Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ความผิดติดตัวฉัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-12-
ความผิดติดตัวฉัน
“โชคดีนะกระสุนแค่ถากๆ”
“ทายาทรุ่นที่ 10 ของโอเชี่ยนคอป. เกือบสิ้นชื่อแล้วไหมล่ะ” ท็อทพึมพำพร้อมกับที่เสียงของพวกเขาไกลออกไปเรื่อยๆ จนฉันไม่ได้ยินเสียงพวกเขาอีก
“ปาว...” ฉันเรียกชื่อปาวออกมาเบาๆ พร้อมกับข้อสงสัยมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว
ทำไมปาวถึงโดนยิงล่ะ ไปเล่นพนันบอลมารึไง หรือว่าพวกลูกหนี้มีความแค้นฝังใจต้องการเก็บปาวเพื่อล้างแค้นคุณปริญญ์ หรือแค่เดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่มันกำลังตีกันแล้วโดนลูกหลง โอ้ย! แต่ละอย่างดูเป็นไปได้หมดเลย Y.Y
แต่ถึงยังไง ที่เขาเป็นแบบนั้นก็เพราะออกมาส่งฉัน T^T
ฉันนั่งกลุ้มมาตลอดช่วงเช้าจนกระทั่งกินข้าวกลางวันเสร็จฉันก็อดทนไม่ไหว ยังไงก็ต้องถามโปรดให้รู้เรื่อง แต่ยัยนี่ก็แปลกพี่ชายโดนยิงทั้งคนก็ยังทำตัวลั่นล้าได้ทั้งวัน =_= ฉันใช้จังหวะที่เดินกลับไปส่งโปรดที่ห้องเพราะตอนนี้เราอยู่กันแค่ 2 คน อ๋องกับเหมยขี้เกียจเดินมาด้วยก็เลยขอแวะกลับห้องก่อน ฉันเลยได้โอกาสถามเรื่องปาว
“วันนี้ทำไมปาวไม่มาเรียนล่ะ” ฉันถามระหว่างที่เดินกลับห้อง โปรดหยุดฝีเท้าแล้วหันมาขมวดคิ้วมองฉันอย่างงงๆ
“เพ้ออะไรของเธอเนี่ย พี่ปาวขับรถมาส่งฉันถึงโรงเรียน จะไม่มาได้ไง”
“อ้าว ทำไมฉันได้ยินมาว่าปาวป่วยก็เลยไม่ได้มาเรียน...สรุปยังไงล่ะเนี่ย”
“ป่วย? ป่วยเป็นอะไร”
“ก็...” โปรดมองหน้าฉันเหมือนรอคำตอบ ฉันก็เลยฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า บางทีที่ปาวฝืนสังขารขับรถมาส่งน้องถึงโรงเรียนอาจจะไม่อยากให้โปรดรู้เรื่องที่ตัวเองโดนยิงก็ได้ ฉันก็เลยเลี่ยงที่จะเล่าต่อ
“ช่างเถอะ ฉันคงได้ยินมาผิดเองแหละ” ฉันบอกพร้อมกับออกเดินนำหน้าโปรดไปก่อน
“เฮ้อ...จะจีบพี่ฉันก็ไปสืบข้อมูลมาดีๆ หน่อยนะ มาแช่งให้พี่ฉันป่วยแบบนี้ไม่เข้าท่าเลย” โปรดบ่นไปบ่นมาจนกระทั่งมาถึงห้อง ฉันส่งคุณหนูขี้บ่นเสร็จก็เดินกลับลงมา แต่เดินลงมาได้แค่ชั้นเดียวก็มีชายชุดดำ 2 คนวิ่ง
สวนขึ้นไปชั้นบนอย่างเร็วจนเกือบจะชนฉันแน่ะ =_=
เอ๊ะ! เมื่อกี๊คนของโปรดนี่นา รีบร้อนอะไรกัน? ยัยนั่นเพิ่งจะแยกกับฉันเมื่อกี๊เรียกใช้คนอื่นอีกทำไม...แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อย
ฉันเดินกลับมาที่ตึกเรียนก็เจอกับคนที่ฉันคิดว่าเขาไม่มาเรียน...ปาวยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าห้องฉันเหมือนรอใครอยู่ หรือว่ารอฉันนะ =_=?
“อ้าว...ไหนว่านาย...” ฉันทักปาวทันทีที่เดินมาถึง แต่ก็ทำได้แค่กระซิบถามเท่านั้นเพราะว่าคาบแรกของช่วงบ่ายอาจารย์เข้าสอนแล้ว
“มากับฉันหน่อย” ปาวบอกเสียงเรียบแล้วลากฉันออกมาโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ =_=///
ปาวลากฉันลงมาที่หลังห้องน้ำของตึกเรียนชั้นล่าง มันเป็นที่โล่งๆ ที่มีไม้พุ่มเตี้ยๆ ปลูกอยู่ อากาศก็ดีอยู่นะแต่มันอยู่หลังห้องน้ำก็เลยไม่ค่อยมีนักเรียนคนไหนชอบผ่านมาทางนี้
“ไหนว่านายไม่มาเรียนไง” ฉันถามเมื่อเราเดินออกมาไกลพอสมควรแล้ว
“เธอไปบอกโปรดทำไม!!” ปาวสะบัดแขนฉันออกจากมือแล้วตะวาดลั่นจนฉันตั้งตัวไม่ติด เมื่อวานยังคุยกันดีๆ อยู่เลย แล้วทำไมวันนี้เขาถึง...
“ฉันไปบอกโปรดเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่ฉันป่วยจนไม่ได้มาโรงเรียนไง”
“ฉันไม่ได้บอกอะไรเลยนะ ฉันแค่ถามเฉยๆ ว่านายเป็นอะไรทำไมไม่มาเรียน แค่นั้นเอง”
“แค่นั้นงั้นหรอ!! เธอได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่มาเรียน”
“ฉัน...บังเอิญได้ยินมา” ฉันก้มหน้างุดๆ ด้วยความรู้สึกผิด แสดงว่ายัยโปรดไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ชายโดนยิง เกือบบอกแล้วไหมล่ะตรู -_-;
“เฮ้อ...ต่อไปไม่ว่าเธอบังเอิญได้ยินอะไรมา ช่วยอยู่เฉยๆ อย่าเที่ยวไปถามใครหรือว่าไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะโปรด เข้าใจไหม!!”
“ฉะ...ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย เห็นว่าไม่สบายจนไม่มาเรียนก็เลยลองถามดูเท่านั้นเอง” ฉันบอกออกไปตรงๆ ถึงจะอายที่ต้องพูดอะไรตรงๆ แต่ก็อยากบอกให้เขารู้ว่าที่ฉันถามโปรดฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย
“ขอบคุณมากที่เธอห่วงฉัน แต่ช่วยเก็บความห่วงใยของเธอไว้เงียบๆ หน่อยได้ไหม!”
“ปาว” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองปาวอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“รู้รึเปล่า ความห่วงใยบ้าๆ ของเธอมันทำให้คนอื่นเป็นยังไง!!!”
“มันไม่ใช่ความห่วงใยบ้าๆ นะ ฉันห่วงด้วยความบริสุทธิ์ใจ!” ฉันขึ้นเสียงบ้าง เขาพูดเหมือนความห่วงใยของฉันมันไปฆ่ายัยโปรดยังงั้นแหละ! ฉันผิดมากหรอที่ห่วงเขา!!
“แล้วที่ฉันห่วงนายมันผิดตรงไหนหรอ ฉันเป็นแฟนคลับของนาย ฉันก็ต้องอยากรู้เรื่องของนายเป็นธรรมดา ถ้านายชอบใครสักคนแล้วรู้ว่าเขาป่วยนายก็ต้องอยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างแค่ฉันเอาเรื่องที่นายป่วยไปถามโปรดมันจะเป็นอะไรหรอ มันจะทำให้ภูเขาระเบิดหรือว่าโลกแตกออกมารึไง ทำไมนายต้องมาตะคอกใส่ฉันด้วย!!!”
“โปรดโรคหัวใจกำเริบ...” ปาวพูดออกมาในที่สุด ทำเอาฉันเกือบวูบตามไปกับคำพูดของปาว เขาพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่มันก้องกังวานอยู่ในหัวจนต่อมความรู้สึกผิดมันตอกย้ำให้ฉันรู้สึกชาไปทั้งตัว อย่าบอกนะว่าที่พวกชุดดำวิ่งสวนขึ้นตึกไปตอนนั้นวิ่งขึ้นไปช่วยโปรด!
“เธอถามเรื่องที่ฉันป่วยจนไม่ได้ไปโรงเรียน โปรดก็เลยคิดมากโรคหัวใจก็เลยกำเริบอย่างหนัก...”
“ตะ...ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่ฟื้น”
“ห๊ะ! แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่าน้องนายเป็นโรคหัวใจ”
“โปรดไม่ให้บอก น้องฉันสุขภาพไม่ดีแล้วก็อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งโตขึ้นได้รับการรักษาที่ดีขึ้นก็เลยแข็งแรงขึ้นมาหน่อย ยัยนั่นบอกว่า...อยากจะมีชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง ไม่อยากให้ใครคอยมาดูแลประคบประหงมจนเกินเหตุก็เลยขอไม่ให้บอกเพื่อนคนไหนเลยถ้าไม่จำเป็น” เขาหันมองไปที่รั้วโรงเรียนแทนการมองฉันตรงๆ
เมื่อกี๊ฉันแอบเห็นตาปาวมีน้ำตาคลอๆ ด้วย แต่ฉันก็ทำเป็นไม่เห็นเพราะเขาก็คงไม่อยากให้ฉันเห็นมุมนี้ของเขาเหมือนกัน
“ฉัน...ขอโทษ” ฉันพูดออกมาเบาๆ ความรู้สึกผิดยิ่งตอกย้ำให้ฉันตัวเล็กลงเรื่อยๆ เมื่อปาวหันมาพูด...
“ต่อไปก็ดูตาม้าตาเรือหน่อย อีกอย่าง...เธอไม่ต้องห่วงใย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันอีก...ขอร้องล่ะ!!”
ปาวพูดทิ้งไว้แล้วเดินออกไปทันที ตัวฉันชาวาบเหมือนไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ เมื่อกี๊เขาพูดชัดกว่าเมื่อวานอีก ให้เลิกยุ่งกับชีวิตของเขาเลยสินะ...นี่คงจะเป็นบทลงโทษที่ฉันไม่คิดให้รอบคอบ ฉันน่าจะหยุดถามตั้งแต่โปรดบอกว่าปาวมาส่งที่โรงเรียนแล้ว ฉันน่าจะเฉลียวใจสักนิดว่าปาวพยายามทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ ฉันไม่ควรจะทำให้คนที่ฉันชอบต้องมาเสียใจแบบนี้เลย
ฉันรีบโทรหาโปรดทันทีที่ออดเลิกเรียนดัง พอได้ยินเสียงยัยนั่นดังมาจากปลายสายฉันแทบจะกรี๊ดออกมา...ปลอดภัยแล้วสินะโปรด
โปรดบอกว่าไม่ชอบนอนโรงพยาบาลก็เลยกลับมานอนพักที่บ้าน ฉันก็เลยกะว่าจะแวะไปเยี่ยมโปรดก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน จากที่คุยกับโปรด ปาวยังไม่กลับบ้านเพราะฉะนั้นฉันต้องรีบหน่อย ไม่งั้นโดนไล่ตะเพิดออกมาจากบ้านแน่ๆ
“ว่าไง ^o^” โปรดทักเมื่อฉันเดินเข้าไปในห้อง แม่บ้านที่พาฉันมาส่งค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งข้างเตียงที่เหมือนเตียงโรงพยาบาลเคลื่อนที่อย่างเก้ๆ กังๆ รอบๆ ตัวฉันมีเสาน้ำเกลือ แล้วก็เครื่องมือทางการแพทย์อีกจำนวนหนึ่งจนฉันแอบคิดว่าตัวเองมาเยี่ยมโปรดที่โรงพยาบาลอยู่รึเปล่า
“ห้องนอนฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะเพื่อนโห้” โปรดยิ้มให้ฉันเบาๆ
“เพื่อนโห้?” ชื่อฉันชักจะแปลกผิดมนุษย์ไปทุกวันแล้วนะ =_=
“ก็เพื่อนยากบวกกับปลากระโห้ รวมกันเป็นเพื่อนโห้ไง เรียกง่ายดีออก” โปรดอธิบาย เรียกง่ายกับผีน่ะสิไม่เห็นเข้าท่าเลย =_=!
“มาหาฉันถึงบ้าน คิดถึงฉันใช่ม๊าาา...” โปรดลากเสียงยาวๆ เป็นเชิงแซว แต่น้ำเสียงแหบพร่าไม่สดใสเหมือนทุกวันที่ผ่านมา จนความรู้สึกผิดที่ปาวฝากเอาไว้มันตอกย้ำฉันหนักยิ่งขึ้น
“ฉัน...ขอโทษนะโปรด” ฉันก้มหน้ามองมือตัวเอง น้ำตาที่ไร้ที่มาค่อยๆ เอ่อคลออยู่ที่เบ้า
“ขอโทษอะไร เธอไม่ผิดหรอกก็เธอไม่รู้นี่นา” โปรดตบไล่ฉันเบาๆ ทำเอาน้ำตาที่คลออยู่ก่อนหน้านี้หล่นแหมะลงบนหลังมือ
“อีกอย่างเธอก็คงห่วงพี่ปาวพอๆ กับฉัน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะถาม ถ้าเกิดฉันรู้เรื่องฉันก็คงจะถามเหมือนกัน” โปรดพูดออกมาเบาๆ วันนี้รู้สึกว่าโปรดจะเป็นคนดีแปลกๆ จนฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองว่ายัยนี่อำฉันอยู่รึเปล่า แต่สายตาของโปรดมันฟ้องว่าที่พูดมาเป็นความจริงที่ออกมาจากใจ
“ถ้าจะชอบพี่ฉันต้องทำใจนะ มีเรื่องอีกหลายเรื่องที่เธอยังไม่รู้...บางทีถ้าเธอรู้เธอก็อาจจะรับไม่ได้ก็ได้”
“เธอหมายถึงเรื่องอะไร”
“เอาไว้ถ้าเธอยังยืนหยัดชอบพี่ฉันได้ตลอดรอดฝั่ง เดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เข้มแข็งพอที่จะอยู่ถึงตอนนั้นหรอก ^^”
“เฮ้อ...ว่าแต่เธอเถอะ แข็งแรงดีแล้วหรอถึงให้ฉันมาเยี่ยมแบบนี้ คุยกับฉันไม่เหนื่อยรึไง” ฉันถามโปรดที่ยังมีท่าทางเหนื่อยๆ อยู่
“ก็เหนื่อยนะ แต่ฉันนอนมาเยอะแล้ว อยากทำอะไรแก้เซ็งบ้าง”
“เธอ...เป็นโรคหัวใจจริงๆ หรอ”
“ใช่ เป็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว” โปรดตอบด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเป็นแค่โรคกระเพาะอาหารอะไรประมาณนั้น
“ถ้าเกิดฉันไม่โชคดีเกิดมารวย ฉันก็คงตายไปตั้งแต่ยังเป็นทารกแล้วล่ะ”
“หนักขนาดนั้นเลยหรอ”
“เห็นหมอบอกว่างั้นนะ”
“โปรด...T^T”
“เธออย่ามาเรียกชื่อฉันแบบเวทนาอย่างนั้นได้ไหมห๊ะ” โปรดทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจ ก็ฉันไม่รู้จะพูดยังไงนี่นา เด็กปากเสียนักคาราเต้ที่ฉันรู้จักไม่นึกว่าจะมีร่างกายอ่อนแอขนาดนี้
“เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ แล้วที่เธอไปใช้ลูกเตะคาราเต้ตอนนั้น เธอไม่เป็นอะไรหรอ” ฉันอย่างคิดได้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนยัยโปรดจะใช้ร่างกายได้ไม่สมกับที่ป่วยเลย
“ก็เหนื่อยอยู่นะ แต่มันสนุกดี”
“สนุกแบบเสี่ยงๆ เนี่ยนะ ถ้าเกิดเธอเป็นลมล้มพับไปแล้วไม่มีคนเห็นจะทำไง”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีคนเฝ้าตลอด” โปรดบอก ทำให้ฉันนึกถึงการ์ดชุดดำที่คอยเฝ้าโปรดอยู่ห่างๆ ตลอดเวลาที่ไปโรงเรียน
“ถึงยังไงเขาก็เฝ้าเธอไม่ได้ทุกที่หรอกน่า”
“ฉันถึงต้องมีเธอไง” โปรดบอก ทำเอาฉันพูดอะไรไม่ออก ฉันไม่นึกว่าที่คุณปริญญ์ฝากให้ดูแลโปรด จะเป็นหน้าที่สำคัญขนาดนี้
“ที่จริงฉันรู้สึกแย่เหมือนกันนะที่ต้องมีแต่คนคอยปกป้องฉันตลอดเวลา ฉันก็เลยขอให้พี่ปาวสอนคาราเต้ให้เพราะอยากจะปกป้องตัวเองแล้วก็คนรอบข้างบ้าง ที่ผ่านมาฉัน...รู้สึกไร้ค่ามากที่ทำอะไรให้ใครไม่ได้เลย ทั้งที่ใครต่อใครก็คอยหยิบยื่นทุกอย่างมาให้ฉัน”
“เธอทำได้แล้วนี่...ทำได้ดีด้วย” ฉันยิ้มให้โปรดเบาๆ “เธอช่วยฉันไว้ตั้งหลายครั้ง”
“ฮ่าๆๆ จริงสินะ” โปรดยิ้มออกมาน้อยๆ
“งั้นที่เธอจะไปต่างประเทศปีหน้าเพราะว่าเรื่องนี้รึเปล่า”
“ใช่ จองคิวผ่าตัดได้ปีหน้าน่ะ ที่จริงอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนะแต่พ่อกับพี่ปาวอยากให้ลองดูเพราะมีโอกาสหาย”
“ก็ดีน่ะสิ”
“มีโอกาสแค่ 60 เปอร์เซ็นต์เองนะ”
“เธอต้องเป็นหนึ่งใน 60 เปอร์เซ็นต์นั้นแน่”
“นั่นสินะ เราต้องคิดบวกเข้าไว้สิ หรือถ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น...ถ้าเกิดฉันโชคร้ายอย่างน้อยๆ ก็แค่ได้ไปอยู่กับแม่...” โปรดเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อพูดถึงตรงนี้
“แม่ฉันเสียด้วยโรคหัวใจ...หลังจากที่คลอดฉันได้ไม่กี่เดือน” โปรดหันมายิ้มให้ฉัน ฉันรู้ว่ารอยยิ้มนั้นพยายามบอกว่าเข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังหวั่นกลัวและกังวลมากแค่ไหน มันเป็นมุมที่ฉันไม่คิดว่าจะเจอในตัวของโปรดเด็กผู้หญิงที่คอยแต่เถียงฉันฉอดๆ ทุกวัน
ถึงเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยไปด้วยเงินทองและมีบริวารรอบตัว แต่ก็ต้องทนทุกข์กับโรคประจำตัวที่ยากจะหายขาด บางทีการได้อะไรบางอย่างมา เราก็ต้องสูญเสียบางอย่างไปเหมือนกัน...นี่สินะสมดุลของธรรมชาติ
เราคุยกันต่อสักพักโปรดก็เหนื่อยจนเผลอหลับไป ฉันก็เลยแอบย่องออกมาจากห้องแต่ดันไปชนเข้ากับมือใครบางคนที่กำลังยกขึ้นเคาะประตู ก็เลยโดนเต็มๆ หน้าผากจนหน้าฉันหงายไปข้างหลังเลยทีเดียว -*-
“โอ้ย!” ฉันอุทานออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง
“เธอ!!” ปาวชี้หน้าฉันอย่างตกใจ “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง!...”
“ฉันมายุ่งกับนายที่ไหน ฉันมาเยี่ยมโปรดต่างหาก...หลีก!” ฉันพูดแล้วผลักปาวออกให้พ้นทาง แต่ก่อนที่ฉันจะเดินออกมา ก็เจอคุณปริญญ์เดินมาพร้อมผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงทางเดิน
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทักทายคุณปริญญ์และผู้ชายที่เดินมาด้วยกัน
“มาเยี่ยมโปรดหรอ” คุณปริญญ์ถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอย่างเคย
“ใช่ค่ะ แต่ว่าจะกลับพอดี งั้นลาเลยนะคะ” ฉันไหว้คุณปริญญ์อีกครั้งแล้วเดินออกมา แต่ผู้ชายที่มาพร้อมคุณปริญญ์วิ่งตามฉันมาแล้วอาสาไปส่ง ทีแรกฉันไม่กล้ามากับเขาแต่เขาบอกว่าคุณปริญญ์สั่งไว้ฉันเลยไม่กล้าขัด
คนที่มาส่งฉันชื่อว่าภาสน์ค่ะ เขาเป็นเลขาแล้วก็มือขวาของคุณปริญญ์ ระหว่างทางเราแทบไม่ได้คุยกันเลย นอกจากการแนะนำตัวสั้นๆ เท่านั้น เขาพูดส่งท้ายแค่ว่า ฝากดูแลคุณหนูโปรดด้วย
ในที่สุดฉันก็รู้แล้วล่ะว่าทำไมใครๆ ในบ้านถึงรุมเอาใจโปรดนัก Y.Y
**********************************************************
อัพเดตแล้วจร้าาาาาาตอนที่ 13 รู้สึกว่าจะแสดงด้านดีๆ + ความน่าสงสารของโปรดไปเต็มๆ
งานมาม่าของโบอิ้งรู้สึกว่าดร็อปลงไปเลย 555+
จะเป็นยังไงต่อ ฝากติดตามด้วยนะคะ
หายไปไหนกันเอ่ยรีดเดอร์ที่รัก ไรท์คิดถึงทุกคนจังเลย
:: รอคอย
********************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ