In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ความเชื่อมั่น การตัดสินใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผ่านไปนานหลายสัปดาห์ แม้มิสึโตะจะไม่รู้วันเวลาแน่ชัด แผลที่สมานตัวกันมากถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็ช่วยบอกได้คร่าวๆ ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่นี่มานานมากพอสมควรแล้ว
อีกประการก็คือ...เขาไม่ได้อยู่ในหมอกตลอดเวลา เนื่องจากต้องไปตัดไหมตามนัดกับคลินิคในหมู่บ้านเมื่อหลายวันก่อน แต่นอกเหนือจากการตัดไหมและการย่องไปเอาข้าวสารอาหารแห้งมาตุนไว้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งนอนอยู่ในคฤหาสน์ม่านหมอกทั้งสิ้น
คิริเคียวคุเล่าว่าความจริงแล้วเขาควรจะอาศัยอยู่ในหมอกว่างเปล่า แต่เนื่องจากท่านเจ้าผู้ครองแคว้นหวาดกลัวในคำสาปเจ้าหญิงฟุริ จึงให้องเมียวจิหาทางทำอะไรกับคำสาปของนาง ส่วนตัวเขาหลบอยู่แต่ในคฤหาสน์ตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่หลีกพ้น เมื่อคำสาปไม่อาจแทรกซึมเข้าไปถึงตัวเขาได้สำเร็จ มันจึงหอบเอาคฤหาสน์ทั้งหลังเข้าไปพร้อมกัน
ความเป็นอยู่ในคฤหาสน์จะเรียบร้อยดี เพราะของใช้จิปาถะส่วนใหญ่ก็ยังครบครัน แม้จะเป็นของใช้เมื่อสี่ศตวรรษที่แล้วก็ตาม แต่ในระยะหลังช่วงที่แผลหายดีนี้ มิสึโตะก็เริ่มคิดหาทางกลับบ้าน เพราะความรู้สึกแปลกๆ ที่ถูกจ้องมองในระยะหลัง ซึ่งเริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่งกับประโยคสั้นๆ
"อื้ม แผลสมานตัวกันดีแล้วสินะ"
แล้วอย่างนี้เขาจะเอาอะไรไปอ้าง
ในบางเวลา เขาอดคิดถึงที่มาของรอยแผลมิได้ มิสึเมะถูกบังคับ คุณนายมิสึมิก็ยังไม่รู้ความจริง เขาเข้าใจว่าเป้าหมายของเธอคงมีแค่เขาคนเดียว เพราะถ้าจัดการเขาก่อนเป็นคนแรกแล้วความแตกขึ้นมา พวกผู้ใหญ่คงไม่นิ่งเฉยแน่ แต่เขาจะทำอย่างไรดี?
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขากังวลใจ
คิริเคียวคุสอดกายเข้ามาใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหนอที่มิสึโตะคุ้นชินกับการมีใครสักคนนอนอยู่เคียงข้าง ร่างที่มีความอบอุ่นไม่ต่างจากมนุษย์ แต่กลับมีชีวิตยืนยาวมาตลอดสี่ร้อยปี มันเป็นสี่ร้อยเช่นไรกันหนอ ชีวิตที่ไม่มีความหิวโหย ไม่มีความง่วงงุน ได้แต่คอยเฝ้ามองสังคมภายในกลุ่มม่านหมอกพัดผ่านไปเรื่อยๆ มองดูยุคสมัยจากห้วงเวลาหนึ่งสู่อีกห้วง เห็นความเปลี่ยนแปลงจากโลกที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติไปจนถึงโลกที่เริ่มปรากฏเทคโนโลยี แต่ผู้คนมากมายในช่วงเวลาเหล่านั้นกลับมีน้อยนักที่จะฝ่าม่านหมอกเข้ามาพบ ถ้าเข้ามาจริงๆ คงไม่พ้นถูกกล่าวหาว่าเป็นปิศาจผีสาง หรือถูกยกยอให้กลายเป็นเทพเจ้าเคารพ
คงเพราะอย่างนั้นถึงชอบพบกับพวกเด็กๆ ไม่มีคำถาม ไม่มีเงื่อนไข จะมีก็เพียงความสนุกสนานในการละเล่นพูดคุยกันไป แต่ในยามที่เด็กพวกนั้นหลับไหล เจ้าชายใจดีของพวกเขาก็ยังคงตื่น อยู่ในสถานที่เดิมๆ ในทิวทัศน์เดิมๆ
หมอกไม่ได้เคลื่อนตัวตามคิริเคียวคุ พวกมันเป็นสิ่งที่พัดปลิวไปตามธรรมชาติ นอกเหนือจากยามที่คำสัตย์เชื่องโยงกับสถานที่ต่างๆ เหมือนครั้งที่เขากำลังเดินทางเพื่อไปยังปะรำพิธีหมั้นหมาย
ถึงอย่างนั้น...
"พรุ่งนี้ผมจะกลับบ้านแล้วนะครับ" มิสึโตะสบตากับร่างที่อิงเขาอยู่ตั้งแต่เมื่อครู่ "คุณก็รู้ ผมอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอกครับ ยังมีมิสึเมะอีก ถ้าเธอถูกบังคับจริงๆ มันก็เป็นหน้าที่พี่ชายอย่างผมต้องไปช่วยเหลือ"
คิริเคียวคุเปลี่ยนสีหน้าในฉับพลัน "นางไม่เป็นไรหรอก"
ในฐานะพี่ชาย คำพูดของคนนอกที่ไม่คิดถึงน้องสาวตนเองเลยย่อมรู้สึกไม่ชอบใจเป็นธรรมดา แต่เมื่อนึกถึงความโดดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาตัดสินใจลูบปลอบใบหน้างามอย่างเบามือ "แต่คุณก็รู้ คนที่แทงแขนผมจนกลายเป็นแผลยาวคือยูงารินะครับ"
คิริเคียวคุสั่นศีรษะ "ไม่หรอก ถึงข้าจะไม่รู้ว่าทำไมนางถึงร่วมมือกับยูงาริ แต่คนที่ช่วยสนับสนุนข้าให้เข้าพบเจ้าได้สะดวก รวมถึงตระเตรียมข้าวของต่างๆ คือนาง สิ่งที่นางต้องการจริงๆ คือการให้เจ้ามาอยู่ที่นี่ต่างหาก"
"หรือไม่ก็...รู้ว่าที่นี่ปลอดภัยสำหรับผม" มิสึโตะสบตาเขา "ตอนเธอช่วยคุณ เธอพูดถึงยูงาริบ้างหรือเปล่า"
คิริเคียวคุกล่าวด้วยความสัตย์จริง "นางไม่ได้พูดอะไรสักคำ ถ้าต้องการช่วยให้เจ้าพ้นจากเงื้อมมือคู่หมั้น นางต้องเตือนให้ข้าระวังตั้งแต่ต้นแล้ว"
มิสึโตะอึ้ง
"ข้ากล่าวคำปดไม่ได้ตามคำสาปของฟุริ คราวนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วสินะ ว่านางต้องการให้เจ้าอยู่ที่นี่ บางที...นาง..." คิริเคียวคุหลบสายตา "นาง... นางอาจจะเห็นใจข้าก็ได้"
คำว่า 'นางอาจเป็นคนยุแยงยูงาริให้ทำร้ายเจ้า' ไม่หลุดออกมาจากริมฝีปากกลีบกุหลาบ หากคนฟังคือไพร่พลและมิสึเมะคือไส้ศึก เขาคงสามารถประกาศความคิดของตนออกไปโดยไม่เกรงกลัวอะไร แต่มันยากกว่านั้นมาก เมื่อคนฟังคือพี่ชายอยากจะเชื่อมั่นในตัวน้องสาวอย่างที่สุด
เพราะเขาก็กลัว...กลัวว่าจะโดนเกลียด
นับจากวันแรกที่โดนขับไล่ ตอนนี้เขาสามารถนอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับอีกฝ่ายได้อย่างสนิทใจ การทำลายสิ่งเหล่านี้อาจเป็นการทำลายความสัมพันธ์ไปตลอดกาล ซึ่งคิริเคียวคุยอมรับว่าตัวเองขี้ขลาดและหวาดกลัวเกินกว่าจะทำได้ลง
"เพราะอย่างนั้น...ผมถึงต้องไปพบเธอไงล่ะ" มิสึโตะรวบร่างบอบบางเข้ามากอดแนบกาย
เสี้ยววินาทีหนึ่งที่เขาเกือบจะกล่าวว่าตัวเองต้องกลับมาอีกแน่ แต่นั่นอาจจะถือเป็นคำมั่น คำสาปสัจจะของเจ้าหญิงฟุริสร้างความปั่นป่วนมามากพอแล้ว มันคงดีกว่า...ถ้าเขาไม่พูดอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ