The Sun and Satan..ดุจตะวันกับซาตาน
เขียนโดย kinkmj
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 09.50 น.
แก้ไขเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 10.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) The Sun and Satan ดุจตะวันกับซาตาน Ch.6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- Chapter 6 -
:: สถาบันเทลไฟร์ ::
เด็กสาวร่างเล็กเงยหน้ามองประตูโค้งที่มีตราต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านโดดเด่นอยู่บนจุดสูงสุด ร่างบางสูดหายใจลึก ระงับความตื่นเต้นภายใน ปล่อยให้หางกับหูสีเงินปรากฏออกมาอย่างสบายใจ แล้วจึงเดินเข้าไปสู่โลกใหม่ที่รออยู่ตรงหน้า
สถานที่แห่งนี้ดูมีสถาปัตยกรรมคล้ายทำเนียบขาว[1]ที่ซันเคยเห็นในโทรทัศน์มากจนไม่รู้ใครลอกใคร เพียงแต่ทั้งอาคารนั้นเป็นสีดำทั้งหมด และมีป้อมปราการก่อด้วยอิฐสีแดงหลังคาปลายแหลมตั้งล้อมรอบ สองฝั่งปูพื้นหญ้าสีเขียวเข้มเต็มพื้นที่เว้นส่วนของอาคารและทางเดิน
ในจุดที่เธอกำลังยืนอยู่นั้นดูจะห่างจากอาคารกลางหรือทำเนียบสีดำมากพอสมควร เพราะจิ้งจอกสาวมองเห็นมันได้ลิบ ๆ เท่านั้นเอง
สองข้างทางของถนนทางเดินจะมีซุ้มตั้งขายอาหารและอุปกรณ์การเรียนเรียงรายเหมือนกับตามโรงเรียนในโลกมนุษย์ จะต่างกันก็คือคนขายหน้าตาประหลาดสักหน่อย บางคนเป็นหัวเป็นวัวแต่มีเขาสามเขาบนศีรษะ หรือมีส่วนบนเป็นคนแต่มีหูและส่วนล่างแบบแพะ ซันหยุดดูร้านขายบาบีคิวที่คนขายเป็นปีศาจสามตาที่ใช้ซาลาแมนเดอร์[2]ตัวเล็กพ่นไฟแทนการใช้ถ่านบนเตาย่าง
โอเค กลิ่นมันก็หอมอยู่ แต่ดูแล้วไม่ทำให้อยากอาหารเลย
‘ประกาศ ปี1ทุกคนกรุณามาเข้าแถวที่ห้องโถงกลางในสิบนาที ย้ำ นักเรียนปี1ทุกคน กรุณามาเข้าแถวที่ห้องโถงกลางภายในสิบนาที’
เสียงประกาศดังสนั่นขึ้นระหว่างที่กำลังเดินดูของเพลิน ๆ ทำให้ซันขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง หันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ
สิ่งที่ปรากฏในสายตา…คือทางเดินด้านหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นทางตรงเข้าสู่อาคารตรงกลางได้ แต่ซันกลับมีลางสังหรณ์แปลก ๆ เหมือนว่าไม่ควรไปทางนั้น แต่ก่อนจะได้คิดอะไรต่อ ก็เห็นกลุ่มคนกำลังวิ่งไปตามทางที่เธอลังเล จึงตัดสินใจเข้ากลุ่มวิ่งไปด้วย...อารมณ์พวกมากลากไป แจมไปก่อนคงดีกว่ายืนเฉย ๆ อยู่คนเดียว
แต่บังเอิญว่าปลายสายตาดันเหลือบไปเห็นพวกนักเรียนชั้นปีสูงกว่าจับกลุ่มยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และเกือบทุกคนมีรอยยิ้มแปลก ๆ คล้ายเยาะหยันในที
มันชักจะแปลก ๆ
ไม่รู้ทำไม ซันเผลอล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อพบว่าในนั้นมีลูกแก้วจิตทิพย์ที่ตัวเธอเองแน่ใจว่าน่าจะไม่ได้นำติดตัวมาด้วย ปีศาจสาวใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือคีบมันออกมาดู ขายังคงสับวิ่งรวมกับนักเรียนปีหนึ่งคนอื่น ๆ
วินาทีต่อมาลูกแก้วก็ฉายเส้นพลังสีขาวชี้ออกไปราวกับเป็นการนำทาง...แต่ทางที่แสงส่องไปนั้นเป็นคนละทิศกับที่พวกเธอกำลังวิ่งไปอย่างมุ่งมั่น
เชื่อได้ใช่ไหม
คำถามในใจที่ไม่คิดรอคำตอบ ซันค่อย ๆ ขยับออกจากแถวแล้วหมุนตัวเตรียมวิ่งไปตามทางที่อาวุธประจำตัวบอกแทน
"เดี๋ยว ! เธอจะไปไหนน่ะ" เสียงหนึ่งดังขึ้น เรียกให้จิ้งจอกสาวหันกลับไปมอง พบว่าเด็กหนุ่มหน้าตี๋แต่ดูดีใช้ได้ มีสไตล์เหมือนไอดอลเกาหลีแถมยังมีหูสีน้ำตาลขนฟูแลดูน่าจับเล่นอยู่บนศีรษะที่เซ็ตทรงผมมาอย่างดี
ใบหน้านั้นฉายความอารมณ์ดีและไร้วี่แววความเหนื่อยหอบ จากที่ซันมองดูแล้วคาดว่าคงเป็นปีศาจจำพวกสุนัข
"ฉันคิดว่า มันไม่น่าจะใช่ทางนั้นน่ะ" สาวผมแดงบอก “เลยกะจะไปอีกทาง” เธอว่าต่อ แต่ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้จากไอดอลเกาหลีตรงหน้า ก็มีอีกเสียงแทรกเข้ามาก่อน
"เธอรู้ได้ไงน่ะ" ผู้หญิงอีกคนที่วิ่งผ่านมาได้ยินพอดีหยุดวิ่งแล้วเข้ามาถาม
"ก็...ความรู้สึกมันบอก" ด้วยความที่ไม่คิดอยากอธิบายถึงเรื่องลูกแก้ว จึงตอบแบบขอไปที เพราะยังไงเธอก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะเชื่อหรือไม่อยู่แล้ว
"แต่เขาไปทางโน้นกันหมดและถ้าเราไม่รีบวิ่งตามไปก็จะโดนทิ้งแล้วนะ"เด็กสาวคนนั้นพูดต่อ ดวงตาสีเหลืองอำพันที่มีแววตาขีดเป็นเส้นตรงเหมือนนัยน์ตาแมวของเธอกวาดมองซันอย่างประเมิน
เธอคนนี้มีผิวสีแทน รูปร่างปราดเปรียว ใบหน้าเชิดหยิ่งในที หูกับหางเป็นสีดำแต่มีลักษณะแตกต่างจากของซัน
จากลักษณะแล้วคงเป็นประเภทแมว
"เอาเถอะ ๆ ถ้าพวกนายไม่ไปก็ไม่เป็นไร ฉันว่าฉันจะลองไปทางนี้ดู” ซันชี้ไปทิศทางที่ลูกแก้วส่องแสง จากนั้นเลื่อนมือชี้ไปอีกทางที่คนอื่นวิ่งนำหน้าไปแบบเริ่มทิ้งห่าง “อย่างมากก็คงแค่ช้ากว่าคนอื่นหน่อย ยังไงตอนนี้ก็วิ่งรั้งท้ายแล้วนี่"
"ฉันเอาด้วย" หนุ่มไอดอลเกาหลีให้คำตอบ
"ฉันไปด้วยก็ได้" เด็กสาวผิวแทนพูดเสียงห้วน เชิดหน้านิด ๆ “ยังไงฉันก็รำคาญที่จะต้องวิ่งไปตามทางแออัดแบบนั้นอยู่แล้ว”
สุดท้ายทั้งสามคนก็วิ่งไปอีกทางหนึ่งแยกจากคนอื่น ๆ ซึ่งแท้จริงแล้วเส้นทางที่ซันวิ่งไปนั้นคือเส้นทางตรงที่คนอื่น ๆ มองเห็น เว้นก็แต่เด็กปีหนึ่งทั้งหมด เพราะถูกเวทชนิดมายาจากเสียงประกาศนั้นทำให้สับสนและมองเห็นอีกทางเป็นทางตรงเสียแทน
ทางที่คนอื่น ๆ วิ่งไปคือทางที่ต้องอ้อมปราการทั้งหกรอบ ๆ ก่อนแล้วจึงมาบรรจบลงที่อาคารกลาง
ส่วนคนที่ไม่ใช่เด็กปีหนึ่งก็จะมองเห็นเส้นทางจริง แต่ไม่มีใครบอก เพราะการดูปีศาจน้องใหม่วิ่งวนไปวนมาเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของพวกรุ่นพี่ที่เคยถูกแกล้งมาก่อน ซึ่งแต่ละปีนั้นการรับน้องจะแตกต่างกันไป ภาพการเปิดภาคเรียนเช่นนี้จึงกลายเป็นภาพชินตากันในทุก ๆ ปี
ไม่กี่นาทีต่อมากลุ่มของซันก็มาถึงอาคารกลางที่ดูเหมือนทำเนียบสีดำได้โดยยังไม่ทันมีเหงื่อ
“ใกล้จริง ๆ เลยนะ แต่ไม่รู้ทำไมตอนแรกฉันถึงมองไม่เห็นทางนี้เลย” เด็กหนุ่มหน้าตี๋พูดเมื่อมาถึงที่หมายได้สำเร็จ หางสีน้ำตาลเข้มฟูสะบัดไปมา
“คงเป็นเวทมายาชั้นสูง เพราะมันมีผลกับฉันด้วย” เด็กสาวนัยน์ตาแมวตอบ สะบัดผมบ๊อบสีดำให้พ้นจากใบหน้า หางยาวเรียวสีดำของเธอชี้มาที่ซัน “เธอรู้ได้ยังไงน่ะว่าต้องมาทางนี้”
“ฉันก็แค่รู้สึกได้อะไรประมาณนั้น มาถึงเร็วก็ดีแล้วนี่”คนถูกถามตอบปัด ๆ แมวสาวดูไม่พอใจกับคำตอบที่ได้เท่าไรนัก แต่ก็ไม่ซักไซ้ต่อ เพียงแต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างหงุดหงิด
“อ้อ...ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวสินะ ฉันชื่อนิค ไลแคนเป็นหมาป่า” เด็กหนุ่มสไตล์เกาหลีหันมาทางซันพร้อมกับแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร เขายิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวแหลม
ซันยิ้มรับความเป็นมิตรนั้นก่อนจะตอบกลับ
“ดุจตะวัน มณีรัตน์ เรียกซันก็ได้ ฉัน เอ่อ...จิ้งจอกขาว แต่ก็อย่างที่เห็น ขนฉันเป็นสีเงิน”
“เห...จิ้งจอกขาวขนเงิน ถ้างั้นฉันถามอะไรหน่อยสิ” หมาป่าพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย ทำให้คนฟังเลิกคิ้วสูง
“ฉันเคยได้ยินอยู่คนนึง พวกมนุษย์พูดกันน่ะ เธอแนะนำให้รู้จักหน่อยได้เปล่า”
“เอ...ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักใครนอกจากพ่อนะ”ซันตอบกลับอย่างไม่มั่นใจนัก “ไหนนายลองบอกชื่อมาสิ ไว้ฉันจะไปถามให้”
“อินุยาฉะ[3]น่ะ” หมาป่าหนุ่มบอกด้วยเสียงจริงจังจนคนฟังหัวเราะพรืด
อยากจะตบหัวหมอนี่จริง ๆ เลย ให้ตายเถอะ
“นี่นายพูดจริงหรือพูดเล่นน่ะ”
“ก็ต้องจริงอยู่แล้วสิ! เธอจะแนะนำให้ฉันได้ไหม เห็นว่าเก่งนักเก่งหนา อยากรู้ว่าจะสู้นิค ไลแคนได้หรือเปล่า”
ยังไม่ทันที่ซันจะได้ตอบอะไรอีก ปีศาจแมวดำก็ขัดขึ้นด้วยเสียงห้วน ๆ อย่างหงุดหงิด
“ถ้าจะเอาแต่คุยกันตรงนี้ ฉันเข้าไปละนะ อยากเข้าสายกันก็ตามใจ” เธอเหลือบมองด้วยหางตา ก่อนจะใช้มือสะบัดเส้นผมแล้วเดินเชิดหน้าเข้าไปในอาคารทันที
“รีบไปกันเถอะ ไว้คุยกันอีกที” ซันหันมาพูดเร็ว ๆ กับหนุ่มหมาป่า แล้วก้าวเท้าตามหลังเด็กสาวขี้หงุดหงิดไปบ้าง
“อ้าว เดี๋ยวสิ ซัน เธอจะแนะนำอินุยาฉะให้ฉันรู้จักใช่ไหม” นิควิ่งตามมาด้วย แถมยังไม่หยุดเซ้าซี้ถามเรื่องเดิมแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว
“โอเค โอเค ไว้จะแนะนำให้รู้จักนะ”ซันตอบพลางกลั้นหัวเราะเต็มที่
ไว้จะให้นายยืมไปอ่านครบชุดเลย นิค
ดูเหมือนเพราะได้คำตอบเป็นที่พอใจ หมาป่าจึงเงียบเสียงและยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ทั้งสามเดินผ่านพื้นหินอ่อนหน้าทำเนียบจนมาถึงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นทางเข้าของห้องโถงกลางได้ในที่สุด
“นายน่ะ เป็นผู้ชายก็ไปเปิดสิ” เจ้าของนัยน์ตาอำพันหันมาสั่งปนแขวะหมาป่าที่อารมณ์ดีเกินหน้าเกินตา
“โอเค” เขาเดินไปดันประตูบานใหญ่เปิดออกโดยไม่ลังเล ซึ่งไม่รู้ว่ามันใหญ่ด้วยขนาดที่มองเห็นแต่ไม่หนัก หรือปีศาจหมาป่ามีแรงมหาศาลกันแน่ เพราะเขาสามารถดันประตูที่สูงเกือบสามเมตรเปิดได้สบาย ๆ เหมือนเปิดหน้าต่างห้องนอน
แสงสว่างด้านในแผ่ออกมาทำให้แสบตาจนต้องหรี่ตามอง พอเริ่มปรับสายตาเป็นปกติได้ ทั้งสามก็ต้องหันมามองหน้ากัน
ไม่มีใครเลย!
ในห้องโถงกว้างขวางนั้นเป็นเพียงห้องโล่ง ๆ ที่มีพื้นสีดำขัดจนเงาวาว และมีโคมไฟระย้าสวยงามแบบศิลปะยุคก่อนห้อยลงมาจากเพดานสูง
"ทำไมไม่มีใครเลยล่ะ หรือพวกเราจะมาผิดที่" แมวสาวพูดขึ้นก่อนอย่างหงุดหงิด ตวัดปลายสายตามาที่ซันทันที
"แต่ฉันว่าที่นี่แหละ ไม่ผิดแน่" นิคบอก ทำจมูกฟุดฟิดแบบสุนัข "ฉันว่าฉันได้กลิ่นเหมือนภูตน้ำแถวนี้"
ซันไม่พูดอะไรแต่ลองพยายามดมกลิ่นในอากาศดูบ้างและเป็นจริงตามที่เขาบอก เพียงแต่เธอได้กลิ่นหอมจาง ๆ คล้ายดอกโมกที่เธอชอบนักไม่ใช่กลิ่นของภูตน้ำ
ซาตานอยู่ที่นี่ด้วย
ในตอนนั้นพวกนักเรียนคนอื่น ๆ ก็วิ่งมาถึง แต่ละคนดูละเหนื่อยแสนสาหัสเหมือนวิ่งมาราธอนนรกมาหมาด ๆ เกือบทุกคนถอดเสื้อคลุมตัวนอกมาถือไว้เหลือเพียงเสื้อสีดำตัวในชุ่มไปด้วยเหงื่อเหนียวเหนอะ เสียงหอบหายใจกับเสียงบ่นอย่างหมดแรงคละเคล้าไปทั่ว นักเรียนหญิงบางคนถึงกับมีคนช่วยหิ้วปีกเข้ามาเลยทีเดียว
"ยินดีด้วยที่มาถึงกันครบทุกคน"
เสียงก้องกังวานที่จำได้ว่าเป็นคนเดียวกับเสียงประกาศเรียกนักเรียนปีหนึ่งดังขึ้น เธอมีใบหน้างดงามแต่ฉายแววดุ ร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดสีฟ้าอ่อนยาวกรอมเท้า
วินาทีต่อมาห้องโล่ง ๆ ก็กลายเป็นห้องที่มีพื้นยกสูงไล่ระดับเหมือนห้องประชุมสภา
เด็กปีหนึ่งทั้งหมดยืนอยู่ล่างสุดของพื้นที่ไล่ระดับรวมถึงหญิงสาวในชุดสีฟ้าก็เช่นกัน เบื้องหลังของเธอมีโพเดี้ยมสูงที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาตั้งเรียงรายเป็นลำดับขั้นขึ้นไป เก้าอี้เกือบทุกตัวมีผู้นั่งอยู่ ซึ่งซันเดาได้ว่าคนเหล่านั้นน่าจะเป็นเหล่าคณาจารย์
แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นด้านบนสุดของลำดับขั้นทั้งหมด
บัลลังก์สีดำที่มีชายหนุ่มในชุดสีดำสนิทนั่งไขว่ห้างอยู่ ความงามที่ไม่มีใครเปรียบ และรัศมีเย็นชาที่แผ่ออกมานั้นกลับเป็นสเน่ห์อันดึงดูดให้ใคร ๆ อยากไขว่คว้าหามากกว่าจะหลีกหนี
นั่นคือซาตาน
ข้างขวาของบุรุษสูงศักดิ์มีชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ ใบหน้าของเขาดูนุ่มนวลด้วยรอยยิ้มสุภาพ เส้นผมสีบลอนด์หม่นถูกเสยขึ้นเรียบดูสะอาดสะอ้าน ร่างสมส่วนสวมเสื้อสูทสีเขียวเข้ากับดวงตาสีเดียวกันและสวมกางเกงแสล็คสีดำ ทุกอย่างของปีศาจผู้นี้ขับให้เขาดูคล้ายสุภาพบุรุษเมืองอังกฤษ
"เอาล่ะ ปีหนึ่งทั้งหมด เข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง เดี๋ยวนี้ ! " เสียงดุจากหญิงสาวที่ชั้นล่างสุดสั่ง ทำให้ซันละสายตาออกจากบริเวณบัลลังก์ข้างบน แล้วรีบกุลีกุจอแทรกเข้าแถวกับเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปอย่างรวดเร็วปนชุลมุน
"ฉันชื่อ เอลลี่ เป็นครูฝ่ายปกครองของพวกเธอ ฉันจะเป็นผู้คอยดูแลและควบคุมความสงบเรียบร้อยของพวกเธอทั้งหมด ฉันคงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าที่นี่คือสถาบันอันยิ่งใหญ่ และพวกเธอ เธอ เธอ” สายตาคมกริบสีฟ้าจางกวาดมองใบหน้าของเด็กปีหนึ่งทุกคนอย่างทั่วถึง“พวกเธอจะต้องไม่ทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่นี้แปดเปื้อน จะต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด ฉันหวังว่าพวกเธอคงเข้าใจ”
ระหว่างที่อาจารย์เอลลี่ร่ายยาว ซันก็เพิ่งมองเห็นชัด ๆ ว่าครูสาวคนนี้มีหูเป็นลักษณะเหมือนครีบปลา ซึ่งน่าจะเป็นลักษณะของพวกภูตน้ำ กลิ่นที่นิคบอกนั่นคงเป็นกลิ่นของเธอนี่เอง
ขณะเดียวกันนั้นเด็กนักเรียนอีกสองกลุ่มเดินเรียงแถวกันเข้ามา กลุ่มที่มีจำนวนมากกว่านั้นคงจะเป็นปีสองและปีสาม ส่วนอีกกลุ่มคงเป็นนักเรียนชั้นปีสี่เพราะเครื่องแบบจะมีสีสันและลักษณะแตกต่างกันไปตามธาตุ
ทั้งสามกลุ่มแยกกันไปยังที่นั่งในชั้นที่อยู่ต่ำลงมาจากพวกอาจารย์ แบ่งเป็นสามแถว ซันคิดว่าคงเป็นการนั่งโดยเรียงตามลำดับชั้นปี อย่างไรก็ตาม พวกรุ่นพี่ปีศาจดูจะให้ความสนใจกับน้องใหม่กันทุกคน
สายตาแปลก ๆ ปนขบขันพวกนั้นมันอะไรกัน
“วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเธอได้เข้ามาอยู่ที่นี่ สถาบันอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ เพราะฉะนั้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เราจะมีการคัดเลือกหัวหน้าชั้นปีออกมาหนึ่งคนเสียก่อน” ภูตสาวพูดต่อ “ใครที่ต้องการเป็น‘หัวหน้า’ให้ออกมาตรงนี้ คนที่มายืนที่วงกลมนี่ได้เป็นคนแรกจะได้ตำแหน่งนี้ไป” นิ้วเรียวกรีดนิ้วเป็นรูปวงกลมด้านข้างจุดที่ยืนอยู่ แล้วพื้นหินอ่อนขัดมันก็ปรากฏเป็นแสงสีฟ้ารูปวงกลมขึ้นมา
คำพูดเหล่านั้นเรียกเสียงฮือฮาเซ็งแซ่ในหมู่น้องใหม่ได้ทันที
จิ้งจอกสาวหันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ รู้สึกได้ถึงกระแสความกระหายอำนาจตลบอบอวลไปทั่ว มันคงเป็นนิสัยของปีศาจส่วนมากที่อยากอยู่เหนือคนอื่น …แต่สำหรับซันแล้ว บรรยากาศรอบ ๆ นี่ก็ไม่ต่างกับเด็กวัยรุ่นกำลังจะยกพวกตีกันสักเท่าไรนัก
ถัดจากปีศาจสาวไม่ไกลคือนักเรียนชายผมทรงสกินเฮด มีเขาโง้งปลายแหลมคู่ใหญ่บนศรีษะ จมูกมีห่วงสีเงินห้อยอยู่ แขนสองข้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นจนห็นเส้นเลือดปูดโปน เด็กหนุ่มกำลังทำท่าจะเหวี่ยงหมัดใส่ใครก็ตามที่พยายามจะชิงตำแหน่งหัวหน้าชั้นปี พอเห็นแบบนั้น นักเรียนชายผิวขาวซีดที่ยืนอยู่ติด ๆ กันก็เริ่มแยกเขี้ยวขาวโง้งออกมาบ้าง และด้วยเหตุฉะนี้เอง คนอื่น ๆ เลยเริ่มมีทีท่าจะร่วมวงด้วย บ้างก็กลายร่าง บ้างก็เรียกอาวุธประจำตัวมาถือไว้ในมือ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครขยับออกไปด้านหน้าแม้แต่คนเดียว
เปิดเทอมใหม่หัวใจว้าวุ่นจริงเชียว เด็กสาวบ่นในใจ
“ซัน เธอว่าไง” นิคกระซิบ คนถูกถามหันขวับไปมอง
“ห๊ะ ? อะไรว่าไง”
“ก็ เธอว่าเอายังไงดี จะไปลุยแย่งตำแหน่งไหม” หมาป่าสไตล์เกาหลีถามต่อ
“ลุย ? ตำแหน่งลำบาก ๆ พวกนี้จะไปแย่งมาทำไมล่ะ เหมือนเอาหินมาแบกไว้บนบ่านั่นแหละ นายคิดดูสิ หัวหน้าชั้นปี ชื่อฟังดูดี แต่เชื่อฉันไหม ถึงเวลามีงานอะไร อาจารย์ก็ต้องสั่งผ่านหัวหน้า ให้หัวหน้ามากระจายข่าว ต้องมาคอยสั่งเพื่อน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น งานไม่เสร็จ ของหาย ใครป่วย ก็ต้องรับผิดชอบอีกทั้งที่ไม่ใช่เรื่องตัวเอง” ซันร่ายยาวด้วยน้ำเสียงสุดเบื่อหน่าย เพราะเมื่อตอนเรียนมัธยมต้นเธอก็ถูกยัดเยียดให้รับหน้าที่หัวหน้าห้องมาแล้วโดยไม่เต็มใจนัก
“อีกอย่างนะ วันดีคืนดี ถ้ามันมีงานในสภานักเรียนอะไรเทือกนี้ แทนที่นายจะได้เอาเวลาไปเที่ยว ไปนอน ไปจีบสาว นายก็ต้องมานั่งเข้าประชุม จากที่นายมีการบ้านเยอะแล้ว ก็จะมีงานในสภาเพิ่มเป็นพิเศษสำหรับหัวหน้าผู้สูงส่ง แถมเงินก็ไม่ได้ คะแนนพิเศษก็ไม่น่าจะมี แล้วแบบนี้นายจะ...”
จิ้งจอกสาวพรรณนาโวหารยาวเหยียดชื่นชมตำแหน่งหัวหน้าชั้นปีแบบไม่มีชิ้นดีด้วยความลืมตัว แต่ดูเหมือนเสียงของเธอจะดังไปหน่อย เพราะรอบ ๆ นั้นค่อนข้างเงียบตั้งแต่ก่อนที่นิคจะถามเสียอีก ทำให้สายตาทุกคู่มองมายังเด็กสาวผมแดงเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มเขาวัวกับหนุ่มเขี้ยวยาวก็ชะงักค้างมองเธอด้วย
“...อยากเป็นอีกหรือ” จบประโยคด้วยเสียงเบาหวิว หูและหางสีเงินลู่ลงช้า ๆ ดวงตาสีน้ำตาลทองค้อนขวับใส่หมาป่าข้าง ๆ แต่ก็ได้แค่รอยยิ้มขำกับคำพูดสั้น ๆ ตอบกลับมาอย่างไร้ความรับผิดชอบ
“ก็เห็นกำลังเพลิน ฉันก็เผลอฟังเพลินไปด้วย โทษทีนะ...”
“งั้นเอาเป็นว่า คุณดุจตะวัน เธอก็เป็นหัวหน้าชั้นปีเสียเลยแล้วกันนะ เพราะดูเหมือนคุณจะทราบดีเกี่ยวกับตำแหน่งนี้” อาจารย์เอลลี่พูดเสียงเย็นชา แต่ซันก็ตาไวพอจะมองเห็นประกายขบขันในดวงตาสีฟ้าจางของหญิงสาว
เสียงฮาครืนดังมาจากกลุ่มของรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ด้านบนทันทีที่จิ้งจอกสาวได้รับสถาปนาอย่างไม่เต็มใจ
ซันขมวดคิ้วแน่น หน้ามุ่ยด้วยความหงุดหงิด นึกอยากจะตบปากตัวเองที่ดันเผลอพูดพล่อย ๆ ออกไป
“ค่ะ...” เด็กสาวตอบรับเสียงแผ่ว ในใจอยากจะกรี๊ดให้สุดเสียง แต่ก็ถอนหายใจแล้วก้าวเท้าออกไปข้างหน้า เธอเข้าไปยืนตรงกลางของวงกลมสีฟ้าที่ส่องแสงเรืองรองบนพื้นหินอ่อนขัดเงา แล้วไม่กี่วินาทีต่อมามันก็จางหายไป พร้อมกับปลอกแขนสีทองปรากฏขึ้นมารอบต้นแขนของซันซึ่งเธอเข้าใจว่ามันคงเป็นสัญลักษณ์ของหัวหน้าชั้นปี
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ได้หัวหน้าชั้นปีหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นการกล่าวต้อนรับจากท่านราชาปีศาจของพวกเรา” เอลลี่ประกาศก้อง ร่างสูงโปร่งก้าวถอยหลังเชื่องช้าแต่มีพลัง หญิงสาวผายมือไปยังบัลลังก์ด้านบน...บัลลังก์ที่มีชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์นั่งไขว่ห้างอยู่
ปีศาจทั้งหมดภายในห้องโถงลุกขึ้นโค้งคำนับให้แก่ราชันของคน ซันทำตามอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยไม่เคยเข้าพิธีแบบนี้มาก่อน แม้แต่ในตอนที่เจอซาตาน เธอก็ไม่เคยแสดงความเคารพอะไรเช่นนี้
พอมาอยู่ตรงนี้ ที่นี่ ในตอนนี้ มันทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของเขาขึ้นมาจริง ๆ
“นับจากนี้พวกเจ้าคือส่วนหนึ่งของเทลไฟร์” เสียงทุ้มมีอำนาจเอ่ยประโยคสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่กังวานไปถึงจิตใจของผู้ฟัง
รวมถึงจิ้งจอกสาวด้วยเช่นกัน… เธออดยกยิ้มบาง ๆ ไม่ได้ เมื่อสามารถตีความคำพูดของราชาปีศาจได้อย่างชัดเจน
ยินดีต้อนรับสู่เทลไฟร์
---------------------------------------
[1] ทำเนียบขาว หรือ ไวท์เฮาส์ เป็นที่อยู่และสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1792 ถึง ค.ศ. 1800 ในสไตล์จอร์เจียนยุคหลัง มีพื้นที่ใช้สอยรวม 55,000 ตารางฟุต (5,100 ตร.ม.) มีห้องทั้งหมด 132 ห้อง
[2] เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำขนาดเล็กหน้าตาคล้ายกิ้งก่า ชอบอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ
[3] อินุยาฉะคือพระเอกในหนังสือการ์ตูน(มังงะ)และการ์ตูนแอนิเมชัน(อะนิเมะ)เรื่องอินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน โดย รูมิโกะ ทาคาฮาชิ (Rumiko Takahashi) ซึ่งอินุ แปลว่า สุนัข และ ยาฉะ แปลว่า ปีศาจ หรือวิญญาณ ดังนั้น คำว่า อินุยาฉะ แปลตามตัวอักษรว่า ปีศาจสุนัข
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ