[FNAF] ปริศนาร้านเฟรดดี้
6.6
เขียนโดย yamiji
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.27 น.
18 คืน
14 วิจารณ์
31.80K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 19.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) คืน4ตอนห้องลัพ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่คุยกับคุณยาม(วิญญาณของคุณยาม)เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินออกจากห้องยามแล้วเดินไปรอบๆร้านเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม
"เฮ้อ...ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติเลยนี่"ฉันพูดพร้อมกับถอนหายใจ แล้วนั้งพิงกำแพงเพื่อพักผ่อน
ครืน...ฉันได้ยินเสียงเหมือนกำแพงกำลังเครือนที่ จึงหันไปดูก็พบว่า กำแพงนั้นกำลังหายไปและมีบันไดมาแทนที่
"นี่มัน..ช่องทางลัพงั้นเหรอ ข้างบนนั้นจะมีอะไรรึเปล่านะ"จากนั้นฉันก็ลองเหยียบบันไดนั้นดู
"ค่อนข้างผุพอสมควรเลย ค่อยๆเดินหน่อยล่ะกัน"ฉันพูดกับตัวเองแล้วค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป
ตึ่งๆๆฉันค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป(เดี่ยวพวกเฟรดดี้ได้ยิน)(ป.ล.นาโนะรู้จักชื่อตุ๊กตาทุกตัวที่มาหลอกนะจ้ะ แต่เธอไม่ยอมเรียกเฉยๆ) ครืด!เสียงบันไดที่ฉันเหยียบแตกไปแบบไม่ทราบสาเหตุ ร่างของฉันจึงตกลงไปสู่พื้น
"จะ..เจ็บชะมัดเลยแฮะ โชคดีที่ข้างล่างเป็นจุดพักไม่งั้นคงตกลงไปที่พื้นแน่"ฉันพูดด้วยความรู้สึกโล่งใจ
"นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า"ฉันได้ยินเสียงของผู้ชายจากด้านหลัง พอหันหลังไปดูฉันก็พบว่า ที่ที่ฉันนั้งอยู่ไม่ใช้พื้นแต่เป็น ขาของผู้ชายคนนั้นเข้าคนนั้นไว้ผมยาวสีแดงแล้วใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้
"นะ..นายเป็นใคร เป็นคนหรือผี" ฉันพูดพรางยกปืนขึ้น แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรแต่กลับดึงมือของฉันเข้าไปแตะที่หน้าอกด้านซ้าย
"ได้ยินใช้ไหมเสียงหัวใจนี่น่ะ คงยืนยันได้ว่าฉันเป็นคน แล้วฉันก็ไม่ได้มาโขมยของที่นี่ด้วย"
"งั้นทำไมนายต้องใส่หน้ากากด้วยล่ะ"ฉันถามด้วยสายตาที่ไม่ค่อยอยากจะไว้ใจ
"น่ะนี่เธออย่าเสียงดังนะ พวกนั้นอาจกำลังมาก็ได้
"พวกเราอยู่ที่นี่พวกมันคงไม่ได้ยินหรอกน่า" เข้ากลับไม่พูดอะไรแต่กลับกระโจนเข้าหาฉันอย่างแรง
"นี่นายทำอะไรน่ะ"ฉันตะโกนด้วยความตกใจแต่เข้ากลับใช้มือปิดปากฉันไว้
"ชู่!เงียบหน่อยสิ ฉันได้ยินเสียงพวกนั้อยู่แถวๆนี่ แล้วอีกอย่างฉันดูออกแต่แรกแล้วว่า กำแพงนี่มันได้เก็บเสียง" ผู้ชายคนนั้นกระชิบข้างหูฉันเป็นไปตามที่เข้าบอกฉันได้ยินเสียงพวกเฟรดดี้กำลังคุกันจากด้านล่าง
"เฟรดดี้!ฉันได้ยินเสียงนังยามนั้นจากแถวๆนี่ล่ะ"
"อืม..ตามหาให้เจอถ้าพวกเราสามคนช่วยกันล่ะก็..นังยามนั้นเสร็จพวกเราแน่ๆ"ฉันได้ยินเสียงของเจ้าหมีกับกระต่ายกำลังคุยกัน จากนั้นเสียงฝีเท้าแล้วเสียงคุยกันของตุ๊กตาก็ค่อยๆเงียบไป
"ท่าทางมันคงจะไปไกลแล้วล่ะ"เข้าพูดขึ้นพรางค่อยดึงมือออกจากปากฉัน
"ขะ..ขอบใจที่ช่วยเตือนนะ หวังว่านายคงจะไม่ใช้พวกโจรโรคจิตหรอกนะ"ฉันพูดพรางก้าวเท้าขึ้นบันไดให้เร็วและเงียบที่สุด จนกระทั้งมาเจอห้องที่ขาดว่าน่าจะถูกทิ้งไว้นานมากแล้ว ฉันจึงก้าวเข้าไปในห้องนั้นทันที จากนั้นสิ่งที่ฉันเจอคือ หีบหลายร้อยใบทีพอลองเปิดดูแล้วก็เจอแต่โคลงกระดูกมากมายอยู่ในนั้น
"นะ...นี่มันอะไรกัน"ฉันพูดด้วยนำ้เสียงสั่นเครือ
"นี่เธอดูที่เพดานนั้นสิ"ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วชี้ขึ้นไปที่รูปวาดที่อยู่บนกำแพง
"อย่างงี้นี่เอง นี่คือเวทพนึกวิญญาณสินะ"
"เวทผนึกวิญญาณ"ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยความงง
"ใช้แล้วล่ะ เพราะถ้าลองดูดีๆห้องนีน่ะ ไม่มีเศษฝุ่นเลยนิ เพราะเท่าที่ดูแล้วข้างนอกนะทั้งฝุ่นทั้งยากไยเกาะกันหนาเตอะเลย แต่ข้างในห้องนี่น่ะกลับสะอาดมากเลยมันน่าแปลก ท่าทางวิญญาณพวกนี้คงถูกผนึกโดยคนร้านที่กำลังตามหาแน่ๆ เหมือนอย่างที่วิญญาณนั้นบอกเลยคนร้ายน่ะ จะต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่ว่าก่อนอื่นคงต้องทำลายผนึกนี่ก่อนสินะ แล้วก็นายน่ะตอนนี้ช่วยหมอบลงก่อนนะ"ฉันพูดพร้อมกับยิ้งปืนขึ้นไปบนกำแพงทำให้ผนึกเกิดการไม่เชื่อมต่อ ทำให้ดวงวิญญาณทั้งหลายหลุดออกมา
"นั้นมันคุณยามคนนั้นนิ เจอกันอีกแล้วนะ"วิญญาณของยามที่ฉันเคยเจอได้พูดกับฉัน
"น่ะ..นายยามคนนั้นนิทำไมนายถึงยัง.."ฉันพูดด้วยสีหน้าตกใจ
"จริงๆฉันควรจะไปตั้งนานแล้วล่ะ แต่ดันมาถูกผนึกไว้นะสิ แต่ว่านะยังไงก็ต้องขอบใจเธอนะที่ทำลายผนึกให้น่ะ ตอนนี้คงต้องจากกันจริงแล้วล่ะ ลาก่อนนะ"เข้าพูดก่อนที่จะหายไปอีกครั้ง
"นาโนะ"ฉันได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย
"ยูมิ นั้นเธอหรอ"ฉันพูดพร้อมกับหันตามเสียงเรียกแล้วก็เป็นไปตามที่คิดสิ่งที่ฉันเจอคือยูมิที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
"ยูมิเธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ"
"ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอจริงๆแล้วฉันน่ะตายไปตั้งแต่เดือนที่แล้วที่ฉันมาทำงานที่นี้แล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ"ยูมิพูดแล้วร้องไห้
"มะ..ไม่จริงน่า เธอทำงานแค่วันเดี่ยวเองนิ"
"เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ ไม่ว่าจะทำงานที่นี้น้อยกว่าห้าวันหรือแม้แต่ห้านาที ท้าเกิดได้ชื่อว่ามาเป็นยามที่นี้ก็จะตายไม่มีทางแก้ได้หรอก"
"ทำไมล่ะ ทำไมเธอถึงยัง.."ฉันพูดพร้อมกับร้องไห้
"เพราะฉันอยากจะปกป้องเธอไงล่ะ เธอน่ะตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้นเธอน่ะคอยปกป้องฉันมาตลอดพอขึ้นม.ปลายฉันก็อยากจะปกป้องเธอคืนบ้าง แต่สุดท้ายความฝันนั้นก็สลายไปจนได้แย่จังเนอะ ลาก่อนนะนาโนะ สักวันขอให้พวกเราได้เจอกันอีกนะ"ยูมิพูดพร้อมกับยิ้มทั้งนำ้ตาแล้วหายไป
"ยูมิ!!!!!!!!!!!!!"ฉันตะโกนเรียกจนสุดเสียงทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางจะเกิดอะไรขึ้น
"ทั้งๆทีเธอเป็นเพื่อคนเดียวของฉันแท้ๆฉันยังปกป้องไม่ได้เลย ขอ...โทษ...นะ....ยู...มิ"ฉันพูดแล้วหลับไป จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาที่ห้องยาม
"ค่อยยังชั่วหน่อยที่ไม่เป็นไรมาก"ผู้ชายที่ใส่หน้ากากนั้นพูดแล้วยิ้มออกมา
"นะ..นี่..นายช่วยฉันไว้เหรอ"ฉันพูดด้วยนำ้เสียงอ่อนแรงแล้วค่อยๆลุกขึ้นนั้ง
"ฉันนี่มันน่าสมเพศสะจริง แค่เพื่อนคนเดี่ยวก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันเองก็ไม่อยากให้คนดีๆอย่างยูมิต้องมาอยู่กับปีศาจอย่างฉันหรอก ดีแล้วล่ะ มันดีแล้วล่ะ"ฉันร้องไห้อีกครั้ง
"เธอลองนึกดูดีๆสิ อาจจะยังมีคนอยู่ข้างเธอก็ได้"พูดชายคนนั้นพูดให้ความหวัง
"อาจจะมีแต่ฉันจะให้เข้าคนนั้นมาแปกเปื้อน เพราะ ฉันไม่ได้ นายเองก็เป็นนิ ตอนนั้นท่านายไม่บอกว่านายเป็นพวกเดี่ยวกันกับฉันล่ะ ก็ฉันอาจจะฆ่านายไปแล้วก็ได้" ฉันพูดออกไปจากนั้ผู้ชายคนนั้นก็ค่อยๆถอดหน้ากากออกมา สิ่งที่ซ้อนอยู่ใต้หน้ากากคือ...
"พะ...พี่....ชาย"ฉันพูดด้วยสีหน้าตกใจ
"อืม...ตกใจงั้นเหรอ"พี่ชายพูดพร้อมกับยิ้มให้
"อย่างงี้นี่เอง...ด้านมืดของฉันพี่คงเห็นไปแล้วสินะ ฉันนี่มันไม่แย่ๆจริง"
"ไม่หรอกเธอน่ะ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็จะอยู่กับเธอเอง ไม่ว่าคนทั้งโลกจะคิดยังไงกับเธอ ฉันก็จะอยู่กับเธอเอง"พี่ชายร้องไห้แล้วกอดฉันไว้ส่วนตัวฉันเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้เท่านั้น
"รับนี่ไว้สิ"พี่ชายพูดพร้อมกับยื่นแบตสำรองให้ก้อนนึง ฉันจึงรับไว้แต่โดยดี
"เหลือเวลาอีกประมาณ1ชั่วโมงสิ่งนี้น่าจะช่วยให้เธอผ่านไปได้"พี่ชายพูดแล้วเดินออกไป
"เดี่ยวก่อนคะ"ฉันตะโกนเรียกทำให้พี่ชานหยุดแล้วหันมา
"ระวังตัวด้วยนะ"
"อืม...ไม่ต้องห่วงหรอก"พี่ชายพูดพร้อมกับหยิบมีดสั้นในกระเป๋าให้ดู
"อย่าคิดว่าตัวเองใช้อาวุธเป็นคนเดียวสิ"พี่ชายพูดก่อนที่จะออกไปจริงๆ
"เฮ้อ...ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติเลยนี่"ฉันพูดพร้อมกับถอนหายใจ แล้วนั้งพิงกำแพงเพื่อพักผ่อน
ครืน...ฉันได้ยินเสียงเหมือนกำแพงกำลังเครือนที่ จึงหันไปดูก็พบว่า กำแพงนั้นกำลังหายไปและมีบันไดมาแทนที่
"นี่มัน..ช่องทางลัพงั้นเหรอ ข้างบนนั้นจะมีอะไรรึเปล่านะ"จากนั้นฉันก็ลองเหยียบบันไดนั้นดู
"ค่อนข้างผุพอสมควรเลย ค่อยๆเดินหน่อยล่ะกัน"ฉันพูดกับตัวเองแล้วค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป
ตึ่งๆๆฉันค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป(เดี่ยวพวกเฟรดดี้ได้ยิน)(ป.ล.นาโนะรู้จักชื่อตุ๊กตาทุกตัวที่มาหลอกนะจ้ะ แต่เธอไม่ยอมเรียกเฉยๆ) ครืด!เสียงบันไดที่ฉันเหยียบแตกไปแบบไม่ทราบสาเหตุ ร่างของฉันจึงตกลงไปสู่พื้น
"จะ..เจ็บชะมัดเลยแฮะ โชคดีที่ข้างล่างเป็นจุดพักไม่งั้นคงตกลงไปที่พื้นแน่"ฉันพูดด้วยความรู้สึกโล่งใจ
"นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า"ฉันได้ยินเสียงของผู้ชายจากด้านหลัง พอหันหลังไปดูฉันก็พบว่า ที่ที่ฉันนั้งอยู่ไม่ใช้พื้นแต่เป็น ขาของผู้ชายคนนั้นเข้าคนนั้นไว้ผมยาวสีแดงแล้วใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้
"นะ..นายเป็นใคร เป็นคนหรือผี" ฉันพูดพรางยกปืนขึ้น แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรแต่กลับดึงมือของฉันเข้าไปแตะที่หน้าอกด้านซ้าย
"ได้ยินใช้ไหมเสียงหัวใจนี่น่ะ คงยืนยันได้ว่าฉันเป็นคน แล้วฉันก็ไม่ได้มาโขมยของที่นี่ด้วย"
"งั้นทำไมนายต้องใส่หน้ากากด้วยล่ะ"ฉันถามด้วยสายตาที่ไม่ค่อยอยากจะไว้ใจ
"น่ะนี่เธออย่าเสียงดังนะ พวกนั้นอาจกำลังมาก็ได้
"พวกเราอยู่ที่นี่พวกมันคงไม่ได้ยินหรอกน่า" เข้ากลับไม่พูดอะไรแต่กลับกระโจนเข้าหาฉันอย่างแรง
"นี่นายทำอะไรน่ะ"ฉันตะโกนด้วยความตกใจแต่เข้ากลับใช้มือปิดปากฉันไว้
"ชู่!เงียบหน่อยสิ ฉันได้ยินเสียงพวกนั้อยู่แถวๆนี่ แล้วอีกอย่างฉันดูออกแต่แรกแล้วว่า กำแพงนี่มันได้เก็บเสียง" ผู้ชายคนนั้นกระชิบข้างหูฉันเป็นไปตามที่เข้าบอกฉันได้ยินเสียงพวกเฟรดดี้กำลังคุกันจากด้านล่าง
"เฟรดดี้!ฉันได้ยินเสียงนังยามนั้นจากแถวๆนี่ล่ะ"
"อืม..ตามหาให้เจอถ้าพวกเราสามคนช่วยกันล่ะก็..นังยามนั้นเสร็จพวกเราแน่ๆ"ฉันได้ยินเสียงของเจ้าหมีกับกระต่ายกำลังคุยกัน จากนั้นเสียงฝีเท้าแล้วเสียงคุยกันของตุ๊กตาก็ค่อยๆเงียบไป
"ท่าทางมันคงจะไปไกลแล้วล่ะ"เข้าพูดขึ้นพรางค่อยดึงมือออกจากปากฉัน
"ขะ..ขอบใจที่ช่วยเตือนนะ หวังว่านายคงจะไม่ใช้พวกโจรโรคจิตหรอกนะ"ฉันพูดพรางก้าวเท้าขึ้นบันไดให้เร็วและเงียบที่สุด จนกระทั้งมาเจอห้องที่ขาดว่าน่าจะถูกทิ้งไว้นานมากแล้ว ฉันจึงก้าวเข้าไปในห้องนั้นทันที จากนั้นสิ่งที่ฉันเจอคือ หีบหลายร้อยใบทีพอลองเปิดดูแล้วก็เจอแต่โคลงกระดูกมากมายอยู่ในนั้น
"นะ...นี่มันอะไรกัน"ฉันพูดด้วยนำ้เสียงสั่นเครือ
"นี่เธอดูที่เพดานนั้นสิ"ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วชี้ขึ้นไปที่รูปวาดที่อยู่บนกำแพง
"อย่างงี้นี่เอง นี่คือเวทพนึกวิญญาณสินะ"
"เวทผนึกวิญญาณ"ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยความงง
"ใช้แล้วล่ะ เพราะถ้าลองดูดีๆห้องนีน่ะ ไม่มีเศษฝุ่นเลยนิ เพราะเท่าที่ดูแล้วข้างนอกนะทั้งฝุ่นทั้งยากไยเกาะกันหนาเตอะเลย แต่ข้างในห้องนี่น่ะกลับสะอาดมากเลยมันน่าแปลก ท่าทางวิญญาณพวกนี้คงถูกผนึกโดยคนร้านที่กำลังตามหาแน่ๆ เหมือนอย่างที่วิญญาณนั้นบอกเลยคนร้ายน่ะ จะต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่ว่าก่อนอื่นคงต้องทำลายผนึกนี่ก่อนสินะ แล้วก็นายน่ะตอนนี้ช่วยหมอบลงก่อนนะ"ฉันพูดพร้อมกับยิ้งปืนขึ้นไปบนกำแพงทำให้ผนึกเกิดการไม่เชื่อมต่อ ทำให้ดวงวิญญาณทั้งหลายหลุดออกมา
"นั้นมันคุณยามคนนั้นนิ เจอกันอีกแล้วนะ"วิญญาณของยามที่ฉันเคยเจอได้พูดกับฉัน
"น่ะ..นายยามคนนั้นนิทำไมนายถึงยัง.."ฉันพูดด้วยสีหน้าตกใจ
"จริงๆฉันควรจะไปตั้งนานแล้วล่ะ แต่ดันมาถูกผนึกไว้นะสิ แต่ว่านะยังไงก็ต้องขอบใจเธอนะที่ทำลายผนึกให้น่ะ ตอนนี้คงต้องจากกันจริงแล้วล่ะ ลาก่อนนะ"เข้าพูดก่อนที่จะหายไปอีกครั้ง
"นาโนะ"ฉันได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย
"ยูมิ นั้นเธอหรอ"ฉันพูดพร้อมกับหันตามเสียงเรียกแล้วก็เป็นไปตามที่คิดสิ่งที่ฉันเจอคือยูมิที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
"ยูมิเธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ"
"ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเธอจริงๆแล้วฉันน่ะตายไปตั้งแต่เดือนที่แล้วที่ฉันมาทำงานที่นี้แล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ"ยูมิพูดแล้วร้องไห้
"มะ..ไม่จริงน่า เธอทำงานแค่วันเดี่ยวเองนิ"
"เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ ไม่ว่าจะทำงานที่นี้น้อยกว่าห้าวันหรือแม้แต่ห้านาที ท้าเกิดได้ชื่อว่ามาเป็นยามที่นี้ก็จะตายไม่มีทางแก้ได้หรอก"
"ทำไมล่ะ ทำไมเธอถึงยัง.."ฉันพูดพร้อมกับร้องไห้
"เพราะฉันอยากจะปกป้องเธอไงล่ะ เธอน่ะตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้นเธอน่ะคอยปกป้องฉันมาตลอดพอขึ้นม.ปลายฉันก็อยากจะปกป้องเธอคืนบ้าง แต่สุดท้ายความฝันนั้นก็สลายไปจนได้แย่จังเนอะ ลาก่อนนะนาโนะ สักวันขอให้พวกเราได้เจอกันอีกนะ"ยูมิพูดพร้อมกับยิ้มทั้งนำ้ตาแล้วหายไป
"ยูมิ!!!!!!!!!!!!!"ฉันตะโกนเรียกจนสุดเสียงทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางจะเกิดอะไรขึ้น
"ทั้งๆทีเธอเป็นเพื่อคนเดียวของฉันแท้ๆฉันยังปกป้องไม่ได้เลย ขอ...โทษ...นะ....ยู...มิ"ฉันพูดแล้วหลับไป จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาที่ห้องยาม
"ค่อยยังชั่วหน่อยที่ไม่เป็นไรมาก"ผู้ชายที่ใส่หน้ากากนั้นพูดแล้วยิ้มออกมา
"นะ..นี่..นายช่วยฉันไว้เหรอ"ฉันพูดด้วยนำ้เสียงอ่อนแรงแล้วค่อยๆลุกขึ้นนั้ง
"ฉันนี่มันน่าสมเพศสะจริง แค่เพื่อนคนเดี่ยวก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันเองก็ไม่อยากให้คนดีๆอย่างยูมิต้องมาอยู่กับปีศาจอย่างฉันหรอก ดีแล้วล่ะ มันดีแล้วล่ะ"ฉันร้องไห้อีกครั้ง
"เธอลองนึกดูดีๆสิ อาจจะยังมีคนอยู่ข้างเธอก็ได้"พูดชายคนนั้นพูดให้ความหวัง
"อาจจะมีแต่ฉันจะให้เข้าคนนั้นมาแปกเปื้อน เพราะ ฉันไม่ได้ นายเองก็เป็นนิ ตอนนั้นท่านายไม่บอกว่านายเป็นพวกเดี่ยวกันกับฉันล่ะ ก็ฉันอาจจะฆ่านายไปแล้วก็ได้" ฉันพูดออกไปจากนั้ผู้ชายคนนั้นก็ค่อยๆถอดหน้ากากออกมา สิ่งที่ซ้อนอยู่ใต้หน้ากากคือ...
"พะ...พี่....ชาย"ฉันพูดด้วยสีหน้าตกใจ
"อืม...ตกใจงั้นเหรอ"พี่ชายพูดพร้อมกับยิ้มให้
"อย่างงี้นี่เอง...ด้านมืดของฉันพี่คงเห็นไปแล้วสินะ ฉันนี่มันไม่แย่ๆจริง"
"ไม่หรอกเธอน่ะ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็จะอยู่กับเธอเอง ไม่ว่าคนทั้งโลกจะคิดยังไงกับเธอ ฉันก็จะอยู่กับเธอเอง"พี่ชายร้องไห้แล้วกอดฉันไว้ส่วนตัวฉันเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้เท่านั้น
"รับนี่ไว้สิ"พี่ชายพูดพร้อมกับยื่นแบตสำรองให้ก้อนนึง ฉันจึงรับไว้แต่โดยดี
"เหลือเวลาอีกประมาณ1ชั่วโมงสิ่งนี้น่าจะช่วยให้เธอผ่านไปได้"พี่ชายพูดแล้วเดินออกไป
"เดี่ยวก่อนคะ"ฉันตะโกนเรียกทำให้พี่ชานหยุดแล้วหันมา
"ระวังตัวด้วยนะ"
"อืม...ไม่ต้องห่วงหรอก"พี่ชายพูดพร้อมกับหยิบมีดสั้นในกระเป๋าให้ดู
"อย่าคิดว่าตัวเองใช้อาวุธเป็นคนเดียวสิ"พี่ชายพูดก่อนที่จะออกไปจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ