The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก

10.0

เขียนโดย liber

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.

  26 บท
  1 วิจารณ์
  26.81K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) TWENTY FIRST CHECK – DOUBTS

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “ข้าจะตอบเมื่อภารกิจนี้จบลงแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวขึ้นเรียบๆ ทำให้ไมร่าถอนหายใจออกมาเบาๆ

          “จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมบอกสินะ”เธอพึมพำแล้วเดินออกไปจากหลังบ้านทันที แกลเดียสมอง

ตามด้วยสายตาสงบนิ่งก่อนจะหันไปหาแอนคอร่าที่ทรุดลงนั่งที่พื้น

          “เป็นอะไรเหรอ?”ราชาขาวถามขึ้น หญิงสาวค้อนใส่เล็กน้อยแล้วส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอรับมือ

หนาที่ส่งมาให้โดยไม่คัดค้านแล้วลุกขึ้นยืน

          “ถามได้นะคะ เป็นอะไรน่ะไม่เป็นหรอกค่ะ แต่กลัวว่าถ้ากลับไปจะโดนกาเร็ตว๊ากใส่ว่าดูแลท่านพี่

ของเธอได้ไม่ดีพอน่ะสิคะ”นักเดินหมากแดกดันกลับไป แต่เมื่อเธอสบดวงตาสีไพลิน ร่างบางก็ชะงักลง

          “คิดเหรอว่ากาเร็ตจะอยากให้ข้าโดนดูถูกน่ะ แถมยังเจ้าอีก ถึงจะไม่บอก แต่เจ้าก็ใช่ว่าจะพอ

ใจ”องค์ราชากล่าว ทำให้เขาได้รับค้อนวงใหญ่ไปเต็มๆ

          “อ่านใจฉันอีกแล้วนะคะ สนุกมากไหมเนี่ย?”แอนคอร่าบ่นพึมพำ แล้วตั้งต้นเดินหนี ทว่าชาย

หนุ่มก้าวยาวๆเพียงแค่สามก้าวก็ตามเธอทันแล้ว มิหนำซ้ำมือหนายังยึดมือบางเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเดินต่อ

อีกด้วย

          “เป็นอะไรอีกล่ะ?”เขาถาม หญิงสาวไม่ตอบแถมยังเบือนหน้าหนีอีกต่างหาก มือหนาจึงคว้าไหล่

บางให้ผู้มีศักดิ์เป็นนักเดินหมากฝ่ายขาวหันมาเผชิญหน้าด้วย พวงแก้มระเรื่อกับดวงตาสีเขียวใสที่หลบตา

เขาทำให้แกลเดียสเข้าใจขึ้นมา

          “หรือว่าเจ้าเขิ..อุ๊บ!”พูดไม่ทันจบประโยค มือข้างที่ว่างอยู่ของแอนคอร่าก็พุ่งไปปิดเรียวปากของ

อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเขียวกระจ่างจ้องมองมาแบบดุๆพร้อมกับเสียงต่ำๆที่แค่นออกมาว่า

          “อย่าคิดจะพูดคำนั้นออกมาเด็ดขาด”พูดจบร่างสูงก็พยักหน้าเบาๆ มือบางจึงคลายออกทันที

          “ตกลง”เขาเอ่ย “แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าต้องยอมให้ข้าเรียกว่า ‘แอน’”

          “แต่..”หญิงสาวขยับปากจะคัดค้าน แต่ดวงตาสีไพลินที่เป็นประกายวิบวับทำให้เธอต้องหลบสาย

ตาและก้มหน้างุดโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นพลางหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะตีหน้าดุและขู่ว่า

          “ไม่มีแต่ ไม่งั้นข้าจะพูดคำนั้นออกมาตอนนี้เลย”

          “งื้อ..ก็ได้ค่ะ”นักเดินหมากขาวครางออกมาเบาๆแล้วออกปากตกลงในที่สุด

          “ขอบคุณมาก..แอน”ผู้มีศักดิ์เป็นราชาขาวกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากแล้วค่อยๆทวี

มากจนกลายเป็นรอยยิ้มกว้าง แอนคอร่ามองมันอย่างไม่อย่างไม่เชื่อสายตา มือบางเอื้อมไปสัมผัสแก้มของ

อีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว องค์ราชาสะดุ้งขึ้นทำให้มือบางผละออกไปอย่างรวดเร็ว

          “ขอโทษค่ะ”หญิงสาวขอโทษด้วยใบหน้าแดงก่ำ แกลเดียสส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เขา

หัวเราะน้อยๆแล้วเดินผิวปากนำออกไปจากลาน ทิ้งให้นักเดินหมากยืนค้างเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งตามออกไป

ทันที...

          ร่างของผู้มาเยือนทั้งสองเดินไปตามหมู่บ้าน

          “เมื่อวานข้าไปสำรวจสถานที่ที่มังกรเคยโจมตี ก็เลยเจอกับเจ้านี่”แกลเดียสกล่าวแล้วส่งวัตถุทรง

วงรีตัดครึ่งให้ดู มันมีสีเขียวใส สะท้อนแสงได้เล็กน้อย ลักษณะคล้ายกับแก้ว แต่แกร่งกว่ามาก

          มันคือเกล็ดมังกรนั่นเอง

          “เป็นมังกรพันธุ์เขียวมรกตแดงทับทิมใช่รึเปล่าคะ?”แอนคอร่าถามหลังจากรับเกล็ดมังกรมาดูจน

ละเอียดแล้ว ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วหันมามองอีกฝ่าย เขาเอามือที่ประสานใต้ท้ายทอยออกด้วยความฉงน

          “ใช่แล้วล่ะ เจ้ารู้ได้ยังไงเนี่ย?”

          “เดามั่วน่ะค่ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”หญิงสาวตอบตามตรง ความจริงเธอรู้สึกเหมือนกับมีชื่อ

โผล่ออกมาจากสมอง แล้วพอตอบไปกลับถูกจริงๆเสียด้วย

          “เอาเถอะ แต่ที่น่าแปลก ก็เพราะปกติมังกรพันธุ์นี้จะค่อนข้างรักสงบ ไม่น่าจะบุกโจมตีหมู่บ้าน”

ชายหนุ่มปัดขอสงสัยออกไปแล้ววิเคราะห์ต่อ “หรือจะเป็นเพราะ..”

          “เพราะมนตร์ดำยังไงล่ะ”พูดไม่ทันจบ เสียงหวานของใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้น แถมยังเป็นประโยค

เดียวกับที่เขาต้องการพูดอีกด้วย ทั้งองค์ราชาและนักเดินหมากหันไปมองพร้อมกันก็เห็นหญิงวัยกลางคนผู้

หนึ่ง เธอมีเรือนผมสีองุ่นและดวงตาสีเขียวกระจ่างที่เหมือนกับนักเดินหมากจนหน้าแปลกใจ ร่างสะคราญที่

ดูราวกับหญิงสาวอยู่ในเสื้อคลุมสีม่วงเข้ม ส่วนมือบางก็แกว่งสร้อยสังวาลที่มีจี้สีประหลาดไปมาหน้าทั้งสอง

ที่ว่าประหลาดก็คือ อัญมณีชิ้นนี้เป็นสีเขียวภายใต้แสงอาทิตย์ และกลายเป็นสีอมม่วงเมื่ออยู่ภายใต้เงาสลัว

          “คุณรู้ได้ยังไงเหรอคะ?”แอนคอร่าถามขึ้นพร้อมกับจ้องมองหญิงแปลกหน้าด้วยความสงสัย

เพราะเธอมีบุคลิกลักษณะคล้ายคลึงกับมารดาของนักเดินหมากจนน่าแปลกใจ

          “นัยน์ตาของมันน่ะ ตอนที่มังกรตัวนั้นโจมตีหมู่บ้าน นัยน์ตาของมันไม่มีแววตาเหมือนกับโดน

ควบคุมไม่มีผิด”เธอตอบแล้วกวัดแกว่งสร้อยไปมาอย่างต่อเนื่อง “ว่าแต่.เจ้าทำให้ข้านึกถึงใครบางคนเลยนะ

เนี่ย”หญิงกลางคนพูดพึมพำเบาๆขณะพิศดูใบหน้าของนักเดินหมาก ทันใดนั้นเธอก็ผงะจนเซไปข้างหลัง

          “ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ”สตรีผู้นั้นพึมพำไม่หยุดปาก “ไม่น่าเชื่อว่าอีกหลายสิบปีต่อมาข้าจะได้

เจอ...ข้ามีเรื่องต้องพูดกับเจ้าพอดี”เธอเอ่ยอย่างร้อนรน มือบางฉุดหญิงสาวให้เดินตามไปทันที

     ‘หมับ!’เสียงมือหาของผู้มีศักดิ์เป็นราชาขาวคว้าข้อมือของแอนคอร่าเอาไว้ ในขณะที่ผู้มีศักดิ์เป็นนัก

เดินหมากทำสีหน้าปุเลี่ยนๆเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี

          “ไม่อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ แต่ก็..เอาเถอะ”สตรีวัยกลางคนพึมพำแล้วซัดผงทรายสีม่วงลงบน

พื้น กลุ่มควันฟุ้งตลบกลบทัศนวิสัย หญิงสาวไอค็อกแค็กแล้วปาดน้ำตาออกด้วยความลำบาก มือบางหยิบ

ผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูกตนเอง อาการถึงได้ดีขึ้นเล็กน้อย

          กะทันหันเช่นเดียวกับตอนเริ่ม กลุ่มควันสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้น ร่างสูงขององค์

ราชาก็พรวดถลาเข้ามาบังร่างโปร่งจากเจ้าของกลุ่มควันเมื่อครู่นี้

          “สวัสดี”หญิงแปลกหน้าทักทายอย่างสุภาพ “ขออภัยสำหรับการเดินทางที่ไม่ค่อยสะดวกซักเท่า

ไหร่ แกลเดียส ไวท์คิง ราชาขาว และ แอนคอร่า โฮป นักเดินหมากฝ่ายขาว!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา