Bad End Night [Vocaloid]

9.6

เขียนโดย Yuukuriuddo39

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.

  4 บท
  6 วิจารณ์
  10.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 11.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เตรียมพร้อมสู่การแสดง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            คุณนายบัวร์เล็ตเป็นคนที่เคร่งในความสมบูรณ์แบบมาก พวกกลุ่มนักแสดงรุ่นก่อนๆที่ไม่สามารถเล่นบทละครให้ดีได้มากพอก็จะไม่สามารถแสดงบทละครของเขาได้อีก แล้วก็ยังมีข่าวลือกันว่า หากใครก็ตามที่ตัดบทหรือเพิ่มเติมบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เกี่ยวกับบทละครเข้าไป พวกเขาเหล่านั้นก็จะสูญหายไปจากเวทีบัวร์เล็ต แต่เมื่อตอนที่มีสงครามเมื่อสองสามปีมาแล้ว ผลงานและวัฒนธรรมต่างๆก็ถูกเผาไหม้ไปตามกองไฟ เพราะฉะนั้นมันจึงยากมากที่จะรู้ข้อเท็จจริงหรือต้นตอของข่าวลือเหล่านั้น

            แต่เมื่อยามใดที่มีควัน เมื่อนั้นเปลวไฟก็จะบังเกิด ใครก็ตามที่ดูหมิ่นบทละครของบัวร์เล็ตจะต้องตายอย่างน่าเวทนา หลายๆคนก็ยังเชื่ออยู่กับคำขู่นี้ แม้กระทั่งตัวนักแสดงเอง เพราะฉะนั้นพวกนักแสดงทั้งหลาย รวมไปถึงฉัน จึงมีความกลัวต่อสิ่งนี้อยู่เป็นอย่างมาก พวกเราจึงพยายามแสดงบทละครให้ตรงไปตรงมาที่สุด โดยไม่มีการดัดแปลง หรือแก้ไขต่างๆนาๆ

            แต่นักแสดงจะเสียชีวิตเพียงเพราะว่าเขาทำผิดพลาดอย่างนั้นหรือ? ถ้าให้พูดกันตรงๆแล้ว ในใจฉันมันก็มีส่วนนึงแหละที่ไม่เชื่อเกี่ยวกับคำขู่นี้ เพื่อนๆและพี่ๆในบริษัทน่ะเคยบอกกับฉันว่าคุณนายบัวร์เล็ตน่ะเป็นคนที่ไม่ค่อยน่ากลัวสักเท่าไหร่นัก เพราะว่าเขาน่ะ...

            ...

            ไม่สิ! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงฉันก็ต้องเริ่มแสดงแล้ว! จากนั้นฉันก็ถอนหายใจเบาๆ

            “เฮ้อ...” ลูกะถอนหายใจมองมาที่ฉัน “อย่าว่าฉันเลยนะว่าฉันกำลังแกล้งเด็กใหม่อยู่น่ะ แต่ก่อนฉันก็เคยตื่นเวทีเป็นเหมือนกันนะ เหมือนกับนักแสดงคนอื่นๆน่ะแหละ ยิ่งเป็นเวทีของคุณนายบัวร์เล็ตด้วยแล้ว มันก็ยิ่งดูน่ากลัวขึ้นมากเลย”

            ลูกะพยายามปลอบใจฉันว่าทุกๆคนก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกับฉัน แต่ฉันคิดว่าฉันน่าจะเครียดที่สุดแล้วในกลุ่มนักแสดงนี้น่ะ เพราะนี่มันเป็นครั้งแรกของฉันด้วยแหละ แต่มันก็น่าคิดนะ ไม่ว่าฉันจะมองไปยังหน้าของลูกะบ่อยเพียงใด ฉันก็มองไม่เห็นถึงความตื่นเต้นของเธอเลย ก็นะ... เธอเป็นดาราดังนี่น่า เธอคงจะมีประสบการณ์เยอะพอสมควร

            “จริง...” ไคโตะพูดขึ้น “เราทุกคนก็เคยผ่านเวลานี้กันมาบ่อยแล้ว แถมครั้งนี้ดันเป็นบทละครพิเศษด้วย เราจะทำพลาดไม่ได้”

            “ใช่...” ลูกะตอบเขา

                ความเงียบเข้ามาในห้องนี้อีกครั้ง แสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็ส่องเข้ามาในห้องผ่านทางกระจกสองชั้นบานใหญ่ ฉันก็คิดว่าทำไมสภาพแวดล้อมที่ดูน่าอบอุ่นเช่นนี้ถึงเต็มไปด้วยความเครียดนัก ทั้งๆที่บรรยากาศแบบนี้มันน่าจะทำให้จิตใจของฉันสงบลงแท้ๆ

            ปัง!

            ประตูที่หน้าห้องได้ถูกผลักด้วยเสียงอันดังจนมันทำลายความเงียบสงัดของพวกเราทั้งหมด แรงเปิดประตูมันเยอะมากจนมันสะท้อนตัวประตูกลับไปกระแทกหน้าผากของผู้เปิดอย่างจัง

            “โอ๊ยยยยยยยยยยย!”

            เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชื่อว่ารินปรากฏตัวออกมาหลังบานประตูนั้น มือของเธอจับหน้าผากของตัวเองด้วยความเจ็บที่ถูกประตูกระแทกเมื่อกี้  ข้างๆเธอมีเด็กชายคนนึงยืนอยู่ เขาคือเลนนั่นเอง

            “โอ๊ะ! โอ๋~! สะ... สวัสดีจ้าทุกคน ฉันว่าฉันมาสายไป... ใช่มั้ย!? ฉันขอโทษษษษษษษษษษษ!” รินก้มหัวขึ้นลงๆไปรอบห้องๆ

            “วันนี้เกิดอะไรขึ้นหรอ ปกติฉันไม่เคยเห็นเธอสองคนมาสายเลย” ไคโตะพูดขึ้นเมื่อเห็นรินกับเลนทำหน้าตาเหนื่อยๆ

            “เอ๋~!” รินเงยหน้าขึ้น

            “หืม? เจ็บไหมนั่นน่ะ ขอดูหน่อยสิ” ไคโตะยื่นมือเข้ามาจับหน้าผากของริน แต่รินกลับกระเด้งถอยหลังอย่างตกใจ

            “เป็นอะไรไปอะริน? เธอดูแปลกๆไปนะวันนี้” ไคโตะถามอย่างสงสัย

            “เอ๋~? เอ่อ... ไม่หรอก! ก็ฉันกับเลนน่ะ... ถูกพวกแฟนๆหยุดตลอดทางเลย” รินทำหน้าเบ้

            “แฟนคลับ? อ้าวแล้วบอดี้การ์ดล่ะ? พวกบอดี้การ์ดต้องมาอยู่กับพวกเธอตลอดเวลาเลยไม่ใช่หรอ ฉันไม่คิดว่าพวกแฟนๆจะเข้ามาคุยกับพวกเธอได้นะ...”

            ถ้าเอาตามที่เมย์โกะเคยเล่าฉันมาแล้ว บอดี้การ์ดของรินน่ะเป็นพวกกลุ่มคนที่เป็นขาประจำของโรงละครของบัวร์เล็ต หรือจะเรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกลุ่มพวกเราก็ได้ พวกเขาเป็นพวกเคร่งในกฏระเบียบมาก แทบไม่มีครั้งไหนเลยที่พวกเขาจะปล่อยโอกาสให้แฟนคลับธรรมดาๆได้เข้ามาประชิดตัวริน

            “เอ่อ... ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก...” รินก้มหน้า “ฉันหมายถึงเลนน่ะ...”

            “...”

            รินส่งสายตาไปยังฝาแฝดชายของเขา เลนดูท่าทางนิ่งมาก หน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆเลยแม้แต่น้อย

            “อ้อ แฟนคลับเลนเองสินะ... ถึงจะเป็นบอดี้การ์ดของรินก็เถอะ แต่เจอพลังของแฟนคลับเลนเข้าไปก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้อยู่ดี” ไคโตะพยักหน้า “พวกแฟนคลับเลนน่ะเป็นพวกหัวสูงมากๆ หยั่งกับบูชาเลนเป็นเทพเจ้าแหน่ะ”

            “จริงด้วย” ลูกะเข้ามาเสริมแล้วมองไปที่เลน “เธอน่าจะแนะนำฉันมั่งนะว่าเธอทำยังไงถึงจะทำให้แฟนๆหลงใหลเธอได้ขนาดนั้น คงจะเป็นวิธีดีๆที่จะหาผู้ชายดีๆได้เยอะเชียวแหละ”

            เลนดูหน้านิ่งเหมือนอย่างเคย หน้าตาของเขาดูน่าเบื่อนิดๆ สงสัยจะเป็นเพราะพวกแฟนคลับที่เคยตามตื้อเขานั่นแหละ

            แฟนคลับของเลนน่ะ ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงเยอะก็ตาม แต่พวกผู้ชายก็มีเยอะไม่แพ้กัน โดยส่วนมากแล้วแฟนคลับผู้ชายของเลนน่ะจะเป็นพวกผู้ดีที่ร่ำรวย เจ้าของธุรกิจ ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นักการเมืองต่างๆ พวกเขาจะคอยสนับสนุนเลนด้วยทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากๆอยู่เสมอ และจะคุยกับเลนเป็นบางครั้งบางคราวเมื่อเห็นเขาเดินเพ่นพ่านอยู่ในเมือง

            กลุ่มคนพวกนี้น่ะคอยเป็นสปอนเซอร์ให้กับเลนและรินอยู่ตลอด ส่วนลูกะก็ทำงานเป็นโมเดลเพื่อที่จะดึงดูดกลุ่มคนพวกนี้ นักแสดงทุกคนน่ะมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะไคโตะและเมย์โกะที่มีความสามารถในการแสดงที่โดดเด่น การทำงานร่วมกันแบบนี้น่ะเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของบริษัทบัวร์เล็ตให้ยังคงทำงานต่อไปได้

            แต่วันนี้ฉันคิดว่ารินดูท่าทางแปลกไปจากปกติ ยังไงก็ตาม ในบทละครสุดพิเศษในยามค่ำคืนนี้น่ะ รินจะแสดงเป็นตุ๊กตาหญิงสาว  และการแสดงของเธอก็ทำให้เธอดูเหมือนกับว่าตุ๊กตาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง 

            ตุ๊กตาหญิงสาว... ผู้ที่มีทั้งความไร้เดียงสาและความโง่เขลาอยู่เล็กๆ แน่นอนว่าตุ๊กตาน่ะสามารถพูดและเดินได้อยู่แล้ว แต่การที่เธอกำลังเอาหัวพิงประตูอยู่ก็แสดงว่าเธอกำลังจะฝึกฝนทักษะด้าน “ความโง่” อยู่สินะ...

            “ฉันพึ่งนึกขึ้นได้!” รินเงยหน้าขึ้นมา “ฉันมีธุระที่ห้องหมายเลขสอง! ไปก่อนนะทุกคน!”

                จากนั้นตุ๊กตาหญิงสาว หรือริน ก็วิ่งออกไปจากห้องอย่างเร่งรีบ เมื่อรินออกไปแล้ว เลนก็เข้ามาปิดประตูและก้มหัวสวัสดีทุกคน เขาดูเหมือนว่าจะรู้สึกผิดมากกับการที่เขามาสายมาก และเมื่อเขาสวัสดีทุกคนเสร็จแล้ว เขาก็เข้ามาสวัสดีฉันเช่นกัน

            “สวัสดีครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน      

            “สะ... สะ... สวัสดีค่ะ” ฉันพูดอย่างตะกุกตะกัก

            “...”

            เขาเด็กกว่าฉันสองปี แต่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มนักแสดงนี้แล้วมามากกว่าห้าปี เลนน่ะเป็นคนที่โด่งดังมาก เช่นเดียวกับฝาแฝดหญิงของเขา พวกเขาน่ะเป็นที่รู้จักกันดีมากในกลุ่มบัวร์เล็ต แต่ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็ก เขาก็มีนิสัยที่ค่อนข้างขี้อายอยู่เล็กน้อย แถมเขายังมีอิทธิพลมากจากการหนุนหลังของแฟนคลับของเขา ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะพูดตะกุกตะกักเมื่อได้คุยกับเขา

            “อย่าเครียดไปเลยครับ วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันน่ะแหละ” เลนบอกกับฉัน

            “เอ๊ะ!?” ฉันตกใจเล็กน้อย แต่เขากลับไม่พูดอะไรต่อ เขาหันหลังใส่ฉันและเดินไปหาเมย์โกะ ฉันมาคิดทีหลังว่านี้คือคำช่วยเหลือจากเขาสินะ จริงๆแล้วฉันไม่เคยคุยกับเขาเลยนอกเหนือจากการที่เรามาซ้อมละครด้วยกันเท่านั้น เพราะเหตุใดฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกว่าคำพูดแต่ละคำที่ออกมาจากปากเขามันช่างดูอ่อนโยนมากเลย

            เขาทำให้ฉันมีความสุข...

            และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปได้บ้างแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะถูกเลือกให้เป็นนักแสดงนำทั้งๆที่ฉันไม่ค่อยมีความสามารถอะไรเลย และฉันก็ค่อนข้างมั่นใจว่าผู้ชมหลายๆคนคงจะไม่ชอบฉัน แต่คนหลายๆคนที่อยู่ที่นี่และฝึกซ้อมบทละครด้วยกันกับฉันนั้นใจดีกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลย บางครั้งฉันก็คิดว่านี่คือบ้านหลังที่สอง หรือมันอาจจะดีกว่าก็ได้ด้วยซ้ำไป

            “เอาล่ะ! คุยกันพอแล้ว” เมย์โกะหันมามองฉันกับเลน “พวกเธอสองคนไปที่ห้องแต่งตัว ไปเปลี่ยนชุดและใส่เมคอัพให้เรียบร้อยด้วยล่ะ เหลือเวลาอีกนิดเดียวแล้วนะ”

            “คะ... ค่ะ” ฉันก้มหน้าและวิ่งออกไปจากห้องหมายเลขหนึ่ง และเลนก็วิ่งตามฉันมาติดๆ

            ...

            เมื่อฉันแต่งตัวและทาเครื่องสำอางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็มานั่งทบทวนบทอย่างเงียบๆสักสามนาทีก่อนที่จะออกจากห้องแต่งตัว ซึ่งเมื่อฉันกลับมาที่ห้องหมายเลขหนึ่งก็เลยบ่าย 3 โมงมา 5 นาทีแล้ว เหลืออีกแค่สองชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่งานจะเริ่ม พวกเราทั้งหมดมารวมตัวกันที่ห้องนี้และเช็คบทเป็นครั้งสุดท้าย แต่ว่า... ยังเหลืออีกตั้งสองคนแหน่ะที่ยังไม่มาปรากฏตัวในห้องนี้เลย

            “เอ่อ... อีกสองคนนั่นไปไหนน่ะ เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงเอง ทำไมพวกนั้นยังไม่มาอีกนะ” ลูกะบ่นลอยๆ

            “จริงๆเล้ยสองคนนี้” ไคโตะถอนหายใจ “ฉันอุตส่าห์เตือนแล้วเตือนอีกตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะว่าอย่ามาสาย เฮ้อ... พวกเขาน่าจะรู้นะว่าการมาตรงต่อเวลามันสำคัญแค่ไหนกับการเป็นนักแสดง”

            สองคนนั้นที่ลูกะและไคโตะบ่นขึ้นมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน... ก็นักแสดงที่อยู่ในบทละครนี้นั่นแหละ!

            “อ่า...ใช่” เมย์โกะพูดเข้ามา “โดยเฉพาะกุมินะ ฉันคิดว่าเธอน่ะแย่เรื่องเวลาเสมอ แต่เธอก็ไม่เคยมาสายเกิดกว่าเดดไลน์เลยนะ ครั้งล่าสุดที่ฉันเคยเห็นเธอมาสายสุดน่ะก็ตั้งหนึ่งนาทีก่อนการแสดงแหน่ะ”

            “มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย...” ลูกะดูท่าทางจะไม่ยินดีด้วย “แล้วกาคุล่ะ?”

            “กาคุหรอ? ฉันคิดว่าเขาน่าจะอยู่ตรงเวทีนะ ฉันเห็นเขาจัดฉากเวทีตั้งแต่เช้าแล้ว” ไคโตะตอบเธอ “แต่จะว่าไปแล้ว... เขาก็น่าที่จะเสร็จได้แล้วนะป่านนี้...”

            “แต่ก็นะ...” ลูกะส่ายหัว “มีตัวป่วนสองตัวแบบนี้คงทำให้ฝึกซ้อมด้วยกันยากหน่อย แต่พูดถึง... พวกเขาสองคนนั่นเล่นเป็นอะไรนะ?”

             “พ่อบ้านกับแม่บ้านไง คอยรับใช้ “คุณหญิง” น่ะลืมไปแล้วหรอ ฮ่าๆๆๆ” ไคโตะหยอกล้อ

            ลูกะถอนหายใจ “เฮ้อ... ถ้าจะต้องให้มีพวกคนรับใช้ตัวป่วนแบบนั้นนะฉันขอไม่เอาดีกว่า”

            พูดถึงตัวบทละคร บทละครที่ฉันต้องเล่นน่ะมีทั้งหมด 8 ตัวละครด้วยกัน คนแรกเป็นเจ้าของแมนชั่นเก่าๆที่มีภรรยาที่ชอบเข้าสังคมจัดอยู่ด้วยหนึ่งคน ทั้งคู่มีลูกบุญธรรมจอมเอาแต่ใจหนึ่งคน และแม่บ้านกับพ่อบ้านตัวแสบอย่างละคน รวมไปถึงตุ๊กตาสองตัว และที่ขาดไม่ได้ เด็กหญิงซึ่งหลงทางอยู่กลางป่า ซึ่งนั่นก็คือฉันนั่นเอง

            ถ้าให้ฉันดูตัวละครที่อยู่ในบทนี้แล้ว แต่ละตัวละครที่พวกเราได้รับกันมานั้นมันช่างตรงกับลักษณะนิสัยของเราเสียจริง ก็อย่างตัวละครที่ฉันเล่นในบทน่ะก็คือเด็กสาวผู้หลงทางซึ่งมีนิสัยชอบความโดดเดี่ยว ชอบคิดอะไรตามลำพัง ซึ่งฉันก็คิดว่ามันก็ตรงกับที่ฉันคิดไว้อย่างน่าประหลาด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา