริงก็คงจะไม่ปฏิเสธหรอกใช่ไหม” โดนดักทางเต็มๆ
“ดะ ได้อยู่แล้ว ก็แค่เดท จิบๆ” ผมดันเป็นพวกถ้าโดนท้าแล้วมันต้องของขึ้นตลอดเลยนี่สิ ใครจะไปยอม
“หึ หึ ตามนั้น วันนี้นายยังไม่หายดีเท่าไหร่พักผ่อนให้พอ จะได้มีแรงไปเดทกับฉันพรุ่งนี้ ^_^ ”
“ล้างคอรอไว้ได้เลยครับ” ปากดีไปงั้นแหละครับ พรุ่งนี้จะเจออะไรบ้านเนี่ย T^T
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ