Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) บทที่สี่ เพื่อนรักเลือกเพื่อนร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่สี่
เพื่อนรักเลือกเพื่อนร้าย
                “ นี่มันอะไรกัน?... พวกนายเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง? ” อาจารย์อิงอรเสียงเข้ม ก่อนจะไปมองหน้าเชน
                “ นายก็เหมือนกันแทนที่จะห้ามเพื่อนกับยืนนิ่ง ”
                “ แต่.. ”  เชนกำลังจะแย้ง แต่อิงอรก็พูดแทรกขึ้นมา
                “ ไม่มีแต่! ”  อิงอรถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นว่าจนเองใจร้อนเกินไปและปรับให้อารมณ์ของตัวเองเย็นลงทันที 
                “ เอาหล่ะ...ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกพรุ่งนี้ให้พวกเธอมาทำความสะอาดห้องพักครูหลังเลิกเรียนเป็นการไถ่โทษละกัน ” อิงอรพูด ก่อนจะปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านได้
                ทุกคนเดินออกมาจากอาคารเรียนในยามเย็มย่ำบัดนี้โรงเรียนที่เคยควักไขว่ไปด้วยนักเรียนกลับเงียบเชียบมีเพียงนักกีฬาที่กำลังซ้อมกีฬา อยู่เท่านั้นที่ยังอยู่ในโรงเรียนไมค์กี้ชิงเดินกลับไปก่อน เขาไม่อยากอยู่กับพวกนี้ไปนานมากกว่านี้อีกเหลือเพียงแค่กลุ่มเพื่อนเก่าที่ไม่มีเด็กใหม่แล้ว
                 “ มึงต่อยหน้ากูทำไมวะแมกซ์? ” ตี๋เปิดประเด็น
                “ กูแค่อยากให้มึงเย็น อีกอย่างมึงก็ไปด่าไอไมค์ก่อนถ้ามีคนด่ามึงมึงจะทำยังไง มึงคงทำยังกว่าไอไมค์ ” แม็กซ์อธิบาย
                “ แต่ตี๋เพื่อนมึงนะเว้ย? ”  บาสเถียง
                “ ไอไมค์กี้ก็เพื่อนเราเหมือนกัน?! ”  แม็กซ์เถียงกลับก่อนบอกต่อว่า  “ กูขอเหอะ พวกมึงเลิกแกล้งมันได้ไหม ”
                “ มึงไม่เห็นที่มันทำกับเราบ้างหรอวะ? ”  เอ็มพูด
                “ แล้วที่พวกเราไปแกล้ง ไปแซวมันให้มันคอยอายตลอดละวะพวกมึงไม่ได้เริ่มก่อนใช่ไหม? ”  แมกซ์ถามกลับ
                “ ตกลงมึงเลือกมัน? ”  ตี๋ถามย้ำอีกครั้ง
                “ มึงพอเหอะวะตี๋! ”  แม็กซ์ตัดบท “ พวกมึงก็เพื่อนนะเว้ย ?”
                “ ถ้ามึงเป็นเพื่อนกู มึงต้องเข้าข้างกูดิวะ? ” ตี๋พูด
                “ แล้วถ้าเพื่อนที่ดีก็อยากให้เพื่อนทำดีถูกไหมวะ? ”  แม็กซ์ถามกลับก่อนที่จะสบตาตี๋แลัวหันไปมองหน้า บาสและเอ็ม
                “ มึงพูดแบบนี้คือมึงจะไปหาคนที่ดีกว่าพวกกูว่างั้น? ”  ตี๋ถามอีกครั้ง
                แม็กซ์ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปต้องใช้คำว่าไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนเข้าใจ และสุดท้ายตี๋ก็พูดว่า  “ แล้วมึงจะรู้ว่ามึงต้องเลือกกูมากกว่ามัน! ”
                ว่าแล้วตี๋ก็เดินจากไปพร้อมกับบาสและเอ็มที่ทำราวกับว่าเป็นสมุนฝ่ายซ้ายและขวา เชนที่ฟังเรื่องราวมาทั้งหมดได้แต่เดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
                อย่างที่เขาว่าไว้วัยรุ่นนั้นเพื่อนสำคัญที่สุดและสำหรับคนบางคนก็ไม่ชอบใจนักเมื่อใครมาแย่งเพื่อนของตนเองไปโดยเฉพาะคนที่ไม่ยอมใครอย่างตี๋
                ตี๋หันกลับไปมองแมกซ์ด้วยสาตาเหี้ยม  ไมค์กี้มึงเป็นใครมึงกล้าดียังไงมาแย่งเพื่อนของกู!!!
 
 
                เย็นวันถัดมาทั้งหกคนต้องไปทำความสะอาดห้องพักครูแต่ห้องพักครูนั้นเล็กเกินกว่าที่จะให้คนหกคนทำความสะอาดหมด อาจารย์อิงอรจึงให้แบ่งเป็นสองกลุ่มโดยกลุ่มแรกทำความสะอาดห้องพักครูและอีกกลุ่มลงไปเก็บขยะรอบอาคารเรียน
                ไมค์กี้เลือกที่จะเดินลงไปเก็บขยะโดยไม่ลังเลใครจะมากับเขาหรือจะให้เขาทำคนเดียวก็ช่าง แต่เชนก็เดินตามลงมาตอนนี้เขาคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเชนต้องมาลำบากด้วย
                “ ขอโทษนะเชน...ถ้าเรายั้งความโกรธมากกว่านี้นายคงไม่ต้องมาลำบากกับเรา ” ไมค์กี้พูดอย่างจริงใจ
                “ ไม่หรอกก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึไง? ”  เชนพูดพลางกวาดใบไม้ที่พื้นพร้อมกับหันไปมอบแมกซ์ที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ที่พื้นอีกฝั่งนึงแล้วหันมาพูดกับไมค์กี้
                “ อันที่จริงเมื่อวานแมกซ์ทะเลาะกับพวกนั้นเรื่องนานถึงขนาดจะตัดเพื่อนกันเลยนะ! ”
                ไมค์กี้ถึงกับตกใจที่แมกซ์ต้องมาปกป้องเขาซ้ำยังถูกพวกเพื่อนเก่าตัดขาดหากเขาเป็นตี๋คงทำใจยากน่าดู
                 เวลาล่วงเลยจนเย็นย่ำด้านล่างทั้งสามคนทำความสะอาดอย่างเรียบร้อยแล้วจึงมานั่งพักหนุ่มแว่นอาสาที่จะไปซื้อน้ำให้เพื่อให้ทั้งคู่มีเวลาที่จะได้คุยกัน
                “ ขอบใจมากนะ ”  ไมค์กี้พูดเมื่อเห็นเชนเดินห่างออกไปพอสมควร
                “ เรื่อง? ”  แมกซ์แสร้งถาม
                “ ก็ทั้งหลายๆ เรื่องแล้วก็ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้เพื่อนๆนายเข้าใจนายผิดๆ ”  ไมค์กี้พูดต่อ
                “ ไม่เป็นไร...ถือว่าช่วยหมาโดนแกล้ง อีกอย่างพวกนั้นก็นิสัยแบบนี้อีกนายเหอะ ทำตัวตุ๊ดๆ แบบนี้มันน่าให้แกล้งไหมล่ะ ” แมกซ์หันหน้ามายักคิ้วให้
                “ นี่ถ้าพูดแบบนี้...ไม่พูดเลยยังจะรู้สึกดีกว่า!? ”
                ไมค์กี้พูดแล้วลุกขึ้นกระชากกระเป๋าบนโต๊ะเมื่อแมกซ์เห็นดังนั้นจึงรีบฉุดแขนคนตรงหน้าทันทีแต่เหมือนร่างเล็กจะเบามือไปและมือหนาจะดึงแรงไปจนส่งผลให้ทั้งคู่เข้าหากันจนหน้าแทบจะชิดติดกันทันที เหมือนดั่งที่เขาว่าไว้ว่าวัยรุ่นมันพลุ่งพล่านหัวใจของไมค์กี้สูบฉีดเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะถึงแม้ว่าเขาจะโดนล้อว่าไม่ใช่ผู้ชายแต่เขาก็เถียงไม่ได้เลยว่าเขาตอนนี้เขาหวั่นไหวกับคนตรงหน้ามากเพียงใดเมื่อตั้งสติได้ไมค์กี้รีบผลักร่างนักกีฬาอย่างแมกซ์ให้ห่างจากตัวแล้วรีบหลบหน้าเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองหน้าแดงสักเพียงใด
                “ บอกเชนด้วยว่าเรากลับบ้านแล้วนะ...เอ่อ...พอดีมีธุระ ” ไมค์กี้พูดแล้วรีบเดินก้มหน้าหนีไปทันที ทิ้งไว้กับความรู้สึกแปลกๆแต่ดีที่แมกซ์มีไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมองไปยังร่างเล็กที่เดินออกไป
                “ ไมค์กี้ล่ะ? ”  เสียงของเชนทำให้แมกซ์สะดุ้งตัวออกจากภวังค์
                “ กลับแล้ว นี่ก็เย็นแล้วฉันว่าฉันกลับแล้วนะ นายก็กลับได้แล้วระวังนะเว้ย...ผีชอบหลอกเด็กเนิร์ด ” แมกซ์ หันไปรัวคำพูดใส่เชนหลังจากที่หยิบกระเป๋าแล้วค่อยเดินจากไป
                เชนมองซ้ายมองขวาอย่างกลัวๆก่อนที่ตะเอาน้ำที่จะซื้อมาให้เพื่อนยัดใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนไปทันที
                สายตาทั้งหกคู่ของคนทั้งสามมองมาข้างล่าง  ก่อนจะหันหน้าไปมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย สีหน้าบ่งบอกถึงความงงและตลกขบขันไปพร้อมกัน
                “ เฮ้ย!...ตะกี้เห็นฉากสยิวของไอเด็กใหม่กับไอแมกซ์ไหม? ”บาสถามเพื่อนทั้งสองที่มองเหตุการณ์จากนอกหน้าต่างโดยตลอด ก่อนที่จะถามอีกว่า
                “ หรือว่ามันจะเป็นเกย์วะ? ”
                “ แหม่....นี่มันสมัยไหนแล้วเพื่อนเดี๋ยวนี้คนเรามีสิทธิ์คบกับใครก็ได้เว้ยบางทีอนาคตกูอาจจะแต่งงานกับไอเอ็มก็ได้ ” ตี๋พูดพร้อมทำท่ากอดตัวเองแล้วสั่นไหล่อย่างล้อเลียน
                “ ถ้ามันชอบกันจริงๆ เรามีวิธีพิสูจน์เว้ยเพื่อนๆ ” บาสยิ้มอย่างผู้ร้ายในละครก่อนที่จะมองหน้าเพื่อนทั้งสองคน
                “ มีแผนอะไรอีกละเพื่อน ” เอ็มปลายตามามองหน้าเพื่อนอย่างรู้ใจ
                “ เอาเลย...ถ้าไอตุ๊ดนั่นมันชอบเพื่อนเราจริง  มันได้เจ็บทั้งตัวและใจแน่ๆ ”  ตี๋กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์  คนบางคนมันก็ต้องเจียมตัว 
                ให้มันรู้ว่าเพื่อนข้าใครอย่าแย่ง!!!        
 
                ทุกเย็นหลังเลิกเรียนทั้งหกคนจะต้องมาทำหน้าที่ของตนเองแต่ไมค์กี้ก็ไม่ได้สนใจเพียงแต่ทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จๆ ไปเท่านั้นน่าแปลกคือหลังจากวันนั้นไมค์กี้และแมกซ์ก็เริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็วโดยที่เขาทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกที่กำลังจะมีให้กันและกันนั้นมันมากกว่ามิตรภาพและเหมือนว่าเขาทั้งสองคนจะตั้งหน้าตั้งตารอการทำความสะอาดหลังเลิกเรียนอย่างไม่รู้ตัว
                เย็นวันสุดท้ายของการถูกทำโทษดูเหมือนวันนี้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มผิดปกติราวกับจะมีพายุฝนกำลังจะกระหน่ำลงมาไมค์กี้จึงรีบทำความสะอาดเพื่อที่จะเร่งเวลากลับบ้านให้เร็วกว่าปกติแต่ก็ไม่ทันเพราะพายุฝนกระหน่ำเข้ามาในขณะที่กลุ่มพวกเขาเสร็จแล้ว
                “ เเมกซ์ๆ นายไปช่วยยกเอกสารช่วยพวกฉันหน่อย หลังคามันรั่วเอกสารเปียกหมดเลยว่ะ ”  บาสวิ่งมาบอกด้วยท่าทีที่ร้อนรน ก่อนที่ทั้งสามคนจะวิ่งตามไป แต่บาสก็หันมาบอกเชนและไมค์กี้
                “ พวกนายรออยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ”
                แมกซ์ช่วยกลุ่มที่ทำความสะอาดบนห้องพักครูจนเสร็จ “ เฮ้ย!...ขอบใจนะเว้ยแมกซ์ที่นายช่วยพวกฉัน คิดๆ ดูแล้วฉันก็ผิดเองแหละที่วู่วามกับนาย ”
                “ ฉันไม่เคยโกรธพวกนายเว้ย แค่นายเข้าใจฉันก็พอ ”  แมกซ์พูด
                “ ฉลอง!!! ”  เอ็มตะโกน  “ กลุ่มเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ปะคืนนี้เนื้อย่างกัน ”
                “ ไอบาสกำลังไปตามเชนกับไมค์กี้แล้วล่วงหน้ากันไปก่อน ปะเราเดี๋ยวฝนตกหนักไปมากกว่านี้ แล้วก็จะได้ขอโทษที่พวกเราทำกับไมค์กี้ด้วย ”  ตี๋พูดพลางมองไปบนฟ้าที่ตอนนี้มีเพียงเม็ดฝนพรำๆ  แล้ว เดินนำหน้าลงบันไดไป
                แมกซ์รู้สึกสบายใจแบบแปลก ๆแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรแต่แล้วความแคลงใจก็เกิดขึ้นเมื่อตี๋เดินลงบันไดไปอีกทาง
                “ เห้ย ตี๋ทำไมไปทางนั้นวะ ”  แมกซ์ตะโกนถาม
                “ พวกฉันจอดรถไว้ทางนั้นวะ...เฮ้ย! เดินไกลนิดหน่อยอย่าบ่นนักเลย ” ตี๋พูดก่อนที่จะยิ้มออกมานิดๆมันเป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
 
                บาสที่ซุ่มอยู่เมื่อเห็นแมกซ์เดินตามตี๋ลงบันไดไปอีกฝั่ง  ก่อนที่จะหันหลังวิ่งลงบันไดลงไปอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งที่ไมค์กี้กับเชนนั่งอยู่และเป็นฝั่งที่จะมองไม่เห็นว่าแมกซ์เดินลงบันไดไปแล้ว
                “ ไมค์กี้ ไมค์กี้!!! ” บาสวิ่งหน้าตาตื่นลงมาราวกับว่าไฟไหม้
                “ อะไรอีกล่ะบาสนี่ก็ตื่นตัวบ่อยจริง ?!” เชนพูดในขณะกำลังเช็ดแว่นที่เปียกบาสมองหน้าเชนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะปั้นหน้าไปทางไมค์กี้
                “ งูๆ !!!...นายไปช่วยพวกเราตีงูหน่อยสิ ” บาสพูดต่อ
                “ เอ้า!!!...แล้วพวกที่อยู่ข้างบนล่ะ ” ไมค์กี้ถามหน้าตาตื่น
                “ ตี๋กับเอ็มไปตามภารโรง แม็กซ์เฝ้างูอยู่ ส่วนฉันกำลังจะไปเอาไม้มาตีงูก่อน ” บาสยังคงโกหกหน้าตายต่อไป “ นายขึ้นไปช่วยแมกซ์เฝ้างูหน่อยดิ?! ”
                ไมค์กี้พยักหน้ารับคำแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเขาจะไม่รีเช่นนี้ถ้าคนที่กำลังเฝ้างูไม่ใช่แมกซ์  เชนจึงรีบก้าวบันไดตามค์กี้ไปติดๆ
                “ เดี๋ยวไอเชน! ” บาสเรียกเพื่อนจนคนที่ถูกเรียกหันมา บาสจึงเดินไปตบบ่าเพื่อนอย่างใจเย็นพลันสีหน้าที่ร้อนรนเมื่อครู่เปลี่ยนไป “ บางเรื่องเนี่ย...นายไม่ต้องยุ่งก็ได้! ”
                “ อยู่ตรงนี้แหละ! ” บาสสั่งก่อนที่จะวิ่งตามไมค์กี้ไป เชนได้แต่นั่งมองแผ่นหลังของเพื่อนแต่ก็ไม่กล้าที่จะขึ้นไปเพราะคำสั่งของบาส
                ไมค์กี้ไปถึงก็รีบวิ่งเข้าห้องพักครูไปทันที “ แมกซ์ แมกซ์  งูอยู่ไหนน่ะ!? ” ไมค์กี้ตะโกนถามแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่มีเสียงคนตอบรับและมองไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน
                ‘ปัง!!!’ เสียงปิดประตูดังขึ้นจนเจ้าตัวต้องหันกลับไปมองที่ต้นเสียงแล้วก็พบว่าประตูห้องนั้นได้ถูกปิดลงเอง  ไมค์กี้รีบวิ่งไปผลักประตูก่อนที่จะได้ยินเสียงล็อคประตูที่ตามมา
                “ เปิดๆ มีคนอยู่ในนี้!!! ” ไมค์กี้ตะโกนพร้อมกับตบประตูเสียงดัง  แต่ไม่เป็นผลเมื่อคนที่ล็อคประตูข้างนอกอย่างบาสยิ้มขึ้นอย่างสะใจ
                “ อยู่ในนั้นแหละ...แล้วสำนึกซะว่าต่อไปนี้อย่าหืออย่างพวกฉันอีก!!! ” บาสตะโกนเข้าไปเพื่อให้คนข้างในได้ยิน
                “ เฮ้ย...บาสฉันไม่เล่นนะเว้ย!!! ”
                “ ตะโกนเข้าไป ตะโกนให้คนแตกก็ไม่มีใครได้ยินแกหรอก!!! ” บาสหัวเราะอย่างผู้มีชัยก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่สนใจเลยว่าไมค์กี้จะตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างไร
 
                แมกซ์ได้แต่มองว่าไมค์กี้จะมาถึงร้านตอนไหนเพราะนี่มันก็นานมากแล้วจนเด็กหนุ่มเริ่มจะเป็นห่วง จึงถามเพื่อนว่า “ เฮ้ยไอเอ็ม...ไอบาสยังไม่พาสองคนนั้นมาอีกหรอวะ นานแล้วนะเว้ย?! ”
                แมกซ์ถามยังไม่ทันขาดคำบาสก็เดินมากับเชนเข้ามาในร้าน  ยิ่งสร้างความงงให้กับแมกซ์อย่างยิ่งเมื่อไม่เห็นร่างของคนที่ตนเองห่วงใยมาด้วย
                “ เชนแล้วไมค์กี้ล่ะ?! ” บาสถาม
                “ เอ่อ  ” เชนไม่ตอบก่อนที่จะมองไปยังบาสที่ตอนนี้เดินไปนั่งร่วมวงหมูกระทะกับเพื่อนๆ ก่อนที่บาสจะหันมาตอบคำถามแล้วกลับไปหัวเราะกับเพื่อน “ ไม่ต้องห่วงหรอก ป่านนี้มันหลับในห้องแล้วแหละมั้ง ”
                “ นี่มันอะไรกันเชน? ” แมกซ์ถามเพื่อนแว่นอีกครั้งแต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือความเงียบ
                “ นายจะห่วงมันอะไรหนักหนาวะ? ” ตี๋ถามอย่างมีน้ำโห
                “ พูดแบบนี้แสดงว่าพวกนายแกล้งมันอีกแล้วใช่ไหม...มันไปทำอะไรให้พวกนายหนักหนาวะ!? ” แมกซ์ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นเสียงใส่เพื่อนตรงหน้าของเพื่อน บาสและเอ็มไม่เคยเห็นแมกซ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้จึงได้แต่นั่งเงียบ
                “ ถ้ามึงเดินออกไปถือว่ามึงกับกูขาดกัน!!! ” ตี๋พูดขึ้นอย่างเด็ดขาดเมื่อเห็นว่าแมกซ์กำลังจะก้าวเดินออกไป “ กูให้โอกาสมึงแล้ว...มึงก็เห็นว่าไอเด็กใหม่มันสู้พวกกูไม่ได้อยู่แล้ว ”
                “ งั้นกูเลือกที่จะสู้ไปกันมัน!!! ” แมกซ์หันหน้ามามองตี๋ แววตาที่มองเพื่อนบัดนี้เต็มไปด้วยความโกรธ “ กูเลือกมัน!!! ”
                “ มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ ” ตี๋พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น มองไปทางเพื่อนรักที่บัดนี้กำลังเดินออกไปแล้วไปหาเชนที่กำลังก้มหน้าไม่กล้าสบตาแมกซ์
                “ เชน ไมค์กี้อยู่ไหน?! ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา