The Miracle of witches.

8.8

เขียนโดย katzee

วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.51 น.

  4 chapter
  26 วิจารณ์
  15.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ร่างหญิงสาวที่อยู่ในช่วงหลับใหลเมื่อนางฟ้าที่ถูกประทานพรมาโดยพระเจ้า ชามมิงก์นั่งเฝ้ามองเธอข้างเตียงหลังจากที่โดราเธียร่ายเวทให้เธอสงบลง

 

“นางเห็นนิมิตแห่งความทุกข์” หญิงผู้อยู่ในสถานะของการเป็นแม่มดเอ่ยเบาๆ

 

“แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มถามทั้งๆที่ใบหน้าสำรวจใบหน้าอ่อนใสของผู้ที่นอนหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบางสีแดงธรรมชาติ รับกับรูปหน้าเรียวได้รูป นั่นเป็นสิ่งที่เขาปฏิเสธไม่ได้ยามเมื่อเห็นเธอ

 

“อีกโลกหนึ่งที่นางจากมาจะนำพานางกลับไป เพราะนางถูกส่งมาที่นี่มาด้วยเหตุผลบางอย่าง” ชามมิงก์หันหลังเอี้ยวตัวมองผู้ตอบ ก่อนจะมีสีหน้ากังวล นางจะไปไม่ได้ ข้าไม่ยอมให้นางไปแน่

 

“จะเกิดอะไรขึ้น”

 

“ข้ารู้แต่เพียงว่ามันไม่ใช่เรื่องดี ชีวิตของนางจะเปลี่ยนถ้าหากกลับไป” นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองหญิงสาวอีกครั้งเมื่อได้ฟังคำพูดจากการที่โดราเธียเข้าไปในหัวเธอ

 

ชามมิงก์ผุดลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไหล่ตกออกไปจากห้องแต่ยังไม่พ้นประตูโดราเธียได้พูดขึ้นว่า

 

“จะรีบทำอะไรก็ต้องรีบทำ เจ้าอาจจะพลาดมันไปตลอดกาลก็ได้” เขารู้ดีว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร โอกาสครั้งนี้มันจะไม่มีซ้ำสอง

 

แม่มดมองตามหลังชายหนุ่มที่เดินออกไป เธอทรุดตัวลงนั่งข้างหญิงสาวพร้อมกับกุมมือเฟรธิเชียไว้ ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนคลี่ยิ้มเมื่อเธอเองเป็นคนเลี้ยงเธอมา เธอรู้ดีว่าสาวสวยคนนี้กำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก โดราเธียยังยิ้มไม่หยุดกับครั้งแรกที่เธอเห็นสีหน้าของเฟรธิเชียเมื่อแรกเกิดและถูกอ้อมกอดของราชินีโอบล้อมตัวสาวน้อยผู้นี้ไว้

 

เมื่อในครั้งอดีตที่ผ่านมาหยดน้ำตาไหลตกกระทบบนข้อมือระหว่างทั้งสอง โดราเธียถูกฝากให้ดูแลเจ้าหญิงน้อยคนนี้ด้วยชีวิต เธอจะไม่ยอมให้เจ้าหญิงน้อยของเธอเปรอะเปื้อน ไม่มีวัน สาวน้อยคนนี้บริสุทธ์ทั้งกายและใจ ถึงแม้การกระทำอย่างนี้มันจะเสี่ยงเกินไป

 

แสงอาทิตย์ตกกระทบบนใบหน้าเจ้าหญิงเฟรธิเชีย ความรู้สึกจากความอบอุ่นของแสงนั้นทำให้เปลือกตาสวยค่อยๆลืมตาขึ้น ผ้าห่มที่คลุมไว้ร่นออกเมื่อหญิงสาวยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงหนานุ่ม ผมยาวสยายสะท้อนกับแสงอาทิตย์เป็นเงางามประกายสีทองธรรมชาติ

 

ปลายเท้าแตะบนพื้นห้องหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูจากข้างนอก เธอเดินไปหยุดที่หน้าประตู ปลดล็อคกลอนประตูออก

 

“เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลย” ถาดอาหารใบโตเรียงรายไปด้วยอาหารที่ยังไม่ตกถึงท้องเธอเมื่อวาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสเต็กและน้ำผลไม้ จานข้างๆจะเป็นขนมปังแผ่นหนาถูกโรยหน้าด้วยชีสสลับกับโกโก้

 

“ขอบคุณมากท่านโดร่า” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจคนยกมาให้เธอจึงรับไว้พร้อมกับยกมุมปากแสดงรอยยิ้มหวานแต่สายตากวาดมองหาหวังเพื่อที่จะได้เจอชายหนุ่มแวะมาทักทาย อากัปกริยาเช่นนั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของโดราเธีย

 

“ชามมิงก์พาเจ้าม้าเซนต์ไปยืดเส้นยืดสาย” เฟรธิเชียยิ้มอย่างเอียงอายเมื่อหล่อนล่วงรู้ความคิดเธอ

 

“โอ้ ข้ารู้” หญิงสาวพูดเสียงแผ่วขณะลงมือรับประทานอาหารเช้า

 

“เจ้าสามารถออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ อยู่แต่ในบ้านรังแต่จะทำให้เจ้าไม่เก็บตัว ออกไปสูดภายนอกบ้างเถิด”

 

“ข้ารับรอง ว่าข้าจะไม่ป่วยอีกต่อไป” หญิงสาวให้คำมั่นสัญญาก่อนจะเห็นหญิงผู้อาวุโสได้เดินออกไปจากห้องอย่างร้อนรนแต่เธอก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก

 

หลังจากได้จัดการกับมื้อเช้าไปอย่างอิ่มหนำ สาวเจ้าเดินย่ำเท้าฝ่าทุ่งหญ้าที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเป็นสีน้ำตาลอ่อนสูงในระดับเอว กางมือสัมผัสมันไล้ไปเบาๆพร้อมกับแหงนหน้าเงยขึ้นมองท้องฟ้าสีส้มอ่อนๆยามเช้าหวังที่จะพบเจอกับร่างของม้าที่โผบินอย่างสง่างามพร้อมกับผู้บังคับที่สุดแสนจะเก่งกล้าในทุกๆด้านทางแรงงานและปัญญาเช่นเขา

 

ทรงผมที่ถูกปล่อยสยายท้าลู่ลมเป็นเกลียวคลื่นเล็กๆพร้อมกับรอยยิ้มจากริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างน่าสัมผัสลิ้มลองแต่ทว่า

 

“ความมืดแผ่ปกคลุมมาแล้ว เราควรจะอพยพหนีอีกครั้ง” เสียงแหลมเล็กน่ารักดังขึ้นมา เฟรธิเชียเอี้ยวตัวหันตามเสียงว่ามันอาจจะอยู่พื้นที่ในระยะไม่ห่างจากเธอเกินหนึ่งเมตร ว่าแต่มันมาจากที่ไหนกัน

 

การก้าวเท้าหยุดชะงักท่ามกลางทุ่งหญ้าที่เอนเอียงตามกระแสลมอยู่ชั่วครู่ หญิงสาวก้มหน้าลงมาเผื่อมันอาจมาจากพื้นล่างแต่ก็ยังได้ยินมันอย่างคลุมเครือ

 

“เราจะทำอย่างไรได้ ไม่มีใครที่จะสามารถปกป้องดินแดนนี้ได้เลย เห็นว่าพวกนั้นจับแม่มดที่อุทิศตนเพื่อธรรมชาติไปเป็นพวกของตน” เสียงแหลมเล็กๆอีกเสียงดูจริงจังกล่าวขึ้น

 

“พวกมันช่างโหดร้าย แล้วเราจะต้องโดนจับกินด้วยหรือเปล่า”

 

“เรื่องนั้น ข้าไม่อาจรู้ได้ พวกมันรวมพลคนได้เร็วมาก” อีกเสียงที่ดูจริงจังบอกอย่างไม่แน่ใจ

 

“รีซ”

 

“มีอะไร”

 

“รีซ!!”

 

“เจ้ามีอะไรก็พูดมาสิ”

 

“นะนางหะเห็น”

 

ว้ากก เสียงตกใจดังขึ้นอย่างแสบแก้วหูเมื่อเจ้าหนูตัวน้อยที่ใส่เสื้อผ้าฉีกขาดผุดออกมาจากโพรงหญ้าที่ใช้เป็นที่อำพรางพวกเขามาก่อน ตอนนี้มีการวางแผนว่าพวกเขาจะต้องลงใต้ดินซะแล้ว

 

“พวกเจ้าอีกแล้วเหรอ” เฟรธิเชียถามเสียงใสก่อนจะพยายามยื่นมือเพื่อมาสัมผัสว่าสัตว์ตัวน้อยสองตัวนี้คือของจริง

 

ความนุ่มที่สัมผัสจากปลายนิ้วทำให้เธอรู้ได้ว่าจริงๆแล้ว นี่คือหนูพูดได้ในเวลาเพียงชั่วครู่เพราะเจ้าหนูตัวขนสีน้ำตาลนามว่ารีซถอยกร่นเข้าไป

 

“เฮ้ ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า” หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงโดยไม่ถือตัวรอยยิ้มหวานที่เหมือนเป็นตัวแทนของความสดใสทำให้ผู้พบเห็นต่างเคลิบเคลิ้มไปในทันที

 

หนูสองตัวคู่ซี้ตกตลึงในความงามที่แสนจะสดใสซึ่งไม่ได้พบเห็นมาช้านานแล้วในดินแดนที่เคยมีแต่ความสุขแต่ที่นี่มันคงไม่ใช่อีกต่อไป

 

“เจ้าเป็นมนุษย์ บางทีเจ้าอาจจะเป็นสายให้กับแม่มดก็ได้” หนูตัวสีขาวอีกตัวเอ่ยขึ้นน้ำเสียงบ่งบอกถึงความหวาดผวาได้ชัดเจน

 

“แม่มดเหรอ ใช่ ใช่สิ” สิ้นประโยคหนูสองตัวร้องว้ากขึ้นพร้อมกันและพยายามจะมุดลงดินแต่เฟรธิเชียกับดึงทั้งสองไว้

 

“ปล่อย ข้านะอย่ากินข้าเลย ข้ามีโรค ข้าสกปรก เจ้าคงกินข้าไม่ได้หรอก” รีซส่งเสียงร้องพร้อมกับที่หนูตัวขาวอีกตัวตัวสั่นระริก เธอจึงวางทั้งสองลงพื้นหญ้าดังเดิมด้วยสีหน้าตกอกตกใจ

 

“ข้าไม่ได้จะกินพวกเจ้าซะหน่อย และใช่ที่ข้ามีแม่มดแสนจะใจดีและนางก็ไม่ได้โหดร้ายอย่างที่พวกเจ้าว่าซะหน่อย” เฟรธิเชียกล่าวพลางยิ้มหน้าละห้อยเมื่อเธอยังไม่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับหนูสองตัวได้เลยซักที

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา