Curse moon คำสาปรัก มนต์จันทรา [Yaoi]
9.0
เขียนโดย gladiolus
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.54 น.
24 ตอน
2 วิจารณ์
29.50K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ตอนที่ 11 อันตราย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 11 อันตราย
“เคย์!!.......นายอยู่ไหน” คนตัวเล็กที่นอนอยู่ในอ้อมกอดเมื่อคืน ตื่นมาก็ไม่เจอแม้แต่เงา ซันเดินตามหาเคย์ทั้งบ้านแต่ก็หาไปเจอ เค้าเป็นห่วงคนตัวเล็กจนร้อนลน
พาลอารมณ์เสียใส่คนทั้งบ้านจนหาที่หลบกันแทบไม่ทัน
“ อะไรกัน คนหายทั้งคนแต่ไม่มีใครรู้ใครเห็นเลยหรอ” ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว ซันเรียกคนในบ้านทั้งหมดมายืนเรียงหน้ากระดานแล้วถามหาคนตัวเล็กด้วยอารมณ์ที่ใครก็เข้าหน้าไม่ติด ได้แต่ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาเจ้านายสุดหล่อที่ตอนนี้กลายเป็นหมาบ้าไปแล้ว
“เอ่อคือว่า…..” บอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูหน้าบ้านทำท่าอ่ำๆอึ้งๆ
“อะไร!!” ซันหันไปตวาดเสียงดัง เค้าไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน จะเครียดฉะเพราะเวลาทำงานเท่านั้น แต่คนตัวเล็กมีอิทธิพลต่อใจของเค้ามากจริงๆ
“ คุณเคย์ออกไปตอนเช้ามืดครับ บอกผมว่ามีธุระด่วนต้องรีบไปทำ ผมไม่คิดว่าคุณเคย์จะหนีไป ”
“นายเลยปล่อยไปอย่างนั้นหรอ!!” คำว่าหนีไป มันทำให้ซันเดือดดานยิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า มันคือสิ่งที่เค้ากลัวที่สุด ที่ผ่านมาเค้าไม่เคยสนใจใครขนาดนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยด้วยซ้ำ ที่เคย์เข้ามาป่วนในใจของเค้าเสมอ ใบหน้าที่จำติดตาตั้งแต่แรกเห็น
“ผมขอโทษครับ ผมผิดไปแล้วครับคุณซัน” บอดี้การ์ดโค้งตัวขอโทษอย่างสำนึกผิด แม้จะเดือดมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะซันรู้ดีถึงสาเหตุที่ทำให้เคย์ต้องหนีเค้าไป
“ เดฟ นายส่งคนของเราให้ออกตามหาเคย์เดี๋ยวนี้ ถ้าหาไม่เจอฉันจะเล่นงานพวกนายแทน” ซันหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทด้วยเสียงเหี้ยมๆ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
‘นายหายไปไหนนะเคย์ รู้รึเปล่าว่าฉันกำลังจะเป็นบ้าเพราะนาย……..’
เคย์
“อู๊ยยยย…..” เพราะไอบ้าซันที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ จะลุกจะนั่งต้องร้องครวนครางขึ้นมาทุกที่
“เฮ้ย…ไอ้เคย์ มึงเป็นไรวะ ร้องอย่ากะคนโดยเอา” ไอ้เพื่อนเวร นั่นปากรึโถส้วมวะ
“ไอ้น้ำ มึงเป็นญาติกับน้องจระเข้รึไง”
“อะไรวะน้องจระเข้” อิอิ ผมรู้ครับว่ามันโง่
“ก็ตัวเฮี้ยไง” สะใจครับผม
“ไอ้ห่า ถ้ากูเป็นเฮี้ย มึงก็เป็นเพื่อนกับเฮี้ยล่ะวะ” อ้าวไอ้นี่ วอนโดนทีนซะแล้ว
“แล้วสรุปมึงเป็นไรวะ กูเห็นมึงร้องโอดโอยตั้งแต้เมื่อเช้าแหละ” หน้าตามันโคตรอยากรู้อยากเห็นเลยครับ
“ กูล้ม….” ผมไม่รู้จะแถไปยังไงดี ยิ่งนึกถึงสาเหตุจริงๆมันทำให้ผมจี๊ด
“ล้มยังไงวะ กูไม่เห็นมึงจะมีแผลอะไรเลย” ไอ้น้ำนี่มันก็ซักผมไม่หยุด กูไม่ได้เป็นฆาตกรนะครับ ซักอยู่ได้
“ก็ล้มก้นกระแทก…..พื้นไงมึง” อยู่ดีๆภาพที่โดนซันกระแทกก็วาบเข้ามาในหัวผม บ้าเอ๊ย หน้าเน่อร้อนไปหมดแล้วบ้าๆๆๆๆ (ได้ข่าวว่าแกต้องโกรธเค้านะ : ไรท์)
“มึงไม่สบายด้วยรึเปล่าวะ หน้าแดงๆ” กูว่ามึงไม่ต้องเรียนแล้วเกษตร ไปแป็นสุนัขตำรวจน่าจะรุ่งกว่านะ
“ ก็นิดหน่อย” ผมว่าอาการไม่หนัก น่าจะมาเรียนได้เลยฝืนสังขารมา อีกอย่างผมก็ใกล้จะจบแล้วไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องเวลาเรียนไม่พอนะ
“มึงน่าจะกลับไปนอนพักนะ วิชาต่อไปไม่มีเช็คชื่อ เดี๋ยวกู จดเลคเชอร์ให้”
“ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา มีวันนี้แหละที่กูพึ่งรู้สึกว่ามึงเป็นเพื่อนที่ดี น้ำตาจิไหล” ผมทำหน้าซึ้งบ่อน้ำตาจะแตก
“กวนทีนนะครับ เดี๋ยวกูก็ไม่ทำให้หรอก” ไม่พูดเปล่ายังแกล้งทำหน้าเชิดใส่ผมอีก ถึงจะกวนทีน แต่อยู่กับมันแล้วก็สบายใจดี
“โอ้ๆ น้ำผู้หล่อเหลา หัวก็ไม่ได้ล้าน อย่าทำเป็นขี้น้อยใจไปหน่อยเลย” ผมต้องพูดเอาใจมันหน่อย เดี๋ยวมันจะไม่จดเลคเชอร์ให้ผม ฮ่าฮ่าๆ
“อย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย” ไอ้บ้ายอเอ๊ย ^O^
“ งั้นก็ตามนี้กูกลับก่อนนะ” หลังจากที่ผมกับไอ้น้ำแยกกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน ผมก็เดินตรงไปหน้ามหาลัยเพื่อที่จะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน รถผมจอดไว้ที่บ้านแต่เมื่อเช้าหลังจากที่ออกมาจากบ้านของซันก็ตรงไปที่หอพักเลย เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มาเรียน ผมเลยต้องกลับแท็กซี่แทน
“โอ้ย!!!.” ซวยแล้วไง ผมดันไปชนผู้หญิงคนนึงเข้า
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ผมก้มลงไปพยุงเธอที่ตอนนี้ลงไปนั่งขายของอยู่ที่พื้น
“ไม่ป็นไรค่ะ……โอ้ย!!!”
“ดูเหมือนข้อเท้าคุณจะแพลงนะครับ”
“อุยยย……พอลลี่เดินไม่ไหวเลยอ่ะค่ะ” เธอเซมาซบที่อกผมอย่างแรง ทำไงล่ะทีนี้
“ไปหาหมอดีไหมครับ” ผมว่าเธอน่าจะเจ็บหนักอยู่นะเห็นร้องโอดครวนซะขนาดนี้
“ไมเป็นไรค่ะ ไปส่งพอลลี่ที่คอนโดก็พอ” เธอเกาะคอผมไว้แถมยังส่งตาหวานมาให้อีก
“ได้ครับ” ผมตอบรับไปอย่างง่ายๆ รีบไปส่งจะได้รีบบ้าน
ผมเรียกแท็กซี่แล้วพาพอลลี่ขึ้นรถไป ประมาณ สามสิบนาทีก็มาถึงคอนโดของพอลลี่
เธอขอให้ไปส่งถึงห้องเพราะขาเจ็บ ผมเลยต้องจำใจพาขึ้นลิฟต์ไป ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยเจอแบบนี้นะ ถึงผมจะตัวไม่ใหญ่ หน้าหวานไปหน่อย แต่ก็มีสาวๆมาทอดสะพานให้อยู่ตลอดละนะ ทำไงได้ก็คนมันหล่อ (น้อยๆหน่อยจ๊ะเคย์: ไรท์)
“เคย์เข้าไปดื่มอะไรหน่อยไหมคะ…..” พลอลี่ถามเสียงหวาน มือก็คล้องคอผมอยู่
“ ไม่ดีกว่าครับ ผมมีธุระต้องไปทำต่อ” อุตส่าห์ได้เลิกเรียนเร็วแล้วนะ
“นิดเดียวเองค่ะ ไม่เสียเวลามากหรอก” พอลลี่เปิดประตูห้องแล้วกระชากแขนผมเข้าไปในห้อง แล้วไอ้ที่เจ็บขาเมื่อกี้ …….-_-;
“คุณจะทำอะไรผมน่ะ” พอลลี่ผลักผมล้มไปกับโซฟากลางห้อง แล้วก็คร่อมอยู่บนตัวผม
“พอลลี่ไม่ทำอะไรคุณหรอกค่ะ แต่คนอื่นต่างหากที่จะทำ” ผมงงให้สิ่งที่พอลลี่พูดเพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะมีผู้ชายทึกๆสามคนออกมาจากอีกห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องนอน
สมองผมมันสั่งการอัตโนมัติ ผมรีบผลักพอลลี่ออกจากตัว สาวเท้าตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ไอ้ทึกหน้าหมอไม่รับทำศัลกรรมมันมาขว้างประตูไว้ซะก่อน
“ถอยไป!!” ทำเสียงเข้มๆเอาไว้ แต่ไอ้ทึกนั่นมันก็ยังเฉย
“จะรีบไปไหนล่ะครับ อยู่เล่นสนุกกันก่อนสิ” คราวนี้เป็นไอ้คนที่อยู่ข้างหลัง สายตามันนี่ มองยังไงก็โรคจิตชัดๆ
“ไม่!! ถอยไปนะโว้ย” อันตรายอยู่ใกล้ตัวแบบสุดๆต้องรีบโกยให้ไว
“ยังไปไม่ได้หรอกครับคนสวย” ไอ้คนที่ยืนขวางประตูอยู่มันขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“โอ้ย!!! ปล่อยสิวะ” ผมโดนจับเอามือไขว้หลังแล้วไอ้ทึกสามตัวนั่นมันลาก ผมเข้าไปในห้องนอน
“นี่ค่าจ้างของเธอ ออกไปได้แล้ว” เสียงผู้ชายที่อยู่ข้างนอกจ่ายค่าจ้างให้กับนางนกต่อ พวกมันวางแผนมาเป็นอย่างดีสินะ
“ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ปล่อยสิวะ ไอ้พวกโรตจิต”
ตุบ!!!
“อั๊ก!! อะ แค่กๆ” ไอ้ทึกนั่นมันต้อยท้องผม จุกจนต้องนอนขดลงกับเตียง ตัวผมขยับไม่ได้เลย
“ปากดีนักนะไอ้หน้าสวย” ไอ้ทึกคนเดิมมันกระชากคอเสื้อของผมขึ้นมา มันง้างมือจะตบผม เรียวแรงจะดิ้นไม่มีเลยซักนิด ทำได้แค่หลับตารอให้ฝามือนั่นฟาดลงมาเท่านั่นเอง สมเพสตัวเองชะมัด
“ อย่ารุนแรงนักสิวะ เดี๋ยวของช้ำหมด” ไอ้ผู้ชายอีกคนห้ามไอ้ทึกเอาไว้ซะก่อน ไม่งั้นคงจะได้เห็นเลือดแน่
“นี่นะหรอ หนุ่มหน้าสวยของคณะเกษตร น่ารักไม่เบานี่หว่า” ไอ้ผู้ชายคนที่สามเดินตามเข้ามาในห้องอีกคน มันเอามือโสโครกมาเชยค้างผมขึ้น ผมมองมันด้วยหางตาแล้วสะบัดหน้าหนีจากมันของมันทันที
“แกจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้แก” ผมพยายามคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพื่อไม่ให้พวกมันจับได้ว่าตอนนี้ผมกำลังกลัวอยู่
“เปล่าหรอกครับ เห็นเค้าลือว่าสวยเลยอยากลอง” ไอ้ทึกสองคนมันจับตัวผมกดลงกับเตียง คนนึ่งจับขา อีกคนกดตรงไหล่ทั้งสองข้าง แล้วไอ้ตัวที่สามมันกำลังจะปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของผมออก
“ไอ้พวกโรคจิต ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะโว้ย” ผมรวบรวมแรงทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยิ่งมือสากๆของไอ้พวกนั่นมันปลดกระดุมผมจนหมด
“วิ๊ด วิ้ว อะไรกันเนี่ย รอยพวกนี้น่ะ เคยโดนมาแล้วนี่หว่า” ไอ้ชั่วนั่นมันมองรอยที่ ซันทำเอาไว้ แล้วลากมือสากๆไปตามหน้าอกและหน้าท้องของผม หัวสมองตอนนี้ร้อนรนไปหมดทำยังไงถึงจะรอดจากไอ้พวกเวรนี่ไปได้ สัมผัสทีน่ารังเกียจผมขยะแขยงพวกมัน แค่มือมันแตะโดนตัวผมก็มวนท้องจะอวกแล้ว ความรู้สึกมันต่างกัน กับซันผมกลับไม่รู้สึกแบบนี้
“ไอ้พวกเวรปล่อยกูดิวะ ไอ้สารเลว”
เปรี๊ยะ !!! อั๊ก!!!
เสียงหมัดอัดเข้าที่ใต้ลิ้นปี่และเสียงฝามือกระทบกับใบหน้าอย่างแรง ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือกในปากที่ตอนนี้ซึมออกมาบริเวรมุมปากของผม การที่โดนต่อยเข้าที่ท้องถึงสองครั้งทำให้ผมทั้งเจ็บและหายใจไม่ทั่วท้อง สติก็เหลืออยู่น้อยเต็มที
“ปากมากนักนะมึง เดี๋ยวกูจะเอามึงให้พูดอะไรไม่ได้เลย ฮ่าฮ่าๆๆ” ไอ้เลวนั่นมันหัวเราะอย่างสะใจ ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ จะทำยังไงดี
“ แม่งขนาดรอยเยอะขนาดนี้ก็ยังขาวเนียนโคตรเลยว่ะ” ไอ้คนที่มันกดหัวไหล่ผมอยู่เลียริมฝีปากตัวเอง แสดงความหื่นกระหายจนน่าหลัว
“ปล่อยผมไปเถอะนะ ถือว่าเอาบุญ” ตอนนี้ผมทำได้แค่นี้จริงๆ น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม อ้อนวอนพวกมันอย่างน่าสมเพส ผมเกียจตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย ในใจกลับนึกถึงใครอีกคน คนที่ผมควรจะเกียจแต่ใจก็ทำไม่ได้ เวลาแบบนี้กลับนึกถึงแต่เค้า
“พี่ก็จะพาน้องขึ้นสวรรค์อยู่นี่ไงจ๊ะ”
“ โอ้ย!!” ผมรู้สึกแสบที่บริเวณหัวไหล่ หนึ่งในไอ้ชั่วพวกนั้นมันกัดผม
ไอ้เลวอีกคนมันกำลังปลดเข็มขัดของผมออก กางเกงถูกดึงล่นลง จนเกือบจะหลุดจากเอว ส่วนสำคัญกำลังจะถูมันแตะต้อง น่าขยะแขยง มันกำลังจะทำลาชีวิตผม
“ฮึก ฮื้ออออออ ปล่อย!!!! ไม่นะ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย” ใครก็ได้ช่วยผมที่ ซัน ซัน ช่วยด้วยผมกลัว น้ำตาลหลั่งไหลมาเป็นสาย หัวใจของผมนึกได้แค่ชื่อเดียว ซัน ช่วยผมด้วยยยยยยย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ