Rainbow University(1)สายรุ้งรักปักหัวใจนายต่างชาติ
8.8
เขียนโดย Greek
วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 01.52 น.
16 ตอน
3 วิจารณ์
17.15K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 01.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) แรกเริ่มประเดิมฝน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ มหาวิทยาลัยสายรุ้งหรือRainbow University เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังของเมืองไทยที่ใครๆก็ต่างอยากมาเรียนกันทั้งนั้น เพราะที่นี่ผลิตบัณฑิตอย่างมีคุณภาพ และจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆเกินหยั่งถึง
ซ่า....ซ่า...
เสียงฝนตกลงมาไม่ขาดสาย และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ คาดว่าอีกสักพักคงจะหนักว่าเดิมอีก
สายลมพัดเบาๆให้ละอองน้ำฝนได้ปะทะกับหน้าฉัน ตัวฉันสั่นหน่อยๆเป็นเชิงว่าหนาว โอย...ชีวิตหนอชีวิตจะมีอะไรซวยกว่าการติดฝนแล้วไปไหนไม่ได้อีกไหมเนี่ย
“พี่ครับ...พี่” รุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาสะกิดเรียกให้ฉันหันไปหา
“มีอะไรน้อง” ฉันหันไปถามอย่างแปลกใจ นายนี่น่าจะอยู่สักประมาณปี 1 แหล่ะ ไม่อย่างงั้นมันคงไม่เรียกฉันว่าพี่หรอก เอ๊ะ ! หรือว่าฉันหน้าแกแล้ว เฮ้ย ไม่จริงน่า (รู้สึกว่านางเอกของเราจะเมาน้ำฝนตั้งแต่แรกเริ่ม)
“มีคนฝากมาให้ครับ” น้องเค้าเอาสิ่งที่เรียกว่าร่มมายัดใส่มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่(เพราะอีกข้างหนึ่งถือหนังสือไว้) จากนั้นก็วิ่งหนีไป
“เดี๋ยวๆ...ไอ้น้องงงง” หมายความว่าไงวะเนี่ย ใครมันเสียสละยกร่มให้ฉัน แต่โคตรฮาร่มเลย ผู้หญิงอย่างฉันยังไม่ใช่ร่มลายแบบนี้เลยนะ ด้ามยาวๆร่มลายคิตตี้ ลายอย่างหวานอะ สาวที่ไหนเค้าให้ร่มฉันยืมเนี่ย
ฉันไม่รอช้ารีบกดปุ่มกางร่มเดินออกมาจากห้องสมุดทันที แหม...บรรยากาศตอนนี้คงจะดีถ้าได้คนตัวสูงกว่าฉันมาคอยถือร่มให้คงจะฟินหน้าดู ถึงแม้มันจะเป็นร่มลายคิตตี้ก็เหอะ
วันต่อมา...
โอยยยยย นี่มันมหาลัยหรือว่าทะเลเนี่ย ถ้าน้ำฝนมันจะท่วมขนาดนี้นะ สงสัยท่อระบายน้ำคงจะล้น ไม่เคยจะแก้ไขเลย ฝนตกทีไร อย่างทะเลสาบ ดีนะที่มันยังไม่ล้นขึ้นมาทางเดิน ฉันเลยเดินแบบชิวๆไปได้เรื่อยๆ
“ณิกา!!!” เอ๊ะ ใครมันเรียกฉันวะเนี่ย หันกลับไปดูซะหน่อย
“อ้าว...ไงแตงโม” ยัยแตงโมเพื่อนในสาขาเดียวกันเนี่ยแหล่ะ สงสัยมันอยากมีเพื่อนเดินไปด้วยมั้งเลยเรียกฉันซะดังเชียว
“ไปด้วย” นั่นไงว่าแล้ว เดาอะไรไม่เคยผิดเลย
“แหมๆพกร่มมาเลยนะวันนี้ ลายคิตตี้ซะด้วย” ยัยแตงโมออกปากแซวฉันทันทีที่เห็นร่มคิตตี้แสนหวานที่ฉันพกมันมาด้วย
“อ๋อ...ฉันเอามันมาคืนน่ะ เมื่อวานฉันติดฝนอยู่ที่ห้องสมุด ก็เลยยืมเขามา” แก้ตัวไปงั้นแหล่ะ ใครจะบอกว่า มีคนฝากมาให้ล่ะ แต่ถ้าจริงๆก็คือฉันตั้งใจเอามาคืนนั่นแหล่ะ คำถามมันอยู่ตรงที่ว่าใครเป็นเจ้าของร่มคันนี้
“ฉันได้ข่าวมาว่าเธอต้องโชว์ในวันงาน” อยู่ดีๆก็พูดมาได้เนอะยัยนี่ ทำให้คิดลึกได้เลย อย่าเข้าใจผิดกันนะคะ โชว์ที่ว่านี่คือ การแสดงนะคะขอบอก
“อืม อาจารย์สุ่มเลือก แล้วบังเอิญเป็นฉัน” สุ่มไม่พอ พอรู้ว่าเป็นฉันแล้ว อาจารย์ก็เหมือนบังคับเลยล่ะ
“เห็นเค้าลือกันว่า ยัยซอลญ่าก็ได้เหมือนกัน” ยัยแตงโมนี่มันเหยี่ยวข่าวชัดๆ รู้ลึกรู้จริงรู้ทุกเหตุการณ์
ว่าแต่ว่า เมื่อกี้แตงโมบอกว่ายัยซอลญ่าก็ได้แสดงเหมือนกันงั้นเหรอ ไม่แปลกใจอยู่แล้ว เพราะยัยนั่นเป็นดาวคณะศิลปศาสตร์ ต้องมีโชว์ให้ทุกคนได้ประจักษ์แน่นอน อยากรู้จังว่าหัวข้อที่ยัยนั่นได้คืออะไร
“แล้วเธอรู้รึเปล่าว่ายัยนั่นได้คอนเซปอะไร”
“นาฏศิลป์ไทย” ในขณะที่ฉันได้นาฏศิลป์จีนเนี่ยนะ ลำเอียงกันชัดๆ
“-O- งั้นเหรอ” โกรธปานไฟจะลุก ก็ทำได้เพียงแค่ได้ “งั้นเหรอ”
“ยังไม่หมดนะ ฉันยังรู้มาว่ายัยซอลญ่าได้จับคู่แสดงกับพี่จูเนียร์ด้วยนะ” เจ็บปวดเข้าถึงแก่นหัวใจ ทำแบบนี้ได้ไงเนี่ย พี่จูเนียร์เป็นเดือนของคณะศิลปศาสตร์เหมือนกัน แถมยังเป็นคนที่ฉันเคย...ชอบด้วย
มันเป็นสงครามเย็นระหว่างฉันกับซอลญ่า เราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนตอนปี 1 เป็นได้แค่เดือนเดียว ก็มีโครงการประกวดดาวคณะเข้ามา ฉันและซอลญ่าคือคนที่ถูกคัดเข้าประกวด เราเป็นตัวเต็งทั้งคู่ ทุกอย่างมันมีเหตุผลว่าทำไมซอลญ่าถึงได้ตำแหน่งดาวไป เราแอบชอบผู้ชายคนเดียวกัน ก็คือพี่จูเนียร์ตอนนั้นเค้าอยู่ปี 2 พี่เค้าหล่อมาก และมีความสามารถเยอะไม่ว่าจะกีฬา การเรียน หรือศิลปะต่างๆทั้งหลาย
แน่นอนว่าฉันกับซอลญ่าแข่งกันจีบพี่จูเนียร์ วันหนึ่งพี่จูเนียร์ได้บอกว่า “พี่จะเลือกเดทกับคนที่ได้เป็นดาว” เท่านั้นล่ะค่ะ งานเข้าเลย เพราะฉันโดนตัดสิทธิ์การเป็นดาว เหตุผลก็คือ...ยังไม่อยากบอกอะ
สิ่งที่ตามมาก็คือฉันกลายเป็นคนแพ้ ซอลญ่าก็ได้เดทกับพี่จูเนียร์...ไอ้เสียใจมันก็เสียใจอะนะ แต่เจ็บใจนี่สิ มันเยอะกว่าและคงทนด้วย นับจากวันนั้นมาฉันก็ไม่คิดที่จะชอบใครอีกเลย และรักแท้เป็นสิ่งที่ไม่อยู่จริงบนโลก...จะมีใครที่จะรักในสิ่งที่เราเป็น ยอมรับในความสามารถของเรา ไม่ใช่ตำแหน่งหรือหน้าตา...ได้แค่ฝันเท่านั้นแหล่ะ
ซ่า....ซ่า...
เสียงฝนตกลงมาไม่ขาดสาย และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ คาดว่าอีกสักพักคงจะหนักว่าเดิมอีก
สายลมพัดเบาๆให้ละอองน้ำฝนได้ปะทะกับหน้าฉัน ตัวฉันสั่นหน่อยๆเป็นเชิงว่าหนาว โอย...ชีวิตหนอชีวิตจะมีอะไรซวยกว่าการติดฝนแล้วไปไหนไม่ได้อีกไหมเนี่ย
“พี่ครับ...พี่” รุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาสะกิดเรียกให้ฉันหันไปหา
“มีอะไรน้อง” ฉันหันไปถามอย่างแปลกใจ นายนี่น่าจะอยู่สักประมาณปี 1 แหล่ะ ไม่อย่างงั้นมันคงไม่เรียกฉันว่าพี่หรอก เอ๊ะ ! หรือว่าฉันหน้าแกแล้ว เฮ้ย ไม่จริงน่า (รู้สึกว่านางเอกของเราจะเมาน้ำฝนตั้งแต่แรกเริ่ม)
“มีคนฝากมาให้ครับ” น้องเค้าเอาสิ่งที่เรียกว่าร่มมายัดใส่มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่(เพราะอีกข้างหนึ่งถือหนังสือไว้) จากนั้นก็วิ่งหนีไป
“เดี๋ยวๆ...ไอ้น้องงงง” หมายความว่าไงวะเนี่ย ใครมันเสียสละยกร่มให้ฉัน แต่โคตรฮาร่มเลย ผู้หญิงอย่างฉันยังไม่ใช่ร่มลายแบบนี้เลยนะ ด้ามยาวๆร่มลายคิตตี้ ลายอย่างหวานอะ สาวที่ไหนเค้าให้ร่มฉันยืมเนี่ย
ฉันไม่รอช้ารีบกดปุ่มกางร่มเดินออกมาจากห้องสมุดทันที แหม...บรรยากาศตอนนี้คงจะดีถ้าได้คนตัวสูงกว่าฉันมาคอยถือร่มให้คงจะฟินหน้าดู ถึงแม้มันจะเป็นร่มลายคิตตี้ก็เหอะ
วันต่อมา...
โอยยยยย นี่มันมหาลัยหรือว่าทะเลเนี่ย ถ้าน้ำฝนมันจะท่วมขนาดนี้นะ สงสัยท่อระบายน้ำคงจะล้น ไม่เคยจะแก้ไขเลย ฝนตกทีไร อย่างทะเลสาบ ดีนะที่มันยังไม่ล้นขึ้นมาทางเดิน ฉันเลยเดินแบบชิวๆไปได้เรื่อยๆ
“ณิกา!!!” เอ๊ะ ใครมันเรียกฉันวะเนี่ย หันกลับไปดูซะหน่อย
“อ้าว...ไงแตงโม” ยัยแตงโมเพื่อนในสาขาเดียวกันเนี่ยแหล่ะ สงสัยมันอยากมีเพื่อนเดินไปด้วยมั้งเลยเรียกฉันซะดังเชียว
“ไปด้วย” นั่นไงว่าแล้ว เดาอะไรไม่เคยผิดเลย
“แหมๆพกร่มมาเลยนะวันนี้ ลายคิตตี้ซะด้วย” ยัยแตงโมออกปากแซวฉันทันทีที่เห็นร่มคิตตี้แสนหวานที่ฉันพกมันมาด้วย
“อ๋อ...ฉันเอามันมาคืนน่ะ เมื่อวานฉันติดฝนอยู่ที่ห้องสมุด ก็เลยยืมเขามา” แก้ตัวไปงั้นแหล่ะ ใครจะบอกว่า มีคนฝากมาให้ล่ะ แต่ถ้าจริงๆก็คือฉันตั้งใจเอามาคืนนั่นแหล่ะ คำถามมันอยู่ตรงที่ว่าใครเป็นเจ้าของร่มคันนี้
“ฉันได้ข่าวมาว่าเธอต้องโชว์ในวันงาน” อยู่ดีๆก็พูดมาได้เนอะยัยนี่ ทำให้คิดลึกได้เลย อย่าเข้าใจผิดกันนะคะ โชว์ที่ว่านี่คือ การแสดงนะคะขอบอก
“อืม อาจารย์สุ่มเลือก แล้วบังเอิญเป็นฉัน” สุ่มไม่พอ พอรู้ว่าเป็นฉันแล้ว อาจารย์ก็เหมือนบังคับเลยล่ะ
“เห็นเค้าลือกันว่า ยัยซอลญ่าก็ได้เหมือนกัน” ยัยแตงโมนี่มันเหยี่ยวข่าวชัดๆ รู้ลึกรู้จริงรู้ทุกเหตุการณ์
ว่าแต่ว่า เมื่อกี้แตงโมบอกว่ายัยซอลญ่าก็ได้แสดงเหมือนกันงั้นเหรอ ไม่แปลกใจอยู่แล้ว เพราะยัยนั่นเป็นดาวคณะศิลปศาสตร์ ต้องมีโชว์ให้ทุกคนได้ประจักษ์แน่นอน อยากรู้จังว่าหัวข้อที่ยัยนั่นได้คืออะไร
“แล้วเธอรู้รึเปล่าว่ายัยนั่นได้คอนเซปอะไร”
“นาฏศิลป์ไทย” ในขณะที่ฉันได้นาฏศิลป์จีนเนี่ยนะ ลำเอียงกันชัดๆ
“-O- งั้นเหรอ” โกรธปานไฟจะลุก ก็ทำได้เพียงแค่ได้ “งั้นเหรอ”
“ยังไม่หมดนะ ฉันยังรู้มาว่ายัยซอลญ่าได้จับคู่แสดงกับพี่จูเนียร์ด้วยนะ” เจ็บปวดเข้าถึงแก่นหัวใจ ทำแบบนี้ได้ไงเนี่ย พี่จูเนียร์เป็นเดือนของคณะศิลปศาสตร์เหมือนกัน แถมยังเป็นคนที่ฉันเคย...ชอบด้วย
มันเป็นสงครามเย็นระหว่างฉันกับซอลญ่า เราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนตอนปี 1 เป็นได้แค่เดือนเดียว ก็มีโครงการประกวดดาวคณะเข้ามา ฉันและซอลญ่าคือคนที่ถูกคัดเข้าประกวด เราเป็นตัวเต็งทั้งคู่ ทุกอย่างมันมีเหตุผลว่าทำไมซอลญ่าถึงได้ตำแหน่งดาวไป เราแอบชอบผู้ชายคนเดียวกัน ก็คือพี่จูเนียร์ตอนนั้นเค้าอยู่ปี 2 พี่เค้าหล่อมาก และมีความสามารถเยอะไม่ว่าจะกีฬา การเรียน หรือศิลปะต่างๆทั้งหลาย
แน่นอนว่าฉันกับซอลญ่าแข่งกันจีบพี่จูเนียร์ วันหนึ่งพี่จูเนียร์ได้บอกว่า “พี่จะเลือกเดทกับคนที่ได้เป็นดาว” เท่านั้นล่ะค่ะ งานเข้าเลย เพราะฉันโดนตัดสิทธิ์การเป็นดาว เหตุผลก็คือ...ยังไม่อยากบอกอะ
สิ่งที่ตามมาก็คือฉันกลายเป็นคนแพ้ ซอลญ่าก็ได้เดทกับพี่จูเนียร์...ไอ้เสียใจมันก็เสียใจอะนะ แต่เจ็บใจนี่สิ มันเยอะกว่าและคงทนด้วย นับจากวันนั้นมาฉันก็ไม่คิดที่จะชอบใครอีกเลย และรักแท้เป็นสิ่งที่ไม่อยู่จริงบนโลก...จะมีใครที่จะรักในสิ่งที่เราเป็น ยอมรับในความสามารถของเรา ไม่ใช่ตำแหน่งหรือหน้าตา...ได้แค่ฝันเท่านั้นแหล่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ