ตามล่ามนตรา
8.0
เขียนโดย Next1412
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.28 น.
9 บท
0 วิจารณ์
10.77K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) บทที่ 7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ห้องรับแขกส่วนตัวของพระราชา ที่ พระราชวังโรมาเนีย
“นี่ก็นานแล้ว นาเอลจะเป็นอย่างไรมั่งนะ”เอเลเนอร์ที่กอดอกเดินไปเดินมาบ่นพึมพำเบาๆ
“อย่าห่วงไปเลย เนวิลไม่ฆ่านาเอลตายหรอกน่า อีกอย่างการเดินไปเดินมาของเจ้า ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีหรอก เจ้าควรนั่งอยู่เฉยๆดีกว่านะ เอเลเนอร์”เจแปนที่นั่งมองเอเลเนอร์มานานก็เอ่ยบอกเอเลเนอรืด้วยความหมดความอดทน
“เอ้อ รูจข้ามีเรื่องจะถาม”เอเลเนอร์เมินประโยคของเจแปนแล้วเดินตรงหรี่มานั่งข้างรูจที่เงียบมานาน
“.....ว่าไงล่ะ?”รูมองหน้าเอเลเนอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยๆ
“เจ้าน่ะ แอบรักนาเอลหรอ?”เอเลเนอร์ยิ้มกว้างแล้วจ้องตารุจราวกับจะเค้นคำตอบ
“อ....เอ่อ....”รูจอึ้งกับคำถามรวมไปถึงเจแปนที่อึ้งกับคำถามจากปากเอเลเนอร์เช่นกัน
ก๊อกๆ....
จู่ๆก็มีเสียงประตูดังขึ้นขัดการสนทนาทันที ทำให้รูจถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่ต้องตอบคำถามที่กดดันจากเอเลเนอร์
“เข้ามาได้”เจแปนหันไปตะโกนใส่ประตูไม่นานนักก็ปรากฏชายคนหนึ่งที่เจแปนและเอเลเนอร์เคยรู้จักเป็นอย่างดี
“ท่านเฟิง!!”เอเลเนอร์อึ้งกับแขกผู้มาเยือนจนตาเบิกกว้างราวกับประหลาดใจ
“สวัสดีขอรับ ท่านพระราชา เอ๊ะ ท่านเอเลเนอร์นี่นา ดีใจจังที่ได้เจอกับท่านอีกครั้ง”เฟิงกล่าวทักทายแล้วประหลาดใจนิดๆที่เอเลเนอร์มาอยู่กับคนรู้จักแทบสนิทของตน
“นี่ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยหรอ?”เจแปนอึ้งเล็กน้อยแล้วมองเฟิงกับเลเนอร์สลับกันไปมา
“เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ข้ามีข่าวใหญ่จะมาบอกกับท่านให้ทราบ”เฟิงเก็บเรื่องที่อยากคุยต่อไว้แล้วสีหน้าที่ดูร่าเริงเมื่อแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูจริงจัง
“เรื่องใหญ่อะไรกัน”เจแปนมองหน้าเฟิงพลางขมวดคิ้วกับเรื่องที่เฟิงจะบอก
“กองทัพจักรวรรดินิโคลเรียกำลังจะเดินทางมาที่นี่ เพื่อจะมาจำตัวผู้ร้ายที่หนีมาที่จักรวรรดินี้ แล้วอีกประมาณ 12 ชั่วโมง กองทัพเรืออาจจะแล่นมาถึง รวมทั้งพระราชาเอนดรีอาสก็จะมาเจรจากับท่านเรื่องผู้ร้ายที่หนีมาที่นี่ แน่นอนท่านเอเลเนอร์ ที่เป็นคนพานักโทษมาที่นี่ก็จะโดนจับไปด้วย แต่ใครเป็นคนแพร่ข่าวนี้ข้าไม่รู้ ข้าเลยรีบเอาข่าวร้ายมาบอกพวกท่าน”เฟิงมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา บรรยากาศที่ดูครึกครื้นก็กลายเป็นบรรยากาศอันตึงเครียดเหมือนก่อนหน้านี้
“อะไรนะ!!”
---------------------------------------------------------
ณ ปราสาทต้องห้าม
เนวิลที่พึ่งดึงนาเอลขึ้นมาจากบ่อน้ำเย็นยะเยือกก็ รีบหาผ้าห่ม มาห่มให้นาเอลอย่างเร่งด่วน ในใจของเขายังมีความประหลาดใจเกี่ยวกับตัวนาเอลอยู่ เขาแทบไม่เชื่อว่าคนเผ่าในตำนานจะมีชีวิตหลงเหลืออยู่จริง ที่มากไปกว่านั้นตัวนาเอลลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำก่อนเวลากำหนด ตอนนี้เขาได้แต่เฝ้ามองดูนาเอลที่นอนสลบสไลอยู่ข้างๆบ่อน้ำหลังจากแก้เชือกให้นาเอลเรียบร้อยแล้ว
“รอให้ตื่นก่อนดีกว่า ถ้าขืนแบกกลับไปในระยะทางไกลแบบนี้หลังได้เคล็ดแน่ๆ”เนวิลที่นั่งมองนาเอลอยุ่ข้างๆบ่นพึมพัมพลางคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“รีอา....”นาเอลที่นอนอยู่ก็พูดชื่อใครบางคนขึ้นมาแล้วสะดุ้งตัวตื่นทันที
“อ่าว ตื่นแล้วหรอ”เนวิลตกใจทันทีที่นาเอลตื่นทำให้สิ่งที่คิดอยู่ในหัวเมื่อกี้หายวับไปเสียแล้ว
“อืม แล้ว..........ผลออกมาเป็นไงบ้าง?”นาเอลรีบลุกไปนั่งข้างหน้าเนวิลเพื่อลุ้นรอคำตอบ
“เอ่อ......”เนวิลหบสายตาของนาเอลอย่างหวั่นๆ
“ทำไมหรอ?”นาเอลถามย้ำ
“นาเอล เนวิล เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะการตอบคำถามของเนวิลทันที
“อะไรหรอ แพนเธียร์?”เนวิลสะดุ้งตัวแล้วหันไปมองแพทย์สาวชุดแม่มดทันที
“เจแปนบอกว่ากองทัพจักรวรรดินิโคลเรียกำลังเดินเรือมาที่นี่เพื่อมารับตัวนาเอลไป เธอคนนั้นสินะ นาเอล”แพนเธียร์พูดพลางเคลื่อนสายตาไปมองนาเอล
“ใช่ อีกเธอเป็น..........จอมเวทย์.......ชนเผ่าในตำนาน”เนวิลตอบช้าๆ
“อะไรนะ”แพนเธียร์ตะลึงกับคำพูดที่ออกมาจากปากของเนวิล
“เจ้าแกล้งข้าใช่มั้ย เนวิล...”นาเอลหมดหวังไปกับคำตอบของเนวิล หัวใจของเธอตอนนี้หล่นฮวบไปอยุ่ตาตุ่ม ‘ไม่ใช่ฝันสินะ.....ตอนที่ตกลงไปในบ่อน้ำ....’
“แล้วจากนี้จะทำยังไงต่อไปดีละ?”เนวิลถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน
“...........”นาเอลและแพนเธียร์ต่างก็ได้เงียบ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น บรรยากาศตึงเครียดกลับมาอีกครา
“รีบกลับกันเถอะ ถ้ามัวมานั่งเครียดแบบนี้มีหวัง พวกนิโคลเรียได้บุกมาก่อนแน่”เนวิลมองทั้งสองคนแบบเหนื่อยหน่ายแล้วเดินนำออกไปจากห้องเก่าๆแห่งนี้
“นาเอล....”แพนเธียร์เอ่ยเรียกหญิงสาวผมสีดำคลับที่นั่งเหม่อลอยไปไกล ดวงตาสีดำกลมโตค่อยๆเคลื่อนมามองหน้าแพนเธียร์ด้วยความอ่อนล้า
“ถึงเจ้าจะเป็นจอมเวทย์ แต่เจ้าก็ควรยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และเจ้าก็ควรต่อสู้กับมัน จงยอมรับความจริงแล้วสู้กับมันซะ”แพนเธียร์นั่งตรงข้างหน้านาเอลแล้วตบบ่านาเอลเบาๆ
“ตอนที่ข้าลงไปในบ่อ ข้าเจอกับนางเงือกตนหนึ่ง.......”นาเอลเอ่ยช้าๆ
“นางเงือก อย่าบอกนะว่ารีอา?”แพนเธียร์อึ้งนิดๆ
“ท่าน.......รู้จักรีอาด้วยหรอ?”นาเอลตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอน ตามจริงแล้วข้าก็เป็นจอมเวทย์ล่ะ แต่ว่าข้าปิดบังตัวตนไว้ จนวันหนึ่งเจแปนก็ได้รู้ความจริง แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เรื่องที่จัรวรรดิตามหาจอมเวทย์อะไรนั่น ข้าเป็นคนขอร้องให้เจแปนตามหาตัวเอง เจแปนน่ะไม่สนใจเรื่องการแข่งขัน สงคราม แต่ว่าเขาสนใจจิตใจของประชาชน ทหารทุกคน ความเป็นอยู่ของราษฎร เขาชอบช่วยเหลือคนจะตายไป ถึงดูเผินอาจจะเย็นชา แต่ในความจริงเขาอ่อนโยน น้อยคนที่จะเข้าใจเจแปนนะ”แพนเธียร์ยิ้มกว้างแล้วอธิบายเรื่องราวให้นาเอลฟัง สายตาที่ราวกับคนยอมแพ้ของนาเอลเมื่อกี้กลับกลายเป็นแววตาที่ดีใจสุดๆ
“ท่านคือจอมเวทย์?”นาเอลยิ้มกว้าง
“ใช่ ข้าถึงสามารถประดิษฐ์ยาได้ทุกชนิดไง ข้าน่ะมีพลังในการรักษา แต่พลังของเจ้าคืออะไรกันนะ”
“ไม่รู้สิ”
“งั้นเจ้าเห็นรูปวาดสีน้ำมันที่มีราขึ้นบนรูปมั้ย”แพนเธียร์ชี้ไปที่รูปบานใหญ่ที่ตั้งวางไว้กับพื้น
“อือ เห็นสิ ทำไมกันหรอ?”
“ช่วยเอามือไปแตะรูปภาพ แล้วตั้งจิตให้นิ่ง จากนั้นเจ้าก็นึกสิ่งที่เจ้าอยากจะทำกับรูปนี้”แพนเธียรืพุดจบนาเอลก็ค่อยๆเดินไปแตะรูปนั้งอย่างงงๆแล้วเริ่มทำตามที่แพนเธียร์บอก
‘ทำจิตให้นิ่ง แล้วนึกสิ่งที่เราจะทำกับรูปนี้............ทำอะไรดีล่ะ........งั้น...........ขอให้รูปนี้กลายเป็นรูปที่สวยงามดังเดิมงนาเอลนึกในใจทันใดนั้น พลันเกิดแสงสีขาวที่มือของนาเอล แสงนั้นค่อยๆแผ่เป็นวงกว้างบริเวณที่แสงแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างรูปภาพกลายเป็นรูปใหม่กว่าเดิมราสีดำที่ขึ้นอยู่ตามรูปก็หายไปราวกับพึ่งวาดเสร็จใหม่ๆไม่นานมานี้
“พลังแห่งการสร้าง.....ถ้าจำไม่ผิดเจามีน้องสาวสินะ...?”แพนเธียร์มองรูปเมื่อครู่แล้วหันไปถามนาเอล
“ค่ะ นางชื่อเอมม่า..”
“...........ถ้าเจ้ามีพลังด้านบวก น้องเจ้าก็ต้องมีพลังด้านลบ พลังของพวกเจ้าจะหักล้างกันเองหากได้ปะทะกัน”
“หมายความว่าอะไร?”
“ข้าสืบได้มาว่า มีวาณิชญ์คนหนึ่งเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ในการตามหาตัวเจ้า ตอนนี้วาณิชญ์คนนั้นได้มีน้องสาวของเจ้า แต่เจ้านั่นกำลังหลอกใช้เอนดรีอาสอยู่.......ความจริงเจ้านั่นคิดจะครอบครองจักรวรรดิทั้งสอง โดยใช้กลลวงเล็กน้อยเพื่อตามหาตัวเจ้าสองพี่น้อง อีกอย่างเอนดรีอาสไม่รู้ว่าเอมม่าเป็นจอมเวทย์ เอนดรีอาสถึงได้แต่ตามหาตัวเจ้าอย่างไงล่ะ”
“ท่านรู้ได้ไง?”
“นักเวทย์น่ะ สามารถพยากรณ์อนาคตได้นะ”แพนเธียร์ยิ้มเล็กๆให้นาเอล
“แล้วที่ข้าเห็นสงครามตอนอยู่ในบ่อน้ำคือ............”
“นั่นแหละสิ่งที่จะเกิดขึ้น....เอาล่ะเจ้าควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับวังกันได้แล้ว เจ้าต้องมีอะไรที่เรียนรู้อีกเยอะ”แพนเธียร์พูดจบก็โยนย่ามที่ใส่เสื้อผ้าไปให้นาเอล
“..........”นาเอลไม่ได้กล่าวอะไรได้แต่ทำตามที่แพนเธียร์บอก
“นี่ก็นานแล้ว นาเอลจะเป็นอย่างไรมั่งนะ”เอเลเนอร์ที่กอดอกเดินไปเดินมาบ่นพึมพำเบาๆ
“อย่าห่วงไปเลย เนวิลไม่ฆ่านาเอลตายหรอกน่า อีกอย่างการเดินไปเดินมาของเจ้า ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีหรอก เจ้าควรนั่งอยู่เฉยๆดีกว่านะ เอเลเนอร์”เจแปนที่นั่งมองเอเลเนอร์มานานก็เอ่ยบอกเอเลเนอรืด้วยความหมดความอดทน
“เอ้อ รูจข้ามีเรื่องจะถาม”เอเลเนอร์เมินประโยคของเจแปนแล้วเดินตรงหรี่มานั่งข้างรูจที่เงียบมานาน
“.....ว่าไงล่ะ?”รูมองหน้าเอเลเนอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยๆ
“เจ้าน่ะ แอบรักนาเอลหรอ?”เอเลเนอร์ยิ้มกว้างแล้วจ้องตารุจราวกับจะเค้นคำตอบ
“อ....เอ่อ....”รูจอึ้งกับคำถามรวมไปถึงเจแปนที่อึ้งกับคำถามจากปากเอเลเนอร์เช่นกัน
ก๊อกๆ....
จู่ๆก็มีเสียงประตูดังขึ้นขัดการสนทนาทันที ทำให้รูจถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่ต้องตอบคำถามที่กดดันจากเอเลเนอร์
“เข้ามาได้”เจแปนหันไปตะโกนใส่ประตูไม่นานนักก็ปรากฏชายคนหนึ่งที่เจแปนและเอเลเนอร์เคยรู้จักเป็นอย่างดี
“ท่านเฟิง!!”เอเลเนอร์อึ้งกับแขกผู้มาเยือนจนตาเบิกกว้างราวกับประหลาดใจ
“สวัสดีขอรับ ท่านพระราชา เอ๊ะ ท่านเอเลเนอร์นี่นา ดีใจจังที่ได้เจอกับท่านอีกครั้ง”เฟิงกล่าวทักทายแล้วประหลาดใจนิดๆที่เอเลเนอร์มาอยู่กับคนรู้จักแทบสนิทของตน
“นี่ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยหรอ?”เจแปนอึ้งเล็กน้อยแล้วมองเฟิงกับเลเนอร์สลับกันไปมา
“เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ข้ามีข่าวใหญ่จะมาบอกกับท่านให้ทราบ”เฟิงเก็บเรื่องที่อยากคุยต่อไว้แล้วสีหน้าที่ดูร่าเริงเมื่อแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูจริงจัง
“เรื่องใหญ่อะไรกัน”เจแปนมองหน้าเฟิงพลางขมวดคิ้วกับเรื่องที่เฟิงจะบอก
“กองทัพจักรวรรดินิโคลเรียกำลังจะเดินทางมาที่นี่ เพื่อจะมาจำตัวผู้ร้ายที่หนีมาที่จักรวรรดินี้ แล้วอีกประมาณ 12 ชั่วโมง กองทัพเรืออาจจะแล่นมาถึง รวมทั้งพระราชาเอนดรีอาสก็จะมาเจรจากับท่านเรื่องผู้ร้ายที่หนีมาที่นี่ แน่นอนท่านเอเลเนอร์ ที่เป็นคนพานักโทษมาที่นี่ก็จะโดนจับไปด้วย แต่ใครเป็นคนแพร่ข่าวนี้ข้าไม่รู้ ข้าเลยรีบเอาข่าวร้ายมาบอกพวกท่าน”เฟิงมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา บรรยากาศที่ดูครึกครื้นก็กลายเป็นบรรยากาศอันตึงเครียดเหมือนก่อนหน้านี้
“อะไรนะ!!”
---------------------------------------------------------
ณ ปราสาทต้องห้าม
เนวิลที่พึ่งดึงนาเอลขึ้นมาจากบ่อน้ำเย็นยะเยือกก็ รีบหาผ้าห่ม มาห่มให้นาเอลอย่างเร่งด่วน ในใจของเขายังมีความประหลาดใจเกี่ยวกับตัวนาเอลอยู่ เขาแทบไม่เชื่อว่าคนเผ่าในตำนานจะมีชีวิตหลงเหลืออยู่จริง ที่มากไปกว่านั้นตัวนาเอลลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำก่อนเวลากำหนด ตอนนี้เขาได้แต่เฝ้ามองดูนาเอลที่นอนสลบสไลอยู่ข้างๆบ่อน้ำหลังจากแก้เชือกให้นาเอลเรียบร้อยแล้ว
“รอให้ตื่นก่อนดีกว่า ถ้าขืนแบกกลับไปในระยะทางไกลแบบนี้หลังได้เคล็ดแน่ๆ”เนวิลที่นั่งมองนาเอลอยุ่ข้างๆบ่นพึมพัมพลางคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“รีอา....”นาเอลที่นอนอยู่ก็พูดชื่อใครบางคนขึ้นมาแล้วสะดุ้งตัวตื่นทันที
“อ่าว ตื่นแล้วหรอ”เนวิลตกใจทันทีที่นาเอลตื่นทำให้สิ่งที่คิดอยู่ในหัวเมื่อกี้หายวับไปเสียแล้ว
“อืม แล้ว..........ผลออกมาเป็นไงบ้าง?”นาเอลรีบลุกไปนั่งข้างหน้าเนวิลเพื่อลุ้นรอคำตอบ
“เอ่อ......”เนวิลหบสายตาของนาเอลอย่างหวั่นๆ
“ทำไมหรอ?”นาเอลถามย้ำ
“นาเอล เนวิล เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะการตอบคำถามของเนวิลทันที
“อะไรหรอ แพนเธียร์?”เนวิลสะดุ้งตัวแล้วหันไปมองแพทย์สาวชุดแม่มดทันที
“เจแปนบอกว่ากองทัพจักรวรรดินิโคลเรียกำลังเดินเรือมาที่นี่เพื่อมารับตัวนาเอลไป เธอคนนั้นสินะ นาเอล”แพนเธียร์พูดพลางเคลื่อนสายตาไปมองนาเอล
“ใช่ อีกเธอเป็น..........จอมเวทย์.......ชนเผ่าในตำนาน”เนวิลตอบช้าๆ
“อะไรนะ”แพนเธียร์ตะลึงกับคำพูดที่ออกมาจากปากของเนวิล
“เจ้าแกล้งข้าใช่มั้ย เนวิล...”นาเอลหมดหวังไปกับคำตอบของเนวิล หัวใจของเธอตอนนี้หล่นฮวบไปอยุ่ตาตุ่ม ‘ไม่ใช่ฝันสินะ.....ตอนที่ตกลงไปในบ่อน้ำ....’
“แล้วจากนี้จะทำยังไงต่อไปดีละ?”เนวิลถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน
“...........”นาเอลและแพนเธียร์ต่างก็ได้เงียบ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น บรรยากาศตึงเครียดกลับมาอีกครา
“รีบกลับกันเถอะ ถ้ามัวมานั่งเครียดแบบนี้มีหวัง พวกนิโคลเรียได้บุกมาก่อนแน่”เนวิลมองทั้งสองคนแบบเหนื่อยหน่ายแล้วเดินนำออกไปจากห้องเก่าๆแห่งนี้
“นาเอล....”แพนเธียร์เอ่ยเรียกหญิงสาวผมสีดำคลับที่นั่งเหม่อลอยไปไกล ดวงตาสีดำกลมโตค่อยๆเคลื่อนมามองหน้าแพนเธียร์ด้วยความอ่อนล้า
“ถึงเจ้าจะเป็นจอมเวทย์ แต่เจ้าก็ควรยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และเจ้าก็ควรต่อสู้กับมัน จงยอมรับความจริงแล้วสู้กับมันซะ”แพนเธียร์นั่งตรงข้างหน้านาเอลแล้วตบบ่านาเอลเบาๆ
“ตอนที่ข้าลงไปในบ่อ ข้าเจอกับนางเงือกตนหนึ่ง.......”นาเอลเอ่ยช้าๆ
“นางเงือก อย่าบอกนะว่ารีอา?”แพนเธียร์อึ้งนิดๆ
“ท่าน.......รู้จักรีอาด้วยหรอ?”นาเอลตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอน ตามจริงแล้วข้าก็เป็นจอมเวทย์ล่ะ แต่ว่าข้าปิดบังตัวตนไว้ จนวันหนึ่งเจแปนก็ได้รู้ความจริง แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เรื่องที่จัรวรรดิตามหาจอมเวทย์อะไรนั่น ข้าเป็นคนขอร้องให้เจแปนตามหาตัวเอง เจแปนน่ะไม่สนใจเรื่องการแข่งขัน สงคราม แต่ว่าเขาสนใจจิตใจของประชาชน ทหารทุกคน ความเป็นอยู่ของราษฎร เขาชอบช่วยเหลือคนจะตายไป ถึงดูเผินอาจจะเย็นชา แต่ในความจริงเขาอ่อนโยน น้อยคนที่จะเข้าใจเจแปนนะ”แพนเธียร์ยิ้มกว้างแล้วอธิบายเรื่องราวให้นาเอลฟัง สายตาที่ราวกับคนยอมแพ้ของนาเอลเมื่อกี้กลับกลายเป็นแววตาที่ดีใจสุดๆ
“ท่านคือจอมเวทย์?”นาเอลยิ้มกว้าง
“ใช่ ข้าถึงสามารถประดิษฐ์ยาได้ทุกชนิดไง ข้าน่ะมีพลังในการรักษา แต่พลังของเจ้าคืออะไรกันนะ”
“ไม่รู้สิ”
“งั้นเจ้าเห็นรูปวาดสีน้ำมันที่มีราขึ้นบนรูปมั้ย”แพนเธียร์ชี้ไปที่รูปบานใหญ่ที่ตั้งวางไว้กับพื้น
“อือ เห็นสิ ทำไมกันหรอ?”
“ช่วยเอามือไปแตะรูปภาพ แล้วตั้งจิตให้นิ่ง จากนั้นเจ้าก็นึกสิ่งที่เจ้าอยากจะทำกับรูปนี้”แพนเธียรืพุดจบนาเอลก็ค่อยๆเดินไปแตะรูปนั้งอย่างงงๆแล้วเริ่มทำตามที่แพนเธียร์บอก
‘ทำจิตให้นิ่ง แล้วนึกสิ่งที่เราจะทำกับรูปนี้............ทำอะไรดีล่ะ........งั้น...........ขอให้รูปนี้กลายเป็นรูปที่สวยงามดังเดิมงนาเอลนึกในใจทันใดนั้น พลันเกิดแสงสีขาวที่มือของนาเอล แสงนั้นค่อยๆแผ่เป็นวงกว้างบริเวณที่แสงแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างรูปภาพกลายเป็นรูปใหม่กว่าเดิมราสีดำที่ขึ้นอยู่ตามรูปก็หายไปราวกับพึ่งวาดเสร็จใหม่ๆไม่นานมานี้
“พลังแห่งการสร้าง.....ถ้าจำไม่ผิดเจามีน้องสาวสินะ...?”แพนเธียร์มองรูปเมื่อครู่แล้วหันไปถามนาเอล
“ค่ะ นางชื่อเอมม่า..”
“...........ถ้าเจ้ามีพลังด้านบวก น้องเจ้าก็ต้องมีพลังด้านลบ พลังของพวกเจ้าจะหักล้างกันเองหากได้ปะทะกัน”
“หมายความว่าอะไร?”
“ข้าสืบได้มาว่า มีวาณิชญ์คนหนึ่งเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ในการตามหาตัวเจ้า ตอนนี้วาณิชญ์คนนั้นได้มีน้องสาวของเจ้า แต่เจ้านั่นกำลังหลอกใช้เอนดรีอาสอยู่.......ความจริงเจ้านั่นคิดจะครอบครองจักรวรรดิทั้งสอง โดยใช้กลลวงเล็กน้อยเพื่อตามหาตัวเจ้าสองพี่น้อง อีกอย่างเอนดรีอาสไม่รู้ว่าเอมม่าเป็นจอมเวทย์ เอนดรีอาสถึงได้แต่ตามหาตัวเจ้าอย่างไงล่ะ”
“ท่านรู้ได้ไง?”
“นักเวทย์น่ะ สามารถพยากรณ์อนาคตได้นะ”แพนเธียร์ยิ้มเล็กๆให้นาเอล
“แล้วที่ข้าเห็นสงครามตอนอยู่ในบ่อน้ำคือ............”
“นั่นแหละสิ่งที่จะเกิดขึ้น....เอาล่ะเจ้าควรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับวังกันได้แล้ว เจ้าต้องมีอะไรที่เรียนรู้อีกเยอะ”แพนเธียร์พูดจบก็โยนย่ามที่ใส่เสื้อผ้าไปให้นาเอล
“..........”นาเอลไม่ได้กล่าวอะไรได้แต่ทำตามที่แพนเธียร์บอก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ