Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
9.1
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
30 ตอน
3 วิจารณ์
29.21K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) สิ่งที่มันกำลังเกิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ-28-
สิ่งที่มันกำลังเกิด
“บาดเจ็บตรงไหนไหม” ปาวเข้ามาบีบไหล่ทั้งสองข้างของฉันเบาๆ พร้อมกับสำรวจไปทั่วร่างกายฉันอย่างเป็นห่วง ก่อนจะรีบจัดกระโปรงของฉันให้เข้าที่และถอดเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่มาปิดร่างท่อนบนที่เกือบเปลือยของฉันเอาไว้ แต่แล้วสายตาที่ตื่นตระหนกและห่วงใยเมื่อครู่ กลับเปลี่ยนเป็นแววตาแข็งกร้าว เคียดแค้นจนฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว
ปาวผละออกจากฉันก่อนจะเดินกลับไปหาผู้ชายที่เขาเพิ่งจะถีบสลบไปเมื่อครู่แล้วออกแรงกระทืบซ้ำที่ผู้ชายคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง ฉันมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ฉันได้แต่ร้องไห้ออกมาเบาๆ ภายใต้ฝ่ามือตัวเองที่ยกขึ้นมาปิดปาก...เวลาแบบนี้ ปาวดูน่ากลัวอย่างกับเป็นคนละคน!
“เฮ้ย!! ปาวๆๆ พอแล้ว! เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” ฟานเข้ามาล็อกแขนปาวเอาไว้พร้อมกับดึงออกมาให้ห่างจากผู้ชายคนนั้นมากที่สุด
“ใจเย็นเพื่อน เดี๋ยวเราก็เค้นเอาตัวการมาจัดการไม่ได้หรอก” ท็อทพูดเสริมอีกคน ทำให้ปาวใจเย็นลงบ้าง
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง” ฟานหันมาถามฉันแต่ฉันพูดอะไรออกมาไม่ได้เลยเพราะก้อนสะอื้นมันจุกอยู่ที่คอ ฉันทั้งเจ็บทั้งอายจนไม่รู้จะทำตัวยังไง
เจ็บ ที่โดนยัยแมทธ์ตบแล้วก็ดึงทึ้งผมเล่น...อาย ที่ปาวต้องมาเห็นฉันในสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้!
“โบ...” เหมยและอ๋องซึ่งตามเข้ามาทีหลังถึงกับหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นสภาพฉันใกล้ๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบเข้ามากอดฉันไว้แน่น น้ำตาแห่งความยินดีหลั่งไหลออกมาพร้อมๆ กัน...โชคดีจริงๆ ที่ฉันรอดมาได้
“ฉันว่า แกพาโบอิ้งกลับบ้านก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวฉันสืบทางนี้เอง” ท็อทบอกปาว ปาวพยักหน้ารับเบาก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือฉัน เหมยกับอ๋องจึงยอมผละออกจากฉัน
“กลับบ้านกัน ดะ...เดี๋ยวฉันไปส่ง” ปาวพูดด้วยน้ำเสียงขาดห้วงไปนิดหน่อย ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองปาวด้วยม่านน้ำตาที่ยังคงหนาแน่นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ
ปาวช่วยพยุงฉันลงมาจากกระโปรงรถคันเกิดเหตุก่อนจะพาเดินมาที่รถของเขา พอเขาพาฉันมานั่งบนรถเสร็จ ปาวก็เดินไปคุยกับท็อทและฟานที่ยังยืนคุมเชิงอยู่ที่เดิมและปล่อยให้เหมยกับอ๋องยืนอยู่เป็นเพื่อนฉันไปพลางๆ ฉันมองพวกเขาที่คุยกันอย่างเคร่งเครียดด้วยความอ่อนเพลียอย่างหนัก เมื่อกี๊ฉันใช้พลังงานมหาศาลมากในการดิ้นรนเอาชีวิตรอด...ตอนนี้ฉันหมดแรงแล้ว
[ปาว # Talk]
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!...ช่วยด้วยค่ะ ช่วยจับผู้ชายคนนั้นหน่อย มันเป็นโจรกระชากกระเป๋า!!!” ระหว่างที่ผมกำลังออกมาซื้อยาให้โปรดที่ร้านขายของใกล้ๆ กับโรงเรียน จู่ๆ ก็มีเสียงใสๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนลั่นถนน ผมรีบจ่ายเงินแล้วเดินออกมาดูนอกร้าน ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมหมวกแก๊ปสีดำปกปิดใบหน้ากำลังวิ่งมาทางนี้โดยมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งวิ่งตามมาติดๆ
เธอทั้งตะโกนทั้งวิ่งแต่ไม่มีใครสนใจเธอเลย แค่มองๆ แล้วก็ปล่อยให้โจรวิ่งผ่านหน้าไปอย่างสบายๆ ทำไมเป็นแบบนี้นะคนสมัยนี้ -*-!
พลั่ก!
แอ่ก!
ผมอาศัยจังหวะที่มันหันไปมองผู้หญิงคนนั้นจัดการปล่อยหมัดเข้ากลางลำตัวมันทันที ด้วยความที่โจรมันวิ่งมาด้วยความเร็วบวกกับความหนักของหมัดที่ถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กทำให้โจรล้มลงกองกับพื้นแล้วสลบไป ดีกรีทายาทรุ่นที่ 10 ของแก๊งมาเฟียอย่างผม การล้มใครสักคนได้ด้วยหมัดเดียวมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ง่ายยิ่งกว่าแกะซองมันฝรั่งอบกรอบซะอีกนะผมว่า =_=
แต่สำหรับคนทั่วไปรวมทั้งผู้หญิงคนนั้นคงมองว่าเป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากสินะ มองผมหน้าตาตื่นเชียว
“แฮ่กๆๆ” เธอมาหยุดหายใจหอบอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง เครื่องแบบที่เธอใส่เป็นเครื่องแบบโรงเรียนผมเอง ดูจากขีดบอกระดับชั้นก็รู้ว่าเธอเรียนอยู่ ม.6 แต่แปลกที่ผมไม่เคยเจอเธอในโรงเรียนเลย
แต่เคยเจอหรือไม่เคยผมว่าผมน่าจะรีบไปก่อนที่เธอจำหน้าผมได้แล้วเอาไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ เพราะสถานะของผมตอนนี้มันไม่สมควรจะให้โลกรู้สักเท่าไหร่ คุณจะรู้สึกยังไงล่ะครับถ้าเพื่อนที่เรียนในโรงเรียนคุณเป็นลูกชายมาเฟียแล้วก็จ่อขึ้นแท่นเป็นหัวหน้าแก๊งอยู่รอมร่อแล้ว คงจะน่ากลัวพิลึก!
“ขอบ...อ้าว?” เสียงขอบคุณของเธอขาดไปเพราะผมรีบเดินมาก่อน แต่เธอก็ยังเดินตามผมมาอย่างไม่ลดละ ผมเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหนีเธอพ้นเพราะอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกเธอเอาไว้ก่อน
โรงเรียนนี้มีนโยบายอย่างหนึ่งที่คนเรียนเก่งชอบนั่นก็คืออำนวยความสะดวกให้กับคนที่เรียนเก่งทุกๆ ด้าน แล้วโชคร้ายก็ตกไปเป็นของคนเรียนไม่เก่ง เพราะเขาจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ทำให้คนที่เรียนเก่งอย่าง A,B,C (อย่างผม) และคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งอย่างห้อง D,E,F ไม่ค่อยถูกกัน และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเดินเข้าออกโรงเรียนในเวลาที่คนอื่นเข้าชั้นเรียนไปแล้วได้อย่างง่ายดาย
แล้วช่วงพักกลางวันในวันเดียวกันผมก็เจอเธออีกครั้งที่หน้าบอร์ดประกาศผลสอบรวบยอด ทำให้ผมรู้ว่าเธอชื่อโบอิ้ง เรียนอยู่ห้อง D เป็นเพื่อนกับอ๋อง หรือใครๆ ก็เรียกว่า อ๋องน้อย ซึ่งเป็นญาติกับท็อท เหมือนจะเป็นคนใกล้ตัวแท้ๆ แต่แปลกไหมที่ผมไม่เคยเจอหรือรู้จักเธอมาก่อน
หลังจากที่เรากินมื้อกลางวันเสร็จผมก็รีบเดินออกมาจากโรงอาหารเพราะรู้สึกว่าจะมีเรื่องวุ่นวายบางอย่างเกิดขึ้น แต่ผมไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านก็เลยแยกออกมาพร้อมกับฟานและท็อทเพื่อไปเตรียมตัวเรียนภาคบ่าย แต่ที่ล็อกเกอร์ของผมกลับเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหลบอยู่ในซอกล็อกเกอร์โดยมีคนของผมกำลังค่อยๆ ย่องเข้าไปหา ตัวเธอสั่นอย่างกับลูกนกเหมือนเธอกลัวคนของผมมาก
ทำไมคนของผมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ มาแอบทำงานนอกเหนือคำสั่งรึเปล่า?
“เฮ้ย! ทำไรน่ะ” ผมร้องถามแต่ไม่ดังมากทำให้คนของผมหันมามอง หมอนั่นโค้งคำนับผมครั้งหนึ่งแล้วเดินเข้ามาหา
“คือ...” มันพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมยกมือห้ามไว้
“แล้วค่อยเล่า กลับไปก่อน” ผมบอกเบาๆ คนของผมโค้งคำนับอีกครั้งก่อนจะรีบเดินไป ผม ท็อท ฟานจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธอ
“โอ้ย!!!” ผู้หญิงคนนั้นร้องพร้อมกับลูบท้ายทอยตัวเองป้อยๆ หลังจากที่โผล่หน้าออกมาแอบส่องแล้วเจอกับผมพอดี
“เธอ!” ผมร้องด้วยความตกใจที่เจอเธออีก...โบอิ้งอีกแล้ว!
“เพื่อนท่านอ๋องรึเปล่า” ท็อททักโบอิ้งอีกคน
“มาทำอะไรแถวล็อกเกอร์ไอ้ปาวล่ะเนี่ย หรือว่า...เธอก็เป็นแฟนคลับไอ้ปาวอีกคน” ฟานเลิกคิ้วถามพร้อมกับสีหน้ายียวนตามประสา ทำเอาใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นพร้อมกับมีท่าทางอึดอัดพูดไม่ออก แต่ยังดีที่ท็อทถามแทรกขึ้นมาพร้อมกับช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้น ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“แล้วเธอไปนั่งทำอะไรในหลืบนั่นล่ะ ชอบถ้ำมองเหมือนท่านอ๋องรึไง”
โบอิ้งค้อนใส่ท็อททำให้มันขำออกมานิดหน่อย แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เจ็บมากไหมน่ะ”
“อ๋อ...มะ ไม่ๆ ไม่เจ็บเลย” เธอรีบปฏิเสธ แต่ผมรู้ว่าเธอคงเจ็บเอาการอยู่แค่พยายามเก็บอาการไว้
“อืม งั้นก็ดีแล้ว” ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะแยกไปเอาหนังสือเตรียมไปเรียนภาคบ่ายซึ่งเป็นวิชาของอาจารย์เพียงออ
ผมรู้สึกแปลกๆ นะเมื่อรู้ว่าเธออาจจะเป็นแฟนคลับผม ที่ฟานถามไปเมื่อกี๊อาจจะแค่แซวเล่นแต่ดูจากท่าทางของเธอผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่ฟานแซวจริงๆ แต่...ถ้าผมทำเป็นไม่สนใจซะอย่างคงยอมถอยเหมือนแฟนคลับคนอื่นนั่นแหละ เพราะผมไม่อยากให้ใครต้องมาเกี่ยวข้องกับวงจรชีวิตที่มีแต่ลูกตะกั่วอย่างผม
พวกผมรอแล้วรออีกอาจารย์เพียงออก็ไม่เข้าสอน หัวหน้าห้องไปถามก็บอกว่าติดงานที่ฝ่ายปกครองวันนี้เลยงดคลาสไป พวกผมก็เลยออกมาเล่นบาสที่สนามแทน แต่เชื่อไหมครับ...ผมเจอโบอิ้งอีกครั้งที่นั่น! และผมดันปัดบาสลอยไปกระแทกหน้าโบอิ้งอีกต่างหาก =_=
ไม่น่าเชื่อว่าแค่วันเดียวผมบังเอิญเจอคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตั้ง 4 ครั้ง แล้วแต่ละครั้งที่เจอกัน ก็เจอแบบแปลกๆ ทั้งนั้น ผมชักสงสัยขึ้นมาแล้วว่าเราอาจมีบางอย่างที่ต้องเกี่ยวข้องกัน
ทุกอย่างเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่าโบอิ้งชอบผม เมื่อเราบังเอิญเจอกันบ่อยๆ และมีบางครั้งที่เหมือนจะเกิดจากความตั้งใจของโบอิ้งเอง แต่ถึงจะเจอกันยังไงไม่มีเลยสักครั้งที่จะเจอกันแบบธรรมดาๆ อย่างวันนี้ก็เช่นกัน
วัน D-Day ของโรงเรียนก็เหมือนกับเทศกาลอื่นๆ มีการซื้อของขวัญมาแลกกัน บ้างก็ซื้อของขวัญเพื่อแสดงความยินดีให้กับสายรหัส เพื่อนหรือคนที่ตัวเองชอบ แต่เท่าที่ผมดูของขวัญและขนมมากมายที่อยู่บนโต๊ะไม่เห็นของโบอิ้งเลยแฮะ
“ได้ๆ เดี๋ยวลงไป หาของก่อน...อืม” ผมรับคำสั้นๆ กับฟานที่อยู่ปลายสายก่อนจะรื้อของขวัญที่อยู่บนโต๊ะของตัวเองต่อ ดีที่ในห้องตอนนี้ไม่มีใครเพราะพวกนั้นไปรอขึ้นโพเดี้ยมเกียติยศหมดไม่งั้นคงคิดว่าผมทำโคตรเพชรของคุณยายทวดหายเข้าไปในกองของขวัญนี้แหงๆ รื้อของกระจายขนาดนี้ =_=;
วันนี้ผมไม่ขึ้นโพเดี้ยมเกียติยศเหมือนคนอื่นเขาเพราะรู้สึกว่ามันยุ่งยาก ทั้งซ้อม ทั้งเตรียมอะไรหลายๆ อย่างก็เลยตัดปัญหาไม่ขึ้นมันซะเลย แต่ถึงผมไม่ขึ้นโพเดี้ยมในฐานะแฟนคลับโบอิ้งก็ต้องเอาของมาให้ผมบ้างสิ จริงไหมครับ?
เอ่อ...ทำไมผมต้องตั้งตารอของขวัญจากยัยคนนั้นด้วยเนี่ย -*-?
“ไม่มีจริงๆ หรอเนี่ย” ผมพึมพำอยู่คนเดียวขณะที่ยังรื้อของบนโต๊ะอย่างไม่ลดละ
ครึกๆๆ
ค้นไปค้นมาเฟอเรโร่ 4-5 ห่อที่วางเรียงกันอยู่ก็ตกลงไปที่พื้นแล้วกลิ้งออกไปนอกประตูซะงั้น
“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจออกมายาวๆ เพราะว่าขี้เกียจเดินออกไปเก็บ แต่ถ้าทิ้งไว้อย่างนั้นอาจทำให้คนที่เดินผ่านมาหัวฟาดพื้นได้ก็เลยต้องทำตัวเป็นพลเมืองดีซะหน่อย พอเดินไปถึงและกำลังจะก้มลงไปหยิบ ก็เจอใครบางคนก้มเก็บเฟอเรโร่ของผมอยู่
“เฮ้ย! มาทำไรแถวนี้เนี่ย” ผมร้องทักเมื่อเห็นว่าโบอิ้งกับอ๋องนั่นเองที่กำลังหยิบมัน
“ห๊ะ! คือ...” โบอิ้งมีท่าทางอึกอักเมื่อผมถามคำถามนี้ ตั้งมาใจหาผมงั้นหรอ?
“คุยกันไปก่อนนะ สงสัยเหมยเสร็จแล้ว ไปหามันก่อน” อ๋องบอกแล้วเดินแยกลงไปจากตึกโดยทิ้งโบอิ้งพร้อมดอกไม้ 1 ช่อไว้
“อ้าวเดี๋ยว!” โบอิ้งทำท่าจะวิ่งตามอ๋องไปแต่มีหรือที่ผมจะปล่อยไปง่ายๆ
ผมรอเธอมาทั้งวันแล้วนะโบอิ้ง เฮ้ย! ไม่ใช่!! ผมหมายถึง...เอ่อ...?
“อย่าบอกนะว่าเอาดอกไม้มาให้ฉัน” ผมถามออกไปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“ฉันต้องพูดประโยคนี้ซ้ำอีกแล้วหรอเนี่ย” ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อบ่งบอกให้เธอรู้ว่ามีผู้หญิงมากมายแวะเอาของขวัญมาให้ผมก่อนเธอ เธอจะได้ร้อนรนบ้างปล่อยให้ผมร้อนรนรอเธออยู่ฝ่ายเดียวมันไม่แฟร์...แต่ผมไม่ได้ชอบเธอนะ! น้องรหัสของไอ้ทิวน่ะ ผมไม่อยากจะยุ่งเท่าไหร่หรอก!!
“ประโยคไหน”
“ฉันไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยม”
“ห๊ะ! ไม่จริงน่า นายสอบไม่ติดรอบโควต้าหรอเป็นไปได้ไง O_o”
“ฉันตั้งใจไม่ขึ้นเอง”
“อ๋อ สอบได้แต่ไม่ขึ้น” เธอพยักหน้ารับรู้
“แต่ไหนๆ ก็เอามาแล้ว...ฉันรับไว้ก็ได้” ผมก้มลงไปหยิบช่อดอกไม้มาจากมือของโบอิ้งด้วยตัวเอง เธอยิ้มกว้างให้ผมทันทีจนผมต้องรีบหันกลับมาในห้องเพราะไม่อยากมองรอยยิ้มนั้นนานๆ มัน...รู้สึกแปลกๆ
ผมมีความรู้สึกดีกับโบอิ้งมากเกินไป ผมต้องหาทางให้โบอิ้งอยู่ห่างๆ ผมเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของเธอและความปลอดภัยของหัวใจตัวเอง...ที่ผมยังรักหรือรู้สึกดีกับใครไม่ได้ในตอนนี้เพราะอะไรต่างๆ ยังไม่เข้าที่ ตราบใดที่ผมยังต้องวิ่งหนีกระสุนปืนแบบวันเว้นวันแบบนี้ ผมจะไม่ชอบใครเด็ดขาด!
“ขอบใจนะ ฉันว่าแล้วว่านายไม่ใช่คนใจร้าย ^^”
“อ่ะ!” ผมตัดสินใจหอบของขวัญทั้งหมดที่หอบได้มาให้โบอิ้ง ผมรู้ว่าคนรับอาจจะรู้สึกไม่ดีแต่ผมต้องทำ!
“ให้ฉันทำไม แฟนคลับนายเอามาให้ไม่ใช่หรอ” เธอมองผมสลับกับของขวัญไปมาอย่างงงๆ
“เอาไปซะ...แล้วก็เลิกยุ่งกับฉันเถอะ”
“หะ...ห๊ะ!”
“เมื่อกี๊ฉันบอกว่า...”
“ฉะ..ฉันได้ยินแล้วไม่ต้องย้ำ! แล้วฉันไปยุ่งกับนายตอนไหนไม่ทราบ แค่ไปเย็บขาตุ๊กตาให้แล้วก็เจอกันโดยบังเอิญเท่า!...” เธอเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น ดูเหมือนเธอจะโกรธผมขึ้นมาแล้ว
...แต่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว
“แค่ยุ่งกับตุ๊กตาตัวนั้นก็มากเกินพอแล้ว” ผมพูดแทรกก่อนที่เธอจะพูดจบ
เย็นชาเข้าไว้ไอ้ปาว! ห้ามใจอ่อน!!
“งั้นหรอ...ได้” โบอิ้งพยักหน้าด้วยท่าทางเอาเรื่อง แล้วเดินเข้ามาวางของที่ผมให้ไว้ในห้อง
“เอาคืนมา!!!” เธอกระชากช่อดอกไม้ที่ผมถืออยู่คืนแล้วจะเดินออกไปจากห้อง แต่ผมปล่อยเธอไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ อย่างน้อยเธอน่าจะรู้เหตุผลว่าผมทำไปทำไม...ผมไม่อยากให้เธอเกลียดผม
“เธอไม่รับของแบบนี้แสดงว่ายังจะยุ่งกับฉันอีกหรอ”
“เปล่า! หมายความว่าฉันจะไม่ยุ่งกับนายเลยตั้งแต่วินาทีนี้เลยต่างหาก!” เธอสะบัดมือผมออกแล้วเดินดุ่มๆ ออกไปจากห้อง ผมต้องทำอะไรสักอย่าง!!
ขอโทษนะโบ...ผมตัดสินใจหยิบตุ๊กตาตัวที่ขนนุ่มที่สุดขว้างไปที่กลางหลังของโบอิ้งเบาๆ เธอหยุดฝีเท้าและหันกลับมาอย่างที่คาด แต่ดูเหมือนเธอจะโกรธผมมากกว่าเดิมซะอีก
“คนนิสัยไม่ดี!”
“ว่าไงนะ เมื่อกี๊เธอว่าฉันหรอ? เธอรู้รึเปล่าที่ฉันทำไปเพื่อความปลอดภัยของเธอนะ” ผมเดินไปขวางทางเธอเอาไว้
“ปลอดภัยจากอะไร? จากแฟนคลับนายงั้นหรอ”
“ก็...มีส่วน” ผมตอบ จริงๆ แล้วปลอดภัยจากแก๊งมาเฟียแก๊งอื่นต่างหาก แต่ผมก็บอกเธอไม่ได้...
“นอกจากแฟนคลับนาย ยังมีอย่างอื่นที่มันอันตรายไปกว่านี้อีกรึไง”
“มีสิ...อันตรายแบบที่เธอคาดไม่ถึงเลยล่ะ”
“โอเคๆ ฉันยอมรับความหวังดีของนายก็ได้ของได้...หลีกไปได้แล้ว!” โบอิ้งบอกอย่างขอไปที แต่ถึงเธอจะมีท่าทางแบบนั้นผมก็ต้องยอมปล่อยเธอไปก่อน ถ้าพูดอะไรให้เธอสงสัยมากกว่านี้ผมกลัวว่าเธอจะไปสืบจนรู้ว่าผมเป็นใคร
“ได้” ผมเลื่อนไปด้านข้างก้าวหนึ่งเพื่อให้โบอิ้งเดินออกจากห้องได้ แต่ผมดันเซ่อเหยียบตุ๊กตาที่ตัวเองเพิ่งจะขว้างใส่โบอิ้งจนเซไปเซมา
“เฮ้ย!!” นี่แกจะล้มไม่เป็นท่าจริงๆ น่ะหรอไอ้ปาว!!!
“ปาว!!...เหวอ!!” โบอิ้งร้องพร้อมกับทำท่าเหมือนจะช่วยพยุงผมไว้ แต่เธอก็ไม่มีแรงพอทำให้เราล้มลงมาด้วยกัน!
จุ๊บ!!!
ความรู้สึกอุ่นๆ ที่ริมฝีปากทำให้ผมรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น โบอิ้งเบิกตาโพลงขึ้นด้วยความตกใจทำให้เราสบตากันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ริมฝีปากของเธอที่ประกบกับผมอยู่สั่นนิดหน่อยก่อนที่เธอจะรีบดันตัวลุกขึ้นนั่งข้างๆ ผม ผมค่อยๆ ลุกตามอย่างเงียบๆ
เหมาะเจาะเกินไปไหนวะ! แต่...ผมรู้สึกดีนะ -_-///
“เอ่อ...” เธอส่งเสียงผ่านลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับมีท่าทางร้อนรนขึ้นมา ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันก็เลยได้แต่นั่งนิ่งๆ คอยข่มใจตัวเองที่มันกำลังเต้นรัวให้กลับมาเต้นเป็นปกติเหมือนเดิม
“ฉะ...ฉันว่า...เพื่อนคงหาฉันทั่วทั้งงานแล้วล่ะ” โบอิ้งบอกแล้วรีบวิ่งออกจากห้องทันทีจนผมเองก็มองตามไม่ทัน
โธ่เอ้ยไอ้ปาว!!! แทนที่จะพูดอะไรหน่อย ปล่อยเขาไปแบบนั้นได้ไงวะ!!
ผมทุบศีรษะตัวเองสองสามครั้งเพื่อลงโทษความเฮ็งซวยของตัวเองก่อนจะดันตัวลุกขึ้น แต่ระหว่างที่ลุกก็เจอมือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่ใกล้ๆ กับที่ที่โบอิ้งนั่งเมื่อครู่
ของโบอิ้งรึเปล่านะ?
ผมหยิบมันขึ้นมากดดูก็เจอวอลเปเปอร์เป็นรูปโบอิ้งและเพื่อนเซลฟี่ชูสองนิ้วอยู่ ทำให้ผมมั่นใจว่ามันคือของโบอิ้งแน่ๆ มือถือสีทองฝังเพชร รุ่น Limited edition ซะด้วย แต่เธอเป็นหนี้บ้านผมอยู่ 22 ล้านกว่าๆ เลยนะ ทำไมถึงใช้ของแพงๆ แถมหา(โคตร)ยากแบบนี้ได้ ผู้หญิงคนนี้มีอะไรซับซ้อนกว่าที่เห็นงั้นหรอ
ครืด~ ครืด~ ครืด~
จู่ๆ มือถือของโบอิ้งก็สั่นเบาๆ ในมือผม ผมมองในจอก็เห็นหน้าไอ้ทิวโชว์หราอยู่ ผมต้องข่มใจเอาไว้แบบสุดๆ ที่จะไม่ขว้างมันทิ้งไปให้ไกลตา
“ฮึ!” ผมพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะกดตัดสายมันซะเลย!
ครืด~ ครืด~ ครืด~
ไอ้ทิวกดโทรซ้ำมาอย่างมุ่งมั่น ผมก็กดตัดสายอย่างมุ่งมั่นไม่แพ้กัน ดูสิว่ามันจะโทรมาได้อีกกี่สาย!
*******************************************************
เฮ้!!! เราอัพแล้วน้าาาาาา
จัดให้ตามคำขอ 2 วันไม่ได้แต่ไรท์จัดมาให้แบบยาวๆ พิมพ์เพิ่มหน้าหนึ่งเลยนะเนี่ย ^^
พิมพ์ผิดเยอะยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ปาว # Talk ยังไม่จบนะตัวเธอว์
:: เตรียมฟินไว้เลย (สปอยเกินจริงโปรดอภัย 555+)
:: อย่าอ่านเพลินจนลืมคอมเม้น + กดแชร์กันนะจ้ะรีดเดอร์ ^O^
********************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ