มนต์รักแห่งรัติกาล [Yaoi]
9.5
เขียนโดย อาวี่
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.55 น.
2 chapter
3 วิจารณ์
4,851 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) งานแต่งงานที่เลี่ยงไม่ได้ (30%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความงานแต่งงานที่เลี่ยงไม่ได้
(1)
สมองของอเล็กซ์ซิสหยุดทำงานชั่วขณะ
ไม่สิ…สมองของเขาไม่ได้หยุดทำงาน มันแค่ประมวลผลช้าลงเท่านั้น ในตอนนี้แวมไพร์หนุ่มไม่อาจรับรู้ได้ว่าท่านลอร์ดและท่านป้าสติเฟื้องสนทนาไปถึงไหนกันแล้ว นั่นเพราะคำว่า ‘แต่งงาน’ คำเดียว
เขาไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าการแต่งงานคืออะไร…
และแน่นอนว่า ชีวิตโสดแสนสุขของเขาจะต้องไม่จบลงเพราะเรื่องบ้าๆนี้แน่!!
“อิซาเบล ผมเกรงว่าสิ่งที่พี่เรียกร้องมันจะเป็นไปไม่ได้” ลอร์ดฟลินน์มีสีหน้าลำบากใจได้ชัดเจน ก่อนจะเหลือบมองชายหนุ่มร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างพี่สาว “พวกเขาต่างก็เป็นผู้ชายทั้งคู่”
“ก็แล้วจะอย่างไรกันเล่า” อิซาเบลยิ้มหยัน “หรือท่านลอร์ดกลัวคำครหานินทาของพวกชาวบ้านหรือพวกแวมไพร์ชั้นต่ำกัน”
“นั่นอาจมีส่วน อันที่จริง…” ลอร์ดฟลินน์ขมวดคิ้วเข้มราวกับไม่แน่ใจในสิ่งที่จะพูด
“ผมแค่ไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดอเล็กซ์ซิสจะต้องแต่งงานกับ….เอ่อ โนอาร์? อีกอย่าง ไม่มีใครยอมรับการแต่งงานแบบนี้แน่นอน”
หลังจากได้ฟังคำของเจ้าของคฤหาสน์อันเก่าแก่ สตรีแกร่งถึงกับเชิดหน้าด้วยความเย่อหยิ่ง ดวงตาคมกริบเหยียดมองน้องชายแท้ๆอย่างไม่พอใจ
“หึ บางทีท่านลอร์ดคงลืมไปว่าก่อนหน้านั้นอเล็กซ์ซิสทำอะไรกับเขา วะ…”
“ผมไม่ได้ขืนใจเขา!!”
แวมไพร์หนุ่มที่หาเสียงตนเองเจอรีบโพล่งขึ้นมาทันทีก่อนที่มันจะจบด้วยพิธีวิวาห์เมื่อเรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่โต อิซาเบลส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเมื่อถูกขัดจังหวะ ในขณะลอร์ดฟลินน์ถอนหายใจยาว
“ออกไปรอข้างนอกก่อนเถอะ…ทั้งคู่เลย”
ลอร์ดฟลินน์ปรายตามองเขาและมนุษย์ผู้ชายอีกคน อิซาเบลกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับลูกบุญธรรม ก่อนฝ่ายนั้นจะพยักหน้าลุกขึ้นและเดินออกไป นั่นหมายความว่าเขาก็ต้องไปเหมือนกัน ซึ่งเป็นอะไรที่อเล็กซ์ซิสรู้สึกหงุดหงิดที่สุด
หลังเสียงประตูปิดลง ลอร์ดฟลินน์จึงหันมาสนใจสตรีตรงหน้าอีกครั้ง
“เอาหละ บอกเหตุของพี่มาดีกว่า มันมีอะไรมากกว่านั้นใช่หรือเปล่าครับ?”
……………………………
อเล็กซ์ซิสกำลังนอนราบกับพื้น เพื่อฟังเสียงสนทนาที่อาจจะรอดมาจากช่องว่างใต้ประตูห้อง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆนอกจากเสียงลมหายใจของตนเอง นั่นแหละที่ทำให้ความหงุดหงิดของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เขาไม่รู้ว่ายัยป้านั่นจะใช้เหตุผลอะไรพูดกับพ่อเขาบ้าง และเขาไม่คิดเลยว่ายัยป้านั่นจะเสียสติถึงขนาดอยากให้เขาแต่งงานกับลูกเลี้ยงของตนเอง
ลูกเลี้ยงที่เป็นผู้ชายเหมือนกันกับเขา!!
ประสาทไปแล้ว!!
“นี่ ทำไมนายถึงไม่บอกแม่สุดที่รักของนายไปหละว่า ผมไม่ได้ทำอะไรนาย อย่างที่เขาว่าเลย”
เมื่อทำอะไรไม่ได้แวมไพร์หนุ่มจึงหันมาเล่นงานอีกคนที่ยืนนิ่งเป็นต้นไม้แทน อเล็กซ์ซิสกำลังหมายถึงเรื่อง ขืนใจ ….พอคิดถึงตรงนี้แล้วแวมไพร์เจ้าเสน่ห์ก็อดพิจารณารูปร่างของอีกฝ่ายไม่ได้
ไม่มีอะไรดึงดูดใจเลยสักนิด
“แล้วตอนนี้เขากำลังจะจับเราแต่งงานกัน ทำไมนายดูไม่เดือดร้อนเลยหละ” แวมไพร์หนุ่มพูดต่อหากแต่โนอาร์ยังคงเงียบ แต่สายตาที่มองมาทำให้อเล็กซ์ซิสรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจฟังอยู่ แวมไพร์หนุ่มจึงพูดต่อ
“หรือว่านายไม่ใช่ผู้ชาย?”
โนอาร์เลิกคิ้วเล็กน้อย แม้มันจะเป็นเสี้ยววินาทีแต่อเล็กซ์ซิสกลับรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆเลยนับตั้งแต่มาเหยียบที่นี่ แต่กลับทำหน้าเหมือนจะตกใจในคำถามของเขา
“ก็ไม่ได้หน้าตายนี่หว่า…” เขาพึมพำกับตนเองเบาๆ ในตอนนี้แวมไพร์หนุ่มกำลังหันเหความสนใจมาที่มนุษย์ตรงหน้าแทน
งานแต่งงานที่เลี่ยงไม่ได้
(2)
ในค่ำคืนนี้ คฤหาสน์ฟลินน์ที่ยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายของเหล่าแวมไพร์ หากแต่ไกลห่างจากนอร์ทเวสต์อิงแลนด์ออกมา มหานครใหญ่อย่างลอนดอนเองในเวลานี้ดูจะวุ่นวายไม่ต่างกัน มันมิใช่ความวุ่นวายของการขนส่งสาธารณะ การจราจร หรือผู้คน หากแต่มันคือ…
“ไอ้บัดซบ!! มันหนีไปทางนั้นแล้วแอนนา”
เสียงตะโกน เสียงกรีดร้อง รวมถึงเสียงฝีเท้าดังขึ้นในย่านหนึ่ง
หญิงสาวในโค้ทตัวยาวกำลังวิ่งลัดเลาะไปตามตรอกแคบๆมืดๆ ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังไล่ล่า เธอพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือสุดชีวิตหากแต่มันจะไร้ประโยชน์ ราวกับว่าในพื้นที่นี้ไม่มีใครรับรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธอเลย
หญิงสาวพยายามกระเสือกกระสนพาร่างกายอันบอบช้ำไปยังพื้นที่ที่คนพลุกพล่าน ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เธอรอด…หากแต่ในเวลานี้เธอวิ่งมานาน และรู้สึกเริ่มแปลกๆ
เธอซ้อนเร้นกายอยู่หลังกล่องกระดาษและลังไม้เก่าๆกองหนึ่งหลังจากรู้สึกว่าคงจะไปต่อไม่ไหวเสียแล้ว ริมฝีปากแดงสดถูกขบกัดเข้าหากันเพื่อข่มเสียงหอบและเสียงหายใจที่อาจที่สร้างหายนะให้กับเธอเอง ก่อนจะครุ่นคิดกับบางสิ่งบางอย่าง
ใช่…มันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
และอะไรผิดปกติที่ว่า มันก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย
เธอรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งวนอยู่ในตรอกนี้ ไม่ว่าจะวิ่งไปเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ามันจะไม่สิ้นสุด และกลับมาจุดๆเดิมทุกครั้ง
ที่เธอมั่นใจนั่นเป็นเพราะกองเหล่ากล่องไม้พวกนี้
เธอจำได้ว่าตัวเองวิ่งผ่านตรงนี้มาเป็นรอบที่สามแล้ว!
หญิงสาวกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่นในสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญจะต้องไม่ ‘ธรรมดา’ แน่
เธอเริ่มมองหาลู่ทางหนีอีกครั้ง
หากแต่เสียงฝีเท้าที่ดังอยู่ใกล้ๆทำให้เธอแทบจะหยุดหายใจ
มันมาแล้ว!!
“โอ้ ได้โปรดเถอะพระเจ้า ได้โปรดคุ้มครองฉัน” เธอได้แต่พึม
พำน้ำตาคลอเบ้ายามที่เสียงฝีเท้าดังวนเวียนอยู่รอบๆนี้ มีเพียงคำอ้อนวอนเท่านั้นที่ทำได้
หากแต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่รับฟังคำขอของเธอ เมื่อต้นคออุ่นสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เย็ยยะเยือก พร้อมเสียงแหลมๆที่กระซิบอยู่ข้างหู
“พระเจ้าที่ไหนก็ช่วยแกไม่ได้หรอก ให้ซาตานอย่างข้าช่วยแกจะดีกว่านะ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
มันเป็นเสียงกรีดร้องในระยะเวลาสั้นๆ หากแต่ให้ความรู้สึกที่ยาวนาน
บุคคลที่สามจ้องภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อ่านไม่ออก
‘แอนนา’จ้องภาพของพี่สาวที่กำลังสังหารเหยื่ออย่างเลือดเย็นก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า
มหานครแห่งลอนดอนในค่ำคืนนี้ยังคงมืดสนิทไร้แสงดาวและแสงเดือนเฉกเช่นที่ผ่านมา หากแต่อะไรบางอย่างกำลังบอกเธอว่า พระเจ้าได้รับหญิงสาวผู้โชคร้ายเข้าสู่อ้อมกอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
30% เดี๋ยวมาแต่งต่อครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ