The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
10.0
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
26 บท
1 วิจารณ์
26.21K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) TWELVETH CHECK – TRUE LEGEND ABOUT GARGOYLE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ระวัง มันคือไวเวิร์น”เสียงเตือนทำให้ทุกคนกระจายตัวออกทันที แต่สิ่งที่คาดไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อไวเวิร์นตัวนั้นดันพ่นไฟออกมาใส่ชายหนุ่มผมบลอนด์! โชคดีที่ว่าเขากางบาเรียน้ำกันเอาไว้ได้ทันท่วง
ที
“เฮ้ย! ลูกัส บอกว่ามันเป็นไวเวิร์น แต่ทำไมมันถึงพ่นไฟได้ฟระ!?”ชายผู้นั้นตะโกนถามลูกัสขึ้น
เมื่อตีตัวฝ่าคมหางของไวเวิร์นมาได้แล้ว
“ตัวนี้คงเป็นลูกครึ่งล่ะมั้ง”เขาตะโกนกลับไปแล้วเรียกหอกจากอากาศให้พุ่งใส่มังกร แต่โชคไม่ดีที่
หอกลมไม่ได้ก่อความอันตรายต่อผิวหนังหุ้มเกล็ดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้อสุรตัวนั้น
เดือดดาลยิ่งกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
“ขอสาปแช่งคีอาร์ดาเถอะ!”เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมสบถขึ้นด้วยความหงุดหงิดขณะชักม้า
หลบลูกไฟ“ จิตวิญญาณแห่งเปลวเพลิง พลังแห่งเปลวไฟ โปรดมอบความพิโรธให้ข้าด้วยเถิด scarlet
spear – หอกเพลิงสีชาด!”
เมื่อร่ายเวทจบ หอกสีแดงชาดก็ปรากฏขึ้นบนมือของกาเร็ต มันกระพริบแสงและส่งไอร้อนออกมาอย่างต่อ
เนื่อง เด็กสาวดึงบังเหียนม้าปีกให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับมังกรสีดำสนิทแล้วเขวี้ยงหอกใส่ หอกเล่มนั้นกระ
พริบแสงถี่ขึ้นแล้วระเบิดกลางอากาศเมื่อไวเวิร์นตวัดหางมาพันหมายจะปัดมันออกไป
‘ตู้ม!’เสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้นพร้อมกับเสียงกึกก้องของมังกร อเล็กซานเดอร์มองตามด้วยความ
ประหลาดใจ
ไม่ยักรู้ว่าโลกแฟนตาซีแบบนี้จะมีกระสุนนำวิถีด้วยแฮะ
‘ก๊าซ!’เสียงคำรณของมังกรดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มควันที่สลายตัว ปลายหางแหลมอันตรายพุ่งมาหาทั้ง
สอง อเล็กซานเดอร์รีบตัดสินใจทันควัน มือหนาคว้าปืนที่เอามาจากอาร์คตัสแล้วเหนี่ยวไกทันที
‘ปั้ง!’เสียงปืนดังสนั่น กระสุนแล่นฝ่าอากาศเจาะลูกตาของไวเวิร์นอย่างแม่นยำ มันกู่ร้องก้องแล้วสะบัด
หางบินผละออกไป เด็กสาวกุ่มบังเหียนม้าแน่นแล้วถอนหายใจออกมา
“บ้าจริง หอกปาไม่ถึง”เธอบ่นพึมพำแล้วหันไปตะโกนกับพี่ชายที่พยายามใช้โซ่น้ำแข็งหยุดมังกร
สองขาให้หยุดนิ่งว่า “ท่านพี่! หอกปาไม่ถึงตัวมัน ทำยังไงดี?”
“พยายามถอยออกมาก่อน มันไม่ใช่มังกร แล้วก็ไม่ใช่ไวเวิร์นด้วย มันคือการ์กอยล์* มีแต่
โซฮาร์เท่านั้นที่จะปราบมันได้”ชายหนุ่มเตือนกลับมาแล้วชักม้าหลบลูกไฟของการ์กอยล์ที่พุ่งใส่อย่างรวด
เร็ว
“ไม่น่าล่ะ คีอาร์ดาจึงเอามันไปขังที่ประตูระบายน้ำ เพราะมันจะได้ไม่ออกมาอาละวาดนี่เอง ถึงจะ
ไม่อยากจะพูดออกมาก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉลาดจริงๆนั่นแหละ”กาเร็ตพูดพลางชักม้าหลบอาวุธและ
คมเขี้ยวคมหางของมังกรเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ตนเองโดนสอยร่วงลงมาจากอากาศเสียก่อน อเล็กซานเดอร์
มองการต่อสู้ด้วยความสนอกสนใจปนหวาดเสียว ร่างของชายนักบวชชักม้าบินขนสีครีมหลบเลี่ยงหางกา
ร์กอยล์ ชายหนุ่มเห็นไหวๆว่ามือข้างที่ไม่ได้กุมบังเหียนถือไม้กางเขนสีเงินที่ส่องประกายแสงงดงามอยู่ เขา
หรุบดวงตาสีแดงฉานลงแล้ว เสียงดังก้องกังวานราวกับกำลังเทศน์อยู่ในโบสถ์ก็ดึงขึ้นว่า
“ข้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้น หากเจ้าหันหลังกลับไปสู่ถิ่นของเจ้า ข้าจะ
ละเว้นเจ้าไปในนามของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจะหันหลังกลับหรือไม่?”เขาถามขึ้น เหมือนแวบหนึ่ง ถ้าอเล็กซ์
มองไม่ผิดล่ะก็ ชายหนหุ่มรู้สึกว่าดวงตาของการ์กอยล์มีหยาดน้ำตาไหลออกมา มันกู่ร้องแต่ก็ยังคงบิน
ประชันหน้ากับชายในชุดนักบวชอยู่ดี
“เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ ข้าก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ ข้าขอให้เจ้าอภัยให้แก่ข้าเมื่อไปถีงสวรรค์ด้วย
เถิด ข้าสัญญาว่าจะทำให้เจ้าทรมานน้อยที่สุด”บาทหลวงหนุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เขาเริ่มร่ายบท
เวทขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยเหมือนกำลังร้องเพลงในพิธีมิสซา**อยู่ไม่มีผิด
“แสงสว่างแห่งสรวงสวรรค์อันงดงามโปรดฟังข้า ในนามแห่งตัวแทนของพระบิดา จงมอบพลังอัน
แก่กล้า ให้แด่ข้าผู้เป็นนาย mandate of god – ประกาศิตสวรรค์ นิ้วชี้แห่งพระเจ้า”
สิ้นเสียง พายุแสงก็ปรากฏขึ้นไนมือของโซฮาร์ เขาโยนมันขึ้นในอากาศแล้วชักม้าหลบออกมา
ทันที พายุแสงทวีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย จนกลายเป็นพายุแสงขนาดยักษ์ มันเข้าปะทะกับการ์กอยล์เต็มๆ
เสียงกรีดร้องของมันดังไปทั่งจนโซฮาร์ต้องเบือนหน้าหนี เมื่อพายุแสงสลายลง กองขี้เถ้าและส่วนหัวของ
การ์กอยล์ก็ร่วงหล่นลงมา นักบวชก็คว้าส่วนศีรษะและขี้เถ้ากำหนึ่งเอาไว้ ร่างสูงแขวนส่วนหัวของ
การ์กอยล์เอาไว้ข้างม้า มือทั้งสองกำขี้เถ้าสีเทาจางและสร้อยประคำกับไม้กางเขนประสานกันเอาไว้ที่หน้า
อก แล้วชูขึ้นฟ้า ดวงตาที่เป็นสีแดงดุจศิลานักปราชญ์ของลีไวอาซันมีน้ำตาคลอและทอประกายเศร้าหมอง
“ในนามของผู้รับใช้พระเจ้า ข้าขอนำอำนาจของพระองค์มาใช้ในการชำระล้างผู้อื่น ขอพระองค์
ทรงรับวิญญาณของที่ข้าพเจ้าได้สังหารไว้บนสวรรค์ ได้โปรดให้อภัยพวกเขาเหล่านั้นโดยนำบาปมาลงที่
ข้าพเจ้าแทนด้วยเทอญ อาเมน”
* รูปสลักที่หลังคาโบสถ์ ใช้ระบายน้ำฝน ในที่นี้อ้างอิงการตายของมันมาจากตำนานของฝรั่งเศส ที่เล่า
ขานกันว่า ประมาณ ศตวรรษที่ 7 ณ หมู่บ้านรูออง ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส มีมังกรไฟตัวหนึ่ง
ซึ่งมีนิสัยดุร้ายมังกรตัวนี้ยื่นคำขาดให้ผู้คนในหมู่บ้านส่งหญิงพรหมจรรย์มาสังเวยมันทุกปี มิฉะนั้นมันจะพ่น
ไฟให้ทั้งหมู่บ้านจมอยู่ในกองเพลิงภายในพริบตา ด้วยความกลัว ชาวบ้านจึงจำต้องส่งหญิงสาวไปให้มันทุก
ปี หากปีใดไม่สามารถหาสาวบริสุทธ์ได้ก็จำต้องส่งนักโทษไปแทน แน่นอนว่าเจ้ามังกรตัวนี้ไม่พอใจอย่างยิ่ง
ดังนั้นมันจะมาบินวนรอบ ๆ หมู่บ้านพร้อมกับพ่นไฟและ ส่งเสียงขู่คำรามในลำคอ อันเป็นเหตุให้ชาวบ้าน
เรียกเจ้ามังกรตัวนี้ว่า ลา การ์กุยย์ จนกระทั่งนักบวช แซงต์ รูมานีส์ ได้มาเดินทางเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อ
ได้รับรู้ชะตากรรมของชาวบ้าน ท่านก็เสนอตัวเข้าช่วยเหลือ โดยมีข้อแม้ว่า หากท่านปราบมังกรตัวนี้ได้
ชาวบ้านจะต้องสร้างโบสถ์ให้ท่านหนึ่งหลัง ท่านสามารถสยบเจ้ามังกรร้ายตัวนี้ได้ และนำมันกลับมา ชาว
บ้านจึงจับมังกรนี้มัดและเผามันทั้งเป็น เปลวไฟเผาผลาญทุกส่วนของมัน ยกเว้น หัวและคอ ซึ่งไม่ว่าใช้วิธี
ใดก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ดังนั้น เมื่อชาวบ้านสร้างโบสถ์ให้ ตามสัญญา นักบวชเลยแนะนำให้เอาหัว
มังกรไปประดับไว้กับตัวโบสถ์เพราะเจ้ามังกรตัวนี้มีอำนาจศักด์สิทธิ์ ดังนั้นมันจะสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ
หรือสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ จากโบสถ์ได้ (เครดิตโดย BeelzeBufo จาก เว็บ เด็กดี)
**พิธีรำลึกถึงคนตาย
ประกาศนะคะ พรุ่งนี้เป็นนวันดูผลสอบของผู้เขียน ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะสามารถลงนิยายได้หรือเปล่า ก็ต้อง
ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้นะคะ
liber
เมื่อไวเวิร์นตัวนั้นดันพ่นไฟออกมาใส่ชายหนุ่มผมบลอนด์! โชคดีที่ว่าเขากางบาเรียน้ำกันเอาไว้ได้ทันท่วง
ที
“เฮ้ย! ลูกัส บอกว่ามันเป็นไวเวิร์น แต่ทำไมมันถึงพ่นไฟได้ฟระ!?”ชายผู้นั้นตะโกนถามลูกัสขึ้น
เมื่อตีตัวฝ่าคมหางของไวเวิร์นมาได้แล้ว
“ตัวนี้คงเป็นลูกครึ่งล่ะมั้ง”เขาตะโกนกลับไปแล้วเรียกหอกจากอากาศให้พุ่งใส่มังกร แต่โชคไม่ดีที่
หอกลมไม่ได้ก่อความอันตรายต่อผิวหนังหุ้มเกล็ดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้อสุรตัวนั้น
เดือดดาลยิ่งกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
“ขอสาปแช่งคีอาร์ดาเถอะ!”เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมสบถขึ้นด้วยความหงุดหงิดขณะชักม้า
หลบลูกไฟ“ จิตวิญญาณแห่งเปลวเพลิง พลังแห่งเปลวไฟ โปรดมอบความพิโรธให้ข้าด้วยเถิด scarlet
spear – หอกเพลิงสีชาด!”
เมื่อร่ายเวทจบ หอกสีแดงชาดก็ปรากฏขึ้นบนมือของกาเร็ต มันกระพริบแสงและส่งไอร้อนออกมาอย่างต่อ
เนื่อง เด็กสาวดึงบังเหียนม้าปีกให้หันกลับไปเผชิญหน้ากับมังกรสีดำสนิทแล้วเขวี้ยงหอกใส่ หอกเล่มนั้นกระ
พริบแสงถี่ขึ้นแล้วระเบิดกลางอากาศเมื่อไวเวิร์นตวัดหางมาพันหมายจะปัดมันออกไป
‘ตู้ม!’เสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้นพร้อมกับเสียงกึกก้องของมังกร อเล็กซานเดอร์มองตามด้วยความ
ประหลาดใจ
ไม่ยักรู้ว่าโลกแฟนตาซีแบบนี้จะมีกระสุนนำวิถีด้วยแฮะ
‘ก๊าซ!’เสียงคำรณของมังกรดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มควันที่สลายตัว ปลายหางแหลมอันตรายพุ่งมาหาทั้ง
สอง อเล็กซานเดอร์รีบตัดสินใจทันควัน มือหนาคว้าปืนที่เอามาจากอาร์คตัสแล้วเหนี่ยวไกทันที
‘ปั้ง!’เสียงปืนดังสนั่น กระสุนแล่นฝ่าอากาศเจาะลูกตาของไวเวิร์นอย่างแม่นยำ มันกู่ร้องก้องแล้วสะบัด
หางบินผละออกไป เด็กสาวกุ่มบังเหียนม้าแน่นแล้วถอนหายใจออกมา
“บ้าจริง หอกปาไม่ถึง”เธอบ่นพึมพำแล้วหันไปตะโกนกับพี่ชายที่พยายามใช้โซ่น้ำแข็งหยุดมังกร
สองขาให้หยุดนิ่งว่า “ท่านพี่! หอกปาไม่ถึงตัวมัน ทำยังไงดี?”
“พยายามถอยออกมาก่อน มันไม่ใช่มังกร แล้วก็ไม่ใช่ไวเวิร์นด้วย มันคือการ์กอยล์* มีแต่
โซฮาร์เท่านั้นที่จะปราบมันได้”ชายหนุ่มเตือนกลับมาแล้วชักม้าหลบลูกไฟของการ์กอยล์ที่พุ่งใส่อย่างรวด
เร็ว
“ไม่น่าล่ะ คีอาร์ดาจึงเอามันไปขังที่ประตูระบายน้ำ เพราะมันจะได้ไม่ออกมาอาละวาดนี่เอง ถึงจะ
ไม่อยากจะพูดออกมาก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉลาดจริงๆนั่นแหละ”กาเร็ตพูดพลางชักม้าหลบอาวุธและ
คมเขี้ยวคมหางของมังกรเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ตนเองโดนสอยร่วงลงมาจากอากาศเสียก่อน อเล็กซานเดอร์
มองการต่อสู้ด้วยความสนอกสนใจปนหวาดเสียว ร่างของชายนักบวชชักม้าบินขนสีครีมหลบเลี่ยงหางกา
ร์กอยล์ ชายหนุ่มเห็นไหวๆว่ามือข้างที่ไม่ได้กุมบังเหียนถือไม้กางเขนสีเงินที่ส่องประกายแสงงดงามอยู่ เขา
หรุบดวงตาสีแดงฉานลงแล้ว เสียงดังก้องกังวานราวกับกำลังเทศน์อยู่ในโบสถ์ก็ดึงขึ้นว่า
“ข้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้น หากเจ้าหันหลังกลับไปสู่ถิ่นของเจ้า ข้าจะ
ละเว้นเจ้าไปในนามของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจะหันหลังกลับหรือไม่?”เขาถามขึ้น เหมือนแวบหนึ่ง ถ้าอเล็กซ์
มองไม่ผิดล่ะก็ ชายหนหุ่มรู้สึกว่าดวงตาของการ์กอยล์มีหยาดน้ำตาไหลออกมา มันกู่ร้องแต่ก็ยังคงบิน
ประชันหน้ากับชายในชุดนักบวชอยู่ดี
“เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ ข้าก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ ข้าขอให้เจ้าอภัยให้แก่ข้าเมื่อไปถีงสวรรค์ด้วย
เถิด ข้าสัญญาว่าจะทำให้เจ้าทรมานน้อยที่สุด”บาทหลวงหนุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เขาเริ่มร่ายบท
เวทขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยเหมือนกำลังร้องเพลงในพิธีมิสซา**อยู่ไม่มีผิด
“แสงสว่างแห่งสรวงสวรรค์อันงดงามโปรดฟังข้า ในนามแห่งตัวแทนของพระบิดา จงมอบพลังอัน
แก่กล้า ให้แด่ข้าผู้เป็นนาย mandate of god – ประกาศิตสวรรค์ นิ้วชี้แห่งพระเจ้า”
สิ้นเสียง พายุแสงก็ปรากฏขึ้นไนมือของโซฮาร์ เขาโยนมันขึ้นในอากาศแล้วชักม้าหลบออกมา
ทันที พายุแสงทวีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย จนกลายเป็นพายุแสงขนาดยักษ์ มันเข้าปะทะกับการ์กอยล์เต็มๆ
เสียงกรีดร้องของมันดังไปทั่งจนโซฮาร์ต้องเบือนหน้าหนี เมื่อพายุแสงสลายลง กองขี้เถ้าและส่วนหัวของ
การ์กอยล์ก็ร่วงหล่นลงมา นักบวชก็คว้าส่วนศีรษะและขี้เถ้ากำหนึ่งเอาไว้ ร่างสูงแขวนส่วนหัวของ
การ์กอยล์เอาไว้ข้างม้า มือทั้งสองกำขี้เถ้าสีเทาจางและสร้อยประคำกับไม้กางเขนประสานกันเอาไว้ที่หน้า
อก แล้วชูขึ้นฟ้า ดวงตาที่เป็นสีแดงดุจศิลานักปราชญ์ของลีไวอาซันมีน้ำตาคลอและทอประกายเศร้าหมอง
“ในนามของผู้รับใช้พระเจ้า ข้าขอนำอำนาจของพระองค์มาใช้ในการชำระล้างผู้อื่น ขอพระองค์
ทรงรับวิญญาณของที่ข้าพเจ้าได้สังหารไว้บนสวรรค์ ได้โปรดให้อภัยพวกเขาเหล่านั้นโดยนำบาปมาลงที่
ข้าพเจ้าแทนด้วยเทอญ อาเมน”
* รูปสลักที่หลังคาโบสถ์ ใช้ระบายน้ำฝน ในที่นี้อ้างอิงการตายของมันมาจากตำนานของฝรั่งเศส ที่เล่า
ขานกันว่า ประมาณ ศตวรรษที่ 7 ณ หมู่บ้านรูออง ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส มีมังกรไฟตัวหนึ่ง
ซึ่งมีนิสัยดุร้ายมังกรตัวนี้ยื่นคำขาดให้ผู้คนในหมู่บ้านส่งหญิงพรหมจรรย์มาสังเวยมันทุกปี มิฉะนั้นมันจะพ่น
ไฟให้ทั้งหมู่บ้านจมอยู่ในกองเพลิงภายในพริบตา ด้วยความกลัว ชาวบ้านจึงจำต้องส่งหญิงสาวไปให้มันทุก
ปี หากปีใดไม่สามารถหาสาวบริสุทธ์ได้ก็จำต้องส่งนักโทษไปแทน แน่นอนว่าเจ้ามังกรตัวนี้ไม่พอใจอย่างยิ่ง
ดังนั้นมันจะมาบินวนรอบ ๆ หมู่บ้านพร้อมกับพ่นไฟและ ส่งเสียงขู่คำรามในลำคอ อันเป็นเหตุให้ชาวบ้าน
เรียกเจ้ามังกรตัวนี้ว่า ลา การ์กุยย์ จนกระทั่งนักบวช แซงต์ รูมานีส์ ได้มาเดินทางเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อ
ได้รับรู้ชะตากรรมของชาวบ้าน ท่านก็เสนอตัวเข้าช่วยเหลือ โดยมีข้อแม้ว่า หากท่านปราบมังกรตัวนี้ได้
ชาวบ้านจะต้องสร้างโบสถ์ให้ท่านหนึ่งหลัง ท่านสามารถสยบเจ้ามังกรร้ายตัวนี้ได้ และนำมันกลับมา ชาว
บ้านจึงจับมังกรนี้มัดและเผามันทั้งเป็น เปลวไฟเผาผลาญทุกส่วนของมัน ยกเว้น หัวและคอ ซึ่งไม่ว่าใช้วิธี
ใดก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ดังนั้น เมื่อชาวบ้านสร้างโบสถ์ให้ ตามสัญญา นักบวชเลยแนะนำให้เอาหัว
มังกรไปประดับไว้กับตัวโบสถ์เพราะเจ้ามังกรตัวนี้มีอำนาจศักด์สิทธิ์ ดังนั้นมันจะสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ
หรือสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ จากโบสถ์ได้ (เครดิตโดย BeelzeBufo จาก เว็บ เด็กดี)
**พิธีรำลึกถึงคนตาย
ประกาศนะคะ พรุ่งนี้เป็นนวันดูผลสอบของผู้เขียน ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะสามารถลงนิยายได้หรือเปล่า ก็ต้อง
ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้นะคะ
liber
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ