Rainbow University(1)สายรุ้งรักปักหัวใจนายต่างชาติ

8.8

เขียนโดย Greek

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 01.52 น.

  16 ตอน
  3 วิจารณ์
  16.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 01.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ยาแก้พิษรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          

          “ถามจริงเหอะ แกยังลืมไอ้พี่จูเนียร์ไม่ได้อีกเหรอวะ ฉันเห็นแกนั่งซึมมา 2 วันแล้วเนี่ย แล้วนี่ไม่คิดจะไปซ้อมรำรึยังไง หรือว่าไข้ยังไม่ส่างอีก” จะมีใครได้ที่จะพูดกรอกหูฉันฉอดๆอย่างงี้ถ้าไม่ใช่ยัยอัญชัน

          2 วันแล้วหลังจากที่พี่จูเนียร์มาคุยกับฉัน ไม่คิดเลยว่าคนๆนี้จะมีอิทธิพลทำให้ฉันถึงกับเป็นไข้ล้มหมอนนอนเสื่อขนาดนี้ สภาพของฉันตอนนี้คงไม่ต่างจากศพที่กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าอยู่ โชคดีจังที่มันเป็นเสาร์อาทิตย์

          “ถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปเรียนก็ได้นะลูก ให้อัญชันมันลาป่วยให้” แม่เดินมาเอามือทาบหน้าผากแล้วก็รู้ว่าไข้ฉันยังไม่ลดลงเลย

          “นี่อย่าบอกว่าแกเก็บเรื่องที่พี่จูเนียร์พูดทำนองว่าชอบแกมาคิดอะ อย่าไปสนใจเลยผู้ชายแบบนั้น น่าเกลียดพูดมาได้ยังไงว่าไม่ได้ชอบยัยซอลญ่า” ยัยอัญชันพูดพร้อมกับเอาหนังสือนิยายตบกับโซฟาอย่างหงุดหงิด

          “ถูกของอัญมันนะ อย่าไปสนใจเลยลูก” แม่เห็นด้วยกับความคิดยัยอัญชัน

          “ใช่แล้ว ชอบคนที่ชอบแกจะดีกว่า อุบส์” เหมือนว่ายัยอัญชันจะหลุดปากมากไป ว่าแต่มันหมายถึงใครกัน ฉันกับแม่หันไปมองหน้ามันอย่างหาคำตอบ

          “ใครกันเหรอแม่อัญ” อัญชันมองหน้าฉันแบบขอโทษ จะมาขอโทษฉันทำไมฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามันหมายถึงใคร

          “ใครวะ” เสียงฉันยังแหบอยู่เลย เจ็บคอเป็นบ้า ไม่อยากจะพูดนะ แต่มันอยากรู้

          “แกนี่มันโง่จริงๆเลย แค่นี้ก็ยังดูไม่ออกอีกเหรอวะ หนูไม่ได้ว่าป้านะ ว่าไอ้ณิมันนั่นแหล่ะ” หมอนลอยไปใส่หัวมันทันที โทษฐานที่มาว่าฉันโง่ ในขณะที่ใบที่สองกำลังจะลอยไป ฉันก็ต้องชะงักเพราะ...

          ติ๊งหน่อง....

          ใครมากดออดหน้าบ้านวะ ที่แน่ๆใครมากัน ยัยอัญชันอาสาไปดูเอง ฉันเองก็ไม่ได้สนใจ ก้มลงไปปักลายผ้าเช็ดหน้าต่อ ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างหลังฉันเลยหันไปมอง O///O อยากจะบ้าตายเค้ามาทำบ้าอะไรที่นี่ จะมีใครล่ะก็อีตาพี่จื่อเฉิงไง แค่ฉันไม่ไปซ้อมรำถึงกับต้องมาตามฉันถึงบ้านเลยเหรอ

          “มาได้ไงอะ” เสียงแทบจะไม่มีออกจาปาก แต่เค้าก็พอฟังออกว่าฉันพูดอะไร เค้าหันไปไหวแม่ของฉันแล้วก็ยื่นของที่เค้าถือให้

          “ขนมครับคุณน้า แล้วก็อาม่าของผมต้มยาจีนมาให้ณิกาด้วยครับ” แม่ฉันรับแบบเขินๆ เฮ้ยแม่คิดอะไรเนี่ย

          “ขอบใจจ้าพ่อเฉิง น้าเรียกอย่างงั้นได้ไหมจ๊ะ” เค้ายิ้มแล้วก็พยักหน้าให้แม่ของฉันอย่างจริงใจ ว่าแต่แม่ของฉันรู้จักเค้าได้ยังไง ฉันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักข้างๆหูเลยหันไป อ้อ รู้แล้วว่าแม่รู้ได้ไง เพราะมีนักข่าวส่วนตัวนี่เอง

          แม่ของฉันเดินเข้าครัวไปสงสัยจะไปจัดขนมแล้วก็น้ำมาให้อีตานี่ล่ะมั้ง ยัยอัญชันเองก็วิ่งเข้าครัวไปหาแม่ฉันเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเหลือแค่ฉันกับอีตาพี่จื่อเฉิงแค่ 2 คน เค้าเดินมานั่งตรงโซฟาตัวข้างๆฉันอย่างเงียบๆทำไมเค้าไม่พูดอะไร เค้าควรจะต่อว่าฉันที่ฉันไม่ยอมไปซ้อมรำกับอาม่าของเค้านี่หน่า เมื่อรู้ว่าฉันกำลังถูกจ้องอยู่ก็เลยเงยหน้าไปมองตอบ

          “ปักอะไรอยู่เหรอ” เค้าถามทั้งๆที่ยังจ้องตาฉันไม่เลิก

          “ปักผ้าเช็ดหน้า” เสียงแหบของฉันทำเอาเค้าขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ก็คนมันเจ็บคอจะให้มาเสียงหวานตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะคนบ้า

          “เป็นหนักขนาดนี้เลยหรอเนี่ย” จื่อเฉิงพูดกับตัวเองเป็นภาษาจีน น้ำเสียงนั่นเหมือนจะเป็นจะตายยังไงไม่รู้ ฟังแล้วใจมันหวิวๆแปลกๆชอบกล

          “ทำไมคุณถึงดูเศร้าจัง” ช่างสังเกตนะเนี่ย ดูออกด้วยว่าฉันเศร้า

          “ฉันไม่สบายนะคุณ จะดูสดใสได้ไงล่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มออกมา ทำไมฉันต้องยิ้มด้วยวะ ในเมื่อฉันยังเศร้าอยู่

          “ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่สบาย” มือของฉันหยุดทำงานทันทีพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเค้าอีกครั้ง

          “ผู้ชายคนนั้นทำให้คุณอ่อนแอ” เค้ารู้ได้ยังไง ฉันไม่เคยเล่าให้เค้าฟังเลย

          “คุณต้องพยายามดึงเข็มที่แทงหัวใจของคุณออกมาให้ได้นะ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บมากแต่คุณก็ต้องพยายาม ถ้าเกิดว่าคุณไม่ไหว....” เค้าจะพูดต่อแต่ว่า...

          “พี่เฉิงอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันสิคะวันนี้ไหนๆก็มาแล้วลองชิมฝีมือของป้าหน่อยนะ” ยัยอัญชันเดินเข้ามาชวนจื่อเฉิงอยู่กินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็เห็นด้วยเพราะว่าฉันไปฝากท้องที่บ้านของเค้าตั้งหลายครั้งแล้วเหมือนกัน

          “นั่นสิ อยู่กินข้าวด้วยกันนะ” ฉันหันไปชวนเค้าพร้อมกับยิ้มให้ เค้าดูอึ้งนิดหน่อยแต่ก็ตอบตกลง

          บนโต๊ะอาหารเค้านั่งอยู่ข้างๆฉันแม่นั่งตรงหัวโต๊ะ ส่วนยัยอัญชันก็นั่งอยู่ทางด้านตรงข้ามกันฉันแล้วก็จื่อเฉิง แม่จัดข้าวต้มให้ฉันตามเคย ฉันล่ะเบื่อที่จะกินข้าวต้มแล้ว

          “พี่เฉิงคะ กินเยอะๆไม่ต้องเกรงใจนะคะ จะได้ชิน อุบส์” ชินอะไรของมันอีกล่ะ นังคนนี้นี่มันมีอะไรบางอย่าง

          “นี่ป้า เมื่อกี้อัญอ่านนิยายที่เพื่อนของอัญแต่งนะ โห่ นางเอกโคตรโง่เลยอะป้า” ทุกๆวันค่ะ ถ้าไม่เสียงยัยนี่โต๊ะอาหารบ้านหลังนี้จะเงียบมาก

          “ทำไมมันถึงโง่ล่ะ” แม่ฉันก็เป็นไปกับเค้าด้วย อืม เอาเข้าไป

          “ก็เพราะว่าไม่รู้สักทีว่าพระเอกน่ะแอบชอบ มัวแต่ไปชอบคนอื่นอยู่ได้” ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันว่าฉันวะ คิดไปเองล่ะมั้ง

          “ถ้านางเอกรู้แล้วเค้าจะเรียกว่าแอบชอบไหมล่ะยัยบ้า” เสียงก็ไม่ค่อยจะมียังจะไปเถียงเค้าอีก

          “โห่แก...ไม่ได้แค่แอบชอบแล้วล่ะ แต่รักเลย แอบทำทุกอย่างอยู่ลับหลังอย่างเงียบๆโคตรโรแมนติกเลย”

          “ก็ไม่ยอมรับออกมาเองนิ แล้วนางเอกมันจะรู้ได้ไง”

          “ก็เพราะพระเอกกลัวว่า ถ้าบอกไปแล้วกลัวนางเอกจะไม่เหมือนเดิมน่ะสิ” มันก็จริงของมันนะ การแอบชอบใครสักคนบางครั้งเราก็กลัวเพราะถ้าเราบอกเค้าไปกลัวเค้าจะเปลี่ยนไป

          “ฝากไปบอกพระเอกในเรื่องด้วยนะว่าถ้าอยากรักก็ต้องเสี่ยง” ยัยอัญชันทำหน้าแปลกๆอะไรของมันอีกล่ะ

          “แล้วชายในฝันของอัญล่ะเป็นยังไง” นายจื่อเฉิงที่เงียบอยู่นานถึงกับเอ่ยออกมาเมื่อบนโต๊ะเริ่มเงียบลง

          “ชายในฝันของอัญก็ต้องเพียบพร้อมแบบในนิยาย หล่อ รวย ฮ๊อต เพอร์เฟค เป็นชายในฝันของสาวๆหลายคน แฟนคลับเยอะ เวลาที่ฉันเดินควงด้วยจะต้องมีคนอิจฉา” ช่างเป็นชายในอุดมคติที่ฮาสิ้นดี คิดได้ยังไงกัน ฉันยังไม่เคยมีความคิดอย่างงั้นเลย อัญชันเอ้ย ฉันว่าชาตินี้แกคงไม่เจอชายคนนั้นแล้วล่ะ

          “พี่รู้จักอยู่คนหนึ่ง” อ้าวอีตานี่ก็มาส่งเสริมน้องฉันอีก ถึงแม้จะเกิดปีเดียวกันแต่ยัยอัญชันก็ยังเกิดทีหลังฉันอยู่ดี มันจึงกลายเป็นเหมือนน้องของฉันโดยสิ้นเชิง

          “มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอคุณ” ฉันหันไปถามเค้าแบบติดตลกซึ่งเค้าก็ยิ้มออกมาเอาซะฉันเคลิ้มเลย เฮ้ย...แกเศร้าใจอยู่ไม่ใช่เหรอวะ จะมาเคลิ้มอะไรโดยเฉพาะกับอีตานี่

          “นั่นสิคะ อัญก็แค่ประชดยัยณิการ์มันน่ะค่ะ จริงๆแล้วอัญไม่ได้สนใจเลยขออยู่แบบนี้ดีกว่า” อัญชันตอบหน้าเจื่อนๆ แต่มันประชดฉันทำไม

          “แล้วแกจะมาประชดฉันทำไมวะ ฉันไม่ได้ชอบแบบที่แกพูดซะหน่อย อย่ามาฝอย” ฉันแทบจะสาดข้าวต้มใส่มันแต่โดนแม่ห้ามไว้ซะก่อน แต่มันก็ยังวอนไม่เลิก

          “แต่ถ้ามีคนแบบนั้นมาชอบแก แกจะชอบตอบไหมล่ะ” ฉันนึกถึงความคิดที่ฉันคิดไว้เล่นๆ ว่าถ้ามีคนตอบคำถามที่ฉันคิดไว้ได้ตรงกับคำตอบของฉันล่ะก็...ฉันจะรับรักเค้า

          “มันก็ขึ้นอยู่ที่เค้าจะตอบคำถามที่ฉันถามถูกหรือเปล่า” ทุกคนบนโต๊ะอาหารหันมามองหน้าฉันเหมือนยังจะอึ้งกับความคิดนั้นอยู่

          “คำถามอะไรของแก”

          “ไม่บอกจนกว่าจะมีคนมาสารภาพรักกับฉัน มันเป็นบทพิสูจน์รักแท้ไง ถ้าเค้าตอบได้ แสดงว่าเค้ารักฉันที่เป็นฉัน” คำตอบของฉันเล่นเอาทุกคนถอนสีหน้าสงสัยออกไป

          ฉันเดินออกมานอกบ้านกับนายจื่อเฉิง เค้ากำลงจะกลับแล้ว แต่ทำไมความรู้สึกของฉันมันถึงไม่อยากให้เค้ากลับเลยล่ะ อะไรในอกมันบอกให้ฉันยื้อเค้าไว้ ส่วนขาของฉันก็บอกว่าจะเดินมาส่ง (โทษแต่ร่างกายไม่เคยโทษตัวเอง)

          “คุณไม่ต้องมาส่งผมก็ได้ เดี๋ยวโดนน้ำค้าง ไข้จะขึ้นเอานะ” เค้ารู้ด้วยแฮะว่าฉันเดินเนียนมาส่งเค้า แก้ตัวสิคะรออะไรอยู่

          “ฉัน...ฉันเดินมาเก็บดอกมะลิ เอาไปไว้บนหัวนอนจะได้นอนหลับฝันดี ไม่ได้มาส่งคุณซะหน่อย” ฉันพูดพร้อมกับเดินไปเก็บดอกมะลิมาไว้ในกำมือ กลิ่นมันหอมจังเลย ในจังหว่ะ ที่ฉันกำลังเก็บดอกมะลิเพลินๆ ก็มีมือใหญ่มาคว้ามันไปจากฉันดอกหนึ่ง อะไรวะเก็บเองดิ

          “จริงเหรอคุณ ผมเองก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่ากลิ่นหอมจะช่วยให้ผ่อนคลายนอนหลับสบาย” จื่อเฉิงสูดกลิ่นดอกไม้แบบชื่นใจสุดๆ ทำไมเค้าดูน่ารักจัง ฟังที่ฉันพูดทุกคำเลย เฮ้ย...วันนี้ไข้ฉันคงยังไม่หายดีแน่ๆเลย ถึงได้คิดอะไรแบบนั้นได้

          “กลับเข้าบ้านเถอะคุณ ผมไม่อยากให้คุณป่วยไปมากกว่านี้ เอ้อ...อย่าลืมทานยาที่อาม่าต้มมาให้ด้วยนะครับ...ณิการ์” คำสุดท้ายตอนที่เค้าเรียกชื่อฉันมันทำเอาใจของฉันสั่นไปหมด เค้าไม่เคยเรียกฉันแบบนี้ เคยเรียกแต่แบบคุณน้อง ทั้งๆที่คนอื่นก็เรียกฉันแบบนี้ฉันก็ปกติ แต่ทำไมตอนเค้าเรียกใจฉันมันถึงเต้นไม่เป็นจังหว่ะล่ะ แล้วไอ้การที่ไล่ฉันเข้าไปในบ้านอีก เค้าเป็นห่วงฉัน...อย่างงั้นเหรอ...ณิการ์...ฉันว่าหัวใจของเธอได้ยาแก้พิษรักจนมันไม่ปกติแล้วล่ะ

 

เม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะผู้อ่านที่รัก จุ๊ฟี่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา