Heated
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) 012: Reunion
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงปืนไรเฟิลดังขึ้น 3 นัด แต่ละนัด เว้นช่วงกัน 5 วินาที โลงศพไม้ค่อยๆถูกย่อนลงไปในหลุมสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกหลายเมตร กลุ่มคนที่มีทั้งทหารชายหญิงในชุดเครื่องแบบพิธีและพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าหลุมนั้น ใบหน้าของแต่ละคนฉาบไปด้วยความเศร้าสลด บางคนร้องไห้ บางคนขมวดคิ้วแน่นด้วยความโกรธ เมื่อโลงศพถึงที่หมาย ก้อนดินแต่ละก้อนค่อยถูกบรรจงเทกลบหลุมนั้นจนมิด ผู้คนเริ่มเดินออกจากบริเวณไปทีละคน สองคน จนเหลือเพียงชายร่างสูงคนเดียว ผู้ยืนอยู่กับไม้เท้าช่วยพยุงที่ด้านซ้ายของลำตัว ไม่ไกลกันมากนัก มีชายวัยกลางคนร่างท้วมค่อยๆเดินไปหา
“นาวาอากาศตรี เกวริล เดมอนเชฟ…” เกวริลหันไปทางต้นเสียงอันทุ้มต่ำ ของชายที่เรียกเขา เขาเห็นนายพลวัยใกล้เกษียณนายหนึ่ง ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขานัก นายพลเดินย่ำพื้นหญ้าเข้ามาก่อนจะหยุดแล้ววันทยาหัตให้กับป้ายหลุมศพ ที่พึ่งกลบไปมาดๆ ท้องฟ้าสลัวๆ ทำให้เห็นหน้าเขาได้ไม่ชัดเจน
“นายพลโซโคลอฟ” เกรฟทำท่าวันทยาหัตทั้งๆที่ตนเองยังยืนไม่ค่อยได้ ด้วยแขนซ้ายที่จับไม้เท้าช่วยพยุงอย่างสั่นเทาและเจ็บปวดไปทั่วร่าง เขาสวมชุดเครื่องแบบในงานพิธีทหารสีดำ ที่มีเครื่องราชและตราติดอยู่จำนวนหนึ่ง
นายพลโซโคลอฟเดินเข้ามาแล้วพยักหน้า เกวริลจึงลดมือลง นายพลเฒ่ามองไปที่ป้ายหลุมศพสีขาวดาษๆที่ทั้งสองคนยืนอยู่เบื้องหน้า มันลงแกะสลักเป็นตัวอักษรรัสเซียอย่างเรียบๆว่า “อเล็กเซีย ซาช่า สเตรโกวิช”
“เรานึกว่าจะเสียนายไปแล้ว” นายพลกล่าว “ทีมของนายเป็นทีมที่ดีที่สุดในแนวหน้า การสูญเสียในครั้งนี้จึงมีผลกับกำลังของกองทัพในแนวหน้าพอสมควร”
เกวริลนิ่งเงียบ ก่อนที่จะค่อยๆเอ่ยปาก “เอกสารพวกนั้น...เป็นของจริงรึเปล่า?”
“…นาวาตรี...ชั้นว่านายควรจะพักผ่อนเสียก่อนนะ” นายพลหันหน้ามามองเกวริล
“เอกสารพวกนั้น เป็นของจริงรึเปล่า!” เกวริลขึ้นเสียงจนนายพลถอยห่างก้าวเล็กๆ
“…เอกสารส่วนใหญ่ถูกทำลายไปขณะเกิดเหตุระเบิด” นายพลอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “ข้อมูลที่พอเรียบเรียงได้จึงไม่ชัดเจนมากนัก”
“มันคืออะไร”
“เกวริล...มันไม่ชัดเจนพอ...”
“ส่งสเปซนาซ 2 คนไปตรวจอพาร์ตเมนร้างเก่าๆเนี่ยนะ! พวกแกต้องรู้เซ่!!!” เกวริลตะคอกด้วยความเคียดแค้น ทำเอานายพลผู้นั้นสะดุ้งเฮือก ราวกับว่า เกวริลพร้อมจะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ
“’งั้น” นายพลโซโคลอฟปาดเหงื่อที่หน้าผาก “อีก 2 วัน ชั้นจะไปหานายที่โรงพยาบาล”
นายพลรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เกวริลยังคงยืนอยู่หน้าหลุมศพอย่างลำพัง ทั้งมือซ้ายและขวาบีบแน่นจนเนื้อเป็นสีขาวซีด
“นายจะต้องไม่ตายเปล่า ซาช่า...”
“กริ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงง” เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของเกรฟดังขึ้น
เขาค่อยๆพยุงตัวให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆลุกจากเตียงนอน ปิดระบบนาฬิกาปลุกที่มือถือ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาสำรวจร่างกายตัวเองก่อนจะลงมือล้างหน้า แปลงฟัน รอยแผลเป็นที่บริเวณน่องขาและท้องจากสะเก็ดระเบิดชวนให้เขานึกถึงเหตุการณ์วันนั้น วันที่ซาช่าตาย
“นายจะไม่ตายเปล่า...”
หลังจากประชุมกับพวกแวนดอลและหัวหน้าหน่วยของ Blue Hounds แต่ละคน ว่าด้วยเรื่องของการเฝ้าระวังภัยและเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และจากแหล่งข่าวของอลาทีออน ซึ่งเกี่ยวกับการขยายตัวของทหารรับจ้างกลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่โจมตีพวกเขาที่เกาลูน ถึงแม้ข้อมูลที่ได้มาจะไม่ชัดเจนมากนัก ตั้งแต่ผู้เกี่ยวข้องที่ระบุชื่อได้ และท่าทีต่อไปของพวกมัน สิ่งที่ Azure Wolf รู้ ณ ตอนนี้คือ พวกเขา ทั้งหมาป่าน้ำเงินและหมาป่าคราม ตกเป็นเป้าจู่โจมของทหารรับจ้างกลุ่มใหม่นี่ และบริษัท เจค๊อบ อินดัสทรี่ คือเป้าหมายต่อไป หากพวกเขาทั้งหมดตาย สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ ระวังและหาข่าวให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ หลังจากการประชุมในวันนั้น อลาทีออนกับชาเมเลออสก็หายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนแรปป้าก็ดูมีความสุขกว่าที่เคยเป็น แม้จะอยู่ในภาวะเช่นนี้ก็ตาม เกรฟรู้สึกเหมือนได้กลับไปอยู่กองทัพอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เขาพอใจที่จะอยู่ ในบ้านหลังใหม่แห่งนี้
เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว เกรฟก็ออกมาจากห้องเพื่อหาอาหารเช้ากิน เวลา 6 โมงกว่าๆของอาคารนี้ยังคงสงบ พวก Blue Hounds ส่วนใหญ่กว่าจะตื่นก็ 9 โมงเป็นอย่างต่ำ ส่วนในแผนกของงานบัญชีและเอกสาร ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เกรฟก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเลย นอกจากแวนดอลจะเรียกไปคุย เกรฟสลัดความคิดเรื่อยเปื่อยออกแล้วเดินไปกดลิฟท์ เขารู้สึกเหมือนได้มาอยู่ในครอบครัวใหญ่ ครอบครัวหนึ่งที่สมาชิกแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา เวลาผ่านไปไม่นานลิฟท์ก็มาจอดที่ชั้นโรงจอดรถแล้ว เกรฟ เดินผ่านห้องพักพนักงานพร้อมแวะทักทายลุงจอร์นสันที่นั่งกินกาแฟอยู่ เกรฟขึ้มค่อมมอเตอร์ไซและนั่งนึกว่าจะไปกินอาหารเช้าที่ร้านไหนดี ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า โคโลเนลเคยแนะนำร้านอาหารร้านนึงชื่อ Potato Sack ที่เปิดตั้งแต่ไก่โห่ เกรฟจึงสวมหมวกกันน็อคแล้วบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไง พวก!” โคโลเนลกล่าวทักเกรฟ โดยที่มีไส้กรอกลมควันอยู่เต็มปาก ข้างๆมีแรปป้าที่ยิ้มให้อย่างเบิกบาน เกรฟโบกมือทักตอบแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะนั้น มีพนักงานหญิงหน้าตาน่ารักคนนึงเดินเข้ามารับออร์เดอร์ เกรฟมองดูจานอาหารที่อยู่ตรงหน้าทั้งแรปป้าและโคโลเนล มันเป็นจานเสต็กเนื้อราดน้ำซอสอะไรซักอย่าง มีเฟรนฟายส์และไส้กรอกรมควันเป็นเครื่องเคียง เกรฟจึงสั่งแบบเดียวกัน พนักงานหญิงพยักหน้ายิ้มแล้วเดินไปทางห้องครัว
“มาเจอกันพอดีเลยแฮะ!” โคโลเนลทัก แล้วจกเฟรนฟายส์แท่งใหญ่เข้าปาก
“ก็ มันหิวพอดีนี่” เกรฟพูดคุยกลบเกลื่อนความหิว
“นายชอบกินอาหารประเภทไหนล่ะ? เดี๋ยวชั้นแนะนำให้” แรปป้ากล่าวขึ้นมา หลังจากซดกาแฟร้อนไปอึกหนึ่ง
“ม่ายอ่ะ เดี๋ยวชั้นจะหิวไปมากกว่านี้” เกรฟตอบพลางหัวเราะ ทั้งสามคน คุยกันอย่างถูกคอ ด้วยความที่ยังเป็นช่วง 6 โมง ในร้านจึงมีคนน้อยพอสมควร ประจวบเหมาะกับที่พนักงานคนเดิมเดินมาจากครัวพร้อมกับอาหารที่เกรฟสั่งไปพอดี หลังจากเสริฟแล้ว เธอจึงเดินไปเปิดทีวีจอ LCD ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่มุมร้าน เป็นช่วงเวลาของข่าวเช้าพอดี
“พวกนายมีแค้นเก่าเก็บเหมือนชั้นรึป่าววะ” แรปป้ากล่าวขึ้นขณะกัดชิ้นเนื้อฉ่ำซอสจนน้ำมันเยิ้มออกมา ประโยคนั้นช่วยชะลอความเร็วในการกินของทั้งโคโลเนลและเกรฟ
“จะว่าไป ชั้นก็มีนะ” โคโลเนลหมุนส้อมในมือเป็นวงกลมราวกับจะเล่าเรื่องในวัยเด็ก
“สมัยตอนอยู่ ปากีสถาน”
“แล้ว...คิดว่า พวกมันจะตามนายมาได้ไหม?” เกรฟถามพลางนึกถึงเรื่องราวในร้าน The Club ของลิซ่าวันนั้น
“คงไม่หรอก...ชั้นยิงมันตกหน้าผาเองกับมือ มันไม่น่าจะรอดหรอก” โคโลเนลยักไหล่ เค้าดูปล่อยวางกว่าที่ควร ยังไงซะ เรื่องของแรปป้าก็คงพอเป็นบทเรียนให้กับพวกเขาได้ “เฮ้ นายได้ดูรายการเมื่อคืนรึเปล่า?” โคโลเนลชวนทุกคนคุยเรื่องอื่น แรปป้ากับเกรฟจึงเออออตาม แม้จะยังเป็นห่วงอยู่ในใจก็ตาม
“โคลบี้!” เสียงหญิงสาว ที่ค่อนข้างแหลมดังขึ้นมาจากทางหน้าประตูร้าน Potato Sack ทั้งสามหันไปมองเธอย่างรวดเร็วและดูเหมือนว่า โคโลเนลจะแสดงท่าทีตกใจ เธอค่อยๆเดินเข้ามาที่โต๊ะของทั้ง 3 เธอสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำทับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนๆ กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีเขียวอ่อน ผมเผ้าที่มัดเป็นมวยด้านหลังยาวสลวยเหมือนหางม้า
“แซม?” โคโลเนลร้องด้วยความฉงน
“ไม่เจอกันนานเลยนะ แล้วนี่....” แซมยิ้มเป็นเชิญทักทายแรปป้ากับเกรฟ หน้าตาที่ดูรั้นๆและรักสนุกของเธอทำให้เกรฟรู้สึกเหมือนไม่ควรล้อเล่นกับเธอ
“เอ่อ...นี่ แรปป้า กับ เกรฟ” โคโลเนลชี้ตัวตามลำดับ
“ส่วนแรปป้า เกรฟ นี่ ร้อยเอกแซม ไรลี่ย์” โคโลเนลกลืนน้ำลาย “หัวหน้าทีมชุดปฏิบัติพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายของชั้นเอง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ