In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL

6.7

เขียนโดย โรเครเซีย

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.

  24 chapter
  1 วิจารณ์
  24.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) หนังสือกับคมมีด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          มิสึโตะเริ่มรู้สึกตัวตอนถูกประคองขึ้นมานี้เอง เขาถึงกับร้องลั่น รีบปัดป้องการสัมผัสจากอีกฝ่ายโดยเร็ว ปฏิกิริยาดังกล่าวทำให้ผู้บุกรุกขมวดคิ้ว ใบหน้าหวานหม่นลง ก่อนจะผินไปทางอื่นไม่ยอมสบตาคนที่ถูปลุกขึ้นมา ขณะที่อีกฝ่ายเองก็เปี่ยมไปด้วยความลำบากใจจนแสดงออกอย่างชัดเจนทางแววตา
 
          "ผมไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรไว้หรอกนะครับ แต่ยังไงก็ช่วยคิดถึงคู่หมั้นของข้าที่อยู่ในคฤหาสน์เดียวกันด้วยครับ อย่างน้อย...ผมก็เป็นคู่หมั้นของเธอโดยเต็มใจ"
 
          คิริเคียวคุถึงกับสะอึก เขากำอกเสื้อตนเองไว้แน่นจนแทบขาดคามือ
 
          "ถึงนางจะเป็นคู่หมั้น แต่ข้าคือคู่ชีวิตของเจ้า เมื่อยังเยาว์ คำมั่นแห่งรักของเจ้าก็เป็นความเต็มใจเช่นเดียวกัน" เขาเอ่ยช้าๆ หากแต่แน่นหนัก "คำที่บอกให้ข้ารับปากว่าจะรักเจ้าตราบเท่าที่ยังหายใจ แม้เจ้าจะจำไม่ได้ คำสาปของฟุริคือหลักฐานที่บ่งบอกถึงมันเป็นอย่างดี และด้วยคำมั่นกับคำสาปนี้เองที่ทำให้ข้าต้องมาที่นี่ มาเพื่อพบคนรักของข้า"
 
          มิสึโตะเม้มริมฝีปาก "งั้นทำยังไงถึงจะยุติมันได้ครับ"
 
          คิริเคียวคุนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะขยับริมฝีปากเผยเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันขมขื่น หากเขารู้วิธีทำลายคำสาปของเจ้าหญิงฟุริ คงไม่ถูกขังอยู่ในหมอกพวกนี้นานตลอดห้าร้อยปีที่ผ่านมาเป็นแน่
 
          ดวงหน้างามผันมองไปยังดวงจันทราอันส่องสว่างบนฟากฟ้า บางที สิ่งนี้อาจเป็นหนึ่งในความมุ่งหวังของเจ้าหญิงฟุริมาตั้งแต่ต้น เขาทรยศต่อมิตรภาพที่มี ทรยศคำมั่นว่าจะไม่มีมุ่งร้ายนาง ความจำเป็นที่เขาได้รับนี้ก็มาจากความรักที่ถูกสั่งให้เชื่อ สั่งให้รอ จากเด็กตัวเล็กๆ ที่มีอายุเพียงแปดขวบเท่านั้นเอง แม้จะซื่อสัตย์และเชื่อมั่นมาตลอดหลายปี สิ่งที่ได้รับก็มีเพียงคำปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
 
          "เจ้าไม่ต้องให้ข้ามาที่นี่ใช่หรือไม่"
 
          มิสึโตะพยักหน้าด้วยดวงตาอันแฝงความหนักแน่น "ถ้าเป็นไปได้น่ะครับ"
 
          "งั้นข้าต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน" คิริเคียวคุกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสลด "ข้าต้องการหนังสือเล่มหนึ่ง มันเป็นของที่เจ้าเคยนำมาในวันที่เราแลกเปลี่ยนคำมั่นต่อกัน เป็นหนังสือปกสีขาวทอง บนปกเขียนด้วยตัวอักษรภาษาต่างชาติ ข้าอ่านไม่ออก แต่ตัวอักษรนั้นสีทองสวยงาม มีวงกลมสองวงคล้องกันอยู่"
 
          คิริเคียวคุทำท่านึก เมื่อหลายปีก่อนเขาปรับปรุงห้องใหม่ ทั้งเปลี่ยนเตียง เปลี่ยนตู้ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลายชิ้น ของที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เขาได้มาช่วงมัธยมต้นตอนอายุสิบกว่าปีทั้งนั้น ส่วนของเก่าๆ ก็ถูกโละทิ้งทั้งนั้น
 
          เขาพยักหน้า "ผมขอเวลาค้นหน่อยได้ไหมครับ บางที...มันอาจจะอยู่ในห้องเก็บของ ที่นั่นมีอาณาเขตที่ค่อนข้างกว้าง อาจจะหาเจอไม่ได้ง่ายๆ"
 
          คิริเคียวคุพยักหน้า "ถ้าได้หนังสือเล่มนั้น ข้าจึงจะยอมไป"
 
          มิสึโตะขมวดคิ้ว
 
          "เพื่อไม่ให้เจ้าแสร้งผัดวันประกันพรุ่ง"
 
          เมื่อได้เหตุผลมาดังนี้ เด็กหนุ่มก็ยอมพยักหน้าแต่โดยดี แม้เขาจะอดคิดอย่างที่อีกฝ่ายว่ามาไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อย...ถ้าใช้ข้ออ้างอย่างที่ว่ามา ถึงเขาจะทิ้งหนังสือเล่มนั้นไปแล้วก็ยังบ่ายเบี่ยงไม่ให้คิริเคียวคุมายุ่งด้วยได้
 
          "ถ้าเจอเมื่อไหร่ ผมจะขึ้นเขาไปส่งให้คุณเองครับ ที่นั่นมีหมอกลงจัดอยู่ตลอดเวลา คงหาตัวคุณได้ไม่ยาก"
 
 
          ยูงาริปฏิบัติตนอย่างดีเป็นที่น่าพอใจของตระกูลโทคิคาว่า สร้างความพอใจแก่ทุกคนเป็นอย่างดี รวมทั้งมิสึโตะที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่มีวันทำให้เธอต้องเสียใจอีกเป็นอันขาด คำพูดพล่อยๆ ของเขาทำให้คุณย่าของเธอต้องลาลับไปแล้ว ชีวิตที่เหลือนี้เขาจะเป็นคนดูแลเอง
 
          เมื่อคิดได้ดังนั้น หลังมื้ออาหารเช้า มิสึโตะรุดไปยังห้องเก็บของที่มีอยู่หลายแห่งในคฤหาสน์โบราณหลังนี้ทันที โชคดีที่ข้าวของต่างๆ ถูกจัดไว้เป็นหมวดหมู่ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น จำนวนหนังสือในห้องเก็บของก็มีเยอะเกินไป ยังไม่รวมห้องหนังสือประจำคฤหาสน์อีก แต่ที่นั่นมักจะมีแต่หนังสือเก่าล้ำค่า ตอนเด็กๆ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเพื่อความปลอดภัยของหนังสือภายในนั้น แต่ไม่แน่ พวกผู้ใหญ่ที่ได้หนังสือเจ้าปัญหาที่ว่านั่นไปอาจนำไปอาจจะเป็นคนนำไปเก็บ
 
          ยูงาริปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มน่ารัก มือสองข้างไพล่หลัง เธอมาในชุดกระโปรงพริ้ว สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบาย
 
          "หาอะไรอยู่หรือคะ"
 
          มิสึโตะชะงักมือ เขามองคู่หมั้นสาวด้วยความรู้สึกละอายปะปนอยู่บางส่วน "ผม...ผมกำลังหาหนังสือน่ะครับ"
 
          "ช่วยไหมคะ"
 
          น้ำใจของเธอทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้น เขาไม่มีวันให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก่อนหมั้นหมายอีกแล้ว เขาหลบสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมา "ไม่เป็นไรครับ มันไม่สลักสำคัญอะไรหรอก"
 
          เขาเว้นจังหวะคล้ายจะรวบรวมความกล้าจากความเสียใจที่มีทั้งหมด เพื่อเงยหน้าขึ้นมองเธออีกครั้ง "เรื่อง...เรื่องคุณยูคาริ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ"
 
          เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย "นั่นเพราะปิศาจเจ้าชายแห่งสายหมอกไม่ใช่หรือคะ ถ้าไม่มีเขาสักคน คุณคงไม่หายตัวไปกลางงานหรอก"
 
          "ถึงอย่างนั้น..."
 
          "เรื่องคุณย่าน่ะ ฉันทำใจมานานแล้วล่ะค่ะ ช่วงที่ผ่านมาอาการท่านทรุดหนักลงมาก ยังไง...ก็คงไม่พ้นปีนี้" ยูงาริเดินเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น "แต่ว่า..."
 
          มิสึโตะมองดวงตาเบิกโพลงของเธอแล้วเผลอผงะไป กอปรกับแสงสะท้อนของวัตถุบางอย่างแวบเข้ามาในทัศนประสาท เขาล้มลงไปกองกับพื้น แต่ไม่ทันไรก็ต้องกลิ้งตัวหนีอุตลุด หลบหลักคมมีดปลายแหลมที่เธอซ่อนไว้ด้า่นหลังตั้งแต่เดินเข้ามาทีแรก
 
          เธอส่งเสียงคำรามต่ำๆ อยู่ในลำคอ 
 
          "ถ้าไม่มีคำพูดพล่อยๆ ของคุณ คุณย่าคงไม่ต้องทิ้งฉันไปเร็วขนาดนี้ใช่ไหมล่ะ!"
 
          มิสึโตะมองเด็กสาวที่แสยะยิ้มอย่างน่าหวาดผวา เธอที่ดูน่ารักไร้พิษภัยเมื่อครู่กลับกลายเป็นมือมีดโรคจิตที่พร้อมจะแทงเขาเป็นรูพรุน
 
          เด็กหนุ่มพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ห้องเก็บของถูกสร้างให้อยู่ห่างจากส่วนพักอาศัยค่อนข้างมาก เสียงร้องของเขาจึงถูกส่งไปไม่ถึงใครทั้งสิ้น
 
          เธอกล่าวกับเขาอย่างอ่อนโยน "ฉันรู้ว่าคุณเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น งั้นก็ควรจะไถ่โทษใช่ไหมล่ะ"
 
          คมมีดกระหน่ำแทงเข้ามาราวกับพายุ มิสึโตะอาศัยความชำนาญพื้นที่และข้าวของระเกะระกะกันอยู่เป็นตัวต้านทานการโจมตีของเธอ แต่ในที่สุดแผ่นหลังก็ประชิดเข้ากับผนัง
 
          เด็กสาวมองภาพนั้นด้วยยินดี
 
          คมมีดที่เงื้อง่าขึ้นเตรียมพุ่งเข้าใส่ ทำให้เขาตัดสินใจวิ่งไปในทิศทางที่เธอยืนอยู่ แม้จะแลกด้วยการถูกปลายมีดกรีดยาวที่ต้นแขนซ้ายก็ตาม เขาใช้จังหวะนั้นผลักเธอให้ล้มไปกองกับกองหนังสือ ส่วนตัวเองวิ่งออกมาจากห้องเก็บของสุดอันตรายนั่นทันที
 
          เขารู้สึกเสียใจเรื่องคุณยูคาริก็จริง แต่จะให้แลกกับการโดนฆ่าก็ไม่เอาด้วยหรอก!
 
          เขามองคู่หมั้นถือมือวิ่งไล่ตามมาติดๆ ด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจ โชคยังดีฝีเท้าของคนทั้งคู่มีความต่างชั้นกันอยู่เล็กน้อย มิสึโตะจึงสามารถวิ่งเข้ามาถึงสวนที่อยู่ใกล้ส่วนพักอาศัยได้สำเร็จ ที่นั่นปรากฏร่างของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนรับลมอยู่เพียงลำพัง
 
          "มิสึเมะ รีบหนีไปเร็วเข้า คุณยูงาริถือมีดวิ่งตามมาแล้ว!"
 
          เธอหันกลับมาด้วยรอยยิ้มละมุนละไมโดยไม่ตอบอะไร
 
          "มิสึเมะ?"
 
          เสียงอันคุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง "หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"
 
          เขาตัดสินใจวิ่งต่อไปเพราะกลัวว่าจะทำให้น้องสาวได้รับอันตรายไปด้วย กระทั่งถึงส่วนพักอาศัยที่มีคุณนายมิสึมินั่งถักไหมพรมอยู่ในห้องนั่งเล่น
 
          หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนเปิดประตูเข้ามา ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจ
 
          "ยู...ยูงาริ" เขาเสียงสั่น "คุณยูงาริจะฆ่าผมครับ!"
 
          เสียงฝีเท้าสองคู่หยุดลงหน้าห้องที่เปิดประตูกว้างไว้
 
          "พูดอะไรน่ะ พี่ชาย ฉันกับคุณยูงาริเพิ่งไปเดินเล่นที่สวนกันมาเองนะ" มิสึเมะมองหน้ากันกับเด็กสาวในชุดกระโปรงพลิ้ว "ทันเห็นพี่ชายวิ่งเล่นเรื่อยเปื่อยจนโดนกิ่งไม้แฉลบเอาด้วย ร้องลั่นเลยไม่ใช่เหรอ พวกเราเลยรีบวิ่งตามมาดูไงล่ะ"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา