ภพรักหิมวันต์
9.1
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.
52 บท
129 วิจารณ์
78.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) พระสนมคนใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "เจ้าว่าอะไรนะ!! ปทุมทอง เจ้าพี่จิตราสูรพาสตรีเข้ามายังอสุรานครงั้นรึ"
ร่างของหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองค์เอ่ยถามนางข้าหลวงคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่านางกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
"เพคะ แต่ว่านางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดานะเพค่ะ นางเป็นถึงกินรีเจ้าค่ะ หม่อมแม่"
นางข้าหลวงนามว่าปทุมทองเอ่ยทูลกับ 'หม่อมแม่' ของนาง
"อย่างงั้นเชียวรึ!! สงสัยข้าจะต้องไปยลโฉมว่าที่พระสนมคนใหม่ของเจ้าพี่จิตราสูรเสียแล้วกระมัง"
เจ้าของร่างงามเอ่ยกับข้าหลวงคนสนิท ก่อนจะเสด็จไปยังตำหนักใหม่ของ 'พระสนมคนใหม่' อย่างมีเลศนัย
ทางด้านนางกินรีสุวรรณรัศมีหลังจากจิตราสูรออกจากห้องไปแล้ว นางก็ถูกย้ายไปตำหนักใหม่ที่พญายักษ์จิตราสูรเนรมิตขึ้นมา พร้อมกับประทานนาง 'วิชุตา' นางยักขินีให้เป็นนางกำนัลประจำตัว
ข่าวที่พญาจิตราสูรพาหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในเมืองแพร่สะพลัดไปทั่วทั้งพระนคร ทำให้มีพระสนมหลายคนอยากที่จะยลโฉม 'พระสนมคนใหม่' ของเจ้าอยู่หัวว่าจะมีพระสิริโฉมเป็นเช่นไร แม้แต่พระนาง 'โฉมสุรางค์' พระมเหสีของจิตราสูรเองก็ตาม
"เจ้าว่าพวงมาลัยพวงนี้สวยไหม วิชุตา"
สุวรรณรัศมีถามวิชุตา ซึ่ง ณ ตอนนี้นางมีแค่วิชุตาคนเดียวที่เป็นเพื่อน แม้จะอยู่ในเมืองยักษ์ แต่วิชุตาก็เข้าใจนางดี เพราะไม่ค่อยมีใครโดนลักพาตัวมาแบบนาง เพราะสนมส่วนใหญ่ล้วนแต่สมัครใจมากันเอง
"สวยเพค่ะ หม่อมฉันว่าพระองค์ควรจะทำอย่างอื่นบ้างนะเพค่ะ หม่อมฉันเห็นแต่พระองค์ร้อยแต่มาลัยดอกพุทธ พระองค์ไม่ทรงเบื่อเลยเหรอเพค่ะ"
วิชุตาเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่เพลาที่สุวรรณรัศมีถูกพาตัวมาที่นี่ นางก็เห็นแต่สุวรรณรัศมีใช้เวลาอยู่กับการร้อยมาลัย นี่นางก็ใช้เวลาร้อยมาสามชั่วยามแล้ว
"แล้วเจ้าจะให้เราทำอะไรล่ะ เราไม่เบื่อหรอก หรือว่าเจ้าเบื่อ"
สุวรรณรัศมีเอ่ยถามในเชิงดักคอ เพราะนางรู้ว่าวิชุตาคงเบื่อการร้อยมาลัยแล้ว
"หม่อมฉันว่าเราไปเดินเล่นในอุทยานกันไหมเพค่ะ ที่นั่นมีมวลบุปผาที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งอุทยานเลยเพค่ะ"
นางยักขินีเอ่ยทูลนายหญิงของตน
"จริงเหรอ เรารีบไปกันสิ จะรอช้าอยู่ใย เราอยากเห็นภายนอกบ้าง อยู่แต่ในนี้มีหวังเราคงลืมเดือนลืมตะวันเสียแล้วกระมัง"
สุวรรณรัศมีเอ่ยด้วยวาจาติดตลก ทำให้นางกำนัลวิชุตาอดยิ้มในความสดใสของนายหญิงไม่ได้ จึงเป็นเรื่องไม่แปลกหรอกที่พญาจิตราสูรจะหลงเสน่ห์นางกินรีน้อยอย่างสุวรรณรัศมี
ก่อนที่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาจะออกไปยังอุทยาน ร่างของผู้มาเยือนก็ปรากฏมาขวางพวกนางไว้
"โถๆๆ นี่หรือเพค่ะ พระสนมคนใหม่ของเจ้าเหนือหัวจิตราสูรที่เขาลือกันทั่วทั้งนครว่างามนักงามหนา พอหม่อมฉันมาเห็นด้วยตัวเอง หม่อมฉันว่างามไม่เท่าหม่อมแม่ 'โฉมสุรางค์' เลยเพค่ะ"
นางยักขินีนามว่า 'ปทุมทอง' กราบทูลสตรีเจ้าของร่างสะโอดสะองค์ ซึ่งตอนนี้ผู้มาเยือนคนใหม่ต่างจ้องไปยัง 'สุวรรณรัศมี' ที่ตอนนี้ไม่ต่างจากนางมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
"ถวายบังคมเพค่ะ พระมเหสี"
สุวรรณรัศมีหันไปมองวิชุตาที่ตอนนี้กำลังทำความเคารพหญิงสาวรูปงามที่มีตำแหน่งเป็นถึงพระมเหสี
หรือว่านางผู้นี้คือพระมเหสีโฉมสุรางค์
สุวรรณรัศมีคิด ก่อนจะหันไปผูกมิตรกับผู้มาเยือนคนใหม่ หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่า 'พระมเหสีโฉมสุรางค์' พระมเหสีคู่บุญแห่งองค์จิตราสูรเจ้าครองนครอสุราผู้เกรียงไกร
"พระมเหสีมาหาหม่อมฉันถึงที่นี่มีเหตุอันใดหรือเพค่ะ"
โฉมสุรางค์จ้องใบหน้างามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันพระพักตร์ไปตรัสกับนางปทุมทอง นางกำนัลคนสนิทด้วยวาจาที่เฉียบขาด
"ปทุมทองเจ้าว่าเมืองนครเทพกินราไร้บุรุษเพศอย่างกินนรแล้วรึ ถึงได้ส่งพระธิดาเพียงพระองค์เดียวมาเป็นบาทบริจาริกาของเสด็จพี่จิตราสูร พญายักษ์ผู้เกรียงไกร ช่างน่าขันยิ่งนัก"
สุวรรณรัศมีถึงกับต้องข่มอารมณ์ให้เป็นปกติ เพราะรู้ดีว่าสตรีตรงหน้าทำไปเพราะหึงหวงพญาจิตราสูรตามอารมณ์ของสตรีเพศเท่านั้น
"เราจะบอกเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่งนะ สุวรรณรัศมี ว่าในตอนนี้ เจ้าก็เป็นได้แค่นางกินรีที่ถูกเด็ดปีกเด็ดหาง ก็เปรียบได้กับนางกินรีไร้ปีก ซึ่งเจ้าก็เป็นได้แค่นางมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น!!"
โฉมสุรางค์ตรัสบอกกับนางกินรีน้อยไร้ปีกก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับนางปทุมทอง ในห้องเหลือเพียงแค่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาเพียงเท่านั้น
"เราจักทำเช่นไรดี วิชุตา เราไม่อยากเป็นพระสนมขององค์จิตราสูร เราจักทำเช่นไรดี"
สุวรรณรัศมีตัสกับวิชุตาด้วยน้ำเสียงกังวลใจ คืนนี้แล้วสินะ ที่นางต้องเข้าถวายตัวเป็นพระสนมองค์ใหม่ จะมีหนทางใดบ้างที่นางจะได้ไม่ต้องเข้าถวายตัว
"หม่อมฉันว่าพระองค์ควรตรัสกับองค์เหนือหัวไปตามตรงนะเพค่ะ ว่าพระองค์ยังไม่พร้อม หม่อมฉันเชื่อว่าองค์จิตราสูรต้องเข้าใจพระองค์แน่นอนเพค่ะ"
วิชุตากราบทูลสุวรรณรัศมีไปตามที่ตนคิด
"ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอกก็ดีสินะ วิชุตา"
สุวรรณรัศมีเอ่ยกับนางกำนัล ก่อนที่จะลุกเดินไปยังหน้าต่าง ก่อนจะมองไปยังเหล่าเมฆาสีขาว
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกคิดถึงพวกท่าน"
กินรีน้อยเอ่ยเบาๆ ก่อนที่หยดน้ำใสๆ จะไหลลงมาจากแววตาคู่สวยนั้น
ร่างของหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองค์เอ่ยถามนางข้าหลวงคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่านางกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
"เพคะ แต่ว่านางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดานะเพค่ะ นางเป็นถึงกินรีเจ้าค่ะ หม่อมแม่"
นางข้าหลวงนามว่าปทุมทองเอ่ยทูลกับ 'หม่อมแม่' ของนาง
"อย่างงั้นเชียวรึ!! สงสัยข้าจะต้องไปยลโฉมว่าที่พระสนมคนใหม่ของเจ้าพี่จิตราสูรเสียแล้วกระมัง"
เจ้าของร่างงามเอ่ยกับข้าหลวงคนสนิท ก่อนจะเสด็จไปยังตำหนักใหม่ของ 'พระสนมคนใหม่' อย่างมีเลศนัย
ทางด้านนางกินรีสุวรรณรัศมีหลังจากจิตราสูรออกจากห้องไปแล้ว นางก็ถูกย้ายไปตำหนักใหม่ที่พญายักษ์จิตราสูรเนรมิตขึ้นมา พร้อมกับประทานนาง 'วิชุตา' นางยักขินีให้เป็นนางกำนัลประจำตัว
ข่าวที่พญาจิตราสูรพาหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในเมืองแพร่สะพลัดไปทั่วทั้งพระนคร ทำให้มีพระสนมหลายคนอยากที่จะยลโฉม 'พระสนมคนใหม่' ของเจ้าอยู่หัวว่าจะมีพระสิริโฉมเป็นเช่นไร แม้แต่พระนาง 'โฉมสุรางค์' พระมเหสีของจิตราสูรเองก็ตาม
"เจ้าว่าพวงมาลัยพวงนี้สวยไหม วิชุตา"
สุวรรณรัศมีถามวิชุตา ซึ่ง ณ ตอนนี้นางมีแค่วิชุตาคนเดียวที่เป็นเพื่อน แม้จะอยู่ในเมืองยักษ์ แต่วิชุตาก็เข้าใจนางดี เพราะไม่ค่อยมีใครโดนลักพาตัวมาแบบนาง เพราะสนมส่วนใหญ่ล้วนแต่สมัครใจมากันเอง
"สวยเพค่ะ หม่อมฉันว่าพระองค์ควรจะทำอย่างอื่นบ้างนะเพค่ะ หม่อมฉันเห็นแต่พระองค์ร้อยแต่มาลัยดอกพุทธ พระองค์ไม่ทรงเบื่อเลยเหรอเพค่ะ"
วิชุตาเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่เพลาที่สุวรรณรัศมีถูกพาตัวมาที่นี่ นางก็เห็นแต่สุวรรณรัศมีใช้เวลาอยู่กับการร้อยมาลัย นี่นางก็ใช้เวลาร้อยมาสามชั่วยามแล้ว
"แล้วเจ้าจะให้เราทำอะไรล่ะ เราไม่เบื่อหรอก หรือว่าเจ้าเบื่อ"
สุวรรณรัศมีเอ่ยถามในเชิงดักคอ เพราะนางรู้ว่าวิชุตาคงเบื่อการร้อยมาลัยแล้ว
"หม่อมฉันว่าเราไปเดินเล่นในอุทยานกันไหมเพค่ะ ที่นั่นมีมวลบุปผาที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งอุทยานเลยเพค่ะ"
นางยักขินีเอ่ยทูลนายหญิงของตน
"จริงเหรอ เรารีบไปกันสิ จะรอช้าอยู่ใย เราอยากเห็นภายนอกบ้าง อยู่แต่ในนี้มีหวังเราคงลืมเดือนลืมตะวันเสียแล้วกระมัง"
สุวรรณรัศมีเอ่ยด้วยวาจาติดตลก ทำให้นางกำนัลวิชุตาอดยิ้มในความสดใสของนายหญิงไม่ได้ จึงเป็นเรื่องไม่แปลกหรอกที่พญาจิตราสูรจะหลงเสน่ห์นางกินรีน้อยอย่างสุวรรณรัศมี
ก่อนที่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาจะออกไปยังอุทยาน ร่างของผู้มาเยือนก็ปรากฏมาขวางพวกนางไว้
"โถๆๆ นี่หรือเพค่ะ พระสนมคนใหม่ของเจ้าเหนือหัวจิตราสูรที่เขาลือกันทั่วทั้งนครว่างามนักงามหนา พอหม่อมฉันมาเห็นด้วยตัวเอง หม่อมฉันว่างามไม่เท่าหม่อมแม่ 'โฉมสุรางค์' เลยเพค่ะ"
นางยักขินีนามว่า 'ปทุมทอง' กราบทูลสตรีเจ้าของร่างสะโอดสะองค์ ซึ่งตอนนี้ผู้มาเยือนคนใหม่ต่างจ้องไปยัง 'สุวรรณรัศมี' ที่ตอนนี้ไม่ต่างจากนางมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
"ถวายบังคมเพค่ะ พระมเหสี"
สุวรรณรัศมีหันไปมองวิชุตาที่ตอนนี้กำลังทำความเคารพหญิงสาวรูปงามที่มีตำแหน่งเป็นถึงพระมเหสี
หรือว่านางผู้นี้คือพระมเหสีโฉมสุรางค์
สุวรรณรัศมีคิด ก่อนจะหันไปผูกมิตรกับผู้มาเยือนคนใหม่ หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่า 'พระมเหสีโฉมสุรางค์' พระมเหสีคู่บุญแห่งองค์จิตราสูรเจ้าครองนครอสุราผู้เกรียงไกร
"พระมเหสีมาหาหม่อมฉันถึงที่นี่มีเหตุอันใดหรือเพค่ะ"
โฉมสุรางค์จ้องใบหน้างามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันพระพักตร์ไปตรัสกับนางปทุมทอง นางกำนัลคนสนิทด้วยวาจาที่เฉียบขาด
"ปทุมทองเจ้าว่าเมืองนครเทพกินราไร้บุรุษเพศอย่างกินนรแล้วรึ ถึงได้ส่งพระธิดาเพียงพระองค์เดียวมาเป็นบาทบริจาริกาของเสด็จพี่จิตราสูร พญายักษ์ผู้เกรียงไกร ช่างน่าขันยิ่งนัก"
สุวรรณรัศมีถึงกับต้องข่มอารมณ์ให้เป็นปกติ เพราะรู้ดีว่าสตรีตรงหน้าทำไปเพราะหึงหวงพญาจิตราสูรตามอารมณ์ของสตรีเพศเท่านั้น
"เราจะบอกเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่งนะ สุวรรณรัศมี ว่าในตอนนี้ เจ้าก็เป็นได้แค่นางกินรีที่ถูกเด็ดปีกเด็ดหาง ก็เปรียบได้กับนางกินรีไร้ปีก ซึ่งเจ้าก็เป็นได้แค่นางมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น!!"
โฉมสุรางค์ตรัสบอกกับนางกินรีน้อยไร้ปีกก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับนางปทุมทอง ในห้องเหลือเพียงแค่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาเพียงเท่านั้น
"เราจักทำเช่นไรดี วิชุตา เราไม่อยากเป็นพระสนมขององค์จิตราสูร เราจักทำเช่นไรดี"
สุวรรณรัศมีตัสกับวิชุตาด้วยน้ำเสียงกังวลใจ คืนนี้แล้วสินะ ที่นางต้องเข้าถวายตัวเป็นพระสนมองค์ใหม่ จะมีหนทางใดบ้างที่นางจะได้ไม่ต้องเข้าถวายตัว
"หม่อมฉันว่าพระองค์ควรตรัสกับองค์เหนือหัวไปตามตรงนะเพค่ะ ว่าพระองค์ยังไม่พร้อม หม่อมฉันเชื่อว่าองค์จิตราสูรต้องเข้าใจพระองค์แน่นอนเพค่ะ"
วิชุตากราบทูลสุวรรณรัศมีไปตามที่ตนคิด
"ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอกก็ดีสินะ วิชุตา"
สุวรรณรัศมีเอ่ยกับนางกำนัล ก่อนที่จะลุกเดินไปยังหน้าต่าง ก่อนจะมองไปยังเหล่าเมฆาสีขาว
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกคิดถึงพวกท่าน"
กินรีน้อยเอ่ยเบาๆ ก่อนที่หยดน้ำใสๆ จะไหลลงมาจากแววตาคู่สวยนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ