LEVANA
-
เขียนโดย YOKOB
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.25 น.
6 บท
1 วิจารณ์
8,312 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 00.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) หมาแม็ค
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บทนำ
กึก กึก กึก เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆย่องอย่างเยือกเย็นพร้อมเสียงของฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งทำให้ชายหนุ่มที่หลบอยู่ใต้พุ่มไม้หวาดกลัวและหนาวสั่น เงาของหญิงร่างสูงสง่าในชุดคลุมขนสัตว์สีดำซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นหนังของหมาจิ้งจอกเป็นแน่กำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ
"เจ้าชาย...พระองค์ไม่มีวันหลบหม่อมชั้นพ้นหลอกเพคะ" หญิงสาวร่างสูงกล่าวพร้อมสะแยะยิ้มอย่างผู้ชนะ
"โถ โถ โถ ดูสิตัวสั่นอย่างกับลูกหมาไปหมดแล้ว" หญิงสาวพูดพลางเอามือปล้องปากแล้วหัวเราะอย่างสมเพชชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า
"เจ้าต้องการอะไรกันแน่" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
"คิดว่าหม่อมชั้นต้องการอะไรจากเจ้าชายแมคเคย์ผู้ยิ่งใหญ่กันหล่ะเพคะ?"
"..." ไร้ซึ่งคำตอบจากคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้า 'หึ น่าสมเพชเสียจริง' หญิงสาวนึกในใจ
"เอาเป็นว่า...เจ้าชายทรงเคยทำอะไรกับพี่ชายของหม่อมชั้นไว้พระองค์ก็ต้องโดนยิ่งกว่านั้น!!"
"ข้าไปทำอะไรพี่ของเจ้า!"
"อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้หน่อยเลย! พระองค์ทรงรู้มั้ยเพคะว่ากำลังทำตัวเยี่ยงสุนัข ทั้งการพูด และการกระทำ!!" หญิงสาวพูดพร้อมกับมองด้วยสายตาเหยียดๆเธอเกลียดชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งนัก ทำกับพี่ชายสุดที่รักของเธอได้ลงคอ ความแค้นครั้งนั้นเธอไม่มีวันลืม
"เจ้านั่นแหละที่ทำตัวเยี่ยงสุนัข นางแม่มด!"
"รู้ว่าหม่อมชั้นเป็นแม่มดก็ดีเพคะ จะได้ไม่ต้องตกใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิด" หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือของเธอทั้งสองข้างร่ายคาถาพลันมีแสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง!
"นั่นเจ้าจะทำอะไรหน่ะ ไม่นะ ม่ายยยยย อ๊ากกก...โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" หลังแสงสีเขียววาบหายไปเจ้าชายก็กลายเป็นหมาน้อยไปเสียแล้ว
"โถ โถ โถ ลูกหมาตัวน้อยเปียกฝนแบบนี้น่าสงสารแย่เลย" หญิงสาวพูดแล้วเดินไปอุ้มลูกหมา(เจ้าชายแมคเคย์)
"ไปอยู่บ้านชั้น รับรองแกสบายกว่านี้แน่ ฮ่าๆ"
บทที่1
"พี่ห
ญิง
เลอวาน่า" เสียงชามาเนีย น้องสาวของชั้นดังขึ้น
เธอเป็นเจ้าหญิงที่สูงประมาณ165ได้มั้ง ดวงตากลมโตโดนครอบคลุมด้วยขนตาที่หนาเป็นแพร จมูกโด่งๆของเธอรับกับดวงตาคู่สวยนั่นได้ดีทีเดียว ปากเรียวสวยของเธอสีแดงดั่งกลีบกุหลาบแรกแย้ม แก้มของเธอออกสีส้มอมชมพูตามธรรมชาติของเลือดฝาด ทำให้เธอดูสดใสและน่ารักราวกับดวงอาทิตย์เลยล่ะเพราะแบบนี้ท่านพ่อกับท่านแม่เลยตั้งชื่อเธอว่า ชามาเนีย(ดวงอาทิตย์)ไงหล่ะ ซึ่งต่างกับฉัน มีเพียงอย่างเดียวที่เราสองพี่น้องเหมือนกันคือดวงตา ฉันสูง 160 ตลกมั้ยหล่ะเป็นพี่แต่เตี้ยกว่าน้อง หึ ไม่ใช่แค่ความสูงนะจมูกของฉันโด่งยังไม่เท่าชามาเนียเลย ปากฉันเป็นรูปกระจับสีชมพูอ่อน เลือดฝาดตรงแก้มก็สีชมพูออกหม่นๆเสียด้วย ซ้ำยังสีผิวของฉันซีดราวกับแวมไพร์! เพราะฉันมืดมนอย่างนี้ไงท่านพ่อกับท่านแม่เลยตั้งชื่อให้ฉันว่าเลอวาน่า(พระจันทร์) ตลกสิ้นดี
"ว่าไง ชามาเนีย" ฉันหันไปมองน้องสาวตัวดีของฉันที่กำลังทำหน้าออดอ้อนเหมือนอยากจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ไม่มีผิด
"พี่หญิงจ๋าาาา" ชามาเนียพูดพร้อมเอาหัวเธอมาไถกับแขนฉัน
"มีอะไรก็รีบพูดมา ไม่ต้องมาอ้อนหน่า" ฉันเอามือผลักหัวชามาเนียออกเบาๆ
"พี่หญิงไปงานศพของท่านชายแมคคาโดเนียเป็นเพื่อนน้องหน่อยนะ"
"ใครกัน ท่านชายแมคคาโดเนีย"
"ก็ท่านชายแมคคาโดเนียที่เป็นพี่ชายขององค์แมคคาโดเว่นที่เป็นพ่อของเจ้าชายแมคเคย์ที่เป็น..."
"พอๆ พี่คงรู้ถึงบรรพบุรุษลูกหลาน9ชั้นของเค้าเลยหล่ะถ้าฟังต่อเนี่ย" ฉันเอ่ยห้าม ก่อนที่จะมาทุกวงษาคณาญาติของท่านชาย ทำให้ชามาเนียหัวเราะคิกคัก น่ารักเสียจริงน้องสาวคนนี้
"แล้วสรุปพี่หญิงจะไปเป็นเพื่อนน้องมั้ยเพคะ" ชามาเนียทำสีหน้าจริงจังขึ้นมานิดหน่อย นิดเดียวจริงๆนะ
"ไม่ได้ไปสืบอะไรเหมือนครั้งก่อนใช่มั้ย?"
"สืบ...สืบอะไร น้องไม่ได้ไปสืบอะไรทั้งนั้นแหละ พี่หญิงคิดมากหน่า ฮ่าๆ" ชามาเนียทำสีหน้าเลิกลั่กก่อนจะตอบ ดูก็รู้ว่าโกหก แต่ก็เอาเถอะ คงสนุกดีพิลึก (สนุกในงานศพเนี่ยนะ = =)
"โอเคพี่ไปด้วยก็ได้ ว่าแต่ขอท่านพ่อท่านแม่แล้วหรือยังหล่ะ"
"จริงนะ เย้! ยังไม่ได้ขอเลยเพคะ พี่หญิงไปขอให้หน่อยน๊าา" เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยเห้อ
(ตำหนักใหญ่)
"ท่านแม่เพคะ~" ชามาเนียวิ่งเข้าไปกอดท่านแม่พร้อมกับทำท่าทางน่ารักๆ
"ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ล้มเสียหรอก เราเป็นเจ้าหญิงนะชามาเนียจะมาวิ่งอย่างนี้ได้ยังไง" ท่านพ่อกล่าว
"ท่านพี่ก็"พอท่านแม่ทักเสียงดุท่านพ่อก็เงียบและสงบเสงียมอย่างลูกผู้ชาย ฮ่าๆ
"โอ๋ๆท่านพ่อ พี่หญิงมีอะไรจะบอกท่านพ่อหน่ะเพคะ" ชามาเนียวิ่งมากอดท่านพ่อแทนพร้อมเกิ่นนำให้ฉันเข้าเรื่องอย่างเสร็จสับ แหม่น่าตีเสียจริงเชียว
"มีอะไรหรอลูกเลอวาน่า" ท่านแม่ถามขึ้น
"คือวันพรุ่งนี้ลูกกับชามาเนียจะขอไปร่วมงานศพของท่านแมคคาโดเนียได้มั้ยเพคะ"
"ก็เอาสิ ดีเหมือนกันจะได้ไปเป็นตัวแทนของอนาจักรเราด้วย" ท่านพ่อกล่าว
"ระวังด้วยหล่ะ เลอวาน่าดูแลน้องด้วยนะลูกอย่าให้ไปพังงานเค้าเหมือนงานแต่งท่านดยุกครั้งก่อน"
"โธ่ ท่านแม่อ่ะ!"ชามาเนียทำหน้างอนตุ๊บป่องเหมือนเด็กวัย3ขวบ ทำเอาทุกคนหัวเราะไปพร้อมๆกัน อยากสดใสให้ได้แบบนั้นบ้างจัง...
(งานศพท่านชายแมคคาโดเนีย)ฉันกับชามาเนียมาถึงงานได้สักพักหนึ่งวันนี้เราทั้งคู่อยู่ในชุด SOUTHERN BELLE สีดำ งานทั้งงานมีแต่เจ้าชายเจ้าหญิงหลายอนาจักรเต็มไปหมด ทั้งๆที่เป็นงานศพแต่ผู้คนกลับไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่มีแต่เม้ามอยกันตามประสาคนไม่ได้พบเจอกันมานาน"พี่หญิงๆ ดูผู้หญิงคนนั้นซิ" ชามาเนียสะกิดแขนฉันยิกๆพลางกระซิบเบาๆทำให้ฉันต้องหันไปดู ผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาในงานศพที่ทุกคนตะลึงงันและจ้องเธอไม่ว่างสายตา ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเธอคนนั้นเล่นใส่ชุดขนสัตว์สีแดงเพลิงเข้ามาในงานศพ! มิหนำซ้ำเธอยังจูงลูกหมาตัวน้อยพันธ์ เอ่อ ฉันไม่ค่อยรู้จักหมาเสียด้วยสิ ฉันเกลียดหมาหน่ะไม่ถึงกับเกลียดหรอกอาจจะกลัวมากกว่า แล้วผู้หญิงคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันกับชามาเนีย ฉันไม่รู้จักเขาสักหน่อย"ถวายบังคมเพคะ เจ้าหญิงเลอวาน่า เจ้าหญิงชามาเนีย" เธอพูดทักทายพร้อมโค้งคำนับให้ฉันกับชามาเนีย"ใครกันพี่หญิง พี่หญิงรู้จักเค้าหรือเปล่าเพคะ" ชามาเนียกระซิบถามฉัน"ไม่นะ" ฉันหันไปกระซิบตอบ แต่ถ้าพวกเราไม่พูดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลยคงเป็นการไม่ให้เกียตรสักเท่าไหร่"เอ่อ...เธอเป็นใครอ่ะฉันไม่รู้จักเธอนะ" ชามาเนียพูดขึ้น โอ้ตายแล้วชามาเนียพูดแบบนั้นได้ยังไง ฉันอยากจะเป็นลมเสียตรงนี้จริงๆ ขณะที่ฉันคิดอะไรไม่ออกก็ดันหันไปเห็นเจ้าหมาน้อยนั่นกำลังจ้องชามาเนียพอดี"หม่อมชั้นเองเพคะ เอวานอร์น้องสาวของพี่เอวาเนอร์องค์รักคนเก่าของฝ่าบาททั้งสอง เราเคยวิ่งเล่นด้วยกันตอนเด็กๆจำได้มั้ยเพคะ""อ่อ เอวานอร์นี่เองเราจำได้แล้ว!" ชามาเนียกล่าว"แล้วฝ่าบาทหล่ะเพคะ จำหม่อมฉันได้หรือเปล่า?" เอวานอร์หันมาทางฉันแล้วส่งยิ้มหวานมาให้"จำได้สิ" จำได้แม่นเลยหล่ะ โดยเฉพาะพี่ชายของเค้า"แล้วทำไมเจ้าถึงใส่ชุดสีนี้มางานศพหล่ะ" ชามาเนียถาม"หม่อมชั้นคงจำงานสลับกันหน่ะเพคะ พอดีหม่อมชั้นได้รับสารสองสารพร้อมๆกัน ทั้งงานฌฉลิมฉลองและงานศพ สงสัยหม่อมฉันจะจำวันสลับกันเสียแล้ว น่าอายเสียจริง หม่อมฉันเดินเข้ามายังตกใจเลย เพราะเต็มไปด้วยชุดดำ" เอวานอร์พูดพลางทำหน้าสลดใจ
"โฮ่ง โฮ่ง"ทันทีที่เอวานอร์พูดจบหมาก็เห่าขึ้นเหมือนแย้งยังไงชอบกล"แล้ว หมาตัวนั้นหล่ะ เจ้าเอามาทำไม" ฉันถามขึ้นบ้าง ไม่อยากจะพูดหรอก แต่ฉันเห็นหมาตัวนั้นมันจ้องน้องสาวฉันตาไม่กระพริบเลย!"อ่อ เจ้าแมค คืออยู่ที่บ้านไม่มีใครเลี้ยงหน่ะเพคะ หม่อมชั้นเลยต้องเอามาด้วย""แล้วพี่ชายเจ้าหล่ะ...เป็นอย่างไรบ้าง" ถามออกไปจนได้สินะ"พี่ชายของหม่อมชั้นเดินทางไปต่างประเทศได้สองปีแล้วเพคะ""เชิญรดน้ำศพได้แล้วเพคะ" นางกำนันของอนาจักรแมคคาโดเว่นเดินมาบอกฉันกับชามาเนีย"งั้นหม่อมชั้นขอตัวก่อนนะเพคะ" เอวานอร์กล่าวแล้วเดินออกไปพร้อมเจ้าหมาตัวนั้น"พี่หญิงน้องขอตัวก่อนนะเพคะ" ชามาเนียกล่าว หลังจากได้ยินเรื่องของเอวาเนอร์ชามาเนียก็เงียบๆไป เป็นอะไรรึเปล่านะ"จะไปไหนล่ะ ไม่รดน้ำศพท่านชายก่อนหรอ""ไม่หล่ะเพคะ หม่อมฉันมีบางอย่างต้องไปทำ""งั้นก็ไปเถอะ อย่าสร้างปัญหาหล่ะเข้าใจมั้ย""รับทราบเพคะ พี่หญิงคนสวยย" ชามาเนียพูดแล้วก็เดินหายไป เห้อเหลือฉันคนเดียวอีกแล้วสินะหลังจากพิธีทุกอย่างเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันทานอาหาร"ชามาเนียอยู่ไหนเนี่ยไปเสียนานเชียว" ฉันบ่นพึมพัมคนเดียวพร้อมกับเดินตามหาน้องสาวตัวดี ลองไปดูที่ห้องหนังสือดีกว่า (ห้องหนังสือ)"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" ฉันเดินเข้าไปก็พบว่าเป็นเสียงเจ้าหมาน้อยของเอวานอร์นั่นเอง มันถูกผูกติดไว้กับโต๊ะ ทำไมเอามาปล่อยไว้ตรงนี้นะ"นี่เจ้าหมาน้อย เจ้านายเจ้าไปไหนซะหล่ะ" ฉันตะโกนถามหมาอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เท่าไหร่ มันน่ากลัวนินา (แล้วคุยกับหมาเนี่ยนะ-0-)"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" มันเห่าพลางดิ้นไปดิ้นมาเหมือนอยากจะเอาสายคล้องคอนั่นออก"ฉันเอาออกให้เจ้าไม่ได้หรอกนะ ฉันกลัวหมาหน่ะ""โฮ่ง โฮ่งๆๆๆๆ" พอมันรู้ว่าฉันกลัวมันยิ่งเห่าดังขึ้นอีก อะไรเนี่ย?!? "โอเคๆ ฉันเอาออกให้ก็ได้ แต่เจ้าห้ามกัดฉันนะ""โฮ่ง" เหมือนมันจะเข้าใจแฮะฉันค่อยเขยิบเจ้าไปใกล้มัน พลางเอามือแกะสายคล้องคอให้ ยังไม่ทันหลุดเจ้าหมานั้นมันก็งับมือฉันแล้ววิ่งหนีไป!"โอ้ยย เจ้าหมาบ้า เลือดออกมั้ยเนี่ย" ฉันบ่นพร้อมกับรูปมือตัวเองปอยๆ แย่ล่ะถ้าหาหมามาคืนเอวานอร์ไม่ได้ ชื่อเสียงของอนาจักรเราเสียหายแน่ เป็นเจ้าหญิงประสาอะไรทำหมาคนอื่นหายเนี่ย"เจ้าหมาอยู่ไหนหน่ะ บ๊อกๆ มานี่เร็ว" ฉันทั้งเดิน ทั้งก้ม ตามหาหมาทั้งห้องหนังสือแล้วก็ไม่เห็นเจอ! จะต้องให้คลานเลยมั้ยฮะพรึ่บ! อะไรกันเนี่ยไฟดับงั้นหรอ?หมาก็หาไม่เจอไฟดันมาดับอีก วันนี้ช่างดีเสียจริง ปึก!"โอ๊ยย" หัวฉันกระแทกกับอะไรบางอย่างแข็งๆ"แม็ค อยู่ไหนหน่ะ แม็ค" เสียงเอวานอร์นี่นา สงสัยมาตามหาหมาแน่ๆ ทำไงดีเนี่ย สารภาพไปเลยดีกว่า"เอ่อ อื้อๆๆๆ"อยู่ๆก็มีมือหนาเย็นวาบมาปิดปากฉันไว้ ไม่พอยังกอดเอวฉันเข้าไปชิดกับร่างกายเขาอีก งั้นเมื่อกี้ที่ฉันชนก็...อย่าบอกนะว่าแผงอกเค้า! ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองพร้อมกับพยายามดันตัวออกจากร่างกายเย็นๆนี่ คนอะไรเย็นเยือกกับน้ำแข็งแล้วไฟก็มาดับอะไรตอนนี้เนี่ยแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเค้าเป็นใคร!!
กึก กึก กึก เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆย่องอย่างเยือกเย็นพร้อมเสียงของฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งทำให้ชายหนุ่มที่หลบอยู่ใต้พุ่มไม้หวาดกลัวและหนาวสั่น เงาของหญิงร่างสูงสง่าในชุดคลุมขนสัตว์สีดำซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นหนังของหมาจิ้งจอกเป็นแน่กำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ
"เจ้าชาย...พระองค์ไม่มีวันหลบหม่อมชั้นพ้นหลอกเพคะ" หญิงสาวร่างสูงกล่าวพร้อมสะแยะยิ้มอย่างผู้ชนะ
"โถ โถ โถ ดูสิตัวสั่นอย่างกับลูกหมาไปหมดแล้ว" หญิงสาวพูดพลางเอามือปล้องปากแล้วหัวเราะอย่างสมเพชชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า
"เจ้าต้องการอะไรกันแน่" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
"คิดว่าหม่อมชั้นต้องการอะไรจากเจ้าชายแมคเคย์ผู้ยิ่งใหญ่กันหล่ะเพคะ?"
"..." ไร้ซึ่งคำตอบจากคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้า 'หึ น่าสมเพชเสียจริง' หญิงสาวนึกในใจ
"เอาเป็นว่า...เจ้าชายทรงเคยทำอะไรกับพี่ชายของหม่อมชั้นไว้พระองค์ก็ต้องโดนยิ่งกว่านั้น!!"
"ข้าไปทำอะไรพี่ของเจ้า!"
"อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้หน่อยเลย! พระองค์ทรงรู้มั้ยเพคะว่ากำลังทำตัวเยี่ยงสุนัข ทั้งการพูด และการกระทำ!!" หญิงสาวพูดพร้อมกับมองด้วยสายตาเหยียดๆเธอเกลียดชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งนัก ทำกับพี่ชายสุดที่รักของเธอได้ลงคอ ความแค้นครั้งนั้นเธอไม่มีวันลืม
"เจ้านั่นแหละที่ทำตัวเยี่ยงสุนัข นางแม่มด!"
"รู้ว่าหม่อมชั้นเป็นแม่มดก็ดีเพคะ จะได้ไม่ต้องตกใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิด" หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือของเธอทั้งสองข้างร่ายคาถาพลันมีแสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง!
"นั่นเจ้าจะทำอะไรหน่ะ ไม่นะ ม่ายยยยย อ๊ากกก...โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" หลังแสงสีเขียววาบหายไปเจ้าชายก็กลายเป็นหมาน้อยไปเสียแล้ว
"โถ โถ โถ ลูกหมาตัวน้อยเปียกฝนแบบนี้น่าสงสารแย่เลย" หญิงสาวพูดแล้วเดินไปอุ้มลูกหมา(เจ้าชายแมคเคย์)
"ไปอยู่บ้านชั้น รับรองแกสบายกว่านี้แน่ ฮ่าๆ"
บทที่1
"พี่ห
ญิง
เลอวาน่า" เสียงชามาเนีย น้องสาวของชั้นดังขึ้น
เธอเป็นเจ้าหญิงที่สูงประมาณ165ได้มั้ง ดวงตากลมโตโดนครอบคลุมด้วยขนตาที่หนาเป็นแพร จมูกโด่งๆของเธอรับกับดวงตาคู่สวยนั่นได้ดีทีเดียว ปากเรียวสวยของเธอสีแดงดั่งกลีบกุหลาบแรกแย้ม แก้มของเธอออกสีส้มอมชมพูตามธรรมชาติของเลือดฝาด ทำให้เธอดูสดใสและน่ารักราวกับดวงอาทิตย์เลยล่ะเพราะแบบนี้ท่านพ่อกับท่านแม่เลยตั้งชื่อเธอว่า ชามาเนีย(ดวงอาทิตย์)ไงหล่ะ ซึ่งต่างกับฉัน มีเพียงอย่างเดียวที่เราสองพี่น้องเหมือนกันคือดวงตา ฉันสูง 160 ตลกมั้ยหล่ะเป็นพี่แต่เตี้ยกว่าน้อง หึ ไม่ใช่แค่ความสูงนะจมูกของฉันโด่งยังไม่เท่าชามาเนียเลย ปากฉันเป็นรูปกระจับสีชมพูอ่อน เลือดฝาดตรงแก้มก็สีชมพูออกหม่นๆเสียด้วย ซ้ำยังสีผิวของฉันซีดราวกับแวมไพร์! เพราะฉันมืดมนอย่างนี้ไงท่านพ่อกับท่านแม่เลยตั้งชื่อให้ฉันว่าเลอวาน่า(พระจันทร์) ตลกสิ้นดี
"ว่าไง ชามาเนีย" ฉันหันไปมองน้องสาวตัวดีของฉันที่กำลังทำหน้าออดอ้อนเหมือนอยากจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ไม่มีผิด
"พี่หญิงจ๋าาาา" ชามาเนียพูดพร้อมเอาหัวเธอมาไถกับแขนฉัน
"มีอะไรก็รีบพูดมา ไม่ต้องมาอ้อนหน่า" ฉันเอามือผลักหัวชามาเนียออกเบาๆ
"พี่หญิงไปงานศพของท่านชายแมคคาโดเนียเป็นเพื่อนน้องหน่อยนะ"
"ใครกัน ท่านชายแมคคาโดเนีย"
"ก็ท่านชายแมคคาโดเนียที่เป็นพี่ชายขององค์แมคคาโดเว่นที่เป็นพ่อของเจ้าชายแมคเคย์ที่เป็น..."
"พอๆ พี่คงรู้ถึงบรรพบุรุษลูกหลาน9ชั้นของเค้าเลยหล่ะถ้าฟังต่อเนี่ย" ฉันเอ่ยห้าม ก่อนที่จะมาทุกวงษาคณาญาติของท่านชาย ทำให้ชามาเนียหัวเราะคิกคัก น่ารักเสียจริงน้องสาวคนนี้
"แล้วสรุปพี่หญิงจะไปเป็นเพื่อนน้องมั้ยเพคะ" ชามาเนียทำสีหน้าจริงจังขึ้นมานิดหน่อย นิดเดียวจริงๆนะ
"ไม่ได้ไปสืบอะไรเหมือนครั้งก่อนใช่มั้ย?"
"สืบ...สืบอะไร น้องไม่ได้ไปสืบอะไรทั้งนั้นแหละ พี่หญิงคิดมากหน่า ฮ่าๆ" ชามาเนียทำสีหน้าเลิกลั่กก่อนจะตอบ ดูก็รู้ว่าโกหก แต่ก็เอาเถอะ คงสนุกดีพิลึก (สนุกในงานศพเนี่ยนะ = =)
"โอเคพี่ไปด้วยก็ได้ ว่าแต่ขอท่านพ่อท่านแม่แล้วหรือยังหล่ะ"
"จริงนะ เย้! ยังไม่ได้ขอเลยเพคะ พี่หญิงไปขอให้หน่อยน๊าา" เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยเห้อ
(ตำหนักใหญ่)
"ท่านแม่เพคะ~" ชามาเนียวิ่งเข้าไปกอดท่านแม่พร้อมกับทำท่าทางน่ารักๆ
"ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ล้มเสียหรอก เราเป็นเจ้าหญิงนะชามาเนียจะมาวิ่งอย่างนี้ได้ยังไง" ท่านพ่อกล่าว
"ท่านพี่ก็"พอท่านแม่ทักเสียงดุท่านพ่อก็เงียบและสงบเสงียมอย่างลูกผู้ชาย ฮ่าๆ
"โอ๋ๆท่านพ่อ พี่หญิงมีอะไรจะบอกท่านพ่อหน่ะเพคะ" ชามาเนียวิ่งมากอดท่านพ่อแทนพร้อมเกิ่นนำให้ฉันเข้าเรื่องอย่างเสร็จสับ แหม่น่าตีเสียจริงเชียว
"มีอะไรหรอลูกเลอวาน่า" ท่านแม่ถามขึ้น
"คือวันพรุ่งนี้ลูกกับชามาเนียจะขอไปร่วมงานศพของท่านแมคคาโดเนียได้มั้ยเพคะ"
"ก็เอาสิ ดีเหมือนกันจะได้ไปเป็นตัวแทนของอนาจักรเราด้วย" ท่านพ่อกล่าว
"ระวังด้วยหล่ะ เลอวาน่าดูแลน้องด้วยนะลูกอย่าให้ไปพังงานเค้าเหมือนงานแต่งท่านดยุกครั้งก่อน"
"โธ่ ท่านแม่อ่ะ!"ชามาเนียทำหน้างอนตุ๊บป่องเหมือนเด็กวัย3ขวบ ทำเอาทุกคนหัวเราะไปพร้อมๆกัน อยากสดใสให้ได้แบบนั้นบ้างจัง...
(งานศพท่านชายแมคคาโดเนีย)ฉันกับชามาเนียมาถึงงานได้สักพักหนึ่งวันนี้เราทั้งคู่อยู่ในชุด SOUTHERN BELLE สีดำ งานทั้งงานมีแต่เจ้าชายเจ้าหญิงหลายอนาจักรเต็มไปหมด ทั้งๆที่เป็นงานศพแต่ผู้คนกลับไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่มีแต่เม้ามอยกันตามประสาคนไม่ได้พบเจอกันมานาน"พี่หญิงๆ ดูผู้หญิงคนนั้นซิ" ชามาเนียสะกิดแขนฉันยิกๆพลางกระซิบเบาๆทำให้ฉันต้องหันไปดู ผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาในงานศพที่ทุกคนตะลึงงันและจ้องเธอไม่ว่างสายตา ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเธอคนนั้นเล่นใส่ชุดขนสัตว์สีแดงเพลิงเข้ามาในงานศพ! มิหนำซ้ำเธอยังจูงลูกหมาตัวน้อยพันธ์ เอ่อ ฉันไม่ค่อยรู้จักหมาเสียด้วยสิ ฉันเกลียดหมาหน่ะไม่ถึงกับเกลียดหรอกอาจจะกลัวมากกว่า แล้วผู้หญิงคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันกับชามาเนีย ฉันไม่รู้จักเขาสักหน่อย"ถวายบังคมเพคะ เจ้าหญิงเลอวาน่า เจ้าหญิงชามาเนีย" เธอพูดทักทายพร้อมโค้งคำนับให้ฉันกับชามาเนีย"ใครกันพี่หญิง พี่หญิงรู้จักเค้าหรือเปล่าเพคะ" ชามาเนียกระซิบถามฉัน"ไม่นะ" ฉันหันไปกระซิบตอบ แต่ถ้าพวกเราไม่พูดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลยคงเป็นการไม่ให้เกียตรสักเท่าไหร่"เอ่อ...เธอเป็นใครอ่ะฉันไม่รู้จักเธอนะ" ชามาเนียพูดขึ้น โอ้ตายแล้วชามาเนียพูดแบบนั้นได้ยังไง ฉันอยากจะเป็นลมเสียตรงนี้จริงๆ ขณะที่ฉันคิดอะไรไม่ออกก็ดันหันไปเห็นเจ้าหมาน้อยนั่นกำลังจ้องชามาเนียพอดี"หม่อมชั้นเองเพคะ เอวานอร์น้องสาวของพี่เอวาเนอร์องค์รักคนเก่าของฝ่าบาททั้งสอง เราเคยวิ่งเล่นด้วยกันตอนเด็กๆจำได้มั้ยเพคะ""อ่อ เอวานอร์นี่เองเราจำได้แล้ว!" ชามาเนียกล่าว"แล้วฝ่าบาทหล่ะเพคะ จำหม่อมฉันได้หรือเปล่า?" เอวานอร์หันมาทางฉันแล้วส่งยิ้มหวานมาให้"จำได้สิ" จำได้แม่นเลยหล่ะ โดยเฉพาะพี่ชายของเค้า"แล้วทำไมเจ้าถึงใส่ชุดสีนี้มางานศพหล่ะ" ชามาเนียถาม"หม่อมชั้นคงจำงานสลับกันหน่ะเพคะ พอดีหม่อมชั้นได้รับสารสองสารพร้อมๆกัน ทั้งงานฌฉลิมฉลองและงานศพ สงสัยหม่อมฉันจะจำวันสลับกันเสียแล้ว น่าอายเสียจริง หม่อมฉันเดินเข้ามายังตกใจเลย เพราะเต็มไปด้วยชุดดำ" เอวานอร์พูดพลางทำหน้าสลดใจ
"โฮ่ง โฮ่ง"ทันทีที่เอวานอร์พูดจบหมาก็เห่าขึ้นเหมือนแย้งยังไงชอบกล"แล้ว หมาตัวนั้นหล่ะ เจ้าเอามาทำไม" ฉันถามขึ้นบ้าง ไม่อยากจะพูดหรอก แต่ฉันเห็นหมาตัวนั้นมันจ้องน้องสาวฉันตาไม่กระพริบเลย!"อ่อ เจ้าแมค คืออยู่ที่บ้านไม่มีใครเลี้ยงหน่ะเพคะ หม่อมชั้นเลยต้องเอามาด้วย""แล้วพี่ชายเจ้าหล่ะ...เป็นอย่างไรบ้าง" ถามออกไปจนได้สินะ"พี่ชายของหม่อมชั้นเดินทางไปต่างประเทศได้สองปีแล้วเพคะ""เชิญรดน้ำศพได้แล้วเพคะ" นางกำนันของอนาจักรแมคคาโดเว่นเดินมาบอกฉันกับชามาเนีย"งั้นหม่อมชั้นขอตัวก่อนนะเพคะ" เอวานอร์กล่าวแล้วเดินออกไปพร้อมเจ้าหมาตัวนั้น"พี่หญิงน้องขอตัวก่อนนะเพคะ" ชามาเนียกล่าว หลังจากได้ยินเรื่องของเอวาเนอร์ชามาเนียก็เงียบๆไป เป็นอะไรรึเปล่านะ"จะไปไหนล่ะ ไม่รดน้ำศพท่านชายก่อนหรอ""ไม่หล่ะเพคะ หม่อมฉันมีบางอย่างต้องไปทำ""งั้นก็ไปเถอะ อย่าสร้างปัญหาหล่ะเข้าใจมั้ย""รับทราบเพคะ พี่หญิงคนสวยย" ชามาเนียพูดแล้วก็เดินหายไป เห้อเหลือฉันคนเดียวอีกแล้วสินะหลังจากพิธีทุกอย่างเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันทานอาหาร"ชามาเนียอยู่ไหนเนี่ยไปเสียนานเชียว" ฉันบ่นพึมพัมคนเดียวพร้อมกับเดินตามหาน้องสาวตัวดี ลองไปดูที่ห้องหนังสือดีกว่า (ห้องหนังสือ)"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" ฉันเดินเข้าไปก็พบว่าเป็นเสียงเจ้าหมาน้อยของเอวานอร์นั่นเอง มันถูกผูกติดไว้กับโต๊ะ ทำไมเอามาปล่อยไว้ตรงนี้นะ"นี่เจ้าหมาน้อย เจ้านายเจ้าไปไหนซะหล่ะ" ฉันตะโกนถามหมาอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เท่าไหร่ มันน่ากลัวนินา (แล้วคุยกับหมาเนี่ยนะ-0-)"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" มันเห่าพลางดิ้นไปดิ้นมาเหมือนอยากจะเอาสายคล้องคอนั่นออก"ฉันเอาออกให้เจ้าไม่ได้หรอกนะ ฉันกลัวหมาหน่ะ""โฮ่ง โฮ่งๆๆๆๆ" พอมันรู้ว่าฉันกลัวมันยิ่งเห่าดังขึ้นอีก อะไรเนี่ย?!? "โอเคๆ ฉันเอาออกให้ก็ได้ แต่เจ้าห้ามกัดฉันนะ""โฮ่ง" เหมือนมันจะเข้าใจแฮะฉันค่อยเขยิบเจ้าไปใกล้มัน พลางเอามือแกะสายคล้องคอให้ ยังไม่ทันหลุดเจ้าหมานั้นมันก็งับมือฉันแล้ววิ่งหนีไป!"โอ้ยย เจ้าหมาบ้า เลือดออกมั้ยเนี่ย" ฉันบ่นพร้อมกับรูปมือตัวเองปอยๆ แย่ล่ะถ้าหาหมามาคืนเอวานอร์ไม่ได้ ชื่อเสียงของอนาจักรเราเสียหายแน่ เป็นเจ้าหญิงประสาอะไรทำหมาคนอื่นหายเนี่ย"เจ้าหมาอยู่ไหนหน่ะ บ๊อกๆ มานี่เร็ว" ฉันทั้งเดิน ทั้งก้ม ตามหาหมาทั้งห้องหนังสือแล้วก็ไม่เห็นเจอ! จะต้องให้คลานเลยมั้ยฮะพรึ่บ! อะไรกันเนี่ยไฟดับงั้นหรอ?หมาก็หาไม่เจอไฟดันมาดับอีก วันนี้ช่างดีเสียจริง ปึก!"โอ๊ยย" หัวฉันกระแทกกับอะไรบางอย่างแข็งๆ"แม็ค อยู่ไหนหน่ะ แม็ค" เสียงเอวานอร์นี่นา สงสัยมาตามหาหมาแน่ๆ ทำไงดีเนี่ย สารภาพไปเลยดีกว่า"เอ่อ อื้อๆๆๆ"อยู่ๆก็มีมือหนาเย็นวาบมาปิดปากฉันไว้ ไม่พอยังกอดเอวฉันเข้าไปชิดกับร่างกายเขาอีก งั้นเมื่อกี้ที่ฉันชนก็...อย่าบอกนะว่าแผงอกเค้า! ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองพร้อมกับพยายามดันตัวออกจากร่างกายเย็นๆนี่ คนอะไรเย็นเยือกกับน้ำแข็งแล้วไฟก็มาดับอะไรตอนนี้เนี่ยแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเค้าเป็นใคร!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ