รักในสายรุ้ง love rainbow

-

เขียนโดย rainbows

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 12.05 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,822 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 12.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พี่คิว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
1
          ออดดดดดดดดดดดด!
          “นี่พวกแก ฉันไปก่อนนะ วันนี้รีบ แล้วเจอกัน” พูดยังไม่ทันจบฉันก็วิ่งหนีหายออกไปจากห้องเรียนทันที โดยไม่รอฟังที่เพื่อนกำลังอ้าปากพูดให้จบประโยค
“นี่แก เฮ้ย! เดี่ยว...” ฉันฟังทันเพียงเท่านี้ แล้วก็มุ่งหน้าวิ่งต่อไป ฉันเก็บของเสร็จตั้งแต่เมื่อ 5 นาทีก่อนจะหมดเวลาด้วยซ้ำ ถึงแม้ปกติฉันจะเก็บของก่อนหมดเวลาทุกครั้ง แต่วันนี้ฉันรีบจริงๆ
ทันทีที่วิ่งออกมาถึงหน้าโรงเรียนฉันก็หยุดวิ่งและค่อยๆเดินไปยังสถานที่ที่ตั้งใจไปในตอนแรก ที่ฉันต้องวิ่งหนีบรรดาเพื่อนที่น่ารักของฉันมาก็เพราะว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่ง เป็นที่ที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับฉันนิดหน่อย และเรื่องนี้ฉันก็ให้บรรดาเพื่อนสนิทรู้ไม่ได้ด้วยสิ ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงร้าน gifts for love เป็นร้านของมีของมากมาย ที่เหมาะเป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษ หน้าร้านเป็นกระจกใสทำให้มองเข้าไปเห็นของกิ๊ฟชอปน่ารักๆ ฉันเดินเข้าไปสำรวจด้วยสายตาคร่าวๆ จัดว่าเป็นร้านที่ดูหรูมากร้านหนึ่งเลยล่ะ มีทั้งตุ๊กตาตั้งแต่ตัวเท่าฝ่ามือไปจนถึงตัวเท่าคนทั้งคนเลยละ มีขวดโหลสำหรับใส่ดาวกระดาษ และก็ยังมีกล่องดนตรีที่ข้างในเป็นรูปหมีสองตัวถือหัวใจอยู่ด้วย ฉันใช้สายตาไล่ไปเรื่อยๆจนไปสะดุดกับสิ่งสิ่งหนึ่งเข้า ก็เลยรีบตรงดิ่งเช้าไปหาทันที
“พี่คะ ชิ้นนี้เท่าไหร่คะ” ฉันหยิบตุ๊กตาเป็ดน้อยสีเหลืองตัวใหญ่ออกมา แล้วหันไปถามพนักงานที่ยื่นอยู่ตรงเคาท์เตอร์
“690 บาท ครับ ถ้าน้องสนใจตัวนี้พี่ลดให้ได้นะครับ” พนักงานคนนั้นหันมาตอบและยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ดูๆไปพี่เค้าก็น่ารักดีเหมือนกันนะ รูปร่างสูงโปร่งเหมือนนักกีฬา ผิวสีแทน ผมสีดำเงา ตาไม่โตมาก แต่จมูกโด่งสวยได้รูป โดยรวมจัดว่าหล่อ
“ขอบคุณค่ะ งั้นเอาตัวตัวนี้ค่ะ”  ฉันยิ้มให้พี่เค้าบ้างและวางตุ๊กตาตัวนั้นลงบนเคาท์เตอร์เพื่อคิดเงิน ฉันยืนมองผู้ชายตรงหน้าหยิบตุ๊กตาใส่ถุงอย่างเก้ๆกังๆราวกับไม่คุ้นเคยกับงาน และแอบยิ้มจนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
 
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้ชายคนนั้นถามฉันทำหน้าสงสัย พลางยื่นถุงในมือมาทางฉัน
“อ๋อ เปล่าค่ะ” ฉันยิ้มอีกครั้ง และยื่นมือไปรับของขวัญที่เพิ่งจะเลือกเองกับมือเมื่อสักครู่
“ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ” พนักงานคนนั้นพูดพลางยิ้มหวานและทำตาเป็นประกายให้ฉัน
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ” ฉันกล่าวขอบคุณและโค้งให้พี่เค้าเบาๆ ก่อนจะหันหลังและเดินออกจากร้านไป
ฉันเดินย้อนกลับไปทางโรงเรียนเพราะต้องไปรอรถเมล์ ที่ป้ายรถเมล์ข้างรั้วโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน ฉันเลือกที่จะยืนรอรถเมล์เนื่องจากเวลานี้เป็นเวลาที่มีคนมารถเพื่อกลับบ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้ที่นั่งถูกจับจองจนเต็ม ฉันยืนกอดถุงเจ้าเป็ดน้อยพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา จึงเห็นแจ้งเตือนขึ้นสายที่ไม่ได้รับ7สายจากข้าวฟ่าง และมีข้อความจากน้ำแข็ง
          ‘แกหายหัวไปไหนวะ พวกฉันจะชวนไปหาไรกินสะหน่อย’ ฉันอ่านข้อความจากยัยน้ำแข็งก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนตามเดิม คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง ถ้าฉันไป พวกแกก็ให้ฉันจ่ายอีกอยู่ดี เมื่อคราวที่แล้วที่ไปกินไอศกรีมเกล็ดหิมะกัน พอกินเสร็จมันสองคนก็ชิ่งเลย ฉันเลยต้องเป็นคนจ่าย พอวันต่อมาฉันแกล้งงอนจนพวกมันต้องเลี้ยงข้าวกลางวันเป็นการไถ่โทษ ฉันเลยกินแบบคุ้มเกินคุ้ม อิอิ
          “เห้ย รถเมล์มาแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นคำพูดที่ดังขึ้นทุกวันเพื่อบ่งบอกว่ารถเมล์คันที่ทุกคนรอคอยนั้นมาถึงแล้ว ฉันรอจนรุ่นน้องกลุ่มสุดท้ายเดินขึ้นไปบนรถจึงเดินตามขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย และก็ต้องยืนโหนรถเมล์อีกตามเคย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนอย่างฉันถึงได้ทั้งสวยและใจดีมอบที่นั่งสบายๆให้กับเด็กๆรุ่นน้องเหล่านั้น ทั้งที่มันควรจะเป็นที่นั่งของคนแก่อย่างฉันมากกว่า
20นาทีต่อมา รถเมล์คันนี้ก็เคลื่อนมาจอดป้ายที่ฉันต้องลง ฉันรอจนรถเมล์จอดสนิทแล้วรีบเดินลงจากรถไป ฉันมุ่งหน้าไปทางถนนแคบๆ ข้างป้ายรถเมล์ ประมาณ 200เมตร ก็ถึงบ้านอันแสนสงบของฉัน ที่ฉันเรียกมันว่าบ้านแสนสงบนะหรอ ก็เพราะว่าบ้านหลังนี้มีแค่ฉันกับพี่ชายที่จะกลับบ้านหลังจากที่ฉันเข้านอนไปแล้ว และออกจากบ้านหลังจากที่ฉันไปถึงโรงเรียน ทำให้เราสองคนไม่ค่อยได้พูดคุยกันบ่อยนัก แค่เดินสวนกันในบ้านยังนับครั้งได้เลย และก็ยังมีปุ๊กกี้ไอ้หมาขี้อ้อนของฉัน พ่อกับแม่ฉันทำงานอยู่ต่างประเทศพวกท่านจะกลับมาเยี่ยมฉันกับพี่ทุกๆ4เดือน
ทันทีที่ได้ยินเสียงฉันเปิดประตู ปุ๊กกี้ก็เห่าและวิ่งส่ายหางดุ๊กๆมาทางฉัน แล้วก็กระโจนใส่ตัวฉันทันทีที่วิ่งมาใกล้
“โอ้ยย ปุ๊กกี้ เบาๆหน่อยได้ไหม ฉันหนักนะไอหมาอ้วน” ฉันลูบหัวมันสองทีก่อนจะรีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน
“เอ๊ะ ประตูไม่ได้ล็อกนี่นา หรือว่าพี่ไซเรนกลับมาแล้ว แปลกจังแฮะ” ฉันเดินกลับไปดูที่หน้าประตู มีรองเท้าผู้ชายถอดอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน2คู่ ทำไมฉันไม่สังเกตเห็นนะ ฉันหันหน้ามาเพื่อจะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น แต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะคนตรงหน้า ผู้ชายที่เกือบจะแปลกหน้าคนนี้มาอยู่ที่บ้านฉันได้ไงเนี่ย
“เจอกันอีกแล้วนะครับ พี่ชื่อคิว เป็นเพื่อนไอ้เรน ตอนนี้มันอาบน้ำอยู่ข้างบน” ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งเหมือนนักกีฬา ผิวสีแทน ผมสีดำเงา ตาไม่โตมาก แต่จมูกโด่งสวยได้รูป จู่ๆ รูปของผู้ชายที่เคาท์เตอร์ที่ร้านขายของที่ฉันเพิ่งไปซื้อตุ๊กตามาเมื่อตอนเลิกเรียนก็โผล่แวบเข้ามาในหัวฉัน เฮื๊อกกกก นี่เพื่อนพี่เรนหรอเนี่ย มีเพื่อนหล่อๆไม่แนะนำฉันบ้างเลยนะ ต้องเคลียกันสะหน่อยละ
“อ่ะ ค่ะ ชื่อเรนโบว์ค่ะเรียกโบว์เฉยๆก็ได้” ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้ว่าพี่เค้าจะจำฉันได้หรือเปล่านะเนี่ย
“ได้ของขวัญถูกใจไหมครับ คงเป็นของคนพิเศษสินะคะ” พี่คิวถามพลางมองที่ถุงใส่ตุ๊กตาเป็ดที่ฉันกอดไว้อยู่ ดูท่าว่าพี่อิกคิวจะจำฉันได้แฮะ
“ถูกใจมากค่ะ โบว์ขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ” เพราะฉันไม่รู้จะคุยอะไรกับพี่เค้า จึงรีบขอตัวหนีขึ้นมาบนห้องนอนตัวเองแล้วปิดประตู ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่คิวมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันสลัดความคิดที่เป็นไปไม่ได้นั้นออกจากหัว เดินไปที่เตียงก่อนจะนอนลงทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนชุด ฉันค่อยๆเอาเป็ดน้อยออกมาจากถุงอย่างระมัดระวัง พลางนึกถึงหน้าเจ้าของวันเกิดพรุ่งนี้ เค้าจะดีใจไหมนะที่ได้ของขวัญจากฉัน แล้วฉันก็ผล็อยหลับไป
‘ไวท์ สุขสันต์วันเกิดนะ’ ฉันยิ้มแก้มปริราวกับฉันเป็นเจ้าของวันเกิด พลางยื่นตุ๊กตาเป็ดน้อยให้ผู้ชายตรงหน้า เขายื่นมือมารับ
‘ขอบใจนะโบว์ เราจะดูแลเป็ดน้อยอย่างดี’ พูดเสร็จเค้าก็ดึงฉันเข้าไปกอด ฉันช็อกไปหลายวินาที ก่อนจะมองผ่านไหล่ของไวท์ไป พบผู้ชายผมดำอยู่ตรงหน้ากำลังจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาที่ซ่อนความรู้สึกบางอย่าง
ปังๆๆๆๆๆ
“ไอ้โบว์!!!! ” ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงพี่เรนที่กำลังโวยวายอยู่ที่ประตูห้องฉัน ฉันจึงเด้งตัวเองไปที่ประตูโดยเร็ว แล้วรีบเปิดประตูก่อนที่พี่ชายบังเกิดเกล้าของฉันที่พังมันเช้ามา
“มีไรพี่เรน เสียงดังตกใจหมดเลย ดื่มมาหรอ” กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว คนกำลังฝันดีอยู่แท้ๆ
“ฉันมาตามแกลงไปกินข้าว ไอ้คิวกำลังย่างเนื้อรออยู่หน้าบ้าน” ฉันหันไปดูนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงนอน 19.30 น. ค่ำป่านนี้แล้วหรอเนี่ย นอนฝันจนเพลิน จะว่าไปก็หิวจังเลยแฮะ
“เดี๋ยวโบว์อาบน้ำเสร็จแล้วจะตามลงไปนะ” พูดจบก็ปิดประตูทันที ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที 40นาทีถัดมา ฉันก็เดินลงบันไดไปตามกลิ่นของเนื้อย่าง โอ๊ะ เหมือนจะมีบาบีคิวด้วยนะ อิอิ รีบไปกินดีกว่า ทันทีที่เดินออกไปหน้าบ้าน ก็เห็นพี่เรนกับพี่คิวกำลังนั่งคุยกัน พลางช่วยกันย่างเนื้อกับบาบีคิวอยู่ ดูเหมือนจะเมากันด้วยนะนั่น
“มาพอดีเลย แกมาย่างเนื้อแทนฉันหน่อยดิ เมื่อยมือว่ะ” ไอ้พี่บ้านี่ เมื่อยมือแล้วมานั่งย่างเนื้อกินทำไม ทำไมไม่ทำอย่างอื่นกินละ ฉันแอบเถียงในใจ เพราะตอนนี้ฉันกำลังหิวมากๆ ฉันเดินไปนั่งข้างๆพี่เรน พลางยิ้มให้พี่คิว ที่มองฉันด้วยตาแดงๆคู่นั้น สงสัยตาจะแดงเพราะฤทธิ์เหล้าแน่ๆ
          “คิว กูไปอ้วกก่อนนะ ไม่ไหวละ” พูดเสร็จก็เดินโซเซจากไป โถ่ ไอ้พี่บ้า คนกำลังกินแท้ๆ มาพูดเรื่องอ้วกหาอะไรยะ แต่แค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ฉันตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นพี่คิวกำลังจ้องฉันนิ่ง ภาพในฝันแวบเข้ามาในหัว ผู้ชายที่จ้องฉันในฝันนั้นเป็นคนเดียวกับคนตรงหน้านี้สินะ ถึงพี่คิวจะหล่อก็เถอะ เพิ่งเจอกันวันแรกแท้ๆ ถึงกับเก็บเอาไปฝันเลยหรอเนี่ย ทำไมกัน
“มีอะไรหรอคะพี่คิว” ฉันพูดพลางสำรวจตัวเองว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยหรือเปล่าพี่คิวถึงจ้องฉันขนาดนี้ หรือมีอะไรติดหน้าฉัน ฉันเอามือลูบหน้าตัวเองไปมา
“เปล่าครับ พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ พี่ไม่รู้ว่าก่อนเลยว่าไอ้เรนมันมีน้องสาว แล้วก็ไม่รู้มาก่อนว่าโบว์เป็นน้องสาวไอ้เรน” เสียงคนเมาเริ่มเพี้ยนๆไป เอ่อ แล้วทำไมพี่คิวจะต้องรู้ด้วยละว่าฉันเป็นน้องพี่เรน ไม่เห็นสำคัญเลยนิ 
“ก็เราเพิ่งเจอกันวันแรกนี่คะ พี่คิวจะรู้ได้ไงว่าโบว์เป็นน้องสาวพี่เรน” ฉันตอบออกไปแต่ในใจกำลังรู้สึกงงๆ “เดี๋ยวโบว์ขอตัวเอาเนื้อไปให้ปุ๊กกี้ก่อนนะคะ ไม่รู้ว่ามันกินอะไรหรือยัง” พูดเสร็จก็ลุกขึ้นหันหลังเดินออกไปทันที
พี่คิวดูแปลกๆนะ ดูค่อนข้างต่างกับผู้ชายที่อยู่ที่ร้านหลังเคาท์เตอร์คนนั้นลิบลับ หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ถึงทำให้พี่คิวดูแปลกๆ พูดจาก็แปลกๆ แถมยังมองฉันด้วยสายตาแปลกๆด้วย ฉันเดินมาถึงกรงของปุ๊กกี้ สงสัยว่าพี่คิวคงจะเป็นคนพอเจ้าปุ๊กกี้เข้ากรง แปลกแหะไม่คิดว่าพี่ชายฉันจะเป็นคนพาสุนัขสัตว์ที่พี่เรนเกลียดมากที่สุด เข้าไปอยู่ในกรง
“ไงปุ๊กกี้ หิวหรือยังห๊ะ ไอ้หมาอี้อ้อน” ฉันสอดมือเข้าไปในช่องระหว่างซี่เหล็ก เอาเนื้อใส่ไว้ในจาน เจ้าหมาอ้วนเดินเข้ามากินอย่างหิวโหย ฉันยิ้มและหัวเราในใจ ‘ไอหมาตะกละเอ้ย’ ฉันนั่งมองปุ๊กกี้กินจนเกือบหมดก็ลุกขึ้น กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะพี่คิวเดินตามฉันมาและกำลังยืนอยู่ข้างหลัง ทำให้ฉันที่กำลังหันหลังไป เสียจังหวะการทรงตัวเกือบจะล้ม ดีที่สองแขนแข็งแรงนั้นยื่นเข้ามาพยุงฉันไว้ ฉันตกใจเงยหน้ามองพี่เรนที่เหมือนคนไม่ได้สติ ความเงียบเข้าปกคลุมรอบตัวเรา ผู้ชายผมดำ จมูกโด่ง คิ้วโค้งสวย ปากบางได้รูป ฉันได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวพี่คิวด้วย เซ็กซี่ชะมัด ทันใดนั้น พี่คิวก็โน้มหน้าเข้ามา แขนสองข้างจากที่พยุงตัวฉันกลับรัดแน่นพร้อมดึงฉันเข้าไปหาตัวเอง ริมฝีปากอุ่นผสมกับรสเหล้าจุมพิศลงมาบนริมฝีปากฉันเบาๆ ฉันที่ได้สติจึงรีบผลักพี่คิวออกไป
“พี่คิวจะทำอะไรโบว์คะ” กรี๊ดดดดดดดดดดดด ฉันกรีดร้องในใจ ผู้ชายที่ชิงจูบแรกของฉันไป เป็นเพื่อนพี่ชายฉัน แถมยังเป็นคนที่ฉันเพิ่งจะรู้จักได้แค่วันเดียวเนี่ยนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา