Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่สิบ เธอริษยา...ฉันอาฆาต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่สิบ
เธอริษยา...ฉันอาฆาต
                แมกซ์ช่วยงานศพของเอ็มจนดึกดื่น  ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดราวกับคนไม่มีเลือดอยู่บนใบหน้า  หัวของเขาหนักอึ้ง  ความหนาวแปลกๆปกคลุมร่างกายราวกับว่าเขาจะไม่สบาย
                “ แมกซ์เป็นอะไรหรือเปล่า?  ”  เชนถามผู้เป็นเพื่อนเมื่อเห็นสภาพเช่นนี้
                “ ฉันรู้สึกแปลกๆ  แต่ไม่ค่อยดีเลยเชน  ”  แมกซ์ตอบก่อนที่จะเอามืออังไปที่หน้าผากของตนเองเพื่อตรวจสอบว่าเขานั้นตัวร้อนหรือไม่แต่ก็เป็นปกติ
                “ งั้นเราว่าแมกซ์ไปนอนในรถของเราก่อนก็ได้...เดี๋ยวเราจัดการเก็บของช่วยทางนี้ต่อเอง ”
                “ งั้นฝากด้วยนะ ”  แมกซ์หยิบกุญแกรถจากเชน   แล้วเดินตรงไปที่รถที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่  ทันทีที่เขาเข้ามาในรถความรู้สึกหนักหัวก็กดลงมาที่หัวเขามากกว่าเดิมจนแมกซ์ทนไม่ไหวต้องหลับไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามีคนต้องการให้เขารับรู้ถึงการตายของใครบางคนและเรื่องในอดีตของคนที่กำลังจะตายเป็นคนต่อไป
 
                มิร่าอาบน้ำชำระร่างกายโดยเปิดวิทยุเสียงดังลั่นเพื่อให้ได้ยินเสียงเข้ามาในห้องน้ำ  มันช่างเป็นเพลงที่ไพเราะถ้าอยู่ดีๆ  เสียงนักร้องหญิงก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงสวดมนต์จนคนที่อาบน้ำอยู่ชะงักทันที
                “ สัญญาณเปลี่ยนเองหรอเนี่ย? ”  มิร่ารำพึงกับตัวเอง  ปิดน้ำจากฝักบัวแล้วเดินตรงไปที่วิทยุเพื่อเปลี่ยนให้กลับเป็นสถานีเดินแล้วกลับเข้าไปอาบน้ำอีกรอบ
                แต่แล้วเหตุการณ์เดิมๆ  ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีเสียงสวดมนต์ดังมาจากวิทยุอีก  มิร่าชะงักทันทีเธอตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก  แม้ว่าในชีวิตสาวนอกอย่างเธอไม่เคยเจอผีแต่เธอก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ แบบนี้มาก่อน  มิร่ารีบอาบน้ำอย่างเร็วที่สุดแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปปิดวิทยุ
                เธอเดินมาที่เตียง  มือสวยลูบผมที่เปียกแล้วหยิบไดเป่าผมมาเป่าเพื่อให้ผมแห้ง  แต่แล้วเสียงสวดมนต์ก็ดังขึ้นมาอีกทั้งๆที่เมื่อครู่เธอปิดวิทยุไปแล้วและไม่ได้เปลี่ยนไปสถานีไหนอีกเลย   มิร่าผุดจากเตียงแล้วเดินไปปิดวิทยุอีกครั้ง  แต่มันก็ไม่เป็นผลเสียงพระสวดยังคงดังก้องไปที่ทั่วห้อง  เธอก้มลงหมายที่จะไปถอดปลั๊กสายไฟทันที
                  แต่เมื่อเธอก้มตัวลงก็เห็นว่าปลั๊กมันไม่ได้เสียบอยู่แล้ว!!!
                มิร่าถอยกรูดออกมาจากวิทยุทันที  เสียงที่ดังมาจากวิทยุที่ไม่ได้เสียบปลั๊กเธอไม่รู้จะทำเช่นไรหยิบวิทยุแล้วขว้างออกไปที่ระเบียงห้องด้วยความตกใจ  หญิงสาวรีบใส่เสื้อผ้าแล้วปิดไฟนอนอย่างรวดเร็ว
                ทันทีที่เธอล้มตัวลงนอนได้ไม่นานปลายเท้าของเธอก็รู้สึกแข็งชาอย่างไม่มีสาเหตุและรามขึ้นมาบนตัวอย่างรวดเร็ว  ตอนนี้ตัวของมิร่าไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปเว้นแต่ตาเท่านั้นที่สามารถหมุนไปดูรอบๆ  ห้องได้  แม้กระทั่งเปลือกตาเธอก็ไม่สามารถที่จะปิดมันได้
                “ ขอบคุณสำหรับสปาเก็ตตี้นะ ”  เสียงของชายคนหนึ่งกระซิบมาที่หูของเธอโดยไม่เห็นร่าง  เธอจำมันได้ดีว่ามันเป็นเสียงของไมค์กี้
                ‘ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ ’  มิร่าพูดไม่ได้ทำได้เพียงแค่คิดในใจ
                “ กูคิดถึงมึงไงเลยมาหา ”
                ‘ ไม่ต้องมาฉันกลัว ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำบุญไปให้ ’  แม้เธอคิดในใจแต่เสียงในใจยังละล่ำละลักพูดราวกับว่าพูดออกมาอย่างตกใจจริงๆ
                “ แหม่...พูดไทยชัดแจ๋วเลยนะมึง  ไม่ต้องกลัวกูไม่รอมึงถึงวันพรุ่งนี้หรอก กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วยเลยคืนนี้ ”  เสียงของไมค์กี้จากที่ลอยมาตามลมราวกับว่ากระซิบที่หูในตอนแรก  บัดมีมันดังก้องอยู่ในหูของเธอ  ตัวที่แข็งทื่อของมิร่าตอนนี้เหมือนมีมือปริศนาจับให้ร่างของเธอหันมาอีกข้าง  มิร่าไม่รู้จะทำเช่นไรเธอคิดได้ว่าสมัยเด็กเธอเคยสวดมนต์ผ่านๆ  บทสวดไหนที่เธอนึกขึ้นได้เธอก็รีบท่องทันที
                ‘ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมา สัมพุทตัสสะ นะโม......’ 
                “ มึงท่องทำไม  บทนี้กูก็สวดเป็น!!! ”  ยังไม่ทันที่สาวหัวนอกอย่างมิร่าจะท่องจบ  ไมค์ก็ก็ชิงพูดขึ้นก่อน  แล้วพลังอันมหาศาลก็จับพลิกตัวของมิร่าให้คว่ำลงอยู่ในท่านอนคว่ำ  ถัดขึ้นมาบนร่างของมิร่าตอนนี้ไมค์กี้กำลังนั่งทับแล้วกดหัวของมิร่าให้ลงไปกับหมอน  น้ำที่หยดลงมาจากตัวของไมค์กี้ลงบนแผ่นหลังของมิร่าช่างหนาวเย็นเหลือเกิน
                 ‘ ฉันไม่เคยทำอะไรให้นาย นายจะมาฆ่าฉันทำไม ’มิร่าเถียงในใจ  ตอนนี้จมูกที่ถูกกดลงไปในหมอนเริ่มที่จะหาบใจไม่ออก
                “ มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามึงไม่เคย?  ”  ไมค์กี้ตวาดจนเสียงก้องไปทั่วห้อง  แล้วเรื่องราวในอดีตของที่ไม่เคยมีใครรู้เข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
 
...................................................................................................................................
 
                “ อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงวันที่มีจัดการแข่งขันชิงทุนไปต่างประเทศแล้ว  ตื่นเต้นจังเลย ”  มิร่าพูดขึ้นในขณะที่ครูยังไม่เข้ามาสอนในห้อง
                “ เชนนายจะลงชิงด้วยไหม?   ”  มิร่าหันกลับไปถามเชนที่กำลังนั่งติวหนังสือให้แมกซ์และไมค์กี้
                “ ไม่ละ...แม่ไม่อยากให้เราไปต่อนอก  ” เชนตอบเสียงอ่อย
                “ หว้า ...แย่จังนายเป็นตัวเก่งของห้องเชียวนะ  อีกอย่างนายก็ ม.6 แล้ว  รอเวลานี้ตั้งนานไม่ใช่หรอ ?”  เจนหันมาพูดอย่างเสียดายแทน  คนหัวดีอย่างเชนถ้าลงแข่งด้วยคงได้อย่างแน่นอนก่อนที่จะถามเพื่อนอีกสองคน  “ แล้วพวกนายละจะลองดูไหม ”
                “ ฉันคงไม่ละ  ”  แมกซ์ตอบในขณะที่มือกำลังนั่งลอกการบ้านของเชนอย่างใจจดใจจ่อ
                “ แล้วนายละไมค์กี้ ? ” มิร่าถามไมค์กี้บ้าง
                “ อืม...น่าสนใจนะอยากลองดูบ้างเหมือนกัน ” 
                “ เอาสิ...ไปสอบกับยัยมิร่าไปลองดู ”  เจนเสนอ
                “ งั้นเชนติวหนังสือให้เราหน่อยได้ไหม ?”  ไมค์กี้หันมาของร้องเด็กแว่นที่เป็นคนเก่งที่สุดในห้อง
                “ ได้สิ ”  เชนรับปาก
                “ ขอบใจนะ ”
                มิร่าที่นั่งฟังทั้งสองคนนัดแนะกันอย่างดิบดี  แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้หน้าใสของมิร่ากำลังหัวเราะร่าด้วยความสะใจที่เชนไม่ลงแข่ง  เธอหมดคู่แข่งไปหนึ่งแล้ว  มิร่าเป็นที่สองรองจากเชนตลอดทุกเทอม  และเธอคงไม่มีทางแพ้เด็กใหม่อย่างไมค์กี้เด็ดขาด
                ไมค์กี้ติวหนังสือกับเชนทุกๆ เย็น  โดยมีแมกซ์นั่งติวเป็นเพื่อน  แม้ว่าไมค์กี้จะเพียงลองทำดูไม่คาดหวังอย่างใด แต่เขาก็อยากที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
                เวลาผ่านไปจนถึงเวลาที่แข่งขันการสอบ  มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะมาสอบเข้าชิงทุนไปต่างประเทศในครั้งนี้  และสองในนั้นก็คือมิร่าและไมค์กี้ 
                “ เต้นเต้นหรอไมค์กี้? ”  มิร่ากระซิบถามใน ขณะที่กำลังจะเข้าห้องสอบ  ไมค์กี้ที่กำลังนั่งหลับตานิ่งเพื่อทำสมาธิสะดุ้งลืมตาขึ้นมาทันที
                “ ใช่ๆ  มิร่าละ  เธอคงเตรียมพร้อมมากเลยสินะ  ต่างจากเราเลยนะไม่มีความมั่นใจอะไรเลย  ความรู้ในหัวก็ลืมไปแทบจะหมดละ ”  ไมค์กี้ถามกลับบ้างตอนนี้มือไม้สั่นไปหมดราวเพราะมันเหมือนกับการสอบเข้ามหาลัย
                “ ก็นะ...เราก็ตื่นเต้นแต่ก็มั่นใจนั่นแหละ  ยังไงไมค์กี้ก็สู้ๆ นะ  ”  มิร่ายิ้มให้ไมค์กี้อย่างให้กำลังใจ  แต่เขาไม่รู้เลยว่าในใจของมิร่านั้นกลับไม่มีความจริงใจเลยสักนิด
                การสอบผ่านไปหลายชั่วโมง  ไมค์กี้ก็ทำอย่างสุดความสามารถแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าไม่ผ่านอย่างแน่นอน  แต่ลึกๆไมค์กี้ก็ยังคงหวังอยู่เช่นนั้น  ส่วนมิร่าเองเดินเชิดหน้าออกมาด้วยความมั่นใจจนไมค์กี้รู้สึกว่าตัวของตนเองเล็กลงไปหลายเท่า  แต่ความมั่นใจของหญิงสาวกลับทำให้มีคนในห้องสอบที่เข้าร่วมแข่งขันด้วยหมั่นไส้เธอไปพร้อมๆ กัน
                การรอผลสอบนั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งโรงเรียนไม่น้อย  แต่คนที่ดูจะมั่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้นมิร่า  เธอเองมีเงินมากพอที่สามารถจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศด้วยซ้ำ  แต่เธอก็อยากจะแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นเช่นกันว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ที่รวย
                “ เอาละค่ะ...ได้ข่าวว่าห้องนี้ก็มีคนไปแข่งขันสอบกับเขาด้วยหรอ? ครูไม่ยักจะรู้เรื่องเลย ”  ครูอิงอร  เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับม้วนกระดาษหนึ่งแผ่นที่อยู่ในมือ   “ และครูก็มีข่าวดีจะมาบอกด้วยนะ ”
                คำพูดของอาจารย์อิงอรทำเอามิร่ายิ้มแก้มปริอย่างอดไม่ได้  ไมค์กี้ก็เช่นกันแต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะได้รับเลือกอยู่แล้ว  แต่เขาเพียงตื่นเต้นเท่านั้นที่มิร่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาจะได้เป็นตัวแทนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
                “ ขอแสดงความยินดีกับไมค์กี้และมิร่าด้วยนะ แต่ว่าคนที่จะต้องไปมีเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น  ดังนั้นขอให้ทั้งสองคนมาสอบใหม่อีกครั้งในเย็นวันพรุ่งนี้ด้วยนะ เพราะเธอทั้งสองคนได้คะแนนมากที่สุดและคะแนนดันเท่ากันด้วย ”
                คำตอบของอาจารย์อิงอรทำเอาทุกคนในห้องตาโตทันที  แต่คนที่ดีใจมากมีเพียงไมค์กี้แค่คนเดียวเท่านั้น  ในส่วนของมิร่าที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มเล็กๆ เท่านั้น  แต่ในใจกลับแค้นว่าคนที่ได้ที่สองรองจากเชนอย่างเธอกลับต้องมาเทียบเท่าเด็กใหม่อย่างไมค์กี้  เพียงคิดแค่นี้เธอก็อายเพื่อนทั้งห้องแล้ว
                “ ดีใจด้วยนะทั้งสองคน  แหม...แต่เสียดายจังที่ไปได้แค่คนเดียว  ถ้าไปได้ทั้งสองคนเนี่ยนะฉันจะดีใจมากเลยที่เพื่อนฉันทั้งสองคนได้ไปต่างประเทศ ”  เจนพูดอย่างดีใจ  ในขณะหันหลังไปหาไมค์กี้ที่กำลังยิ้มอย่างดีใจในตอนนี้
                “ เชอะ ...อย่าให้มันออกนอกหน้าให้มานัก ”  ตี๋พูดขึ้นมาอย่างลอยๆ เจนจึงได้แต่หันไปตีตี๋เบาๆ
               
                “ มิร่า...ทำไมเธอถึงแพ้ไมค์กี้ได้เนี่ย? ”  เจนพูดกระแทกกระทั้นเพื่อนทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้องน้ำ  ต่างจากเมื่อครู่ที่ทำได้เพียงใส่หน้ากาก
                “ อย่าพูดว่าแพ้ได้ไหม  ฉันกับมันแค่คะแนนเท่านั้น  คนอย่างมันแค่ฟลุคเท่านั้นแหละ!!! ”  มิร่าเดินไปกระแทกทิชชู่ใส่ถังขยะอย่างใส่อารมณ์
                “ แต่เธออย่าลืมนะ ว่าอย่างไอเชนเธอยังแพ้เลย  แล้วเธอยังมาเสมอเทียบเท่ากับไอไมค์กี้อีกหรอ? ” 
                “ นี่แค่ฉันแพ้มันฉันก็แค้นใจอยู่แล้ว...เธอยังจะมาทับถมฉันทำไมเนี่ย?! ”  มิร่าหันมาพูดอย่างน้อยใจ
                “ เอาหน่า...เธอก็เอาใหม่สิเย็นพรุ่งนี้เธอก็เอาชนะมันให้ได้ ”  เจนกำมือให้มิร่าเชิงอย่างผู้มีชัย
                ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำมิร่าที่เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็ยังคงอารมณ์ครุกรุ่นอยู่อย่างนั้นเช่นเดิม  แต่เมื่อเห็นไมค์กี้ เชน และแมกซ์ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน  โดยมีไมค์กี้นั่งฟังเชนที่อ่านจากหนังสืออย่างตั้งใจ
                “ เอ้า  หนุ่มๆ ทำอะไรกันอยู่หรอ? ”  เจนปั้นหน้าถามโดยไม่มีความหมั่นไส้อยู่ในแววตาเหมือนเมื่อครู่แม้แต่สักนิด
                “ เชนกำลังติวหนังสือให้เราอยู่น่ะ...มิร่ามาร่วมด้วยไหม? ”  ไมค์กี้ตอบอย่างยิ้มกว้าง
                “ อ่อ...คือพวกเรากำลังรีบน่ะ  พอดีว่าลืมของไว้  เดี๋ยวเราไปก่อนนะ ”มิร่าตอบก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินนำหน้าเจนออกไปทันที
                “ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องนะ  พอดีเจนรีบ ”  เจนรีบบอกกับทุกคนแล้วรีบเดินตามเพื่อนไป 
 
                “ เป็นอะไรไปมิร่าทำไมทำหน้าบูดอย่างนั้นล่ะ? ”  บาสถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้องแล้วทำเสียงดังตึงตัง  โดยมีเจนวิ่งตามมาติดๆ
                “ อ้อ...หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เธอแพ้ไอไมค์กี้หรอ? ”  เอ็มแหย่  แต่เหมือนมิร่าถูกจี้จุดจนหน้าสวยหันมาถลึงตาใส่เพื่อนชายที่กำลังทำหน้าทะเล้น
                “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยละเอ็ม?...อย่างนายเนี่ยไม่มีปัญญาแม้แต่สอบด้วย ซ้ำ!  ”  เจนหันไปต่อว่าเจ้าตัวที่พ่นคำแหย่ออกมา  แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกสักนิด
                “ ถ้าเป็นฉันนะ  ฉันจะไม่ยอมแพ้ไอเด็กใหม่เด็ดขาด  ดูอย่างที่ฉันได้เป็นตัวแทนแข่งวิ่งสิ  ”  บาสหันหน้ามาพูดกับมิร่าอย่างจริงจัง
                “ แล้วใครบอกละ...ว่าฉันจะแพ้? ”  มิร่าตอบอย่างแค้นใจ
                “ งั้นเธอก็ต้องทำให้พวกฉันเห็นสิว่าเธอจะไม่แพ้ ”  ตี๋พูดบ้าง
                “ แน่นอน ...เพื่อฉันต้องไม่แพ้แน่!!! ”  เจนยิ้มกริ่มแล้วหันไปมองมิร่า  ที่แต่เก็บความคับแค้นใจไว้อย่างมาก ในใจด่าไปต่างๆ นาๆ 
                ‘ ทำเป็นมานั่งติวหนังสือแต่ก็แอบนินทาฉันอยู่ใช่ไหม  อย่ามาทำเป็นอวดเก่งให้มันมาก  แกไม่มีสิทธิ์มาเทียบชั้นกับฉันไอเด็กใหม่  แกไม่มีสิทธิ์แม้แต่ที่จะได้รับเลือกที่จะได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยซ้ำ   ฉันจะทำให้แกรู้ว่าฉันนี่แหละที่หนึ่งจนแม้แต่แกก็ไม่มีวันที่จะเป็นที่สองแต่แกต้องเป็นที่สุดท้าย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา