Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  29.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) คนนั้นก็ดีคนนี้ก็รัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
-9-
คนนั้นก็ดีคนนี้ก็รัก
 
            ฉันเดินกลับถึงห้องก็พอดีหมดคาบแรกพอดี เข้าเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องกะว่าจะเทศนาเพื่อนรักสักหน่อย ฉันหายไปเป็นชั่วโมงๆ ไม่เห็นตามหาเลย เกือบโดนหักคอตายไปแล้ว T^T (อันนี้ก็เว่อร์เกิน -_-)
            “อ้าว! โบอิ้งมาแล้วหรอจ้ะ มาเร็วๆ เข้าอ้อยอิ่งอยู่นั่นแหละ ^O^”  อ๋องรีบกวักมือเรียกให้ฉันเข้าไปในห้องด้วยท่าทางเสแสร้งอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น ยกเว้นเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย แล้วนั่นกำลังนั่งอยู่กับผู้ชายที่ไหนน่ะ =_=;
            ฉันเดินเข้าไปพร้อมกับใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการเพ่งมองผู้ชายที่นั่งทับที่ฉันอยู่ จนลืมเรื่องที่จะด่าเพื่อนรักไปซะสนิท (เรื่องผู้ชายสำคัญกว่าสินะ U.U)
            “ว่าไงโบ ^^”  พอฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าผู้ชายคนนั้นคือพี่ทิว พี่รหัสของฉันเอง ^O^
            “อ้าวพี่ทิว ไปตัดผมมาใหม่หรอคะ หล่อเชียว”  ฉันยิ้มให้ ขณะที่พี่ทิวลุกขึ้นเพื่อให้ฉันนั่งที่ของตัวเองแล้วลากเอาเก้าอี้ที่ว่างมานั่งข้างฉัน
            “ไม่ใช่หล่อธรรมดานะแก หล่อโคตรๆ >////<”  อ๋องเสริมพร้อมกับดิ้นระริกระรี้เข้าไปเกาะแขนพี่ทิว
            เอ่อ...เยอะเกินแล้ว นั่นพี่รหัสฉันนะยะ -_-!
            “ฮ่าๆๆ พูดขนาดนี้พี่เขินนะเนี่ย”  พี่ทิวหัวเราะกับท่าทางของอ๋อง
            “แล้วทำไมไม่เข้าเรียนคาบแรกเลยล่ะ ไปไหนมา”  พี่ทิวหันมาถามฉันในประโยคถัดมา
            “อ๋อ มีเรื่องกับเพื่อนนิดหน่อยน่ะค่ะ”
            “ที่โดนปาวลากไปหาโปรดน่ะหรอ”  พี่ทิวพูดกลั้วหัวเราะ
            “ใช่ค่ะ...เอ๊ะ! พี่ทิวรู้ได้ไง”
            “โอ้ย! ยัยโบ นอกจากคนที่มันลาป่วยวันนี้ก็ไม่มีใครไม่รู้เรื่องแกกับปาว ข่าวใหญ่ข่าวดังขนาดนี้”  อ๋องบอก
            “ใช่ พวกเราไปตามแกก่อนเริ่มคาบแรก แต่เห็นแกโดนลากไปแล้วพวกฉันตามแกไปถึงห้องยัยโปรด เรียกแล้วเรียกอีกแกก็ไม่สนใจพวกฉันเลย”  เหมยสาธยายเหตุการณ์ให้ฟัง
            อ้าว...งั้นที่ฉันบอกว่าจะเทศนาพวกเธอ ถือว่าเป็นโมฆะแล้วกันนะเหมย อ๋องน้อย =_=
            “หลังจากแยกกับปาวไปไหนต่อหรอ พี่มาหาที่ห้องไม่เจอเลย”  พี่ทิวถามต่อ
            “อ๋อ ก็มันเลยเวลาเข้าเรียนแล้วน่ะค่ะ ก็เลย...”
            “โดด?”  พี่ทิวต่ออย่างรู้ทัน
            “ใช่ค่ะ ^^;”
            “เฮ้อ...เธอนี่นะ เข้าช้าดีกว่าไม่เข้านะรู้ไหม”  พี่ทิวพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้ผมฉันเบาๆ
            “รู้แล้วค่ะ ^^”
            “แหมๆ หวานเกินไปแล้วนะคะ อิจฉานะเนี่ย”  อยู่ๆ เหมยก็มองมายิ้มๆ ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่าโดนเพื่อนทั้ง 2 คนกำลังมองมาด้วยสายตามีเลศนัยก็ตอนโดนทักนี่แหละ
            อะไรกันพวกเธอ -_-?
            “ฮึๆๆ งั้นพี่ไปก่อนนะจะเริ่มคาบที่สองแล้ว พี่แค่จะมาบอกว่าอาทิตย์หน้าอย่าลืมของขวัญพี่นะ”  พี่ทิวหัวเราะยิ้มๆ กับท่าทางของเพื่อนรักทั้ง 2 ของฉัน
            “อ๋อ วันดีเดย์หรอคะ ไม่ลืมแน่นอนค่ะ ^^”  ฉันยิ้มรับรอยยิ้มของพี่ทิว ก่อนที่พี่เขาจะเดินออกไปจากห้อง
            ระบบสายรหัสเป็นระบบพี่ระบบน้องในโรงเรียนค่ะ (ซึ่งหลายๆ โรงเรียนก็คงจะมี) จะช่วยเสริมสัมพันธ์อะไรต่างๆ นาๆ ระหว่างเด็ก ม. 4, 5 และ 6 ที่อยู่ห้องตรงกันและมีเลขที่เดียวกัน น้อง ม.4 จะเป็นน้องเล็กสุดในสาย ม.5 จะเรียกว่าพี่รหัสและสุดท้าย ม.6 พี่ใหญ่สุดจะกลายเป็นป้าหรือลุงรหัส
            หลายๆ คนแอบสงสัยว่าฉันอยู่ ม.6 ทำไมถึงมีพี่รหัสล่ะ? ควรจะเป็นป้าเขาได้แล้วนะ -_-? เห็นพี่เขาหล่อก็เลยติ๊ต่างเอารึเปล่า? ตอบคำถามตรงนี้เลยว่าป้ารหัสน่ะฉันก็เป็น ส่วนพี่ทิวก็เป็นพี่รหัสฉันด้วย
            ที่จริงพี่ทิวอายุมากกว่าฉันปีหนึ่งแต่เพราะได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลีย 1 ปี พอกลับมาก็เลยต้องเรียนช้ากว่าเพื่อนคนอื่น 1 ปีเราก็เลยกลายเป็นรุ่นเดียวกัน ถึงกลับมาพี่เขาจะไม่ได้อยู่ห้องเดิม (อาจารย์ให้ย้ายไปเรียนห้อง A) พี่ทิวก็ยังขอมาเป็นพี่รหัสฉันอีก เวลามีเลี้ยงสายรหัสทีไรพี่ทิวก็จะพาฉันไปด้วยจนเด็กที่อยู่ห้อง A ซึ่งเป็นสายรหัสใหม่ของพี่ทิวแอบเคืองฉันอยู่เหมือนกัน แต่จะให้ทำไงได้ล่ะสายสัมพันธ์มันตัดกันไม่ขาด โฮะๆๆ ^O^
            “ถ้าพี่ทิวเป็นพี่รหัสฉันนะ ป่านนี้เสร็จฉันไปตั้งนานแล้ว”  อ๋องเท้าคางมองตามพี่ทิวไปแบบไม่วางตา
            “นั่นสิ หล่อออกขนาดนั้น”  เหมยเห็นด้วย
            “ปาวก็หล่อนะ”  ฉันพูดบ้าง
            “จ้ะ!!/จ้ะ!!”  เหมยและอ๋องน้อยประสานเสียงประชดฉันใหญ่...หรือไม่จริง ปาวก็หล่อออกนะ ไม่งั้นฉันจะชอบได้ไง >////<
            “ฉันว่าเปลี่ยนมาจีบพี่ทิวยังจะมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้มากกว่าอีก”  เหมยแสดงความเห็น
            “ไม่ต้องเสียแรงจีบเลยฉันว่า”  อ๋องเสริม
            “หมายความว่าไง”  ฉันถามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนรักทั้ง 2 สลับกัน เพราะแววตามันดูวิบวับแปลกๆ
            “แกรู้ไหม พี่ทิวมารออยู่หน้าห้องตั้งแต่แกแยกกันกับปาวแล้วแต่แกก็ไม่มาสักที เห็นแล้วฉันสงสารพี่ทิวจับใจเลยแก”
            “อย่าบอกนะว่า...”  ฉันถามต่อแต่เว้นสิ่งที่ฉันคิดเอาไว้ เพราะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก U////U
            “ใช่...พี่เขายืนรอแกจนหมดคาบ ไม่ยอมกลับไปเรียนเลย”  เหมยเฉลย มันตรงกับที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด -_-;
            “ฉันว่าพี่เขาพยายามจีบแกอยู่แน่ๆ เลยนังอ้อย แค่อยากบอกว่า อย่าลืมของขวัญ โทรมามั้ง ไม่เห็นต้องมาเจอตัวเป็นๆ เลย แบบนี้เหมือนมี something แอบแฝงนะ >////<”  อ๋องพูดแล้วกรี๊ดกับสิ่งที่ตัวเองมโน 
            “ถ้าแกเปลี่ยนมาชอบพี่ทิว ฉันเชียร์ขาดใจเลย”  เหมยบอก
            “เฮ้ย! พูดแบบนี้ฉันหนักใจนะเนี่ย T^T”  เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันกับพี่ทิวรู้จักกันมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว ถ้าพี่เขาชอบฉันฉันต้องรู้สิ (รึเปล่า?)
            “เป็นฉันก็เลือกไม่ถูก คนนั้นก็ดีคนนี้ก็รัก เฮ้อ...”  อ๋องทำท่าหนักอกหนักใจ ชีเล่นใหญ่จนน่าหมั่นไส้อ่ะให้ตาย
            “แต่จะว่าไปปาวก็หล่อนะ ดูขรึมๆ ลึกลับน่าค้นหา เร้าใจดีอ่ะ >///<”  อ๋องพูดแล้วตีแขนฉันป๊าบๆ ด้วยความเขิน เอ่อ...นั่นคือ เขินแทนฉันหรอนังอ๋องน้อย =_=
            “ไม่ๆ พี่ทิวโอสุด”  เหมยแย้ง
            “แต่ปาวก็ผ่านนะนังเหมย”  อ๋องก็ยืนยันความคิดตัวเองอย่างหนักแน่น
            “ถ้าจะยุ่งกับปาว ต้องคอยระวังแฟนคลับอีกนะ”  เหมยพูด
            เอออันนี้จริง! ฉันเกือบตายคาอ่างล้างหน้ามาครั้งหนึ่งนี่นา =_=;;
            “พี่ทิวก็ต้องระวังเหมือนกันแหละน่า โดยเฉพาะยัยแมทธ์”  อ๋องพูดบ้าง
            “อ้าว? ยัยแมทธ์เป็นแฟนคลับปาวไม่ใช่หรอ”  ฉันถามแทรกขึ้นมาก่อนที่เหมยจะเถียงขึ้นมาได้
            “แฟนคลับปาวน่ะใช่ แต่ชีเป็นติ่งพี่ทิวด้วยย่ะ”  อ๋องบอก
            เจริญล่ะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเลยใช่ไหมเนี่ยยัยแมทธ์!
            เรื่องที่ว่าด้วยปาวกับพี่ทิวใครดีกว่านั้น ยังไม่จบสิ้นเพราะเหมยก็เชียร์พี่ทิว ส่วนอ๋องน้อยก็พรีเซ็นต์ปาวแบบออกนอกหน้าจนฉันสงสัยว่าไปรับสินบนจากท็อทให้มาโฆษณาเพื่อนตัวเองรึเปล่า ทำไมวันนี้อ๋องน้อยมันเข้าข้างปาวได้ทั้งๆ ที่วันก่อนยังบอกให้ฉันถอนตัวอยู่เลย
            หรือว่า...หล่อนจะเก็บพี่ทิวไว้กินเอง -_+
            ฉันพา 2 คนนั้นเปลี่ยนเรื่องด้วยการพูดถึงเท็ดดี้แบร์น้องเน่าที่ปาวหวงนักหวงหนา เท่านั้นแหละประวัติศาสตร์ของตุ๊กตาตัวนั้นก็พรั่งพรูออกมาจากปากเพื่อนรักไม่ขาดสาย ว่ากันว่า ตุ๊กตาตัวนี้ปาวจะติดตัวไว้ตลอด รู้สึกจะทำเป็นกุญแจรถ หวงมากถึงขนาดพอเพื่อนยืมรถไปขับต้องแกะตุ๊กตาตัวนั้นออกมาไว้กับตัวเลยทีเดียว และเพราะปาวกับโปรดมีตุ๊กตาที่คล้ายกัน 2 ตัวด้วยนี่แหละ เรื่องข่าวที่ว่าพวกเขาเป็นแฟนกันก็เลยมีน้ำหนักมากขึ้น
            ถ้าหวงขนาดนั้น...แสดงว่าตุ๊กตาตัวนั้นต้องมีความหมายกับปาวมากแน่ๆ แล้วถ้าข่าวลือเป็นจริงล่ะ! ฉันจะไม่กลายเป็นมือที่สามที่พยายามตามตื๊อแฟนชาวบ้านหรอกหรอ!!
 
            ผ่านไป 1 อาทิตย์เต็มๆ วัน D-Day ของโรงเรียนเราก็มาถึง มันเป็นวันแสดงความยินดีให้กับนักเรียนชั้น ม.6 ที่สามารถสอบชิงโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยได้ วันนี้จะเป็นวันที่นักเรียน ม.6 รอคอยกันมากที่สุดเพราะนอกจากจะเป็นวันที่น้องๆ จะได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ๆ ที่มีความตั้งใจและพยายามจนสามารถสอบติดรอบโควต้าแล้ว มันยังทำให้นักเรียนชั้น ม.6 อย่างพวกเรามีแรงกระตือรือร้นในการอ่านหนังสือและขวนขวายหาที่เรียนกันมากขึ้นด้วย คนที่สามารถสอบได้จะมีโอกาสได้ขึ้นไปรับประกาศเกียติคุณบนโพเดี้ยมเกียติยศหน้าเสาธงและรับของขวัญจากสายรหัส ส่วนใครที่ยังสอบไม่ผ่านที่ไหนเลยจะไม่มีสิทธิ์ขึ้นไป ซึ่งเด็กห้อง D อย่างฉันนั้นไม่ค่อยจะยี่หระกับวันนี้เท่าไหร่เพราะแต่ละปีมีไม่กี่คนที่ได้ขึ้นไปบนนั้น ถ้าเกิดในห้องมีนักเรียนสัก 10 คน ก็จะมีคนได้ขึ้นไปประมาณ 3 คนเท่านั้น =_=
            ในแก๊งเพื่อนเกลอ 3 คนของฉันก็เป็นไปตามคาด เหมยซึ่งเรียนเก่งสุดในกลุ่มได้มีโอกาสขึ้นโพเดี้ยมเกียติยศ ฉันกับอ๋องก็เลยลงทุนทุบกระปุกซื้อเครื่องสำอางจากเคาน์เตอร์แบรนมาเซอร์ไพรส์แบบครบเซ็ท กินแกลบแน่ตรู =_=
            “เขาเรียกรวมรึยังอ๋อง”  ฉันถามอ๋องน้อยที่อยู่ปลายสาย ตอนนี้ฉันขึ้นมาเอาเซ็ทเครื่องสำอางที่ซ่อนไว้ไปให้เหมย ส่วนอ๋องคอยถือของช่วยเหมยด้านล่างเพื่อความแนบเนียนของแผนเซอร์ไพรส์ ^_^
            [รวมแล้วๆ เอาลงมาเลย]  อ๋องตอบกลับจากปลายสาย
            “โอเคๆ”  ฉันรับคำแล้วกดตัดสาย ก่อนจะหยิบกล่องเครื่องสำอางที่พวกฉันบรรจงห่อมาอย่างหรูกับช่อดอกไม้และของขวัญของพี่ทิว ตั้งแต่เช้าฉันยังเข้าหาพี่ทิวไม่ได้เลยแฟนคลับพี่เขาหนาแน่นเกิน น้องรหัสตัวเล็กๆ อย่างฉันก็เลยต้องรอไปก่อน
            ส่วนปาว...ฉันไม่ได้เจอเขาเลยตั้งแต่เกิดเรื่องตุ๊กตาเมื่ออาทิตย์ก่อน จะว่าไม่เจอเลยก็คงจะไม่ถูกฉันเองที่แหละที่เป็นคนหลบหน้าเขา อยู่ดีๆ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็เข้ามาเตือนให้ฉันลองถอยออกมาสักก้าว ไม่ใช่ถอนตัวนะ! แค่ถอยออกมาเฉยๆ =_= ถอยออกมาเพื่อเช็คดูให้แน่ใจว่าปาวกับโปรดเป็นอะไรกันกันแน่และเตรียมทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าข่าวลือนั่นเป็นเรื่องจริง ฉันก็คง...ตัดใจได้ง่ายขึ้น (มั้ง?)
            ฉันมองช่อดอกไม้อีกช่อที่ฉันซื้อเอาไว้ให้ปาวอย่างชั่งใจว่าจะเอาลงไปด้วยดีไหม ซื้อมาแล้วถ้าไม่ให้ก็คงเสียของแต่ฉันยังไม่กล้าไปเจอเขา กลัวจะตัดใจไม่ลง T^T
            ถึงฉันจะอยู่ในช่วงถอยห่างออกมาแต่ฉันก็ไม่ได้หายไปเฉยๆ นะ ฉันยังให้ความหวังตัวเองโดยการพับดาวกระดาษดวงเล็กๆ ไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ให้ปาววันละดวง ถ้านับตอนนี้ก็ให้ไป 7 ดวงแล้ว ^_^
            “ยิ้มอยู่นั่นแหละนังอ้อย เหมยมันจะเสร็จแล้วนะแก”  อ๋องน้อยเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน
            “แกขึ้นมาตามฉันเลยหรอเนี่ย”
            “ก็ใช่น่ะสิ ว่าแล้วว่าแกต้องอ้อยอิ่งตามเคย =_=”
            “อ้อ”  ฉันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะส่งกล่องของขวัญของเหมยไปให้อ๋องถือ ส่วนฉันหอบช่อดอกไม้กับกล่องของขวัญของพี่ทิวเอาไว้
            “แล้วนั่นล่ะ ไม่เอาไปด้วยหรอ”  อ๋องชี้ไปที่ช่อดอกไม้อีกช่อที่ฉันไม่ได้หยิบมาด้วย
            “ฉันไม่กล้าเอาไปให้ปาว”
            “แสดงว่าแกตัดใจจากปาวแล้วใช่ไหม”  อ๋องถามหน้าตาจริงจัง
            “ก็...ไม่รู้สิ”
            “งั้นก็หยิบมาด้วย ถ้าแกไม่กล้าให้กับมือก็เอาไปวางไว้ที่โต๊ะหรือว่าในล็อกเกอร์อย่างที่แกชอบเอาดาวไปวางไว้ก็ได้นี่นา” 
            “เออ...จริงสินะ”  ฉันพยักหน้า แต่เอ๊ะ! ทำไมอ๋องมันรู้เรื่องดาวล่ะ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยนะ O_O
            “อ๋อง! อย่าบอกนะว่าแก...”
            “ฉันเห็นแกชอบไปทำตัวลับๆ ล่อๆ แถวล็อกเกอร์ห้อง A ก็เลยแอบตามไปดู เรื่องแค่นี้ไม่บอกเพื่อนบอกฝูงเลยนะ”
            “ห้ามบอกใครเลยนะ”
            “โธ่! ฉันจะบอกให้แฟนคลับปาวมาแหกอกแกรึไงยะ”
            “แล้วเหมยรู้ยังเนี่ย”
            “ก็แอบตามไปดูพร้อมกันน่ะ ^^”
            “เฮ้อ...นี่ฉันจะมีความลับกับพวกแกไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย”
            “แน่น๊อน ฮ่าๆๆๆ”  อ๋องหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ =_=
            “ไปเหอะ เดี๋ยวเหมยหาพวกเราไม่เจอ”
            “แล้วตกลงดอกไม้นั่นแกจะทำไง”
            “ฉัน...”
            “มา ฉันจะพาแกไปเอง”  อ๋องพูดแล้วเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกไม้นั้นแล้วลากฉันมาที่ห้อง A ดีที่คนส่วนมากไปรวมกันที่โพเดี้ยมหน้าเสาธงกันหมดที่นี่ก็เลยปลอดคน
            ครึกๆๆ
            พอเราเดินมาถึงประตูห้อง A จู่ๆ ก็มีช็อกโกแลตกลิ้งมาชนเท้าประมาณ 4-5 ซอง ฉันกับอ๋องก้มลงมองช็อกโกแลตแล้วเงยขึ้นมองหน้ากันและก้มลงมองมันอีกครั้ง
            เฟอเรโร่ *O*  เสร็จฉันล่ะ! คิดได้ดังนั้นฉันก็รีบก้มลงเก็บทันที แต่ว่า...
            “เฮ้อ...”  ปาวก็เดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าฉันกับอ๋องยืนอยู่ตรงนี้นะ ท่าทางตกใจเชียว >.<
            “เฮ้ย! มาทำไรแถวนี้เนี่ย”  ปาวถามแล้วมองฉันกับอ๋องสลับกัน
            “ห๊ะ! คือ...”  ระหว่างที่ฉันกำลังคิดหาคำแก้ตัว นังอ๋องก็ยัดดอกไม้มาไว้ในมือฉันแล้วแย่งของขวัญของพี่ทิวไปถือไว้
            “คุยกันไปก่อนนะ สงสัยเหมยเสร็จแล้ว ไปหามันก่อน”  อ๋องพูดรัวๆ แล้วเดินหนีไปทันที
            “อ้าวเดี๋ยว!”  ฉันกำลังจะตามอ๋องไป แต่ปาวกลับคว้าต้นแขนฉันเอาไว้ก่อนที่จะได้ชิ่ง =_=
            “อย่าบอกนะว่าเอาดอกไม้มาให้ฉัน”  ปาวชี้มาที่ดอกไม้ที่ฉันถืออยู่ แล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง  “ฉันต้องพูดประโยคนี้ซ้ำอีกแล้วหรอเนี่ย”
            “ประโยคไหน” 
            “ฉันไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยม”
            “ห๊ะ! ไม่จริงน่า”  ฉันร้องอย่างตกใจ เด็กเกรด A เหรียญทองอย่างปาวเนี่ยนะไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยม  “นายสอบไม่ติดรอบโควต้าหรอเป็นไปได้ไง O_o”
            “ฉันตั้งใจไม่ขึ้นเอง”  ปาวบอกด้วยท่าทางเซ็งๆ ประโยคนี้ก็คงจะพูดซ้ำหลายรอบแล้วสินะ =_=
            “อ๋อ สอบได้แต่ไม่ขึ้น”  ฉันพยักหน้าเข้าใจ อันที่จริงมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา คนที่สอบติดแล้วไม่ขึ้นโพเดี้ยมก็มีถมเถไป U.U
            “แต่ไหนๆ ก็เอามาแล้ว...ฉันรับไว้ก็ได้”  ปาวพูดแล้วหยิบช่อดอกไม้ไปจากฉัน
            “ขอบใจนะ ฉันว่าแล้วว่านายไม่ใช่คนใจร้าย ^^”  ฉันยิ้มส่วนปาวก็ยิ้มตอบมาให้ฉัน กรี๊ดๆๆ นายยิ้มหวานไปแล้วนะ ฉันคิดนะเนี่ย >////<
            “อ่ะ!” 
            แต่จู่ๆ ปาวก็เข้าไปขนของมากมายทั้งช็อกโกแลต ตุ๊กตาและช่อดอกไม้ที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะเขามาให้ฉัน หนักเป็นบ้า -_-*
            “ให้ฉันทำไม แฟนคลับนายเอามาให้ไม่ใช่หรอ”  ฉันมองของขวัญในมือกับปาวสลับกัน
            “เอาไปซะ...แล้วก็เลิกยุ่งกับฉันเถอะ”  ปาวบอก
            “หะ...ห๊ะ!”  เหมือนมีอะไรบางอย่างมาฟาดเข้าที่หน้าแรงๆ จนหน้าฉันเกือบจะหงายไปข้างหลัง อาการหน้าชาเป็นอย่างนี้เองน่ะหรอ แขนขาก็ชาไปด้วยจนทำกล่องของขวัญหล่นลงพื้นไปแล้วหลายกล่อง
 
 
**********************************************************
กะว่าจะเสริฟงานฟิน กลายเป็นเสริฟงานมาม่าซะงั้น 
แต่อย่าเพิ่งน้อยใจไป ตอนต่อไปยังมี ฟินจริงๆ ไม่ได้โม้ อิอิ 
ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ
:: จะรอนะ 
*********************************************************
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา