Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่สี่ เพื่อนรักเลือกเพื่อนร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สี่
เพื่อนรักเลือกเพื่อนร้าย
“ นี่มันอะไรกัน?... พวกนายเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง? ” อาจารย์อิงอรเสียงเข้ม ก่อนจะไปมองหน้าเชน
“ นายก็เหมือนกันแทนที่จะห้ามเพื่อนกับยืนนิ่ง ”
“ แต่.. ” เชนกำลังจะแย้ง แต่อิงอรก็พูดแทรกขึ้นมา
“ ไม่มีแต่! ” อิงอรถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นว่าจนเองใจร้อนเกินไปและปรับให้อารมณ์ของตัวเองเย็นลงทันที
“ เอาหล่ะ...ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกพรุ่งนี้ให้พวกเธอมาทำความสะอาดห้องพักครูหลังเลิกเรียนเป็นการไถ่โทษละกัน ” อิงอรพูด ก่อนจะปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านได้
ทุกคนเดินออกมาจากอาคารเรียนในยามเย็มย่ำบัดนี้โรงเรียนที่เคยควักไขว่ไปด้วยนักเรียนกลับเงียบเชียบมีเพียงนักกีฬาที่กำลังซ้อมกีฬา อยู่เท่านั้นที่ยังอยู่ในโรงเรียนไมค์กี้ชิงเดินกลับไปก่อน เขาไม่อยากอยู่กับพวกนี้ไปนานมากกว่านี้อีกเหลือเพียงแค่กลุ่มเพื่อนเก่าที่ไม่มีเด็กใหม่แล้ว
“ มึงต่อยหน้ากูทำไมวะแมกซ์? ” ตี๋เปิดประเด็น
“ กูแค่อยากให้มึงเย็น อีกอย่างมึงก็ไปด่าไอไมค์ก่อนถ้ามีคนด่ามึงมึงจะทำยังไง มึงคงทำยังกว่าไอไมค์ ” แม็กซ์อธิบาย
“ แต่ตี๋เพื่อนมึงนะเว้ย? ” บาสเถียง
“ ไอไมค์กี้ก็เพื่อนเราเหมือนกัน?! ” แม็กซ์เถียงกลับก่อนบอกต่อว่า “ กูขอเหอะ พวกมึงเลิกแกล้งมันได้ไหม ”
“ มึงไม่เห็นที่มันทำกับเราบ้างหรอวะ? ” เอ็มพูด
“ แล้วที่พวกเราไปแกล้ง ไปแซวมันให้มันคอยอายตลอดละวะพวกมึงไม่ได้เริ่มก่อนใช่ไหม? ” แมกซ์ถามกลับ
“ ตกลงมึงเลือกมัน? ” ตี๋ถามย้ำอีกครั้ง
“ มึงพอเหอะวะตี๋! ” แม็กซ์ตัดบท “ พวกมึงก็เพื่อนนะเว้ย ?”
“ ถ้ามึงเป็นเพื่อนกู มึงต้องเข้าข้างกูดิวะ? ” ตี๋พูด
“ แล้วถ้าเพื่อนที่ดีก็อยากให้เพื่อนทำดีถูกไหมวะ? ” แม็กซ์ถามกลับก่อนที่จะสบตาตี๋แลัวหันไปมองหน้า บาสและเอ็ม
“ มึงพูดแบบนี้คือมึงจะไปหาคนที่ดีกว่าพวกกูว่างั้น? ” ตี๋ถามอีกครั้ง
แม็กซ์ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปต้องใช้คำว่าไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนเข้าใจ และสุดท้ายตี๋ก็พูดว่า “ แล้วมึงจะรู้ว่ามึงต้องเลือกกูมากกว่ามัน! ”
ว่าแล้วตี๋ก็เดินจากไปพร้อมกับบาสและเอ็มที่ทำราวกับว่าเป็นสมุนฝ่ายซ้ายและขวา เชนที่ฟังเรื่องราวมาทั้งหมดได้แต่เดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
อย่างที่เขาว่าไว้วัยรุ่นนั้นเพื่อนสำคัญที่สุดและสำหรับคนบางคนก็ไม่ชอบใจนักเมื่อใครมาแย่งเพื่อนของตนเองไปโดยเฉพาะคนที่ไม่ยอมใครอย่างตี๋
ตี๋หันกลับไปมองแมกซ์ด้วยสาตาเหี้ยม ไมค์กี้มึงเป็นใครมึงกล้าดียังไงมาแย่งเพื่อนของกู!!!
เย็นวันถัดมาทั้งหกคนต้องไปทำความสะอาดห้องพักครูแต่ห้องพักครูนั้นเล็กเกินกว่าที่จะให้คนหกคนทำความสะอาดหมด อาจารย์อิงอรจึงให้แบ่งเป็นสองกลุ่มโดยกลุ่มแรกทำความสะอาดห้องพักครูและอีกกลุ่มลงไปเก็บขยะรอบอาคารเรียน
ไมค์กี้เลือกที่จะเดินลงไปเก็บขยะโดยไม่ลังเลใครจะมากับเขาหรือจะให้เขาทำคนเดียวก็ช่าง แต่เชนก็เดินตามลงมาตอนนี้เขาคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเชนต้องมาลำบากด้วย
“ ขอโทษนะเชน...ถ้าเรายั้งความโกรธมากกว่านี้นายคงไม่ต้องมาลำบากกับเรา ” ไมค์กี้พูดอย่างจริงใจ
“ ไม่หรอกก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึไง? ” เชนพูดพลางกวาดใบไม้ที่พื้นพร้อมกับหันไปมอบแมกซ์ที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ที่พื้นอีกฝั่งนึงแล้วหันมาพูดกับไมค์กี้
“ อันที่จริงเมื่อวานแมกซ์ทะเลาะกับพวกนั้นเรื่องนานถึงขนาดจะตัดเพื่อนกันเลยนะ! ”
ไมค์กี้ถึงกับตกใจที่แมกซ์ต้องมาปกป้องเขาซ้ำยังถูกพวกเพื่อนเก่าตัดขาดหากเขาเป็นตี๋คงทำใจยากน่าดู
เวลาล่วงเลยจนเย็นย่ำด้านล่างทั้งสามคนทำความสะอาดอย่างเรียบร้อยแล้วจึงมานั่งพักหนุ่มแว่นอาสาที่จะไปซื้อน้ำให้เพื่อให้ทั้งคู่มีเวลาที่จะได้คุยกัน
“ ขอบใจมากนะ ” ไมค์กี้พูดเมื่อเห็นเชนเดินห่างออกไปพอสมควร
“ เรื่อง? ” แมกซ์แสร้งถาม
“ ก็ทั้งหลายๆ เรื่องแล้วก็ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้เพื่อนๆนายเข้าใจนายผิดๆ ” ไมค์กี้พูดต่อ
“ ไม่เป็นไร...ถือว่าช่วยหมาโดนแกล้ง อีกอย่างพวกนั้นก็นิสัยแบบนี้อีกนายเหอะ ทำตัวตุ๊ดๆ แบบนี้มันน่าให้แกล้งไหมล่ะ ” แมกซ์หันหน้ามายักคิ้วให้
“ นี่ถ้าพูดแบบนี้...ไม่พูดเลยยังจะรู้สึกดีกว่า!? ”
ไมค์กี้พูดแล้วลุกขึ้นกระชากกระเป๋าบนโต๊ะเมื่อแมกซ์เห็นดังนั้นจึงรีบฉุดแขนคนตรงหน้าทันทีแต่เหมือนร่างเล็กจะเบามือไปและมือหนาจะดึงแรงไปจนส่งผลให้ทั้งคู่เข้าหากันจนหน้าแทบจะชิดติดกันทันที เหมือนดั่งที่เขาว่าไว้ว่าวัยรุ่นมันพลุ่งพล่านหัวใจของไมค์กี้สูบฉีดเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะถึงแม้ว่าเขาจะโดนล้อว่าไม่ใช่ผู้ชายแต่เขาก็เถียงไม่ได้เลยว่าเขาตอนนี้เขาหวั่นไหวกับคนตรงหน้ามากเพียงใดเมื่อตั้งสติได้ไมค์กี้รีบผลักร่างนักกีฬาอย่างแมกซ์ให้ห่างจากตัวแล้วรีบหลบหน้าเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองหน้าแดงสักเพียงใด
“ บอกเชนด้วยว่าเรากลับบ้านแล้วนะ...เอ่อ...พอดีมีธุระ ” ไมค์กี้พูดแล้วรีบเดินก้มหน้าหนีไปทันที ทิ้งไว้กับความรู้สึกแปลกๆแต่ดีที่แมกซ์มีไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมองไปยังร่างเล็กที่เดินออกไป
“ ไมค์กี้ล่ะ? ” เสียงของเชนทำให้แมกซ์สะดุ้งตัวออกจากภวังค์
“ กลับแล้ว นี่ก็เย็นแล้วฉันว่าฉันกลับแล้วนะ นายก็กลับได้แล้วระวังนะเว้ย...ผีชอบหลอกเด็กเนิร์ด ” แมกซ์ หันไปรัวคำพูดใส่เชนหลังจากที่หยิบกระเป๋าแล้วค่อยเดินจากไป
เชนมองซ้ายมองขวาอย่างกลัวๆก่อนที่ตะเอาน้ำที่จะซื้อมาให้เพื่อนยัดใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนไปทันที
สายตาทั้งหกคู่ของคนทั้งสามมองมาข้างล่าง ก่อนจะหันหน้าไปมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย สีหน้าบ่งบอกถึงความงงและตลกขบขันไปพร้อมกัน
“ เฮ้ย!...ตะกี้เห็นฉากสยิวของไอเด็กใหม่กับไอแมกซ์ไหม? ”บาสถามเพื่อนทั้งสองที่มองเหตุการณ์จากนอกหน้าต่างโดยตลอด ก่อนที่จะถามอีกว่า
“ หรือว่ามันจะเป็นเกย์วะ? ”
“ แหม่....นี่มันสมัยไหนแล้วเพื่อนเดี๋ยวนี้คนเรามีสิทธิ์คบกับใครก็ได้เว้ยบางทีอนาคตกูอาจจะแต่งงานกับไอเอ็มก็ได้ ” ตี๋พูดพร้อมทำท่ากอดตัวเองแล้วสั่นไหล่อย่างล้อเลียน
“ ถ้ามันชอบกันจริงๆ เรามีวิธีพิสูจน์เว้ยเพื่อนๆ ” บาสยิ้มอย่างผู้ร้ายในละครก่อนที่จะมองหน้าเพื่อนทั้งสองคน
“ มีแผนอะไรอีกละเพื่อน ” เอ็มปลายตามามองหน้าเพื่อนอย่างรู้ใจ
“ เอาเลย...ถ้าไอตุ๊ดนั่นมันชอบเพื่อนเราจริง มันได้เจ็บทั้งตัวและใจแน่ๆ ” ตี๋กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ คนบางคนมันก็ต้องเจียมตัว
ให้มันรู้ว่าเพื่อนข้าใครอย่าแย่ง!!!
ทุกเย็นหลังเลิกเรียนทั้งหกคนจะต้องมาทำหน้าที่ของตนเองแต่ไมค์กี้ก็ไม่ได้สนใจเพียงแต่ทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จๆ ไปเท่านั้นน่าแปลกคือหลังจากวันนั้นไมค์กี้และแมกซ์ก็เริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็วโดยที่เขาทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกที่กำลังจะมีให้กันและกันนั้นมันมากกว่ามิตรภาพและเหมือนว่าเขาทั้งสองคนจะตั้งหน้าตั้งตารอการทำความสะอาดหลังเลิกเรียนอย่างไม่รู้ตัว
เย็นวันสุดท้ายของการถูกทำโทษดูเหมือนวันนี้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มผิดปกติราวกับจะมีพายุฝนกำลังจะกระหน่ำลงมาไมค์กี้จึงรีบทำความสะอาดเพื่อที่จะเร่งเวลากลับบ้านให้เร็วกว่าปกติแต่ก็ไม่ทันเพราะพายุฝนกระหน่ำเข้ามาในขณะที่กลุ่มพวกเขาเสร็จแล้ว
“ เเมกซ์ๆ นายไปช่วยยกเอกสารช่วยพวกฉันหน่อย หลังคามันรั่วเอกสารเปียกหมดเลยว่ะ ” บาสวิ่งมาบอกด้วยท่าทีที่ร้อนรน ก่อนที่ทั้งสามคนจะวิ่งตามไป แต่บาสก็หันมาบอกเชนและไมค์กี้
“ พวกนายรออยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ”
แมกซ์ช่วยกลุ่มที่ทำความสะอาดบนห้องพักครูจนเสร็จ “ เฮ้ย!...ขอบใจนะเว้ยแมกซ์ที่นายช่วยพวกฉัน คิดๆ ดูแล้วฉันก็ผิดเองแหละที่วู่วามกับนาย ”
“ ฉันไม่เคยโกรธพวกนายเว้ย แค่นายเข้าใจฉันก็พอ ” แมกซ์พูด
“ ฉลอง!!! ” เอ็มตะโกน “ กลุ่มเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ปะคืนนี้เนื้อย่างกัน ”
“ ไอบาสกำลังไปตามเชนกับไมค์กี้แล้วล่วงหน้ากันไปก่อน ปะเราเดี๋ยวฝนตกหนักไปมากกว่านี้ แล้วก็จะได้ขอโทษที่พวกเราทำกับไมค์กี้ด้วย ” ตี๋พูดพลางมองไปบนฟ้าที่ตอนนี้มีเพียงเม็ดฝนพรำๆ แล้ว เดินนำหน้าลงบันไดไป
แมกซ์รู้สึกสบายใจแบบแปลก ๆแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรแต่แล้วความแคลงใจก็เกิดขึ้นเมื่อตี๋เดินลงบันไดไปอีกทาง
“ เห้ย ตี๋ทำไมไปทางนั้นวะ ” แมกซ์ตะโกนถาม
“ พวกฉันจอดรถไว้ทางนั้นวะ...เฮ้ย! เดินไกลนิดหน่อยอย่าบ่นนักเลย ” ตี๋พูดก่อนที่จะยิ้มออกมานิดๆมันเป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
บาสที่ซุ่มอยู่เมื่อเห็นแมกซ์เดินตามตี๋ลงบันไดไปอีกฝั่ง ก่อนที่จะหันหลังวิ่งลงบันไดลงไปอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งที่ไมค์กี้กับเชนนั่งอยู่และเป็นฝั่งที่จะมองไม่เห็นว่าแมกซ์เดินลงบันไดไปแล้ว
“ ไมค์กี้ ไมค์กี้!!! ” บาสวิ่งหน้าตาตื่นลงมาราวกับว่าไฟไหม้
“ อะไรอีกล่ะบาสนี่ก็ตื่นตัวบ่อยจริง ?!” เชนพูดในขณะกำลังเช็ดแว่นที่เปียกบาสมองหน้าเชนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะปั้นหน้าไปทางไมค์กี้
“ งูๆ !!!...นายไปช่วยพวกเราตีงูหน่อยสิ ” บาสพูดต่อ
“ เอ้า!!!...แล้วพวกที่อยู่ข้างบนล่ะ ” ไมค์กี้ถามหน้าตาตื่น
“ ตี๋กับเอ็มไปตามภารโรง แม็กซ์เฝ้างูอยู่ ส่วนฉันกำลังจะไปเอาไม้มาตีงูก่อน ” บาสยังคงโกหกหน้าตายต่อไป “ นายขึ้นไปช่วยแมกซ์เฝ้างูหน่อยดิ?! ”
ไมค์กี้พยักหน้ารับคำแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเขาจะไม่รีเช่นนี้ถ้าคนที่กำลังเฝ้างูไม่ใช่แมกซ์ เชนจึงรีบก้าวบันไดตามค์กี้ไปติดๆ
“ เดี๋ยวไอเชน! ” บาสเรียกเพื่อนจนคนที่ถูกเรียกหันมา บาสจึงเดินไปตบบ่าเพื่อนอย่างใจเย็นพลันสีหน้าที่ร้อนรนเมื่อครู่เปลี่ยนไป “ บางเรื่องเนี่ย...นายไม่ต้องยุ่งก็ได้! ”
“ อยู่ตรงนี้แหละ! ” บาสสั่งก่อนที่จะวิ่งตามไมค์กี้ไป เชนได้แต่นั่งมองแผ่นหลังของเพื่อนแต่ก็ไม่กล้าที่จะขึ้นไปเพราะคำสั่งของบาส
ไมค์กี้ไปถึงก็รีบวิ่งเข้าห้องพักครูไปทันที “ แมกซ์ แมกซ์ งูอยู่ไหนน่ะ!? ” ไมค์กี้ตะโกนถามแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่มีเสียงคนตอบรับและมองไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน
‘ปัง!!!’ เสียงปิดประตูดังขึ้นจนเจ้าตัวต้องหันกลับไปมองที่ต้นเสียงแล้วก็พบว่าประตูห้องนั้นได้ถูกปิดลงเอง ไมค์กี้รีบวิ่งไปผลักประตูก่อนที่จะได้ยินเสียงล็อคประตูที่ตามมา
“ เปิดๆ มีคนอยู่ในนี้!!! ” ไมค์กี้ตะโกนพร้อมกับตบประตูเสียงดัง แต่ไม่เป็นผลเมื่อคนที่ล็อคประตูข้างนอกอย่างบาสยิ้มขึ้นอย่างสะใจ
“ อยู่ในนั้นแหละ...แล้วสำนึกซะว่าต่อไปนี้อย่าหืออย่างพวกฉันอีก!!! ” บาสตะโกนเข้าไปเพื่อให้คนข้างในได้ยิน
“ เฮ้ย...บาสฉันไม่เล่นนะเว้ย!!! ”
“ ตะโกนเข้าไป ตะโกนให้คนแตกก็ไม่มีใครได้ยินแกหรอก!!! ” บาสหัวเราะอย่างผู้มีชัยก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่สนใจเลยว่าไมค์กี้จะตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างไร
แมกซ์ได้แต่มองว่าไมค์กี้จะมาถึงร้านตอนไหนเพราะนี่มันก็นานมากแล้วจนเด็กหนุ่มเริ่มจะเป็นห่วง จึงถามเพื่อนว่า “ เฮ้ยไอเอ็ม...ไอบาสยังไม่พาสองคนนั้นมาอีกหรอวะ นานแล้วนะเว้ย?! ”
แมกซ์ถามยังไม่ทันขาดคำบาสก็เดินมากับเชนเข้ามาในร้าน ยิ่งสร้างความงงให้กับแมกซ์อย่างยิ่งเมื่อไม่เห็นร่างของคนที่ตนเองห่วงใยมาด้วย
“ เชนแล้วไมค์กี้ล่ะ?! ” บาสถาม
“ เอ่อ ” เชนไม่ตอบก่อนที่จะมองไปยังบาสที่ตอนนี้เดินไปนั่งร่วมวงหมูกระทะกับเพื่อนๆ ก่อนที่บาสจะหันมาตอบคำถามแล้วกลับไปหัวเราะกับเพื่อน “ ไม่ต้องห่วงหรอก ป่านนี้มันหลับในห้องแล้วแหละมั้ง ”
“ นี่มันอะไรกันเชน? ” แมกซ์ถามเพื่อนแว่นอีกครั้งแต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือความเงียบ
“ นายจะห่วงมันอะไรหนักหนาวะ? ” ตี๋ถามอย่างมีน้ำโห
“ พูดแบบนี้แสดงว่าพวกนายแกล้งมันอีกแล้วใช่ไหม...มันไปทำอะไรให้พวกนายหนักหนาวะ!? ” แมกซ์ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นเสียงใส่เพื่อนตรงหน้าของเพื่อน บาสและเอ็มไม่เคยเห็นแมกซ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้จึงได้แต่นั่งเงียบ
“ ถ้ามึงเดินออกไปถือว่ามึงกับกูขาดกัน!!! ” ตี๋พูดขึ้นอย่างเด็ดขาดเมื่อเห็นว่าแมกซ์กำลังจะก้าวเดินออกไป “ กูให้โอกาสมึงแล้ว...มึงก็เห็นว่าไอเด็กใหม่มันสู้พวกกูไม่ได้อยู่แล้ว ”
“ งั้นกูเลือกที่จะสู้ไปกันมัน!!! ” แมกซ์หันหน้ามามองตี๋ แววตาที่มองเพื่อนบัดนี้เต็มไปด้วยความโกรธ “ กูเลือกมัน!!! ”
“ มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ ” ตี๋พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น มองไปทางเพื่อนรักที่บัดนี้กำลังเดินออกไปแล้วไปหาเชนที่กำลังก้มหน้าไม่กล้าสบตาแมกซ์
“ เชน ไมค์กี้อยู่ไหน?! ”
เพื่อนรักเลือกเพื่อนร้าย
“ นี่มันอะไรกัน?... พวกนายเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง? ” อาจารย์อิงอรเสียงเข้ม ก่อนจะไปมองหน้าเชน
“ นายก็เหมือนกันแทนที่จะห้ามเพื่อนกับยืนนิ่ง ”
“ แต่.. ” เชนกำลังจะแย้ง แต่อิงอรก็พูดแทรกขึ้นมา
“ ไม่มีแต่! ” อิงอรถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นว่าจนเองใจร้อนเกินไปและปรับให้อารมณ์ของตัวเองเย็นลงทันที
“ เอาหล่ะ...ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกพรุ่งนี้ให้พวกเธอมาทำความสะอาดห้องพักครูหลังเลิกเรียนเป็นการไถ่โทษละกัน ” อิงอรพูด ก่อนจะปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านได้
ทุกคนเดินออกมาจากอาคารเรียนในยามเย็มย่ำบัดนี้โรงเรียนที่เคยควักไขว่ไปด้วยนักเรียนกลับเงียบเชียบมีเพียงนักกีฬาที่กำลังซ้อมกีฬา อยู่เท่านั้นที่ยังอยู่ในโรงเรียนไมค์กี้ชิงเดินกลับไปก่อน เขาไม่อยากอยู่กับพวกนี้ไปนานมากกว่านี้อีกเหลือเพียงแค่กลุ่มเพื่อนเก่าที่ไม่มีเด็กใหม่แล้ว
“ มึงต่อยหน้ากูทำไมวะแมกซ์? ” ตี๋เปิดประเด็น
“ กูแค่อยากให้มึงเย็น อีกอย่างมึงก็ไปด่าไอไมค์ก่อนถ้ามีคนด่ามึงมึงจะทำยังไง มึงคงทำยังกว่าไอไมค์ ” แม็กซ์อธิบาย
“ แต่ตี๋เพื่อนมึงนะเว้ย? ” บาสเถียง
“ ไอไมค์กี้ก็เพื่อนเราเหมือนกัน?! ” แม็กซ์เถียงกลับก่อนบอกต่อว่า “ กูขอเหอะ พวกมึงเลิกแกล้งมันได้ไหม ”
“ มึงไม่เห็นที่มันทำกับเราบ้างหรอวะ? ” เอ็มพูด
“ แล้วที่พวกเราไปแกล้ง ไปแซวมันให้มันคอยอายตลอดละวะพวกมึงไม่ได้เริ่มก่อนใช่ไหม? ” แมกซ์ถามกลับ
“ ตกลงมึงเลือกมัน? ” ตี๋ถามย้ำอีกครั้ง
“ มึงพอเหอะวะตี๋! ” แม็กซ์ตัดบท “ พวกมึงก็เพื่อนนะเว้ย ?”
“ ถ้ามึงเป็นเพื่อนกู มึงต้องเข้าข้างกูดิวะ? ” ตี๋พูด
“ แล้วถ้าเพื่อนที่ดีก็อยากให้เพื่อนทำดีถูกไหมวะ? ” แม็กซ์ถามกลับก่อนที่จะสบตาตี๋แลัวหันไปมองหน้า บาสและเอ็ม
“ มึงพูดแบบนี้คือมึงจะไปหาคนที่ดีกว่าพวกกูว่างั้น? ” ตี๋ถามอีกครั้ง
แม็กซ์ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปต้องใช้คำว่าไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนเข้าใจ และสุดท้ายตี๋ก็พูดว่า “ แล้วมึงจะรู้ว่ามึงต้องเลือกกูมากกว่ามัน! ”
ว่าแล้วตี๋ก็เดินจากไปพร้อมกับบาสและเอ็มที่ทำราวกับว่าเป็นสมุนฝ่ายซ้ายและขวา เชนที่ฟังเรื่องราวมาทั้งหมดได้แต่เดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
อย่างที่เขาว่าไว้วัยรุ่นนั้นเพื่อนสำคัญที่สุดและสำหรับคนบางคนก็ไม่ชอบใจนักเมื่อใครมาแย่งเพื่อนของตนเองไปโดยเฉพาะคนที่ไม่ยอมใครอย่างตี๋
ตี๋หันกลับไปมองแมกซ์ด้วยสาตาเหี้ยม ไมค์กี้มึงเป็นใครมึงกล้าดียังไงมาแย่งเพื่อนของกู!!!
เย็นวันถัดมาทั้งหกคนต้องไปทำความสะอาดห้องพักครูแต่ห้องพักครูนั้นเล็กเกินกว่าที่จะให้คนหกคนทำความสะอาดหมด อาจารย์อิงอรจึงให้แบ่งเป็นสองกลุ่มโดยกลุ่มแรกทำความสะอาดห้องพักครูและอีกกลุ่มลงไปเก็บขยะรอบอาคารเรียน
ไมค์กี้เลือกที่จะเดินลงไปเก็บขยะโดยไม่ลังเลใครจะมากับเขาหรือจะให้เขาทำคนเดียวก็ช่าง แต่เชนก็เดินตามลงมาตอนนี้เขาคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเชนต้องมาลำบากด้วย
“ ขอโทษนะเชน...ถ้าเรายั้งความโกรธมากกว่านี้นายคงไม่ต้องมาลำบากกับเรา ” ไมค์กี้พูดอย่างจริงใจ
“ ไม่หรอกก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึไง? ” เชนพูดพลางกวาดใบไม้ที่พื้นพร้อมกับหันไปมอบแมกซ์ที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ที่พื้นอีกฝั่งนึงแล้วหันมาพูดกับไมค์กี้
“ อันที่จริงเมื่อวานแมกซ์ทะเลาะกับพวกนั้นเรื่องนานถึงขนาดจะตัดเพื่อนกันเลยนะ! ”
ไมค์กี้ถึงกับตกใจที่แมกซ์ต้องมาปกป้องเขาซ้ำยังถูกพวกเพื่อนเก่าตัดขาดหากเขาเป็นตี๋คงทำใจยากน่าดู
เวลาล่วงเลยจนเย็นย่ำด้านล่างทั้งสามคนทำความสะอาดอย่างเรียบร้อยแล้วจึงมานั่งพักหนุ่มแว่นอาสาที่จะไปซื้อน้ำให้เพื่อให้ทั้งคู่มีเวลาที่จะได้คุยกัน
“ ขอบใจมากนะ ” ไมค์กี้พูดเมื่อเห็นเชนเดินห่างออกไปพอสมควร
“ เรื่อง? ” แมกซ์แสร้งถาม
“ ก็ทั้งหลายๆ เรื่องแล้วก็ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้เพื่อนๆนายเข้าใจนายผิดๆ ” ไมค์กี้พูดต่อ
“ ไม่เป็นไร...ถือว่าช่วยหมาโดนแกล้ง อีกอย่างพวกนั้นก็นิสัยแบบนี้อีกนายเหอะ ทำตัวตุ๊ดๆ แบบนี้มันน่าให้แกล้งไหมล่ะ ” แมกซ์หันหน้ามายักคิ้วให้
“ นี่ถ้าพูดแบบนี้...ไม่พูดเลยยังจะรู้สึกดีกว่า!? ”
ไมค์กี้พูดแล้วลุกขึ้นกระชากกระเป๋าบนโต๊ะเมื่อแมกซ์เห็นดังนั้นจึงรีบฉุดแขนคนตรงหน้าทันทีแต่เหมือนร่างเล็กจะเบามือไปและมือหนาจะดึงแรงไปจนส่งผลให้ทั้งคู่เข้าหากันจนหน้าแทบจะชิดติดกันทันที เหมือนดั่งที่เขาว่าไว้ว่าวัยรุ่นมันพลุ่งพล่านหัวใจของไมค์กี้สูบฉีดเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะถึงแม้ว่าเขาจะโดนล้อว่าไม่ใช่ผู้ชายแต่เขาก็เถียงไม่ได้เลยว่าเขาตอนนี้เขาหวั่นไหวกับคนตรงหน้ามากเพียงใดเมื่อตั้งสติได้ไมค์กี้รีบผลักร่างนักกีฬาอย่างแมกซ์ให้ห่างจากตัวแล้วรีบหลบหน้าเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองหน้าแดงสักเพียงใด
“ บอกเชนด้วยว่าเรากลับบ้านแล้วนะ...เอ่อ...พอดีมีธุระ ” ไมค์กี้พูดแล้วรีบเดินก้มหน้าหนีไปทันที ทิ้งไว้กับความรู้สึกแปลกๆแต่ดีที่แมกซ์มีไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมองไปยังร่างเล็กที่เดินออกไป
“ ไมค์กี้ล่ะ? ” เสียงของเชนทำให้แมกซ์สะดุ้งตัวออกจากภวังค์
“ กลับแล้ว นี่ก็เย็นแล้วฉันว่าฉันกลับแล้วนะ นายก็กลับได้แล้วระวังนะเว้ย...ผีชอบหลอกเด็กเนิร์ด ” แมกซ์ หันไปรัวคำพูดใส่เชนหลังจากที่หยิบกระเป๋าแล้วค่อยเดินจากไป
เชนมองซ้ายมองขวาอย่างกลัวๆก่อนที่ตะเอาน้ำที่จะซื้อมาให้เพื่อนยัดใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนไปทันที
สายตาทั้งหกคู่ของคนทั้งสามมองมาข้างล่าง ก่อนจะหันหน้าไปมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย สีหน้าบ่งบอกถึงความงงและตลกขบขันไปพร้อมกัน
“ เฮ้ย!...ตะกี้เห็นฉากสยิวของไอเด็กใหม่กับไอแมกซ์ไหม? ”บาสถามเพื่อนทั้งสองที่มองเหตุการณ์จากนอกหน้าต่างโดยตลอด ก่อนที่จะถามอีกว่า
“ หรือว่ามันจะเป็นเกย์วะ? ”
“ แหม่....นี่มันสมัยไหนแล้วเพื่อนเดี๋ยวนี้คนเรามีสิทธิ์คบกับใครก็ได้เว้ยบางทีอนาคตกูอาจจะแต่งงานกับไอเอ็มก็ได้ ” ตี๋พูดพร้อมทำท่ากอดตัวเองแล้วสั่นไหล่อย่างล้อเลียน
“ ถ้ามันชอบกันจริงๆ เรามีวิธีพิสูจน์เว้ยเพื่อนๆ ” บาสยิ้มอย่างผู้ร้ายในละครก่อนที่จะมองหน้าเพื่อนทั้งสองคน
“ มีแผนอะไรอีกละเพื่อน ” เอ็มปลายตามามองหน้าเพื่อนอย่างรู้ใจ
“ เอาเลย...ถ้าไอตุ๊ดนั่นมันชอบเพื่อนเราจริง มันได้เจ็บทั้งตัวและใจแน่ๆ ” ตี๋กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ คนบางคนมันก็ต้องเจียมตัว
ให้มันรู้ว่าเพื่อนข้าใครอย่าแย่ง!!!
ทุกเย็นหลังเลิกเรียนทั้งหกคนจะต้องมาทำหน้าที่ของตนเองแต่ไมค์กี้ก็ไม่ได้สนใจเพียงแต่ทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จๆ ไปเท่านั้นน่าแปลกคือหลังจากวันนั้นไมค์กี้และแมกซ์ก็เริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็วโดยที่เขาทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกที่กำลังจะมีให้กันและกันนั้นมันมากกว่ามิตรภาพและเหมือนว่าเขาทั้งสองคนจะตั้งหน้าตั้งตารอการทำความสะอาดหลังเลิกเรียนอย่างไม่รู้ตัว
เย็นวันสุดท้ายของการถูกทำโทษดูเหมือนวันนี้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มผิดปกติราวกับจะมีพายุฝนกำลังจะกระหน่ำลงมาไมค์กี้จึงรีบทำความสะอาดเพื่อที่จะเร่งเวลากลับบ้านให้เร็วกว่าปกติแต่ก็ไม่ทันเพราะพายุฝนกระหน่ำเข้ามาในขณะที่กลุ่มพวกเขาเสร็จแล้ว
“ เเมกซ์ๆ นายไปช่วยยกเอกสารช่วยพวกฉันหน่อย หลังคามันรั่วเอกสารเปียกหมดเลยว่ะ ” บาสวิ่งมาบอกด้วยท่าทีที่ร้อนรน ก่อนที่ทั้งสามคนจะวิ่งตามไป แต่บาสก็หันมาบอกเชนและไมค์กี้
“ พวกนายรออยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ”
แมกซ์ช่วยกลุ่มที่ทำความสะอาดบนห้องพักครูจนเสร็จ “ เฮ้ย!...ขอบใจนะเว้ยแมกซ์ที่นายช่วยพวกฉัน คิดๆ ดูแล้วฉันก็ผิดเองแหละที่วู่วามกับนาย ”
“ ฉันไม่เคยโกรธพวกนายเว้ย แค่นายเข้าใจฉันก็พอ ” แมกซ์พูด
“ ฉลอง!!! ” เอ็มตะโกน “ กลุ่มเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ปะคืนนี้เนื้อย่างกัน ”
“ ไอบาสกำลังไปตามเชนกับไมค์กี้แล้วล่วงหน้ากันไปก่อน ปะเราเดี๋ยวฝนตกหนักไปมากกว่านี้ แล้วก็จะได้ขอโทษที่พวกเราทำกับไมค์กี้ด้วย ” ตี๋พูดพลางมองไปบนฟ้าที่ตอนนี้มีเพียงเม็ดฝนพรำๆ แล้ว เดินนำหน้าลงบันไดไป
แมกซ์รู้สึกสบายใจแบบแปลก ๆแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรแต่แล้วความแคลงใจก็เกิดขึ้นเมื่อตี๋เดินลงบันไดไปอีกทาง
“ เห้ย ตี๋ทำไมไปทางนั้นวะ ” แมกซ์ตะโกนถาม
“ พวกฉันจอดรถไว้ทางนั้นวะ...เฮ้ย! เดินไกลนิดหน่อยอย่าบ่นนักเลย ” ตี๋พูดก่อนที่จะยิ้มออกมานิดๆมันเป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
บาสที่ซุ่มอยู่เมื่อเห็นแมกซ์เดินตามตี๋ลงบันไดไปอีกฝั่ง ก่อนที่จะหันหลังวิ่งลงบันไดลงไปอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งที่ไมค์กี้กับเชนนั่งอยู่และเป็นฝั่งที่จะมองไม่เห็นว่าแมกซ์เดินลงบันไดไปแล้ว
“ ไมค์กี้ ไมค์กี้!!! ” บาสวิ่งหน้าตาตื่นลงมาราวกับว่าไฟไหม้
“ อะไรอีกล่ะบาสนี่ก็ตื่นตัวบ่อยจริง ?!” เชนพูดในขณะกำลังเช็ดแว่นที่เปียกบาสมองหน้าเชนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะปั้นหน้าไปทางไมค์กี้
“ งูๆ !!!...นายไปช่วยพวกเราตีงูหน่อยสิ ” บาสพูดต่อ
“ เอ้า!!!...แล้วพวกที่อยู่ข้างบนล่ะ ” ไมค์กี้ถามหน้าตาตื่น
“ ตี๋กับเอ็มไปตามภารโรง แม็กซ์เฝ้างูอยู่ ส่วนฉันกำลังจะไปเอาไม้มาตีงูก่อน ” บาสยังคงโกหกหน้าตายต่อไป “ นายขึ้นไปช่วยแมกซ์เฝ้างูหน่อยดิ?! ”
ไมค์กี้พยักหน้ารับคำแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเขาจะไม่รีเช่นนี้ถ้าคนที่กำลังเฝ้างูไม่ใช่แมกซ์ เชนจึงรีบก้าวบันไดตามค์กี้ไปติดๆ
“ เดี๋ยวไอเชน! ” บาสเรียกเพื่อนจนคนที่ถูกเรียกหันมา บาสจึงเดินไปตบบ่าเพื่อนอย่างใจเย็นพลันสีหน้าที่ร้อนรนเมื่อครู่เปลี่ยนไป “ บางเรื่องเนี่ย...นายไม่ต้องยุ่งก็ได้! ”
“ อยู่ตรงนี้แหละ! ” บาสสั่งก่อนที่จะวิ่งตามไมค์กี้ไป เชนได้แต่นั่งมองแผ่นหลังของเพื่อนแต่ก็ไม่กล้าที่จะขึ้นไปเพราะคำสั่งของบาส
ไมค์กี้ไปถึงก็รีบวิ่งเข้าห้องพักครูไปทันที “ แมกซ์ แมกซ์ งูอยู่ไหนน่ะ!? ” ไมค์กี้ตะโกนถามแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่มีเสียงคนตอบรับและมองไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน
‘ปัง!!!’ เสียงปิดประตูดังขึ้นจนเจ้าตัวต้องหันกลับไปมองที่ต้นเสียงแล้วก็พบว่าประตูห้องนั้นได้ถูกปิดลงเอง ไมค์กี้รีบวิ่งไปผลักประตูก่อนที่จะได้ยินเสียงล็อคประตูที่ตามมา
“ เปิดๆ มีคนอยู่ในนี้!!! ” ไมค์กี้ตะโกนพร้อมกับตบประตูเสียงดัง แต่ไม่เป็นผลเมื่อคนที่ล็อคประตูข้างนอกอย่างบาสยิ้มขึ้นอย่างสะใจ
“ อยู่ในนั้นแหละ...แล้วสำนึกซะว่าต่อไปนี้อย่าหืออย่างพวกฉันอีก!!! ” บาสตะโกนเข้าไปเพื่อให้คนข้างในได้ยิน
“ เฮ้ย...บาสฉันไม่เล่นนะเว้ย!!! ”
“ ตะโกนเข้าไป ตะโกนให้คนแตกก็ไม่มีใครได้ยินแกหรอก!!! ” บาสหัวเราะอย่างผู้มีชัยก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่สนใจเลยว่าไมค์กี้จะตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างไร
แมกซ์ได้แต่มองว่าไมค์กี้จะมาถึงร้านตอนไหนเพราะนี่มันก็นานมากแล้วจนเด็กหนุ่มเริ่มจะเป็นห่วง จึงถามเพื่อนว่า “ เฮ้ยไอเอ็ม...ไอบาสยังไม่พาสองคนนั้นมาอีกหรอวะ นานแล้วนะเว้ย?! ”
แมกซ์ถามยังไม่ทันขาดคำบาสก็เดินมากับเชนเข้ามาในร้าน ยิ่งสร้างความงงให้กับแมกซ์อย่างยิ่งเมื่อไม่เห็นร่างของคนที่ตนเองห่วงใยมาด้วย
“ เชนแล้วไมค์กี้ล่ะ?! ” บาสถาม
“ เอ่อ ” เชนไม่ตอบก่อนที่จะมองไปยังบาสที่ตอนนี้เดินไปนั่งร่วมวงหมูกระทะกับเพื่อนๆ ก่อนที่บาสจะหันมาตอบคำถามแล้วกลับไปหัวเราะกับเพื่อน “ ไม่ต้องห่วงหรอก ป่านนี้มันหลับในห้องแล้วแหละมั้ง ”
“ นี่มันอะไรกันเชน? ” แมกซ์ถามเพื่อนแว่นอีกครั้งแต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือความเงียบ
“ นายจะห่วงมันอะไรหนักหนาวะ? ” ตี๋ถามอย่างมีน้ำโห
“ พูดแบบนี้แสดงว่าพวกนายแกล้งมันอีกแล้วใช่ไหม...มันไปทำอะไรให้พวกนายหนักหนาวะ!? ” แมกซ์ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นเสียงใส่เพื่อนตรงหน้าของเพื่อน บาสและเอ็มไม่เคยเห็นแมกซ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้จึงได้แต่นั่งเงียบ
“ ถ้ามึงเดินออกไปถือว่ามึงกับกูขาดกัน!!! ” ตี๋พูดขึ้นอย่างเด็ดขาดเมื่อเห็นว่าแมกซ์กำลังจะก้าวเดินออกไป “ กูให้โอกาสมึงแล้ว...มึงก็เห็นว่าไอเด็กใหม่มันสู้พวกกูไม่ได้อยู่แล้ว ”
“ งั้นกูเลือกที่จะสู้ไปกันมัน!!! ” แมกซ์หันหน้ามามองตี๋ แววตาที่มองเพื่อนบัดนี้เต็มไปด้วยความโกรธ “ กูเลือกมัน!!! ”
“ มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ ” ตี๋พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น มองไปทางเพื่อนรักที่บัดนี้กำลังเดินออกไปแล้วไปหาเชนที่กำลังก้มหน้าไม่กล้าสบตาแมกซ์
“ เชน ไมค์กี้อยู่ไหน?! ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ