Dark's killer
10.0
เขียนโดย Thefainap
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.05 น.
10 บท
0 วิจารณ์
12.21K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่10
เวลาต่อมา ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง
ฉันกับนายไท่หยางอยู่คุยกับซั่งอู่สักพัก ก่อนจะขอตัวกลับแล้วปล่อยให้ซั่งอู่ได้พักผ่อน เมื่อเห็นว่านายไท่หยางกับซั่งอู่จะคุยถูกคอกันมากเกินไปแล้ว ขืนปล่อยให้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้ ความลับหลายๆอย่างของฉันได้รั่วไหลหมดแน่
“นี่เย่หลี่ ไปดูหนังกันมั้ย” นายไท่หยางถามขึ้นขณะที่เรากำลังเดินดูเสื้อผ้ากันอยู่
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ฉันตอบแบบไม่ต้องหยุดคิดเลย
“โอเค ไปกัน” พูดจบนายไท่หยางก็ลากฉันออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้วตรงไปที่โรงหนังทันที
“เดี๋ยวๆๆ โอเคบ้าบออะไร ฉันบอกว่าไม่ดูนะเว่ย” ฉันโวยวายขณะที่นายไท่หยางกำลังเลือกหนังที่จะดู
“เอาเรื่องนี้ละกันนะ นั่งตรงนี้กับตรงนี้...” โอ้ย! ปวดหัว
ณ ด้านในของโรงหนัง
สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งอึนดูหนังกับนายไท่หยางจนได้ จะว่าดูกับนายไท่หยางมันก็ไม่ถูกซะทีเดียวหรอก เพราะหมอนั่นน่ะหลับไปตั้งแต่หนังฉายได้สองนาที ไม่รู้ว่าตกลงแล้วอยากมาดูหรืออยากมานอนกันแน่ จนตอนนี้หนังก็เล่นไปได้ครึ่งเรื่องแล้วหมอนี่ก็ยังไม่ลืมตาตื่นมาเลยสักครั้ง
โอ๊ย! ตั้งแต่ฉันมาประกอบอาชีพนักฆ่าผู้เกรียงไกรแบบนี้ ฉันก็ยังไม่เคยเจอเหยื่อคนไหนที่รับมือยากเท่านายไท่หยางมาก่อน จะว่ายังไงล่ะ...โอเค ฉันยอมรับเลยก็ได้ว่าตั้งแต่เกิดมาจนฉันอายุยี่สิบเนี่ย ฉันยังไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนมาทำตัวหน้ารักกับฉันแบบนี้แล้วก็ขนาดนี้มาก่อน
ถึงภายนอกเขาจะดูดิบๆเถื่อนๆอ่ะนะ แต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่าพอได้มารู้จัก ได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ถึงจะแค่ไม่กี่วันก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ฮ่าๆ ฉันคงจะประสาทกินไปแล้วแน่ๆ ถึงได้มาหวั่นไหวให้กับเหยื่อของตัวเองแบบนี้ ไม่ได้สิเย่หลี่ สักวันเธอต้องฆ่าเขานะ จำไว้!
“ไท่หยาง! นายไท่หยาง! หนังจบแล้ว...ไอ้บ้าไท่หยาง!! โอเค ไม่ตื่นก็ตามใจ งั้นฉันกลับแล้วนะ เชิญนอนให้สบายไปคนเดียวก็แล้วกัน” ฉันปลุกนายไท่หยางเมื่อเห็นว่าหนังจบแล้ว แต่ทำยังไงหมอนี่ก็ไม่ยอมตื่นสักที ฉันเลยกะจะเดินออกไปก่อน แต่ว่า...
หมับ!
“ฮ้าว~ จบเร็วจัง ฉันยังนอนไม่อิ่มเลยเนี่ย” อยู่ๆนายไท่หยางที่ควรจะหลับไม่รู้เรื่อง ก็เอื้อมมือมาคว้ามือฉันไว้ ก่อนจะอ้าปากหาวซะกว้างเลย ถ้าเป็นคนอื่นทำ ภาพมันจะออกมาเป็นยังไงน้า
“บ้านไม่มีให้นอนรึไง ไปได้แล้วเร็วๆ” พูดจบฉันก็ดึงนายไท่หยางให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากโรงหนังทันที
“เย่หลี่ ฉันอยากกินไอติม” เมื่อออกมานอกโรงหนังแล้ว นายไท่หยางก็บ่นอยากกินไอติมพลางเขย่าแขนเสื้อฉันยิกๆ
“นี่ไท่หยาง นายคิดว่าฉันว่ามากนักรึไงฮะ ให้มาเดินเล่น ทำนู่นทำนี่กับนายอยู่ได้”
“ไม่เป็นไร ฉันว่าง...นั่นไงไอติม ไปเร็ว” สาบานเลยว่าตอนฉันอายุสิบแปด ฉันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ เฮ้อ!
ฉันนั่งมองนายไท่หยางกินไอติมอย่างเอร็ดอร่อยด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามบางอย่างที่คาใจขึ้นมา
“ไท่หยาง”
“อื้อ” นายไท่หยางตอบกลับมาโดยที่ยังยัดไอติมเข้าปากไม่หยุด
“ถามจริงๆนะ ที่นายพาฉันออกมาเดินเล่นทำนู่นทำนี่ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยในวันหยุดแบบนี้ เพราะนายอยากจะหาอะไรทำให้ลืมยัยมีลี่ใช่มั้ย”
“เปล่าหรอก” นายไท่หยางวางถ้วยไอติมลงก่อนจะตอบคำถามฉัน “เรื่องมีลี่น่ะ แค่คืนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว”
“อ๋อเหรอ แล้ววันหยุดแบบนี้ทำไมไม่นอนอยู่บ้านล่ะยะ หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนของนายก็ได้ จะมายุ่งกับฉันทำไมไม่ทราบ”
“ก็แค่ อยากจะอยู่กับคนที่ไม่ใช่เพื่อน แล้วก็ไม่ใช่คนที่บ้านในวันเกิดบ้าง ก็แค่นั้นเอง” นายไท่หยางตอบ ก่อนจะยัดอิมเข้าปากอีกรอบ
“วันเกิดเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“แล้วเธอเป็นอะไรกับฉันล่ะ ถึงต้องรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดฉันน่ะ”
“ไอ้บ้านี่! จะไม่กวนประสาทฉันสักวันจะได้มั้ยฮะ” ฉันยกมือแล้วฟาดไปหานายไท่หยาง แต่เขาก็จับมือของฉันไว้ได้
“เลิกใช้กำลังกับฉันก่อนสิ แล้วฉันจะเลิกกวนประสาทเธอ”
“ไม่มีทาง” ฉันตอบโดยที่ไม่ได้หยุดคิดเลยสักนิด
นายไท่หยางมองหน้าฉันแล้วก็ยิ้ม ฉันจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ก่อนที่เขาจะเอ่ยอะไรออกมา
“ไปเที่ยวกับฉันสักสองวันนะ”
“...ก็ได้ เห็นว่าเป็นวันเกิดของนายหรอกนะ ฉันจะยอมให้สักสองวันก็ได้”
หลังจากที่ฉันตอบตกลงว่าจะไปเที่ยวด้วย นายไท่หยางก็พาฉันกลับคอนโดฯเพื่อเก็บข้าวของเตรียมตัวไปเที่ยว จากนั้นเขาก็กลับบ้านไปเก็บข้าวของๆเขาบ้าง แล้วก็ออกเดินทางทันที
ฉันโทรไปรายงานกับซั่งอู่ ว่าจะออกไปเที่ยวกับนายไท่หยาง ซึ่งเจ้าน้องชายตัวแสบก็รีบอนุญาตแล้วทำเสียงดี๊ด๊า ดีใจใหญ่ที่ฉันจะได้ออกไปเที่ยวดูโลกภายนอกบ้าง
เที่ยวเหรอ...ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่ฉันเสียไป ฉันก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนอย่างสบายใจได้เลยสักครั้ง ออกจากบ้านก็ต้องทำแต่งานงกๆ งานสบาย รายได้ดี แต่มันไม่ใช่ชีวิตที่ดีอย่างที่ฉันต้องการเลย เวลาทำงานเสร็จ บางครั้งก็ต้องฝันเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะทำงาน มันไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้งเดียว นานๆที ได้ออกไปเที่ยวให้สบายใจบ้างก็ดีเหมือนกัน
“แล้วเราจะไปที่ไหนกัน” ฉันถามนายไท่หยางที่กำลังขับรถตรงไปตามเส้นทางที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
“ทะเลสาบคุนหมิง” นายไท่หยางหันมายิ้มตอบคำถามฉัน ก่อนจะหันไปมองถนนตามเดิม
ทะเลสาบคุนหมิงเหรอ...ไม่เคยไปเหยียบเกือบสิบปีได้แล้วมั้ง
เวลาต่อมา ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง
ฉันกับนายไท่หยางอยู่คุยกับซั่งอู่สักพัก ก่อนจะขอตัวกลับแล้วปล่อยให้ซั่งอู่ได้พักผ่อน เมื่อเห็นว่านายไท่หยางกับซั่งอู่จะคุยถูกคอกันมากเกินไปแล้ว ขืนปล่อยให้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้ ความลับหลายๆอย่างของฉันได้รั่วไหลหมดแน่
“นี่เย่หลี่ ไปดูหนังกันมั้ย” นายไท่หยางถามขึ้นขณะที่เรากำลังเดินดูเสื้อผ้ากันอยู่
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ฉันตอบแบบไม่ต้องหยุดคิดเลย
“โอเค ไปกัน” พูดจบนายไท่หยางก็ลากฉันออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้วตรงไปที่โรงหนังทันที
“เดี๋ยวๆๆ โอเคบ้าบออะไร ฉันบอกว่าไม่ดูนะเว่ย” ฉันโวยวายขณะที่นายไท่หยางกำลังเลือกหนังที่จะดู
“เอาเรื่องนี้ละกันนะ นั่งตรงนี้กับตรงนี้...” โอ้ย! ปวดหัว
ณ ด้านในของโรงหนัง
สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งอึนดูหนังกับนายไท่หยางจนได้ จะว่าดูกับนายไท่หยางมันก็ไม่ถูกซะทีเดียวหรอก เพราะหมอนั่นน่ะหลับไปตั้งแต่หนังฉายได้สองนาที ไม่รู้ว่าตกลงแล้วอยากมาดูหรืออยากมานอนกันแน่ จนตอนนี้หนังก็เล่นไปได้ครึ่งเรื่องแล้วหมอนี่ก็ยังไม่ลืมตาตื่นมาเลยสักครั้ง
โอ๊ย! ตั้งแต่ฉันมาประกอบอาชีพนักฆ่าผู้เกรียงไกรแบบนี้ ฉันก็ยังไม่เคยเจอเหยื่อคนไหนที่รับมือยากเท่านายไท่หยางมาก่อน จะว่ายังไงล่ะ...โอเค ฉันยอมรับเลยก็ได้ว่าตั้งแต่เกิดมาจนฉันอายุยี่สิบเนี่ย ฉันยังไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนมาทำตัวหน้ารักกับฉันแบบนี้แล้วก็ขนาดนี้มาก่อน
ถึงภายนอกเขาจะดูดิบๆเถื่อนๆอ่ะนะ แต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่าพอได้มารู้จัก ได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ถึงจะแค่ไม่กี่วันก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ฮ่าๆ ฉันคงจะประสาทกินไปแล้วแน่ๆ ถึงได้มาหวั่นไหวให้กับเหยื่อของตัวเองแบบนี้ ไม่ได้สิเย่หลี่ สักวันเธอต้องฆ่าเขานะ จำไว้!
“ไท่หยาง! นายไท่หยาง! หนังจบแล้ว...ไอ้บ้าไท่หยาง!! โอเค ไม่ตื่นก็ตามใจ งั้นฉันกลับแล้วนะ เชิญนอนให้สบายไปคนเดียวก็แล้วกัน” ฉันปลุกนายไท่หยางเมื่อเห็นว่าหนังจบแล้ว แต่ทำยังไงหมอนี่ก็ไม่ยอมตื่นสักที ฉันเลยกะจะเดินออกไปก่อน แต่ว่า...
หมับ!
“ฮ้าว~ จบเร็วจัง ฉันยังนอนไม่อิ่มเลยเนี่ย” อยู่ๆนายไท่หยางที่ควรจะหลับไม่รู้เรื่อง ก็เอื้อมมือมาคว้ามือฉันไว้ ก่อนจะอ้าปากหาวซะกว้างเลย ถ้าเป็นคนอื่นทำ ภาพมันจะออกมาเป็นยังไงน้า
“บ้านไม่มีให้นอนรึไง ไปได้แล้วเร็วๆ” พูดจบฉันก็ดึงนายไท่หยางให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากโรงหนังทันที
“เย่หลี่ ฉันอยากกินไอติม” เมื่อออกมานอกโรงหนังแล้ว นายไท่หยางก็บ่นอยากกินไอติมพลางเขย่าแขนเสื้อฉันยิกๆ
“นี่ไท่หยาง นายคิดว่าฉันว่ามากนักรึไงฮะ ให้มาเดินเล่น ทำนู่นทำนี่กับนายอยู่ได้”
“ไม่เป็นไร ฉันว่าง...นั่นไงไอติม ไปเร็ว” สาบานเลยว่าตอนฉันอายุสิบแปด ฉันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ เฮ้อ!
ฉันนั่งมองนายไท่หยางกินไอติมอย่างเอร็ดอร่อยด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามบางอย่างที่คาใจขึ้นมา
“ไท่หยาง”
“อื้อ” นายไท่หยางตอบกลับมาโดยที่ยังยัดไอติมเข้าปากไม่หยุด
“ถามจริงๆนะ ที่นายพาฉันออกมาเดินเล่นทำนู่นทำนี่ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยในวันหยุดแบบนี้ เพราะนายอยากจะหาอะไรทำให้ลืมยัยมีลี่ใช่มั้ย”
“เปล่าหรอก” นายไท่หยางวางถ้วยไอติมลงก่อนจะตอบคำถามฉัน “เรื่องมีลี่น่ะ แค่คืนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว”
“อ๋อเหรอ แล้ววันหยุดแบบนี้ทำไมไม่นอนอยู่บ้านล่ะยะ หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนของนายก็ได้ จะมายุ่งกับฉันทำไมไม่ทราบ”
“ก็แค่ อยากจะอยู่กับคนที่ไม่ใช่เพื่อน แล้วก็ไม่ใช่คนที่บ้านในวันเกิดบ้าง ก็แค่นั้นเอง” นายไท่หยางตอบ ก่อนจะยัดอิมเข้าปากอีกรอบ
“วันเกิดเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“แล้วเธอเป็นอะไรกับฉันล่ะ ถึงต้องรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดฉันน่ะ”
“ไอ้บ้านี่! จะไม่กวนประสาทฉันสักวันจะได้มั้ยฮะ” ฉันยกมือแล้วฟาดไปหานายไท่หยาง แต่เขาก็จับมือของฉันไว้ได้
“เลิกใช้กำลังกับฉันก่อนสิ แล้วฉันจะเลิกกวนประสาทเธอ”
“ไม่มีทาง” ฉันตอบโดยที่ไม่ได้หยุดคิดเลยสักนิด
นายไท่หยางมองหน้าฉันแล้วก็ยิ้ม ฉันจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ก่อนที่เขาจะเอ่ยอะไรออกมา
“ไปเที่ยวกับฉันสักสองวันนะ”
“...ก็ได้ เห็นว่าเป็นวันเกิดของนายหรอกนะ ฉันจะยอมให้สักสองวันก็ได้”
หลังจากที่ฉันตอบตกลงว่าจะไปเที่ยวด้วย นายไท่หยางก็พาฉันกลับคอนโดฯเพื่อเก็บข้าวของเตรียมตัวไปเที่ยว จากนั้นเขาก็กลับบ้านไปเก็บข้าวของๆเขาบ้าง แล้วก็ออกเดินทางทันที
ฉันโทรไปรายงานกับซั่งอู่ ว่าจะออกไปเที่ยวกับนายไท่หยาง ซึ่งเจ้าน้องชายตัวแสบก็รีบอนุญาตแล้วทำเสียงดี๊ด๊า ดีใจใหญ่ที่ฉันจะได้ออกไปเที่ยวดูโลกภายนอกบ้าง
เที่ยวเหรอ...ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่ฉันเสียไป ฉันก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนอย่างสบายใจได้เลยสักครั้ง ออกจากบ้านก็ต้องทำแต่งานงกๆ งานสบาย รายได้ดี แต่มันไม่ใช่ชีวิตที่ดีอย่างที่ฉันต้องการเลย เวลาทำงานเสร็จ บางครั้งก็ต้องฝันเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะทำงาน มันไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้งเดียว นานๆที ได้ออกไปเที่ยวให้สบายใจบ้างก็ดีเหมือนกัน
“แล้วเราจะไปที่ไหนกัน” ฉันถามนายไท่หยางที่กำลังขับรถตรงไปตามเส้นทางที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
“ทะเลสาบคุนหมิง” นายไท่หยางหันมายิ้มตอบคำถามฉัน ก่อนจะหันไปมองถนนตามเดิม
ทะเลสาบคุนหมิงเหรอ...ไม่เคยไปเหยียบเกือบสิบปีได้แล้วมั้ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ