The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
10.0
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
26 บท
1 วิจารณ์
26.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) NINTH CHECK – THE PRESAGE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในฝัน เธอเห็นร่างสูงของพี่ชายของเธอกำลังโรมรันอยู่กับมังกรสีดำสนิท เขาใช้ปืนยิงเข้าที่ดวง
ตาซ้ายของสิ่งมีชีวิตในตำนานจนบอด มันคำรณลั่น แต่แล้วพายุแสงก็กลืนมังกรตัวนั้นเข้าไป เสียงคำราม
ดังกึกก้องด้วยความเจ็บปวด สิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือกองขี้เถ้าที่ร่วงหล่นและรอยยิ้มของพี่ชายนั่นเอง
‘เฮือก!’ แอนคอร่าสะดุ้งตื่นพร้อมกับไอริสที่เดินเข้ามาในห้อง เธอผงะจนทำของเหลวในถ้วยชา
กระฉอกเล็กน้อย แต่ก็วางถ้วยชากับอาหารเช้าลงที่โต๊ะข้างเตียงอย่างสงบ
“ตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ?”แม่ชีสาวทักทายแล้ววางถ้วยข้าวโอ๊ตต้มกับถ้วยชาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้คุณไอริสดูไม่ดีเลยนะคะ”นักเดินหมากเอ่ยเมื่อเห็นดวงตาสีครามดูวิตกกังวล
และเคร่งเครียดผิดปกติ“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ”บิชอปฝ่ายซ้ายบอกปัด แต่แอนคอร่าเดาได้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอยู่
“คุณไอริสคะ ช่วยบอกความจริงด้วยคะ”เธอสั่งขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนหนึ่งก็เพื่อทดสอบว่า
อำนาจของนักเดินหมากจะครอบคลุมแค่ไหน เด็กสาวตาเหลือกค้าง ก่อนจะตอบขึ้นแบบอ้อมแอ้มว่า
“กองทัพยกออกไป..ตั้งแต่เช้า เพื่อจะไปชิงตัว..พี่ชายของคุณ..กลับมาเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ!”ผู้มีศักดิ์เป็นนักเดินหมากลุกพรวดขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงไปกองบนพื้นเพราะ
อาการหน้ามืดที่เข้าจู่โจมกะทันหัน“ฉันบอกให้เลือกทางเลือกที่เป็นเอกฉันท์ไม่ใช่เหรอ! ทำไมถึงเป็นอย่าง
นี้ไปได้ล่ะ!”
“ก็นี่แหละเจ้าค่ะ..ทางเลือกที่ได้รับคะแนนเสียงเอกฉันท์ล่ะเจ้าค่ะ”แม่ชีน้อยเอ่ยเบาๆขณะประคอง
หญิงสาวขึ้นมา คำพูดนั้นทำให้เธอทรุดลงไปนั่งที่พื้นอีกรอบ
“..มีทางติดต่อกับกองทัพในตอนนี้ไหมคะ?”
“เอ๋?”เด็กสาวอุทานเบาๆ“มันก็มีทางอยู่นะเจ้าคะ แต่จะถามไปทำไมหรือเจ้าคะ?”
แอนคอร่าส่งเสียงฮึขึ้นจมูกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองเล็กน้อยว่า
“ฉันว่าคงมีเรื่องต้องคุยกับคุณราชาขาวอีกนานเลยล่ะค่ะ”
หลังจากจัดการกับอาหารเช้าแล้ว หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นนักเดินหมากก็ถ่อสังขารตามแม่ชีสาวมา
ที่โบสถ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในส่วนเช่นเดิม เธอเดินเข้าไปในอาคาร แสงหลากสีจากกระจกสเตนกลาสและ
ความเย็นจากพื้นหินอ่อนก่อบรรยากาศที่สงบ น่าเลื่อมใสอย่างน่าประหลาด บิชอปฝ่ายซ้ายพาแอนคอร่า
เดินผ่านรูปปั้นพระแม่มารีและห้องสารภาพบาปไปจนถึงเรือนกระจกที่ทำจากแก้ว ที่นั่นมีสมุนไพรหลาย
ชนิด ทั้งที่หญิงสาวรู้จักและไม่รู้จัก อ่างน้ำทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุตครึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า
อยู่ตรงกลาง แต่ที่หน้าประหลาดใจก็คือ อ่างใบนั้นทำมาจาก..น้ำแข็ง
“ข้าจะพยายามเท่าที่ทำได้นะเจ้าคะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลรึเปล่า เพราะว่าใกล้จะเที่ยง
แล้วแสงแดดคงจะไม่เป็นใจนัก”ไอริสพูดแล้ววาดมือออกแล้วรายเวทขึ้นว่า“โอ้ พระผู้เป็นเจ้าแห่งเรา พระ
บิดาแห่งสรวงสวรรค์ โปรดประทานพรแห่งการเชื่อมต่อให้แก่ข้าด้วยเถิด”
แสงแดดที่ส่องเข้ามาในเรือนกระจกสะท้อนกลับมารวมที่อ่างน้ำแข็ง ลำแสงสะท้อนไปมาจนเกิด
ประกายสุกใสเหมือนเพชรน้ำงามที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างดี ลำแสงที่มารวมตัวกันสว่างมาขึ้นและมี
จำนวนเพิ่มขึ้น แม่ชีสาวยังคงท่องบ่นเวทไปอีกซักพักจนเรือนผมสีน้ำตาลทองเปียกชื้นด้วยเหงื่อ และแล้ว
ดวงตาสีครามสดใสจึงลืมขึ้น
“จุ่มหน้าลงในอ่างนั้นแล้วนึกถึงคนที่จะคุยด้วยเลยนะเจ้าคะ ข้าคงจะคงสภาพเวทได้อีกไม่
นาน”เธอกล่าว นักเดินหมากจึงจุ่มใบหน้าลงในอ่างน้ำอย่างไม่รีรอทันที
ความอบอุ่นจากอ่างน้ำเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่ได้คาดเอาไว้ตังแต่แรก เธอผงะเล็กน้อยก่อนจะเพ่ง
มองแถบสายรุ้งที่ทอดตัวอยู่ตรงก้นอ่าง
นึกถึงคนที่จะพูดด้วย แอนคอร่าฉุกคิดถึงคำพูดของไอริส เธอจีงนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มผู้มี
ศักดิ์เป็นคิงแห่งฝ่ายขาว
แกลเดียส ไวท์คิง
แสงสเปคตรัมในอ่างค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นม่านแสงสีทอง แล้วมันค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของราชาขาว
ในเวลานี้เขากำลังนั่งมองแผนที่แล้วเอาปากกาขนนกวงบริเวณต่างๆด้วยหมึกสีแดงครั่ง
“คุณแกลเดียส”นักเดินหมากร้องเรียก น่าแปลกที่เธอไม่สำลักน้ำเลย ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังรู้สึก
เหมือนกำลังหายใจอยู่บกไม่มีผิด องค์ราชาสะดุ้ง เงยหน้าจากแผนที่แล้วมองเธอด้วยสายตาฉงน
“แอนคอร่า!”เขาอุทาน
“คุณคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่แกลเดียสไวท์คิงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายออกมาเพื่อชิงตัวคนคนเดียวเนี่ยนะ
ยังมีสติดีอยู่รึเปล่าถ้าคิงตายเกมก็จบสิคะ!”หญิงสาวรัวคำพูดก่อนจะหอบหายใจ
“ก็..เจ้าเป็นคนบอกเองว่าเป็นมติ”เขาตอบพลางยักไหล่“อีกอย่าง ฉันรู้ว่ายังไงเจ้าก็ต้องอยากให้
พี่ชายของเจ้านั่นแหละรอดอยู่ดี จริงรึเปล่าล่ะ?”
“อึก"แอนคอร่าสะอึก จนใจกับคำพูดของชายหนุ่ม เพราะที่จริงความรู้สึกของเธอก็เหมือนอย่างที่
เขาพูดเอาไว้ไม่ผิดเพี้ยน
“ท่านแอนคอร่าคะ ฉันจะคงสภาพเวทเอาไว้ไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ รีบออกมาด่วนเลย”เสียงแว่วๆ
ของบิชอปทำให้หญิงสาวรีบพูดทันที
“งั้นฟังให้ดีนะคะ ช่วยกลับมาแบบครบชิ้นพร้อมด้วยวิญญาณด้วยนะคะ แล้วก็ ไม่รู้จะเกี่ยวไหม
แต่ฉันฝันเห็นพี่อเล็กซ์สู้กับมัง..”พูดถึงเท่านี้ภาพใบหน้าของแกลเดียสก็เลือนหายไป และใบหน้าของ
แอนคอร่าก็พรวดขึ้นจากอ่างน้ำ...
ตาซ้ายของสิ่งมีชีวิตในตำนานจนบอด มันคำรณลั่น แต่แล้วพายุแสงก็กลืนมังกรตัวนั้นเข้าไป เสียงคำราม
ดังกึกก้องด้วยความเจ็บปวด สิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือกองขี้เถ้าที่ร่วงหล่นและรอยยิ้มของพี่ชายนั่นเอง
‘เฮือก!’ แอนคอร่าสะดุ้งตื่นพร้อมกับไอริสที่เดินเข้ามาในห้อง เธอผงะจนทำของเหลวในถ้วยชา
กระฉอกเล็กน้อย แต่ก็วางถ้วยชากับอาหารเช้าลงที่โต๊ะข้างเตียงอย่างสงบ
“ตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ?”แม่ชีสาวทักทายแล้ววางถ้วยข้าวโอ๊ตต้มกับถ้วยชาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้คุณไอริสดูไม่ดีเลยนะคะ”นักเดินหมากเอ่ยเมื่อเห็นดวงตาสีครามดูวิตกกังวล
และเคร่งเครียดผิดปกติ“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ”บิชอปฝ่ายซ้ายบอกปัด แต่แอนคอร่าเดาได้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอยู่
“คุณไอริสคะ ช่วยบอกความจริงด้วยคะ”เธอสั่งขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนหนึ่งก็เพื่อทดสอบว่า
อำนาจของนักเดินหมากจะครอบคลุมแค่ไหน เด็กสาวตาเหลือกค้าง ก่อนจะตอบขึ้นแบบอ้อมแอ้มว่า
“กองทัพยกออกไป..ตั้งแต่เช้า เพื่อจะไปชิงตัว..พี่ชายของคุณ..กลับมาเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ!”ผู้มีศักดิ์เป็นนักเดินหมากลุกพรวดขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงไปกองบนพื้นเพราะ
อาการหน้ามืดที่เข้าจู่โจมกะทันหัน“ฉันบอกให้เลือกทางเลือกที่เป็นเอกฉันท์ไม่ใช่เหรอ! ทำไมถึงเป็นอย่าง
นี้ไปได้ล่ะ!”
“ก็นี่แหละเจ้าค่ะ..ทางเลือกที่ได้รับคะแนนเสียงเอกฉันท์ล่ะเจ้าค่ะ”แม่ชีน้อยเอ่ยเบาๆขณะประคอง
หญิงสาวขึ้นมา คำพูดนั้นทำให้เธอทรุดลงไปนั่งที่พื้นอีกรอบ
“..มีทางติดต่อกับกองทัพในตอนนี้ไหมคะ?”
“เอ๋?”เด็กสาวอุทานเบาๆ“มันก็มีทางอยู่นะเจ้าคะ แต่จะถามไปทำไมหรือเจ้าคะ?”
แอนคอร่าส่งเสียงฮึขึ้นจมูกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองเล็กน้อยว่า
“ฉันว่าคงมีเรื่องต้องคุยกับคุณราชาขาวอีกนานเลยล่ะค่ะ”
หลังจากจัดการกับอาหารเช้าแล้ว หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นนักเดินหมากก็ถ่อสังขารตามแม่ชีสาวมา
ที่โบสถ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในส่วนเช่นเดิม เธอเดินเข้าไปในอาคาร แสงหลากสีจากกระจกสเตนกลาสและ
ความเย็นจากพื้นหินอ่อนก่อบรรยากาศที่สงบ น่าเลื่อมใสอย่างน่าประหลาด บิชอปฝ่ายซ้ายพาแอนคอร่า
เดินผ่านรูปปั้นพระแม่มารีและห้องสารภาพบาปไปจนถึงเรือนกระจกที่ทำจากแก้ว ที่นั่นมีสมุนไพรหลาย
ชนิด ทั้งที่หญิงสาวรู้จักและไม่รู้จัก อ่างน้ำทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุตครึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า
อยู่ตรงกลาง แต่ที่หน้าประหลาดใจก็คือ อ่างใบนั้นทำมาจาก..น้ำแข็ง
“ข้าจะพยายามเท่าที่ทำได้นะเจ้าคะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลรึเปล่า เพราะว่าใกล้จะเที่ยง
แล้วแสงแดดคงจะไม่เป็นใจนัก”ไอริสพูดแล้ววาดมือออกแล้วรายเวทขึ้นว่า“โอ้ พระผู้เป็นเจ้าแห่งเรา พระ
บิดาแห่งสรวงสวรรค์ โปรดประทานพรแห่งการเชื่อมต่อให้แก่ข้าด้วยเถิด”
แสงแดดที่ส่องเข้ามาในเรือนกระจกสะท้อนกลับมารวมที่อ่างน้ำแข็ง ลำแสงสะท้อนไปมาจนเกิด
ประกายสุกใสเหมือนเพชรน้ำงามที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างดี ลำแสงที่มารวมตัวกันสว่างมาขึ้นและมี
จำนวนเพิ่มขึ้น แม่ชีสาวยังคงท่องบ่นเวทไปอีกซักพักจนเรือนผมสีน้ำตาลทองเปียกชื้นด้วยเหงื่อ และแล้ว
ดวงตาสีครามสดใสจึงลืมขึ้น
“จุ่มหน้าลงในอ่างนั้นแล้วนึกถึงคนที่จะคุยด้วยเลยนะเจ้าคะ ข้าคงจะคงสภาพเวทได้อีกไม่
นาน”เธอกล่าว นักเดินหมากจึงจุ่มใบหน้าลงในอ่างน้ำอย่างไม่รีรอทันที
ความอบอุ่นจากอ่างน้ำเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่ได้คาดเอาไว้ตังแต่แรก เธอผงะเล็กน้อยก่อนจะเพ่ง
มองแถบสายรุ้งที่ทอดตัวอยู่ตรงก้นอ่าง
นึกถึงคนที่จะพูดด้วย แอนคอร่าฉุกคิดถึงคำพูดของไอริส เธอจีงนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มผู้มี
ศักดิ์เป็นคิงแห่งฝ่ายขาว
แกลเดียส ไวท์คิง
แสงสเปคตรัมในอ่างค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นม่านแสงสีทอง แล้วมันค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของราชาขาว
ในเวลานี้เขากำลังนั่งมองแผนที่แล้วเอาปากกาขนนกวงบริเวณต่างๆด้วยหมึกสีแดงครั่ง
“คุณแกลเดียส”นักเดินหมากร้องเรียก น่าแปลกที่เธอไม่สำลักน้ำเลย ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังรู้สึก
เหมือนกำลังหายใจอยู่บกไม่มีผิด องค์ราชาสะดุ้ง เงยหน้าจากแผนที่แล้วมองเธอด้วยสายตาฉงน
“แอนคอร่า!”เขาอุทาน
“คุณคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่แกลเดียสไวท์คิงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายออกมาเพื่อชิงตัวคนคนเดียวเนี่ยนะ
ยังมีสติดีอยู่รึเปล่าถ้าคิงตายเกมก็จบสิคะ!”หญิงสาวรัวคำพูดก่อนจะหอบหายใจ
“ก็..เจ้าเป็นคนบอกเองว่าเป็นมติ”เขาตอบพลางยักไหล่“อีกอย่าง ฉันรู้ว่ายังไงเจ้าก็ต้องอยากให้
พี่ชายของเจ้านั่นแหละรอดอยู่ดี จริงรึเปล่าล่ะ?”
“อึก"แอนคอร่าสะอึก จนใจกับคำพูดของชายหนุ่ม เพราะที่จริงความรู้สึกของเธอก็เหมือนอย่างที่
เขาพูดเอาไว้ไม่ผิดเพี้ยน
“ท่านแอนคอร่าคะ ฉันจะคงสภาพเวทเอาไว้ไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ รีบออกมาด่วนเลย”เสียงแว่วๆ
ของบิชอปทำให้หญิงสาวรีบพูดทันที
“งั้นฟังให้ดีนะคะ ช่วยกลับมาแบบครบชิ้นพร้อมด้วยวิญญาณด้วยนะคะ แล้วก็ ไม่รู้จะเกี่ยวไหม
แต่ฉันฝันเห็นพี่อเล็กซ์สู้กับมัง..”พูดถึงเท่านี้ภาพใบหน้าของแกลเดียสก็เลือนหายไป และใบหน้าของ
แอนคอร่าก็พรวดขึ้นจากอ่างน้ำ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ