Bad End Night [Vocaloid]

9.6

เขียนโดย Yuukuriuddo39

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.

  4 บท
  6 วิจารณ์
  10.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 11.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทละครที่สูญหายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

           ไคโตะดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งที่เมย์โกะพูดสักเท่าไหร่ สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้ก็คือแก้วชาเย็นๆที่เมย์โกะเพิ่งรินไปได้ไม่นาน ดังนั้นเขาจึงยื่นมือออกไปพลางยิ้มน้อยๆ การกระทำของเขามันช่างดูเหมือนขุนนางในพระราชวังยิ่งนัก มันช่างดูสง่างามอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งฉันก็คิดว่าไคโตะอาจจะคิดเอาไว้แล้วว่าสิ่งที่เขาทำไปจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ถึงแม้มันจะเป็นแค่กิจกรรมเล็กๆแค่เหมือนการยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำ แต่เขาก็พิถีพิถันมาก

            “หืม? มิคุ อยากเติมชาหรอ?” ไคโตะหันมาหาฉัน

            “หะ?”

            “ก็... เธอมองมาที่แก้วฉันอยู่นี่นา... หรืออย่าบอกนะว่าเธอกำลังมองมาที่ฉันอยู่!?!?”

            เขาขยิบตาใส่ฉัน แต่จริงๆแล้วฉันไม่ได้มองเขาหรอก ฉันมองไปที่แก้วชาของเขาต่างหาก จริงๆฉันก็อยากสื่อนะว่าท่าทางเขาเป็นยังไง แต่ฉันดันหาคำพูดดีๆไม่ได้ซะนี่

            “เอ่อ... คือว่า...”

            “หาวววววว~” ลูกะเข้ามาขัด “อะไรทำให้คุณคิดว่าเธอกำลังดูอะไรอยู่ล่ะ มิคุเธอก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบมองสิ่งของต่างๆไปเรื่อย” เธอบอกไคโตะ

            “พี่ลูกะ?” ฉันยักคิ้ว

            “แหม่... สายตาลูกะนี่บอกได้ทุกอย่างจริงๆ” ไคโตะยิ้มน้อยๆ “มิคุ เธอน่ะอยากรู้จริงๆหรอว่าฉันดื่มชายังไง ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าช่วงนี้เธอจะจ้องมาที่ฉันบ่อยมากเลยนะ ไม่ว่าตอนที่ฉันจะทำอะไรก็ตาม”

            “เอ่อ... ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น...”

            “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีผู้หญิงคนไหนอยากจ้องมาที่ฉันแล้วล่ะก็ ฉันยินดีเสมอล่ะ”

            “(ฉันจ้องเขามากไปหรือนี่?) ตะ... แต่ว่า จริงๆแล้วพี่น่ะมีท่าทางที่สง่างามมากเลย เหมือนกับว่าพี่เป็นลูกขุนนางหรืออะไรสักอย่างนี่แหล่ะ”

            “หืม? แค่นั้น... หรอ? ฮ่าๆๆๆ ก็... นะ ก็ฉันเป็นพวกผู้ดีนี่นา”

            “ใช่! พวกผู้ดี... ไม่สิ พวกพ่อบ้านดีกว่า”

            “พะ... พ่อบ้าน...”

            ไคโตะคอตกอย่างน่าเวทนาหลังจากได้ยินข้อคิดเห็นจากฉัน ลูกะกับเมย์โกะก็พลันหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว

            “แหม่... ฉันก็คิดอยู่นะว่าคุณกำลังจะรุ่งน่ะ ฮ่าๆๆ” ลูกะหันหน้าไปหาไคโตะ “สงสัยสายตาฉันคงจะไม่ดีละม้างงง~”

            ลูกะคงจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกมากที่เดียวถึงกับขำไม่หยุดระหว่างที่เธอกำลังวิจารณ์เขา  จากนั้นเธอก็เอานมในกล่องรินเข้าไปในแก้วกาแฟที่เมย์โกะพึ่งให้เธอมา แต่น่าแปลกนะ เมื่อครั้งก่อนเธอยังดื่มกาแฟที่เข้มกว่านี้อยู่เลย

            “เอ่อ... พี่ลูกะคะ ไหนวันก่อนบอกว่าจะดื่มแต่กาแฟดำไงคะ” ฉันถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

            “หืม? อ้อใช่ ฉันบอกไปแบบนั้นซินะ ก็ตอนนั้นน่ะพวกนักข่าวเขาอยู่กันเต็มเลย ฉันก็เลยบอกไปว่าชอบกินกาแฟดำเพราะแหม่... มันดูดีใช่มั้ยล่ะ? แต่จริงๆแล้วฉันก็เกลียดของขมหมดทุกอย่างน่ะแหละ ฉันชอบพวกแอลกอฮอล์กับขนมหวานมากกว่า”

            “โห... ท่าทางพี่ตอนนั้นนี่เกือบทำให้หนูเชื่อสนิทไปเลยนะนั่นน่ะ”

            “โอ้ะ! ก็แหม... ฉันเป็นนักแสดงนี่นา แน่นอนสิว่าฉันต้องพยายามทำตัวให้ดูดีที่สุด เหมือนกับหนูน่ะแหละ ที่นี่เป็นบริษัทบัวร์เล็ตนะรู้ไหม ทุกๆคนที่นี่น่ะต้องพยายามทำตัวเองให้เพอร์เฟ็คที่สุด ไม่งั้นพวกเขาก็จะคิดว่าบัวร์เล็ตน่ะแย่ลงเรื่อยๆ”

            “บัวร์เล็ต...” ฉันพึมพำออกมาเบาๆ

            บริษัทบัวร์เล็ต... กลุ่มนักแสดงของพวกเรา

            กลุ่มนักแสดงบัวร์เล็ตรุ่นแรกถูกก่อตั้งเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้วด้วยผลงานสุดสร้างสรรค์ของคุณนายบัวร์เล็ต เขาเป็นผู้ริเริ่มการแสดงในเมืองเวสท์เอนด์แห่งนี้ บริษัทบัวร์เล็ตนั้นเป็นกลุ่มนักแสดงที่แสดงบทละครจากคุณนายบัวร์เล็ต โดยบทละครและการแสดงจะถูกแสดงในคุณภาพที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในการแสดง เวที ฉาก แสงไฟ ดนตรี ชุดแสดง หรือทุกสิ่งที่สามารถชักจูงให้ผู้คนเข้ามารับชมได้

            แต่เมื่อไม่กี่ปีมาแล้ว เทคโนโลยีการทำหนังวีดีโอก็ปรากฏขึ้นมา นั่นทำให้บริษัทบัวร์เล็ตค่อยๆตกลงมาเรื่อยๆเนื่องจากคนส่วนใหญ่หันไปชมหนังภาพยนตร์กันหมดแล้ว แต่บริษัทบัวร์เล็ตก็ยังคงอดทนรอดมาได้จนถึงวินาทีนี้ ถึงแม้ว่ายอดขายของพวกเราจะตกลงไปเยอมาก แต่พวกเราก็ยังคงจะตั้งใจแสดงกันอย่างเต็มที่เพื่อผู้ชมที่รักบริษัทของเรา รักการแสดงของเรา

            ส่วนตัวฉันนั้นชื่นชอบผลงานของคุณนายบัวร์เล็ตอยู่แล้ว จึงตัดสินใจสมัครเข้ามาในที่แห่งนี้ เมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก คุณย่าของฉันก็ชอบพาฉันออกมาจากบ้านเพื่อที่จะมารับชมการแสดงของบริษัทบัวร์เล็ต การแสดงครั้งนั้นมีชื่อว่า “ความเงียบท่ามกลางหิมะในยามค่ำคืน” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยปล่อยหิมะจริงลงมากลางเวที แต่ในตอนนั้นฉันก็รู้สึกได้ว่าตนเองกำลังหลงอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยหิมะสีเทาๆ มันช่างดูน่าอัศจรรย์จริงๆ

            หลังจากนั้นฉันก็หลงไหลไปในมนต์เสน่ห์ของการแสดงบัวร์เล็ต ด้วยความฝันว่าอยากไปเป็นนักแสดงของบริษัทนั้นดูสักครั้ง ฉันย้ายบ้านมาที่เมืองเวสท์เอนต์เมื่อปีที่แล้วเพื่อที่จะมาชมการแสดงบัวร์เล็ตอีกครั้ง แต่เพื่อที่จะหาเงินที่จะเข้าไปชมการแสดง ฉันก็ต้องทำงานเป็นพนักงานในร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งในเมืองนี้

            ลูกะ สาวนักแสดงที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในกลุ่มพวกเราทั้งหมดทั้งยังทำงานเป็นโมเดลอีกด้วย ไคโตะ ผู้นำของพวกเราทั้งหมดในกลุ่มการแสดงที่ทำงานเป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับ เมย์โกะ สาวที่อายุเยอะที่สุดในกลุ่มพวกเราที่ขึ้นชื่อในการแสดงที่ประณีตประนอมมาก ฉันคอยเฝ้าติดตามกลุ่มคนเหล่านี้มาตั้งแต่ต้นแล้วและฉันก็อยากเห็นพวกเขาแสดงอีกไปเรื่อยๆซ้ำไปซ้ำมา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ไปเรียนในโรงเรียนสอนการแสดงเพราะฉันไม่มีเงิน แต่ฉันก็อาศัยการชมการแสดงของพวกเราเหล่านี้และลอกเลียนพวกเขามา จากนั้นฉันก็ฝึกฝนการแสดงของฉันด้วยตัวของฉันเองเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็ม โดยความหวังที่ว่าสักวันหนึ่งฉันจะต้องไปเป็นนักแสดงที่นั่นให้ได้  

            เมื่อสามเดือนที่แล้วก็มีข่าวออกมาจากบริษัทบัวร์เล็ตที่ครึกโครมกันมาก ว่ากันว่าในตอนแรก ผลงานบทละครที่ชื่อว่า “Crazy ∞ nighT” ของคุณนายบัวร์เล็ตซึ่งมีแผนว่าจะให้แสดงหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปก็ดันสูญหายไป หรือไว้เพียงแค่หัวข้อเท่านั้น ทำให้บทละครนั้นเป็นบทละครเดียวที่ไม่ได้ถูกแสดงในบริษัทบัวร์เล็ต ซึ่งข่าวที่ครึกโครมกันมากก็คือการค้นพบส่วนที่เหลือของบทละครซึ่งถูกพบในห้องใต้ดินของบริษัทบัวร์เล็ตเอง ซึ่งทางบริษัทบัวร์เล็ตก็ออกมาประกาศว่าจะแสดงบทละครอันสุดพิเศษนี้ให้ได้รับชมกัน จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บริษัทบัวร์เล็ตกลับขึ้นมาเป็นที่พูดคุยกันอีกครั้งหลังจากที่ถูกทิ้งร้างไปเป็นเวลานาน

            ไม่เพียงเช่นนั้น บริษัทบัวร์เล็ตได้ออกมาประกาศถึงการคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่ซึ่งจะได้แสดงในบทละครอันสุดพิเศษ และผู้ที่ได้ถูกรับเลือกก็จะได้เล่นเป็นนักแสดงนำของบทละครนี้ ในตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะเข้าร่วมด้วยเพราะว่าฉันไม่เคยได้ยืนบนเวทีจริงๆมาก่อน ฉันจึงไม่ได้หวังอะไรมากมายนัก และฉันก็ไม่ได้ส่งชื่อเข้าไปด้วย แต่เจ้าของร้านเบเกอรี่นี่สิ ดันส่งชื่อฉันเข้าไปแถมไม่ได้บอกฉันด้วย เขาพึ่งมาบอกฉันสามวันก่อนการคัดเลือกนี่เอง

             ตอนแรก ฉันก็ไม่ได้คิดจริงจังหรอกนะว่าเขาจะทำอย่างนั้นลงไป และฉันก็คิดว่าถึงแม้ว่าฉันจะส่งชื่อไปแล้ว ฉันก็คงไม่ไปหรอกเพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงก็คงไม่ผ่าน แต่เจ้าของร้านเบเกอรี่ก็ยังอุตส่าห์มาบอกฉันว่า “ลองดูสิ ถ้าครั้งนี้เธอไม่ผ่าน เธอก็ค่อยไปครั้งหน้าก็ได้” ทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้นมานิดๆ และนั่นก็ทำให้ฉันถูกรับเลือกจนได้

             บางที เหตุผลที่พวกเขารับเลือกฉันก็อาจจะเป็นเพราะว่าฉันเกิดมาในหมู่บ้านเดียวกันกับคุณนายบัวร์เล็ตก็เป็นได้ และพวกเขาก็ได้ติดโฆษณาด้วยคำแบบนี้อีกด้วย “ความหวังสุดท้ายได้ส่องแสงเข้ามาในบริษัทบัวร์เล็ต บทละครที่สูญหายไปได้ถูกค้นพบ และในการแสดงบทละครนี้ นักแสดงนำก็เป็นเพียงแค่เด็กหญิงธรรมดาๆที่พึ่งย้ายเข้ามาในเมืองนี้ได้ไม่นาน เด็กสาวชาวบ้านที่เกิดมาจากหมู่บ้านเดียวกันกับคุณนายบัวร์เล็ต”

             ฉันคิดอยู่ว่ามันออกจะดราม่าไปนิดนึง ราวกับว่าเป็นเรื่องราวของซินเดอเรลล่าอย่างไรอย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเช่นนั้น บางทีคำคมที่เขาเขียนมาอาจจะเป็นจุดสนใจของผู้ชมก็เป็นได้ ฉันถูกคัดเลือกมาเพราะพวกเขาอยากให้ฉันเป็นนายหน้าโฆษณาสินะ

             ฉันพึ่งได้เข้ามาร่วมกลุ่มนักแสดงบัวร์เล็ตได้ประมาณครึ่งปีเอง แต่ฉันก็อยากที่จะฝึกฝนการแสดงของฉันให้มันเทียบเท่ากับนักแสดงคนอื่นๆได้เร็วๆ ดังนั้นฉันจึงหมกตัวเองอยู่กับแต่การซ้อมละครและช่วยคนอื่นทำงานเพื่อสะสมทักษะ แต่ความก้าวหน้าของฉันก็ไม่ค่อยได้เพิ่มขึ้นเลย

             “...ฉัน...”

             และตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆพลางคิดว่าทำไมฉันถึงไม่คิดมาก่อนหน้านี้นะ อีกไม่กี่ชั่วโมงฉันก็ต้องเล่นละครในบทสุดพิเศษ และมันก็เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของฉันด้วย เวทีของบัวร์เล็ตน่ะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆคนที่อยากทำการแสดงน่ะใฝ่ฝันว่าอยากจะมายืนบนนี้สักครั้ง และนั่นก็คือสิ่งที่ฉันได้รับมา

               ผู้ชมทั้งหลายที่อยู่ในห้องโถงดูมีท่าทางที่กระตือรือร้นมาก พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มานั้นแล้วหลังจากที่กระแสบัวร์เล็ตดับไปไม่นาน แน่นอนว่าพวกเขาตั้งความหวังกับฉันเอาไว้สูงมาก ถ้าเกิดว่าฉันทำผิดพลาดล่ะ? ฉันคงจะทำให้บริษัทนี้แย่ลงกว่าก่อนเยอะเลย... ความเป็นจริงมันค่อยๆคืบคลานเข้ามาทุกวินาที บางครั้งฉันก็คิดนะว่าฉันอยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่แห่งนี้ดูสักครั้ง

              “นี่มิคุ” ไคโตะเดินเข้ามาหาฉัน “เครียดใช่มั้ยล่ะ? ดูสิเธอตัวสั่นไปหมดเลย เดิมทีเธอก็ต้องมาเป็นนักแสดงนำในบทละครที่พิเศษอยู่แล้ว เธอคงจะกลัวมากเลยสินะ แต่ฟังนะ ถ้าเกิดเธอล้มขึ้นมาระหว่างการแสดงก็ไม่เป็นไรหรอก เราจะทำทุกอย่างที่จะช่วยเธอเอง เพราะฉะนั้นก็ใจเย็นๆหน่อยนะครับมิคุ”

              “ใช่แล้ว” เมย์โกะเข้ามาเสริม “ถึงแม้ว่าเธอจะลืมบทนะ แต่มันก็ยังมีคนคอยกำกับอยู่ด้านหลังคนดูนะ เธอน่ะเป็นเด็กใหม่ และพวกผู้ชมก็คงจะรู้แหละว่าเธอรู้สึกยังไง อีกอย่างนะ เด็กใหม่นะทำผิดพลาดได้ตลอดเวลาแหละ (ไม่ได้แช่งนะ)”

              “ค่ะ...”

              “เอออีกอย่างนึง การแสดงน่ะมันไม่ได้มีวันเดียวนะ มันมีตั้งหลายวัน เพราะฉะนั้นก็อย่าไปเครียดนักเลยนะมิคุ”

              ไคโตะและเมย์โกะให้กำลังใจฉันและมันก็ทำให้ฉันผ่อนคลายลงไปได้มาก ส่วนการแสดงน่ะมันมีด้วยกันสามวัน โดยบทละครจะต่อเนื่องกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าฉันจะทำไม่ดีภายในวันแรก แต่ฉันก็ยังมีโอกาสเหลืออีกตอนวันที่ 2 แลละวันสุดท้าย

              แต่ที่ลูกะพูดมาก็ถูกเหมือนกัน การแสดงน่ะมันต้องเพอร์เฟ็ค ไม่งั้นมันก็ไม่ใช่บริษัทบัวร์เล็ต แต่น่าเสียดายที่ฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ค่อยมีความสามารถทางด้านนั้นมากนัก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา