The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) THIRD CHECK – BLACK PAWN
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เบี้ยดำ?”แอนคอร่าทวนคำ ส่งผลให้ชายหนุ่มพยักหน้าเร็วๆแทนคำตอบ เขาพยายามดันร่าง
ของหญิงสาวให้ขึ้นไปบนหลังม้าอย่างเร่งรีบ
“นี่เราจะไปไหนกันคะ?”แอนคอร่าถามขึ้นหอบๆเพราะพิษไข้ แกลเดียสขมวดคิ้วเมื่อรับรู้ถึงไอ
ความร้อนจากตัวของหญิงสาว เขาเก็บดาบเขาฝัก แล้วช้อนร่างของแอนคอร่าที่เกือบจะหวีดร้องออกมา
ด้วยความตกใจขึ้นมาแล้วกระโดดขึ้นหลังม้า
“ไว้ข้าจะบอกที่หลัง ว่าแต่..เจ้ากลัวความสูงรึเปล่า?”จู่ๆ ชายหนุ่มก็ถามขึ้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่
ทันที่หญิงสาวจะตอบอะไร เขาก็สะบัดบังเหียนของม้าแล้วตะโกนขึ้นว่า
“ไมก้า*!”
ฉับพลัน ปีกสีเงินเช่นเดียวกับสีขนของม้าที่บรรทุกคนทั้งสองอยู่ก็งอกออกมา พร้อมกันนั้น ร่างของมันก็
ทะยานขึ้นไปบนฟ้าตามคำสั่งของเจ้านายทันที!
“โอ้พระเจ้า! ท่านศาสดาช่วยลูกด้วย! ลูกไม่เอาม้าบิน!”เสียงโอดครวญที่ดังลั่นจนแทบกลาย
เป็นเสียงตะโกนของแอนคอร่าทำให้แกลเดียสยกมือขึ้นปิดหู
“เจ้ากลัวความสูง?”
“ใครใช้ให้ไม่บอกก่อนเล่า! เล่นบินด้วยม้าบินในความสูงตั้งเกือบ 100 ฟุตเนี่ย ใครจะไม่กลัวกัน
ล่ะ!”หญิงสาวตะคอกใส่หูของชายหนุ่มจนเขาต้องยกมือขึ้นปิดหูอีกรอบ
“อย่าตะโกนสิ ถ้าเจ้าซิลเวอร์เบลดตกใจจนทำข้ากับเจ้าตกลงไปนี่คงซวยพิลึก”เขาบ่นแบบไม่จริง
จังอะไรนัก แอนคอร่าที่เกาะคอชายหนุ่มแน่นจึงยิ่งเกาะแน่นกว่าเดิมเข้าไปอีก
“มันซวยตั้งแต่คุณเอาฉันขึ้นมาบนนี้แล้วต่างหาก”เธอร้องประท้วงพลางหลับตาแน่น ทันใดนั้น
ลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งเฉียดแก้มของแกลเดียสจนเลือดไหลซิบๆ
“ซวยแล้ว! พลธนู!”เขาตะโกนแล้วรีบร่ายเวทโจมตีพลทหารข้างล่าง
“aqua reflect – เงาสะท้อนแห่งธาราริน!”สิ้นเสียง บาเรียน้ำก็ก่อตัวขึ้นบังห่าธนูที่พุ่งเข้า
โจมตีราวกับห่าฝน มือหนากระตุกบังเหียน ส่งผลให้ม้าปีกที่บินด้วยความนุ่มนวลหักเลี้ยวไปในจุด
ยุทธศาสตร์ทันที
“น้ำแข็ง น้ำสถานะแห่งเหมันต์เอ๋ย จงเผยพลังความหนาวเหน็บแกร่งกล้า มอบพลังอันทรงฤทธิ
รา ปกปักษ์แต่ข้าผู้เป็นนาย frosted chain – โซ่เหมันต์! ”แกลเดียสตะโกนบทเวทขึ้นมาอีกบท โซ่
ตรวนกับลูกตุ้มน้ำแข็งหลายเส้นก็พุ่งใส่ข้าศึกจนแตกกระเจิงไม่เป็นท่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ชายหนุ่ม
ฉวยโอกาสโฉบหนีและบินขึ้นไปในมุมที่ธนูไม่มีผลได้สำเร็จ
“ฟู่ว์ คราวนี้เป็นพลธนูเหรอเนี่ย ท่าทางฝ่ายนั้นก็พัฒนาขึ้นมาบ้างแฮะ”เขาพึมพำกับตนเอง ทัน
ใดนั้นม้าบินตัวหนึ่งก็บินเข้ามาอยู่ข้างๆเจ้าซิลเวอร์เบลดอย่างรวดเร็ว มันเป็นม้าปีกสีน้ำตาลเข้ม มีสีขาว
แต้มที่หน้าผากและแซมตามขนปีก
“โย้! สวัสดีขอรับนายท่าน!”เสียงทักดังขึ้นจากปากของผู้มาเยือน เขาเป็นชายหนุ่มท่าทางดู
อารมณ์ดี เรือนผมสีทอง ดวงตาขี้เล่นที่มีสีเดียวกับเส้นผมฉายแววตากวนๆและล้อเลียนมาให้แกลเดียส
เต็มที่ “ไปลักพาตัวสาวน้อยคนงามมาจากที่ไหนเหรอขอรับ รสนิยมไม่เลวเลยนะขอรับ”
“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดเอาไว้น่า ลูกัส นางมาจาก..”พูดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็สะดุด เพราะรับรู้ถึงลม
หายใจอย่างสม่ำเสมอของหญิงสาว เขาหันไปมองเธอทันทีด้วยความฉงน
“หลับลงด้วยเหรอเนี่ย? เอาเถอะ สงสัยคงจะเป็นเพราะฤทธิ์ไข้”เขาบ่นงึมงำกับตนเองก่อนจะ
ตอบคำถามของ ลูกัส“นางมาจากกองหินศักดิ์สิทธิ์โดยสายฟ้าฟาด ข้าเลยคิดว่านางอาจจะเป็นคนที่เรา
กำลังตามหากันอยู่”ว่าพลางมือหนาก็ดึงร่างบางที่หลับสนิทของแอนคอร่าเข้ามาพิงไหล่ไม่ให้ไหลลงไปจน
เสียงต่อการตกจากหลังม้า
“ท่านหมายความว่า นางอาจจะเป็นนักเดินหมากเช่นนั้นหรือ?”ชายผมทองเอ่ยด้วยน้ำเสียงทึ่งๆ
ส่งผลให้แกลเดียสพยักหน้ารับเป็นคำตอบ”แล้วท่านก็บังเอิญไปเจอกับนาง?”
“ไม่เป็นเช่นนั้นซะทีเดียวหรอก นางเป็นคนเดินมาเจอกับข้าเข้าต่างหาก แต่ว่านะ ข้าไม่เข้าใจ
สตรีเลยแม้แต่นิดเดียว จู่ๆก็ตะโกนใส่หูข้าว่ากลัวความสูง แต่แล้วก็หลับบนหลังม้าปีกโดยไม่สะทกสะท้าน..
ถึงจะเป็นเพราะพิษไข้ก็เถอะ ช่างเป็นอะไรที่ทำความเข้าใจยากชะมัด เจ้ามีความเห็นเช่นไรล่ะ ลูกัส?”ชาย
หนุ่มบ่นแล้วหันไปถามลูกัส เขายักไหล่ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะว่า
“อันนี้ท่านก็ต้องทำความเข้าใจเองนะขอรับ ข้าเองก็เข้าใจแต่ทางทฤษฎีเพียงเท่านั้นเอง”
“ใครจะเป็นอย่างเจ้ากันล่ะ กะล่อนจีบสาวไปจนทั่วทั้งเมือง แถมรถไฟยังชนกันบ่อยจะข้าต้องห้าม
ทัพอีกต่างหาก”แกลเดียสค่อนแคะด้วยสีหน้านิ่งๆ“ถ้าไม่มีออโรร่า เจ้าคงทำตัวแย่กว่านี้อีกใช่ไหม”
“โธ่ ท่านแกลเดียส ข้าไม่ใช่โซฮาร์นะขอรับ จะได้เป็นสงบสำรวมเหมือนบาทหลวงอย่าง
นั้น”เขาโอดครวญ ก่อนจะพูดขึ้นเหมือนนึกได้ “แต่เหมือนกับจะมีเสียงลือเรื่องโซฮาร์กับไอริสในปราสาท
ด้วยล่ะครับ”
“เลิกเล่าเรื่องไร้แก่นสารพวกนั้นแล้วหุบปากซะทีได้ไหม”ชายหนุ่มผมบลอนด์บ่น ทันใดนั้นร่าง
สูงก็ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะหญิงสาวที่ฟุบหลับอยู่กับไหล่หนางัวเงียแล้วโอบกอดเขาจากทางด้านหลังโดยไม่รู้
ตัว
“เลิกเล่าอะไรไร้แก่นสารเหรอคะ?”เธอถามพลางขยี้ตาด้วยความง่วงงุน ลูกัสที่เห็นภาพเช่นนั้น
แล้วจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเพราะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“ฮ่าๆๆๆ ท่าทางสงสัยท่านแกลเดียสคงจะได้น้องสาวคนใหม่นะขอรับ กลับไปแล้วท่านกาเร็ตคงจะ
โวยวายน่าดู”เขาว่าพลางหัวเราะหึๆตบท้ายอีกเล็กน้อย นั่นกระตุกต่อมยัวะของแกลเดียสเข้าอย่างจัง ดัง
นั้นเมื่อลูกัสเสียสมาธิไปกับการหัวเราะแล้ว ชายหนุ่มจึงโบกฝ่ามือเข้าเต็มศีรษะของอีกฝ่ายจนเกิดเสียงดัง
‘ผัวะ!’
“โอ๊ย! เจ็บนะขอรับ ไม่มีการปราณีกันบ้างหรือไง”ชายหนุ่มผมทองบ่นอุบอิบพลางลูบศีรษะ
ปาวๆ แกลเดียสทำเป็นหูทวนลม แล้วหันไปกล่าวกับหญิงสาวว่า
“แอนคอร่า เจ้านี่คือ ลูกัส อิกนิส เป็นรูค**ขาวฝ่ายซ้ายอย่างที่เห็นนั่นแหละ”
“ฉันชื่อ แอนคอร่า โฮป ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”แอนคอร่าเอ่ยขึ้น”คุณเป็นรูคเหรอคะ?”
“ใช่แล้วขอรับ”ลูกัสพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“ท่านเป็นคนที่เก่งมากๆเลยนะขอรับ”
“เอ๋? ทำไมเหรอคะ?”หญิงสาวถามพลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“แอนคอร่า เจ้าอย่าไปฟังที่เจ้านั่นพูดเลย”แกลเดียสขัด แต่ก็ไม่ทันลูกัสที่เอ่ยคำพูดส่อนัยยะขึ้นมาว่า
“ก็สามารถจับหัวใจของราชาขาวผู้เย็นชาได้ยังไงล่ะครับ”
“!”
* μύγα(mýga)เป็นภาษากรีก แปลว่า บิน
**รูค (rook) เรือ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ