Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.90K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) บทที่สิบ เธอริษยา...ฉันอาฆาต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สิบ
เธอริษยา...ฉันอาฆาต
แมกซ์ช่วยงานศพของเอ็มจนดึกดื่น ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดราวกับคนไม่มีเลือดอยู่บนใบหน้า หัวของเขาหนักอึ้ง ความหนาวแปลกๆปกคลุมร่างกายราวกับว่าเขาจะไม่สบาย
“ แมกซ์เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เชนถามผู้เป็นเพื่อนเมื่อเห็นสภาพเช่นนี้
“ ฉันรู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ค่อยดีเลยเชน ” แมกซ์ตอบก่อนที่จะเอามืออังไปที่หน้าผากของตนเองเพื่อตรวจสอบว่าเขานั้นตัวร้อนหรือไม่แต่ก็เป็นปกติ
“ งั้นเราว่าแมกซ์ไปนอนในรถของเราก่อนก็ได้...เดี๋ยวเราจัดการเก็บของช่วยทางนี้ต่อเอง ”
“ งั้นฝากด้วยนะ ” แมกซ์หยิบกุญแกรถจากเชน แล้วเดินตรงไปที่รถที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทันทีที่เขาเข้ามาในรถความรู้สึกหนักหัวก็กดลงมาที่หัวเขามากกว่าเดิมจนแมกซ์ทนไม่ไหวต้องหลับไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามีคนต้องการให้เขารับรู้ถึงการตายของใครบางคนและเรื่องในอดีตของคนที่กำลังจะตายเป็นคนต่อไป
มิร่าอาบน้ำชำระร่างกายโดยเปิดวิทยุเสียงดังลั่นเพื่อให้ได้ยินเสียงเข้ามาในห้องน้ำ มันช่างเป็นเพลงที่ไพเราะถ้าอยู่ดีๆ เสียงนักร้องหญิงก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงสวดมนต์จนคนที่อาบน้ำอยู่ชะงักทันที
“ สัญญาณเปลี่ยนเองหรอเนี่ย? ” มิร่ารำพึงกับตัวเอง ปิดน้ำจากฝักบัวแล้วเดินตรงไปที่วิทยุเพื่อเปลี่ยนให้กลับเป็นสถานีเดินแล้วกลับเข้าไปอาบน้ำอีกรอบ
แต่แล้วเหตุการณ์เดิมๆ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีเสียงสวดมนต์ดังมาจากวิทยุอีก มิร่าชะงักทันทีเธอตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าในชีวิตสาวนอกอย่างเธอไม่เคยเจอผีแต่เธอก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ แบบนี้มาก่อน มิร่ารีบอาบน้ำอย่างเร็วที่สุดแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปปิดวิทยุ
เธอเดินมาที่เตียง มือสวยลูบผมที่เปียกแล้วหยิบไดเป่าผมมาเป่าเพื่อให้ผมแห้ง แต่แล้วเสียงสวดมนต์ก็ดังขึ้นมาอีกทั้งๆที่เมื่อครู่เธอปิดวิทยุไปแล้วและไม่ได้เปลี่ยนไปสถานีไหนอีกเลย มิร่าผุดจากเตียงแล้วเดินไปปิดวิทยุอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เป็นผลเสียงพระสวดยังคงดังก้องไปที่ทั่วห้อง เธอก้มลงหมายที่จะไปถอดปลั๊กสายไฟทันที
แต่เมื่อเธอก้มตัวลงก็เห็นว่าปลั๊กมันไม่ได้เสียบอยู่แล้ว!!!
มิร่าถอยกรูดออกมาจากวิทยุทันที เสียงที่ดังมาจากวิทยุที่ไม่ได้เสียบปลั๊กเธอไม่รู้จะทำเช่นไรหยิบวิทยุแล้วขว้างออกไปที่ระเบียงห้องด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบใส่เสื้อผ้าแล้วปิดไฟนอนอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอล้มตัวลงนอนได้ไม่นานปลายเท้าของเธอก็รู้สึกแข็งชาอย่างไม่มีสาเหตุและรามขึ้นมาบนตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ตัวของมิร่าไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปเว้นแต่ตาเท่านั้นที่สามารถหมุนไปดูรอบๆ ห้องได้ แม้กระทั่งเปลือกตาเธอก็ไม่สามารถที่จะปิดมันได้
“ ขอบคุณสำหรับสปาเก็ตตี้นะ ” เสียงของชายคนหนึ่งกระซิบมาที่หูของเธอโดยไม่เห็นร่าง เธอจำมันได้ดีว่ามันเป็นเสียงของไมค์กี้
‘ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ ’ มิร่าพูดไม่ได้ทำได้เพียงแค่คิดในใจ
“ กูคิดถึงมึงไงเลยมาหา ”
‘ ไม่ต้องมาฉันกลัว ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำบุญไปให้ ’ แม้เธอคิดในใจแต่เสียงในใจยังละล่ำละลักพูดราวกับว่าพูดออกมาอย่างตกใจจริงๆ
“ แหม่...พูดไทยชัดแจ๋วเลยนะมึง ไม่ต้องกลัวกูไม่รอมึงถึงวันพรุ่งนี้หรอก กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วยเลยคืนนี้ ” เสียงของไมค์กี้จากที่ลอยมาตามลมราวกับว่ากระซิบที่หูในตอนแรก บัดมีมันดังก้องอยู่ในหูของเธอ ตัวที่แข็งทื่อของมิร่าตอนนี้เหมือนมีมือปริศนาจับให้ร่างของเธอหันมาอีกข้าง มิร่าไม่รู้จะทำเช่นไรเธอคิดได้ว่าสมัยเด็กเธอเคยสวดมนต์ผ่านๆ บทสวดไหนที่เธอนึกขึ้นได้เธอก็รีบท่องทันที
‘ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมา สัมพุทตัสสะ นะโม......’
“ มึงท่องทำไม บทนี้กูก็สวดเป็น!!! ” ยังไม่ทันที่สาวหัวนอกอย่างมิร่าจะท่องจบ ไมค์ก็ก็ชิงพูดขึ้นก่อน แล้วพลังอันมหาศาลก็จับพลิกตัวของมิร่าให้คว่ำลงอยู่ในท่านอนคว่ำ ถัดขึ้นมาบนร่างของมิร่าตอนนี้ไมค์กี้กำลังนั่งทับแล้วกดหัวของมิร่าให้ลงไปกับหมอน น้ำที่หยดลงมาจากตัวของไมค์กี้ลงบนแผ่นหลังของมิร่าช่างหนาวเย็นเหลือเกิน
‘ ฉันไม่เคยทำอะไรให้นาย นายจะมาฆ่าฉันทำไม ’มิร่าเถียงในใจ ตอนนี้จมูกที่ถูกกดลงไปในหมอนเริ่มที่จะหาบใจไม่ออก
“ มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามึงไม่เคย? ” ไมค์กี้ตวาดจนเสียงก้องไปทั่วห้อง แล้วเรื่องราวในอดีตของที่ไม่เคยมีใครรู้เข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
...................................................................................................................................
“ อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงวันที่มีจัดการแข่งขันชิงทุนไปต่างประเทศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย ” มิร่าพูดขึ้นในขณะที่ครูยังไม่เข้ามาสอนในห้อง
“ เชนนายจะลงชิงด้วยไหม? ” มิร่าหันกลับไปถามเชนที่กำลังนั่งติวหนังสือให้แมกซ์และไมค์กี้
“ ไม่ละ...แม่ไม่อยากให้เราไปต่อนอก ” เชนตอบเสียงอ่อย
“ หว้า ...แย่จังนายเป็นตัวเก่งของห้องเชียวนะ อีกอย่างนายก็ ม.6 แล้ว รอเวลานี้ตั้งนานไม่ใช่หรอ ?” เจนหันมาพูดอย่างเสียดายแทน คนหัวดีอย่างเชนถ้าลงแข่งด้วยคงได้อย่างแน่นอนก่อนที่จะถามเพื่อนอีกสองคน “ แล้วพวกนายละจะลองดูไหม ”
“ ฉันคงไม่ละ ” แมกซ์ตอบในขณะที่มือกำลังนั่งลอกการบ้านของเชนอย่างใจจดใจจ่อ
“ แล้วนายละไมค์กี้ ? ” มิร่าถามไมค์กี้บ้าง
“ อืม...น่าสนใจนะอยากลองดูบ้างเหมือนกัน ”
“ เอาสิ...ไปสอบกับยัยมิร่าไปลองดู ” เจนเสนอ
“ งั้นเชนติวหนังสือให้เราหน่อยได้ไหม ?” ไมค์กี้หันมาของร้องเด็กแว่นที่เป็นคนเก่งที่สุดในห้อง
“ ได้สิ ” เชนรับปาก
“ ขอบใจนะ ”
มิร่าที่นั่งฟังทั้งสองคนนัดแนะกันอย่างดิบดี แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้หน้าใสของมิร่ากำลังหัวเราะร่าด้วยความสะใจที่เชนไม่ลงแข่ง เธอหมดคู่แข่งไปหนึ่งแล้ว มิร่าเป็นที่สองรองจากเชนตลอดทุกเทอม และเธอคงไม่มีทางแพ้เด็กใหม่อย่างไมค์กี้เด็ดขาด
ไมค์กี้ติวหนังสือกับเชนทุกๆ เย็น โดยมีแมกซ์นั่งติวเป็นเพื่อน แม้ว่าไมค์กี้จะเพียงลองทำดูไม่คาดหวังอย่างใด แต่เขาก็อยากที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เวลาผ่านไปจนถึงเวลาที่แข่งขันการสอบ มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะมาสอบเข้าชิงทุนไปต่างประเทศในครั้งนี้ และสองในนั้นก็คือมิร่าและไมค์กี้
“ เต้นเต้นหรอไมค์กี้? ” มิร่ากระซิบถามใน ขณะที่กำลังจะเข้าห้องสอบ ไมค์กี้ที่กำลังนั่งหลับตานิ่งเพื่อทำสมาธิสะดุ้งลืมตาขึ้นมาทันที
“ ใช่ๆ มิร่าละ เธอคงเตรียมพร้อมมากเลยสินะ ต่างจากเราเลยนะไม่มีความมั่นใจอะไรเลย ความรู้ในหัวก็ลืมไปแทบจะหมดละ ” ไมค์กี้ถามกลับบ้างตอนนี้มือไม้สั่นไปหมดราวเพราะมันเหมือนกับการสอบเข้ามหาลัย
“ ก็นะ...เราก็ตื่นเต้นแต่ก็มั่นใจนั่นแหละ ยังไงไมค์กี้ก็สู้ๆ นะ ” มิร่ายิ้มให้ไมค์กี้อย่างให้กำลังใจ แต่เขาไม่รู้เลยว่าในใจของมิร่านั้นกลับไม่มีความจริงใจเลยสักนิด
การสอบผ่านไปหลายชั่วโมง ไมค์กี้ก็ทำอย่างสุดความสามารถแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าไม่ผ่านอย่างแน่นอน แต่ลึกๆไมค์กี้ก็ยังคงหวังอยู่เช่นนั้น ส่วนมิร่าเองเดินเชิดหน้าออกมาด้วยความมั่นใจจนไมค์กี้รู้สึกว่าตัวของตนเองเล็กลงไปหลายเท่า แต่ความมั่นใจของหญิงสาวกลับทำให้มีคนในห้องสอบที่เข้าร่วมแข่งขันด้วยหมั่นไส้เธอไปพร้อมๆ กัน
การรอผลสอบนั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งโรงเรียนไม่น้อย แต่คนที่ดูจะมั่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้นมิร่า เธอเองมีเงินมากพอที่สามารถจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศด้วยซ้ำ แต่เธอก็อยากจะแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นเช่นกันว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ที่รวย
“ เอาละค่ะ...ได้ข่าวว่าห้องนี้ก็มีคนไปแข่งขันสอบกับเขาด้วยหรอ? ครูไม่ยักจะรู้เรื่องเลย ” ครูอิงอร เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับม้วนกระดาษหนึ่งแผ่นที่อยู่ในมือ “ และครูก็มีข่าวดีจะมาบอกด้วยนะ ”
คำพูดของอาจารย์อิงอรทำเอามิร่ายิ้มแก้มปริอย่างอดไม่ได้ ไมค์กี้ก็เช่นกันแต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะได้รับเลือกอยู่แล้ว แต่เขาเพียงตื่นเต้นเท่านั้นที่มิร่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาจะได้เป็นตัวแทนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
“ ขอแสดงความยินดีกับไมค์กี้และมิร่าด้วยนะ แต่ว่าคนที่จะต้องไปมีเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น ดังนั้นขอให้ทั้งสองคนมาสอบใหม่อีกครั้งในเย็นวันพรุ่งนี้ด้วยนะ เพราะเธอทั้งสองคนได้คะแนนมากที่สุดและคะแนนดันเท่ากันด้วย ”
คำตอบของอาจารย์อิงอรทำเอาทุกคนในห้องตาโตทันที แต่คนที่ดีใจมากมีเพียงไมค์กี้แค่คนเดียวเท่านั้น ในส่วนของมิร่าที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มเล็กๆ เท่านั้น แต่ในใจกลับแค้นว่าคนที่ได้ที่สองรองจากเชนอย่างเธอกลับต้องมาเทียบเท่าเด็กใหม่อย่างไมค์กี้ เพียงคิดแค่นี้เธอก็อายเพื่อนทั้งห้องแล้ว
“ ดีใจด้วยนะทั้งสองคน แหม...แต่เสียดายจังที่ไปได้แค่คนเดียว ถ้าไปได้ทั้งสองคนเนี่ยนะฉันจะดีใจมากเลยที่เพื่อนฉันทั้งสองคนได้ไปต่างประเทศ ” เจนพูดอย่างดีใจ ในขณะหันหลังไปหาไมค์กี้ที่กำลังยิ้มอย่างดีใจในตอนนี้
“ เชอะ ...อย่าให้มันออกนอกหน้าให้มานัก ” ตี๋พูดขึ้นมาอย่างลอยๆ เจนจึงได้แต่หันไปตีตี๋เบาๆ
“ มิร่า...ทำไมเธอถึงแพ้ไมค์กี้ได้เนี่ย? ” เจนพูดกระแทกกระทั้นเพื่อนทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ต่างจากเมื่อครู่ที่ทำได้เพียงใส่หน้ากาก
“ อย่าพูดว่าแพ้ได้ไหม ฉันกับมันแค่คะแนนเท่านั้น คนอย่างมันแค่ฟลุคเท่านั้นแหละ!!! ” มิร่าเดินไปกระแทกทิชชู่ใส่ถังขยะอย่างใส่อารมณ์
“ แต่เธออย่าลืมนะ ว่าอย่างไอเชนเธอยังแพ้เลย แล้วเธอยังมาเสมอเทียบเท่ากับไอไมค์กี้อีกหรอ? ”
“ นี่แค่ฉันแพ้มันฉันก็แค้นใจอยู่แล้ว...เธอยังจะมาทับถมฉันทำไมเนี่ย?! ” มิร่าหันมาพูดอย่างน้อยใจ
“ เอาหน่า...เธอก็เอาใหม่สิเย็นพรุ่งนี้เธอก็เอาชนะมันให้ได้ ” เจนกำมือให้มิร่าเชิงอย่างผู้มีชัย
ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำมิร่าที่เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็ยังคงอารมณ์ครุกรุ่นอยู่อย่างนั้นเช่นเดิม แต่เมื่อเห็นไมค์กี้ เชน และแมกซ์ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน โดยมีไมค์กี้นั่งฟังเชนที่อ่านจากหนังสืออย่างตั้งใจ
“ เอ้า หนุ่มๆ ทำอะไรกันอยู่หรอ? ” เจนปั้นหน้าถามโดยไม่มีความหมั่นไส้อยู่ในแววตาเหมือนเมื่อครู่แม้แต่สักนิด
“ เชนกำลังติวหนังสือให้เราอยู่น่ะ...มิร่ามาร่วมด้วยไหม? ” ไมค์กี้ตอบอย่างยิ้มกว้าง
“ อ่อ...คือพวกเรากำลังรีบน่ะ พอดีว่าลืมของไว้ เดี๋ยวเราไปก่อนนะ ”มิร่าตอบก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินนำหน้าเจนออกไปทันที
“ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องนะ พอดีเจนรีบ ” เจนรีบบอกกับทุกคนแล้วรีบเดินตามเพื่อนไป
“ เป็นอะไรไปมิร่าทำไมทำหน้าบูดอย่างนั้นล่ะ? ” บาสถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้องแล้วทำเสียงดังตึงตัง โดยมีเจนวิ่งตามมาติดๆ
“ อ้อ...หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เธอแพ้ไอไมค์กี้หรอ? ” เอ็มแหย่ แต่เหมือนมิร่าถูกจี้จุดจนหน้าสวยหันมาถลึงตาใส่เพื่อนชายที่กำลังทำหน้าทะเล้น
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยละเอ็ม?...อย่างนายเนี่ยไม่มีปัญญาแม้แต่สอบด้วย ซ้ำ! ” เจนหันไปต่อว่าเจ้าตัวที่พ่นคำแหย่ออกมา แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกสักนิด
“ ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะไม่ยอมแพ้ไอเด็กใหม่เด็ดขาด ดูอย่างที่ฉันได้เป็นตัวแทนแข่งวิ่งสิ ” บาสหันหน้ามาพูดกับมิร่าอย่างจริงจัง
“ แล้วใครบอกละ...ว่าฉันจะแพ้? ” มิร่าตอบอย่างแค้นใจ
“ งั้นเธอก็ต้องทำให้พวกฉันเห็นสิว่าเธอจะไม่แพ้ ” ตี๋พูดบ้าง
“ แน่นอน ...เพื่อฉันต้องไม่แพ้แน่!!! ” เจนยิ้มกริ่มแล้วหันไปมองมิร่า ที่แต่เก็บความคับแค้นใจไว้อย่างมาก ในใจด่าไปต่างๆ นาๆ
‘ ทำเป็นมานั่งติวหนังสือแต่ก็แอบนินทาฉันอยู่ใช่ไหม อย่ามาทำเป็นอวดเก่งให้มันมาก แกไม่มีสิทธิ์มาเทียบชั้นกับฉันไอเด็กใหม่ แกไม่มีสิทธิ์แม้แต่ที่จะได้รับเลือกที่จะได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยซ้ำ ฉันจะทำให้แกรู้ว่าฉันนี่แหละที่หนึ่งจนแม้แต่แกก็ไม่มีวันที่จะเป็นที่สองแต่แกต้องเป็นที่สุดท้าย
เธอริษยา...ฉันอาฆาต
แมกซ์ช่วยงานศพของเอ็มจนดึกดื่น ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดราวกับคนไม่มีเลือดอยู่บนใบหน้า หัวของเขาหนักอึ้ง ความหนาวแปลกๆปกคลุมร่างกายราวกับว่าเขาจะไม่สบาย
“ แมกซ์เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เชนถามผู้เป็นเพื่อนเมื่อเห็นสภาพเช่นนี้
“ ฉันรู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ค่อยดีเลยเชน ” แมกซ์ตอบก่อนที่จะเอามืออังไปที่หน้าผากของตนเองเพื่อตรวจสอบว่าเขานั้นตัวร้อนหรือไม่แต่ก็เป็นปกติ
“ งั้นเราว่าแมกซ์ไปนอนในรถของเราก่อนก็ได้...เดี๋ยวเราจัดการเก็บของช่วยทางนี้ต่อเอง ”
“ งั้นฝากด้วยนะ ” แมกซ์หยิบกุญแกรถจากเชน แล้วเดินตรงไปที่รถที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทันทีที่เขาเข้ามาในรถความรู้สึกหนักหัวก็กดลงมาที่หัวเขามากกว่าเดิมจนแมกซ์ทนไม่ไหวต้องหลับไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามีคนต้องการให้เขารับรู้ถึงการตายของใครบางคนและเรื่องในอดีตของคนที่กำลังจะตายเป็นคนต่อไป
มิร่าอาบน้ำชำระร่างกายโดยเปิดวิทยุเสียงดังลั่นเพื่อให้ได้ยินเสียงเข้ามาในห้องน้ำ มันช่างเป็นเพลงที่ไพเราะถ้าอยู่ดีๆ เสียงนักร้องหญิงก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงสวดมนต์จนคนที่อาบน้ำอยู่ชะงักทันที
“ สัญญาณเปลี่ยนเองหรอเนี่ย? ” มิร่ารำพึงกับตัวเอง ปิดน้ำจากฝักบัวแล้วเดินตรงไปที่วิทยุเพื่อเปลี่ยนให้กลับเป็นสถานีเดินแล้วกลับเข้าไปอาบน้ำอีกรอบ
แต่แล้วเหตุการณ์เดิมๆ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีเสียงสวดมนต์ดังมาจากวิทยุอีก มิร่าชะงักทันทีเธอตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าในชีวิตสาวนอกอย่างเธอไม่เคยเจอผีแต่เธอก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ แบบนี้มาก่อน มิร่ารีบอาบน้ำอย่างเร็วที่สุดแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปปิดวิทยุ
เธอเดินมาที่เตียง มือสวยลูบผมที่เปียกแล้วหยิบไดเป่าผมมาเป่าเพื่อให้ผมแห้ง แต่แล้วเสียงสวดมนต์ก็ดังขึ้นมาอีกทั้งๆที่เมื่อครู่เธอปิดวิทยุไปแล้วและไม่ได้เปลี่ยนไปสถานีไหนอีกเลย มิร่าผุดจากเตียงแล้วเดินไปปิดวิทยุอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เป็นผลเสียงพระสวดยังคงดังก้องไปที่ทั่วห้อง เธอก้มลงหมายที่จะไปถอดปลั๊กสายไฟทันที
แต่เมื่อเธอก้มตัวลงก็เห็นว่าปลั๊กมันไม่ได้เสียบอยู่แล้ว!!!
มิร่าถอยกรูดออกมาจากวิทยุทันที เสียงที่ดังมาจากวิทยุที่ไม่ได้เสียบปลั๊กเธอไม่รู้จะทำเช่นไรหยิบวิทยุแล้วขว้างออกไปที่ระเบียงห้องด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบใส่เสื้อผ้าแล้วปิดไฟนอนอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอล้มตัวลงนอนได้ไม่นานปลายเท้าของเธอก็รู้สึกแข็งชาอย่างไม่มีสาเหตุและรามขึ้นมาบนตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ตัวของมิร่าไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปเว้นแต่ตาเท่านั้นที่สามารถหมุนไปดูรอบๆ ห้องได้ แม้กระทั่งเปลือกตาเธอก็ไม่สามารถที่จะปิดมันได้
“ ขอบคุณสำหรับสปาเก็ตตี้นะ ” เสียงของชายคนหนึ่งกระซิบมาที่หูของเธอโดยไม่เห็นร่าง เธอจำมันได้ดีว่ามันเป็นเสียงของไมค์กี้
‘ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ ’ มิร่าพูดไม่ได้ทำได้เพียงแค่คิดในใจ
“ กูคิดถึงมึงไงเลยมาหา ”
‘ ไม่ต้องมาฉันกลัว ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำบุญไปให้ ’ แม้เธอคิดในใจแต่เสียงในใจยังละล่ำละลักพูดราวกับว่าพูดออกมาอย่างตกใจจริงๆ
“ แหม่...พูดไทยชัดแจ๋วเลยนะมึง ไม่ต้องกลัวกูไม่รอมึงถึงวันพรุ่งนี้หรอก กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วยเลยคืนนี้ ” เสียงของไมค์กี้จากที่ลอยมาตามลมราวกับว่ากระซิบที่หูในตอนแรก บัดมีมันดังก้องอยู่ในหูของเธอ ตัวที่แข็งทื่อของมิร่าตอนนี้เหมือนมีมือปริศนาจับให้ร่างของเธอหันมาอีกข้าง มิร่าไม่รู้จะทำเช่นไรเธอคิดได้ว่าสมัยเด็กเธอเคยสวดมนต์ผ่านๆ บทสวดไหนที่เธอนึกขึ้นได้เธอก็รีบท่องทันที
‘ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมา สัมพุทตัสสะ นะโม......’
“ มึงท่องทำไม บทนี้กูก็สวดเป็น!!! ” ยังไม่ทันที่สาวหัวนอกอย่างมิร่าจะท่องจบ ไมค์ก็ก็ชิงพูดขึ้นก่อน แล้วพลังอันมหาศาลก็จับพลิกตัวของมิร่าให้คว่ำลงอยู่ในท่านอนคว่ำ ถัดขึ้นมาบนร่างของมิร่าตอนนี้ไมค์กี้กำลังนั่งทับแล้วกดหัวของมิร่าให้ลงไปกับหมอน น้ำที่หยดลงมาจากตัวของไมค์กี้ลงบนแผ่นหลังของมิร่าช่างหนาวเย็นเหลือเกิน
‘ ฉันไม่เคยทำอะไรให้นาย นายจะมาฆ่าฉันทำไม ’มิร่าเถียงในใจ ตอนนี้จมูกที่ถูกกดลงไปในหมอนเริ่มที่จะหาบใจไม่ออก
“ มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามึงไม่เคย? ” ไมค์กี้ตวาดจนเสียงก้องไปทั่วห้อง แล้วเรื่องราวในอดีตของที่ไม่เคยมีใครรู้เข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
...................................................................................................................................
“ อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงวันที่มีจัดการแข่งขันชิงทุนไปต่างประเทศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย ” มิร่าพูดขึ้นในขณะที่ครูยังไม่เข้ามาสอนในห้อง
“ เชนนายจะลงชิงด้วยไหม? ” มิร่าหันกลับไปถามเชนที่กำลังนั่งติวหนังสือให้แมกซ์และไมค์กี้
“ ไม่ละ...แม่ไม่อยากให้เราไปต่อนอก ” เชนตอบเสียงอ่อย
“ หว้า ...แย่จังนายเป็นตัวเก่งของห้องเชียวนะ อีกอย่างนายก็ ม.6 แล้ว รอเวลานี้ตั้งนานไม่ใช่หรอ ?” เจนหันมาพูดอย่างเสียดายแทน คนหัวดีอย่างเชนถ้าลงแข่งด้วยคงได้อย่างแน่นอนก่อนที่จะถามเพื่อนอีกสองคน “ แล้วพวกนายละจะลองดูไหม ”
“ ฉันคงไม่ละ ” แมกซ์ตอบในขณะที่มือกำลังนั่งลอกการบ้านของเชนอย่างใจจดใจจ่อ
“ แล้วนายละไมค์กี้ ? ” มิร่าถามไมค์กี้บ้าง
“ อืม...น่าสนใจนะอยากลองดูบ้างเหมือนกัน ”
“ เอาสิ...ไปสอบกับยัยมิร่าไปลองดู ” เจนเสนอ
“ งั้นเชนติวหนังสือให้เราหน่อยได้ไหม ?” ไมค์กี้หันมาของร้องเด็กแว่นที่เป็นคนเก่งที่สุดในห้อง
“ ได้สิ ” เชนรับปาก
“ ขอบใจนะ ”
มิร่าที่นั่งฟังทั้งสองคนนัดแนะกันอย่างดิบดี แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้หน้าใสของมิร่ากำลังหัวเราะร่าด้วยความสะใจที่เชนไม่ลงแข่ง เธอหมดคู่แข่งไปหนึ่งแล้ว มิร่าเป็นที่สองรองจากเชนตลอดทุกเทอม และเธอคงไม่มีทางแพ้เด็กใหม่อย่างไมค์กี้เด็ดขาด
ไมค์กี้ติวหนังสือกับเชนทุกๆ เย็น โดยมีแมกซ์นั่งติวเป็นเพื่อน แม้ว่าไมค์กี้จะเพียงลองทำดูไม่คาดหวังอย่างใด แต่เขาก็อยากที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เวลาผ่านไปจนถึงเวลาที่แข่งขันการสอบ มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะมาสอบเข้าชิงทุนไปต่างประเทศในครั้งนี้ และสองในนั้นก็คือมิร่าและไมค์กี้
“ เต้นเต้นหรอไมค์กี้? ” มิร่ากระซิบถามใน ขณะที่กำลังจะเข้าห้องสอบ ไมค์กี้ที่กำลังนั่งหลับตานิ่งเพื่อทำสมาธิสะดุ้งลืมตาขึ้นมาทันที
“ ใช่ๆ มิร่าละ เธอคงเตรียมพร้อมมากเลยสินะ ต่างจากเราเลยนะไม่มีความมั่นใจอะไรเลย ความรู้ในหัวก็ลืมไปแทบจะหมดละ ” ไมค์กี้ถามกลับบ้างตอนนี้มือไม้สั่นไปหมดราวเพราะมันเหมือนกับการสอบเข้ามหาลัย
“ ก็นะ...เราก็ตื่นเต้นแต่ก็มั่นใจนั่นแหละ ยังไงไมค์กี้ก็สู้ๆ นะ ” มิร่ายิ้มให้ไมค์กี้อย่างให้กำลังใจ แต่เขาไม่รู้เลยว่าในใจของมิร่านั้นกลับไม่มีความจริงใจเลยสักนิด
การสอบผ่านไปหลายชั่วโมง ไมค์กี้ก็ทำอย่างสุดความสามารถแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าไม่ผ่านอย่างแน่นอน แต่ลึกๆไมค์กี้ก็ยังคงหวังอยู่เช่นนั้น ส่วนมิร่าเองเดินเชิดหน้าออกมาด้วยความมั่นใจจนไมค์กี้รู้สึกว่าตัวของตนเองเล็กลงไปหลายเท่า แต่ความมั่นใจของหญิงสาวกลับทำให้มีคนในห้องสอบที่เข้าร่วมแข่งขันด้วยหมั่นไส้เธอไปพร้อมๆ กัน
การรอผลสอบนั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งโรงเรียนไม่น้อย แต่คนที่ดูจะมั่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้นมิร่า เธอเองมีเงินมากพอที่สามารถจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศด้วยซ้ำ แต่เธอก็อยากจะแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นเช่นกันว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ที่รวย
“ เอาละค่ะ...ได้ข่าวว่าห้องนี้ก็มีคนไปแข่งขันสอบกับเขาด้วยหรอ? ครูไม่ยักจะรู้เรื่องเลย ” ครูอิงอร เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับม้วนกระดาษหนึ่งแผ่นที่อยู่ในมือ “ และครูก็มีข่าวดีจะมาบอกด้วยนะ ”
คำพูดของอาจารย์อิงอรทำเอามิร่ายิ้มแก้มปริอย่างอดไม่ได้ ไมค์กี้ก็เช่นกันแต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะได้รับเลือกอยู่แล้ว แต่เขาเพียงตื่นเต้นเท่านั้นที่มิร่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาจะได้เป็นตัวแทนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
“ ขอแสดงความยินดีกับไมค์กี้และมิร่าด้วยนะ แต่ว่าคนที่จะต้องไปมีเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น ดังนั้นขอให้ทั้งสองคนมาสอบใหม่อีกครั้งในเย็นวันพรุ่งนี้ด้วยนะ เพราะเธอทั้งสองคนได้คะแนนมากที่สุดและคะแนนดันเท่ากันด้วย ”
คำตอบของอาจารย์อิงอรทำเอาทุกคนในห้องตาโตทันที แต่คนที่ดีใจมากมีเพียงไมค์กี้แค่คนเดียวเท่านั้น ในส่วนของมิร่าที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มเล็กๆ เท่านั้น แต่ในใจกลับแค้นว่าคนที่ได้ที่สองรองจากเชนอย่างเธอกลับต้องมาเทียบเท่าเด็กใหม่อย่างไมค์กี้ เพียงคิดแค่นี้เธอก็อายเพื่อนทั้งห้องแล้ว
“ ดีใจด้วยนะทั้งสองคน แหม...แต่เสียดายจังที่ไปได้แค่คนเดียว ถ้าไปได้ทั้งสองคนเนี่ยนะฉันจะดีใจมากเลยที่เพื่อนฉันทั้งสองคนได้ไปต่างประเทศ ” เจนพูดอย่างดีใจ ในขณะหันหลังไปหาไมค์กี้ที่กำลังยิ้มอย่างดีใจในตอนนี้
“ เชอะ ...อย่าให้มันออกนอกหน้าให้มานัก ” ตี๋พูดขึ้นมาอย่างลอยๆ เจนจึงได้แต่หันไปตีตี๋เบาๆ
“ มิร่า...ทำไมเธอถึงแพ้ไมค์กี้ได้เนี่ย? ” เจนพูดกระแทกกระทั้นเพื่อนทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ต่างจากเมื่อครู่ที่ทำได้เพียงใส่หน้ากาก
“ อย่าพูดว่าแพ้ได้ไหม ฉันกับมันแค่คะแนนเท่านั้น คนอย่างมันแค่ฟลุคเท่านั้นแหละ!!! ” มิร่าเดินไปกระแทกทิชชู่ใส่ถังขยะอย่างใส่อารมณ์
“ แต่เธออย่าลืมนะ ว่าอย่างไอเชนเธอยังแพ้เลย แล้วเธอยังมาเสมอเทียบเท่ากับไอไมค์กี้อีกหรอ? ”
“ นี่แค่ฉันแพ้มันฉันก็แค้นใจอยู่แล้ว...เธอยังจะมาทับถมฉันทำไมเนี่ย?! ” มิร่าหันมาพูดอย่างน้อยใจ
“ เอาหน่า...เธอก็เอาใหม่สิเย็นพรุ่งนี้เธอก็เอาชนะมันให้ได้ ” เจนกำมือให้มิร่าเชิงอย่างผู้มีชัย
ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำมิร่าที่เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็ยังคงอารมณ์ครุกรุ่นอยู่อย่างนั้นเช่นเดิม แต่เมื่อเห็นไมค์กี้ เชน และแมกซ์ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน โดยมีไมค์กี้นั่งฟังเชนที่อ่านจากหนังสืออย่างตั้งใจ
“ เอ้า หนุ่มๆ ทำอะไรกันอยู่หรอ? ” เจนปั้นหน้าถามโดยไม่มีความหมั่นไส้อยู่ในแววตาเหมือนเมื่อครู่แม้แต่สักนิด
“ เชนกำลังติวหนังสือให้เราอยู่น่ะ...มิร่ามาร่วมด้วยไหม? ” ไมค์กี้ตอบอย่างยิ้มกว้าง
“ อ่อ...คือพวกเรากำลังรีบน่ะ พอดีว่าลืมของไว้ เดี๋ยวเราไปก่อนนะ ”มิร่าตอบก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินนำหน้าเจนออกไปทันที
“ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องนะ พอดีเจนรีบ ” เจนรีบบอกกับทุกคนแล้วรีบเดินตามเพื่อนไป
“ เป็นอะไรไปมิร่าทำไมทำหน้าบูดอย่างนั้นล่ะ? ” บาสถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้องแล้วทำเสียงดังตึงตัง โดยมีเจนวิ่งตามมาติดๆ
“ อ้อ...หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เธอแพ้ไอไมค์กี้หรอ? ” เอ็มแหย่ แต่เหมือนมิร่าถูกจี้จุดจนหน้าสวยหันมาถลึงตาใส่เพื่อนชายที่กำลังทำหน้าทะเล้น
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยละเอ็ม?...อย่างนายเนี่ยไม่มีปัญญาแม้แต่สอบด้วย ซ้ำ! ” เจนหันไปต่อว่าเจ้าตัวที่พ่นคำแหย่ออกมา แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกสักนิด
“ ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะไม่ยอมแพ้ไอเด็กใหม่เด็ดขาด ดูอย่างที่ฉันได้เป็นตัวแทนแข่งวิ่งสิ ” บาสหันหน้ามาพูดกับมิร่าอย่างจริงจัง
“ แล้วใครบอกละ...ว่าฉันจะแพ้? ” มิร่าตอบอย่างแค้นใจ
“ งั้นเธอก็ต้องทำให้พวกฉันเห็นสิว่าเธอจะไม่แพ้ ” ตี๋พูดบ้าง
“ แน่นอน ...เพื่อฉันต้องไม่แพ้แน่!!! ” เจนยิ้มกริ่มแล้วหันไปมองมิร่า ที่แต่เก็บความคับแค้นใจไว้อย่างมาก ในใจด่าไปต่างๆ นาๆ
‘ ทำเป็นมานั่งติวหนังสือแต่ก็แอบนินทาฉันอยู่ใช่ไหม อย่ามาทำเป็นอวดเก่งให้มันมาก แกไม่มีสิทธิ์มาเทียบชั้นกับฉันไอเด็กใหม่ แกไม่มีสิทธิ์แม้แต่ที่จะได้รับเลือกที่จะได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยซ้ำ ฉันจะทำให้แกรู้ว่าฉันนี่แหละที่หนึ่งจนแม้แต่แกก็ไม่มีวันที่จะเป็นที่สองแต่แกต้องเป็นที่สุดท้าย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ