In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ข้ออ้างที่แผลที่ทำได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อถูกสารภาพรักซึ่งๆ หน้า มิสึโตะก็อดจะประหม่าไปไม่ได้ เขาเลี่ยงสายตาที่จ้องมองมาอย่างอ่อนโยนนั่นอย่างไม่รู้จะทำอะไรมากกว่านั้น เพราะนอกเหนือจากความอ่อนโยน มันแฝงความจริงจังแรงกล้าไว้อย่างลึกซึ้ง
เขายกมือขึ้นปิดหน้าคล้ายจะอ่อนใจ "หลงรักเด็กแปดขวบ คุณเนี่ยโชตะค่อนชัดๆ เลย"
คิริเคียวคุไม่เข้าใจศัพท์แสงในยุคปัจจุบันก็จริง แต่เขาเข้าใจใจความประโยคแรกชัดเจนดีจึงอดค้อนมิได้ "ข้ารักตอนเจ้าโตกว่านั้นต่างหาก"
สีหน้ามิสึโตะไม่แสดงความเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย
"ข้าไม่ได้พูดจาพบหน้าเจ้าเลยก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มองเจ้าอยู่สักหน่อย หมอกพวกนั้นเหมือนจะถูกควบคุมด้วยคำสาปของฟุริ การที่หมอกลงจัดระหว่างขบวนเดินทางในวันพิธี เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือการควบคุมของข้าหรือ? เปล่าเลย"
คิริเคียวคุเอื้อมมือไปเลิกชายเสื้อของคนที่นอนอยู่ โดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายระคนตกใจของเจ้าของเสื้อเลยสักนิด มิสึโตะพยายามใช้แขนข้างที่เหลือยื้อยุดฉุดกระชากกับคนที่พยายามถอดเสื้อผ้าเขาออกด้วยความงงงวยเป็นอย่างยิ่ง เรื่องที่พูดกับการถอดเสื้อผ้าเขามันเกี่ยวอะไรกัน!
ระหว่างชุลมุนวุ่นวาย มิสึโตะที่ลนลานเพราะถูกถอดเสื้อออกไปก็เห็นบ่าเล็กๆ อยู่ตรงหน้า ก็จัดการกัดเข้าเต็มแรงโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ใครจะกล่าวหาว่าเขาเล่นสกปรกก็ว่ากันไป ในเมื่อแขนที่เขาใช้ได้ก็มีอยู่ข้างเดียวมาตั้งแต่ต้น
คุริเคียวคุยอมถอยร่นออกมาแต่โดยดี ชุดญี่ปุ่นของเขาหลุดห้อยเผยให้เห็นร่างกายซีกหนึ่ง สีหน้าของเจ้าชายแห่งสายหมอกคุกรุ่นไปด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างสูง "เจ้าทำอะไรน่ะ"
"คุณนั่นแหละที่ทำอะไร" มิสึโตะกระเถิบตัวหนีโดยเร็ว "จะบ้าเรอะ อยู่ดีๆ มาถอดเสื้อผ้าคนอื่นเขาได้ไงเล่า"
คุริเคียวคุขมวดคิ้ว "ข้าคิดว่าเราเข้าใจกันดีแล้วเสียอีก ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าข้ารักเจ้าจากใจ แล้วเราก็แลกคำมั่นแห่งรักกันแล้ว มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ 'เข้าหอ' กันอีกล่ะ"
มิสึโตะแทบจะใบ้กินในวินาทีนั้น เขาทวนคำพูดอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงอารมณ์อันตกตะลึงมากที่สุดเท่าที่ในชีวิตนี้จะเคยทำมา
คุริเคียวคุวางมือทาบอก "ถ้าเจ้าเกี่ยงงอนยึดถือศักดิ์ศรีว่าจะไม่ยอมตกเป็นรองในการแสดงความรักครั้งนี้ ข้ายินแสดงบทบาทในฐานะสตรี เท่านี้คงพอใจแล้วสินะ"
คนฟังสั่นศีรษะอย่างบ้าคลั่ง
"หรือว่าเจ้าอยากรับบทเป็นสตรี?"
"ใช่ที่ไหนเล่า! คุณบ้าไปแล้วเหรอ อยู่ๆ จะให้มามีอะไรกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน แถมยังเป็นผู้ชายอีกเนี่ยนะ ใครจะไปทำได้กัน!"
คุริเคียวคุกัดริมฝีปากด้วยความโมโห "คนในยุคข้าถูกจับแต่งงานแบบคลุมถุงชนออกเยอะแยะไป พวกเขาไม่มีเวลาทำความรู้จักยังสามารถสร้างทายาทออกมาเป็นซามูไรไดเมียวได้ตั้งมากตั้งมาย แล้วอีกอย่าง ถ้าคนที่อยู่ตรงนี้คือสาวงามวัยแรกรุ่น เจ้าคงไม่รอช้ารีบกระโจนใส่ทันทีเลยใช่ไหม"
"ก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเพศไงเล่า! ถ้ายูงาริบังคับให้คุณมีสัมพันธ์ด้วย คุณจะยอมหรือเปล่าล่ะ"
"ถ้านางไม่เรียกร้องอะไรภายหลัง ข้าก็ยินดี" คุริเคียวคุเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าระลึกความหลัง "เห็นไล่กวดเจ้าอย่างนี้ เมื่อสี่ร้อยปีก่อน ข้าเคยได้ชื่อว่าเป็นบุรุษเนื้อหอมในหมู่สตรีมิน้อยเลยทีเดียว เจ้าควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่เคยได้รับ"
ท้ายที่สุด มิสึโตะตัดสินใจชี้แผลที่แขนซ้ายของตัวเองเพื่อเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายบุกเข้าหา ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุริเคียวคุได้แต่ยอมรับโดยดุษณี
เขายกมือขึ้นปิดหน้าคล้ายจะอ่อนใจ "หลงรักเด็กแปดขวบ คุณเนี่ยโชตะค่อนชัดๆ เลย"
คิริเคียวคุไม่เข้าใจศัพท์แสงในยุคปัจจุบันก็จริง แต่เขาเข้าใจใจความประโยคแรกชัดเจนดีจึงอดค้อนมิได้ "ข้ารักตอนเจ้าโตกว่านั้นต่างหาก"
สีหน้ามิสึโตะไม่แสดงความเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย
"ข้าไม่ได้พูดจาพบหน้าเจ้าเลยก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มองเจ้าอยู่สักหน่อย หมอกพวกนั้นเหมือนจะถูกควบคุมด้วยคำสาปของฟุริ การที่หมอกลงจัดระหว่างขบวนเดินทางในวันพิธี เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือการควบคุมของข้าหรือ? เปล่าเลย"
คิริเคียวคุเอื้อมมือไปเลิกชายเสื้อของคนที่นอนอยู่ โดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายระคนตกใจของเจ้าของเสื้อเลยสักนิด มิสึโตะพยายามใช้แขนข้างที่เหลือยื้อยุดฉุดกระชากกับคนที่พยายามถอดเสื้อผ้าเขาออกด้วยความงงงวยเป็นอย่างยิ่ง เรื่องที่พูดกับการถอดเสื้อผ้าเขามันเกี่ยวอะไรกัน!
ระหว่างชุลมุนวุ่นวาย มิสึโตะที่ลนลานเพราะถูกถอดเสื้อออกไปก็เห็นบ่าเล็กๆ อยู่ตรงหน้า ก็จัดการกัดเข้าเต็มแรงโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ใครจะกล่าวหาว่าเขาเล่นสกปรกก็ว่ากันไป ในเมื่อแขนที่เขาใช้ได้ก็มีอยู่ข้างเดียวมาตั้งแต่ต้น
คุริเคียวคุยอมถอยร่นออกมาแต่โดยดี ชุดญี่ปุ่นของเขาหลุดห้อยเผยให้เห็นร่างกายซีกหนึ่ง สีหน้าของเจ้าชายแห่งสายหมอกคุกรุ่นไปด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างสูง "เจ้าทำอะไรน่ะ"
"คุณนั่นแหละที่ทำอะไร" มิสึโตะกระเถิบตัวหนีโดยเร็ว "จะบ้าเรอะ อยู่ดีๆ มาถอดเสื้อผ้าคนอื่นเขาได้ไงเล่า"
คุริเคียวคุขมวดคิ้ว "ข้าคิดว่าเราเข้าใจกันดีแล้วเสียอีก ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าข้ารักเจ้าจากใจ แล้วเราก็แลกคำมั่นแห่งรักกันแล้ว มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ 'เข้าหอ' กันอีกล่ะ"
มิสึโตะแทบจะใบ้กินในวินาทีนั้น เขาทวนคำพูดอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงอารมณ์อันตกตะลึงมากที่สุดเท่าที่ในชีวิตนี้จะเคยทำมา
คุริเคียวคุวางมือทาบอก "ถ้าเจ้าเกี่ยงงอนยึดถือศักดิ์ศรีว่าจะไม่ยอมตกเป็นรองในการแสดงความรักครั้งนี้ ข้ายินแสดงบทบาทในฐานะสตรี เท่านี้คงพอใจแล้วสินะ"
คนฟังสั่นศีรษะอย่างบ้าคลั่ง
"หรือว่าเจ้าอยากรับบทเป็นสตรี?"
"ใช่ที่ไหนเล่า! คุณบ้าไปแล้วเหรอ อยู่ๆ จะให้มามีอะไรกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน แถมยังเป็นผู้ชายอีกเนี่ยนะ ใครจะไปทำได้กัน!"
คุริเคียวคุกัดริมฝีปากด้วยความโมโห "คนในยุคข้าถูกจับแต่งงานแบบคลุมถุงชนออกเยอะแยะไป พวกเขาไม่มีเวลาทำความรู้จักยังสามารถสร้างทายาทออกมาเป็นซามูไรไดเมียวได้ตั้งมากตั้งมาย แล้วอีกอย่าง ถ้าคนที่อยู่ตรงนี้คือสาวงามวัยแรกรุ่น เจ้าคงไม่รอช้ารีบกระโจนใส่ทันทีเลยใช่ไหม"
"ก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเพศไงเล่า! ถ้ายูงาริบังคับให้คุณมีสัมพันธ์ด้วย คุณจะยอมหรือเปล่าล่ะ"
"ถ้านางไม่เรียกร้องอะไรภายหลัง ข้าก็ยินดี" คุริเคียวคุเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าระลึกความหลัง "เห็นไล่กวดเจ้าอย่างนี้ เมื่อสี่ร้อยปีก่อน ข้าเคยได้ชื่อว่าเป็นบุรุษเนื้อหอมในหมู่สตรีมิน้อยเลยทีเดียว เจ้าควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่เคยได้รับ"
ท้ายที่สุด มิสึโตะตัดสินใจชี้แผลที่แขนซ้ายของตัวเองเพื่อเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายบุกเข้าหา ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุริเคียวคุได้แต่ยอมรับโดยดุษณี
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ