Dear my love
9.5
เขียนโดย เพราะเรารักเธอ
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.24 น.
31 ตอน
13 วิจารณ์
37.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2558 17.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) รัก(?)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAm Part
วันนี้ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อมาเตรียมของไปเที่ยวกับปลาย ถึงเมื่อวานฉันจะจัดกระเป๋าเสร็จแล้วก็เถอะ ฉันก็ยังกังวลอยู่ดีกว่าจะลืมอะไรหรือปล่าว พอฉันเตรียมของเรียบร้อยแล้วฉันก็เตรียมข้าวกลางวันเอาไว้เผื่อไปกินข้าวระหว่างทาง แต่ก็ยังอดคิดเรื่องที่คุยโทรศับกับปลายไม่หายหลังจากที่ฉันได้คุยกับปลายฉันก็พยายามนอนแต่ก็นอนไม่หลับและในตอนที่ฉันกำลังจะพยายามข่มตาหลับจากร้องไห่มานานฉันก็ได้ยินเสียงของปลายพูด “ฉันรักเธอนะแอม...”
ฉันสับสนไปหมดหลังจากที่ได้ยินที่ปลายพูด ปลายหน่ะเหรอรักฉันไม่สิปลายอาจจะละเมอก็ได้ เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาปลายก็ไม่มีทีท่าว่าจะจีบฉันหรือหวงฉันเกินเหตุเลยมีแต่ปกป้องฉันและช่วยเหลือฉันเหมือนเพื่อนทั่วไปที่เขาทำกัน
“แอมแต่งตัวเสร็จหรือยัง ปลายเขามารอแล้วนะลูก”
“เสร็จแล้วค่ะแม่หนูกำลังจะลงไปค่ะ” ฉันสะบัดหัวปัดความคิดนั่นออกไป ฉันต้องลืมเรื่องที่เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับฉันให้ได้ก่อนละกันเพราะใจฉันบอบช้ำเกินไปที่จะรับอะไรมาเพิ่มแล้ว
“มาแล้วจ้าปลาย”
“นึกว่าแอมจะให้เราไปปลุกเหมือนที่บอกซะอีก”
“บ้า! เอาของขึ้นรถได้แล้ว”
“รับทราบค่ะคุณหนู” ปลายตะแบะแล้วยิ้มกวนๆมาให้ ฉันเลยส่งค้อนใหญ่ๆไปให้ปลาย
//บนรถ
ติ๊ง [Line]
“ฟลุ๊ก : กลับมาเป็นของพี่เถอะ” พอทิ้งกันก็ทิ้งกันแบบทิ้งๆคว้างๆพออยากจะกลับมาก็มาขอกันง่ายๆเนี่ยนะ เห็นฉันเป็นคนใจง่ายขนาดนั้นเลยรึไง! ฉันกำมือขวาแน่นเพื่อระบายความโกรธและความเจ็บที่โดนพี่ฟลุ๊กทิ้งในวันนั้น
“แอม เราพักเข้าห้องน้ำกันก่อนไหม นี่ก็ใกล้จะเที่ยงละแวะปั้มเข้าเซเว่นหาอะไรกินกันก่อนไหม”
“หาที่นั่งสบายๆได้ก็พอแล้วละปลาย เราทำข้าวกล่องมาด้วย”
“*0* จริงอะ กินได้ไหม?”
“กินได้ซิ ถ้าไม่กล้ากินก็ไม่ต้องกินก็ได้นะเชอะ -3- ”
“โอ๋ๆ หยอกเล่นน่าป่ะ ลงไปกัน” มันน่าให้กินไหมเนี่ย คนเค้าอุส่าทำมาให้กินจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินมาก ประหยัดอะไรได้ก็ประหยัดไว้ก่อนจะได้มีเงินเที่ยว มันน่าให้อดข้าวซะให้เข็ด หลังจากกินข้าวเสร็จได้ไม่นานเราก็เริ่มเดินทางต่อเพราะไม่อยากไปถึงมืดค่ำ มันอันตราย
ติ๊ง [Line]
“ฟลุ๊ก : พี่รักแอมนะ แอมละยังรักพี่อยู่ไหม?” ให้ตายเถอะ ให้ฉันอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้เลยรึยังไงกัน! ฉันกำมือขวาแน่นเพื่อระบายความโกรธอีกครั้งแต่ครั้งนี้ปลายเอามือมาจับกุมมือฉันไว้ให้ฉันได้ผ่อนแรงลง
“แอม วันนี้เรามาเที่ยวกันนะ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรเอาไว้ทีหลังได้ไหม เราเป็นห่วงแอมนะ”
“ร... รู้แล้วละน่า” ฉันเลื่อนปลดล็อคโทรศับแล้วปิดการแจ้งเตือนในไลน์ ฉันพยายามมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ขับรถต่อไปเลย ไม่ต้องกุมมือไว้ก็ได้น่า เก่งจังนะขับรถมือเดียวเนี่ยเดี๋ยวก็ไปชนเค้าหร่อก”
“จ้าๆ ดุจังเลยน๋ออ”
ฉันหันหน้าไปมองปลายไม่ได้เลย ถึงจะโดนน้ำเสียงยียวนกวนประสาทมาฉันก็ยังเขินอยู่ดี ‘ยัยบ้าเอ้ย ห่วงตัวเองซักนิดก่อนไม่ได้รึยังไง ทำแบบนี้มันเขินนะ’ แต่... ทำไมฉันถึงต้องเขินหล่ะแค่จับมือเองนี่? ฉันนั่งมองวิวทิวทัศระหว่างทางเพื่อดับความสับสนในใจก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ฉันหลับมาหลายตื่นกว่าจะถึงในตัวเมืองจังหวัดชลบุรี
“แอม วันพรุ้งนี้เราค่อยข้ามฝั่งดีไหมมันใกล้จะมืดแล้ว อีกอย่างพรุ้งนี้เป็นวันจันทร์ด้วย คนอาจจะไม่เยอะก็ได้นะ”
“งือ... ได้สิ”
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้ น้ำลายยืดละนั่น”
“ห๊ะ? มีด้วยเหรอ!” ฉันรีบเช็ดปากแต่มันไม่มีน้ำลายนี่?
“เราล้อเล่น”
“ยัยบ้า!” ฉันทุบแขนปลายด้วยความหมั่นใส้ ขนาดขับรถยังจะอุตส่ามากวนประสาทได้ให้ตายเถอะน่า
“งั้นไปหาโรงแรมกัน เดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้”
ฉันกับปลายขับรถหาโรงแรมที่ใกล้ท่าเรือในละแวกนั้นแล้วส่วนใหญ่จะเต็มหมดนอกนั้นก็จะเป็นพวก Love Hotel คุณคงจะรู้อยู่หร่อกใช่ไหมว่ามันเป็นโรงแรมประเภทอะไร ซึ่งนั่นไม่ได้มีอยู่ในแผนการเดินทางจึงถูกตัดไป
//โรงแรมฝันดียันชาติหน้า
“สวัสดีค่ะ โรงแรมฝันดียันชาติหน้ายินดีต้อนรับคะ”
“มีห้องพักแบบ twin bedded room ไหมค่ะ”
“ขอโทษด้วยนะค่ะห้องพักของทางเราเหลือแค่ห้องแบบ double bedded room”
“เอาไงดีแอมมันมีดแล้วด้วย”
“เอาแบบนั้นก็ได้ เราก็นอนด้วยกันบ่อยไม่เห็นจะเป็นไรเลย” ฉันได้ยินพนักงานข้างๆแอบหัวเราะอยู่ ขำอะไรกัน?
“งั้นเอาแบบ double bedded room นะค่ะ”
“คะ”
“นี่คือกุญแจห้องคะ”
พนักงานยื่นกุญแจมาและมีพนักงานมาถือกระเป๋าให้พร้อมพาเดินไปที่ห้องพัก แต่ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปหาห้องนั้นได้ยินเสียงพนักงานจากเค้าท์เตอร์ “คู่นั้นน่ารักจังเลยเนอะ” “แกคิดว่าเป็นแฟนกันปะ” หลังจากที่ฉันได้ยินทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงต้องเขินล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันกับปลายซักหน่อย โถ่เอ้ย >//////<
“ถ้ามีอะไรให้รับใช้โทรเรียกบริกรได้นะครับ โทรศับอยู่ตรงมุมหัวที่นอนตรงนั้น ให้กดเลข1354 แล้วพนักงานของเราจะมาให้บริการนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^”
“ครับ ^^” หลังจากที่บริกรได้ยกของเข้ามาในห้องให้เสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็ได้แต่นอนแผ่อยู่บนเตียง
“เหนื่อยย”
“เหนื่อยอะไรหล่ะแอม ปลายเห็นแอมหลับมาตลอดทางเลย”
“นอนมากก็เหนื่อยเหมือนกันนะ”
“ถ้างั้นปลายจะไม่เหนื่อยกว่าเหรอปลายขับรถมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”
“โอ๋ๆ ขอโทษน๊า เราขับรถไม่เป็น” ฉันเดินไปกอดปลายจากด้านหลังแล้วค่อยอ้อนเพราะฉันรู้ว่าถ้าฉันอ้อนต่อให้ปลายงอนแค่ไหนก็ต้องอ่อนโอนให้ซิน่า
“จ้าๆ ใครจะไปอาบน้ำก่อนอะ?”
“ปลายอาบก่อนก็ได้ ดูสิตัวเหนียวหมดเลย”
“งั้นปลายไปอาบน้ำก่อนนะ” หลังจากที่ฉันรอปลายอาบน้ำฉันก็จัดของรอ ‘แอบเล่นโทรศับปลายดีกว่า’
ฉันหยิบโทรศับปลายออกมาจากกระเป๋าแล้วเอามาค้นเล่นตามปรกติ มีแต่บันทึกรายชื่อโทรศับร้านนิยายเต็มไปหมดเลยแห่ะ สมกับเป็นปลายจริงๆ ใช่สิ ลองไปดูบันทึกดูดีกว่าปลายชอบแอบแต่งนิยายนี่นา ฉันเลยไปค้นดูว่าปลายได้แต่งนิยายใหม่หรือปล่าว ‘เซงจริงมีแต่รายชื่อนิยายที่อ่านแล้วกับรออ่านเต็มไปหมดเลย’ ฉันเลื่อนๆดูอย่างไม่สนใจอะไรจนต้องมาหยุดตรงบันทึกที่มีหัวข้อว่า Diary my hard ฉันเลยลองกดเข้าไปดู
[กรุณากรอกรหัสผ่าน ____] ให้ตายเถอะปลายมีความลับกับฉันงั้นเหรอ หรือปลายแอบมีแฟนแล้วไม่บอกฉัน? เมื่อได้ยินเสียงปลายออกจากห้องน้ำฉันรีบเก็บโทรศับใส่กระเป๋าเหมือนเดิม แล้วฉันก็ปลีกตัวไปอาบน้ำก่อนที่จะออกมาใส่เสื้อเชิ้ดตัวเดียวชั้นในฉันก็ใส่นะไม่ใช่ว่าไม่ใส่ ไม่งั้นอายตายเลย
“แอม ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดีๆ เผื่อมีกล้องวงจรปิดจะทำยังไงล่ะ” ปลายหันมาถามฉันด้วยใบหน้าที่แดงนิดๆ
“เอาน่า เสื้อมันก็ไม่ได้บางอะไรขนาดนั้นหร่อก ปลายมาเป่าผมให้หน่อยดิ”
“เฮ้อ... หละหลวมเกินไปแล้วนะแอม มานี่มะมานั่งตรงนี้เดี๋ยวจะเป่าผมให้” ฉันเดินไปนั่งข้างๆปลายให้ปลายเป่าผมให้
“มีความสุขจัง เหมือนมีเมดส่วนตัวเลยแห่ะ” ปลายทุบไหล่ฉันเบาๆแล้วทำหน้างอนๆใส่
“พูดเล่นเฉยๆ”
“จ้า นั่งนิ่งๆสิ” หลังจากที่ปลายเป่าผมให้ฉันเสร็จเราก็พากันนอน และก็เป็นเช่นเคยที่ฉันต้องนอนกอดปลายแทนหมอนข้าง ‘ตัวปลายหอมจัง’ เดี๋ยวก่อนสิ ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ย ลามกที่สุด ฉันเอาหัวซุกหลังปลายเพื่อสะบัดความคิดนั้นออกไป
“อื้อ...” แย่แล้วเราทำอะไรลงไปเนี่ยปลายยิ่งเซ้นซิทีฟอยู่ด้วย ฉันชะโงกหัวขึ้นมองหน้าปลาย ‘หน้าแดงหน่อยๆแห่ะ แต่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว’ ฝันดีนะค่ะปลาย
วันนี้ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อมาเตรียมของไปเที่ยวกับปลาย ถึงเมื่อวานฉันจะจัดกระเป๋าเสร็จแล้วก็เถอะ ฉันก็ยังกังวลอยู่ดีกว่าจะลืมอะไรหรือปล่าว พอฉันเตรียมของเรียบร้อยแล้วฉันก็เตรียมข้าวกลางวันเอาไว้เผื่อไปกินข้าวระหว่างทาง แต่ก็ยังอดคิดเรื่องที่คุยโทรศับกับปลายไม่หายหลังจากที่ฉันได้คุยกับปลายฉันก็พยายามนอนแต่ก็นอนไม่หลับและในตอนที่ฉันกำลังจะพยายามข่มตาหลับจากร้องไห่มานานฉันก็ได้ยินเสียงของปลายพูด “ฉันรักเธอนะแอม...”
ฉันสับสนไปหมดหลังจากที่ได้ยินที่ปลายพูด ปลายหน่ะเหรอรักฉันไม่สิปลายอาจจะละเมอก็ได้ เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาปลายก็ไม่มีทีท่าว่าจะจีบฉันหรือหวงฉันเกินเหตุเลยมีแต่ปกป้องฉันและช่วยเหลือฉันเหมือนเพื่อนทั่วไปที่เขาทำกัน
“แอมแต่งตัวเสร็จหรือยัง ปลายเขามารอแล้วนะลูก”
“เสร็จแล้วค่ะแม่หนูกำลังจะลงไปค่ะ” ฉันสะบัดหัวปัดความคิดนั่นออกไป ฉันต้องลืมเรื่องที่เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับฉันให้ได้ก่อนละกันเพราะใจฉันบอบช้ำเกินไปที่จะรับอะไรมาเพิ่มแล้ว
“มาแล้วจ้าปลาย”
“นึกว่าแอมจะให้เราไปปลุกเหมือนที่บอกซะอีก”
“บ้า! เอาของขึ้นรถได้แล้ว”
“รับทราบค่ะคุณหนู” ปลายตะแบะแล้วยิ้มกวนๆมาให้ ฉันเลยส่งค้อนใหญ่ๆไปให้ปลาย
//บนรถ
ติ๊ง [Line]
“ฟลุ๊ก : กลับมาเป็นของพี่เถอะ” พอทิ้งกันก็ทิ้งกันแบบทิ้งๆคว้างๆพออยากจะกลับมาก็มาขอกันง่ายๆเนี่ยนะ เห็นฉันเป็นคนใจง่ายขนาดนั้นเลยรึไง! ฉันกำมือขวาแน่นเพื่อระบายความโกรธและความเจ็บที่โดนพี่ฟลุ๊กทิ้งในวันนั้น
“แอม เราพักเข้าห้องน้ำกันก่อนไหม นี่ก็ใกล้จะเที่ยงละแวะปั้มเข้าเซเว่นหาอะไรกินกันก่อนไหม”
“หาที่นั่งสบายๆได้ก็พอแล้วละปลาย เราทำข้าวกล่องมาด้วย”
“*0* จริงอะ กินได้ไหม?”
“กินได้ซิ ถ้าไม่กล้ากินก็ไม่ต้องกินก็ได้นะเชอะ -3- ”
“โอ๋ๆ หยอกเล่นน่าป่ะ ลงไปกัน” มันน่าให้กินไหมเนี่ย คนเค้าอุส่าทำมาให้กินจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินมาก ประหยัดอะไรได้ก็ประหยัดไว้ก่อนจะได้มีเงินเที่ยว มันน่าให้อดข้าวซะให้เข็ด หลังจากกินข้าวเสร็จได้ไม่นานเราก็เริ่มเดินทางต่อเพราะไม่อยากไปถึงมืดค่ำ มันอันตราย
ติ๊ง [Line]
“ฟลุ๊ก : พี่รักแอมนะ แอมละยังรักพี่อยู่ไหม?” ให้ตายเถอะ ให้ฉันอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้เลยรึยังไงกัน! ฉันกำมือขวาแน่นเพื่อระบายความโกรธอีกครั้งแต่ครั้งนี้ปลายเอามือมาจับกุมมือฉันไว้ให้ฉันได้ผ่อนแรงลง
“แอม วันนี้เรามาเที่ยวกันนะ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรเอาไว้ทีหลังได้ไหม เราเป็นห่วงแอมนะ”
“ร... รู้แล้วละน่า” ฉันเลื่อนปลดล็อคโทรศับแล้วปิดการแจ้งเตือนในไลน์ ฉันพยายามมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ขับรถต่อไปเลย ไม่ต้องกุมมือไว้ก็ได้น่า เก่งจังนะขับรถมือเดียวเนี่ยเดี๋ยวก็ไปชนเค้าหร่อก”
“จ้าๆ ดุจังเลยน๋ออ”
ฉันหันหน้าไปมองปลายไม่ได้เลย ถึงจะโดนน้ำเสียงยียวนกวนประสาทมาฉันก็ยังเขินอยู่ดี ‘ยัยบ้าเอ้ย ห่วงตัวเองซักนิดก่อนไม่ได้รึยังไง ทำแบบนี้มันเขินนะ’ แต่... ทำไมฉันถึงต้องเขินหล่ะแค่จับมือเองนี่? ฉันนั่งมองวิวทิวทัศระหว่างทางเพื่อดับความสับสนในใจก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ฉันหลับมาหลายตื่นกว่าจะถึงในตัวเมืองจังหวัดชลบุรี
“แอม วันพรุ้งนี้เราค่อยข้ามฝั่งดีไหมมันใกล้จะมืดแล้ว อีกอย่างพรุ้งนี้เป็นวันจันทร์ด้วย คนอาจจะไม่เยอะก็ได้นะ”
“งือ... ได้สิ”
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้ น้ำลายยืดละนั่น”
“ห๊ะ? มีด้วยเหรอ!” ฉันรีบเช็ดปากแต่มันไม่มีน้ำลายนี่?
“เราล้อเล่น”
“ยัยบ้า!” ฉันทุบแขนปลายด้วยความหมั่นใส้ ขนาดขับรถยังจะอุตส่ามากวนประสาทได้ให้ตายเถอะน่า
“งั้นไปหาโรงแรมกัน เดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้”
ฉันกับปลายขับรถหาโรงแรมที่ใกล้ท่าเรือในละแวกนั้นแล้วส่วนใหญ่จะเต็มหมดนอกนั้นก็จะเป็นพวก Love Hotel คุณคงจะรู้อยู่หร่อกใช่ไหมว่ามันเป็นโรงแรมประเภทอะไร ซึ่งนั่นไม่ได้มีอยู่ในแผนการเดินทางจึงถูกตัดไป
//โรงแรมฝันดียันชาติหน้า
“สวัสดีค่ะ โรงแรมฝันดียันชาติหน้ายินดีต้อนรับคะ”
“มีห้องพักแบบ twin bedded room ไหมค่ะ”
“ขอโทษด้วยนะค่ะห้องพักของทางเราเหลือแค่ห้องแบบ double bedded room”
“เอาไงดีแอมมันมีดแล้วด้วย”
“เอาแบบนั้นก็ได้ เราก็นอนด้วยกันบ่อยไม่เห็นจะเป็นไรเลย” ฉันได้ยินพนักงานข้างๆแอบหัวเราะอยู่ ขำอะไรกัน?
“งั้นเอาแบบ double bedded room นะค่ะ”
“คะ”
“นี่คือกุญแจห้องคะ”
พนักงานยื่นกุญแจมาและมีพนักงานมาถือกระเป๋าให้พร้อมพาเดินไปที่ห้องพัก แต่ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปหาห้องนั้นได้ยินเสียงพนักงานจากเค้าท์เตอร์ “คู่นั้นน่ารักจังเลยเนอะ” “แกคิดว่าเป็นแฟนกันปะ” หลังจากที่ฉันได้ยินทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงต้องเขินล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันกับปลายซักหน่อย โถ่เอ้ย >//////<
“ถ้ามีอะไรให้รับใช้โทรเรียกบริกรได้นะครับ โทรศับอยู่ตรงมุมหัวที่นอนตรงนั้น ให้กดเลข1354 แล้วพนักงานของเราจะมาให้บริการนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^”
“ครับ ^^” หลังจากที่บริกรได้ยกของเข้ามาในห้องให้เสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็ได้แต่นอนแผ่อยู่บนเตียง
“เหนื่อยย”
“เหนื่อยอะไรหล่ะแอม ปลายเห็นแอมหลับมาตลอดทางเลย”
“นอนมากก็เหนื่อยเหมือนกันนะ”
“ถ้างั้นปลายจะไม่เหนื่อยกว่าเหรอปลายขับรถมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”
“โอ๋ๆ ขอโทษน๊า เราขับรถไม่เป็น” ฉันเดินไปกอดปลายจากด้านหลังแล้วค่อยอ้อนเพราะฉันรู้ว่าถ้าฉันอ้อนต่อให้ปลายงอนแค่ไหนก็ต้องอ่อนโอนให้ซิน่า
“จ้าๆ ใครจะไปอาบน้ำก่อนอะ?”
“ปลายอาบก่อนก็ได้ ดูสิตัวเหนียวหมดเลย”
“งั้นปลายไปอาบน้ำก่อนนะ” หลังจากที่ฉันรอปลายอาบน้ำฉันก็จัดของรอ ‘แอบเล่นโทรศับปลายดีกว่า’
ฉันหยิบโทรศับปลายออกมาจากกระเป๋าแล้วเอามาค้นเล่นตามปรกติ มีแต่บันทึกรายชื่อโทรศับร้านนิยายเต็มไปหมดเลยแห่ะ สมกับเป็นปลายจริงๆ ใช่สิ ลองไปดูบันทึกดูดีกว่าปลายชอบแอบแต่งนิยายนี่นา ฉันเลยไปค้นดูว่าปลายได้แต่งนิยายใหม่หรือปล่าว ‘เซงจริงมีแต่รายชื่อนิยายที่อ่านแล้วกับรออ่านเต็มไปหมดเลย’ ฉันเลื่อนๆดูอย่างไม่สนใจอะไรจนต้องมาหยุดตรงบันทึกที่มีหัวข้อว่า Diary my hard ฉันเลยลองกดเข้าไปดู
[กรุณากรอกรหัสผ่าน ____] ให้ตายเถอะปลายมีความลับกับฉันงั้นเหรอ หรือปลายแอบมีแฟนแล้วไม่บอกฉัน? เมื่อได้ยินเสียงปลายออกจากห้องน้ำฉันรีบเก็บโทรศับใส่กระเป๋าเหมือนเดิม แล้วฉันก็ปลีกตัวไปอาบน้ำก่อนที่จะออกมาใส่เสื้อเชิ้ดตัวเดียวชั้นในฉันก็ใส่นะไม่ใช่ว่าไม่ใส่ ไม่งั้นอายตายเลย
“แอม ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดีๆ เผื่อมีกล้องวงจรปิดจะทำยังไงล่ะ” ปลายหันมาถามฉันด้วยใบหน้าที่แดงนิดๆ
“เอาน่า เสื้อมันก็ไม่ได้บางอะไรขนาดนั้นหร่อก ปลายมาเป่าผมให้หน่อยดิ”
“เฮ้อ... หละหลวมเกินไปแล้วนะแอม มานี่มะมานั่งตรงนี้เดี๋ยวจะเป่าผมให้” ฉันเดินไปนั่งข้างๆปลายให้ปลายเป่าผมให้
“มีความสุขจัง เหมือนมีเมดส่วนตัวเลยแห่ะ” ปลายทุบไหล่ฉันเบาๆแล้วทำหน้างอนๆใส่
“พูดเล่นเฉยๆ”
“จ้า นั่งนิ่งๆสิ” หลังจากที่ปลายเป่าผมให้ฉันเสร็จเราก็พากันนอน และก็เป็นเช่นเคยที่ฉันต้องนอนกอดปลายแทนหมอนข้าง ‘ตัวปลายหอมจัง’ เดี๋ยวก่อนสิ ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ย ลามกที่สุด ฉันเอาหัวซุกหลังปลายเพื่อสะบัดความคิดนั้นออกไป
“อื้อ...” แย่แล้วเราทำอะไรลงไปเนี่ยปลายยิ่งเซ้นซิทีฟอยู่ด้วย ฉันชะโงกหัวขึ้นมองหน้าปลาย ‘หน้าแดงหน่อยๆแห่ะ แต่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว’ ฝันดีนะค่ะปลาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ