The Miracle of witches.
8.8
เขียนโดย katzee
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.51 น.
4 chapter
26 วิจารณ์
15.11K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากฝนหยุดตกสองหนุ่มสาวต่างเดินกันเข้ามาภายในบ้านด้วยสภาพเปียกโชก เห็นหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มโตและที่แปลกที่สุดหนังสือที่อยู่บนมือของหล่อนถูกทำขึ้นด้วยเนื้อสัตว์ขนฟูฟ่อง ทำให้เฟรธิเชียนึกสงสัยบ้างเล็กน้อย
“ท่านโดร่า ท่านปรุงยาเสร็จแล้วหรือ” ชามมิงก์ถามพลางถอดเสื้อโค้ทสีน้ำตาลออกมาพาดไว้ที่แขวน
“โอ ใช่ ข้าทำมันเสร็จไปตั้งนานแล้วล่ะ” โดราเธียพูดพลางขยิบตาให้แก่เขา บวกกับหน้าตางงงวยของเฟรธิเชีย แล้วทำไมนางถึงต้องเธอไปถามเอาสมุนไพรจากชามมิงก์ด้วย เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เสียจริงๆโดราเธียต้องการเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่ชายหนุ่มคิด
“มา ข้าจะเดินไปส่งเจ้าเข้านอน” ชายหนุ่มหันตัวไปพูดกับหญิงสาวข้างตัวที่เห็นแววตาประหลาดๆจากเขาและหญิงผู้อาวุโส
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทเธอจึงพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเขาไป พลางกล่าวราตรีสวัสดิ์ให้กับโดราเธียที่ยังแอบส่องดูปฏิกิริยาของเขาและเธอทั้งสอง
“พวกท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า นางแค่ชอบทำให้ข้าหงุดหงิดอยู่เรื่อย” ชามมิงก์ตอบพลางยิ้มก่อนจะผายมือให้เธอเข้าห้อง เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องแล้ว
“งั้นราตรีสวัสดิ์ ขอบคุณที่เดินมาส่งข้า” ใบหน้าอ่อนใสเริ่มซับสีแดงระเรื่อก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป ชามมิงก์ยิ้มให้กับเธอจนบานประตูปิดสนิท
ร่างสูงมองบานประตูบานนั้น ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นกับการที่จู่ๆหญิงงามคนนี้ได้โผล่เข้ามาในชีวิตเขา ราวกับชะตาเล่นตลกกับเขาเสียจริง
เขาสะบัดศีรษะเบาๆก่อนจะเดินตรงถัดไปไม่กี่ห้องก็พบห้องของตน ภายในห้องประกอบด้วยอาวุธนานาชนิดบางอันก็ไว้ใช้สำหรับล่าสัตว์และบางอันก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไว้ป้องกันตัวเองจากสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นต้นไม้มีพิษหรือต้นไม้ที่มีเวทมนตร์ของแม่มดเคลือบไว้เพื่อใช้มันประกาศว่าเป็นของตนเพราะต้นไม้บางชนิดไม่สามารถตายได้ ผลิตผลออกมาได้เรื่อยๆ
แต่เชื่อเลยว่าเขาไม่มีทางเดินผ่านมันไปเพื่อไปหาต้นอื่นหรอกนะ มันมียาถอนคาถาซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาขอให้โดราเธียแม่มดตนเดียวที่สนิทกับครอบครัวเขามากที่สุดมาช่วยเขาในเรื่องพวกนี้และอีกหลายอย่าง รวมไปถึงตำราต่างๆที่เขาอ่านแล้วใช้ที่คั่นหนังสือคั่นไว้ส่วนมากจะเอนเอียงไปทางหนังสือปรัชญา
ร่างสูงทรุดตัวลงโต๊ะทำงานที่มีอยู่ในตัวห้องนอน พลางกุมขมับ เขาจะทำอย่างไรกับหญิงสาวผู้นี้ดี มันอาจจะเป็นคำตอบที่เขาสงสัยอยู่มานานเกี่ยวกับทายาทของแม่มด แต่ภาพใบหน้าของหญิงสาวต่างถาโถมเข้ามาไม่ยั้ง ชามมิงก์ไม่สามารถปิดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปได้เลย เธอผู้นี้กำลังทำให้เขาอ่อนไหว…
ตรงข้ามกับเฟรธิเชีย หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเมื่อหัวถึงหมอนก็ไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ว่าจะหลับไปเสียสนิทแต่กลับนั่งนึกถึงชายหนุ่มอีกคนที่เธอได้มาพบเจอเขาที่นี่ บวกกับโดราเธียหญิงวัยกลางคนที่แววแห่งความเมตตาเมื่อยามที่เธอทอดสายตามองมาที่เธอด้วยความรักเอ็นดูเต็มเปี่ยม
เธอรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ยังดีกว่าและสุขใจกว่ากับบ้านที่แท้จริงของเธอ ตามจริงทำไมเธอไม่ควรตามล่าหาความจริงว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แถมยังมีสิ่งแปลกๆหลายอย่างที่มันควรอยู่ในเทพนิยาย แต่ดันมาปรากฏต่อหน้าเธอราวกับเป็นเรื่องปกติ
“มันเกิดอะไรกับเธอกันแน่นะ” หญิงสาวคิดพลางหมุนปอยผมบลอนด์สวยเล่นก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มดึงมันขึ้นมาคลุมตัวเองและพยายามข่มตานอนในที่สุด
ภาพหมอกหนาปกคลุมไปทั่วพื้นที่ เฟรธิเชียไม่สามารถรู้ได้ว่าที่นี่คือที่ไหน มันกว้างขวาง และเงียบสงัดไม่มีสิ่งที่พอจะเป็นหลักประกันได้เลยว่าเธอกำลังอยู่ในโลกไหนกันแน่ ร่างบางที่อยู่ในชุดนอนตัวบางมีเสื้อคลุมทับอีกหนึ่งชั้นเพื่อกันความหนาวเหน็บ สองเท้าเปลือยเปล่าก้าวเดินและเริ่มรู้สึกนุ่มทันทีที่เท้าเธอขยับ มันเป็นทุ่งหญ้าที่ถอดยาวออกไปไกลจนสุดลูกหูลูกตาหมอกดังกล่าวค่อยๆสลายออกไปเปิดทางให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่าพิศวง
เธอเหลือบมองเห็นปราสาทพระราชวังของตนที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมา เธอรีบสอยเท้าเปล่าเพื่อไปยังสถานที่นั้นบางทีเธออาจจะกำลังฝันอยู่ก็เป็นได้ กับการที่เห็นหญิงวัยกลางคนที่ดูน่าค้นหาและชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในจิตใจเธอมาโดยตลอด บางทีมันอาจจะเป็นแค่ฝันคืนเดียวที่สุดแสนจะเพ้อฝันของเธอก็เป็นได้
ตึง เธอเหมือนอะไรบางอย่างกระแทกเข้าใส่ร่างให้ล้มลง เหมือนมีบานกระจกกั้นตัวเธอออกจากปราสาทหลังนั้น เธอเห็นคนใช้เดินกันขวักไขว่ตามทุ่งหญ้าเพื่อมาทำความสะอาดหน้าปราสาทหลังโต หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนพลางพยายามที่จะไปยังบ้านของตนแต่ก็ไม่เป็นผล
มือเรียวสัมผัสสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกำแพงใสๆที่กั้นเธอเอาไว้หรือกักขังเธอไว้ไม่ให้ออกไป ฝ่ามือทุบสิ่งนั้นระรัวริมฝีปากบางเฉียบตะโกนเผื่อจะมีใครสักคนได้ยินเธอบ้าง มันดูเหมือนเธอเป็นวิญญาณที่ไม่รูปร่าง ราวกับอากาศ ไม่มีใครได้ยินเธอเลย หยาดน้ำตาเริ่มไหลพรากเต็มดวงหน้าสวยก่อนเธอจะทรุดนั่งลงสะอึกสะอื้น
“เฟรธิเชีย เฟรธิเชีย” มีเสียงๆหนึ่งร้องเรียกเธอ พลางรับรู้ถึงแรงสั่นจากการเขย่าตัวจากใครบางคน
เฮือก!!! ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นจากการหลับใหลอย่างตกใจ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณที่ตัวเองอยู่แฝงด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเป็นอะไรไป”
“ช่วยข้าด้วย ท่านต้องช่วยข้า” เฟรธิเชียจับแขนชามมิงก์พลางเขย่าด้วยอาการเสียขวัญ
“ไม่เป็นไร เจ้าปลอดภัย” ชามมิงก์ดึงร่างบางเข้ามาสวมกอด ร่างกายสั่นระริกของเธอทำให้เขาเป็นห่วง ชายหนุ่มมองโดราเธียที่มีสีหน้ากังวลมือหนายังคงลูบเส้นผมยาวสลวยของหล่อนเบาๆอย่างปลอบประโลมถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่
“ท่านโดร่า ท่านปรุงยาเสร็จแล้วหรือ” ชามมิงก์ถามพลางถอดเสื้อโค้ทสีน้ำตาลออกมาพาดไว้ที่แขวน
“โอ ใช่ ข้าทำมันเสร็จไปตั้งนานแล้วล่ะ” โดราเธียพูดพลางขยิบตาให้แก่เขา บวกกับหน้าตางงงวยของเฟรธิเชีย แล้วทำไมนางถึงต้องเธอไปถามเอาสมุนไพรจากชามมิงก์ด้วย เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เสียจริงๆโดราเธียต้องการเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่ชายหนุ่มคิด
“มา ข้าจะเดินไปส่งเจ้าเข้านอน” ชายหนุ่มหันตัวไปพูดกับหญิงสาวข้างตัวที่เห็นแววตาประหลาดๆจากเขาและหญิงผู้อาวุโส
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทเธอจึงพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเขาไป พลางกล่าวราตรีสวัสดิ์ให้กับโดราเธียที่ยังแอบส่องดูปฏิกิริยาของเขาและเธอทั้งสอง
“พวกท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า นางแค่ชอบทำให้ข้าหงุดหงิดอยู่เรื่อย” ชามมิงก์ตอบพลางยิ้มก่อนจะผายมือให้เธอเข้าห้อง เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องแล้ว
“งั้นราตรีสวัสดิ์ ขอบคุณที่เดินมาส่งข้า” ใบหน้าอ่อนใสเริ่มซับสีแดงระเรื่อก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป ชามมิงก์ยิ้มให้กับเธอจนบานประตูปิดสนิท
ร่างสูงมองบานประตูบานนั้น ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นกับการที่จู่ๆหญิงงามคนนี้ได้โผล่เข้ามาในชีวิตเขา ราวกับชะตาเล่นตลกกับเขาเสียจริง
เขาสะบัดศีรษะเบาๆก่อนจะเดินตรงถัดไปไม่กี่ห้องก็พบห้องของตน ภายในห้องประกอบด้วยอาวุธนานาชนิดบางอันก็ไว้ใช้สำหรับล่าสัตว์และบางอันก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไว้ป้องกันตัวเองจากสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นต้นไม้มีพิษหรือต้นไม้ที่มีเวทมนตร์ของแม่มดเคลือบไว้เพื่อใช้มันประกาศว่าเป็นของตนเพราะต้นไม้บางชนิดไม่สามารถตายได้ ผลิตผลออกมาได้เรื่อยๆ
แต่เชื่อเลยว่าเขาไม่มีทางเดินผ่านมันไปเพื่อไปหาต้นอื่นหรอกนะ มันมียาถอนคาถาซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาขอให้โดราเธียแม่มดตนเดียวที่สนิทกับครอบครัวเขามากที่สุดมาช่วยเขาในเรื่องพวกนี้และอีกหลายอย่าง รวมไปถึงตำราต่างๆที่เขาอ่านแล้วใช้ที่คั่นหนังสือคั่นไว้ส่วนมากจะเอนเอียงไปทางหนังสือปรัชญา
ร่างสูงทรุดตัวลงโต๊ะทำงานที่มีอยู่ในตัวห้องนอน พลางกุมขมับ เขาจะทำอย่างไรกับหญิงสาวผู้นี้ดี มันอาจจะเป็นคำตอบที่เขาสงสัยอยู่มานานเกี่ยวกับทายาทของแม่มด แต่ภาพใบหน้าของหญิงสาวต่างถาโถมเข้ามาไม่ยั้ง ชามมิงก์ไม่สามารถปิดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปได้เลย เธอผู้นี้กำลังทำให้เขาอ่อนไหว…
ตรงข้ามกับเฟรธิเชีย หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเมื่อหัวถึงหมอนก็ไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ว่าจะหลับไปเสียสนิทแต่กลับนั่งนึกถึงชายหนุ่มอีกคนที่เธอได้มาพบเจอเขาที่นี่ บวกกับโดราเธียหญิงวัยกลางคนที่แววแห่งความเมตตาเมื่อยามที่เธอทอดสายตามองมาที่เธอด้วยความรักเอ็นดูเต็มเปี่ยม
เธอรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ยังดีกว่าและสุขใจกว่ากับบ้านที่แท้จริงของเธอ ตามจริงทำไมเธอไม่ควรตามล่าหาความจริงว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แถมยังมีสิ่งแปลกๆหลายอย่างที่มันควรอยู่ในเทพนิยาย แต่ดันมาปรากฏต่อหน้าเธอราวกับเป็นเรื่องปกติ
“มันเกิดอะไรกับเธอกันแน่นะ” หญิงสาวคิดพลางหมุนปอยผมบลอนด์สวยเล่นก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มดึงมันขึ้นมาคลุมตัวเองและพยายามข่มตานอนในที่สุด
ภาพหมอกหนาปกคลุมไปทั่วพื้นที่ เฟรธิเชียไม่สามารถรู้ได้ว่าที่นี่คือที่ไหน มันกว้างขวาง และเงียบสงัดไม่มีสิ่งที่พอจะเป็นหลักประกันได้เลยว่าเธอกำลังอยู่ในโลกไหนกันแน่ ร่างบางที่อยู่ในชุดนอนตัวบางมีเสื้อคลุมทับอีกหนึ่งชั้นเพื่อกันความหนาวเหน็บ สองเท้าเปลือยเปล่าก้าวเดินและเริ่มรู้สึกนุ่มทันทีที่เท้าเธอขยับ มันเป็นทุ่งหญ้าที่ถอดยาวออกไปไกลจนสุดลูกหูลูกตาหมอกดังกล่าวค่อยๆสลายออกไปเปิดทางให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่าพิศวง
เธอเหลือบมองเห็นปราสาทพระราชวังของตนที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมา เธอรีบสอยเท้าเปล่าเพื่อไปยังสถานที่นั้นบางทีเธออาจจะกำลังฝันอยู่ก็เป็นได้ กับการที่เห็นหญิงวัยกลางคนที่ดูน่าค้นหาและชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในจิตใจเธอมาโดยตลอด บางทีมันอาจจะเป็นแค่ฝันคืนเดียวที่สุดแสนจะเพ้อฝันของเธอก็เป็นได้
ตึง เธอเหมือนอะไรบางอย่างกระแทกเข้าใส่ร่างให้ล้มลง เหมือนมีบานกระจกกั้นตัวเธอออกจากปราสาทหลังนั้น เธอเห็นคนใช้เดินกันขวักไขว่ตามทุ่งหญ้าเพื่อมาทำความสะอาดหน้าปราสาทหลังโต หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนพลางพยายามที่จะไปยังบ้านของตนแต่ก็ไม่เป็นผล
มือเรียวสัมผัสสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกำแพงใสๆที่กั้นเธอเอาไว้หรือกักขังเธอไว้ไม่ให้ออกไป ฝ่ามือทุบสิ่งนั้นระรัวริมฝีปากบางเฉียบตะโกนเผื่อจะมีใครสักคนได้ยินเธอบ้าง มันดูเหมือนเธอเป็นวิญญาณที่ไม่รูปร่าง ราวกับอากาศ ไม่มีใครได้ยินเธอเลย หยาดน้ำตาเริ่มไหลพรากเต็มดวงหน้าสวยก่อนเธอจะทรุดนั่งลงสะอึกสะอื้น
“เฟรธิเชีย เฟรธิเชีย” มีเสียงๆหนึ่งร้องเรียกเธอ พลางรับรู้ถึงแรงสั่นจากการเขย่าตัวจากใครบางคน
เฮือก!!! ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นจากการหลับใหลอย่างตกใจ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณที่ตัวเองอยู่แฝงด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเป็นอะไรไป”
“ช่วยข้าด้วย ท่านต้องช่วยข้า” เฟรธิเชียจับแขนชามมิงก์พลางเขย่าด้วยอาการเสียขวัญ
“ไม่เป็นไร เจ้าปลอดภัย” ชามมิงก์ดึงร่างบางเข้ามาสวมกอด ร่างกายสั่นระริกของเธอทำให้เขาเป็นห่วง ชายหนุ่มมองโดราเธียที่มีสีหน้ากังวลมือหนายังคงลูบเส้นผมยาวสลวยของหล่อนเบาๆอย่างปลอบประโลมถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ