Dark's killer
เขียนโดย Thefainap
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.05 น.
แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
8)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่8
ณ ห้องทำงานของจางเหรินหมิน
“Dark’s killer!” จางเหรินหมินอุทานอย่างตกใจ เมื่อได้รู้ตัวจริงของฉัน
“ไหนล่ะ ตำรวจของแก มันจะมาจับฉันที่ไปมาไร้ร่องรอยได้น่ะเหรอ ถ้าพวกมันเก่งขนาดนั้น ป่านนี้ฉันคงได้ไปนอนกินข้าวแดงอยู่ในคุกแล้ว ไม่มายืนลอยหน้าลอยตาถือปืนจ่อหัวแกแบบนี้หรอก!”
“ละ แล้วแกต้องการอะไร!” จางเหรินหมินถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“โทรไปบอกที่โรงเรียนว่าไม่ต้องไล่ฉันกับไท่หยางออก แล้วก็ถอนแจ้งความด้วย เร็วๆ!” พอฉันพูดจบ จางเหรินหมินก็โทรไปเคลียร์กับที่โรงพักและทางโรงเรียนทันที
“ฉะ ฉันเคลียร์ทุกอย่างตามที่แกต้องการแล้ว แกเองก็ออกไปได้แล้ว ปล่อยฉันไปซะที”
“ฉันบอกแกเหรอ ว่าถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันจะปล่อยแก” ฉันพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก
“แก หมายความว่ายังไง” จางเหรินหมินตัวสั่นอีกครั้งเพราะกลัวความตาย
“คุณเลขา! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ถูกโปะยาสลบเหรอ” ระหว่างที่ฉันกำลังคุยกับจางเหรินหมินอยู่ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา คาดว่าคงจะจับความผิดปกติของกล้องวงจรปิดได้
“หึ!”
ฟิ้ว!
ฉันจัดการเป่าหัวจางเหรินหมิน ก่อนจะกระโดดออกมาจากทางหน้าต่างข้ามไปอีกตึกหนึ่ง ฉันเก็บปืนไว้ที่เดิม และยืนมองเหตุการณ์อยู่ในมุมอับสักพัก เห็นพวกกลุ่มคนที่เคยพูดถึงเดินเข้าไปดูเจ้านายของตนที่แน่นิ่งจมกองเลือดอยู่บนเก้าอี้ ก่อนที่รถพยาบาลและรถตำรวจจะมา
ฉันกระโดดข้ามไปตึกหนึ่งซึ่งเป็นตึกของห้างสรรพสินค้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างอย่างสบายใจ ไม่รู้จะเรียกรถพยาบาลมาทำไม ก็ฝีมืออย่างฉันน่ะ ไม่เคยฆ่าใครไม่ตายอยู่แล้ว
“เฮ้อ! เป็นข่าวอีกแล้วสิเรา” ฉันพึมพำแล้วยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้างสรรพสินค้า แล้วตรงไปที่โรงเรียน
ณ โรงเรียนมัธยมชื่อดังในกรุงปักกิ่ง
ฉันกลับมาถึงโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว โดยการปีน ไม่สิ กระโดดข้ามกำแพงโรงเรียนอีกเช่นเคย แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของตัวเองด้วยความสบายใจ
“มาอยู่ตรงนี้นี่เอง ฉันตามหาเธอทั่วโรงเรียนเลยรู้รึเปล่า” นายไท่หยางที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ พูดกับฉันพร้อมกับหอบแฮกๆเหมือนหมาไม่มีผิด
“แล้วจะมาตามหาฉันทำไมล่ะ” ฉันถามกลับ
“ก็ฉันจะมาบอกเธอว่า เราสองคนไม่ต้องถูกไล่ออกแล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องโดนจับด้วย เห็นอาจารย์บอกว่า พ่อของมีลี่เขาโทรมาขอโทษเราเรื่องที่เข้าใจผิด” ก็แหงสิยะ ฉันต้องเอาปืนไปยืนจ่อหัวอยู่ตั้งนานสองนานกว่าจะยอมโทร
“จริงเหรอ งั้นก็ดีสิ พ่อจะได้ไม่ดุฉันด้วย ว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทจนต้องออกจากโรงเรียน” ฉันแกล้งดีใจ เพื่อให้ดูเป็นปกติที่สุด
เราสองคนยืนคุยกันสักพัก ก็ถึงเวลาเลิกเรียน ฉันกับนายไท่หยางจึงเดินออกมาจากโรงเรียนพร้อมกัน แล้วก็คุยกันต่อตามทางกลับบ้าน
“แล้ววันนี้เธอหายไปไหนมา เห็นว่ามีสายเข้าแล้วก็หายไปเลย” นายไท่หยางถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็ไปห้องน้ำน่ะสิ อาหารเป็นพิษเพราะกับข้าวนายเมื่อเช้าแน่เลย” ฉันก็แถไปเรื่อยอย่างแนบเนียนที่สุด
“โถ! น้อยๆหน่อยเถอะแม่คุณ ฉันก็กินยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย” นายไท่หยางพูดพร้อมกับแจกมะเหงกให้ฉันหนึ่งดอก
“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ คิดว่ามือตัวเองเบาเหมือนปุยนุ่นรึไงฮะ หัวคนนะไม่ใช่ลูกกระท้อน เขกมาได้” ฉันว่านายไท่หยางพร้อมกับเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ
“โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะครับคนดี ไม่เจ็บนะไม่เจ็บ หายไวๆ เพี่ยง!” อยู่ๆนายไท่หยางก็เอามือมาลูบหัวฉัน ก่อนจะก้มลงเป่า เหมือนเวลาที่ลูกวิ่งล้ม แล้วพ่อกับแม่มักจะเข้ามาโอ๋ด้วยวิธีการแบบนี้ แต่นายไท่หยางไม่ใช่พ่อของฉันน่ะสิ
ฉันได้แต่ยืนอึ้งกับการกระทำของเขา ส่วนเขาเองก็ดูเหมือนจะอึ้งกับตัวเองเหมือนกัน ต่างคนต่างมองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร ฉันเองก็ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกเหมือนหน้าแดงๆร้อนๆยังไงก็ไม่รู้ มือไม้นี่ก็เย็นไปหมด นายไท่หยางเองก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ บรรยากาศอึดอัดเริ่มขยายพื้นที่จนฉันต้องปริปากพูดอะไรสักอย่างออกมา
“เอ่อ...ฉันจะไปทางนี้ ส่วนนายไปทางนั้น เพราะงั้นก็แยกกันตรงนี้ โอเคนะ” ฉันพูดพลางชี้ไปทางนั้นกับทางซึ่งเป็นทางแยกที่จะไปคอนโดฯของฉันกับบ้านของนายไท่หยาง
“อื้อ! แยกกันตรงนี้แหละ กลับดีๆนะ” นายไท่หยางตอบกลับ ก่อนจะยกมือเป็นเชิงลา แล้วก็รีบวิ่งไปอีกทางทันที ส่วนฉันเองก็ไม่ต่าง พยายามลากสังขารที่แปลกไปของตัวเองกลับคอนโดฯให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
พระเจ้าคะ มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!
ฉันรีบวิ่งมาจนถึงคอนโดฯ ก่อนจะกระชากประตูปิดเสียงดังแล้วเอามือทาบไว้กับหน้าอก เพื่อรับรู้จังหวะหัวใจที่กำลังเต้นรัวเร็ว นี่ฉัน...กำลังหวั่นไหวอย่างนั้นเหรอ
ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง โดยการเปิดทีวีดู ก่อนจะพบกับข่าวของตัวเอง
“สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการตำรวจของจีนจริงๆเลยนะคะ สำหรับข่าวการเสียชีวิตของนักธุรกิจชื่อดังในปักกิ่ง ที่ผลการชันสูตรออกมาว่าเป็นฝีมือของDark’s killer นักฆ่าฝีมือฉกาจที่ไปมาไร้ร่องรอย โดยเมื่อสองวันที่แล้วยังอยู่ที่ไต้หวัน แต่วันนี้กลับมาปรากฏตัวที่ปักกิ่งซะแล้ว...” ฉันกดปิดทีวีทันทีโดยไม่ฟังให้จบ น่ารำคาญพวกที่ตามหาตัวฉันจริงๆ ที่ฉันมานี่ก็ไม่ได้จะมาฆ่าคนทั้งประเทศซะหน่อย
ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องรีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อคิดได้ว่า เมื่อคืนนายไท่หยางนอนหลับบนเตียงนี้!
ถึงแม้ว่านายนั่นจะไม่ได้ลืมของอะไรไว้ที่ห้องฉันก็เถอะ แต่ความจริงที่ว่า เมื่อคืนเขานอนอยู่บนเตียงของฉันมันก็ไม่ได้บินหนีไปไหนอยู่ดี
และยิ่งวันนี้เขามาทำดีกับฉันด้วยแล้ว มันทำให้ฉันยิ่งคิดถึงหน้าเขาหนักเข้าไปอีก
ไม่ได้แล้ว ฉันต้องซักผ้า ต้องซักผ้าห่อมกับผ้าปูที่นอน!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ